ความคิดเห็นที่ 1 ก็ พูดง่ายๆ  Converter หรือ หม้อแปลงกระแสตรง จะแปลงไฟแบบกระแสสลับเป็นกระแสตรง นึกง่ายๆ คือ หม้อแปลงที่ชาร์ตมือถือไงครับ จะแปลงไฟ 220 Volt 50 Hz เป็น 5-7 Volt กระแสตรง(ไม่มีคาบความถี่นะ เพราะมันระดับเดียวกันตลอดเวลา) เอาหล่ะ ต่อมาพูดถึง Inverter มันจะทำงานสวนทางกับ Converter คือ Inverter เนี้ย จะแปลงไฟ กระแสตรง เป็น กระแสสลับ แต่ด้วยเทคโนโลยี ที่พัฒนามากขึ้น การแปลงไฟกระแสตรง เป็นกระแสสลับ เราสามารถจะปรับ ระดับแรงดัน และความถี่ที่ออกมาจาก Inverter ได้ด้วยครับ ซึ่งแรงดันและความถี่ จะมีผลต่อความเร็วของ มอเตอร์ไฟฟ้า 3เฟส โดยในตอนเริ่มต้นหมุนมอเตอร์ เราต้องการ ทอร์คสูง ที่ความเร็วต่ำ เราจะควบคุมให้แรงดันและความถี่ตามต้องการได้(จำไม่ได้ว่า แรงดันต่ำ ความถี่สูงป่าว) ถ้าเราไม่ใช้ Inverter เราจะความคุมได้เฉพาะ เปิด-ปิด มอเตอร์เท่านั้น แต่ใช้ Inverter เราควบคุมความเร็วที่หมุนได้ ตรงนี่สำคัญมาก แล้วควบคุมความเร็วมอเตอร์แล้วดียังไง? ในเครื่องปรับอากาศมีส่วนของ Compressor อยู่ จะคอยอัดสารทำความเย็นเพื่อให้ระบายความร้อนออกมา เราใช้ มอเตอร์เป์นตัวปั้ม การมี Inverter สมมุติว่า อากาศร้อนไป ก็เพิ่มความเร็วการปั้ม แต่ถ้าอุณหภูมิพอดีแล้ว จะรักษารอบที่พอเหมาะในการปั้มไว้ แต่ถ้าไม่มี Inverter ? มอเตอร์จะปั้ม สารทำความเย็นตลอดจนถึงอุณหภูมิที่ได้ จนเย็นถึงระดับที่ตั้งไว้ก็จะตัด แต่พออุณหภูมิตก มอเตอร์ก็ระเริ่มทำงานใหม่ เปิดๆ - ปิดๆ - สลับกันไปมา ซึ่งตรงนี้ข้อมูลเค้าวิเคราะห์จากการใช้ไฟแล้วว่า การใช้ Inverter มันประหยัดกว่า .... แต่ไม่รู้ว่าจะประหยัดเท่าค่าแอร์ใหม่ไหมนะครับ จากคุณ : วิศวกรจบใหม่ ตกงาน ร้อนวิชา (RERFz) - [ 29 มี.ค. 52 14:02:07 ]

ความคิดเห็นที่ 2 +++  แอร์อินเวอร์ทเตอร์  พอเราเปิดเครื่องมันจะทำงานเต็มที่  มันก็เย็นเร็ว  พอความเย็นได้ที่แล้ว     มันจะทำงานช้าลงเพื่อรักษาระดับความเย็นเท่านั้นมันก็เลยกินไฟน้อย  ปกติจะมี 3 ระดับ     ความเร็ว      แอร์ธรรมดาจะมีความเร็วเดียว +++  เปรียบกับจักรยานก็แบบมีเกียร์ กับ แบบไม่มีเกียร์   แบบมีเกียร์ขี่เบาสบายไม่ต้อง     ออกแรงมากปรับเกียร์ได้ตามความเหมาะสม   ราคามันก็ต้องแพงตาม จากคุณ : ตาเป๋า - [ 29 มี.ค. 52 14:30:44 ]

ความคิดเห็นที่ 3 อินเวอร์เคอร์มันไม่ได้ช่วยประหยัดหรอก ไอตัวที่ช่วยคือ ระบบ close loop control ที่ให้สัญญาณปรับระดับความเร็วรอบต่าง ๆ ว่าที่อุณหภูมิเท่านี้ ควบให้สัญญาณอินเวอร์เตอร์เพื่อปรับความเร็วรอบเป็นเท่าไหร่ดี เมื่อเอามารวม ๆ เข้าด้วยกัน มันประหยัดกว่าแอร์แบบเก่า ๆ แน่นอน อ่อ ผมเห็นไซโจ เดนกิ มีแบบไฮบริดดด้วยนิ .. ที่เอาน้ำมาหล่อเย็นคอนเดนเซอร์เพื่อประหยัดไฟ ทำให้มอเตอร์คอมเพลสเซอร์ทำงานเบาขึ้น กินไฟน้อยลง แต่ไม่รู้เปลืองน้ำมากขึ้นเปล่า ฮ่า ฮ่า .. จากคุณ : high_voltage_XL - [ 29 มี.ค. 52 14:39:09 ]

ความคิดเห็นที่ 4 แวะมาฮาชื่อคนโพส คห 1 จากคุณ : skycreeper - [ 29 มี.ค. 52 18:37:06 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr. Fusion - [ 29 มี.ค. 52 18:51:28 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ประหยัดกว่าหรือไม่ไม่กล้าคอนเฟิร์ม  แต่คอมเพรซเซอร์มันจะทำงานเกือบตลอดเวลา  แต่ปรับแรงเบาตามความเหมาะสมในขณะนั้น  ทำให้อุณภูมิ เย็นคงที่ตลอดเวลา  ไม่ใช่เดี๋ยวเย็นเดี๋ยวร้อน แบบทั่วๆไป จากคุณ : AIM-9X - [ 29 มี.ค. 52 19:09:28 ]

ความคิดเห็นที่ 7 อยากออกแบบระบบหล่อเย็นแผงความร้อนแอร์เพื่อใช้เอง ใช้อะไรมาทำดี จากคุณ : กระดิ่งน้อย - [ 29 มี.ค. 52 22:43:45 ]

ความคิดเห็นที่ 8 มอเตอร์มันกินไฟมากตอนสตาร์ครับ กระแสจะสูงมาก ถ้าการใช้งานมีการเปิดปิดบ่อยๆจะทำให้กินไฟครับ แล้วใน compressor มีอินนิเชียร์ของระบบอีก การปิดเปิดบ่อยๆทำให้กินไฟมากกว่าการทำงานที่ idle คงที่ครับ จากคุณ : incmce - [ 29 มี.ค. 52 23:10:28 A:10.7.1.169 X:202.44.8.100 TicketID:152596 ]

ความคิดเห็นที่ 9 แค่ระบบการขับเคลื่อนมอเตอร์ด้วย inverter ก็ประหยัดกว่าระบบเปิด-ปิดธรรมดาแล้วครับ เนื่องจาก inverter ปัจจุบันจะเป็นแบบ Vector Control ซึ่งจะจ่ายพลังงานให้กับ Motor ตาม Load ที่มอเตอร์ได้รับ คือ Feed Back Control ชั้นแรกก็อยู่ที่มอเตอร์แล้ว และก็ยังมี ชั้นที่ สองที่ระบบทำความเย็นอีก รวมไปถึงการ soft start ของมอเตอร์ที่จะลดความสึกหรอของ compressor ลดการกินกระแสตอน start compressor เรื่องการสวิงของ Temp. นั้นผมว่าดีกว่ากันจริง แต่ไม่มากจนรู้สึกไม่สบาย เพราะระบบเดิมบางรุ่นก็ไม่เกิน 0.5-1.0 องศา ข้อเสียอย่างเดียวที่มองเห็นคือความทนทานของอิเล็กทรอนิกส์กำลังที่ใช้ว่าจะทนเท่าระบบเดิมหรือไม่ ส่วนราคาผมว่าต่างกันนิดเดียว จริงๆต้นทุนต่างกันไม่มากแต่ต้องตั้งราคาให้เป็นช่วงเปลี่ยนถ่ายเทคโนโลยีครับ จากคุณ : chai (p_chusak2007) - [ 29 มี.ค. 52 23:17:51 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ใช่ครับ ตอนนี้แอร์เบอร์5 จะใช้อินเวอเตอร์กันหมดและคับ จากคุณ : Glamosic - [ 29 มี.ค. 52 23:41:37 ]

ความคิดเห็นที่ 11 เวลาเขาโฆษณาขายของเขาจะบอกแต่ข้อดีๆทั้งนั้น แต่ทุกๆอย่างต้องมีทั้งข้อดีและข้อเสีย ข้อเสียคือพังง่ายมากและค่าซ่อมแพง เพราะระบบมันยุ่งยากและตัวอินเวอเตอร์ใช้IGBTถ้ามันเสียต้องเปลี่ยนใหม่หลายพันบาทครับ ซื้อแอร์เบอร์๕แบบธรรมดาเนี่ยคุ้มค่ามากกว่า จากคุณ : joe (aircraftdesigner) - [ 29 มี.ค. 52 23:48:28 ]

ความคิดเห็นที่ 12 แต่ละท่าน เทพๆทั้งนั้น ขอเก็บความรู้แล้วกัน ใครขาดลูกมือเอาผมไปทำงานด้วยนะ อิอิ จากคุณ : วิศวกรจบใหม่ ตกงาน ร้อนวิชา (RERFz) - [ 30 มี.ค. 52 00:05:33 ]

ความคิดเห็นที่ 13 รบกวนอธิบายแบบบ้านๆ ด้วยนะคะ เห็นข้างบนร้อนวิชา  ใส่วิชาการมาเพียบ เอางิ แอร์ มันมีส่วนประกอบ 2 ส่วน   ข้างในเรียก คอล์ยเย็น  ข้างนอกเรียก คอมเพรสเซอร์ (ขอเรียกสั้นๆว่า คอม ละกัน) คอม เป็นตัวหลักในการทำงาน   จะปั๊มน้ำยามาให้ คอล์ยเย็นเพื่อทำความเย็นในห้อง (น้ำยา จะดูดความร้อนจากอากาศที่ผ่านคอล์ยเย็น) ยิ่งปั๊มน้ำยามาก  ก็ทำความเย็นได้มาก  (เย็นเร็ว) แอร์แบบดั้งเดิม  เมื่อทำความเย็นจนถึงระดับที่ตั้งค่าไว้  ก็จะหยุด (คอมหยุดเดิน) รอสักพัก พอร้อนขึ้นนิด  ก็เดิน คอม อีก    พอเย็นถึงระดับก็ตัดอีก สลับกันแบบนี้ การกินไฟ ก็มากตอนเดินคอม  และไม่กินไฟ ตอนหยุด แบบอินเวอร์เตอร์  ตอนห้องร้อนกว่าระดับที่ตั้งไว้มาก   คอมจะเดินเต็มที่ พอห้องเย็นลง  ใกล้ระดับฯ ก็จะเดินคอมช้าลง(มีวงจรควบคุม) เมื่อเย็นถึงระดับ ก็เดินช้า  ทำความเย็นน้อยๆ เลี้ยงไว้แค่ตรงนั้น การกินไฟ ก็มากตอนแรก  และน้อยลงตอนหลังตามส่วน แต่ไม่มีหยุด การกินไฟโดยรวมจึงใกล้เคียงกับแบบดั้งเดิม (ความจริง แบบอินฯ จะกินไฟมากกว่าเล็กน้อย  ถ้าเปรียบเทียบโดยหลักการ เนื่องจากการเดินมอเตอร์ ช้าๆ  จะได้ประสิทธิภาพ ต่ำกว่าการเดินที่ความเร็วเต็มที่ แต่ แอร์ที่ขายกัน มีหลายยี่ห้อ ประสิทธิภาพต่างๆกันเนื่องจากการออกแบบส่วนอื่นด้วย จึงเปรียบเทียบกันไม่ได้) แล้วทำไม เขาจึงบอกว่า ประหยัดไฟ? ก็เพราะเป็นเทคนิคการขาย เนื่องจาก  ตอน คอมเดินช้า  ก็ย่อมกินไฟน้อย เมื่อเอามาวัดเปรียบเทียบ กับแอร์ดั้งเดิม ที่คอมเดินเต็มที่  ก็เห็นกินไฟต่างกันมากแน่ๆ แต่เขาไม่ได้บอกว่า แอร์ดั้งเดิม มีช่วงหยุดเดิน ไม่กินไฟเลยน่ะ ยังมีข้อเสีย ที่อินเวอร์เอร์ ตาม คห11 บอกด้วย จากคุณ : sb*star - [ 30 มี.ค. 52 02:20:41 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ถ้าเปรียบให้เข้าใจง่ายๆ ก็คือ เหมือนเราขับรถ ระยะ 100 กม. คันแรก ออกตัวด้วยการเหยียบให้ความเร็วถึง 120 กม./ชม. แล้วดับเครื่อง ปล่อยให้รถไหลไปจนหยุด แล้ว เหยียบใหม่ ....ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ จนถึงที่ 100 กม. อีกคัน ค่อยๆ ออกตัว และ เลี้ยงความเร็วให้คงที่ไป(สมมุติคงที่ ที่ 80 กม./ชม.)เรื่อยๆๆๆๆ โดยไม่ปล่อยให้ความเร็วต่ำ หรือ สูงเกินไป จนถึงระยะ 100 กม. ยังไงๆ ความเร็วคงที่เท่าที่พอใช้จะประหยัดพลังงานมากกว่าครับ ตามกราฟ จะเป็นค่าแสดงการใช้พลังงานของ ระบบเก่า(เส้นสีแดง) กับ อินเวิร์ทเตอร์ (เส้นสีเขียว) ซึ่งระบบแอร์แบบเก่า จะไม่มี เบา-กลาง-แรง แต่จะมี เปิด กับ ปิด เท่านั้น ซึ่งระหว่างที่แอร์เก่า ทำงาน มันจะดึงพลังงานไปสูงมาก บางครั้งอาจจะทำให้ไฟตก หรือ ไฟกระชากในระบบไฟฟ้าในบ้านได้ครับ ข้อดีอีกอย่างของ คอนฯ ก็คือ เงียบมาก จะได้ยินเสียงคอมเพรสเซอร์ทำงานก็แค่ดัง วี้------------- เท่านั้นเอง อีกอย่าง ถ้าใช้ระบบ Soft start จะทำให้โอกาสสึกหรอกของคอมเพรสเซอร์ น้อยลงด้วยนะครับ เรื่องไม่ทนทานนั้น ผมว่า จะเป็นที่ตัว ระบบควบคุมมากกว่า ตัวคอมฯ กับ มอเตอร์ นั้น น่าจะนานกว่าระบบเก่าด้วยซ้ำไป จากคุณ : น้ำปลาเดือนห้า - [ 30 มี.ค. 52 09:16:24 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ลองดูที่ฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 ครับ มีตัวเลขผลทดสอบการประหยัดไฟอยู่ เฉลี่ยแล้วแบบ Inverter ประหยัดกว่านิดเดียว (ไม่ถึง 10 %) ว่าง ๆ ลองไปเดินดูครับ ตัวเลขบน ฉลากเบอร์ 5 น่าจะเชื่อถือได้พอควร จากคุณ : สปุ้กนิกปาปิยองกุ๊กๆ - [ 30 มี.ค. 52 10:01:50 ]

ความคิดเห็นที่ 16 #14 อืม ถ้าดูการใช้พลังงาน น่าจะน้อยกว่านิดนึง จากคุณ : อีคิวศูนย์ - [ 30 มี.ค. 52 11:32:58 ]

ความคิดเห็นที่ 17 แต่ขนาด คอมฯ ของระบบ inverter น่าจะเล็กกว่า จากคุณ : อีคิวศูนย์ - [ 30 มี.ค. 52 11:37:11 ]

ความคิดเห็นที่ 18 รูปของ คห 14  เส้นสีเขียว มันผิดอยู่นะ ทำให้ คห 16 เข้าใจผิดไปด้วย มันไม่ใช่ไต่ขึ้นช้าๆแบบนั้น ถึงแม้มันจะเป็น softstart มันก็ เร่งขึ้นด้วยเวลาสั้นๆ แล้วก็ขึ้นไปเดินแรงเต็มที่ก่อน ดังนั้น เส้นต้องพุ่งขึ้นข้างบน    ค้างอยู่ข้างบนสักพัก   แล้วค่อยลดลงมา จากคุณ : sb*star - [ 30 มี.ค. 52 11:45:31 ]

ความคิดเห็นที่ 19 คห 14 เอาไปเปรียบเทียบกับเครื่องยนต์สันดาปภายใน  ก็ไม่ถูกต้อง เพราะประสิทธิภาพ การทำงานต่างกัน สำหรับมอเตอร์  ประสิทธิภาพ จะสูงสุดเมื่อความเร็วรอบค่อนข้างสูง วิธีการเปรียบเทียบก็ไม่ถูกต้องอีก ที่บอกว่า "ดับเครื่อง ปล่อยให้รถไหลไปจนหยุด" ควรบอกว่า เหยียบให้ความเร็วถึง 85 กม./ชม. แล้วดับเครื่อง ปล่อยให้รถไหลไปจนความเร็วตกลงเหลือ 75  แล้วเร่งใหม่ ความเร็วเฉลี่ย  อยู่ที่ 80 ถ้าเป็นแบบนี้ แน่ใจไหมว่า จะเปลืองน้ำมันมากกว่า การเร่งให้ความเร็วคงที่ 80 ตลอด จากคุณ : sb*star - [ 30 มี.ค. 52 12:00:56 ]

ความคิดเห็นที่ 20 คิดว่า บางที จขกท อาจจะตั้งใจตั้งให้ถูกหมวดหมู่ตามที่เว็บพันทิปจัดให้ เลยมาตั้งห้องนี้.. ทีนี้ที่เขียนๆ ตอบกันมาก็ชัดเจนละเอียดดี แต่บางที จขกท อาจจะมาตั้งเพื่ออยากรู้ในด้านการใช้งานหรือหลักการคร่าวๆ ก็ได้ ว่ามันจะประหยัดกว่ากันแค่ไหน มีข้อดีอะไรจากหลักการแบบใหม่นี้  อาจจะไม่เข้าใจรายละเอียดทางเทคนิคมากนัก... แต่ห้องนี้จัดให้เต็มที่ได้เลย จากคุณ : Ph - [ 2 เม.ย. 52 19:10:58 ]