Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com


    ปี 2567 คนไทยจะได้ใช้ "รถไฟความเร็วสูง" (จริงหรือ?)

    ปี 2567 คนไทยได้ใช้ "รถไฟความเร็วสูง" จริงหรือ?

    รัฐบาล เตรียมแผนการชง "รถไฟความเร็วสูง" เป็นนโยบายแห่งชาติเพื่อให้การคมนาคมภายในประเทศก้าวสู่ความเป็นสากลมากขึ้นและยังสามารถเพิ่มศักยภาพในการชูจุดขายเกี่ยวกับการท่องเที่ยว แต่ลำพังงบประมาณแผ่นดิน เงินกู้สาธารณะและเงินกู้จากต่างประเทศก็ไม่เพียงพอในการทำโครงการขนาดมหึมาเช่นนี้ จึงจำเป็นต้องมีการให้บริษัทเอกชนจากต่างชาติเข้ามาร่วมลงทุนและเข้าควบรวมกิจการรถไฟความเร็วสูงในไทย แต่ถึงกระนั้น เมื่อเทียบกับภาษีและรายได้จากการท่องเที่ยวที่ไทยจะได้รับก็ยังคุ้มค่ากับการเสี่ยงและการลงทุนครั้งนี้ โดยแผนการยังอยู่ในขั้นพิจารณาถึงผลดีผลเสียของไทยและต่างชาติ และจะมีการเจรจากับทาง JR Group และ Alstom ผู้ดูแลกิจการรถไฟความเร็วสูงในญี่ปุ่นและฝรั่งเศสหลังได้ข้อสรุป เมื่อพูดถึงส่วนแบ่งการตลาดที่จะได้รับค่อนข้างมากเมื่อเทียบกับการรถไฟแห่งประเทศไทย หรือ รฟท. ผู้ครองการตลอดด้านการคมนาคมขนส่งระบบรางของไทยในอดีตถึงปัจจุบัน

    โครงการแสนล้านเหรียญนี้ หากเกิดขึ้นจริง คาดว่าจะมีสถานีหลักอยู่บริเวณสนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ และในเฟสแรก จะมีจำนวนทั้งสิ้น 4 เส้นทาง คือ ไปยังภาคเหนือ ภาคใต้ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยคาดว่าภาคเหนือนั้นจะมีสถานีปลายทางอยู่ที่ เชียงใหม่และอาจมีการก่อสร้างเพิ่มเติมไปยังคุนหมิงของสาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อเชื่อมต่อกับรถไฟความเร็วสูง คุนหมิง-เซี่ยงไฮ้-ปักกิ่ง ส่วนภาคใต้นั้นคาดว่าจะมีการเชื่อมต่อกับปีนังของมาเลเซียเพื่อต่อกับรถไฟความเร็วสูง มาเลเซีย-อินโดนีเซีย-สิงคโปร์ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือคาดว่าจะไปสิ้นสุดที่หนองคาย และอาจมีการศึกษาถึงความเป็นไปได้ที่จะเพิ่มเติมไปยังโฮห์จิมิน ซิตี้ของเวียดนาม และภาคตะวันออก คาดว่าจะไปสิ้นสุดที่ จ.ตราด โดยจะผ่านบริเวณพัทยาด้วย

    แต่ที่น่าสนใจคือ ทาง Alstom มีแผนจะใช้ไทยเป็นสถานที่ทดลองแห่งแรกของระบบราง 1,635 มม. เพื่อรองรับรถไฟความเร็วสูงซีรีส์ใหม่ที่จะมีความเร็วสูงกว่า 581 km/h และจุผู้โดยสารได้มากขึ้น Patrick Kron ซีอีโอของทาง Alstom กล่าวว่า "เมืองไทยเป็นเมืองที่น่าเที่ยวอันดับต้นๆของโลก แต่ยังมีการจัดการด้านการคมนาคมขนส่งนักท่องเที่ยวไม่ดีนัก เพราะแหล่งท่องเที่ยวในไทยอยู่ค่อนข้างห่างไกลจากเมืองหลวง การเข้ามาทำกิจการรถไฟความเร็วสูงครั้งนี้ในไทย นับว่าเป็นการเสี่ยงที่คุ้มค่ามาก เพราะการที่นักท่องเที่ยวเข้าถึงแหล่งท่องเที่ยวได้มากขึ้น จะทำให้มีผู้คนจากทั่วโลกเข้ามาเที่ยวและใช้บริการรถไฟของเรา ส่วนเรื่องการเมืองนั้น ควรเป็นหน้าที่ของรัฐบาลเพราะถือเป็นปัจจัยสำคัญในการพิจารณาเกี่ยวกับการลงทุนครั้งนี้"

    รถไฟความเร็วสูงนับว่าเป็นอีกตัวเลือกหนึ่งของนักท่องเที่ยวและคนไทยระดับกลางถึงระดับบน ส่วนรถไฟไทย เดิมนั้นก็ยังคงมีให้บริการอยู่สำหรับนักท่องเที่ยวที่มีงบจำกัดและคนไทยระดับล่างถึงระดับกลาง เนื่องจากรถไฟความเร็วสูงมีอัตราค่าโดยสารค่อนข้างแพงอาจเทียบได้กับสายการบินแต่มีความปลอดภัยสูงกว่ามาก

    การดำเนินการคาดว่าจะหาข้อสรุปและเริ่มเจรจากับทางบริษัททั้งสองได้ในปี 2555 และจะเริ่มทำการก่อสร้างได้ในปีถัดไป โดยไทยจะเป็นผู้เวนคืนที่ดินตามแผนการเดินรถทั้งหมดให้เสร็จสิ้นภายในปี 2559 ส่วนบริษัททั้งสองจะเริ่มการก่อสร้างและเสร็จสิ้นในปี 2566 หรือใช้เวลาราว 7 ปี ก่อนเปิดทำการเดินรถและให้บริการประชาชนและนักท่องเที่ยวได้ต้นปี 2567 รายได้ที่ไทยจะได้รับ ช่วงแรกจะได้ 10% ของกำไรสุทธิต่อปี เป็นค่าเวนคืนที่ดิน เมื่อได้ครบตามกำหนดแล้ว ก็จะได้รับจากการเสียภาษีของทั้งสองบริษัทจากรายได้และกำไร ส่วนรายได้ทางอ้อมจะได้จากการท่องเที่ยวที่มีมากขึ้นเป็นเงาตามตัว เพราะนับเป็นระบบรถไฟความเร็วสูงแห่งแรกของเอเชียอาคเนย์ คาดว่าเมื่อเปิดให้บริการไปแล้วสิบปี จะมีผู้ใช้บริการกว่า 650,000 คนต่อวัน ซึ่งจะทำให้ได้ทุนภายในเวลา 25ปี

    นอกจากนี้ไทยยังเตรียมพร้อมที่จะเป็น SEATH (ซีธ) หรือ South East Asia Transportation Hub เพื่อรองรับกับการเป็น CCSEA (ซี ซี ซี) หรือ Central Capital of South East Asia อีกด้วย

    จากคุณ : รอยเตอร์ - [ 29 เม.ย. 52 12:18:07 A:192.168.182.180 X:58.8.191.41 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป


Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com