ความคิดเห็นที่ 1 มันไม่พอ ไงครับผลิตได้ไม่พอต่อความต้องการ จากคุณ : ZGMF-X10A - [ 8 เม.ย. 52 09:14:04 ]

ความคิดเห็นที่ 2 น้ำมันพืช แพงกว่าดีเซล จากคุณ : อะธีลาส - [ 8 เม.ย. 52 09:20:44 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ทำไมผมดูเมื่อคืน คนในโครงการณ์ส่วนพระองค์บอกว่าถูกกว่า จากคุณ : HMC - [ 8 เม.ย. 52 09:36:56 ]

ความคิดเห็นที่ 4 เมื่อก่อนดีเซลถูกกว่า แต่ตอนนี้ราคาขึ้นแล้ว น้ำมันพืชน่าจะถูกกว่า จากคุณ : FlyingChicken - [ 8 เม.ย. 52 09:59:13 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ถึงถูกกว่า แต่คุณค่าของสิ่งนั้นๆ หากเอามาทำอย่างอื่น จะขายได้แพงกว่าครับ ผมไปฟังบรรยายเรื่อง เทคโนโลยีการผลิตไบโอดีเซล ที่จุฬา เมื่อสองสามอาทิตย์ก่อน อาจารย์ท่านบอกว่า "หากเอารายการของสิ่งต่างๆที่ปิโตรเลียมสามารถนำไปผลิตได้ การผลิตเป็นเชื้อเพลิง จะขายได้ราคาต่ำที่สุด" ว่าง่ายๆ น้ำมันที่ขุดกันขึ้นมาได้ เอาไปทำขันน้ำพลาสติกขาย ยังได้เงินมากกว่าขายเป็นน้ำมัน น้ำมันพืชก็เช่นกัน ถ้าเอาไปทำอย่างอื่นขาย เช่นน้ำมันสลัดเกรดสูง ก็ขายได้แพงกว่าการทำเป็นไบโอดีเซลหลายเท่า ส่วนเรื่องเครื่องยนต์ของ รูดอล์ฟ ดีเซล นั้น ถูกต้อง ตอนที่พัฒนาขึ้นมาเริ่มแรก ตั้งใจให้ใช้น้ำมันพืช แต่การพัฒนาถัดๆมานั้น มีการผลิตน้ำมันดีเซลจากปิโตรเลียม ทำให้เครื่องยนต์ดีเซลที่พัฒนาต่อจากนั้นจนถึงปัจจุบัน ตั้งอยู่บนหลักการที่ว่า "ใช้ดีเซลจากปิโตรเลียมเป็นเชื้อเพลิง" เครื่องยนต์ดีเซลในปัจจุบัน จึงไม่เหมาะที่จะใช้น้ำมันพืชหรือไบโอดีเซลอย่างสมบูรณ์นัก ยิ่งกระบะcommonrail หัวฉีดจะอุดตันเอาง่ายๆ แถมบางทีก็ใช้ในฤดูหนาวไม่ได้ เพราะจับเป็นไข การพัฒนาไบโอดีเซล จึงควรนำเครื่องยนต์ต้นแบบของรูดอล์ฟ ดีเซล มาพัฒนาต่อบนหลักการที่ว่า "ใช้น้ำมันพืชและไบโอดีเซลเป็นเชื้อเพลิง" จึงจะต่อยอดได้อย่างสมบูรณ์ แต่ก็ไม่เห็นมีใครทำ จากคุณ : powerconduit - [ 8 เม.ย. 52 10:25:22 ]

ความคิดเห็นที่ 6 เคยอ่านมาเหมือนกันว่า รูดอล์ฟ ดีเซล พัฒนาเครื่องยนต์ดีเซล เพื่อให้สามารถใช้ได้กับน้ำมันอะไรก็ได้ ที่หาได้ง่ายในท้องถิ่นนั้นๆ ไม่ว่าจะเป็นน้ำมันพืชหรือน้ำมันปิโตรเลียม ดังนั้นการพัฒนาไปสู่การใช้ไบโอดีเซล จะว่าไปก็เหมือนเป็นการย้อนกลับไปสู่ความตั้งใจเริ่มแรกของรูดอล์ฟ ดีเซลนั่นเอง จากคุณ : เกียรตินำ - [ 8 เม.ย. 52 10:41:01 ]

ความคิดเห็นที่ 7 จุ๊ ๆ อย่าเด็ดไป เขาบอกว่ารูดอล์ฟตกทะเลตาย หายสาปสูญ เพราะจะพัฒนาเครื่องยนต์ใหม่ที่ทำงานกับน้ำมันพืชได้ดีเท่าน้ำมันปิโตรเลียม.... (ขออ้างอิงด่วน) จากคุณ : @power - [ 8 เม.ย. 52 10:45:52 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ขายได้แพงกว่า แต่ฐานลูกค้าย่อมน้อยกว่า ^^ จากคุณ : nutxnut - [ 8 เม.ย. 52 10:57:04 ]

ความคิดเห็นที่ 9 #7 อ่านเจอมาจริงๆด้วยครับ  อยู่ๆตกทะเลตายไปเฉย อายุแค่ 55 เอง แถมก่อนนอนยังบอกให้คนปลุกตอน 6.15 แล้วจะฆ่าตัวตายไปทำไมหละครับเนี่ย แต่ก่อนผมเคยได้ยินคนจะผลิตรถที่วิ่งได้โดยเติมน้ำ ก็จายไปเหมือนกัน มันเรื่องจริงป่าวครับเนี่ย จากคุณ : HMC - [ 8 เม.ย. 52 10:58:15 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ดูราคาก่อน จากคุณ : อะธีลาส - [ 8 เม.ย. 52 11:01:08 ]

ความคิดเห็นที่ 11 น้ำมันปาล์มเกรด A นี่มันคือ 100% ป่าวครับถ้าไม่ใช่ก็ใช้ไม่ได้อีก แต่ถ้าตอนนั้นมันลิตรละ 30 ก็จะถูกกว่า จากคุณ : HMC - [ 8 เม.ย. 52 11:16:18 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr. Fusion - [ 8 เม.ย. 52 11:21:48 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ชื่อน้ำมันว่า โซล่า  เครื่องยนต์ชื่อ ดีเซล  นำมันดีเซลนี่คนไทยเอามาเรียกมั้งครับ จากคุณ : กบินทร์บุรี - [ 8 เม.ย. 52 11:43:18 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ผมว่า น้ำมันปาล์ม ถึงจะแพงกว่าแต่ในแง่ของการพึ่งพาตนเองแล้ว ย่อมคุ้มค่ากว่า เงินที่คุณจ่ายไปกับน้ำมันปาล์ม ถึงยังไงก็หมุนเวียนอยู่ในประเทศ แต่กับน้ำมันที่มาจากปิโตรเลียม ส่วนหนึ่ง (เป็นส่วนใหญ่) จะออกไปนอกประเทศ เงินหมุนเวียนในประเทศเยอะๆ คนในประเทศก็จะมีการใช้จ่าย มีการจ้างงาน เศรษฐกิจก็จะหมุนเวียนกันคล่องตัว ในที่สุดก็ย้อนกลับมาหาคุณเอง คิดให้ดีๆ ลึกๆ อย่างไหนจะดีกว่ากัน จากคุณ : NATSKI13 - [ 8 เม.ย. 52 11:52:59 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ผมว่าน่าจะลองไปโพสต์ลงห้องรัชดาน่ะครับ อาจจะได้ความเห็นทางด้านสมรรถภาพของเครื่องยนต์ ว่าคุ้มหรือไม่คุ้ม จากคุณ : Nobody I am - [ 8 เม.ย. 52 12:01:51 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ถ้าทำจริงๆ คนก็จะหันมาปลูกสวนปาล์มกันมากขึ้น เพราะ ปลูกแล้วน้ำมันไปเติมรถ ขายได้เรื่อยๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ไม่มีวันจบสิ้น ตราบใดที่รถยังใช้น้ำมัน(พืช)เติมอยู่ ราคาน้ำมันอาจจะตกลงตามการผลิตที่สูงขึ้น.... เสร็จแล้ว ราคาพืชผลชนิดอื่นๆจะแพงขึ้นเพราะปริมาณการปลูกลดลง ถ้ามีปัญหาเยอะ สุดท้ายรัฐก็จะต้องมีการจัด สัมปทานปลูกปาล์ม ขึ้นมา เพราะเป็นธุรกิจทำเงินมหาศาล แล้วจะมีนักการเมืองเข้าไปจัดการ คนในพื้น ข้าราชการ ฯลฯ เข้ามารุมทึ้งแย่งกัน(เหมือนรังนก) ดูแล้ว อาจจะเกิดปัญหาได้....... ถ้าจะให้ดีที่สุด ก็น่าจะเป็นรถยนต์ที่ใช้พลังงาน จาก "อะไรก็ได้ที่คนทั่วไปหาเติมเองได้"  เช่น ไฟฟ้า น้ำเปล่า ลม แสงอาทิตย์ ฟูลเซลล์ เพื่อป้องกันการผูกขาด หรือ ฮั้วราคา กันจากนายทุนใหญ่ สมมุติว่า เป็นรถยนต์พลังงานลม ทุกบ้านแค่มีปั้มลมที่บ้าน กลับบ้านก็เสียบปั้มอัดลมเข้าเครื่อง ไม่ต้องไปพึ่งพาน้ำมันหรือเชื้อเพลิงเหลวแต่อย่างใด แบบนี้ คงจะฮั้วราคา หรือ ผูกขาดกันยาก.....เพราะลม เป็นทรัพยากรที่ใครๆก็นำมาใช้ได้ทันที ไม่ต้องแปรรูป ไม่เสียเงินซื้อ แค่เสียค่าไฟฟ้าในการอัดลมเท่านั้น จากคุณ : น้ำปลาเดือนห้า - [ 8 เม.ย. 52 12:05:50 ]

ความคิดเห็นที่ 17 งั้นก็ต้องย้อนกลับไปที่ไฟฟ้าอีก ก็ต้องใช้พลังงานในการผลิต จากน้ำมัน ก๊าซ ถ่านหิน นิวเคลียร์ ชีวมวล ลม แสงอาทิตย์ คลื่น ฯลฯ น้ำมันปาล์มที่ได้ ยังเอาไปใช้ไม่ได้นะครับ ต้องผ่านกระบวนการทำให้เป็น Ester ก่อน ดังนั้นราคามันจะแพงกว่าราคาน้ำมันปาล์มดิบแน่ๆ ไม่ว่ายุคนี้ หรือยุคไหน กลไกตลาดจะทำให้น้ำมันพืช แพงกว่าน้ำมันปิโตรเลียมเสมอ ไม่ว่าจะถูก หรือไม่ถูกแทรกแซงราคาก็ตามที จากคุณ : อะธีลาส - [ 8 เม.ย. 52 12:31:05 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ต้องแปลงกิโลใ้ห้เป็นลิตรก่อนหรือเปล่าครับ ??? จากคุณ : Zkizzik - [ 8 เม.ย. 52 23:59:32 ]

ความคิดเห็นที่ 19 กิโลนึง สักลิตรกว่าๆ ครับ แต่หลังจากผ่านกระบวนการต่างๆ แล้ว ก็เหลือไม่ครบกิโลหรอกครับ แต่ได้ by product ออกมานิดหน่อย หักลบกลบหนี้กันไปมาแล้ว ว่ากันที่ต้นทุน พลังงานจากน้ำมันพืช แพงกว่าครับ ราคาน้ำมันนั่น มีภาษีสรรพสามิต กับกองทุนน้ำมันด้วยนะครับ ซึ่งน้ำมันพืชไม่มีส่วนนี้ แถมราคานี้ยังเป็นราคาที่จัดว่าตกต่ำ ของน้ำมันปาล์มด้วย จากคุณ : อะธีลาส - [ 9 เม.ย. 52 08:38:43 ]

ความคิดเห็นที่ 20 น่าสนใจๆ แก้ไขเมื่อ 09 เม.ย. 52 20:54:36 จากคุณ : Finnegan 'Finn' Bell - [ 9 เม.ย. 52 20:45:15 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ใช้ CNG ถูกว่ามาก ใช้น้ำมันพืชทำไม จากคุณ : ป๋า - [ 16 เม.ย. 52 23:38:16 A:172.16.6.48 X:203.149.16.43 TicketID:110672 ]