ความคิดเห็นที่ 1 1. ปริมาณที่ควรบริโภค เค้าบอกว่าใ้ห้ บริโภค 1 ช้อนโต๊ะ 3 มื้อ ก่อนอาหารสำหรับบุคลทั่วไป   เมื่อเทียบจากข้อมูลโภชนาการที่เค้าให้ผมมาในน้ำมันมะพร้าว 1 ช้อนโต๊ะ ให้พลังงาน 120 kcal ซึ่งถ้ากินตามที่เค้าบอกมากนั่นเท่ากับว่าเราได้รับพลังงานจากน้ำมันมะพร้าวอย่างเดียว 360 kcal ต่อวัน   ข้อมูลจากสารอาหารอ้างอิงสำหรับคนไทยในปี 2546 จัดทำโดยคณะกรรมการจัดทำข้อกำหนดสารอาหารที่ควรได้รับประจำวันสำหรับคนไทย กองโภชนาการ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข แบ่งไว้ 3 ระดับคือ 1600 2000 และ 2400 kcal ขึ้นอยู่กับอายุ เพศ และลักษณะของงานที่ทำ   ถ้าเทียบจากระดับพลังงานสูงสุดแล้วเราจะได้พลังงานจากการกินน้ำมันมะพร้าว 15% ของพลังงานที่ต้องการในแต่ละวัน   ตัวผมเองก็ไม่รู้ว่าอาหารที่บริโภคในแต่ละวันมันมากกว่าหรือน้อยกว่า 75% ของที่ยังขาดอยู่ (2040 kcal) แค่ไหน จากคุณ : พ่อค้าก๋วยเตี๋ยว ณ ทุ่งบางกะปิ - [ 30 มี.ค. 52 22:11:03 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ลืมสรรพคุณแฮะ เอามาลงตรงนี้แล้วกันนะครับ 1. ป้องกันโรคหัวใจ 2. ควบคุมน้ำตาล + รักษาเบาหวาน 3. เพิ่มภูมิคุ้มกัน 4. ป้องกัน+รักษามะเร็ง 5. เพิ่มอัตราเมตาบอลิซึ่ม 6. ลดไขมัน 7. ฆ่าเชื้อโรค 8. ผิวหนังเต่งตึง รายละเอียดเราจะมาค่อยๆไล่ไปที่ละส่วนนะครับ จากคุณ : พ่อค้าก๋วยเตี๋ยว ณ ทุ่งบางกะปิ - [ 30 มี.ค. 52 22:17:18 ]

ความคิดเห็นที่ 3 2.เป็นกรดไขมันอิ่มตัว น้ำมันมะพร้าวมีกรดไขมันอิ่มตัวประกอบอยู่ 92% มากกว่าน้ำมันพืชทั่วไปที่เป็น polyunsaturated oil ที่มีกรดไขมันอิ่มตัวต่ำกว่า 15%   ในที่เค้าบอกมาเค้าว่า พวกน้ำมันพืชทั่วไปที่มีกรดไขมันไม่อิ่มตัวเป็นส่วนประกอบจะเกิดการเติมออกซิเจนทำให้น้ำมันพืชเหม็นหืน แถมออกซิเจนที่ถูกดึงมาเติมยังถูกดึงมาจากเซลล์ต่างๆอีกด้วย   ในกรณีน้ำมันมะพร้าวเค้าว่าเป็นน้ำมันที่มีกรดไขมันอิ่มตัวสูง ทำหน้าที่เป็นแอนตี้ออกซิแดนต์ ลดการเติมออกซิเจนของไขมัน และน้ำมันมะพร้าวยังไม่เปลี่ยนรูปเป็น trans fats อีกด้วย   อันนี้ผมไม่เชื่ออ่ะครับ เพราะความรู้ตอนเรียนเรื่องไฮโดรคาร์บอน(อันน้อยนิด T_T)ของผม บอกว่าไขมันอิ่มตัวมันจะไม่เสถียรเพราะมันเป็นพันธะคู่ มันเลยไปจับกับตัวอื่นเพื่อให้มันเสถียรซึ่งส่วนใหญ่คือออกซิเจน แล้วผลที่ได้คือมันจะเหม็นหืน แต่ทีนี่ผมเข้าใจว่าพอมันเหม็นหืนไปแล้วเนี่ยคือมันจับกับออกซิเจนไปแล้ว แล้วมันจะไม่ไปจับต่ออีก แล้วมันจะไปจับกับออกซิเจนมนเซลล์ได้ไงอ่ะครับ หรือมันรอได้ ?   อีกอย่างนึงผมอ่านเจอมาว่าการบริโภคไขมันอิ่มตัวมากๆเนี่ยมันส่งผลต่ออัตราการเกิดโรคหัวใจที่สูงขึ้นนะครับ   ส่วนเรื่อง trans fats นี่ผมไม่รู้จริงครับ รอคุณพี่ๆมาแล้วกัน ^^ แก้ไขเมื่อ 30 มี.ค. 52 22:44:04 จากคุณ : พ่อค้าก๋วยเตี๋ยว ณ ทุ่งบางกะปิ - [ 30 มี.ค. 52 22:33:14 ]

ความคิดเห็นที่ 4 เชื่อมั่นในตัวเอง เชื่อมั่นในความรู้ที่เรามี เชื่อมั่นในความสามารถค้นคว้า หาความรู้ของเรา ปล.  ความสามารถขั้นเทพสุดๆ มักจะมากับพวก ขายตรง จากคุณ : sb*star - [ 30 มี.ค. 52 22:40:04 ]

ความคิดเห็นที่ 5 กรดไขมันอิ่มตัวส่วนใหญ่จะเป็นก้อน ซึ่งจะไปอุดตันในเส้นเลือด ไม่ใช่หรอครับ? นี่ก้ความรู้จาก Hydrocarbon น่ะครับ จากคุณ : Shineokung - [ 30 มี.ค. 52 22:46:23 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ไม่ได้ดีขนาดนั้น ไม่ได้เลวขนาดนั้น จากคุณ : Epinephrine - [ 30 มี.ค. 52 22:49:44 ]

ความคิดเห็นที่ 7 พ่อผมก็มาแบบนี้เลย บอกให้ที่บ้านเปลี่ยนมาใช้น้ำมันมะพร้าว แถมเอาหนังสือเล่มบางๆมาให้ดู บอกข้อดีเยอะแยะ อ้างอิงยาวมาก แต่ไม่รู้จริงหรือเปล่า คิดว่ามันก้มีทั้งข้อดีและข้อเสีย แล้วแต่จะเลือกพูด จากคุณ : Sir.ขงเบ้ง - [ 30 มี.ค. 52 22:54:34 ]

ความคิดเห็นที่ 8 บริโภค 1 ช้อนโต๊ะ 3 มื้อ ก่อนอาหารสำหรับบุคลทั่วไป ถ้าทำแบบนี้ น่าจะมีโทษมากกว่าประโยชน์ครับ จากคุณ : หมอแมว - [ 30 มี.ค. 52 22:56:05 ]

ความคิดเห็นที่ 9 3.เป็นกรดไขมันขนาดกลาง น้ำมันมะพร้าวเป็นกรดไขมันขนาดกลางซึ่งได้เปรียที่สามารถดูดซึมได้เร็วและเพิ่มอัตราเมตาบอลิซึ่ม   เค้าว่าไว้ว่าสามารถดูดซึมเข้าเส้นเลือดได้อย่างรวดเร็วเพราะเป็นกรดไขมันขนาดกลาง และเร่งอัตราเมตาบอลิซึ่มเพราะไปเพิ่มประสิทธิภาพของต่อมไทรอยด์ และยังช่วยเผาผลาญไขมันที่มีอยู่เดิมด้วย   อันนี้ผมไม่รู้จริงๆครับว่ามันเป้นไปได้ยังไง >< แก้ไขเมื่อ 30 มี.ค. 52 23:17:36 จากคุณ : พ่อค้าก๋วยเตี๋ยว ณ ทุ่งบางกะปิ - [ 30 มี.ค. 52 23:17:11 ]

ความคิดเห็นที่ 10 แล้วกระเทียมเจียวที่ใส่ในก๋วยเตี๋ยวคุณนี่ใช้น้ำมันอะไรทอดล่ะครับ? จากคุณ : ซายูบิ - [ 30 มี.ค. 52 23:26:08 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ที่ฟิลิปปินส์ เขาใช้น้ำมันมะพร้าว ปรุงอาหารมาเป็นร้อยๆ ปีแล้ว ขณะที่บ้านเรา ใช้น้ำมันพืช กัน ครั้งที่ผมเป็นเด็ก  ที่บ้านใช้น้ำมันหมู  ช่วงนั้น ยังไม่มีโรงงานน้ำมันพืช ถ้ามันดีจริง คนฟิลิปปินส์ คงไม่มีใครป่วยตาย จากคุณ : น้าพร - [ 30 มี.ค. 52 23:36:44 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ทำไมผมกลับขึ้นไปอ่านที่ตัวเองเขียนแล้วมันรู้สึกเหมือนมาขายของเลย >< เอาเป็นว่าเดี๋ยวผมไปหาข้อมูลมาแล้วถ้าผมสงสัยผมค่อยเข้ามาถามเป็ฯเรื่องๆดีกว่า จากคุณ : พ่อค้าก๋วยเตี๋ยว ณ ทุ่งบางกะปิ - [ 30 มี.ค. 52 23:41:41 ]

ความคิดเห็นที่ 13 #3 กรดไขมันอิ่มตัวมีแต่พันธะเดี่ยวล้วนๆครับผม ไม่มีพันธะคู่ จึงเสถียร และไม่ทำปฏิกิริยากับออกซิเจนในอากาศครับ ส่วนกลิ่นเหม็นหืนเกิดจากกรดไขมันไม่อิ่มตัวครับ จากคุณ : Meta-Anima - [ 31 มี.ค. 52 01:14:36 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ไม่ได้ดีเว่อร์แต่ก็ไม่ได้แย่ขนาดมานั่งกลัวอย่างโน้นอย่างนี้และห้ามกินแต่อย่างใด แต่ที่แน่ๆคือมันแพง (ที่อเมริกา) จากคุณ : VeryBadman...Begins - [ 31 มี.ค. 52 07:03:16 A:128.242.106.124 X: TicketID:185387 ]

ความคิดเห็นที่ 15 อย่าเอา individual data ไปตัดสิน population ครับ  อย่างเช่นบุหรี่ .. ที่บอกว่า สูบแล้วทำให้อายุสั้น และเป็นโรคต่างๆเพิ่มมากขึ้น  บางคนก็จะมาแย้งว่า "ผมสูบวันละซองมายี่สิบปี ยังไม่เห็นเป็นอะไร"  บลาๆๆๆๆๆๆๆๆๆ  เราพูดถึงประชากร (population) จำนวนเป็นพัน เป็นหมื่น แสน ล้าน  คนๆเดียว สูบวันละสองซอง ไม่เป็นไร  แต่คนแสนคนที่สูบวันละห้ามวน เทียบกับคนแสนคน ที่ไม่สูบเลย  ตัดตัวแปรอย่างอื่นออกไป .. มันก็จะชี้ชัดว่า  บุหรี่ ทำให้อายุสั้นลง และโรคมากขึ้น  น้ำมันมะพร้าวก็เช่นกัน  ในคน 10-20 คน ไม่เห็นประโยชน์ หรือ เห็นโทษ  แต่ถ้าดูในคนพันคน หมื่นคน ฯลฯ ... มันจะเห็นชัด จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง - [ 31 มี.ค. 52 07:41:48 ]

ความคิดเห็นที่ 16 เห็นคนนิยมนำมาทานลดความอ้วน ไม่รู้จะได้ผลมั้ย เคยแต่ใช้หมักผม แหะๆๆ จากคุณ : Moon~JulY - [ 31 มี.ค. 52 07:56:15 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ^ ^ หมอแมวครับ "บริโภค 1 ช้อนโต๊ะ 3 มื้อ ก่อนอาหารสำหรับบุคลทั่วไป" ถ้าทำแบบนี้ น่าจะมีโทษมากกว่าประโยชน์ครับ --------------------------- ผมว่าน่าจะมีประโยชน์มากกว่ามีโทษนะครับ โดยเฉพาะการลดความอ้วน ... เล่นล่อเข้าไป 3 ช้อนโต๊ะก่อนอาหารเนี่ย คงกินอะไรตามเข้าไปไม่ลงแล้วอะครับ แหวะ ...  กินเข้าไปได้ยังไง   จากคุณ : เตยทะเล - [ 31 มี.ค. 52 08:18:34 ]

ความคิดเห็นที่ 18 มันมีวิตามินหรือป่าว จากคุณ : 62 - [ 31 มี.ค. 52 08:34:15 A:58.8.49.49 X: TicketID:175329 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ที่รู้แน่ๆ คือมันแพงกว่า น้ำมันพืชอ่ะ - -* จากคุณ : vn, man - [ 31 มี.ค. 52 08:43:50 ]

ความคิดเห็นที่ 20 "น้ำมันมะพร้าว" oO..!!! อ่านทีแรกนึกว่า "น้ำมะพร้าว" จากคุณ : Humandroy - [ 31 มี.ค. 52 08:45:35 ]

ความคิดเห็นที่ 21 มันเป็นไขมันอิ่มตัว ย่อยยาก จะไปสะสมอยู่ตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย เราควรรับประทานไข่มันไม่อิ่มตัว คุณครูผมบอกอย่างนั้นครับ จากคุณ : กัลลอร์ง - [ 31 มี.ค. 52 09:32:22 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ไปเสริชเน็ทเลยครับ เสริชงานวิจัยกันเอาเองครับ มะพร้าว ดีมากๆ  ทานวันละสามช้อนโต๊ะ หรือมากกว่า ยิ่งดี แต่ทั้งนี้ ต้องออกกำลังด้วย ไม่งั้นที่กินเข้าไปคงไปอยู่ทีุ่พุง  ฮาาาาาา ไขมันมะพร้าว ที่ไม่ผ่านกรรมวิธี ดี ไขมันมะพร้าว ที่ผ่านกรรมวิธีทำเป็นทรานส์แฟท จะยิ่งเลวร้ายกว่ากินเนยเข้าไปเป็นก้อนๆ อีก งานวิจัยเก่าๆ ที่บอกว่าไขมันมะพร้าวไม่ดี เพราะเขาใช้ทรานสแฟท ของน้ำมันมะพร้าวมาทดลอง ครับจึงได้ผลเลวร้ายขนาดนั้น ใครอยากรู้เหตุผล เสริชเอาเองครับ ผมอ่านมาหมดแล้ว และทานเป็นประจำทุกวันในรูปของกะทิ และมะพร้าวสด ทานกะทิวันละ 50-60 CC ทุกวัน โดยมีสูตรประมาณนี้ กะทิ 50-60CC นมแพะ 100CC ผงโกโก้ 3 ช้อนชา กาแฟ ครึ่งช้อนชา น้ำผึ้ง หนึ่งช้ิอนชา น้ำตาลอ้อยดิบ(ก้อนๆ กลมๆ ดำๆ น่ะ) ครึ่งก้อน เทียบเท่าน้ำตาลทรายสองช้อน น้ำร้อน 300 CC ทานแบบนี้ทุกวันครับ ไม่เห็นมันจะอ้วน บางวันยังล่อมะพร้าวไปทั้งลูก หรือขนมใส่น้ำกะทิเข้าไปอีก เช่น ข้าวเหนียวแดงน้ำกะทิท่วมทุ่ง ไม่อ้วน แถมที่ระหลาดคือ น้ำหนักลดลง และรู้สึกว่ามันสดชื่น กระชุ่มกระชวย รู้ึสึกดี ไม่อ้วน รับประกัน ครับ อ้อ ผมว่า กลไกการหืนของมัน ที่ไปดึงออกซิเจนออกมาจากโมเลกุลชาวบ้าน(หรือไปแย่งอิเล็กตรอนเขามา) ผมเรียกว่า มันคือ แอนติออกซิแดนท์ ครับ เพราะมันไปแย่งออกซิไดส์กับคนอื่น เซลล์เราจึงไม่่ถูกออกสิไดส์ ท้าให้เสริชข้อมูล ครับ ลุยกันเลยครับ ผมท้าให้ลอง อ้อ ผมเพิ่งเจอข้อมูลนึง จาก Pubmed ไม่เกี่ยวกับกะทินะ แต่ เกี่ยวกับน้ำตาล High Fructose Corn Syrup ซึ่งใช้ในอุตสาหกรรมอาหาร มันก่อโรคสารพัด ตั้งแต่เบาหวาน เก๊าต์ ไขมันเกาะตับ ความดัน ยันโรคไต เลิกทานน้ำอัดลมกันได้แล้ว ไม่ว่ามันจะใช้อะไรแต่งรสหวาน !!!! แก้ตัวเลขครับ ประมาณผิด ผมกินกะทิหมดกล่องในสี่ถึงห้าวัน มันต้องมากกว่าสามสิบซีซีเด่ะ แก้ไขเมื่อ 31 มี.ค. 52 09:46:26 จากคุณ : NaCl - [ 31 มี.ค. 52 09:38:12 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ".........มันเป็นไขมันอิ่มตัว ย่อยยาก จะไปสะสมอยู่ตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย เราควรรับประทานไข่มันไม่อิ่มตัว คุณครูผมบอกอย่างนั้นครับ........." ู^ ^ ^ คุณครูคนนั้นปลดระวางได้แล้วครับ นั่นมันข้อมูลจากการอ่านผลงานวิจัยอย่างไม่ระวัง เขาใช้ ทรานสแฟท ในการทดลอง ครับ ไขมันจากกะทิ ย่อยง่าย และเป็นไขมันอิ่มตัวโมเลกุลขนาดกลางและสั้น  ทำให้เมื่อเข้าไปในร่างกาย จะถูกเมตาบอลิซึม  เปลี่ยนรูปเป็นพลังงานทันที ต่างจากน้ำตาล High Fructose Corn Syrup ซึ่งเมื่อทานเข้าไปแล้ว จะถูกเปลี่ยนเป็นไขมันทันทีที่ตับ และนั่น ทำให้อ้วน และยังไม่มีแรงอีกด้วย จากคุณ : NaCl - [ 31 มี.ค. 52 09:43:28 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ผมเคยเมลไปถามบริษัืทเทพผดุงพรมะพร้าว ถามว่า กะทิมีไขมันอิ่มตัว ซึ่งไม่ควรหืน แต่ทำไมมันหืน เขาตอบว่า มันมีไขมันไม่อิ่มตัวรวมอยู่ด้วย มันจึงหืนได้ ก็เป็นอันว่า ไม่ใช่ว่ามันไปป้องกันการออกสิไดส์ แต่มันช่วยไปรีดิวส์ฟรีแรดิคอล(ชิงออกสิไดส์ตัวเองก่อน)  ไม่ให้ออกสิไดส์ใ ครๆ ได้ หวังว่าไม่งงนะ.. จากคุณ : NaCl - [ 31 มี.ค. 52 12:43:27 ]

ความคิดเห็นที่ 25 โหวตครัยกระทู้นี้ จากคุณ : ขอเอาชื่ออากงเป็นเดิมพัน - [ 31 มี.ค. 52 16:14:02 ]

ความคิดเห็นที่ 26 เอาไว้ผสมกำมะถัน เทหลังหมาที่เป็นขี้เรื้อนครับ... ประโยชน์ชัด ๆ เลยครับ ไว้แก้หมาขี้เรื้อน... จากคุณ : ชายยอดนักทดลอง - [ 31 มี.ค. 52 19:20:46 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ตาลาย ตกลงยังไงเนี้ย 555 จากคุณ : darinfc - [ 31 มี.ค. 52 20:16:19 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ไขมันอิ่มตัวนี่มันสเถียรแล้วไม่ใช่หรือครับคือทุกๆ Bond เป็น Single bond ที่ไม่มีที่ว่างให้ Oxygen residue family เข้าเกาะได้อีกครับ จึงไม่หืน... สำหรับเรื่องการเป็น Anti-oxidant ผมเคยได้ยินแต่กรณีที่เป็น Unsaturated lipid โดยเฉพาะพวก PUFA ครับ (Polyunsaturated fatty acid) ลองอ่านเรื่อง Omega-3 (n-3) ดูครับ การหืน (Rancid) เกิดจากการออกซิไดซ์กรดไขมัน ซึ่งจะได้สารประกอบกลุ่ม Aldehyde และ Ketone ครับ (ผิดพลาดขออภัยนะครับ) จากคุณ : sivpeer - [ 1 เม.ย. 52 20:53:52 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ป๋ายอดชายฯครับ : ผสมกับกำมะถันน่ะพอได้ครับ แต่ว่าใส่มากนี่ผิวไหม้ได้ครับ ปกติผมชอบผสมกับ Petrolium jelly กำมะถัน กระเทียม ยาฆ่าเชื้อราครับ อาจเติมยาปฏิชีวนะเป็นบางครั้งครับ จากคุณ : sivpeer - [ 1 เม.ย. 52 21:02:28 ]

ความคิดเห็นที่ 30 สนับสนุนคุณ NaCl ด้วยอีกเสียง ตาม คห.22-23 ผมเองทานในรูปแบบกะทิ แทบทุกวัน ไม่อ้วนครับ แต่ผมไม่ได้ทานนมแพะนะ..555 จากคุณ : granun - [ 2 เม.ย. 52 00:49:24 ]

ความคิดเห็นที่ 31 High Fructose Corn Syrup นี่เป็นน้ำตาลประเภทไหนครับ จากคุณ : @Lfa7D - [ 9 เม.ย. 52 13:34:45 ]

ความคิดเห็นที่ 32 น้ำมันมะพร้าว มันก็เป็นแหล่งพลังงานนั่นแหละ มันจะมีกี่บอนด์ จะสายสั้นสายยาว มันก็ให้พลังงาน น้าพ่อค้าก๋วยเตี๋ยวฯ บอกว่า 1 ชต. ให้พลังงาน 120Kcal เยอะนะ อะไรที่ให้พลังงาน กินเข้าไป ถ้าใช้พลังงานไปหมด ใช้เท่าๆกับที่กิน อย่างไรก็ไม่อ้วน จะกินเนยเป็นก้อนๆ แล้วไปแข่ง Iditarod ยังไงก็ไม่อ้วน แต่ถ้ากินเยอะๆ ใช้น้อยๆ ยังไงก็อ้วน ถึงกินนมพร่องมันเนย โยเกิต ข้าวกล้อง น้ำมันมะพร้าว หรืออาหารที่ว่ากันว่าดีต่อสุขภาพ ถ้ากินเข้าไปมากกว่าใช้ ยังไงก็อ้วน ความอ้วนเกิดจาก Input > output ง่ายๆเท่านี้เอง อยากผอมโดยการกินอะไรเพิ่ม แล้วนั่งจุ้มปุ๊กดู AV ทั้งวัน ไม่ได้ความหรอก ต้องกินให้น้อย ใช้ให้เยอะ ออกกำลังกาย ให้ output >= input ถึงจะได้ความ จากคุณ : alan the lamb - [ 9 เม.ย. 52 16:39:38 ]

ความคิดเห็นที่ 33 เอาอย่างงี้นะครับ เราต้องเลิกคิดว่า ร่างกายจะได้อะไรง่ายๆ เช่นว่า ถ้ามัน oxidizeในอากาศได้ กินไปเดี๋ยวมันก็oxidizeในร่างกายเอง ร่างกายไม่ใช่ถังน้ำใส่อะไรได้อย่างนั้นนะครับ มันซับซ้อนกว่านั้น มีกลไกเคมีต่างๆมากมาย ไม่งั้นกินวิตามินซีดีกว่ามั้ยอะคับ     ปัจจุบันเนี่ย ความรู้มันมีประมาณนี้ saturated fatty acid เลวร้าย ทำให้เิิกิดโรคหัวใจ ไขมันในเลือดสูง tran-unsaturated fatty acid เลวร้าย ทำให้เิิกิดโรคหัวใจ ไขมันในเลือดสูง (พบในพวกเนยเีทียม ไขมันทีี่.ใช้กระบวนการอุตสาหกรรม มาทำให้เป็นก้อนๆ) mono-unsaturated fatty acid(พบในน้ำมันพืช) ดีกว่า ช่วยลดไขมันในเลือด ถ้าเอามากินแทนsaturated fatty acid poly-unsaturated fatty acid น่าจะได้ผลดีกับโรคหัวใจ (พบในน้ำมันพืช) ข้อมูลจากwikiครับ Coconut oil is a fat consisting of about 90% saturated fat. 6% monounsaturated fatty acids 2% polyunsaturated fatty acids ดังนั้น จะสรุปได้ว่า น้ำมันมะพร้าว  ถ้าเลือกได้ ไม่ควรนำมากินเลย เพราะว่าประกอบด้วยไขมันอิ่มตัวมหาศาลมาก  และไม่เป็นผลดีกับโรคหัวใจ และไขมันในเลือดสูง แก้ไขเมื่อ 09 เม.ย. 52 21:24:20 จากคุณ : xxx (TaizoXXX) - [ 9 เม.ย. 52 21:23:26 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ู^ ^ ^ ที่ว่ามาล้วนเป็นความรู้ในอดีต ครับ ไม่ใช่ปัจจุบัน ก็ เอาเป็นว่า คุณจะเชื่อตำราเมื่อห้าสิบปีก่อน หรือจะเชื่องานวิจัยล่าสุด ก็แล้วแต่คุณนะครับ แต่โปรดทราบว่า ประเทศกำลังพัฒนาหลายประเทศ ยากจน และไม่มีเงินซื้อน้ำมันแพงๆ มาปรุงอาหาร เขาเอามะพร้าว ที่มีมากมายในประเทศเขา มาใช้ทำน้ำมันปรุงอาหาร ในชีวิตประจำวัน และ กินกันมาตั้งหลายชั่วอายุคนแล้ว แต่ ทำไมคนเหล่านั้นถึงไม่มีโรคเกี่ยวกับไขมันอุดตันเกาะหลอดเืลือดเลย แม้ว่าอายุจะมากถึงหกสิบปีกันแล้ว ?? ผมเห็นกะทิเทียมยี่ห้อหนึ่งวางตลาดขายอยู่ ผมคิดในใจเลยว่า ทำไมมันถึงซื่อบื้องี้วะ  โอ้ยยยยย  อยากจะบ้า แถมแปะป้ายปลอดภัยต่อหัวใจด้วย  เอ้อ กินไป ๆๆ   แก้ไขเมื่อ 10 เม.ย. 52 11:49:49 จากคุณ : NaCl - [ 10 เม.ย. 52 11:47:21 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ครับ เข้าใจครับ แต่อยากให้อ้างงานวิชาการมากกว่า การบอกว่า ประเทศนั้นกินแล้ว คนไม่เห็นเป็นไร อย่างนี้มันอ้างไม่ดีอะครับ เพราะมีปัจจัยหลายอย่างเกินไป เ่ช่น คนในประเทศเหล่านั้น กินไขมันน้อยอยู่แล้ว ออกกำลังกายมากอยู่แล้ว หรือ ว่ามีgeneticsที่ดี แต่ก็เข้าใจครับว่า ข้อมูลในปัจจุบัน มีการทดลองจำนวนมาก ที่สนับสนุนประโยชน์ของmedium chain triglyceride (ซึ่งสมัยก่อนมักจะใช้ในการรักษา หรือ supplement เฉพาะกรณี ในโรคบางประเภท ที่มีมากว่า50ปีแล้ว) และยอมรับการใช้ในวงกว้างมากขึ้น แต่ในแง่ coconut oil นั้นดูจะเป็นการ ตั้งข้อสังเกตมากกว่า การนำ้มาทำการทดลองจริง แต่อย่างไรก็ตาม "มีแนวโน้มว่าอาจจะ" ใช้ได้ดีก็ได้ครับ จากคุณ : xxx (TaizoXXX) - [ 10 เม.ย. 52 18:12:09 ]