ความคิดเห็นที่ 1 ...สิ่งมีชีวิตสองสิ่งที่ต้องอาศัยซึ่งกันและกัน ในการดำรงชีวิต... เช่นอะไรบ้างครับ? จีนัส สปีชีส์เดียวกัน หรือคนละสปีชี่ส์? จากคุณ : nisas - [ 20 เม.ย. 52 00:40:05 ]

ความคิดเห็นที่ 2 คิดว่าคำถามน่าจะเคลียร์แล้ว ภาวะพึ่งพา ( Mutualism )เป็นความสัมพันธ์ของสิ่งมีชีวิต 2 ชนิด ที่อาศัยอยู่ร่วมกันโดยต่างก็ได้รับประโยชน์ซึ่งกันและกัน หากแยกจากกันจะดำรงชีวิตต่อไปไม่ได้ ขอยกตัวอย่าง โพรโทซัวในลำไส้ปลวก โดยโพรโทซัวซึ่งมีชื่อว่า ไตรโคนิมฟา (Trichonympha sp.) สามารถย่อยสลายเนื้อไม้ซึ่งเป็นสารพวกเซลลูโลสได้ ทำให้ปลวกกินเนื้อไม้เป็นอาหารได้ ส่วนตัวปลวกก็เป็นแหล่งที่อยู่ให้โพ รโทซัวชนิดนี้ จากคุณ : หลานแว่น (mint_la) - [ 20 เม.ย. 52 00:48:31 ]

ความคิดเห็นที่ 3 อ่อ เห็นบอกสิ่งมีชีวิตสองสิ่ง พ้มก็นึกว่าตัวผู้กับตัวเมีย อะไรประมาณเนี้ย ตอบ: ไม่รู้ครับ เพราะรู้งูงูปลาปลา เรียนมาตอนมอปลายนิดหน่อย รอผู้รู้จริงละกัน จากคุณ : nisas - [ 20 เม.ย. 52 00:54:33 ]

ความคิดเห็นที่ 4 สิ่งมีชีวิตที่พึ่งพากัน ย่อมได้เปรียบ สิ่งมีชีวิตประเภทเดียวกัน ในถิ่นนั้น ที่ไม่มีภาวะพึ่งพากันและกัน เช่น ตาม คห.2  ปลวกที่ไม่มีเชื้อโปรโตซัว ดังกล่าว คงสูญพันธุ์ไปหมด หรือวิวัฒนาการไปเป็นสิ่งมีชีวิตชนิดอื่นแล้ว   เชื้อโปรโตซัว ชนิดนั้นก็เช่นกัน จากคุณ : birdeyeview - [ 20 เม.ย. 52 00:58:48 ]

ความคิดเห็นที่ 5 #4 ประเด็นไม่ได้อยู่ตรงนั้นค่ะ สิ่งที่อยากรู้ คือ การที่สิ่งมีชีวิตสองชนิดเกิดขึ้นพร้อมกัน (เพราะ ไม่มีA Bอยู่ไม่ได้ ไม่มีB Aอยู่ไม่ได้) ไม่ใช่เรื่องได้เปรียบเสียเปรียบ แต่ถึงกับสูญพันธ์ไปเลย ไม่เหมือน ยีราฟ กับต้นไม้สูง ที่ค่อยๆปรับตัวให้เข้ากับอีกสิ่ง อาจจะเป็นล้านปี แต่ ดังนั้น การที่สิ่งมีชีวิตสองชนิด เกิดขึ้นพร้อมกัน ย้ำว่าต้องพร้อมกัน และเกิดมาเพื่อกันและกัน แก้ไขเมื่อ 20 เม.ย. 52 01:08:03 จากคุณ : หลานแว่น (mint_la) - [ 20 เม.ย. 52 01:07:26 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ผมว่ามันเกิดมาพร้อมกัน แล้วค่อยๆวิวัฒนาการให้พึ่งพากันมากกว่า อย่างโปรโตซัวในปลวก อาจจะไม่ได้มีมาตั้งแต่แรกก็ได้ ตอนแรกปลวกอาจจะไม่ได้กินไม้นี่ อาจจะกินอย่างอื่นแล้ววิวัฒนาการให้มากินไม้ แล้ววิวัฒนาการให้มีโปรโตซัวแล้ววิวัฒนาการให้ต่างฝ่ายต่างอยู่กันได้ ผมรู้งูๆปลาๆเช่นกันนะครับ จากคุณ : ว่างมากๆ - [ 20 เม.ย. 52 01:18:14 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ดังนั้น การที่สิ่งมีชีวิตสองชนิด เกิดขึ้นพร้อมกัน ย้ำว่าต้องพร้อมกัน และเกิดมาเพื่อกันและกัน +++++++++++++++++++++++++++++++++++++ๅ แล้วปลวกกับโพรโตซัวเกิดพร้อมกันเหรอครับ -*- ผมถึงถามก่อนไงว่ามีสิ่งมีชีวิตอะไรบ้างที่เข้าเงื่อนไขที่คุณว่ามา จากคุณ : nisas - [ 20 เม.ย. 52 01:25:39 ]

ความคิดเห็นที่ 8 เอาเฉพาะตัวอย่างเรื่องปลวกกับโพรโตซัวที่ จขกท ให้มานะครับ จะเห็นได้ว่า ก็เข้าข่ายทฤษฎีวิวัฒนาการเหมือนกันนะ http://board.dserver.org/n/noktawan/00000094.html นักกีฏวิทยาได้แบ่งปลวกที่ยังมีชีวิตอยู่ในโลกนี้ออก เป็น 5 วงศ์ แต่เป็นปลวกที่มีวิวัฒนาการต่ำ ซึ่งเลี้ยงชีวิตด้วยเนื้อไม้ถึง 4 วงศ์ คือวงศ์ Mastotermitidae วงศ์ Kalotermitidae วงศ์ Hodotermitidae และวงศ์ Rhinotermitidae แต่จำนวนชนิดในแต่ละวงศ์มีไม่มากนัก โดยเฉพาะวงศ์ Mastotermitidae ซึ่งพบในทวีปออสเตรเลีย มีอยู่เพียงชนิดเดียวเท่านั้น คือ Mastotermes darwiniensis เมื่อรวมกันแล้วปลวกที่มีวิวัฒนาการต่ำมีเพียง 1 ใน 4 ของปลวกทั้งหมดเท่านั้น ตรงกันข้าม ปลวกที่มีวิวัฒนาการสูง ซึ่งเลี้ยงชีวิตด้วยอินทรียสารอื่นๆ ที่ไม่ใช่เนื้อไม้ มีเพียงวงศ์เดียวเท่านั้น คือ วงศ์ Termitidae แต่มีจำนวนชนิดมากถึง 3 ใน 4 ของปลวกทั้งหมด ปลวกในวงศ์นี้จึงมิใช่ศัตรูคู่อาฆาตของมนุษย์ มีปัญหาว่า ปลวกที่กินเนื้อไม้เป็นอาหารนั้น เมื่อกินเข้าไปแล้ว เนื้อไม้จะย่อยได้อย่างไร เพราะเนื้อไม้ประกอบด้วยสารเซลลูโลส (cellulose) ซึ่งเป็นสารที่ทนทานต่อการผุกร่อน ผุพัง และเน่าเปื่อยมาก จริงอยู่ แม้ว่าขากรรไกรของปลวกจะแข็งแรงมากพอที่จะตัดเนื้อไม้ออกเป็นชิ้นเล็กๆ พอที่มันจะกลืนเข้าไปได้ แต่น้ำย่อยในกระเพาะของมันไม่สามารถย่อยเซลลูโลสได้เลย ด้วยเหตุนี้ ธรรมชาติจึงต้องช่วยปลวกที่มีวิวัฒนาการต่ำเหล่านี้ โดยการหาผู้ที่จะช่วยย่อยเซลลูโลสให้กลายเป็นอาหารของมัน ผู้ช่วยของปลวกเหล่านี้คือ โปรโตซัว (Protozoa) บางชนิดในอันดับ Metamonadina ชั้นย่อย Zoomastigina ชั้น Mastigophora เช่น โปรโตซัวในสกุล Trichonympha ซึ่งอาศัยอยู่ในลำไส้ส่วนท้าย (hindgut) ของปลวก จากคุณ : nisas - [ 20 เม.ย. 52 01:30:49 ]

ความคิดเห็นที่ 9 #7 คำตอบอยู่ใน #2 แล้วค่ะ "หากแยกจากกันจะดำรงชีวิตต่อไปไม่ได้" ดังนั้นปลวก(ชนิดนี้) ต้องเกิดพร้อม กับโพรโทซัว(ชนิดนี้) จากคุณ : หลานแว่น (mint_la) - [ 20 เม.ย. 52 01:56:59 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ผมว่าปัญหาอยู่ที่คำถามนะแหละ สัตว์ที่พึ่งพากันและเกิดมาพร้อมกันด้วยเลย ผมว่าคงไม่มีหรอกครับ ถ้าว่ากันตั้งแต่กำเนิดจากเซลล์เดียวแล้วค่อยๆแบ่งกันไปกลายพันธุํ แล้วค่อยมาพ่ึงพากันมากกว่าครับ แต่ก่อนมาพึ่งพากันคงพึ่งพาตนเองก่อนครับ และถ้าจะทำการใหญ่ค่อยมารวมตัวกันและพึ่งพาซึ่งกันและกัน ถ้ารวมตัวแล้วรอดก็เจริญกว่าเดี่ยวๆ แต่ถ้ารวมกันแล้วกัดกันก็พินาศครับ อ้าว..ไหงมาเรื่องสังคมศาสตร์ได้ไงหว่า...5555 จากคุณ : pkmea - [ 20 เม.ย. 52 02:01:17 ]

ความคิดเห็นที่ 11 #8 ที่ยกมายังไม่ชัดเจนด้านววัฒนาการ เพียงแต่บอกว่า "ด้วยเหตุนี้ ธรรมชาติจึงต้องช่วยปลวกที่มีวิวัฒนาการต่ำเหล่านี้ โดยการหาผู้ที่จะช่วยย่อยเซลลูโลสให้กลายเป็นอาหารของมัน ผู้ช่วยของปลวกเหล่านี้คือ โปรโตซัว (Protozoa) บางชนิดในอันดับ Metamonadina ชั้นย่อย Zoomastigina ชั้น Mastigophora เช่น โปรโตซัวในสกุล Trichonympha ซึ่งอาศัยอยู่ในลำไส้ส่วนท้าย (hindgut) ของปลวก" ^ ไม่ได้แสดงถึงทฤษฎีวิวัฒนาการอะไรเลย เข้าข่ายทฤษฎีพระเจ้าสร้างมากๆเลยค่ะ จากคุณ : หลานแว่น (mint_la) - [ 20 เม.ย. 52 02:02:42 ]

ความคิดเห็นที่ 12 #10 อ่านะนะ ที่ว่า เกิดมาพร้อมกันไม่ได้เกิดมาด้วยกันค่ะ พูดรวบรัด อธิบายละเอียดจะหมายถึงในช่วงชีวิตชั้น ขาดเธอไม่ได้ต่างหาก (แอบเลี่ยน 55) จากคุณ : หลานแว่น (mint_la) - [ 20 เม.ย. 52 02:05:21 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ก่อนหน้านี้ไม่มีทั้งปลวก B และโปรโตซัว B แต่มี ปลวกโบราณA และโปรโตซัวโบราณ A ด้วยความที่ต้องไปมาหาสุ่ อยู่ในสิ่งแวดล้อมเดียวกัน ใกล้กัน ช่วยเหลือเกื้อกูลกันนานๆเข้า จากที่เคย เจอก็ได้ ไม่เจอก็ได้ พออยู่ใกล้กันมันดีแฮะ สะดวกแฮะ ชีวิตง่ายขึ้นแฮะ สัตว์ทั้งสองก็ค่อยๆวิวัฒนาการมาเป็น ปลวก B และ โปรโตซัว B ที่มีวงจรชีวิตพึ่งพากัน ซึ่งในขั้นนี้ก็แยกจากกันไม่ได้แล้ว เพราะความสัมพันธ์สองเรานั้นมันลึกซึ้งเกินไป ส่วนปลวก A  และโปรโตซัวโบราณ A ที่ไม่ได้ไปมาหาสู่กัน ก็อาจจะวิวัฒนาการไปเป็นแมลงหรือสัตว์อื่น ที่ไม่จำเป็นต้องอาศัยกลไกแบบนี้ ........... ผมว่า ค.ห.ข้างบน ค่อนข้างเคลียร์แล้วครับ จากคุณ : atheist - [ 20 เม.ย. 52 02:15:59 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ตอบแบบไม่รู้ในเคสนี้ แต่เดาว่า สมัยก่อนอาจไม่ต้องพึ่งพาโปรโตซัว อะไรบางอย่างก่อนหน้าปลวก แต่พอ มาลองได้พบโปรโตซัว ก็อาจยังไม่พึ่งอยู่ดี หรืออาจพึ่งทีละนิด จากการกินอะไรบางอย่างใกล้เนื้อไม้ ตอนหลังเพิ่มสัดส่วนการพึ่งโปรโตซัวไปเรื่อยๆ ลดการย่อยอาหารแบบอื่นลง เลยอยู่กันได้ หรือโปรโตซัว อาจมีอยู่ในตัวปลวกมาก่อนนานแล้ว เพิ่งเอามาใช้ประโยชน์ และหาทางเพิ่มจำนวนเอาภายหลัง จากคุณ : ขอเอาชื่ออากงเป็นเดิมพัน - [ 20 เม.ย. 52 02:17:35 ]

ความคิดเห็นที่ 15 เกือบเข้าใจแล้วติดตรงที่ว่า โปรโตซัวชนิดนี้ถ้าไม่มีปลวกอยู่ด้วยจะตาย ตรงนี้ต่างจากการที่ โปรโตซัวอยู่ได้โดยที่ไม่มีปลวก ค่ะ เพราะจะทำให้เข้าข่าย ยีราฟกับต้นไม้สูงทันที จากคุณ : หลานแว่น (mint_la) - [ 20 เม.ย. 52 02:25:54 ]

ความคิดเห็นที่ 16 จขกท น่าจะลองอ่าน Endosymbiotic theory ดูครับ อันนี้คล้ายๆกัน เกี่ยวกับว่า หน่วยให้พลังงานของสัตว์และพืช อาจจะเป็นสิ่งมีชีวิตอิสระมาก่อน ...... คำถามจขกท สักพักน่าจะมีคนมาตอบได้ครับ ผมคิดตามไม่ไหวแล้ว ง่วงนอนมากๆ แก้ไขเมื่อ 20 เม.ย. 52 02:30:41 จากคุณ : atheist - [ 20 เม.ย. 52 02:27:49 ]

ความคิดเห็นที่ 17 มันเป็นทฤษฎีวิวัฒนาการเต็มๆเลยครับ จะอธิบายให้ฟังครับ ตอนบรรพบุรุษแรกๆๆๆสุดจริงมันเกิดมามันไม่จำเป็นต้องพึ่งกันครับ (ไม่ต้องเกิดมาในช่วงเวลาเดียวกันก็ได้ จะเกิดห่างกันเป็นล้านปีก็ได้ อยู่ใครอยู่มันมาตลอด) แต่พอไปๆมาๆ บังเอิ๊ญ~ บรรพบุรุษมันมาพบกัน แล้วพบว่าอยู่ด้วยกันแล้วแจ่ม รุ่นลูกๆหลานๆก็ทำตาม ก็ทำให้สามารถพัฒนาให้กลบพวกที่ไม่อยู่ด้วยกันได้ แล้วพออยู่ด้วยกันไปหลายๆรุ่นก็ชินสิครับ ของที่เคยจำเป็นสำหรับใช้อยู่คนเดียว ตอนนี้ไม่จำเป็นแล้ว เพราะเดี๋ยวเกิดมาค่อยไปแทคทีมกับสิ่งมีชีวิตอื่นเอา ของที่เคยจำเป็นก็เลยกลายเป็นภาระมากกว่า ของพวกนั้นก็เลยค่อยๆหายไปๆๆๆ จนในที่สุดก็เลยเป็นสิ่งมีชีวิตสายพันธุ์ใหม่ที่ไม่มีไอ้ที่เคยมีแล้ว (ซึ่งทำให้อยู่ตัวคนเดียวเหมือนบรรพบุรุษรุ่นแรกๆไม่ได้แล้ว) ก็จำเป็นต้องไปอยู่กับคู่มันเท่านั้น ซึ่งก็ไม่เป็นปัญหาเพราะก็ฮิตทำกันมาตั้งแต่รุ่นพ่อ~แล้ว จากนั้นก็ขยายพันธุ์เรื่อยมาให้เราเห็นทุกวันนี้นั่นเอง ดังนั้นสรุป แทบจะไม่มีไอ้คู่ไหนที่มันจำเป็นจะต้องเกิดมาพร้อมกันเลยครับ ทุกคนเลยให้คุณยกตัวอย่างไงว่าคู่ไหนที่มันเกิดพร้อมกัน เหมือนคนเราอ่ะ ช ญ เกิดมาตอนแรกก็ไม่เห็นต้องมาคู่กันก็ได้ อยู่คนเดียวก็ไม่ตาย แต่พอได้มาอยู่ด้วยกันเป็นแฟนกัน ก็เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นในจิตใจ กลายเป็นขาดเธอไม่ได้ซะงั้น ขาดเธอเหมือนขาดใจ ถ้ายังไม่เข้าใจต้องลองไปทบทวนดูดีๆครับ ไอ้ที่เราเห็นว่ามันขาดกันไม่ได้ในตอนนี้ เมื่อก่อนมันขาดกันไม่ได้จริงเหรอ เมื่อก่อนมันก็อยู่ใครอยู่มันแหละครับ แต่ค่อยมาปรับตัวพึ่งพิงกัน ข้อดีคืออยู่รอดได้ดีขึ้น ข้อเสียคือกลายเป็นแยกจากกันไม่ได้ซะแล้ว แมลงA ver.1  กับ โปรโตซัวB ver.1  อยู่ตัวใครตัวมันมานานแล้ว บังเอิญได้มาเจอแล้วได้อยู่ด้วยกัน กลายเป็น แมลงA ver.2  กับ โปรโตซัวB ver.2  ต้องอยู่ด้วยกันเท่านั้น ขาดกันไม่ได้ ซึ่ง ver.1 ก็ได้ล้มหายตายจากไปหมดแล้วหรืออาจวิวัฒนาการไปทางอื่นแล้ว เราจึงไม่เห็นไอ้พวก ver.1 ที่มันเคยอยู่ตัวคนเดียวได้ครับ ดังนั้น มันไม่จำเป็นต้องเกิดมาพอดีกันเป๊ะอะไรขนาดนั้นครับ แค่เกิดจากความบังเอิญที่มันได้มาเจอกันเท่านั้นเอง ซึ่งเกิดได้อยู่แล้ว ไม่เห็นแปลกอะไร จากคุณ : meddy hao - [ 20 เม.ย. 52 02:38:10 ]

ความคิดเห็นที่ 18 เหมือน สีแดง กับสีเหลืองป่าว .... (แอบออกไปห้องอื่นหน่อย) จากคุณ : GoodGuy - [ 20 เม.ย. 52 02:45:33 A:124.120.227.254 X: TicketID:205742 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ยกตัวอย่างเรื่องปลวก ปลวกมันก็ไม่รู้หรอกว่ามันจำเป็นต้องใช้พวกโปรโตซัวในการย่อยไม้ของมัน คาดว่าพวกแรกๆมันก็แค่กินไม้ (ที่ดันมีโปรโตซัวติดอยู่) ทีนี้โปรโตซัวเกิดเจริญเติบโตได้ในร่างกายปลวก ก็เลยยึดเป็นที่อาศัยนั่นเอง ปลวกตัวอ่อนเพิ่งเกิดมาก็ไม่สามารถย่อยไม้ได้ครับ เพราะไม่มีโปรโตซัวที่ว่า ต้องกินอาหารเด็กอ่อน(พร้อมโปรโตซัว)ไปสักระยะหนึ่งจึงสามารถย่อยไม้ได้ โดยตัวอ่อนปลวกก็จะได้โปรโตซัวมาจากอาหารอ่อนนี่แหละ ปลวกบางชนิดที่ไม่กินไม้ มันก็ไม่มีโปรโตซัวชนิดนี้เช่นกัน สรุปก็คือ มันไม่ได้ถูกสร้างมาเพื่อให้คู่กันตั้งแต่แรก แต่เพราะมันคู่กันแล้วเผ่าพันธุ์มันดันไปได้ดีกว่า ขยายเผ่าพันธุ์ได้มากกว่า ก็แค่นั้นแหละ ลองคิดตลกๆดูว่า หากในสมัยโบราณอาหารขาดแคลน หากมีมนุษย์บางกลุ่มที่สามารถใช้เซลล์สาหร่ายมาสังเคราะห์แสง (เหมือนพวกทากบางชนิด)เป็นอาหารได้ พวกเขาจะเป็นฝ่ายอยู่รอดและขยายเผ่าพันธุ์ได้ดีกว่ามนุษย์ธรรมดา จนในปัจจุบัน เจ้าของกระทู้คงต้องกินสาหร่ายวันละ 3 มื้อ ต้องยืนตากแดดวันละ 3 ชั่วโมงเป็นอย่างน้อย แถมมีผิวใสแจ๋ว พร้อมตุ่มเขียวๆทั่วตัว เจ้าของกระทู้จะไม่กินสาหร่ายก็ไม่ได้ อดตายแหง เพราะวิวัฒนาการมาจากพวกที่ใช้สาหร่ายสังเคราะห์แสงเป็นอาหาร จะไปกินเนื้อย่าง เทมปุระ พิซซ่า ก็ไม่ได้ เพราะไม่มีเอนไซม์ไว้ย่อย จากคุณ : Naruse_X - [ 20 เม.ย. 52 02:54:51 ]

ความคิดเห็นที่ 20 แนะนำ จากคุณ : KL - [ 20 เม.ย. 52 04:20:30 ]

ความคิดเห็นที่ 21 คุณไปฟันธงได้ไงว่าต้องเกิดพร้อมกัน HIV ต้องพึ่งพาคนมากๆในการดำรงชีวิต มันเกิดพร้อมคนหรือเปล่า เชื้อแบคทีเรียจำเป็นมากมายในลำไส้เพื่อช่วยย่อย ช่วยทำอะไรต่างๆ มันเกิดพร้อมเราเหรอ บางทีเรายังต้องกิน(แบคทีเรีย)เพื่อสุขภาพ กินทำไม (ถ้านึกไม่ออก ก็พวกนมเปรี้ยว โยเกริต) พวกเชื้อในปาก ในฟัน ทำให้เราฟันผุ ปากเหม็น มันมายังไง ทำไมถึงมีกันทุกคน ลูกหมีโคอาล่าต้องกินขี้ของแม่ตัวเอง เพื่อให้มีแบคทีเรียสำหรับย่อยต้นยูคาลิปตัสในกระเพาะ ถ้าไม่กินมันจะตาย เรื่องแบบนี้ไม่มีใครรู้จริงๆหรอก ว่าจุดเริ่มต้นมันเป็นยังไง ได้แต่หาเหตุผลเอาเอง ใครมาบอกว่าในตอนแรกเป็นยังงี้ยังงั้น มันมายังงี้ มันทำยังงั้น พวกนั้นหน่ะโม้ นอกเสียจากว่าจะเกิดเหตุการวิวัฒนาการให้เห็นจะๆ แล้วบันทึกเอาไว้ในปัจจุบันนี่เลย ถึงจะเชื่อถือได้ อยากให้ลองศึกษาใน blog นี้ดู มียกมาหลาย case ที่นักวิจัยได้ศึกษากรณีการวิวัฒนาการในปัจจุบัน เห็นตั้งแต่จุดเริ่มต้นจนเกิดการเปลี่ยนแปลงจริงๆ อันนี้ถึงจะมองภาพออก ว่ามันจริง ไม่โม้โมเม นี่ครับ -> http://repentant.exteen.com/ ขี้เกียจค้น url หาๆเอาแล้วกัน จากคุณ : ชาเขียวเข้มๆ - [ 20 เม.ย. 52 06:36:01 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ขั้นตอนที่ทำให้ "ฉันขาดเธอไม่ได้" เนี่ยแสดงถึงวิวัฒนาการชัดเจนเลยครับ การผ่าเหล่าหรือ Mutation เกิดตลอดเวลา แต่ natural selection พยายามกำจัด mutation ร้ายๆ เก็บ mutation ที่ดีไว้ เวลาสิ่งมีชีวิต 2 species มาอยู่ร่วมกัน เช่น ในกรณี ปลวกกับ Protozoa เนี่ย เมื่อมาอยู่ด้วยกัน ยีนของโปรโตซัวที่จำเป็นเพื่ออยู่อย่างอิสระ ก็ไม่ได้รับการเช็คสภาพจาก natural selection อีกต่อไป mutation ที่ทำลายยีนเหล่านี้ก็เกิดสะสมกันไปโดยไม่โดนกำจัดออก อีกทั้งโปรโตซัวที่ไม่ต้องเสียทรัพยากรไปสร้างโปรตีนจากยีนที่ไม่จำเป็น ก็มีทรัพยากรแบ่งไปทำอย่างอื่นๆ ที่ทำให้มันอยู่รอดได้มากกว่าประชากรเิดิม จนในที่สุดประชากรทั้งหมดไม่เหลือยีนที่ทำให้อยู่แบบอิสระได้ต่อไป ด้านปลวกผมไม่แน่ใจ เพราะ ไม่ใช่นักกีฏวิทยา แต่พอประมาณได้ว่า จากที่ต้องกินอาำหารหลายแบบ กลับกลายเป็นว่าเซลลูโลสจากไม้กลายเป็นอาหารที่มีประโยชน์สูงสุด วิวัฒนาการเลยคัดเลือกที่ทำให้กินไม้ได้ดีสุดเอาไว้ ทำให้ประชากรปลวกรุ่นหลังไม่สามารถกินอาหารอย่างอื่นได้อีกนอกจากไม้ ตัวอย่างอื่นๆ ก็มีครับ ดอกไม้กับแมลงก็ใช่ หม่อนไหม ถูกมนุษย์เอามาเลี้ยงจนไม่สามารถโตเองในสภาพแวดล้อม พืชหลายชนิดมนุษย์ก็เอามาคัดเลือกพันธุ์จนมันขยายพันธุ์ตามธรรมชาติไม่ได้ก็มีครับ เช่น พวกผลไม้ไร้เมล็ด ตัวอย่างอื่นๆ http://en.wikipedia.org/wiki/Symbiosis จากคุณ : Geneticist - [ 20 เม.ย. 52 06:41:34 ]

ความคิดเห็นที่ 23 คิดง่ายๆว่า เหมือนคนกับสุนัขกระเป๋าครับ เดิมทีสุนัขอาศัยอยู่เป็นฝูงในป่า ล่าสัตว์กินเองได้ หาอาหารเองได้ คนเราก็อยู่ส่วนของคน วิวัฒนาการแยกต่างจากกันมา วันดีคืนดี คนเอาสุนัขมาเลี้ยงและพัฒนาสายพันธุ์ให้เข้ากับรสนิยมของคนมากขึ้น กลายเป็นสุนัขสวยงามหรือสุนัขกระเป๋าสารพัดชนิดออกมา ซึ่งไอ้พวกสุนัขกระเป๋าเหล่านี้ ต้องพึ่งพาคนเลี้ยงสูงมาก มันไม่สามารถล่าสัตว์อื่นๆหรือหาอาหารตามธรรมชาติกินเองได้ แบบบรรพบุรุษของมันอีกต่อไปแล้ว จากคุณ : อุ้ย (digimontamer) - [ 20 เม.ย. 52 08:17:04 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ในกรณีนี้ปลวกไม่ได้วิวัฒนาการอะไรเลย แค่เปลี่ยนมากินไม้ได้ เนื่องจากมีตัวช่วยย่อยให้ ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงทาง dna อะไรเลยไม่ใช่เหรอคะ แล้วจะเรียกวิวัฒนาการได้ยังไง แก้ไขเมื่อ 20 เม.ย. 52 08:39:02 จากคุณ : หลานแว่น (mint_la) - [ 20 เม.ย. 52 08:37:02 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ผมว่าการที่ปลวกกินไม้ได้ นี่เป็นวิวัฒนาการนะครับ เพราะสมัยก่อน บรรพบุรุษของปลวกอาจจะไม่กินไม้ แต่กินซากสัตว์พอสัตว์หายาก (ไดโนเสาร์ตัวใหญ่กินรุมกินไม่ไหว) ก็ต้องมีวิวัฒนาการตัวเอง เพื่อให้กินไม้ได้เพราะไม้หาง่าย ตัวเองจะได้อยู่รอด สมัยก่อน เจ้าโปรโตซัวที่ว่านี้ ก็อาจจะไม่กินไม้(ที่ปลวกกินเข้าไป) อาจจะกินผนังกระเพาะหรือลำไส้ของปลวก กินจนบรรพบุรุษปลวก ตายไปหลายตัว ปลวกรุ่นหลังก็ต้อง วิวัฒนการตัวเองให้ทนทานต่อการกัดกินของโปรโตซัว พอโปรโตซัว ไม่มีอะไรจะกิน มันก็เลยจำใจต้องกินไม้ที่ปลวกกินเข้ามา กินไปกินมา คงคิดว่า ดีเหมือนกัน ไม่ต้องหาอาหารเอง รอให้ปลวกมันกิน เราจะได้กินต่อ ส่วนปลกก็เห็นว่า ดีเหมือนกัน ไม่ต้องกินซากสัตว์ก็ได้ กินแล้วท้องอืดย่อยยาก กินไม้แทนมีโปรโตซัวมาช่วยย่อยแล้ว ก็เลยอยู่ร่วมกันสืบมา จนกระทั่งทุกวันนี้ ปล.ผมมั่วเอาครับ จากคุณ : q_cosmo - [ 20 เม.ย. 52 09:10:19 ]

ความคิดเห็นที่ 26 #24 รู้ได้อย่างไรว่าปลวกไม่ได้วิวัฒนาการ รู้ได้อย่างไรว่าแค่เปลี่ยนมากินไม้ไม่ได้เปลี่ยนแปลงถึง DNA จากคุณ : หมั่นไส้ - [ 20 เม.ย. 52 09:14:34 ]

ความคิดเห็นที่ 27 น่าจะอธิบายได้ด้วยทฤษฎีเนื้อคู่ เมื่อก่อนตอนที่ยังไม่เจอกัน ก็ยังมีชีวิตอยู่ได้อย่างปรกติสุข แต่พอฉันเจอเธอ เธอเจอฉัน โลกใบนี้ก็เริ่มไป เราทั้งสองค่อย ๆ ปรับตัวเข้าหากัน อะไรที่ต้องทำคนเดียวไม่สามารถอีกต่อไปแล้ว จะต้องมีอีกฝ่ายอยู่เคียงข้างด้วยเสมอ คู่อื่นที่ปรับไม่ได้ ก็แยกย้ายหายกันไป เหลือแต่คู่ของเราที่ปรับเข้ากันได้เท่านั้น และยังอยู่คู่กันตลอดมา และเมื่อไหร่ก็ไม่ทราบได้ ที่เราสองมิอาจจะพรากออกจากกัน หากฝ่ายหนึ่งไปอีกฝ่ายหนึ่งก็คงจะตายเป็นแน่แท้ จากคุณ : ซ่อนนาม - [ 20 เม.ย. 52 09:36:56 ]

ความคิดเห็นที่ 28 มิ้นๆครับ ผมกำลังคิดว่ามิ้นๆกำลังโต้ตอบคล้ายกระทู้รถไต่ถัง แรงสู่ศูนย์กลางขึ้นทุกทีแล้วนะขอรับ ยาวแน่ขอรับกระทู้นี้ เดี๋ยวข้าพเจ้าจะเชิญพี่ดิวกับท่านกวิวัฏมาช่วยเสริมดีกว่า แก้ไขเมื่อ 20 เม.ย. 52 10:07:24 จากคุณ : Cryptomnesia - [ 20 เม.ย. 52 10:05:05 ]

ความคิดเห็นที่ 29 #28 ลืมตัวอีกแล้ว สงสัยใช้คำพูดที่ดูรุนแรงไปค่ะ ต้องขอโทษทุกท่านด้วย คือไม่ได้มีเจตนาแกล้งเล่นอะไรทั้งนั้น เแต่ด้วยความไม่รู้จริงๆ เด๋วจะโดนเล่นงานอีก ส่วนกระทู้รถไต่ถัง ถ้าใครไม่ได้เข้ากระทู้แรกที่ล่มไปคงตามอารมณ์ไม่ทัน แต่ไม่เป็นไร กลับเข้าเรื่องดีกว่าค่ะ ^^ #25 ไม่เคยได้ยินว่า โปรโตซัวพวกนี้กินผนังกระเพาะปลวกเลยค่ะ รบกวนขอข้อมูลอ้างอิงว่า ปลวกวิวัฒนาการมาจริง #26 เพราะดูจากข้อมูลแล้ว ปลวกไม่จำเป็นต้องวิวัฒนาการก็ได้ การย่อยไม้ก็ใช้น้ำย่อยเดิมได้ ก็ดูสมเหตุสมผลแล้วไม่ใช่เหรอคะ ถ้าปลวกเปลี่ยนน้ำย่อยให้ย่อยไม้ได้เองแบบนั้นน่าจะเรียกว่า วิวัฒนาการมากกว่าหรือเปล่าคะ เหมือนคนแ่ก่ใส่ฟันปลอม แล้วกินข้าวได้ มิ้นเลยคิดว่าไม่ได้เรียกว่าวิวัฒนาการน่ะค่ะ?? ผิิดถูกอย่างไรช่วยชี้แนะด้วยนะคะ แก้ไขเมื่อ 20 เม.ย. 52 10:59:11 แก้ไขเมื่อ 20 เม.ย. 52 10:35:31 แก้ไขเมื่อ 20 เม.ย. 52 10:31:33 จากคุณ : หลานแว่น (mint_la) - [ 20 เม.ย. 52 10:27:02 ]

ความคิดเห็นที่ 30 เพิ่งอ่าน #21 แล้วอยากให้กิฟ จากคุณ : หลานแว่น (mint_la) - [ 20 เม.ย. 52 10:48:03 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ได้ข้อสรุปกันหรือยังครับ แค่เรื่องปลวกปวดหัวได้อีก..... จากคุณ : themaixx - [ 20 เม.ย. 52 10:49:35 ]

ความคิดเห็นที่ 32 #29 การย่อยจากโปรโตซัว อาจดี และสิ้นเปลืองน้อยกว่าการย่อยจากน้ำย่อยแบบเดิม ก็ลดน้ำย่อยลง แล้วพึ่งโปรโตซัวแทนไงครับ วิวัฒนาการไง จากคุณ : ขอเอาชื่ออากงเป็นเดิมพัน - [ 20 เม.ย. 52 12:04:22 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ความคิดเห็นที่ 29 สัตว์ และแมลงเกือบทุกชนิดไม่มีเอ็นไซม์เซลลูเลส สำหรับย่อยเซลลูโลสในไม้ครับ ดังนั้นบรรพบุรุษชองปลวกที่ไม่มีโปรโตซัวอยู่ย่อยเซลลูโลสไม่ได้ครับ ลองไปอ่านวิกีดู ปรากฎว่าปลวกเป็นญาติกับแมลงสาบกินไม้ครับ http://en.wikipedia.org/wiki/Termite#Evolutionary_history จากคุณ : Geneticist - [ 20 เม.ย. 52 12:06:24 ]

ความคิดเห็นที่ 34 เข้าใจค่ะ ไม่มีโปรโตซัวย่อยไม่ได้ แต่ที่ย่อยได้เนี่ย กระบวนการย่อยเกิดเพราะโปรโตซัว ไม่ได้เกิดการเปลี่ยนแปลงภายใน จะเรียกวิวัฒนาการได้หรือเปล่าคะ ถึงยกตัวอย่าง เหมือนคนแ่ก่ใส่ฟันปลอม แล้วกินข้าวได้ มิ้นเลยคิดว่าไม่ได้เรียกว่าวิวัฒนาการน่ะค่ะ?? ผิิดถูกอย่างไรช่วยชี้แนะด้วยนะคะ จากคุณ : หลานแว่น (mint_la) - [ 20 เม.ย. 52 12:18:15 ]

ความคิดเห็นที่ 35 อย่างที่ตอบไว้ ความคิดเห็นที่ 22 ครับ ว่าบรรพบุรุษของปลวก (และแมลงสาปกินไม้) กินอาหารอย่างอื่นเพราะย่อยไม้ไม่ได้ ดังนั้นถ้าเราหา fossil เจอ เราจะเห็นว่าลักษณะของปากจะไม่เหมือนปลวกในปัจจุบัน นั่นคือ หลักฐานว่าวิวัฒนาการเกิดไงครับ ส่วนเรื่องระบบการย่อยอาหาร ผมไม่ใช่นักกีฏ เลยไม่รู้ครับ แต่เดาว่าระบบทางเดินอาหารของปลวกคงดัดแปลงให้เจ้าโปรโตซัวที่ว่าอยู่รอดปลอดภัย แทนที่จะย่อยไปกับอาหารด้วย หลักฐานคือ เราไม่เจอโปรโตซัวที่ว่าในแมลงชนิดอื่นๆ ไงครับ ระบบภูมิคุ้มกันของปลวก จะต้องมีการเปลี่ยนแปลงทั้งปลวก และโปรโตซัว ไม่เช่นนั้นโปรโตซัวก็จะโดนฆ่าครับ แต่ผมไม่รู้นะว่าทำอย่างไรต้องถามนักกีฎอีกเช่นกัน จากคุณ : Geneticist - [ 20 เม.ย. 52 12:38:25 ]

ความคิดเห็นที่ 36 #35 โอเคค่ะ เริ่มเข้าใจตรงกันแล้ว อยากถามความคิดเห็นว่า เป็นไปได้ไหมคะ ว่าปลวกไม่ได้วิวัฒนาการ ด้านระบบย่อย คือปลวกสมัยก่อน ก็กินไม้ไม่ได้และไม่มีโปรโตซัว แต่มีระบบทางเดินอาหารเหมือนกัน จากคุณ : หลานแว่น (mint_la) - [ 20 เม.ย. 52 12:50:48 ]

ความคิดเห็นที่ 37 ความคิดเห็นที่ 36 อันนี้ผมไม่ทราบเหมือนกัน ต้องรอถามนักกีฏะ แต่ถ้าให้สันนิษฐานโดยดูจากสัตว์ชนิดอื่นๆ ที่อาศัยจุลลินทรีย์ในการย่อยเซลลูโลส ต่างก็มีการดัดแปลงอวัยวะในระบบทางเดินอาหาร ให้เหมาะกับการหมัก และย่อยเซลลูโลสโดยใช้จุลินทรีย์ เช่น กระเพาะสี่ห้องของสัตว์เคี้ยวเอื้อง ไส้ติ่งของคนเราเดิมก็เป็นส่วนที่ใช้ย่อยเซลลูโลสในสัตว์บรรพบุรูษที่ยังกินใบไม้เป็นหลัก ดังนั้นผมว่า ถ้าเปรียบเทียบระบบทางเดินอาหารของปลวก กับบรรพบุรุษ หรือแมลงชนิดอื่น ก็ไม่น่าแปลกที่จะพบว่ามีการดัดแปลง(วิวัฒนาการ)ให้เหมาะกับการย่อยเซลลูโลส มากกว่าจะคงสภาพเดิมโดยไม่เกิดวิวัฒนาการ ยังไงรอนักกีฏะมาอธิบายอีกทีครับ จากคุณ : Geneticist - [ 20 เม.ย. 52 13:10:26 ]

ความคิดเห็นที่ 38 ค่ะ ขอบคุณมากๆ ค่ะเป็นปลื้มเลย ได้เข้าใจซักทีนึง จากคุณ : หลานแว่น (mint_la) - [ 20 เม.ย. 52 13:34:50 ]

ความคิดเห็นที่ 39 คุณ หลานแว่น (mint_la) ครับ #25 ไม่เคยได้ยินว่า โปรโตซัวพวกนี้กินผนังกระเพาะปลวกเลยค่ะ รบกวนขอข้อมูลอ้างอิงว่า ปลวกวิวัฒนาการมาจริง รบกวนช่วยดูตรง ปล ของผมด้วยนะครับ ปล ผมเดาครับ จากคุณ : q_cosmo - [ 20 เม.ย. 52 14:22:46 ]

ความคิดเห็นที่ 40 ตามสายวิวัฒนาการ ปลวกวิวัฒนาการต่อมาจากแมลงสาบครับ ซึ่งแมลงสาบเนี่ย มีทั้งพวกที่กินซากเน่าเปื่อยทั่วๆไป (ไม่จำเป็นต้องอาศัยโปรโตซัว ) และแมลงสาบที่กินเนื้อไม้+ซากเน่าเปื่อย (ต้องมีโปรโตซัวช่วยย่อยเนื้อไม้) ซึ่งกลุ่มนี้เองที่วิวัฒนาการต่อมาจนเป็นปลวก ปลวกกลุ่มแรกๆ หรือปลวกโบราณเท่านั้นครับที่ยังต้องอาศัยโปรโตซัวในลำไส้ การส่งผ่านเชื้อโปรโตซัวนี้โดยอาศัยการกิน ป้อนกันเป็นทอดๆ โดยมันจะได้รับครั้งแรกผ่านอาหารที่ย่อยแล้วจากปลวกงานหลังฟักออกจากไข่ นั่นหมายความว่า มันไม่ได้มีมาแต่กำเนิด แต่ได้รับในภายหลังจากรุ่นพี่ในรังของมันนั่นเอง อย่างไรก็ดีบริเวณmidgut ซึ่งเป็นที่อยู่ของโปรโตซัวเหล่านี้มีการวิวัฒนาการจนเหมาะสมเตรียมไว้แล้ว สำหรับปลวกที่วิวัฒนาการการต่อมาจากปลวกกินไม้แห้งนี้จะเป็นปลวกกินไม้สด และปลวกชั้นสูงจะเป็นพวกปลวกเห็ดทั้งหลาย ซึ่งก็คือปลวกที่เลี้ยงเห็ดโคนที่เรารู้จักกันนั่นเอง ปลวกพวกนี้จะไม่ได้กินเนื้อไม้โดยตรง แต่จะกัดเป็นชิ้นเล็ก นำมาปั้นต่อกันจนเป็นรูปร่างคล้ายสมอง แล้วนำสปอร์ของเห็ดโคนมาเลี้ยง อาศัยกินตุ่มเล็กๆขาวๆที่เจริญมาจากเส้นใยก่อนจะฟอร์มตัวเป็นดอกเห็ด ซึ่งตุ่มเหล่านี้ในหน้าฝนความชื้นสูง เส้นใยจะมีมากจนปลวกกินไม่ทันจึงพัฒนาขึ้นเป็นดอกเห็ดแทงทะลุรังปลวกขึ้นไปเป็นเห็ดโคน สร้างสปอร์ให้ปลิวไปในอากาศ สำหรับรอปลวกอื่นมาเก็บไปเลี้ยงต่อไป กล่าวโดยสรุปก็คือ ปลวกที่มีโปรโตซัวในลำไส้ วิวัฒนาการเป็นปลวกที่ไม่ต้องอาศัยโปรโตซัว แมลงสาบโบราณ >>> แมลงสาบอาศัยโปรโตซัว >>> ปลวกโบราณ (อาศัยโปรโตซัว) >>> ปลวกชั้นสูง (ไม่มีโปรโตซัว) ปลวกและโปรโตซัวไม่ได้เกิดพร้อมกัน แล้วมาอยู่ด้วยกัน แต่มันวิวัฒนาการมาจากแมลงสาบ และแมลงสาบก็ไม่ได้เกิดพร้อมโปรโตซัว สมมติว่า A = โปรโตซัว, B = แมลงสาบโบราณ และ สมมติว่า Aเกิดก่อน เวลาผ่านไป A เกิดมีมิวแตนเป็น A1และA2 A1 ใกล้เคียง A เดิม >>> อยู่ในสภาพแวดล้อมเดิมได้ A2 มีความต้องการดำรงชีพพื้นฐานต่างจาก A >>> ดำรงชีพอยู่อย่างยากลำบาก เกิดเป็น A2i และ A2j มาดูที่ B B ที่เกิดมากินซากที่เน่าเปื่อยอยู่แล้ว เกิดมี2กลุ่มพฤติกรรมประชากร B1และB2 B1 กินอาหารเหมือน B เดิม >>> ไม่มีปัญหา B2 เกิดอาหารขาดแคลนจึงต้องหันไปกินอย่างอื่นด้วย (อาหารที่เปื่อยแล้วหายากขึ้นเพราะเกิดแก่งแย่งกันเองในประชากร บางตัวจึงต้องหันไปกินไม้ที่ยังไม่เปื่อย) กลุ่มB2เกิดเป็นประชากรอีก2กลุ่ม คือ B2i และ B2j B2i กินทั้งที่เปื่อยและไม่เปื่อย >>> อาหารที่ไม่เปื่อย ตัวมันย่อยไม่ได้ ก่อปัญหากับระบบทางเดินอาหาร >>> ตาย B2j กินทั้งที่เปื่อยและไม่เปื่อย>>> อาหารที่ไม่เปื่อย ตัวมันย่อยไม่ได้ ก่อปัญหากับระบบทางเดินอาหาร >>> ไม่ตาย แต่มีชีวิตอยู่อย่างยากลำบาก เกิดเป็นประชากรกรอีก 2 กลุ่ม B2jx ดำรงชีพเหมือน B2j เดิม >>> ค่อยๆตายจนสูญพันธุ์ B2jy ดำรงชีพเหมือน B2j เดิม แต่ บังเอิญอาศัยอยู่ในพื้นที่เดียวกับ A2 และบังเอิญ ได้กินไม้ไม่เปื่อยที่ปนเปื้อนกับ A2 ที่อาศัยอยู่อย่างยากลำบาก บังเอิญ สภาพในระบบทางเดินอาหารเหมาะกับการทำงานของA2 (เหมาะกับการอาศัย) >>> ย่อยไม้ได้ดีขึ้น >>> ไม้บางส่วนอยู่ในรูปที่ B2jy ย่อยและดูดซึมได้ >>> รอดทั้งคู่ (B2jy และ A2j) ส่วน B2jx และ A2i จะเป็นกลุ่มที่ค่อยๆตายจนสูญพันธุ์ไปครับ นี่คือจุดเริ่มต้นของ วิวัฒนาการร่วม Co-Evolution ครับ จะเห็นว่า A และ B ไม่ได้เกิดพร้อมกันแล้วมาอยู่ด้วยกันเลย มันมีที่มาครับ ซึ่งที่มาเหล่านี้ เกิดจากการสุ่ม และความน่าจะเป็น ภายในเวลานับล้านปี จนมาถึงปัจจุบันครับ A และ B แท้ที่จริงคือ A2j(นามสมมติ) และ B2jy(นามสมมติ) ซึ่งผ่านการคัดเลือกมาเรียบร้อยแล้วครับ แก้ไขเมื่อ 20 เม.ย. 52 14:53:58 จากคุณ : กวิวัฏ - [ 20 เม.ย. 52 14:43:24 ]

ความคิดเห็นที่ 41 ตามนายกวิวัฏครับ แอบมาเสริมเล็กน้อย.... เรื่องวิวัฒนาการร่วมของจุลินทรีย์กับพวกปลวกและแมลงสาบนั้นมีการศึกษาอยู่พอสมควรครับ ถ้า จขกท สนใจก็หาอ่านได้.... กระเพาะของปลวกนั้นนอกจากจะมีโปรโตซัวแล้ว ยังพบว่ามีแบคทีเรียเยอะมากมายหลายชนิดครับ ซึ่งจะเป็นตัวย่อยเซลลูโลส เฮมิเซลลูโลส และอื่นๆ ครับ แก้ไขเมื่อ 20 เม.ย. 52 15:06:35 จากคุณ : Due_n - [ 20 เม.ย. 52 15:03:37 ]

ความคิดเห็นที่ 42 อีกตัวอย่างหนึ่งก็ ไลเคนส์ ตามหนังสือเรียน(ในสมัยของผม สมัยนี้มีป่าวไม่รู้) จากคุณ : AJ_da_NR - [ 20 เม.ย. 52 17:17:49 ]

ความคิดเห็นที่ 43 ตามมาอ่านด้วยคนนะคะ.. จากคุณ : primjang - [ 20 เม.ย. 52 18:57:36 ]

ความคิดเห็นที่ 44 ในเมื่อ จขกท ได้คำตอบตามที่ตัวเองต้องการแล้ว ผมขอถามเพิ่มเติมอีกซักอย่าก็แล้วกันนะครับ ผมอยากรู้ว่า เจ้าโปรโตซัวหรือจูลินทรีย์ชนิดอื่นๆ ที่สามารถย่อยเนื้อไม้ได้เนี่ยย สารที่มันขับออกมาเพื่อใช้ย่อยไม้ ชื่อว่าสารอะไร และมีสูตรเคมีง่าอย่างไรอ่ะครับ ขอบคุณล่วงหน้า มากนะครับ จากคุณ : Styer - [ 20 เม.ย. 52 23:31:48 ]

ความคิดเห็นที่ 45 ตอนแรกๆ น้องปลวกกะ น้องโปรโต ก้อเกิดมาแบบ แยกกันอยู่นั่นล่ะมั้ง แต่ วันเวลาผ่านไป   น้องปลวกกิน น้องโปรเข้าไป แรกๆ ก้อขยะแขยง อะนะ น้องโปรก้อรับไม่ได้ แต่ สักพัก ผ่านไป เริ่มมีใจให้กันและ สุดท้าย น้องโปรเลยชอบที่จะอยู่ในตัวน้องปลวกมากกว่า ส่วนน้องปลวกที่มีน้องโปรอยู่ข้างใน ก้อรู้สึกดี ชีวิตมีความสุข จนอายุยืนยาว ทั้งคู่ ได้สืบสายพันธุ์ แบบที่มีเธอและฉัน ไปนานแสนนาน นานจนกว่าจะรู้ตัวก้อแยกจากกันไม่ได้แล้ว นั่นแหละ วิวัฒนาการ .... เต็มๆ..เลย จากคุณ : เหมือนที่ตอนนี้ผมขาดเธอไม่ได้ (ROOTAMAN) - [ 21 เม.ย. 52 00:06:57 ]

ความคิดเห็นที่ 46 #44 cellulase เป็น enzyme โครงสร้างทางเคมีก็คือ protein ซึ่งคงเขียนให้อยู่ในรูปที่ง่ายๆไม่ได้กระมัง จากคุณ : Cryptomnesia - [ 21 เม.ย. 52 08:52:36 ]

ความคิดเห็นที่ 47 #40 พี่กวิวัฏ ตอบแบบถามต่อไม่ได้เลย สุดยอดจริงๆค่ะ จากคุณ : หลานแว่น (mint_la) - [ 21 เม.ย. 52 13:07:51 ]

ความคิดเห็นที่ 48 ตอบง่ายๆเลย ถ้าพระเจ้าสร้างมาจริงๆ เค้าจะอุตส่าห์สร้างให้เจ้า 2 ตัวนี้มันพึ่งพากันทำไม ทำไมไม่สร้างให้เป็นสิ่งมีชีวิตที่สมบูรณ์ในตัวเองไปเลย ? จากคุณ : StreamRider - [ 21 เม.ย. 52 21:07:26 ]

ความคิดเห็นที่ 49 อ่อ ขอบคุณพี่ Cryptomnesia มากๆครับ จากคุณ : Styer - [ 21 เม.ย. 52 21:56:21 ]