PANTIP.COM : X7693838 พิพิธภัณฑ์อากาศยาน Temora [วิศวกรรมและเทคโนโลยี]

พิพิธภัณฑ์อากาศยาน Temora

จริงๆไปมาเมื่อปีที่แล้วครับ เป็นพิพิธภัณฑ์อากาศยานของออสเตรเลีย ตั้งอยู่ที่เมือง Temora ซึ่งเป็นเมืองที่อยู่ลึกเข้าไปในแผ่นดิน เป็นเมืองที่เคยเป็นฐานฝึกบินสมัยสงครามโลกมาก่อน พิพิธภัณฑ์นี้เป็นพิพิธภัณฑ์เอกชน เจ้าของชื่ออะไรจำไม่ได้แล้ว แต่เป็นนักธุรกิจซึ่งสะสมเครื่องบินรบเก่าๆ ด้วยความรวยไม่รู้จะเอาเงินไปทำอะไรเลยเอามาเปิดพิพิธภัณฑ์ดีกว่า จุดเด่นของที่นี่คือเครื่องบินทุกลำในพิพิธภัณฑ์ยังสามารถบินได้จริง และมีการบินโชว์ทุกอาทิตย์

เห็นมีกนะทู้เครื่องบินเยอะ เลยคิดว่ามีคนสนใจเยอะ แบ่งๆกันดูนะครับ

จากคุณ : ชาลีฟ - [ 2 เม.ย. 52 02:57:42 ]

ความคิดเห็นที่ 1

มาดูลำแรกกันเลย ลำนี้เป็น DH82A Tiger Moth ที่มีชื่อว่า VH - UVZ

Tiger Moth ลำนี้นำเข้าจากประเทศอังกฤษในปี 1936 เป็น de Havilland Tiger Moth รุ่น 2 เครื่องบินลำนี้เคยตกมาแล้วเมื่อวันที่ 21 เมษายน 1937 บริเวณท่าเรือซิดนีย์ อย่างไรก็ตามนักบินปลอดภัย แต่ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย หลังจากนั้นเครื่องก็ถูกกู้ขึ้นมาจากน้ำและถูกซ่อมแซมให้บินได้อีกครั้ง หลังจากนั้นเครื่องบินลำนี้ก็ได้ขึ้นทะเบียนเข้าเป็นเครื่องบินในกองบินออสเตรเลียเมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 1940 และทำหน้าที่เป็นเครื่องบินฝึกบินจนกระทั่งสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 เครื่องบินลำนี้ถูกพ่นสีเหลืองเพื่อเป็นสัญลักษณ์ว่าเป็นเครื่องบินสำหรับฝึกบิน

น้ำหนักเครื่องเปล่า 506 kg น้ำหนักสูงสุด 803 kg
ความจุถังน้ำมันหลัก 86 l ความจุถังน้ำมันสำรอง 41 l
ความเร็วสูงสุด 176 km/h
ความกว้างปีก 8.94 m พื้นที่ปีก 22.2 sq.m
ความยาว 7.29 m ความสูง2.68 m

จากคุณ : ชาลีฟ - [ 2 เม.ย. 52 03:20:53 ]

ความคิดเห็นที่ 2

CAC Boomerang (the Commonwelth Aircraft Corporation Boomerang)

ลำนี้เป็นเครื่องบินสัญชาติออสเตรเลีย ถูกผลิตขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการเครื่องบินอย่างเร่งด่วยของออสเตรเลียในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 จากความเร่งด่วนนี้ทำให้เครื่องบินรุ่นนี้ไม่มีเครื่องต้นแบบ (Prototype) เครื่องบินเพียง 5 ลำถูกผลิตขึ้นก่อนมีการบินครั้งแรก ระยะเวลาในการพัฒนาเครื่องบินรุ่นนี้ก็สั้นเพียง 6 สัปดาห์เท่านั้น อย่างไรก็ตาม Boomerang เป็นเครื่องบินรุ่นเดียวที่เหลืออยู่ ที่ออกแบบและผลิตในออสเตรเลีย 100% ซึ่งเครื่องรุ่นนี้ทำการบินครั้งแรกเมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 1942 และมีเครื่องรุ่นนี้ถูกผลิตออกมาทั้งหมด 249 ลำ Boomerang ถูกใช้ในภาระกิจขับไล่ญี่ปุ่นที่เกาะนิวกีนี

น้ำหนักเครื่องเปล่า 2437 kg น้ำหนักสูงสุด 3742 kg
ความจุถังน้ำมันหลัก 318 l ความจุถังน้ำมันใต้ปีก 204 l
ความเร็วสูงสุด 491 km/h
ความกว้างปีก 10.97 m พื้นที่ปีก 20.9 sq.m
ความยาว 8.15 m ความสูง 2.92 m

แก้ไขตัวเลข
แก้ไขเมื่อ 02 เม.ย. 52 03:52:30
แก้ไขเมื่อ 02 เม.ย. 52 03:49:55
แก้ไขเมื่อ 02 เม.ย. 52 03:49:39

จากคุณ : ชาลีฟ - [ 2 เม.ย. 52 03:34:25 ]

ความคิดเห็นที่ 3

CA-16 Wirraway

เครื่องบินลำนี้ชื่อ VH - BFF เป็นเครื่องบินรบลำแรกที่อนุญาตให้ขับโดยพลเรือน หลังสิ้นสุดสงคราม Wirraway เป็นเครื่องบินที่ผลิตในออสเตรเลีย โดยพัฒนามาจากเครื่องบินอเมริกัน NA-16-1A และ NA-16-2K ซึ่งถูกผลิตออกมาทั้งหมด 755 ลำ ภายในปี 1939 – 1946 หลังจากเสร็จสิ้นภาระกิจ เครื่องบินลำนี้ถูกแยกชิ้นส่วนเมื่อเดือนมกราคม 1946 และถูกประกอบขึ้นใหม่อีกครั้งเมื่อปี 1975 สีของเครื่องบินเป็นสีเดียวกับเมื่อครั้งประจำการอยู่ที่ Bougainville

น้ำหนักเครื่องเปล่า 1811 kg น้ำหนักสูงสุด 2991 kg
ความจุถังน้ำมันหลัก 441 l ความจุถังน้ำมันสำรอง 41 l
ความเร็วสูงสุด 354 km/h
ความกว้างปีก 13.11 m พื้นที่ปีก 23.76 sq.m
ความยาว 8.48 m ความสูง 2.66 m

จากคุณ : ชาลีฟ - [ 2 เม.ย. 52 03:53:29 ]

ความคิดเห็นที่ 4

DH-115 Vampire T35

Vampire ในพิพิธภัณฑ์นี้ เป็น Vampire ที่ผลิตในออสเตรเลีย 2 ลำสุดท้ายที่ยังบินได้อยู่ เครื่องบินรุ่นนี้ทำการบินครั้งแรกที่อังกฤษในปี 1943 หลังจากนั้นถูกนำเข้ามายังออสเตรเลียเพื่อเข้าร่วมกองทัพอากาศในปี1946 และมีการประกอบขึ้นเองในประเทศในเวลาต่อมา มีเครื่องบิน Vampire T35 ถูกผลิตขึ้นทั้งหมด 3987 ลำ ระหว่างปี 1943-1961 ซึ่งผลิตในประเทศออสเตรเลียจำนวน 80 ลำ

น้ำหนักเครื่องเปล่า 3290 kg น้ำหนักสูงสุด 5606 kg
ความจุถังน้ำมันหลัก 436 l ความจุถังน้ำมันอื่นๆอีก 5 ถังรวม 986 l
ความเร็วสูงสุด 855 km/h
ความกว้างปีก 11.58 m พื้นที่ปีก 24.34 sq.m
ความยาว 9.37 m ความสูง 1.88 m

จากคุณ : ชาลีฟ - [ 2 เม.ย. 52 04:25:02 ]

ความคิดเห็นที่ 5

รูปขณะบิน เท่ดี

จากคุณ : ชาลีฟ - [ 2 เม.ย. 52 04:26:57 ]

ความคิดเห็นที่ 6

อ๊ากกกกกก

ทำไมผมอ่านเป็น " พิพิธภัณฑ์อาหาร Temora " สายตาช้านนนนนน ม่ายยยย ~

whiterose

จากคุณ : Momonster - [ 2 เม.ย. 52 04:30:06 ]

ความคิดเห็นที่ 7

Supermarine Splitfire MK VIII

VH - HET เครื่องนี้เป็น Splitfire เครื่องเดียวในออสเตรเลียที่ยังบินได้ มีเครื่อง Splitfire ถูกสร้างขึ้นทั้งหมดถึง 20,334 เครื่องทั่วโลก เครื่องลำนี้ถูกสร้างในอังกฤษเมื่อปี 1944 และถูกส่งมายังออสเตรเลียในเวลาต่อมา อย่างไรก็ตามเครื่องลำนี้มาถึงซิดนีย์ในช่วงที่สงครามกำลังจะยุติ ทำให้ไม่ได้รับมอบหมายภาระกิจใดๆ หลังสงคราม เครื่องลำนี้ถูกใช้เป็นเครื่องมือช่วยสอนในวิทยาลัยเทคนิคซิดนีย์ และในที่สุดก็ถูกประกอบเพื่อบินอีกครั้งในปี1985 เครื่องบินลำนี้ถูกพ่นสีเขียวเทา เพื่อจุดประสงค์ในการป้องกันเมืองดาร์วิน (แต่สงครามสิ้นสุดก่อน)

น้ำหนักเครื่องเปล่า 2,633 kg น้ำหนักสูงสุด 3,638 kg
ความจุถังน้ำมันหลัก 409 l ความจุถังน้ำมันปีก 138 l
ความเร็วสูงสุด 669 km/h
ความกว้างปีก 11.23 m พื้นที่ปีก 22.50 sq.m
ความยาว 9.54 m ความสูง 3.85 m

จากคุณ : ชาลีฟ - [ 2 เม.ย. 52 04:39:29 ]

ความคิดเห็นที่ 8

แยกเขี้ยวยิงฟันด้วย

จากคุณ : ชาลีฟ - [ 2 เม.ย. 52 04:42:15 ]

ความคิดเห็นที่ 9

แวะมาปาดครับ

จากคุณ : Mr.Whisper (wsteven) - [ 2 เม.ย. 52 04:54:47 ]

ความคิดเห็นที่ 10

Ryan STM S2

เครื่องรุ่นนี้เป็นเครื่องปีกต่ำฝึกบินรุ่นแรก ที่มีแทนเครื่องปีกคู่ ภาระกิจหลักของเครื่องรุ่นนี้ก็ไม่มีอะไรมาก มีไว้ฝึกบิน แต่ก็ใช้ในภาระกิจสำรวจเป็นครั้งคราว มันถูกสร้างขึ้นในปี 1939 เนื่องจากเป็นเครื่องฝึก จึงไม่มีประวัติอะไรมากมาย

น้ำหนักเครื่องเปล่า 491 kg น้ำหนักสูงสุด 726 kg
ความเร็วสูงสุด 228 km/h
ความกว้างปีก 9.12 m พื้นที่ปีก 11.52 sq.m
ความยาว 6.54 m ความสูง 2.11 m

จากคุณ : ชาลีฟ - [ 2 เม.ย. 52 04:57:20 ]

ความคิดเห็นที่ 11

ขณะ Take off

จากคุณ : ชาลีฟ - [ 2 เม.ย. 52 04:59:30 ]

ความคิดเห็นที่ 12

Supermarine Splitfire MK XVI

ZK - XVI เป็น Splitfire อีกรุ่นที่แสดงเอาไว้ แต่ไม่ได้ขึ้นบินแล้ว (แต่เค้าอ้างว่ายังบินได้) เครื่องลำนี้ถูกผลิตที่อังกฤษในปี 1944 ในวันที่ 24 มีนาคม เครื่องบิน Splitfire ลำนี้พร้อมกับลำอื่นๆรวม 4 ลำบรรทุกระเบิดขนาด 250 ปอนด์ ลำละ 2 ลูก บินเพื่อทำภาระกิจทิ้งระเบิดทำลายทางรถไฟในประเทศเนเธอแลนด์ เครื่องลำนี้ได้ทำภาระกิจอื่นๆอีก 12 ภาระกิจในเวลา 6 สัปดาห์รวมเวลา 23 ชั่วโมง 55 นาที

น้ำหนักเครื่องเปล่า 2,715 kg น้ำหนักสูงสุด 3,946 kg
ความจุถังน้ำมันหลัก 218 l ความจุถังน้ำมันล่าง 168 l
ความเร็วสูงสุด 669 km/h
ความกว้างปีก 9.93 m พื้นที่ปีก 22.50 sq.m
ความยาว 9.55 m ความสูง 3.85 m

จากคุณ : ชาลีฟ - [ 2 เม.ย. 52 05:12:44 ]

ความคิดเห็นที่ 13

เจ๋งจริงๆแฮะ มี museum ส่วนตัวด้วย

จากคุณ : Kross_ISC - [ 2 เม.ย. 52 05:15:28 ]

ความคิดเห็นที่ 14

English Electric Canberra TT.18

VH - ZSQ เป็นเครื่อง Canberra เครื่องเดียวในออสเตรเลียที่ยังบินได้ มีเครื่อง 966 ลำถูกผลิตขึ้น มี 48 ลำผลิตในออสเตรเลียโดยรัฐบาลออสเตรเลีย และ 403 ลำผลิตในสหรัฐอเมริกาเพื่อเข้าร่วมในกองทัพอากาศสหัฐอเมริกา Canberra ปฎิบัติภาระกิจครั้งแรกในปี 1955 โดยเข้าร่วมกองบินทิ้งระเบิดซึ่งมีฐานปฏิบัติการอยู่ในเยอรมันนี ต่อมา ในเดือนกุมภาพันธุ์ 1956 เครื่องลำนี้ถูกพักเป็นเวลา 12 เดือนเนื่องจากเกิดความเสียหาย และหลังจากกลับเข้าประจำการเพียงไม่นาน เครื่องเกิดความเสียหายอีกครั้งจากนกขณะทำการฝึกบินระดับต่ำ เครื่องจึงถูกเก็บไว้นานกว่า 10 ปีในโรงเก็บเครื่องบิน ฐานทัพอังกฤษจึงนำออกมาบินอีกครั้ง เครื่องลำนี้ถูกซ่อมออีกหลายครั้งจนปลดประจำการในที่สุดเมื่อปี 1991

น้ำหนักเครื่องเปล่า 2,715 kg น้ำหนักสูงสุด 3,946 kg
ความจุถังน้ำมันหลัก 218 l ความจุถังน้ำมันล่าง 168 l
ความเร็วสูงสุด 669 km/h
ความกว้างปีก 9.93 m พื้นที่ปีก 22.50 sq.m
ความยาว 9.55 m ความสูง 3.85 m

จากคุณ : ชาลีฟ - [ 2 เม.ย. 52 05:26:02 ]

ความคิดเห็นที่ 15

Canberra (ลำใหญ่สุด) บินร่วมกับ Meteor และ Vampire

จากคุณ : ชาลีฟ - [ 2 เม.ย. 52 05:29:44 ]

ความคิดเห็นที่ 16

Gloster Meteor F.8

Gloster Meteor F.8 ลำนี้เป็นลำสุดท้ายในโลกที่ยังบินได้ เครื่องบินรุ่นนี้ถูกผลิตขึ้นทั้งหมด 1,522 ลำ Meteor เป็นเครื่อง Jet รุ่นแรกในกองทัพอากาศ ภาระกิจแรกที่ Meteor ได้รับมอบหมายคือต่อต้านเครื่องบินทิ้งระเบิด V1 เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 1944 เครื่อง Meteor รุ่นนี้เป็นรุ่นที่ออสเตรเลียส่งเข้าร่วมสงครามเกาหลี

Fuel
Aviation Turbine Fuel (Jet Fuel)
Fuselage Tank Capacity: 1,500 Litres Ventral Tank Capacity : 796 Litres
Wingspan:11.30 m Wing Area:32.51 sq. m
Length:13.59 m Height: 4.22 m
Weights Empty: 4,820 kg Maximum Takeoff weight: 8,664 kg

Armament
Four nose mounted Hispano Mk V 20mm cannon.
Two 1000lb (455 kg) bombs or eight 60 lb (27.3 kg) air to ground rockets.

Maximum Speed: 941 km/h

จากคุณ : ชาลีฟ - [ 2 เม.ย. 52 05:44:39 ]

ความคิดเห็นที่ 17

ขณะบิน

จากคุณ : ชาลีฟ - [ 2 เม.ย. 52 05:46:28 ]

ความคิดเห็นที่ 18

ลำนี้ Highlight

Cessna O-1G Birddog

เป็นเครื่องบินรบที่พัฒนามาจากเครื่องบินพลเรือนในยุค 1940s - 1950s เป็นเครื่องบินอเมริกันที่ใช้ปฏิบัติภาระกิจในสงครามเวียดนาม ก่อนจะยกให้ไทยในเมื่อเสร็จสงคราม ไม่ทราบประวัติเหมือนกันว่ามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร เครื่องลำนี้ไม่ใช่สมบัติของพิพิธภัณฑ์แต่เป็นเครื่องที่ยืมมา เจ้าของชื่อ Gordon Glynn

Wingspan: 10.97 m
Length: 7.85 m Height: 2.29 m

Weights Empty: 635 kg Maximum Takeoff weight: 998 kg
Armament
Eight 2.75 inch (70mm) smoke rockets

Maximum Speed: 243 km/h

จากคุณ : ชาลีฟ - [ 2 เม.ย. 52 05:57:35 ]

ความคิดเห็นที่ 19

รัสยามเท่าฟ้า

จากคุณ : ชาลีฟ - [ 2 เม.ย. 52 05:58:36 ]

ความคิดเห็นที่ 20

North American T-28D Trojan

จากคุณ : ชาลีฟ - [ 2 เม.ย. 52 05:59:57 ]

ความคิดเห็นที่ 21

Supermarine Spitfire Mk VIII

จากคุณ : ชาลีฟ - [ 2 เม.ย. 52 06:01:07 ]

ความคิดเห็นที่ 22

Supermarine Spitfire Mk XVI

จากคุณ : ชาลีฟ - [ 2 เม.ย. 52 06:01:54 ]

ความคิดเห็นที่ 23

English Electric Canberra TT.18

จากคุณ : ชาลีฟ - [ 2 เม.ย. 52 06:02:46 ]

ความคิดเห็นที่ 24

DH-115 Vampire T35

จากคุณ : ชาลีฟ - [ 2 เม.ย. 52 06:03:36 ]

ความคิดเห็นที่ 25

Cessna A37B Dragonfly

จากคุณ : ชาลีฟ - [ 2 เม.ย. 52 06:04:35 ]

ความคิดเห็นที่ 26

CA-13 Boomerang

จากคุณ : ชาลีฟ - [ 2 เม.ย. 52 06:05:44 ]

ความคิดเห็นที่ 27

CA-16 Wirraway

จากคุณ : ชาลีฟ - [ 2 เม.ย. 52 06:07:00 ]

ความคิดเห็นที่ 28

DH82A Tiger Moth

จากคุณ : ชาลีฟ - [ 2 เม.ย. 52 06:08:40 ]

ความคิดเห็นที่ 29

Cessna O-2A "Oscar Deuce"

จากคุณ : ชาลีฟ - [ 2 เม.ย. 52 06:09:37 ]

ความคิดเห็นที่ 30

Lockheed Hudson

จากคุณ : ชาลีฟ - [ 2 เม.ย. 52 06:12:23 ]

ความคิดเห็นที่ 31

Ryan STM S2

หมดและ

จากคุณ : ชาลีฟ - [ 2 เม.ย. 52 06:17:50 ]

ความคิดเห็นที่ 32

Great !!!

จากคุณ : Halimeda Lover - [ 2 เม.ย. 52 09:10:27 ]

ความคิดเห็นที่ 33

ขอบคุณมากๆเลยครับผม ภาพสวยมั๊กมาก

จากคุณ : อยากไปบ้างงะ (รักเป็นคำกริยา) - [ 2 เม.ย. 52 11:31:22 ]

ความคิดเห็นที่ 34

ขอบคุณมากครับ...เยี่ยมจริงๆ

จากคุณ : นายแพรว - [ 2 เม.ย. 52 15:29:52 ]

ความคิดเห็นที่ 35

ขอบคุณค่ะ

จากคุณ : Pattamas - [ 2 เม.ย. 52 17:28:59 ]

ความคิดเห็นที่ 36

man ... เข้ามาดู

จากคุณ : Mr. Fusion - [ 2 เม.ย. 52 20:03:28 ]

ความคิดเห็นที่ 37

ขอบคุณค้า..

จากคุณ : nuanapa - [ 2 เม.ย. 52 20:56:20 ]

ความคิดเห็นที่ 39

^ ^

จากคุณ : ฟินจัง - [ 3 เม.ย. 52 00:16:31 ]

ความคิดเห็นที่ 40

สวยยยยยยยย(นำ้ลายยืด)

จากคุณ : sem-pe (sem-pe) - [ 3 เม.ย. 52 00:24:24 ]

ความคิดเห็นที่ 41

ช่วยโหวตครับ

ถือว่าเป็นความรู้มากๆเลยครับเนี่ย ^_^

จากคุณ : Nanoดะ - [ 3 เม.ย. 52 00:54:11 ]

ความคิดเห็นที่ 42

สุดยอด

จากคุณ : บ้านอยู่ kokat (บ้านอยู่ korat) - [ 3 เม.ย. 52 00:54:32 ]

ความคิดเห็นที่ 43

มีของไทยด้วย

จากคุณ : ถุนคุง - [ 3 เม.ย. 52 05:30:34 ]

ความคิดเห็นที่ 44

ของกองทัพอากาศไทย แต่ไปอยู่ในพิพิธภัณฑ์ของ ออสเตรเลียได้ไงครับ

จากคุณ : ซิมเปิ้ลแมน - [ 3 เม.ย. 52 08:26:11 ]

ความคิดเห็นที่ 45

แต่ละลำแจ่มๆทั้งนั้น ^ ^

เครื่องบินของกองทัพด้วยนะนั้น : D

จากคุณ : Buddychans - [ 3 เม.ย. 52 15:00:21 ]

ความคิดเห็นที่ 46

สวยทุกลำเลย

จากคุณ : oro - [ 4 เม.ย. 52 22:43:55 ]

ความคิดเห็นที่ 47

- - ตาลายอ่านหัวข้อผิด !!

นึกว่า อวกาศ~~~

จากคุณ : Happiiz - [ 5 เม.ย. 52 14:40:02 ]

ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป