ความคิดเห็นที่ 1 ตามความถนัดด้วยมั้งครับ ผมไม่ทราบ จากคุณ : จุดสองห้อย (ท่านประธานบริษัท) - [ 3 เม.ย. 52 14:14:18 ]

ความคิดเห็นที่ 2 เขาว่ากันว่าจริง ต้องรอให้คนที่ไป รบที่เวียดนาม มาเล่าให้ฟังอีกที จากคุณ : สำราญ บานบุรี - [ 3 เม.ย. 52 14:20:39 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ยิงกันในป่า AK-47 น่าจะได้เปรียบตรงกระสุนทะลุทะลวงผ่านแนวต้นไม้ขนาดไม่ใหญ่มากได้ จากคุณ : ~ - [ 3 เม.ย. 52 14:32:49 A:113.53.188.44 X: TicketID:188497 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ยิงไม้เทียบกัน M16 ยิงไม่ทะลุ AK-47 ยิงทะลุ http://www.youtube.com/watch?v=G6BpI3xD6h0 จากคุณ : ~ - [ 3 เม.ย. 52 14:34:40 A:113.53.188.44 X: TicketID:188497 ]

ความคิดเห็นที่ 5 แต่ข้อเสียของปืนแรงคือคุมปืนยาก ยิ่งปืนแรงยิ่งต้องจัดท่าทางให้ดีก่อนยิงถ้าหากต้องการความแม่นยำ http://www.youtube.com/watch?v=7y7KjanpWOk&feature=related จากคุณ : ~ - [ 3 เม.ย. 52 14:45:50 A:113.53.188.44 X: TicketID:188497 ]

ความคิดเห็นที่ 6 เป็นกลยุทธ์ครับที่อิรักหรือสมรภูมิไหน ๆ ก็ทำกัน อาวุธฝ่ายตรงข้ามต้องยึดจะเอามาใช้หรือทำลายก็แล้วแต่ แต่พวกหน่วยบางหน่วยจะใช้อาวุธข้าศึกเพื่อพราง/ลวง ทำให้แยกไม่ออกว่าเป็นฝ่ายไหน เสียงปืนคล้าย ๆเหมือนของฝ่ายเดียวกันก็ทำให้โจมตีได้ง่ายขึ้น ส่วนจะถามว่าอะไรดีกว่ากันตอบไม่ได้ครับ อยู่ที่ความถนัดในสมรภูมิไม่มีใครจะมัวไปเล็งปราณีต โผล่หัวไปตาย -*- ที่สำคัญคำถามแบบนี้เหมือนกันกับ ถามว่า อเมริกากับโซเวียต แมนยูกับลิเวอร์ windowsกับMACถามไปทะเลาะกันเปล่า จากคุณ : PUMPKINbig - [ 3 เม.ย. 52 15:13:43 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ^ Mod PR ของ BF2 ถ้าฝ่ายตรงข้ามได้ชุดเราไปใส่นี่แทบดูไม่ออก ถ้าระยะใกลๆ อาบังใส่หมวก USMC หรือ usmc ใส่ชุดอาบัง ผมโดนสอยแบบนี้บ๊อยบ่อย จากคุณ : [v] (BONDJUNG_TH) - [ 3 เม.ย. 52 15:21:14 ]

ความคิดเห็นที่ 8 เท่าที่ดุสารคดี ก็ใช้M-16กันทั้งนั้น   ตอนนี้คงไม่มีใครเอามาใช้แล้วมั้งเห็นในอีรักล่าสุด พวกศูนย์เรดดอทนี่ติดกันเกือบหมด   เอาAKมาใช้คงติดไม่ได้ จากคุณ : waphoo - [ 3 เม.ย. 52 15:37:29 ]

ความคิดเห็นที่ 9 การออกแบบที่ง่ายกว่าในการใช้งาน ไม่ต้องการการบำรุงรักษามาก ตกน้ำ ตกโคลน ฝังดินไว้ นำออกมาทำความสะอาดประกอบเข้าเหมือนเดิม ยิงได้ กลไกไม่ซับซ้อน จึงเหมาะสำหรับเป็นปืนเล็กประจำกายจริงๆ ต้อง AK47 (พวกก่อการร้ายจึงชอบใช้ทั่วโลกก็ว่าได้) ส่วนความถนัด ความแม่นยำ ต้องโทษตัวเอง อย่าไปโทษปืน จากคุณ : chem chem - [ 3 เม.ย. 52 15:50:06 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ในเวียดนาม ก็ต้องบอกว่าไม่จริงครับ ทหารก็ใช้ m-16 ตามปรกติครับ ยกเว้นหน่วยรบพิเศษ ที่บางครั้ง บางหน่วย ก็จะใช้ ak-47 ที่ยึดมาครับ แต่ถ้าเป็นทหารไทยในสงครวาม แถวๆบ้านเรา ตอนหลังๆ ก็ต้องบอกว่าใช่ครับ เพราะ m16 มันปืนหลวงครับของหลวง หาย พัง ชำรุด เบิก ใชมันต้องทำเรื่องยุ่งยาก เพราะงั้น ส่วนใหญ่ถ้าหาปืน ak-47 (ไม่ใช่ type-56 ของจีนนะครับคนละตัวกัน)หรือปืนอื่นๆได้ เช่น ปืนสั้น m-16 ได้ก็มักจะยึดไว้ใช้ แล้วคืน m-16 ไปครับ และปืน ak-47 ก็ใช้ในป่าบ้านเราดีกว่าด้วย ปืนแบบไหนก็ดีทั้งงั้น เหละครับ ไม่ดีไปกว่ากันหรอกครับ จากคุณ : ++++ - [ 3 เม.ย. 52 15:56:02 A:118.174.12.122 X: TicketID:206189 ]

ความคิดเห็นที่ 11 AK47 Kalashnikov  เป็นปืนเล็กยาว ที่ดีที่สุดในโลก............. อันดับ 1 ตลอดการ......... โดยการจัดอันดับของรายการ  จัดอันดับสิ่งสุดยอด  ในดิสคัฟเวอรรี่ ช่แนล โดนให้เหตุผล เรื่องความทนทานต่อ ภูมิประเทศ   การบำรุงรักษา ความอึดของปืน ชนะ....M16 ที่สำคัญคือ............ อันดับ 2 ไม่ใช่ M16 จากคุณ : ป๋าชาร์ป - [ 3 เม.ย. 52 15:59:30 ]

ความคิดเห็นที่ 12 คห.8 ใครว่าตระกูลAKติดเรดดอทไม่ได้ครับ แก้ไขเมื่อ 03 เม.ย. 52 17:46:48 จากคุณ : ซามาโนสุเกะ - [ 3 เม.ย. 52 16:04:29 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ผมว่าเอาไปสะสมเท่ห์ๆมากกว่า... อาจใช้ยิงมั่งถ้ามีโอกาส  US ไม่ค่อยตาม เก็บอาวุธอะไรหรอก . . . . แต่ทหารไทยเราเก็บเรียบ ล่อนจ้อน จากคุณ : Kross_ISC - [ 3 เม.ย. 52 16:11:09 ]

ความคิดเห็นที่ 14 เคยได้ยินเหมือนกันครับ ว่าทหาร US ชอบไปใช้ AK-47 เพราะ M16 รุ่นแรก ๆ ขัดลำกล้องบ่อย ต้องทำความสะอาดบ่อย ไม่ทนฝุ่นดินน้ำ แต่ต้องคอยระวังตรงที่ เสียง AK-47 จะทำให้พวกเดียวกันนึกว่าเป็นเวียดกง รุมสาดกระสุนใส่เอาได้ จากคุณ : a - [ 3 เม.ย. 52 16:24:49 A:58.8.197.169 X: TicketID:170283 ]

ความคิดเห็นที่ 15 Ak-47   ไม่ได้ใช้ระบบแก็สเข้ามาช่วยในระบบปฏิบัติการ เหมือน m16-a1 ใช่รึปาว ... เลยเกิดเป็น m16-a2  เพื่อแก้จุดด้อยตรงนี้ จากคุณ : fak - [ 3 เม.ย. 52 16:42:51 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ถ้าจำไม่ผิด ปืนM16 ในยุคนั้นเหมือนจะมีปัญหาในด้านความหน้าเชื่อถือหน่ะครับ (May the newtype be with you) ขอให้นิวไทป์จงสถิตย์อยู่กับท่าน จากคุณ : Norah - [ 3 เม.ย. 52 17:00:22 ]

ความคิดเห็นที่ 17 กระสุนแบบ 7.62 บ้านเรามีประจำการป่าวครับ จากคุณ : มนุษย์ถ้ำ - [ 3 เม.ย. 52 17:20:06 ]

ความคิดเห็นที่ 18 นั่นเเหละครับ คือสาเหตุเล็กๆน้อยที่ทำให้ทหาร usa เเพ้สงครามเวียดนาม เมื่อคุณไปชัยภมิที่ไม่รู้จัก การไปเก็บปืนหรือสิ่งของมีค่า คุณจะพบกับ.....อันตรายหลายอย่าง กับดัก,กับระเบิดเวียดกงฉลาดมากครับ เเล้วพอusa กลับเพราะเเพ้สงครามนะครับ เหล่าอาวุธ ที่ usa ขนมา เวียดนามก็มาใช้ต่อในสงครามคอมมิวนิสต์ ชนะเกือบทุกประเทศ จนเกือบมายึดประเทศไทย ต่างประเทศฟันธง เเล้วว่าน่าจะชนะไทยได้ เนื่องจากกำลังพลหลักเเละกำลังพลสำรองสมัยนั้น ไทยมีน้อยกว่ามาก รวมถึงอาวุธต่างๆ ในช่วงนั้นในหลวงต้องเสด็จไปพระราชทานเพลิงศพ ให้นายทหารปีนึงหลายร้อยคน ในหลวงทรงพระราชนิพนธืเพลง ให้ทหารเเละตำรวจบริเวณชายเเดนชื่อเพลง เราสู้ (ไม่เเน่ใจ) ว่าอย่าทอดใจกับสงครามครั้งนี้ เรามีโอกาสชนะได้ ถ้าคนไทยรู้จักให้ ...(ถ้ามีโอกาสจะมาเล่าให้ฟัง) สุดท้ายเราสามารถชนะได้ด้วยพระปรีชาสามารถ ของในหลวง เนื่องจากโครงการพระราชดำริ ต่างๆของพระองค์ ในการให้ความชวยเหลือประชาชนในเเถบชายเเดนให้มีความเป็นอยู่ดีขึ้น การกระจายของคอมมิวนิสต์จึงค่อยๆหายไปเพราะประชาชน พระความปรีชาสามารถของพระองค์ ในการเเก้ปัญหา จึงทำให้ไทยไม่เเพ้ต่อสงครามคอมมิวนิสต์ต่อเวียดนาม จากคุณ : จูล่งฝ่าทัพ_รับอาเต๊า - [ 3 เม.ย. 52 17:31:28 ]

ความคิดเห็นที่ 19 เรื่องรบกับเวียดนามต้องไปเปิดคมเสธแดงอ่าน จากคุณ : antpig - [ 3 เม.ย. 52 17:42:10 ]

ความคิดเห็นที่ 20 อ้าวลืม m4 ไปได้ไงหล่ะครับ ปืนแจมบ่อยมากในสงครามอ่าว 2007 dust test In the fall of 2007, the Army tested the M4 against three other carbines in "sandstorm conditions" at Aberdeen Proving Ground, Maryland: the Heckler & Koch XM8 rifle, Fabrique Nationale de Herstal SOF Combat Assault Rifle (SCAR) and the Heckler & Koch HK416. Ten of each type of rifle were used to fire 6,000 rounds each, for a total of 60,000 rounds per rifle type.[8] The M4 suffered far more stoppages than its competitors: 882 stoppages, 19 requiring an armorer to fix. The XM8 had the fewest stoppages, 116 minor stoppages and 11 major ones, followed by the FN SCAR with 226 stoppages and the HK416 with 233.[9][10] The Army said it planned to improve the M4 with a new cold-hammer-forged barrel to give longer life and more reliable magazines to reduce the stoppages. Magazine failures caused 239 of the M4's 882 failures. Army officials said the new magazines could be combat-ready by spring if testing went well.[11] ก๊อปมาเลย จากคุณ : TagMyZky - [ 3 เม.ย. 52 19:52:17 ]

ความคิดเห็นที่ 21 SR-47 Scar-H จากคุณ : ซายูบิ - [ 3 เม.ย. 52 20:31:16 ]

ความคิดเห็นที่ 22 พี่ผมไปรบในเวียดนามครับ... พี่บอกว่าปืน M16 ต้องดูแลทำความสะอาดตลอด และขัดลำกล้องบ่อย ๆ เวลาคับขันไม่ทันการครับ จากคุณ : c136 (c136) - [ 3 เม.ย. 52 21:25:21 ]

ความคิดเห็นที่ 23 #22 พี่อายุเท่าไหร่ครับ เวียดนามนี่นานมากเลยนะครับ และm-16 ก้ไม่ได้ขัดลำกล้องมากขนาดนั้น ครับ มันไม่ได้เลวร้ายอย่างที่หลายๆคนคิด หรอกครับ ไม่งั้น เราคงไม่เอา m-16 เป็นอาวุธประจำกายหลัก หรอกครับ ที่มันเป็นปัญหาก็เพราะ ระยะแรกๆที่m-16 ถูกส่งไปเวียดนาม บริษัท ที่ผลิตเชื่อว่ามันไม่จำเป็นต้องทำความสะอาด กองทัพอเมริกาก็เชื่อเช่นนั้น เลยไม่ได้ส่งชุดทำความสะอาดไปด้วย แถมยังส่งซองบรรจุกระสุนไปไม่พอด้วย ทหารคนหนึ่งได้ซองกระสุน 3-4 ซอง ที่เหลือเป็นได้รับเป็นคลิปกระสุน คลิปละ 10 นัดแทน มันก็เลยมีปัญหาบ่อยครับ หลังๆ ก็ปรับปรุงแก้ไขไป ก็เป็นปืนที่มีประสิทธิภาพแบบหนึ่งครับ จากคุณ : ++++ - [ 3 เม.ย. 52 22:18:07 A:118.174.95.249 X: TicketID:206189 ]

ความคิดเห็นที่ 24 เท่าที่ดุสารคดี ก็ใช้M-16กันทั้งนั้น   ตอนนี้คงไม่มีใครเอามาใช้แล้วมั้งเห็นในอีรักล่าสุด พวกศูนย์เรดดอทนี่ติดกันเกือบหมด   เอาAKมาใช้คงติดไม่ได้ จากคุณ : waphoo ***** สารคดีใครเป็นคนทำละครับ ส่วนศูนย์เลเซอร์นะ ถามจริงๆ จะใช้ยิงในระยะกี่เมตรโดยไม่ต้องยกปืนเล็ง ระยะแค่นี้ต่อให้ปืนสั้นลำกล้องยาวแค่ 3 นิ้วก็ยังใช้ได้เลย ทำไม AK ลำกล้องยาวกว่าตั้งเยอะ ระยะหวังผลก็เยอะกว่าปืนสั้นเพียบ จะใช้ไม่ได้ละครับ อ้อ ถ้าชอบดูพวกสารคดี ก็จะเห็นว่า บรรดา สิบอันดับนี่ ของตัวเองกินระดับ 1-2 เกือบหมด ยกเว้นปืนไรเฟิ้ล ที่ยอมยกให้ AK47 ขึ้นเป็นอันดับ 1 แบบคะแนนทิ้งห่างของตัวเองเลยนะครับ 666 เคยได้ยินเหมือนกันครับ ว่าทหาร US ชอบไปใช้ AK-47 เพราะ M16 รุ่นแรก ๆ ขัดลำกล้องบ่อย ต้องทำความสะอาดบ่อย ไม่ทนฝุ่นดินน้ำ ***** ต้องเรียกว่า เป็นจุดด้อยในการออกแบบที่นึกไม่ถึงครับ สาเหตุหนึ่งที่ทำให้ปืน m16 ขัดลำกล้องบ่อยก็คือ กระสุนปืนนั่นเอง เพราะ การออกแบบได้ใช้ดินส่งกระสุนแบบนึง แต่พอใช้ในสายการผลิตดันใช้อีกแบบนึง ทำให้การทำงานไม่เป็นไปตามที่ออกแบบครับ ตอนที่ออกแบบ ก็เน้นความแม่นยำ เพราะ ยึดหลักสงครามครั้งก่อนๆ พอส่งปืนรุ่นแรกมา ก็ไม่ส่งชุดทำความสะอาดปืนมาด้วย ก็ไม่แปลกที่ปืนจะขัดลำกล้องเพียบ จากนั้นก็ได้แก้ไขหลายอย่างจึงกลายมาเป็น m16a1 ซึ่งการขัดลำกล้องก็ลดลง แต่กระนั่น แม้กระทั่งปืนรุ่นใหม่ในซีรีย์นี้ก็ยังสามารถขัดลำกล้องได้อยู่ดี ถ้าไม่ทำความสะอาด และระวังในบางเรื่อง ซึ่งแก้ไม่ได้ ดังนั้น ปืนรุ่นใหม่ที่กำลังทดสอบอยู่เกือบทุกรุ่น แม้ว่าหน้าตาบางรุ่นจะเหมือนปืนในซีรีย์นี้ก็ตาม แต่ระบบการทำงานกลับไม่มีใครเอาเลยซักคน ซึ่งระบบการทำงานสำหรับปืนรุ่นต่อไปของเมกานั้น คงเดาไม่ยากว่า เอาระบบการทำงานของปืนรุ่นไหนเป็นต้นแบบแทนนะครับ 666 Ak-47   ไม่ได้ใช้ระบบแก็สเข้ามาช่วยในระบบปฏิบัติการ เหมือน m16-a1 ใช่รึปาว ... เลยเกิดเป็น m16-a2  เพื่อแก้จุดด้อยตรงนี้ ***** ปังหาลดลงแต่แก้ปังหาทั้งหมดไม่ได้ ตราบใดที่ยังใช้ระบบการทำงานแบบนี้อยู่ครับ 666 และm-16 ก้ไม่ได้ขัดลำกล้องมากขนาดนั้น ครับ มันไม่ได้เลวร้ายอย่างที่หลายๆคนคิด หรอกครับ ไม่งั้น เราคงไม่เอา m-16 เป็นอาวุธประจำกายหลัก หรอกครับ ***** ต้องไปดูประวัติศาสตร์ว่า ทำไม ไทย ถึงต้องใช้อาวุธที่มาจากเมกาเกือบทั้งหมดเลยก็ว่าได้ ลด แลก แจก แถม แกมบังคับ ให้ใช้ เพิ่มเริ่มมียุคหลังๆ นี่แหละ ที่กบถ ไม่ถือว่า อาวุธจากเมกาเป็นสิ่งจำเป็นที่ต้องซื้อและใช้อีกต่อไป 666 จากคุณ : monsungja - [ 3 เม.ย. 52 22:57:52 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ตัวผมก็ไม่เคยใช้ AK47 เสียด้วย ได้แต่เคยได้ยินเขาเล่าว่าเฉยๆ เขาเล่าว่า AK47 ทนทาน สมบุกสมบั่นมากกว่า M16 เยอะ แต่ AK47 ยิงไม่แม่นเท่า M16 ถ้าต้องการความแม่น M16 แม่นและนิ่งกว่า แต่ถ้าให้เลือกหยิบระหว่าง AK47 กับ M16 กลางสนามรบ มีแต่คนเลือก AK47 เพราะเวลารบแบบคับขันจริงๆ ไม่สนความแม่นอยู่แล้ว อาศัยยิงกราดเอา ขอให้ปืนไม่ขัดเป็นพอ 555+ จากคุณ : ปั๊ปโปะจัง - [ 4 เม.ย. 52 00:17:47 ]

ความคิดเห็นที่ 26 เออ#24 m-16 ไม่ได้เลวร้ายครับ มีข้อดีมากมาย เชื่อถือได้แบบหนึ่งไม่ได้แย่แบบที่ขนาดนั้นถึงแม้ว่าจะเทียบ ak-47 ไม่ได้บางจุดก็ไม่ใช่ว่า มันจะแย่ขนาดจับไม่ได้นะครัีบ การเป็นชาติพันธมิตรทำให้เราได้ใช้ m-16 แต่ m-16 ก็ได้แสดงให้เห็นแล้วว่ามีประสิทธิภาพ จากการปะทะที่ผ่านๆมาครับ จากที่จับๆ เดินผ่านๆ ผมก็ชอบ m-16 มากที่สุดครับ แต่ถ้าจะให้เลือกปืนอะไรไปทำลั่นใส่เขม_ ละก็ขอเป็น ak-47 ดีกว่า หึหึ เ่อ่อ ศูนย์เลเซอร์ นี่ red dot หรือเปล่าครับ ถ้าใช่ อย่างไงมันก็ต้องยกขึ้นเล็งนี่ครับ ยกเว้นแบบเลเซอร์ช่วยเล็ง อันนี้เห็นจุดเลเซอร์ ชัดเจนแม้ไม่ได้ยกประทับบ่า และปืนแบบไหนก็ติด ได้ทั้ง 2แบบครับ --------------------------- อ้อ พึ่งเห็น "Ak-47 ไม่ได้ใช้ระบบแก็สเข้ามาช่วยในระบบปฏิบัติการ เหมือน m16-a1 ใช่รึปาว ... เลยเกิดเป็น m16-a2 เพื่อแก้จุดด้อยตรงน" ทั้ง m-16 ak-47 ก็ใช้ระบบปฏิบัติการด้วยแก็ส นะครับ แต่เป็นคนละแบบกัน จากคุณ : ++++ - [ 4 เม.ย. 52 00:47:53 A:118.174.205.209 X: TicketID:206189 ]

ความคิดเห็นที่ 27 อาก้าสมัยนี้ ติดได้หมดครับ อยากติดแบบรัสเซียๆ ก็มีรางข้างให้ อยากติดแบบตะวันตกก็มีรางพิคาทินีให้ครับ แก้ไขเมื่อ 04 เม.ย. 52 04:31:07 จากคุณ : zepia (bozzie) - [ 4 เม.ย. 52 04:30:51 ]

ความคิดเห็นที่ 28 รูปไม่ขึ้น จากคุณ : zepia (bozzie) - [ 4 เม.ย. 52 04:31:36 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ผมว่าทหาร US คงไม่ไปเอาปืนอาก้ามาใช้จริงๆหรอกครับ อาจจะบางครั้งยึดมาได้ก็เลยเอามายิงเล่น เพราะถ้าเอามาใช้จริงก็ต้องไปตามยึดกระสุน, ซองกระสุนมาอีกเยอะแยะ แล้วแบ่งกระสุนกับเพื่อนร่วมทีมก็ไม่ได้ หน่วยรบพิเศษของไทยบางหน่วยก็มีใช้อาก้าบ้าง แต่ก็ไม่ได้เต็มรูปแบบแบบ M16 แต่เป็นการใช้เพื่อศึกษายุทธวิธีของฝ่ายตรงข้ามมากกว่า ถ้าจะใช้แบบเต็มรูปแบบจริงๆก็จะติดปัญหาเรื่องการสนับสนุนกระสุนกับหน่วยข้างเคียง 7.62 ในบ้านเรามีประจำการรึเปล่า ในบ้านเรามี 5.56x45 ของ M16, มี 7.62x51 ของ M60 แต่ของอาก้าเป็น 7.62x39 ครับ หน้าตัดใหญ่กว่า แต่ตัวกระสุนสั้นกว่า ที่อาก้าเป็นปืนยอดนิยมส่วนหนึ่งก็คือยอดขายที่สูงที่สุด เพราะอาก้ามีหลายเวอร์ชั่นมีทั้ง 5.56 และ 7.62 ส่วนเอ็ม16 ที่มีปัญหาติดขัดบ่อยไม่ใช่เพราะปืนบอบบาง แต่เป็นเพราะมันเป็นปืนที่ถูกออกแบบมาใหม่ มีขนาดเล็กและเบาตัวปืนดูเหมือนพลาสติกทำให้ดูไม่น่าเชื่อถือ แต่คนขายโฆษณาว่าสามารถใช้ได้ดีโดยไม่ต้องบำรุงรักษา ผู้ใช้งานส่วนใหญ่ก็เลยไม่ดูและรักษาปืนก็เลยติดขัดกันเกือบหมด ทำให้ช่วงนั้นทหารอเมริกันตายไปเยอะ ตอนหลังก็เลยต้องแจ้งให้มีการบำรุงรักษา,ทำความสะอาดตามวงรอบการใช้งาน ปัญหาการติดขัดก็ลดลง ปืนเอ็ม16รุ่นหลังจากนั้นก็เลยออกแบบให้ช่องเก็บอุปกรณ์ทำความสะอาดไว้ที่พานท้าย การที่หน้าตัดกระสุนใหญ่กว่ามีข้อดีคือมีแรงปะทะที่สูงกว่า(อำนาจการทะลุทะลวงสูงกว่า มาจากเกลียวลำกล้องที่น้อยกว่า) แต่มีข้อเสียตามมาก็คือทำให้กระสุนมีน้ำหนักมาขึ้นผลก็คือทำให้นำกระสุนติดตัวไปได้น้อยกว่าครับ จากคุณ : ARTY BTRY - [ 4 เม.ย. 52 10:26:58 ]

ความคิดเห็นที่ 30 แล้ว HK416 สามารถแก้ไขจุดด้อยนี้ได้หรือไม่ครับ? จากคุณ : ซายูบิ - [ 4 เม.ย. 52 11:32:31 ]

ความคิดเห็นที่ 31 สิ่งที่ต้องยอมรับเกี่ยวกับ AK-47 ก็คือความทนทาน ทั้งที่เป็นปืนที่มีการใช้แพร่หลายมากที่สุดในโลกแต่กลับไม่ค่อยมีข่าวคราวเกี่ยวกับปัญหาของปืน จากคุณ : ~ - [ 4 เม.ย. 52 13:17:23 A:113.53.160.140 X: TicketID:188497 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ทั้ง ak-47 และ m-16 ต่างก็ใช้ gas operation ทั้งคู้ครับต่างกันที่ -  m-16 จะใช้ระบบ Direct impingement คือ จะใช้ตัวแก็สไปดันตัวลูกเลื่อนโดยตรงผ่านช่องนำแก๊ส  ซึ่งอาการขัดข้องทั้งหลายทั้งปวงของ m-16 ก็มาจากการที่ช่องนำแก๊สมันอุดตันครับ - ak-47 จะใช้ระบบ Long-stroke piston  คือ  ตัวแก๊สจะไปดันตัวลูกสูบซึ่งตัวลูกสูบจะไปดันชุดลูกเลื่อนอีกทีนึงตามภาพเลยครับ   ส่วนล่าสุดตัว hk-416 ก็ใช้ระบบ short-stroke piston คล้าย ๆ กับ ak ครับแต่แตกต่างกันที่ตัวก้านลูกสูบจะสั้นกว่าของ ak จากคุณ : popoman1 - [ 4 เม.ย. 52 14:25:09 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ลืมภาพครับ จากคุณ : popoman1 - [ 4 เม.ย. 52 14:25:38 ]

ความคิดเห็นที่ 34 short-stroke piston จากคุณ : popoman1 - [ 4 เม.ย. 52 14:29:19 ]

ความคิดเห็นที่ 35 Direct impingement จากคุณ : popoman1 - [ 4 เม.ย. 52 14:29:55 ]

ความคิดเห็นที่ 36 ^ ^ ^ ตามนั้นครับ จากคุณ : PUMPKINbig - [ 4 เม.ย. 52 15:40:40 ]

ความคิดเห็นที่ 37 ... จากคุณ : PUMPKINbig - [ 4 เม.ย. 52 15:41:16 ]

ความคิดเห็นที่ 38 AK-47...นวัตกรรมล้างโลก (1) หลัง จากสงครามโลกครั้งที่ 2 สิ้นสุดลง ท่านผู้อ่านคงจะทราบดีว่าเป็นการเข้าสู่ ยุคของสงครามเย็นที่มีคู่ชกประกอบ ด้วยสหรัฐอเมริกาและสหภาพโซเวียตเป็น มวยคู่เอก ในช่วงสงครามเย็นนั้น ทั้งสองอภิมหาประเทศนี้แข่งขันกันในทุกๆ ด้าน ทั้งการแสวงหาพรรคพวกลูกน้องในเวทีนานาชาติ การแข่งขันทางการฑูต การทหาร เทคโนโลยี จนไปถึงการแข่งกันไปเหยียบดวงจันทร์ให้ได้ ใน แง่เทคโนโลยีตอนแรกๆ ดูเหมือนกับว่าทั้งหมีขาวและพญาอินทรีย์จะพอฟัดพอ เหวี่ยงกัน ผลัดกันรุกผลัดกันรับ แต่มีอยู่เหตุการณ์นึงที่สหรัฐต้องเสียหน้าอย่างมาก คือตอนโดนโซเวียตชิงตัด หน้าส่งคนขึ้นไปในอวกาศได้ก่อน แต่สหรัฐก็ได้โต้ ตอบอย่างถึงพริกถึงขิงโดยการส่งนีล อาร์มสตรองไปเดินเล่นๆ บนดวงจันทร์ใน เวลาต่อมา จากนั้นเป็นต้นมา ก็ดูเหมือนว่าสหรัฐจะค่อยๆ ทิ้งห่างโซเวียตไปเรื่อยๆ ในทุกๆ ด้าน จนกระทั่งโซเวียตล่มสลายกลายมาเป็นรัสเซีย จากคอมมิวนิสต์มาเป็น ประชาธิปไตย ซึ่งต้องผจญกับปัญหานานาประการให้ต้องปวดหัวกันจนถึงทุกวันนี้ แต่ ในความผิดพลาดและล้มเหลวของสหภาพโซเวียตนั้น กลับสร้างนวัตกรรมขึ้น มาชิ้นหนึ่งซึ่งอยู่ยงคงกระพัน และสามารถเอาชนะเทคโนโลยีของสหรัฐได้อย่าง ยาวนาน ได้รับความนิยมไปทั่วโลก และแม้เวลาจะผ่านมายาวนานถึง 60 ปีเต็ม แล้วก็ตาม สหรัฐอเมริกาก็ยังไม่สามารถเอาชนะนวัตกรรมชิ้นเอก เพชรเม็ดงาม แห่งรัสเซียเม็ดนี้ได้เลย มันเป็นนวัตกรรมที่คงทนต่ออุณหภูมิ ใช้งานได้ทุกสภาพ ภูมิอากาศ มีความคงทน ใช้งานง่าย และสามารถพึ่งพาได้ทุกสถานการณ์ ท่านผู้ อ่านพอจะเดาออกไหมครับว่ามันคืออะไร ผมบอกใบ้ให้ก็ได้ว่าท่านต้องเคยเห็นมัน แน่ๆ แต่ท่านอาจจะไม่ได้สนใจอะไรมากนัก แต่รับรองว่าเคยผ่านหูผ่านตาท่านแน่นอน เจ้านวัตกรรมชิ้นนี้มีชื่อว่า AK-47 ครับ มันคือสิ่งที่คนตั้งแต่เวียดกง และอุสมา บินลาเดน ใช้ประจำกาย ใช่แล้วครับ มันคือ อาวุธที่ถูกสร้างมาเพื่อ ทำลายล้างชีวิตผู้คน และมันก็ทำหน้าที่ซื่อสัตย์ของมันอย่างนี้มาถึง 60 ปี โดยไม่ มีอาวุธใดๆ ในโลกนี้อีกแล้วที่จะได้รับความนิยมเท่ามัน และแม้ว่าเจ้าโมเดล AK นี้ จะถูกพัฒนาไปเป็นรุ่นต่างๆ อีกมากก็ตาม แต่หลักการแล้วมันก็คงพัฒนามาจาก AK-47 นั่นเอง บิดาผู้ให้กำเนิดมันคือชาวรัสเซียที่ชื่อ มิคาอิล คาลาชนิคอฟ เขาผลิตมันออกมา ครั้งแรกในปี ค.ศ. 1947 มันคือหนึ่งในนวัตกรรมไม่กี่ชิ้นบนโลกที่หาประโยชน์ใดๆ ให้แก่มนุษยชาติไม่ได้เลย นอกจากจะถูกนำไปใช้เพื่อประหัตประหารกัน และมันก็ ทำหน้าที่นี้ได้อย่างน่าตื่นตระหนกมากทีเดียว เมื่อกองทัพโซเวียตนำ AK-47 ไปใช้ประจำการในกองทัพในช่วงปี ค.ศ. 1956 ซึ่ง เกิดกบฏฮังการี กองทัพโซเวียตในเวลานั้นถึงแม้จะประกอบไปด้วยเหล่าพลทหาร ที่ขาดทักษะในการ ใช้อาวุธกลับสามารถสังหารพลเรือนผู้ก่อความวุ่นวายได้ถึง 50,000 คน ด้วยเหตุผลคือในเวลานั้น AK-47 เป็นเพียงอาวุธชนิดเดียวในโลกที่ สามารถส่งกระสุนได้ถึง 600 นัดต่อนาที และเมื่อมันสามารถพิสูจน์ศักยภาพของ การสังหารได้เป็นอย่างดีและน่ากลัวถึง เพียงนี้ จึงมีการผลิตเจ้านวัตกรรมปีศาจ AK โมเดลต่างๆ ออกมามากมายกว่า 100 ล้านกระบอกจวบจนปัจจุบันนี้... http://www.nia.or.th/innolinks2009/200809/innovsystem.htm แก้ไขเมื่อ 06 เม.ย. 52 12:55:22 แก้ไขเมื่อ 06 เม.ย. 52 12:54:39 แก้ไขเมื่อ 06 เม.ย. 52 12:53:52 จากคุณ : priceless - [ วันจักรี 12:52:21 ]

ความคิดเห็นที่ 39 AK-47...นวัตกรรมล้างโลก (2) เพราะอะไรที่ทำให้ AK จึงถูกสร้างขึ้นมามากกว่าจำนวนประชากรทั้งประเทศไทยเสียอีก? สาเหตุก็คือ รัฐบาลโซเวียตตัดสินใจไม่จดสิทธิบัตรเพื่อ คุ้มครองการประดิษฐ์ที่เป็นนวัตกรรมสีดำชิ้นเอกของวงการทหารนี้ ทำให้เกิด สภาวะที่ “ใครๆ ก็ทำได้” ขึ้นมา และด้วยเหตุนี้ทำให้เกิดการผลิตอย่างขนาน ใหญ่ในช่วงสงครามเย็นตั้งแต่ในประเทศเล็กๆ อย่างประเทศบัลแกเรีย ประเทศโปแลนด์ไปจนถึงประเทศจีน ประเทศในกลุ่มละตินอเมริกา และ ประเทศทางแถบแอฟริกา เรื่องที่เลวร้ายที่สุดอีกเหตุการณ์หนึ่ง คือ สงครามอัฟกานิสถานในช่วง ทศวรรษที่ 1980 ซึ่งตอนนั้นโซเวียตยังคงครอบครองดินแดนนั้นอยู่ ในขณะ ที่ฝ่ายกองทัพโซเวียตเองได้ทำการพัฒนาและปรับปรุงเจ้า AK ให้มี ประสิทธิภาพในการสังหารมากขึ้น ฝ่ายกบฏมูจาฮิดีนก็ได้รับการสนับสนุน จากสหรัฐอเมริกาอย่างลับๆ ล่อๆ โดยสนับสนุน AK ให้กลุ่มกบฏมากถึง 400,000 กระบอก แทบไม่อยากจะนึกภาพเลยว่า เกิดอะไรขึ้นเมื่อผู้คนต่าง หันอาวุธที่มีประสิทธิภาพในการสังหารดีที่สุดใน โลกนี้เข้าหากัน และนี่ก็อาจ จะเหตุให้เกิดชนวนความวุ่นวายที่ยืดเยื้อยาวนานในพื้นที่แถบนั้นก็ได้ และ กรรมก็ตามมาทัน เมื่อกลุ่มกบฏที่สหรัฐอเมริกาเคยให้ความสนับสนุนวันหนึ่ง ก็ได้หันเจ้า AK ไปหาคนที่หยิบยื่นมาให้ หลังจากการล่มสลายของสหภาพโซเวียตในปี ค.ศ. 1991 เจ้า AK กลับได้ รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น เมื่ออาวุธนานาชนิดของอดีตกองทัพโซเวียตได้ หลั่งไหลเข้าไปสู่ตลาดมืดอย่าง ไม่ขาดสาย ประมาณการกันว่าในปัจจุบันที่ กองทัพไม่น้อยกว่า 50 กองทัพทั่วโลกที่ใช้เจ้า AK เป็นอาวุธประจำการ ตั้งแต่กองทัพของรัฐบาลจนถึงกลุ่มกองโจร กบฏแบ่งแยกดินแดน พ่อค้า ยาเสพติด กลุ่มผู้ทำผิดกฏหมาย เจ้าพ่อ ฯลฯ ท่านผู้อ่านอยากทราบไหมครับว่า มิคาอิล คาลาชนิคอฟ เขาสร้างเจ้าปีศาจร้ายตัวนี้ออกมาได้อย่างไร? จริงๆ แล้ว คาลาชนิคอฟ สร้างเจ้า AK ขึ้นมาด้วยแรงบันดาลใจโดยแท้ เหมือนกับนักประดิษฐ์ทั้งหลายทั่วโลกแต่คาลาชนิคอฟอาจจะพิเศษหน่อย คือ เขาถูกพวกนาซียิงด้วยปืนกลชไมเซอร์ในปี ค.ศ. 1941 และหลังจากที่ เขามีอาการดีขึ้นจากการบาดเจ็บแล้ว พ่อหนุ่มคาลาชนิคอฟก็สาบานว่าจะ สร้างอาวุธที่เหนือกว่าให้ได้เพื่อปกป้อง รักษาแผ่นดินแม่ของเขา จากนาซีผู้รุกราน และคาลาชนิคอฟก็ทำได้สำเร็จในปี ค.ศ. 1947 ด้วยเหตุนี้ ชื่อแรกของมันจึงเป็น AK-47 เมื่อ 3 ปีที่ผ่านมานี้เอง นิตยสารเพลย์บอยมีอายุครบ 50 ปี จึงได้จัดอันดับ 50 ผลิตภัณฑ์ที่เปลี่ยนโลกขึ้น เจ้า AK-47 ตัวร้ายอยู่ในลำดับที่ 4 ท่านผู้อ่านที่เคารพ บ้านเราเรียกมันว่า “อาก้า” ครับ เรามาช่วยกันภาวนาอย่าให้มีนวัตกรรมแบบนี้ขึ้นมาอีกในโลกเลย 60 ปีที่ผ่านมาสำหรับมัน น่าจะเป็นฝันร้ายที่ควรจะหยุดได้แล้วใช่ไหมครับ ปรีดา ยังสุขสถาพร ผู้จัดการฝ่ายทรัพย์สินทางปัญญา สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ http://www.nia.or.th/innolinks2009/200811/innovsystem.htm จากคุณ : priceless - [ วันจักรี 12:58:28 ]