ความคิดเห็นที่ 1 ประเด็นที่จะถกเถียงในกระทู้ หากเพื่อนสมาชิกติดตามกระทู้ที่เกี่ยวข้องกับ นักเรียนทุน อาชีพอาจารย์ อาชีพนักวิจัย อาชีพนักวิทยาศาสตร์ ในเวปพันทิป ทั้งในห้องสมุด ห้องหว้ากอ ห้องไกลบ้าน หรือห้องอื่นๆ ก็น่าจะพอจับประเด็นเพื่อแสดงความคิดเห็นได้ หรือในกรณีที่เป็นสมาชิกใหม่ มีความสนใจต้องการข้อมูลเพิ่มเติม (โดยเฉพาะอย่างยิ่งนักเรียนในระดับมัธยมต้น หรือมัธยมปลาย) ก็สามารถสอบถามได้ครับ เพราะในห้องหว้ากอมีผู้ยินดีให้ข้อมูลหลายท่านทีเดียว จากคุณ : Practical x 2 - [ 26 เม.ย. 52 21:10:52 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ความคิดเห็นเปิดประเด็น ก่อนอื่นหลายท่านอาจสงสัยตัวเลขที่ระบุไว้ในหัวข้อกระทู้ 11,406 วัน ว่าหมายถึงอะไรและทำไมถึงเนิ่นนานขนาดนั้น? ตัวเลขดังกล่าวมาจากทุนระดับปริญญาตรี – เอก ที่ผมได้รับครับ โดยแบ่งออกเป็นสองช่วง ช่วงแรก 3,802 วัน คือ ระยะเวลาที่ใช้ในการศึกษาตั้งแต่ระดับ Foundation (ก่อนปริญญาตรี) จนถึงระดับปริญญาเอก ส่วนช่วงที่สอง 7,604 วัน คือช่วงเวลาใช้ทุน หมายถึงระยะเวลาที่ต้องทำงานให้ต้นสังกัด กรณีของผมนั้นตามเงื่อนไขการรับทุน จะต้อง ทำงานกับต้นสังกัดจนถึงวันที่ 27 มิถุนายน 2568 จึงจะสามารถเลือกเปลี่ยนไปทำงานที่อื่นได้  ขณะนี้ทำงานมาได้ 22.25% ของช่วงเวลาใช้ทุนแล้ว โดยช่วงเวลาทำงานดังกล่าวคิดเป็นมูลค่า 6.96 ล้านบาท จากคุณ : Practical x 2 - [ 26 เม.ย. 52 21:19:19 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ตอนนี้ประเทศไทยมีนักเรียนทุนกระทรวงวิทยาศาสตร์ที่สำเร็จการศึกษากลับมาเป็นแสนคนแล้วใช่ไหม? ไม่ใช่ครับ โครงการนี้เริ่มดำเนินการในปี พ.ศ. 2533 ผมเป็นนักเรียนทุนรุ่นที่ 4 (เดินทางไปศึกษาในปี พ.ศ. 2537) จนถึงปัจจุบันมีนักเรียนทุนกระทรวงวิทยาศาสตร์ที่สำเร็จการศึกษาทั้งหมดจำนวน 1,545 คน นับรวมที่ สำเร็จการศึกษาทั้งจากต่างประเทศและในประเทศ ในระดับปริญญาตรี โท และเอก (ศนวท 2552) ซึ่ง นับว่าเป็นจำนวนที่น้อยมากเมื่อเทียบกับจำนวนประชากรทั้งประเทศ 63 ล้านคน เอกสารอ้างอิง ศนวท 2552 http://stscholar.nstda.or.th/sis/index.php จากคุณ : Practical x 2 - [ 26 เม.ย. 52 21:26:06 ]

ความคิดเห็นที่ 4 68-52 = 16 years แต่ So far, so good ใช่ไหมครับ ส่วนตัวยังไม่มั่นใจว่าจะเป็นอาจารย์ไปตลอดชีวิตหรือไม่ ดังนั้นถ้ามีทุนรัฐบาลเข้ามา ก็คงไม่สอบ ไม่รู้คิดอย่างนี้จะโง่หรือเปล่า แก้ไขเมื่อ 26 เม.ย. 52 21:32:23 จากคุณ : Cryptomnesia - [ 26 เม.ย. 52 21:30:10 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ทำไมนักเรียนทุนรัฐบาลที่เรียนจบกลับมาแล้วไม่ขอทุนวิจัยต่างประเทศ มาขอแต่ทุนในประเทศทำไม? การขอทุนวิจัยจากแหล่งทุนขึ้นกับปัญหาที่ต้องการแก้ไขครับ ถ้าแหล่งทุนมีความสนใจใน หัวข้อวิจัยที่มีจุดมุ่งหมายในการแก้ไขปัญหาในประเทศไทย ก็เขียนไปขอทั้งนั้นไม่ว่าจะเป็น ในประเทศหรือต่างประเทศ ในกรณีของผมเสนอขอ ได้รับทุน และดำเนินการวิจัยแล้วจาก บริษัท Toray และได้ยื่นเสนอขอโครงการบริการชุมชนไปยัง JICA และ APEC แล้ว ส่วน APO กำลังดำเนินการยื่นขอต่อไปครับ แก้ไขเมื่อ 26 เม.ย. 52 21:40:48 แก้ไขเมื่อ 26 เม.ย. 52 21:34:46 จากคุณ : Practical x 2 - [ 26 เม.ย. 52 21:32:26 ]

ความคิดเห็นที่ 6 โดยทั่วไปมหาวิทยาลัยมักจะส่งแรงบีบผ่านทางคณะเข้ามาครับ เพราะเขา ต้องการเป้าอัตราส่วนบุคลากรที่จบระดับปริญญาเอกให้สูงสุดเท่าที่จะเป็น ไปได้ ถ้าไม่ต้องการใช้ทุน อาจารย์ Crypto ต้องไปหาทุนให้เปล่าอื่น จากคุณ : Practical x 2 - [ 26 เม.ย. 52 21:38:33 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ตั้งใจว่าจะเป็นอย่างนั้นครับ จากคุณ : Cryptomnesia - [ 26 เม.ย. 52 21:40:17 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ถ้าไม่ต้องการทำงานใช้ทุน จะจ่ายเงินแทน จะทำอย่างไร? การทำงานใช้ทุนคิดเป็น 2 เท่าของระยะเวลารับทุน (ถ้ารับทุนขณะที่ทำงานอยู่ และมีการรับเงินเดือนด้วย จำนวนเท่าก็จะเพิ่มขึ้นมากกว่านี้ ขึ้นกับต้นสังกัด) ถ้าจ่ายเงินใช้ทุนคิดเป็น 3 เท่า โดยหักลบระยะเวลาที่ กลับมาทำงานใช้ทุนบางส่วนไปแล้ว โดยทั่วไปกว่าจะเริ่มจ่ายเงินใช้ทุนเรื่องมักจะไปถึงขั้นศาลและเท่าที่ ทราบศาลจะลดจำนวนเท่าของทุนที่ต้องใช้ลงนิดหน่อย โดยจ่ายคืนรัฐบาลในอัตราเดือนละ 1 แสนบาท เป็นอย่างน้อย (ข้อมูลเท่าที่ทราบจากปากต่อปาก ไม่มีเอกสารอ้างอิงครับ) จากคุณ : Practical x 2 - [ 26 เม.ย. 52 21:52:25 ]

ความคิดเห็นที่ 9 นั่งอ่านอยู่ครับ ไม่แสดง คห จากคุณ : 1812Overtureyoot - [ 26 เม.ย. 52 21:53:01 ]

ความคิดเห็นที่ 10 นักเรียนทุนที่จ่ายเงินใช้ทุน หรือที่หนีทุนมีมากน้อยแค่ไหน? ผมอยากให้แยกออกเป็นสองกรณีคือกรณีที่จ่ายเงินใช้ทุน ถือว่าเขาทำตามกติกา ถึงแม้ใจจริงรัฐบาลไม่อยาก ได้เงินเพราะไม่คุ้มค่า เท่าที่ทราบมาจะเป็นกรณีที่แต่งงานกับชาวต่างประเทศแล้วคู่สมรสมีทรัพย์สินมาก ยินยอมจ่ายให้ทันที บางรายญาติคู่สมรสเป็นนักธุรกิจใหญ่เซ็นเช็คจ่ายให้ทันทีเกือบ 20 ล้านบาท บางราย คู่สมรสทำงานอยู่ในบอร์ดบริหารของบริษัทเอกชนรายได้มากกว่าเดือนละ 700,000 บาท ก็สามารถผ่อนจ่าย ให้ได้ กรณีหนีทุน เท่าที่ทราบมีไม่ถึง 10 รายครับ มีทั้งที่กำลังฟ้องร้องเอาจากผู้ค้ำประกัน หรือบางกรณีก็ตามเอา ไม่ได้เพราะวางแผนหลบหนีกันทั้งครอบครัว รวมถึงผู้ค้ำประกันด้วย คิดคำนวณแล้วไม่น่าเกิน 20 คน คิดเป็นสัดส่วนต่ำกว่า 1.3% ของผู้ที่สำเร็จการศึกษาและทำงานอยู่ใน ประเทศไทยครับ อย่างไรก็ตามบางท่านบอกว่า คนที่อยู่ถ้ามีเงินจ่ายก็คงไปแล้ว จึงไม่มีตัวเลขที่ ระบุจำนวนคนที่อยู่แบบไม่เต็มใจว่ามีทั้งหมดกี่คน แก้ไขเมื่อ 26 เม.ย. 52 22:11:03 จากคุณ : Practical x 2 - [ 26 เม.ย. 52 22:03:04 ]

ความคิดเห็นที่ 11 นักเรียนทุนคิดอย่างไรจึงรับทุน? มีหลายเหตุผลครับ บางคนเวลาผ่านไปก็ลืมนึกถึงเหตุผลเหล่านั้นไปแล้ว บางคนก็เปลี่ยนความคิดไป ผมเคยคุยกับท่านหนึ่งได้รับความคิดเห็นว่า “ตั้งใจทำไปก็เท่านั้นแหละ ประเทศนี้ยังไงก็ไม่เจริญหรอก” แต่คิดว่าหลายคนยังคงมีความฝันอยู่ครับ... “จะขอฝันใฝ่ในฝันอันเหลือเชื่อ” http://www.imeem.com/galloptas/music/61c3uKyP/patorn-srikranon/ จากคุณ : Practical x 2 - [ 26 เม.ย. 52 22:25:46 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ถ้าผุ้ใช้ทุน เสียชีวิตกระทันหันใครรับผิดชอบครับ จากคุณ : 1812Overtureyoot - [ 26 เม.ย. 52 22:26:53 ]

ความคิดเห็นที่ 13 กรณีเสียชีวิต คงไม่ต้องให้ผู้ค้ำประกันใช้หนี้ครับเป็นเหตุสุดวิสัย จากคุณ : Practical x 2 - [ 26 เม.ย. 52 22:31:20 ]

ความคิดเห็นที่ 14 การรับทุน ถือว่าคุ้มไหม? กรณีนี้คงต้องดูคำตอบเป็นรายบุคคลครับเพราะชีวิตแต่ละคนไม่เหมือนกัน บางคนโชคดี บางคนโชคร้าย สำหรับผมถือว่าคุ้มครับ หลังจากทำงานมาได้ เกือบ 5 ปี ต้นสังกัดให้ทำงานหลากหลาย เหมาะสมกับระดับความสามารถ ทำให้ไม่รู้สึกเบื่อ บางท่านที่โชคร้ายก็มีเช่นกัน ตอนที่ต้นสังกัดขอทุนไปวาง แผนจะตั้งคณะใหม่ แล้วบรรจุตำแหน่งให้นักเรียนทุน ขอไปหลายตำแหน่ง ทีเดียว แต่พอทุกคนจบกลับมาปรากฏว่าคณะที่วางแผนจะตั้งไม่เกิดขึ้น ทำ ให้ต้องไปสอนสาขาที่ตัวเองไม่ค่อยถนัด แบบนั้นก็ลำบากมากเหมือนกัน จากคุณ : Practical x 2 - [ 26 เม.ย. 52 22:39:09 ]

ความคิดเห็นที่ 15 แล้วถ้าถูกไล่ออกเพราะด่าอธิการ หรือผู้บังคับบัญชานี่ต้องใช้ทุนมั้ย ;) แบบว่าถูกไล่ออกแล้วขอไปใช้ทุนให้หน่วยงานอื่นจะเป็นไปได้มั้ย :) จากคุณ : Ronachai (amscmu) - [ 26 เม.ย. 52 22:51:39 ]

ความคิดเห็นที่ 16 555 ยังไม่ทราบว่ามีกรณีตัวอย่างครับ เลยไม่มีข้อมูล จากคุณ : Practical x 2 - [ 26 เม.ย. 52 22:57:11 ]

ความคิดเห็นที่ 17 กรณีหนีทุน เท่าที่ทราบมีไม่ถึง 10 รายครับ มีทั้งที่กำลังฟ้องร้องเอาจากผู้ค้ำประกัน หรือบางกรณีก็ตามเอา ไม่ได้เพราะวางแผนหลบหนีกันทั้งครอบครัว รวมถึงผู้ค้ำประกันด้วย จาก คห. นี้ นิยามของคำว่าหนีทุนคือ ไม่ทำงานและไม่จ่ายเงินใช่ไหมคะ.. จากคุณ : ลูกเป็ดขี้เกียจ - [ 26 เม.ย. 52 23:28:14 ]

ความคิดเห็นที่ 18 to คห.17 ตามความเข้าใจของผม แค่ไม่มาทำงาน ก็ถือว่าหนีทุนแล้ว แต่ถ้า ไม่มาทำงาน และไม่จ่ายเงินด้วย ก็ต้องถือว่าโกงแล้วครับ จากคุณ : Que :-> - [ 26 เม.ย. 52 23:46:09 ]

ความคิดเห็นที่ 19 เข้ามาดู ... จากคุณ : physikman (PhysikMan) - [ 27 เม.ย. 52 01:26:41 ]

ความคิดเห็นที่ 20 #17 ใช่แล้วครับ จากคุณ : Practical x 2 - [ 27 เม.ย. 52 05:10:56 ]

ความคิดเห็นที่ 21 มาสวัสดี อ. Prac ค่ะ จากคุณ : ktana - [ 27 เม.ย. 52 12:31:05 ]

ความคิดเห็นที่ 22 โห คนที่ทำแบบนี้ได้แย่จังค่ะ... เราขอมองต่างมุมจาก คห. 18 นะคะ บางคนอาจจะมีเหตุผลอย่างที่ อ. แกว่า แต่งงานกับชาวต่างชาติ อยู่กับสามี เลยจำเป็นต้องใช้ทุน ไม่สามารถทำงานได้ แบบนี้ไม่เหมาะจะเรียกว่าหนีทุนค่ะ แต่พวกที่ไม่ใช้เงิน ไม่ทำงาน เห็นด้วยว่าควรเรียก "โกง" ดีนะ ที่คนแบบนี้มีสัดส่วนไม่มาก เอ๊ะ หรือถือว่ามาก ร่ำเรียนมาก็สูง แต่จิตใจ... เสื่อมมมม จากคุณ : ลูกเป็ดขี้เกียจ - [ 27 เม.ย. 52 19:13:38 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr. Fusion - [ 27 เม.ย. 52 19:42:49 ]

ความคิดเห็นที่ 24 หวัดดีครับ ผมเป็นเจ้าของกระทู้ที่มีปัญหาข้างล่าง ผมก็คนหนึ่งที่รับเงินหลวงเรียนแทบจะทั้งชีวิตการศึกษา เจอมาหมดแล้วนักเรียนทุนแบบต่างๆ คนที่โกง คือทั้งหนีทั้งไม่จ่าย มีน้อยมากๆๆๆๆๆ ไม่ต้องกลัวหรอกครับ คนแบบนี้ยังไงก็ไม่เจริญ เหมือนกับกู้เงินในธนาคารไม่ใช้แหละคับ ยังไงก็ได้คืน ยกเว้นว่ามันจะลากเอาคนคำประกันหนีไปด้วยกัน ถ้าเป็นอย่างั้นทั้งตระกูลนี้ก็คงไม่ได้อยู่ไทยตลอดไป คล้ายๆ นักโทษหนีคดีแหละครับ แต่คนที่หนีแต่จ่ายเงินผมเฉยๆ นะ ถือว่าทุกคนที่เหตุผลส่วนตัว เท่าที่เคยเจอ ส่วนใหญ่ คือมีครอบครัวที่นี่มากกว่า อย่างว่า มีแฟนฝรั่งจะลากเค้ากลับไทยก็กะไร หรือแต่งคนไทยที่โตที่เมืองนอกงานมั่นคง เค้าคงไม่อยากมาไทยหรอก ถามนะว่าสำนึกมีมั้ย มันมีหมดแหละ แต่ความรักนะครับ มันทำได้หมดแลหะ เมืองไทยก้เยอะ ที่ขอย้ายข้ามจังหวัดเพราะครอบครัว ส่วนที่บอกว่าหลงเงินส่วนน้อยครับ ที่จะเจอเป็นประเภท ปฏิเสธไม่ลงมากกว่า มักเป็นพวกเทพจริงๆ เช่น แบบมีงานจากนาซ่า กูเกิล โบอิ้ง ไอ้ที่มันระดับโลกทั้งหลาย เสนองานให้ แบบปฏิเสธไม่ลงเพราะว่ามันสุดยอดของโลกแล้วไง แต่มีน้อยครับ เพราะเด็กทุนไทยเราก็ไม่ได้เก่งจนฝรั่งมันติดใจขนาดนั้น คนหนีทุนไม่ทำให้การศึกษาบ้านเราเสื่อมหรอกครับ แม้นักวิทยาศาสตร์บ้านเราจะน้อย แต่ส่วนใหญ่ก็ทำงานจับฉ่ายอยุ่แล่ว ดังนั้นขาดสาขาใดไป มันโยกได้เป็นเรื่อง ปกติ ที่กลัวคือการเอานักวิทยาศาสตร์ ไปเป็นตำแหน่งผู้บริหารมากกว่า และผู้บริหารบ้านเรา งานประชุม ต้อนรับผู้ใหญ่ ก็กินเวลาแยะแล้ว กลุ่มนี้แค่เวลาสอนเด็กยังไม่มีเลย อย่าไปคิดเลยว่าจะมีเวลามาทำงานวิจัย จากคุณ : Nitty.M - [ 28 เม.ย. 52 07:35:30 ]