ความคิดเห็นที่ 1 ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับไข้หวัดใหญ่ ไวรัสไข้หวัดใหญ่ (influnenza virus) อยู่ในตระกูล Orthomyxoviridae เป็น RNA virus (ไวรัสที่มีสารพันธุกรรมเป็น RNA) ชนิดมีเปลือกหุ้ม และมีไกลโคโปรตีนสองชนิดบนผิวคือ Hemagllutinin (H) และ Neuraminidase (N) โดย Hemagglutinin ทำหน้าที่เกี่ยวกับการหลอมรวมไวรัสเข้ากับเซลล์เจ้าบ้าน ส่วน Neurominidase ทำหน้าที่เกี่ยวกับการแตกหน่อของไวรัสออกจากเซลล์ที่ติดเชื้อแล้วเพื่อไปติดเชื้อเซลล์อื่น ไกลโคโปรตีนสองชนิดนี้มีความสำคัญในการดำรงชีวิตของไวรัส ซึ่งมีความแตกต่างหลากหลายออกไปตามสายพันธุ์และการกลายพันธุ์ ขณะเดียวกันก็เป็นแอนติเจนสำคัญที่ร่างกายของคน/สัตว์จะทำการจดจำได้ครับ จากคุณ : Cryptomnesia - [ 3 พ.ค. 52 14:59:26 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ตระกูล Orthomyxoviridae แบ่งเป็น 2 จีนัสโดยจีนัสแรกประกอบด้วย Influenza type A, B ส่วนจีนัสที่สองคือ Influenza type C 1. Influenza type A ก่อให้เกิดการติดเชื้อในคน สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมและสัตว์ปีก โรคไข้หวัดใหญ่ที่พบในคนเกิดจาก type A ประมาณร้อยละ 80 นอกจากนี้ยังเป็นสาเหตุของการระบาดใหญ่ทั่วโลกด้วย นอกจากนี้ Influenza type A ยังมีการกลายพันธุ์ เปลี่ยนแปลงแอนติเจนบนเปลือกหุ้ม ก่อให้เกิดสายพันธุ์ใหม่อยู่เรื่อยๆ 2. Influenza type B เป็นสาเหตุของโรคไข้หวัดใหญ่ที่พบรองลงมาจาก type A แต่ก่อการติดเชื้อเฉพาะในคนเท่านั้นครับ มักพบในเด็กและคนแก่ Influenza type B มีการเปลี่ยนแปลงแอนติเจนบนเปลือกหุ้มน้อยกว่าสายพันธุ์ A จึงไม่ก่อการระบาดครั้งรุนแรง 3. Influenza type C พบว่ามีรายงานการติดเชื้อในคนและหมู แต่ไม่ค่อยมีความสำคัญ ผู้ติดเชื้อมักไม่แสดงอาการ หรือแสดงอาการอย่างอ่อน คุณสมบัติของไวรัสชนิดนี้แตกต่างไปจาก type A และ B มากจึงจัดเป็นคนละจีนัส (มี genome จำนวน 7 ท่อนน้อยกว่า type A ละ B ซี่งมี 8 ท่อน มี hemagglutinin บน envelope เพียงชนิดเดียว และมี acetyl esterase ทำหน้าที่คล้าย nuraminidase ) ดังนั้นต่อจากนี้ไปเราจะโฟกัสที่เฉพาะเจ้า type A นี้เท่านั้นนะครับ  ไวรัสไข้หวัดใหญ่ชนิดที่พบการระบาดมากที่สุดคือ Influenza type A จึงมีการแบ่ง subtype ย่อยตามชนิดของแอนติเจนบนเปลือกหุ้ม (H subtype 1-15, N subtype 1-9) และมีระบบการเรียกชื่อที่เฉพาะเจาะจงคือ type/สถานที่ที่แยกเชื้อได้/ลำดับที่แยกเชื้อได้/ปีที่แยกเชื้อได้ (ระบุแอนติเจน) แก้ไขเมื่อ 03 พ.ค. 52 15:37:30 จากคุณ : Cryptomnesia - [ 3 พ.ค. 52 15:00:17 ]

ความคิดเห็นที่ 3 การติดเชื้อและอาการแสดง เชื้อจะถูกปล่อยออกมาทางอุจจาระสัตว์หรือคน ไวรัสไข้หวัดใหญ่ติดต่อโดยทางเดินหายใจและทางเดินอาหาร การสัมผัสสิ่งคัดหลั่งต่างๆ การติดต่อระหว่างคนสู่คนเกิดขึ้นได้ยากกว่าสัตว์สู่คนครับ ต้องมีการสัมผัสโดยตรงอย่างใกล้ชิดและได้รับเชื้อในปริมาณมาก ระยะฟักตัวในคนประมาณ  1-7 วัน อาการแสดงคือมีไข้สูงเฉียบพลัน หนาวสั่น ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ มีน้ำมูก เจ็บคอ อาจมีคลื่นไส้อาเจียน อ่อนเพลียมาก ในรายที่อาการรุนแรงจะมีอาการปอดอักเสบและระบบหายใจล้มเหลวซึ่งมักเป็นสาเหตุของการเสียชีวิต โดยมากเป็นในเด็กและคนแก่ จากคุณ : Cryptomnesia - [ 3 พ.ค. 52 15:01:04 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ไข้หวัดใหญ่หมูคืออะไร ไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A (สายพันธุ์ C มีการรายงานเช่นกัน แต่น้อยมาก) มีการติดเชื้อในหมูและทำให้เกิดไข้หวัดใหญ่ในหมูซึ่งก็เป็นโรคระบาดในสัตว์ทั่วไปที่ก่อให้เกิดอาการไข้ ไอ จาม มีปัญหาในระบบทางเดินหายใจ แต่โดยทั่วไปไม่รุนแรงถึงตาย ไข้หวัดใหญ่หมูที่มีการติดต่อไปยังคนพบได้น้อยมากครับ (แม้ว่าในมนุษย์จะมีตัวรับอนุภาคไวรัสของหมูก็ตาม) และการก่อโรคในคนซึ่งเกิดจากไวรัสไข้หวัดใหญ่หมูที่เคยมีการรายงานก็น้อยมากอีกเช่นกัน อ้าว แล้วโรคระบาดในเม็กซิโกที่ครั้งหนึ่งเคยถูกเรียกว่า “ไข้หวัดใหญ่หมู” นี่มันมาจากไหนกัน เรามาลองอธิบายดูกันนะครับ จากคุณ : Cryptomnesia - [ 3 พ.ค. 52 15:01:31 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ทำไมไวรัสไข้หวัดใหญ่จากหมูจึงก่อให้เกิดโรคในคนได้ อธิบายโดยภาพรวมคือเกิดจากการกลายพันธุ์ของไวรัสไข้หวัดใหญ่ ไวรัสมีสารพันธุกรรมที่เกิดการกลายพันธุ์ได้ง่ายดายมากๆเนื่องจากมันไม่มีการตรวจสอบความผิดพลาดของสารพันธุกรรม เชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่มีเอนไซม์ RNA polymerase ซึ่งไม่มี proof reading activity ความผิดพลาดในการ replicate จีโนมพบได้ในอัตรา 1/104 bases ในแต่ละ replication cycle จากอัตราส่วนนี้จะพบว่ามีไวรัสชนิดใหม่เกิดขึ้นมากมาย เพียงแต่บางอนุภาคเท่านั้นที่จะเพิ่มจำนวนได้ต่อไป การกลายพันธุ์ของไวรัสไข้หวัดใหญ่มีสองลักษณะ 1. Antigenic drift เป็นการกลายพันธุ์ระดับ point mutation คือมีการเปลี่ยนแปลงเบสบนสายนิวคลีโอไทด์เพียงเล็กน้อย การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวจะทำให้ภูมิคุ้มกันของร่างกายจดจำแอนติเจนเดิมไม่ได้ และก่อให้เกิดการระบาดของโรคเป็นครั้งคราวในบางพื้นที่ 2. Antigenic shift เป็นการกลายพันธุ์ที่เกิดจากการแลกเปลี่ยนชิ้นส่วนยีนระหว่างไวรัสต่างสายพันธุ์ ผลที่เกิดขึ้นคือเกิดการเปลี่ยนแปลงของแอนติเจนบนเปลือกอย่างมาก ทำให้เกิดไวรัสสายพันธุ์ใหม่ การกลายพันธุ์ดังกล่าวอาจทำให้เกิดการระบาดครั้งใหญ่ไปทั่วโลก จากคุณ : Cryptomnesia - [ 3 พ.ค. 52 15:02:20 ]

ความคิดเห็นที่ 6 วงจรการติดต่อเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ข้ามสปีชี่ส์ 1. ไวรัสไข้หวัดใหญ่ในสัตว์ปีกจะพบ H1-H15 และ N1-9 ซึ่ง H และ N สามารถจับคู่ผสมกัน แต่ชนิดที่ก่อให้เกิดโรคจำกัดอยู่ในกลุ่มของ H5 และ H7 2. ไวรัสไข้หวัดใหญ่ในหมูพบอยู่ในกลุ่มของ H1N1, H1N2 และ H3N2         3. ไวรัสไข้หวัดใหญ่ในคนส่วนใหญ่พบว่าอยู่ในกลุ่ม H1N1, H2N2 และ H3N2         4. ไวรัสไข้หวัดใหญ่มีการติดต่อแลกเปลี่ยนข้ามไปมาระหว่างสัตว์ชนิดต่างๆ ได้ โดยการติดต่อจากนกน้ำชนิดต่างๆ มายังไก่ ผ่านหมูที่เป็นตัวกลางผสมผสานไวรัสก่อนที่มาติดต่อถึงคน         5. โดยปกติในเซลล์ของคนจะไม่ปรากฏโมเลกุลตัวรับไวรัสที่มาจากสัตว์ปีกแต่จะมีตัวรับของไวรัสจากสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ส่วนในหมูจะมีตัวรับไวรัสทั้งคน และสัตว์ปีก         6. หมูจึงมีโอกาสรับเชื้อไวรัสจาก 2 แหล่งคือจากสัตว์ปีกและคนซึ่งจะเพิ่มจำนวนอยู่ในเซลล์เดียวกัน เปิดโอกาสให้มีการจับคู่ชิ้นส่วนของ RNA (gene reassortment) เกิดเป็นไวรัสย่อยชนิดใหม่ ซึ่งกระบวนการดังกล่าวอาจทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงแอนติเจนของไวรัสเป็นหมายเลขใหม่ของ H และ N (antigenic shift) 7. หากทำให้เกิดการติดเชื้อขึ้นในคนจะเป็นไวรัสใหม่ซึ่งเราไม่เคยมีภูมิคุ้มกัน ทำให้เกิดโรครุนแรงได้ และอาจติดต่อจากคนหนึ่งไปสู่อีกคนหนึ่งและทำให้เกิดการระบาดได้ในพื้นที่กว้างออกไป จากคุณ : Cryptomnesia - [ 3 พ.ค. 52 15:03:42 ]

ความคิดเห็นที่ 7 สิ่งที่อธิบายมาทั้งหมดก็คือสิ่งที่เกิดขึ้นกับไวรัส H1N1 สายพันธุ์ใหม่ “ไข้หวัดใหญ่เม็กซิโก” หรือเดิมถูกเรียกว่า “ไข้หวัดใหญ่หมู” “swine influenza” นั่นเอง ซึ่งเป็นไวรัสที่เดิมไม่พบในหมู และชนิดของแอนติเจน (H1 และ N1) เดิมนั้นพบในมนุษย์แต่ก็ไม่ได้ก่อให้เกิดโรคระบาดใหญ่ เคราะห์ซ้ำกรรมซัดอะไรก็ไม่รู้ที่เกิดกับหมูตัวหนึ่ง (บางทีอาจจะเกิดอาจขั้นหลายตอนไม่ได้เกิดจากหมูเพียงตัวเดียว แต่เพื่อให้ง่ายต่อการอธิบายขอยกตัวอย่างเป็นหมูหนึ่งตัว) บังเอิญ H1N1 ในมนุษย์ไปติดเชื้อหมู เจ้าหมูตัวนั้นก็บังเอิญติดไวรัสไข้หวัดใหญ่หมูอยู่แล้วสองชนิดและบังเอิญเจ้าหมูตัวนั้นก็ติดเชื้อไข้หวัดนกด้วย ไวรัสสี่สายพันธุ์ก็บังเอิญลั่ลล้าแลกเปลี่ยนยีนกันสนุกมือภายในร่างกายของร่างกายเจ้าหมู (quadruple reassortant) ได้ผลผลิตออกมาเป็น “ไข้หวัดใหญ่เม็กซิโก” (ต่อจากนี้ไปขอเรียกด้วยชื่อนี้เท่านั้น) ที่สามารถติดต่อจากหมูสู่คน และดำเนินไปจนกระทั่งติดต่อจากคนสู่คน ดังในขณะนี้ อธิบายอย่างนี้ พอเข้าใจไหมครับ จากรูปคือหน้าตาของไวรัสไข้หวัดเม็กซิโก จากคุณ : Cryptomnesia - [ 3 พ.ค. 52 15:04:32 ]

ความคิดเห็นที่ 8 แล้วไข้หวัดใหญ่เม็กซิโกอันตรายอย่างไร ไข้หวัดเม็กซิโกก็มีอาการไม่ต่างจากไข้หวัดใหญ่ทั่วไปเท่าไรนัก ไม่ว่าเป็นไข้ ไอ เจ็บคอ ปวดเมื่อยตามเนื้อตัว อ่อนเพลีย หนาวสั่น แต่นอกจากนี้อาจมีอาการท้องเสียและคลื่นไส้อาเจียนเพิ่มขึ้น สาเหตุการตายเกิดจากอาการแทรกซ้อนอย่างปอดอักเสบ ระบบหายใจล้มเหลวเช่นกัน ฟังดูแล้วอาการก็ไม่มีอะไรแปลกใหม่ ความรุนแรงของมันคือการที่ร่างกายเราไม่รู้จักมันมาก่อนต่างหาก อย่างไรก็ตาม CDC ก็มีการติดตามเฝ้าระวังอาการโรคที่อาจมีรายงานใหม่ๆอยู่ตลอดครับ ในคลิปสามารถกดดู subtitle ได้ครับ จากคุณ : Cryptomnesia - [ 3 พ.ค. 52 15:05:09 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ระดับการเตือนภัยไข้หวัดใหญ่ องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้จัดระดับการเตือนภัยของไข้หวัดใหญ่ไว้ทั้งหมด 6 ระดับ ถามว่าจัดระดับไปทำไม? ก็เพื่อที่องค์การอนามัยโลกจะได้รับมือถูกครับ ณ เวลาปัจจุบัน ไข้หวัดเม็กซิโกอยู่ในระดับเตือนภัยที่ระดับ 5 Interpandemic period ระดับ 1 : พบไวรัสสายพันธุ์ใหม่แต่ยังไม่พบระบาดในสัตว์ที่อาจเป็นแหล่งสะสมโรค ระดับ 2: พบโรคระบาดในสัตว์และมีศักยภาพพอที่จะระบาดมายังมนุษย์ Pandemic alert period ระดับ 3: พบโรคระบาดในสัตว์ กระจายมาสู่คนแบบ "สัตว์-สู่-คน" หรือมีการติดต่อจาก "คน-สู่-คน" ในวงแคบ เช่น ติดโรคไปสู่คนที่ดูแลรักษา หรือสัมผัสโดยตรง ยังไม่มากพอที่จะทำให้เกิดการระบาดในวงกว้างหรือชุมชน ระดับ 4: ตรวจพบการกระจายโรคแบบ "คน-สู่-คน" ในระดับชุมชน (Small cluster(s)) ระดับ 5: มีการกระจายของโรคแบบ "คน-สู่-คน" ในวงกว้างอย่างน้อย 2 ประเทศในภูมิภาคเดียวกัน (Larger cluster(s)) Pandemic period ระดับ 6: ระยะระบาดไปทั่วโลก มีการกระจายโรคแบบ "คน-สู่-คน" อย่างน้อยอีก 1 ประเทศในพื้นที่ต่างเขตตามที่องค์การอนามัยโลกกำหนด http://www.who.int/csr/resources/publications/influenza/WHO_CDS_CSR_GIP_2005_5.pdf จากคุณ : Cryptomnesia - [ 3 พ.ค. 52 15:06:17 ]

ความคิดเห็นที่ 10 การติดตามสถานการณ์ไข้หวัดเม็กซิโก แน่นอนว่าตามข่าวสำนักข่าวไทยก็ได้ หนังสือพิมพ์ต่างๆก็คอย update อยู่เนืองๆ ข้อมูลที่น่าเชื่อถือที่สุดมาจาก 2 แหล่งด้วยกันคือศูนย์ควบคุมโรค (Centers for Disease Control and Prevention CDC) และองค์การอนามัยโลก (World health organization-WHO) ซึ่งจะรายงานสถานการณ์ปัจจุบันแบบวันต่อวันครับ (ณ ปัจจุบันมีคนติดเชื้อไข้หวัดใหญ่เม็กซิโกใน Mexico ทั้งหมด 397 คน มีคนตายจากโรค 16 คน/น่าจะมากกว่านี้แต่ไม่ได้รับการยืนยัน ประเทศอื่นมีผู้ติดเชื้อ: Austria (1), Canada (51), China, Hong Kong Special Administrative Region (1), Costa Rica (1), Denmark (1), France (2), Germany (6), Israel (3), Netherlands (1), New Zealand (4), Republic of Korea (1), Spain (13), Switzerland (1), the United Kingdom (15) ;ข้อมูลจาก WHO 2 พ.ค.52) แผนที่ด้านล่างแสดงสถานการณ์ติดเชื้อทั่วโลก สีดำคือประเทศที่มีรายงานผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิต สีแดงคือมีรายงานผู้ติดเชื้อ สีเหลืองคือมีรายงานกรณีน่าสงสัยว่าจะติดเชื้อ (ข้อมูล ณ วันที่ 2 พ.ค.52) สถานการณ์ในประเทศไทยจัดว่าอยู่ในเขตต้องสงสัย ดังนั้น ระวังกันไว้บ้างก็ดีครับ แต่ไม่ต้องถึงกับกระต่ายตื่นตูม ยังใช้ชีวิตได้ตามปกติ กินเนื้อหมูได้ตามปกติครับ แก้ไขเมื่อ 03 พ.ค. 52 18:27:00 จากคุณ : Cryptomnesia - [ 3 พ.ค. 52 15:06:56 ]

ความคิดเห็นที่ 11 การรับประทานเนื้อหมูจะปลอดภัยหรือไม่ ไวรัสไข้หวัดใหญ่ถูกทำลายด้วยความร้อน 75-100 องศา และไม่มีรายงานการติดเชื้อไวรัสจากการรับประทานเนื้อหมูที่ปรุงสุก ดังนั้นอย่าเพิ่งอุปทานหมู่นะ (เมื่อตอนเช้า ซื้อข้าวไข่เจียวหมูสับ แม่ค้าเค้าไม่ขายด้วยแหละ บอกไม่มีเนื้อหมู ) ไวรัสสามารถตกค้างอยู่ในสิ่งแวดล้อมได้นานแค่ไหน ไวรัสสามารถอยู่รอดในสิ่งแวดล้อมและติดเชื้อมนุษย์ภายใน 2-8 ชั่วโมงครับ โดยส่วนใหญ่จะเป็นการติดต่อในคนที่มารวมกลุ่มกันมากกว่าการติดต่อจากเสื้อผ้า ของใช้ หรือสิ่งของ จะกำจัดไวรัสได้อย่างไร ตามที่บอกไปแล้วคือ ไวรัสสามารถถูกทำลายได้ด้วยความร้อนสูง นอกจากนี้ยังอาจใช้สารเคมีเช่น chlorine (ดังนั้นในสระว่ายน้ำก็ค่อนข้างปลอดภัยนะ), hydrogen peroxide, detergents (soap), alcohol เป็นต้น จากคุณ : Cryptomnesia - [ 3 พ.ค. 52 15:07:23 ]

ความคิดเห็นที่ 12 แล้วยารักษาโรคนี้ล่ะ ได้ข่าวว่ามียารักษาใช่ไหม ยาที่ใช้รักษาไข้หวัดใหญ่ทั่วไปสามารถนำมาใช้รักษาโรคไข้หวัดใหญ่เม็กซิโกได้เช่นกัน เดิมยาที่รักษาโรคไข้หวัดใหญ่ก็ได้แก่ Amantadine, Rimantadine (สองตัวนี้ ทางห้องปฏิบัติการได้ทดสอบแล้วว่าไม่สามารถใช้ได้ เนื่องจากเชื้อดื้อยาครับ) Oseltamivir, Zanamivir สองตัวหลังสามารถใช้ได้ผลในโรคไข้หวัดเม็กซิโก กลไกการออกฤทธิ์คือยับยั้งเอ็นไซม์ neuraminidase ของเชื้อไวรัสทำให้ไม่สามารถแตกหน่อออกจากเซลล์ไปติดเชื้อเซลล์อื่นได้ สำหรับยาที่มีขายในเมืองไทยคือ Oseltamivir หรือชื่อการค้า Tamiflu ครับ (ตัวยาเดียวกันกับที่ใช้รักษาไข้หวัดนก) ไม่แน่ใจว่าจ่ายประกันสังคมได้หรือไม่? ยาก็มีราคาค่อนข้างแพงอยู่ครับและจากสถานการณ์ปัจจุบันที่มีการกักตุนยากันไว้ น่ากลัวว่าจะเกิดการใช้ยาที่ไม่สมเหตุสมผลและอาจทำให้เชื้อดื้อยาตามมาได้ อย่างไรก็ตาม มีการรายงานการดื้อยา Oseltamivir ในหลายประเทศแล้วด้วยดังข้อมูลตามลิงค์ http://www.who.int/csr/disease/influenza/oseltamivir_summary/en/index.html จากคุณ : Cryptomnesia - [ 3 พ.ค. 52 15:08:00 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ถ้ากลัวติดเชื้อ ฉีดวัคซีนได้หรือเปล่า วัคซีนไข้หวัดใหญ่ในปัจจุบันประกอบด้วยเชื้อตาย Influenza A (H3N2), A (H1N1), B จะเห็นว่ามีสายพันธุ์ H1N1 อยู่ด้วย แต่ใช่ว่าจะเอามาใช้ได้กับไข้หวัดใหญ่เม็กซิโกนะครับ เพราะตามที่บอกแล้วว่าไวรัสไข้หวัดใหญ่เม็กซิโกเป็นไวรัสสายพันธุ์ใหม่ มีสารพันธุกรรมจากทั้งไวรัสในหมู คน และนกอยู่ด้วยกัน ดังนั้น การฉีดวัคซีนที่มีอยู่ในท้องตลาดปัจจุบันไม่ช่วยป้องกันโรคครับ อย่างไรก็ตามองค์การอนามัยโลกก็กำลังทำการผลิตวัคซีนไข้หวัดใหญ่เม็กซิโกและคาดว่าจะพร้อมใช้ได้ในอีกไม่นานครับ แก้ไขเมื่อ 04 พ.ค. 52 14:02:10 จากคุณ : Cryptomnesia - [ 3 พ.ค. 52 15:09:24 ]

ความคิดเห็นที่ 14 การป้องกันไข้หวัดใหญ่เม็กซิโกที่สำคัญทำได้อย่างไร 1. ล้างมือด้วยสบู่ หรือถูด้วยเจลแอลกอฮอล์บ่อยๆ ตามที่บอกไปแล้วว่าไวรัสถูกกำจัดได้ด้วยแอลกอฮอล์ อันที่จริงไม่ใช่เฉพาะไข้หวัดใหญ่เม็กซิโกนะครับ ในช่วงที่ไข้หวัดใหญ่ ไข้หวัดนกระบาด การกระทำดังกล่าวก็สมควรอยู่ดี 2. การปิดปาก-จมูกด้วยหน้ากากปิดปาก-จมูกทั่วไปยังไม่มีหลักฐานว่า ป้องกันโรคได้ 3. การหลีกเลี่ยง ไม่อยู่ในที่ที่มีคนแออัด เช่น กลุ่มประท้วงการเมืองในไทย ฯลฯ หรือห้องแอร์ช่วยป้องกันโรคได้ 4. การไม่สูบบุหรี่ และไม่หายใจเอาควันบุหรี่ที่คนอื่นสูบเข้าไป ซึ่งส่งผลให้ภูมิต้านทานโรคของระบบทางเดินหายใจอ่อนแอลงมีส่วนช่วยป้องกันโรคได้ ในรูปคือสถานการณ์ที่เพิ่มความเสี่ยงในการติดเชื้อ ไม่ควร...ไม่ควร จากคุณ : Cryptomnesia - [ 3 พ.ค. 52 15:11:23 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ทั้งหมดนี้ก็เป็นแค่ข้อมูลคร่าวๆของโรคไข้หวัดเม็กซิโก หากใครมีเสริมเพิ่มอะไรก็ช่วยๆกันเพิ่มได้ (อ้อ ใครรู้ scientific name ของไข้หวัดใหญ่เม็กซิโกบ้างครับ หาแล้วหาไม่เจอ หรือเขายังไม่ตั้งชื่อกันหว่า) ขอให้ทุกคนรับมือกับสถานการณ์ไข้หวัดใหญ่เม็กซิโกอย่างมีสติครับ ------------------------------------------------------------ References ๐ http://www.cdc.gov/h1n1flu/swineflu_you.htm ๐ http://www.who.int/csr/don/2009_05_02a/en/index.html ๐ http://en.wikipedia.org/wiki/Swine_influenza ๐ http://www.ams.cmu.ac.th/depts/clinmcrb/CMBwebsite/CMB508301/virushtml/7othomyxo.htm ๐ http://www.vcharkarn.com/vblog/42432 ๐ http://www.fluwikie.com/index.php?n=Consequences.NeuraminidaseInhibitors แก้ไขเมื่อ 03 พ.ค. 52 15:27:39 จากคุณ : Cryptomnesia - [ 3 พ.ค. 52 15:12:18 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ปาดดดดดดดดดด  อ่าว ไม่ทัน จากคุณ : เจ้าชายโดดเดี่ยว - [ 3 พ.ค. 52 15:31:12 ]

ความคิดเห็นที่ 17 เยี่ยมยอดมากครับ ขอบคุณมากๆ จากคุณ : Styer - [ 3 พ.ค. 52 15:32:10 ]

ความคิดเห็นที่ 18 แปะๆ ปรบมือ ข้อมูลละเอียดยิบ ขอบคุณมากครับ จากคุณ : Plamany - [ 3 พ.ค. 52 15:39:04 ]

ความคิดเห็นที่ 19 เนื้อหาเยี่ยม รูปปลากรอบยอด จากคุณ : KamenRider - [ 3 พ.ค. 52 16:18:03 ]

ความคิดเห็นที่ 20 http://www.pantip.com/cafe/wahkor/topic/X7816822/X7816822.html เพิ่งเล่นเกมนี้มา มาอ่านข่าวนี้แล้ว เสียวมาก ๆ จากคุณ : ๛กอล์ฟ - [ 3 พ.ค. 52 16:23:13 ]

ความคิดเห็นที่ 21 เห็นกระทู้นี้แล้วทำให้นึกถึงตอนหาข้อมูลออกไปรายงานหน้าชั้นเรียนในวิชาจุลชีววิทยาทางสาธารณสุขมากๆ จำได้ว่าตอนนั้นได้ทำเรื่อง Influenza virus พอดี จากคุณ : Aristolochia - [ 3 พ.ค. 52 16:24:35 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ของไทยก็มี ... ตั้งแต่วันแรกที่มีข่าวออก http://www.ไข้หวัดหมู.com/ แก้ไขเมื่อ 03 พ.ค. 52 16:29:58 จากคุณ : kasimasi - [ 3 พ.ค. 52 16:29:38 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ถ้าข่าวอัฟเดต..ล่าสุด ต้องห้องไกลบ้านครับ ของคุณ กริชนาคราช http://www.pantip.com/cafe/klaibann/topic/H7796486/H7796486.html จากคุณ : kasimasi - [ 3 พ.ค. 52 16:32:09 ]

ความคิดเห็นที่ 24 เพิ่มเติมคห.12 ค่ะ ปัจจุบันไม่แน่ใจว่าเมืองไทยมี Tamiflu ขายหรือเปล่านะคะ เพราะตั้งแต่เกิดการระบาดไข้หวัดนกทางการไทยได้อ้างสิทธิ์ในการผลิต generic oseltamivir ในชื่อว่า GPOAFlu ออกมาใช้ค่ะ ซึ่งก็คือยาที่มีข่าว ว่ากำลังเร่งผลิตกันตอนนี้น่ะค่ะ จากคุณ : Aristolochia - [ 3 พ.ค. 52 16:57:40 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ติดตามอ่านครับ เห็นภาพในคห.11 แล้วหิวขึ้นมาเลยย ภูมิต้านทานเกี่ยวกับทางเดินหายใจยิ่งต่ำๆอยู่ด้วย จากคุณ : i.everyday - [ 3 พ.ค. 52 17:17:34 ]

ความคิดเห็นที่ 26 สุดยอดมาก กำลังจะหาข้อมูลเรื่องนี้อยู่เลยค่ะ โชคดีที่เข้าหว้ากอก่อนเลยมาเจอกระทู้นี้ ขอบคุณค่า^^ จากคุณ : มือปราบหน้าใส - [ 3 พ.ค. 52 17:26:24 ]

ความคิดเห็นที่ 27 เพราะความไม่มีพัฒนาการของไวรัสแท้ๆ เชียว (ไม่มีระบบ proof reading ตอนมัน replication) ถึงได้ก่อให้เกิดหายนะกับมนุษย์ ใครก็ได้ไปยัดระบบนี้ใส่ให้มันซะหน่อยก็ดีนะ จะได้ไม่ต้องกลายพันธุ์กันง่ายๆ จากคุณ : T7Promoter - [ 3 พ.ค. 52 17:26:59 ]

ความคิดเห็นที่ 28 โหวตให้แล้วครับ... ขอเป็นกระทู้รวมข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้จากชาวหว้ากอที่นี่เลยแล้วกันนะครับ ไม่กระจัดกระจาย เพื่อให้เข้าใจและระวังป้องกันอย่างถูกวิธี จากคุณ : C.ker - [ 3 พ.ค. 52 18:03:32 ]

ความคิดเห็นที่ 29 แวะมาโหวตครับ ควรมีสักกระทู้ที่คุยเรื่องนี้อย่างมีความเข้าใจ จากคุณ : granun - [ 3 พ.ค. 52 18:11:57 ]

ความคิดเห็นที่ 30 อัพเดตข้อมูลค่ะ เมื่อสักครู่ฟังข่าวจากช่อง 11 มีข้อมูลมาใหม่ว่าต้นตอของโรคนี้อาจไม่ได้มาจากเม็กซิโก แต่อาจมาจากรัฐแคลิฟอร์เนีย, อเมริกาแทน เนื่องจากพบผู้ป่วยคนแรกเป็นเด็กชาย และได้มีการส่งชิ้นเนื้อไปตรวจที่ CDC ตั้งแต่วันที่ 30 มี.ค.52 ก่อนที่จะมีการระบาดในเมกซิโก จากคุณ : Aristolochia - [ 3 พ.ค. 52 18:17:26 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ยินดีอย่างยิ่งครับ หากกระทู้นี้จะเป็นศูนย์กลางอัพเดทข้อมูลเชิงวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับไข้หวัดใหญ่เม็กซิโก ในห้องหว้ากอ ข้อมูลทั้งหมดที่โพสเป็นเพียงข้อมูลพื้นฐาน ในขณะปัจจุบันที่ CDC และ WHO รวมถึงองค์กรอื่นๆยังคงวิจัยกันอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นอาจจะมีข้อมูลใหม่ๆเปลี่ยนแปลงได้ทุกขณะเวลา ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาร่วมอัพเดทครับ #24 Tamiflu มีใช้ตามโรงพยาบาลในประเทศไทยครับ โดยที่ไทยไม่ได้ทำ compulsary licensing เพียงแต่ไม่ทราบว่าจ่ายประกันสังคมได้หรือไม่ โรงพยาบาลที่ผมทำพาร์ทไทม์อยู่ก็ไม่ได้นำยานี้เข้ามาครับ #27 ไม่มีที่จะยัดแล้ว จากคุณ : Cryptomnesia - [ 3 พ.ค. 52 18:34:04 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ขอบคุณครับ ขอเก็บไปเผยแพร่ข้อมูลด้วยนะครับ บางทีจจะต้องทำรายงานส่งอาจารย์ ยิ่งช่วงนี้ฝึกงานแผนกไวรัส เผื่อเป็นขอมูลความรู้ติดตัวผมไว้บ้างครับ จากคุณ : vetterboy - [ 3 พ.ค. 52 18:37:45 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ขอสรุปสั้นๆให้หน่อยครับ สรุปว่า แล้วตอนนี้ไข้วัดเม็กซิโก แพร่กระจายไปในหมูรึเปล่าครับ หรือว่าตอนนี้อยู่กับคนอย่างเดียวไม่ไปไหน ปล. ตอนนี้ที่บ้านเชื่อว่าเป็นไข้หวัดหมูเต็มที่ ถึงขั้นจะไม่กินหมูกันเลย จากคุณ : ว่างมากๆ - [ 3 พ.ค. 52 19:12:18 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ผมอ่านมา โดนใจที่สุด คห 13 เนี่ยแหละ จากคุณ : Shineokung - [ 3 พ.ค. 52 20:28:11 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ขอบคุณมากครับ กำลังสนใจอยู่เลย จากคุณ : ตีนกบ - [ 3 พ.ค. 52 21:43:23 ]

ความคิดเห็นที่ 36 ขอบคุณครับ ขอ อนุญาต FW จากคุณ : กระรอกไฟ - [ 3 พ.ค. 52 22:33:34 ]

ความคิดเห็นที่ 37 ขอบคุณมากนะคะ   เรื่องใกล้ตัวจริงๆ   จากคุณ : ฟินจัง - [ 3 พ.ค. 52 22:40:21 ]

ความคิดเห็นที่ 38 ไม่ถนัดเล้ยยย เรื่องยากๆ เนี่ย แต่ก็ ขอบคุณสำหรับความรู้ ค้าบบบ จากคุณ : ปฏิจจสมุปบาท (ปฏิจจสมุปบาท) - [ 3 พ.ค. 52 22:40:41 ]

ความคิดเห็นที่ 39 เข้ามาเก็บความรู้ค่ะ จากคุณ : Pretty_Cute_Girl - [ 3 พ.ค. 52 23:17:07 ]

ความคิดเห็นที่ 40 ขอบคุณค่ะ กำลังอยากรู้พอดีเลย จากคุณ : Co-Arrange - [ 4 พ.ค. 52 00:38:40 ]

ความคิดเห็นที่ 41 เนื้อหมูสุขไม่ติดอยู่แล้ว เพราะความร้อนทำให้เชื้อโรคตาย มีเชื้อไม่กี่ชนิดเท่านั้นที่ทนความร้อน แต่เนื้อหมูดิบ หรือ หมูสด นี่สิจะติดต่อได้หรือป่าว พ่อครัวแม่ครัว หรือ แม่บ้าน ประกอบอาหารให้คนรับประทานจะติดได้หรือป่าวครับ ถ้าคนทำอาหารติด คนกินก็ต้องมีสิทธิ์ติดต่อจากคนทำอาหารได้ไม่ยากเลยนะ จากคุณ : *--* - [ 4 พ.ค. 52 01:48:19 A:58.8.48.69 X: TicketID:175329 ]

ความคิดเห็นที่ 42 เอาใจช่วยให้หาทางรักษาเร็วๆครับ ไม่รู้ตอนนี้ไปขั้นไหนแล้ว ไวรัสกลุ่มพวกนี้ clone & rescue ยากมาก จากคุณ : norman_b - [ 4 พ.ค. 52 06:14:30 ]

ความคิดเห็นที่ 43 #33, 41 ประเด็นนี้น่าสนใจ แต่ขอออกตัวว่าอาจจะให้ข้อมูลได้ไม่ครบถ้วน เนื่องจากข้อมูลมันไปเร็วจริงๆ จึงขอให้ทุกท่านช่วยกันอัพเดทด้วยครับ ลองดูตาม sheet fact ของ WHO (ข้อมูล ณ วันที่ 25 เม.ย. 52) http://www.who.int/csr/swine_flu/swineflu_qanda_20090425.pdf Is it safe to eat pork and pork products? Yes. Swine influenza has not been shown to be transmissible to people through eating properly handled and prepared pork (pig meat) or other products derived from pigs. The swine influenza virus is killed by cooking temperatures of 160°F/70°C, corresponding to the general guidance for the preparation of pork and other meat. ตรงนี้จะสอดคล้องกับ CDC  ที่ว่าเอาไว้ว่า Can I get infected with this new H1N1 virus from eating or preparing pork? No. H1N1 viruses are not spread by food. You cannot get this new HIN1 virus from eating pork or pork products. Eating properly handled and cooked pork products is safe. ---------------------------------------------------------------------------- Which countries have been affected by outbreaks in pigs? Swine influenza is not notifiable to international animal health authorities (OIE, www.oie.int), therefore its international distribution in animals is not well known. The disease is considered endemic in the United States. Outbreaks in pigs are also known to have occurred in North and South America, Europe (including the UK, Sweden, and Italy), Africa (Kenya), and in parts of eastern Asia including China and Japan. เรื่องนี้ที่อาจเป็นปัญหา หมูตามประเทศต่างๆที่ได้รับการตรวจสอบว่าติดเชื้อยังอยู่ในระหว่างการตรวจสอบครับ ---------------------------------------------------------------------------- What about the pandemic risk? It is likely that most of people, especially those who do not have regular contact with pigs, do not have immunity to swine influenza viruses that can prevent the virus infection. If a swine virus established efficient human-to human transmission, it can cause an influenza pandemic. The impact of a pandemic caused by such a virus is difficult to predict: it depends on virulence of the virus, existing immunity among people, cross protection by antibodies acquired from seasonal influenza infection and host factors. Swine influenza viruses can give a rise to a hybrid virus by mixing with a human influenza virus and can cause pandemic. สรุปสั้นๆว่า คนที่กินเนื้อหมูปรุงสุก ยังก็ปลอดภัยชัวร์ หรือจะซื้อหมูมาทำอาหารเองที่บ้านก็ยังนับว่าค่อนข้างปลอดภัย คนที่เสี่ยงที่สุดคือคนที่สัมผัสกับหมูโดยตรง เช่น คนเลี้ยงหมู คนฆ่าหมู แต่สำหรับแม่ค้าขายหมูเสี่ยงน้อยกว่ามาก เนื่องจากไวรัสไข้หวัดใหญ่เป็นไวรัสที่ไม่ทนต่อสิ่งแวดล้อมครับ อยู่ได้ไม่นานเท่าไรนัก ที่น่ากลัวกว่าคือการติดต่อระหว่างคนสู่คน แก้ไขเมื่อ 04 พ.ค. 52 09:32:47 แก้ไขเมื่อ 04 พ.ค. 52 09:22:21 จากคุณ : Cryptomnesia - [ 4 พ.ค. 52 09:20:56 ]

ความคิดเห็นที่ 44 น.สพ.ดร.รุ่งโรจน์ ธนาวงษ์นุเวช ผู้เชี่ยวชาญไข้หวัดหมู ภาควิชาพยาธิวิทยา คณะสัตวแพทย์ศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า ไข้หวัดหมูในเมืองไทยมีอยู่แล้ว และโชคดีที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลง แต่ไม่รุนแรงเท่ากับเม็กซิโก ประกอบกับระบบการเลี้ยงหมูของบ้านเราดีกว่า ไม่มีการเลี้ยงต่างสายพันธุ์จึงลดโอกาสผสมผสานของเชื้อได้ ประกอบกับไม่มีการทำวัคซีนหมู ส่วนไข้หวัดหมูเม็กซิโกในบ้านเรายังไม่มี ซึ่งไข้หวัดหมูเม็กซิโกเกิดจากกลายพันธุ์ที่มีการผสมผสานยีนต์ต่างๆ ซึ่งไข้หวัดหมูเม็กซิโก คาดว่าจะมีเชื้อหวัดนกและหวัดคนไปสู่หมู และจากคนสู่คน กลายเป็นคนเป็นพาหะที่เป็นจุดสำคัญ ซึ่งจุดแรกที่สังเกตได้คือ อาการจะเหมือนไข้หวัด และคนงานส่วนใหญ่ที่เลี้ยงหมูในอเมริกาจะเป็นชาวเม็กซิโก เมื่อคนงานเหล่านี้กลับไปเม็กซิโกอาจมีภูมิต้านทานไม่ดี การรักษาไม่ค่อยดี ต่างจากอเมริกาที่เป็นแล้วหายเพราะมีการรักษาทันท่วงที และมีสุขอนามัยที่ดีกว่า ส่วนความต่างระหว่างไข้หวัดหมูกับไข้หวัดนกนั้น ไข้หวัดนกจะไปทุกระบบของร่างกาย แต่หวัดหมูจะไปเฉพาะทางเดินลมหายใจ เมื่อลมหายใจล้มเหลวก็ตายได้ ทั้งนี้การรับประทานเนื้อหมูไม่มีปัญหาที่น่ากลัว เพราะจะเกิดจากคนในการแพร่โรค ที่เดินทางจากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่ง โดพยเฉพาะจุดที่มีความเสี่ยง สำหรับหมูที่เป็นไข้หวัดหมูจะมีอาการจาม มีน้ำมูก 2-3 วันจะหายป่วยไม่เกินสัปดาห์ ยกเว้นมีการแทรกซ้อนจากอาการอื่น หรือสัตว์ตัวนั้นไม่เคยมีภูมิมาก่อน http://breakingnews.nationchannel.com/read.php?newsid=377196 ข่าว ณ วันที่ 4 พ.ค.52 --------------------------------------------------------------------- ประเด็นเรื่องทานเนื้อหมูนี่เป็นประเด็นสำคัญเหมือนกันนะ เพราะมันจะส่งผลกระทบต่อเนื่องไปยังระยะยาว ตอนนี้เราอาจยังไม่เห็นภาพ แต่เมื่อใดที่ความหวาดกลัวต่อโรคกระจายไปมากขึ้น อุปทานหมู่จะครอบงำให้ประชาชนไม่กล้าทานเนื้อหมู ผมเห็นว่ารัฐบาลควรออกมาประกาศอย่างเป็นทางการเพื่อให้ประชาชนคลายความกังวล (ตอนนี้มีแต่นักวิชาการออกมาพูด) เหมือนประเทศสหรัฐอเมริกาหรือญี่ปุ่นที่ประกาศไปแล้ว จากคุณ : Cryptomnesia - [ 4 พ.ค. 52 09:34:46 ]

ความคิดเห็นที่ 45 ขอบคุณคร้า... จากคุณ : nuanapa - [ 4 พ.ค. 52 10:06:54 ]

ความคิดเห็นที่ 46 ขอบคุณครับ จากคุณ : ผมมองโลกในแง่ร้าย - [ 4 พ.ค. 52 10:22:17 ]

ความคิดเห็นที่ 47 จากคห 13 ผมขอถามเรื่องการใช้วัคซีนนะครับ เคยได้ยินจากคุณหมอว่าวัคซีนไข้หวัดใหญ่ฉีดแล้วมีภูมิคุ้มกันอยู่ได้หนึ่งปี ผมสงสัยว่าจริงไหมครับถ้าจริงแล้วทำไมมันอยู่ได้แค่นั้น ร่างกายมีการลืมภูมิคุ้มกันหรือเปล่าครับ ทีวัคซีนฝีดาษฉีดแต่เด็กแล้วมีภูมิไปตลอด มันแตกต่างกับวัคซีนไข้หวัดใหญ่อย่างไร ขอบคุณครับ จากคุณ : eera (eera) - [ 4 พ.ค. 52 11:20:08 ]

ความคิดเห็นที่ 48 ภูมิคุ้มกันต่อโรคแต่ละโรคอยู่ได้นานไม่เท่ากัน เกี่ยวข้องกับคุณสมบัติเฉพาะของแอนติเจน-แอนติบอดีนั้นๆ (แต่โดยทั่วไป วัคซีนเชื้อเป็นจะกระตุ้นภูมิคุ้มกันได้ดีกว่าแต่อยู่ได้สั้นกว่าวัคซีนเชื้อตาย) ไม่สามารถคาดเดาหรือทำนายได้ วัคซีนวัณโรคฉีดแล้วมีภูมิตลอดชีวิต บาดทะยักอยู่ได้ 5 ปี ไข้หวัดใหญ่อยู่ได้ 1 ปี ฯลฯ ทั้งหมดนี้ได้จากการศึกษาเท่านั้นครับ ไม่มีกฏเกณฑ์ตายตัวแต่อย่างใด จากคุณ : Cryptomnesia - [ 4 พ.ค. 52 11:27:45 ]

ความคิดเห็นที่ 49 ขอบคุณค่ะ  ได้ความรู้ + การระมัดระวังตัวอย่างถูกต้อง จากคุณ : นู๋ขี้สงสัย - [ 4 พ.ค. 52 11:30:27 ]

ความคิดเห็นที่ 50 แสดงว่าอาจจะเกิดโรคในสุกรแต่อาการไม่รุนแรง แต่มารุ่นแรงในคน ใช่หรือป่าวครับ หมูปรุงสุกยังไงก็ปลอดภัยอยู่แล้ว แต่ หมูสดผมยังคิดว่ามันไม่ได้ปลอดภัยเต็ม 100% เพราะเชื้อสามารถติดต่อทางสิ่งคัดหลั่งซึ่งมันสามารถปนเปื้อนได้ และในอวัยวะในระบบทางเดินหายในก็ยิ่งมีความเสี่ยงมากขึ้นเช่น หัวหมู จมูก ช่องปาก ลิ้น ปอด ความจริงไม่น่าจะกลัวว่าคนจะตื่นตูมมากเกินไปแต่ควรให้คนระวังดีกว่า กันไว้ดีกว่าแก้ครับ ไม่ใช่จะบอกให้กลัวแต่ควรให้ความรู้ในการระวังป้องกัน วิธีการในการสัมผัสกับผลิตภัณฑ์สดๆจากสัตว์ ว่าควรป้องกันอย่างไรบ้างใส่ถุงมือ ใส่ผ้ากันเปื้อน ฯลฯ เมื่อทำงานเสร็จ ขายเสร็จ หรือ ประกอบอาหารเสร็จ ควรทำอย่างไรบ้าง เช่นล้างมือล้างอุปกรณ์ให้สะอาด อะไรแบบนี้ ยิ่งถ้าโรคไม่ก่ออาการรุ่นแรงในสัตว์ยิ่งน่ากลัวเพราะเราจะไม่รู้ว่ามันเกิดการระบาดขึ้นหรือป่าว เราจะไม่ให้ความสนใจใส่ใจและให้ความสำคัญกับการป้องกัน เป็นบ่อเกิดแห่งหายนะ ผมคิดว่าโรคคงไม่มาถึงในตอนนี้หรอกครับเพราะภูมิอากาศของประเทศเรายังไม่เป็นใจ แต่อีกไม่นานผมว่ายังไงมันต้องมาถึงแน่ๆ ดูอย่างไข้หวัดนกสิครับกว่าจะมาประเทศเราระยะเวลาเป็นปีๆ ตอนที่ระบาดในฮ่องกง ประเทศเรายังไม่ให้ความสนใจเท่าไรคิดว่าเป็นโรคของต่างประเทศ ไม่มีในประเทศ แล้วเป็นยังไง โลกปัจจุบันมันคมนาคมขนส่งเร็วติดจรวด โรคจึงแพร่ได้เร็วมาก คนอาจจะป้องกันได้ดี แต่ผมห่วงเรื่องการนำเข้าสัตว์นี่แหละครับ หน่วยงานที่รับผิดชอบให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มากน้อยแค่ไหน กลัวได้ข้อมูลว่ามันปลอดภัยๆ ไม่เป็นไรๆ นโยบายจากหน่วยเหนือก็เลยไม่เข้ม จะเป็นช่องโหว่ได้ เหมือนครั้งไข้หวัดนก กว่าเราจะรู้ตัวก็สายไปแล้ว จากคุณ : *--* - [ 4 พ.ค. 52 11:42:03 A:58.8.48.130 X: TicketID:175329 ]

ความคิดเห็นที่ 51 ใครจะได้ FW ฉบับนี้ แล้วกลับมาโพสอีกนน๊าาา จากคุณ : [v] (BONDJUNG_TH) - [ 4 พ.ค. 52 12:07:00 ]

ความคิดเห็นที่ 53 *โพสพลาด พยายามลบแต่ทำไมลบไม่ได้ก็ไม่รู้ www.blogspot.com www.palungjit.com แก้ไขเมื่อ 04 พ.ค. 52 14:06:11 แก้ไขเมื่อ 04 พ.ค. 52 13:58:40 แก้ไขเมื่อ 04 พ.ค. 52 13:35:58 แก้ไขเมื่อ 04 พ.ค. 52 12:49:10 จากคุณ : Cryptomnesia - [ 4 พ.ค. 52 12:38:12 ]

ความคิดเห็นที่ 54 สถานการณ์ปัจจุบันผมเข้าใจว่าเป็นอย่างนี้น่ะครับ ณ ปัจจุบัน ไม่พบผู้ที่ติดเชื้อจากหมูเพิ่มขึ้นเลย ช่องทางติดเชื้อหลักคือจากคนสู่คน จากคุณ : Cryptomnesia - [ 4 พ.ค. 52 12:49:36 ]

ความคิดเห็นที่ 55 อ่านเข้าใจง่าย ดีครับ ^^ น่าเอาไปแจกให้ชาวบ้านอ่านจัง ว่าแต่ ... รัฐบาลเค้าจะห่วงเรื่องนี้ไหมหว่า -.- จากคุณ : vn, man - [ 4 พ.ค. 52 13:12:09 ]

ความคิดเห็นที่ 56 Man infects pigs with swine flu on farm in Canada http://www.timesonline.co.uk/tol/news/world/article6215137.ece ความเห็นเรื่องกินหมูอาจเปลี่ยนไป โปรดติดตาม จากคุณ : Deckard - [ 4 พ.ค. 52 13:36:03 ]

ความคิดเห็นที่ 57 ^ ^ A farm worker in Canada has infected a herd of pigs with swine flu, the first documented case of the virus being passed from human beings to animals. The herd of pigs tested positive for the H1N1 virus after the worker returned from Mexico with the disease. The herd has been quarantined. เป็นในทางตรงข้ามนี่ครับ คือเชื้อไวรัสสายพันธุ์แพร่จากคนไปติดหมู แต่อย่างที่ว่า จงติดตามข่าวต่อไปด้วยใจระทึก ไม่แน่อาจมี case ที่พิสูจน์พบว่าเชื้อไวรัสจากเนื้อหมูมาติดคนก็ได้ จากคุณ : Cryptomnesia - [ 4 พ.ค. 52 13:40:56 ]

ความคิดเห็นที่ 58 อืมๆๆ ช่วยตอบนะคะ จากที่ถามว่าทำไมวัคซีนไข้หวัดใหญ่ถึงอยู่ได้ 1 ปี จากที่เราเคยฝึกงานที่บริษัทวัคซีนนะคะ พี่เค้าบอกว่า เนื่องจากพวกไวรัสไข้หวัดใหญ่ มันมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา แล้วก็มีมากมายหลายสายพันธุ์คะ ซึ่งไข้หวัดใหญ่ที่จะระบาดในแต่ละปี ก็จะมีเชื้อต่างๆกันไป เพราะฉะนั้น เค้าจะมีการเก็บขู้อมูล วิเคราะห์ แล้วก็จะผลิตวัคซีนออกมาให้ตรงกับที่คาดการณ์ไว้ว่าจะระบาดในช่วงปีนั้นๆอ่ะคะ แล้วในวัคซีน 1 เข็ม ก็ไม่ใช่ว่ามีสายพันธุ์เดียวนะคะ แต่จะมีหลายสายพันธุ์ที่คาดว่าจะเกิดการระบาดขึ้นคะ จากคุณ : ngbobber - [ 4 พ.ค. 52 13:54:06 ]

ความคิดเห็นที่ 59 ขอบคุณ #58 ครับที่ช่วยเสริม ว่าแล้วก็กลับไปแก้ #13 ด้วยเพิ่งนึกได้ว่าข้อมูลมันล้าสมัยไปแล้ว Each vaccine contains three influenza viruses-one A (H3N2) virus, one A (H1N1) virus, and one B virus. The viruses in the vaccine change each year based on international surveillance and scientists' estimations about which types and strains of viruses will circulate in a given year. http://www.cdc.gov/FLU/protect/keyfacts.htm จากคุณ : Cryptomnesia - [ 4 พ.ค. 52 14:04:53 ]

ความคิดเห็นที่ 60 อิอิ นานน้านนน จะตอบกระทู้ที่มีสาระได้สักที แอบดีจรายยยยคะ ปล. แอบตามดูกระทู้ คุณ : Cryptomnesia และคนอื่นๆอีกเยอะแยะด้วยคะ จากคุณ : ngbobber - [ 4 พ.ค. 52 14:18:09 ]

ความคิดเห็นที่ 61 Update ข้อมูลล่าสุดจาก BBC สีแดงคือติดเชื้อ สีดำคือตายสนิท ไม่ตรงกับรูปโลกในวิกิตาม #10 เนื่องจากในรูปนั้นรวมเอาผู้ที่เสียชีวิตโดยไม่ได้รับการยืนยันว่าเกิดจากไวรัสไปด้วย (suspected death) http://news.bbc.co.uk/2/hi/americas/8021547.stm จากคุณ : Cryptomnesia - [ 4 พ.ค. 52 14:55:54 ]

ความคิดเห็นที่ 62 ขอบคุณมากค่ะ อยากรู้พอดีว่า เชื้อนี้มันสามารถอยู่ในสภาวะแวดล้อมได้นานขนาดไหน กลัว เหมือน พวก IPD ที่อยู่ได้นานเป็นวัน ๆ แต่พออ่านแล้ว ก็เบาใจลงเยอะค่ะ จากคุณ : รัตติกัลยา - [ 4 พ.ค. 52 16:37:07 ]

ความคิดเห็นที่ 63 เพิ่งไปฟังบรรยายวิชาการเรื่อง "ไข้หวัดใหญ่สายพันธ์ใหม่ 2009" ที่ศิริราชมาเมื่อบ่ายสองนี่เอง มาเก็บเกี่ยวความรู้อีกที ถ้าถอดเทปทัน จะเอาข้อมูลมาลงให้นะ * บรรยายโดย ศ.ดร.กุลกัญญา โชคไพบูลย์ และ ศ.ดร.พิไลพันธ์ พุธวัฒนะ จากคุณ : น้องหยิก - [ 4 พ.ค. 52 16:44:38 ]

ความคิดเห็นที่ 64 ^ ^ "ไวรัส ..โลกตะลึง" ไปฟังมาเหมือนกันค่ะ ^^ มานั่งรอสรุปที่ถอดมาจากเทปด้วยอีกคนนะคะ ไม่ได้อัด และไม่ได้จด -*- จากคุณ : มามั่ว - [ 4 พ.ค. 52 18:38:44 ]

ความคิดเห็นที่ 65 กำลังอยากได้ข้อมูลพอดีเลยครับ  ขอบคุณคุณCrypนะครับนะ.. จากคุณ : ไม้ไผ่โย่ง - [ 4 พ.ค. 52 19:44:21 ]

ความคิดเห็นที่ 66 ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับข้อมูลเสริมครับ ไข้หวัดใหญ่เม็กซิโกเปลี่ยนชื่ออีกแล้ว คราวนี้เราต้องเรียกว่า "ไข้หวัดใหญ่ 2009" ที่เปลี่ยนก็เนื่องจากมีการพิสูจน์พบว่า เชื้อไวรัสไม่ได้เริ่มต้นที่เม็กซิโก ผู้ติดเชื้อคนแรกเป็นเด็กอายุ 10 ขวบจากสหรัฐอเมริกา (อีกไม่นาน เข้าใจว่าคงจะมีการเปลี่ยนชื่ออีก) แก้ไขเมื่อ 04 พ.ค. 52 22:56:18 แก้ไขเมื่อ 04 พ.ค. 52 22:56:15 จากคุณ : Cryptomnesia - [ 4 พ.ค. 52 22:25:10 ]

ความคิดเห็นที่ 67 กะลังจะไปฮ่องกงวันศุกร์นี้ก่ะ T^T พยายามโด้ปตัวเองสุดฤทธิ์ ตอนนี้ ไม่ได้แพนิกอะไรหรอกค่ะ กลัวโดน quarantine T=T จากคุณ : PADAPA--DOO - [ 4 พ.ค. 52 23:22:27 ]

ความคิดเห็นที่ 68 เข้ามาอ่านอัพเดทข้อมูลครับ จากคุณ : C.ker - [ วันฉัตรมงคล 00:50:29 ]

ความคิดเห็นที่ 69 ที่มหาลัยที่เรียนอยู่ก็มีประกาศแถลงว่า นักศึกษาของมหาลัย อัพเกรดจาก suspect เป็น probable case of swine flu  แต่โดยรวมเหตุการณ์ยังปกติดี  ตัวเองก็พยายามระวังตัวอยู่เหมือนกัน ขอบคุณเจ้าของกระทู้ที่ให้ความรู้ค่ะ จากคุณ : ยะอิ3010 - [ วันฉัตรมงคล 08:24:35 ]

ความคิดเห็นที่ 70 ิอ่านจบแล้วเซ็งอย่าง ข้อมูลจาก สธ. ยังไม่ละเอียดเท่าที่คุณ crypt เอามาโพสท์ให้อ่านเลย! จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง - [ วันฉัตรมงคล 10:48:20 ]

ความคิดเห็นที่ 71 ไข้หวัดใหญ่เม็กซิโกเปลี่ยนชื่ออีกแล้ว คราวนี้เราต้องเรียกว่า "ไข้หวัดใหญ่ 2009" ที่เปลี่ยนก็เนื่องจากมีการพิสูจน์พบว่า เชื้อไวรัสไม่ได้เริ่มต้นที่เม็กซิโก ผู้ติดเชื้อคนแรกเป็นเด็กอายุ 10 ขวบจากสหรัฐอเมริกา ^ ^ ^ ^ ^ แสดงว่าพี่กันนี่ ไม่ยอมให้ชื่อประเทศตัวเอง ไปเป็นชื่อไข้หวัดสินะครับ ที่ประเทศอื่นละ จ้องจะใช้เชียวนะ หุหุ จากคุณ : HanaToKaze - [ วันฉัตรมงคล 12:47:57 ]

ความคิดเห็นที่ 72 ดู #61 แล้วสงสัยว่า ทำไม mexico ตายตั้ง 19 คน แต่ประเทศอื่นก็ติดเชื้อเยอะ แต่ไม่ตายกัน หรือเป็นเพราะสาธารณสุขคะ?? จริงๆแล้ว มันไม่ค่อยน่ากลัวอะไรมากเปล่าหว่า ติดแล้วยังมีชีวิตอยู่ได้เรื่อยๆ ไม่ถึงกับตายใช่ไหม ถ้าให้ยาเรื่อยๆ ตอนแรกที่ได้ยินข่าวใหม่ๆ นึกว่าติดแล้วตายเลยซะอีก :P จากคุณ : Pretty_Cute_Girl - [ วันฉัตรมงคล 22:51:39 ]

ความคิดเห็นที่ 73 ยังดีที่ยังไม่เข้ามาแถวเมืองไทยนะคะ จากคุณ : นู๋ขี้สงสัย - [ 6 พ.ค. 52 08:32:21 ]

ความคิดเห็นที่ 74 เพิ่งเดินทางจากประเทศที่มีการติดเชื้อของโรคนี้ ต้องมาเปลี่ยนเครื่องที่ญี่ปุ่นก่อนมาถึงไทย อยากบอกว่าที่ญี่ปุ่นเค้ามีการเฝ้าระวังผู้ติดเชื้อได้ดีมากๆ พอเครื่องลงมาถึงงวงเค้าจะไม่ให้เราลงจากเครื่องทันที เหมือนเค้าจะใช้เครื่องพ่นฆ่าเชื้อในอากาศพ่นเข้ามาในตัวเครื่องก่อนเพราะเราได้กลิ่นเหมือนคลอรีน (มาอ่านจากกระทู้นี้อีกทีถึงรู้ว่าคลอรีนฆ่าเชื้อนี้ได้) หลังจากนั้นจะมีเจ้าหน้าที่ใส่แว่นใส่ที่กรองอากาศอันใหญ่เข้ามาในเครื่อง ใช้กล้องตรวจจับความร้อนหน้าตาคล้ายๆกล้องHandyCamมาเดินส่องผู้โดยสารทีละคนๆอย่างช้าๆ มีกรอกเอกสารนิดหน่อย ขั้นตอนตรวจจะใช้เวลาประมาณ30-40นาทีแล้วถึงจะปล่อยลงจากเครื่อง เราว่าดีมากๆเลยเพราะถ้าไปตรวจใน อาคารเชื้อก็อาจจะแพร่ได้ก็ตรวจมันในเครื่องนี่แหละ โชคดีว่าเครื่องเราไม่พบผู้ติดเชื้อ พอถึงสุวรรณภูมิเราคิดว่าคงจะมีด่านตรวจที่ไทยอีก ปรากฏว่าไม่มี งงมากๆ พอลงจากเครื่องก็ไปที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองเลย ถ้ามีผู้ติดเชื้อก็คงติดกันทั้งสนามบินไปแล้ว เราไม่ได้ฟังข่าวว่าไทยมีมาตราการยังไงนะคะ แว่วๆว่าจะใช้กล้องจับความร้อนเหมือนกันแต่ไม่เห็นมีเลย ไม่แน่ใจด้วยว่าที่เค้าไม่ตรวจเที่ยวบินเราเพราะว่าเป็นเครื่องมาจากญี่ปุ่นไม่ใช่มาจากประเทศเสี่ยงโดยตรงรึเปล่า อาจจะไม่ได้คิดเลยว่าคนที่ต้องเปลี่ยนเครื่องแต่มาจากประเทศเสี่ยงก็มี เราคิดว่ามันเป็นไปได้ที่จะมีคนติดเชื้อผ่านเข้ามาในไทย อยากให้เฝ้าระวังอย่างจริงจังกันมากกว่านี้ค่ะ ไม่ใช่วัวหายแล้วค่อยมาล้อมคอก ยังไงถ้าใครจะต้องเดินทางก็ต้องรักษาตัวกันดีๆนะคะ จากคุณ : Murasagi - [ 6 พ.ค. 52 14:44:40 ]

ความคิดเห็นที่ 75 Tamiflu ดื้อยาแล้วเหรอ!! จากคุณ : tenmaki - [ 6 พ.ค. 52 22:05:38 ]

ความคิดเห็นที่ 76 ขอบคุณคร้าบ :D แต่ผมสงสารหมูอียิปต์อะ ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ จากคุณ : ตัวตุ่นตามัว - [ 7 พ.ค. 52 00:57:04 ]

ความคิดเห็นที่ 77 ขอออกตัวว่าไม่ได้อ่านทั้งหมดนะคะ อ่านแค่ช่วงท้ายๆ  นับจากวันที่ข่าวไข้หวัดแม็กซิโกระบาดเป็นต้นมาก็พึ่งมีวันนี้แหละที่มีเวลาว่างเล็กน้อย  จึงมาเช็คความคิดเห็นผู้คนดู คำถามว่าเราควรจะทานหมูดีมั้ย  ได้ไหม  ก็คงจะตอบได้ว่า  ทานหมูสุกยังไงก็ไม่มีปัญหาอยู่แล้วค่ะ  ส่วนเรื่องราคาหมูแพงนั่นก็เป็นอีกเรื่องนึง  เรื่องหมูนำเข้านั้นน่าจะตัดปัญหาตรงส่วนนั้นไปได้เลยค่ะ  เพราะกระทรวงเกษตรและสหกรณ์  โดยกรมปศุสัตว์ส่งห้ามนำเข้าเนื้อหมูและชิ้นส่วนอื่นๆ พวกเครื่องในและกระดูกจากประเทศที่มีความเสี่ยง  เช่น  เม็กซิโก  อเมริกา  แคนาดา  ตั้งแต่วันแรกที่มีข่าวเรื่องนี้แล้วด้วยซ้ำ  (๒๕ เม.ย.)  ประเทศไทยเราเป็นผู้ผลิตหมูรายใหญ่ที่มีเยอะจนส่งออกไปยังประเทศอื่นๆได้  ส่วนที่นำเข้ามาเป็นส่วนน้อยนั้นไม่ใช่เนื้อหมูค่ะ  แต่เป็นเครื่องใน  และส่วนต่าง  นำเข้ามาเพื่อทำอาหารสัตว์ค่ะ   ส่วนเรื่องหมูในเมืองไทยนั้น  จะมีโรคนี้หรือไม่  ก็ต้องคิดกันก่อนตรงนี้ว่า  โดยปกติแล้วหมูเป็นไข้หวัดใหญ่ได้เหมือนกับคนนะคะ  คนติดหมู  หมูติดคน  หมูเป็นหวัด  หมูกินยาคน  ก็มีให้เห็นมาเป็นหลายสิบปีแล้ว  ไข้หวัดใหญ่ในหมูไม่ใช่ของใหม่  การที่ไข้หวัดใหญ่จากหมูมาติดคนก็ไม่ใช่ของใหม่ค่ะ  ถ้าดูเอกสารอ้างอิงกันจริงๆมีบันทึกเรื่องนี้ไว้มากมาย  รวมทั้งรายงานล่าสุดรายที่มาจากเมืองไทยเองก็มีเมื่อสี่ห้าปีก่อน   ถามว่าแล้วทำไมไข้หวัดเม็กซิโกถึงได้ดังมากมาย  ก็คงเพราะว่า หนึ่ง  ปกติแล้วการติดไข้หวัดใหญ่เกิดจากสัตว์สู่คน ได้ก็จริง  แต่มักไม่เกิดการแพร่กระจายในวงกว้าง  ส่วนใหญ่แล้ว  ติดมาสู่คนๆนั้น  แล้วก็หายไป  ไม่ส่งต่อเชื้อให้คนอื่นได้  แต่ไข้หวัดแม็กซิโกสามารถที่จะถ่ายทอดจากคนมาสู่คนได้หลายๆทอด สอง  มีรายงานผู้เสียชีวิตมากมาย  ต้องทำความเข้าใจกันก่อนว่า  โดยปกติแล้ว  ไข้หวัดใหญ่ที่แพร่ระบาดกันทุกปีนั้นก็ทำให้คนตายได้เหมือนกันจากโรคแทรกซ้อน  เช่น ปอดบวม  อัตราการตายอยู่ที่ ๑-๒ เปอร์เซ็นต์  ในขณะที่ไข้หวัดแม็กซิโกตัวปัจจุบันนี้ (อนาคตนั้นอีกเรื่องนึง)  มีอัตราการตายอยู่ที่ ๐.๖-๖ เปอร์เซ็นต์  ซึ่งขึ้นอยู่กับระบบเฝ้าระวัง  และระบบสาธารณสุขในประเทศนั้นๆ  เป็นหลัก  รวมทั้ง  จำนวนคนติดเชื้อซึ่งสามารถแยกเชื้อได้  อาจจะมีคนอีเป็นจำนวนมากกว่านี้ที่ติดเชื้อ  แต่ไม่แสดงอาการ  แสดงอาการน้อยมาก  แสดงอาการแต่ไม่ได้เข้าถึงระบบสาธารณสุขจึงไม่ได้มีการตรวจแยกเชื้อ  ซึ่งเมื่อรวมจำนวนเหล่านี้เข้าไปด้วยอัตราการตาย  ก็น่าจะใกล้เคียงกับไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์อื่นๆ  ซึ่งจริงๆแล้ว  มนุษย์เราเคยถูกไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์อื่นโจมตีมาหนักกว่านี้ด้วยซ้ำ  ไม่ว่าจะเป็นเชื้อไข้หวัดสเปน ปี ๑๙๑๘  หรือ  ใกล้ตัวหน่อยก็เอเชียนฟลูหรือ  ฮ่องกงฟลู ปี ๑๙๕๒(?อันนี้ไม่ชัวร์ปี) ซึ่งตัวนี้เนี่ยระบาดหนักในเมืองไทยด้วย  ใครมีพ่อแม่อายุเกิน ๕๕  ไปถามดูได้  น่าจะจำกันได้ดี  มีการหยุดเรียนกันเป็นอาทิตย์ๆเลย  เขาว่างั้น  (เรายังไม่แก่ขนาดนั้นนะ  ฮา)  ซึ่งจริงๆ  แล้ว  ไข้หวัดนก  และซาร์น่ากลัวกว่าไข้หวัดแม็กซิกันนี้มากมาย   แต่ถ้าหากเชื้อตัวนี้เปลี่ยนไปมีความรุนแรงมากขึ้นนั้นก็เป็นอีกเรื่องนึงนะ สาม  ไข้หวัดหมูตัวนี้มีลักษณะทางพันธุกรรมที่จับเอาทั้งเอเวียนและคนมาอยู่ในไวรัสตัวเดียวกันจึงน่าสนใจ  แต่หากเราลองเอารหัสพันธุกรรมของมันมาเทียบดูแล้วจะเห็นว่ามันมีการวิวัฒนาการลักษณะนี้มาระยะหนึ่งแล้ว  และแพร่ระบาดอยู่ในหมู (ที่ตรวจพบได้) มาตั้งแต่ปี ๑๙๙๙ ไม่ใช่แต่เฉพาะในเมกาหรือยุโรป  แม้แต่ในเมืองไทยก็เคยเจอนะจ๊ะ สี่  เชื้อตัวนี้ไม่ดื้อยาโอเซลทามิเวียร์  เป็นช่องทางให้บริษัทยาสามารถโฆษนาขายยาของตัวได้เป็นอย่างดี  ในสถานการณ์ที่มีการดื้อยาตัวนี้ของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์อื่นๆที่ระบาดอยู่ทั่วโลกและมีความต้องการยาตัวนี้ลดลงอย่างมาก  เป็นผลให้หุ้นบริษัทยาสูงขึ้นพรวดๆ  (อันนี้ไม่คอนเฟิร์มว่าเกี่ยวไหม  แต่น่าคิดนะจ๊ะ) ดังนั้น  ไข้หวัดแม็กซิกัน  ในขณะนี้  สายพันธุ์ปัจจุบันนี้ยังไม่น่ากลัว  ถ้าหากมีการเปลี่ยนสายพันธุ์ไปก็อาจจะน่ากลัวได้  แต่ในขณะนี้ไม่ต้องตื่นตระหนกจนเกินไป  วิธีป้องกันตัวเองและผู้อื่นที่ดีที่สุดคือ  ไอจามให้ใช้ผ้าหรือกระดาษทิชชูปิดปาก  ไม่ใช่มือนะจ๊ะ  ล้างมือบ่อยๆ  ไม่ควรขยี้ตาหรือจมูกโดยเฉพาะถ้าไม่ได้ล้างมือ  หากมีอาการป่วย  หรือสงสัยว่าป่วยให้ไปพบแพทย์  โดยควรจะสวมหน้ากากอนามัยด้วยในขณะที่ป่วยจ๊ะ ส่วนเรื่องวัคซีนนั้นคงไม่นานเกินรอโดยปกติการผลิตวัคซีนไข้หวัดใหญ่นั้นใช้เวลาประมาณหกเดือน  ก็น่าจะประมาณหกเดือนเช่นกันจ๊ะ จากคุณ : ปีศาจหมูน้อยไม่น่ากลัวขนาดนั้น (Kobutazila) - [ 7 พ.ค. 52 23:56:15 ]

ความคิดเห็นที่ 78 เสริมนิดนึง ผู้มีหน้าที่เกี่ยวข้องเองพยายามทำทุกอย่างที่ดีที่สุดต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจริงสำหรับประเทศไทย  การห้ามไม่ให้คนเข้าออกนอกประเทศเป็นเรื่องห้ามไม่ได้  การห้ามคนไทยในต่างแดนไม่ให้กลับบ้านยิ่งเป็นไปไม่ได้ใหญ่  มาตรการป้องกันและจำกัดเชื้อมีอยู่  แล้วเคยใช้มาแล้ว  ซึ่งเคยได้ผลดีจนเป็นโมเดลให้กับประเทศอื่นได้  (เรื่องไข้หวัดนก)  และก็ได้กระทำอยู่ และทุกคนพยายามทำหน้าที่ของตัวเองกันอย่างหนัก  เพื่อผลประโยชน์ของประเทศชาติเป็นที่ตั้ง  อาจไม่ได้ดั่งใจของคนทุกคน  ซึ่งเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว  แต่ขอย้ำว่าทุกคนที่มีหน้าที่รับผิดชอบใช้ผลประโยชน์ของชาติเป็นหลักในการตัดสินใจ  และกระทำงานทุกอย่าง  ขณะที่คุณนั่งดูข่าวอยูกับบ้าน  คนอีกหลายคนที่มีหน้าที่รับผืดชอบเกี่ยวข้อง  ต้องวิ่งวุ่นอดหลับอดนอนกันเป็นอาทิตย์ๆ โดยที่คุณอาจไม่ได้รับรู้ก็ได้  ใจเขาใจเรานะคะ แก้ไขเมื่อ 08 พ.ค. 52 00:11:18 จากคุณ : ปีศาจหมูน้อยไม่น่ากลัวขนาดนั้น (Kobutazila) - [ วันวิสาขบูชา 00:04:11 ]

ความคิดเห็นที่ 79 ขอความเห็นเรื่องที่ว่าเป็นไปได้ไหม ที่โรคนี้แพร่กระจายแล้ว กลุ่มพ่อค้ายาจะได้ผลประโยชน์มหาศาล โดยเฉพาะ Tamiflu เราพึ่งกลับจาก ซีแอทเทิล, USA เมือห้าวันที่แล้ว พอมาถึงทางมหาลัยที่สิงคโปร์ที่เราทำงานอยู่ขณะนี้ (HR )ก็แจ้งว่าให้เราอยู่บ้านเพือ่ Quarantineอย่างน้อยหนึ่งสัปดาห์ พร้อมทั้งแจ้งผ่านเวบไซต์ temperature record ไปยัง HR ทุกวันๆละสองครั้ง แต่เมื่อวานแปลกใจมาก ทำไมมีคนแอบอ้างเป็นหมอโทรมาหาเรา แล้วบอกว่าวันนี้ไปทำงานได้ เราเลยเชื่อ วันนี้ไปถึงที่ทำงานปรากฏว่าโดน school ไล่กลับมาบ้าน เนื่องจากไม่อนุญาตให้เราออกมาทำงานได้จนกว่าจะถึงวันจันทร์หน้า พร้อมทั้งให้ตรวจสอบกลับไปด้วยว่าสายที่โทรมาเป็นใคร แต่เราโทรไปแล้วไม่มีคนรับ โชคดีหน่อยทางสคูลรับทราบเรื่องแล้ว แต่ตอนนี้ใจไม่ดีเลย ไม่เคยเจอเรื่องแบบนี้ จากคุณ : NTU-staff - [ วันวิสาขบูชา 12:41:23 A:202.156.10.237 X: TicketID:007828 ]

ความคิดเห็นที่ 80 statement from WHO Joint FAO/WHO/OIE Statement 7 May 2009 Joint FAO/WHO/OIE Statement on influenza A(H1N1) and the safety of pork To avoid any misunderstanding FAO, WHO and OIE would like to reissue their joint statement originally issued on 30 April. In the ongoing spread of influenza A(H1N1), concerns about the possibility of this virus being found in pigs and the safety of pork and pork products have been raised. Related links INFOSAN information note Influenza viruses are not known to be transmissible to people through eating processed pork or other food products derived from pigs. Heat treatments commonly used in cooking meat (e.g. 70°C/160°F core temperature) will readily inactivate any viruses potentially present in raw meat products. Pork and pork products, handled in accordance with good hygienic practices recommended by the WHO , Codex Alimentarius Commission and the OIE, will not be a source of infection Authorities and consumers should ensure that meat from sick pigs or pigs found dead are not processed or used for human consumption under any circumstances. http://www.who.int/mediacentre/news/statements/2009/h1n1_20090430/en/index.html จากคุณ : Deckard - [ วันวิสาขบูชา 15:25:31 ]

ความคิดเห็นที่ 81 ตั้งชื่อใหม่เป็น ไข้หวัดใหญ่อุษา ( USA Flu) ไม่ได้เหรอครับ ถ้าพิสูจน์ทราบได้แน่ชัดแล้ว แม็กซิโกจะฟ้องศาลโลกในข้อหาหมิ่นประมาท หรือฟ้องทางแพ่งทำให้ประเทศต้องเสียรายได้จากการที่เอาชื่อประเทศมาตั้งอะไรแบบนี้ได้มั้ยครับ จากคุณ : Lanoz - [ วันวิสาขบูชา 19:17:46 ]

ความคิดเห็นที่ 82 อยากทราบว่า H1N1 ปี 2009 กับ ไข้หวัดสเปน H1N1 ปี 1918 ต่างกันอย่างไรครับ จากคุณ : npn - [ วันวิสาขบูชา 22:27:32 ]

ความคิดเห็นที่ 83 คห.14 ถูกใจมากๆเลย จากคุณ : ลูกเป็ดขี้เกียจ - [ วันวิสาขบูชา 23:15:29 ]

ความคิดเห็นที่ 84 มีประโยชน์มาก ๆ เลยครับ จากคุณ : Necessary - [ 9 พ.ค. 52 13:59:13 ]

ความคิดเห็นที่ 85 ขอบคุณสำหรับข้อมูลนะคะ ได้ความรู้จากกระทู้นี้เยอะเลยค่ะ จากคุณ : SFFC - [ 9 พ.ค. 52 19:15:52 ]

ความคิดเห็นที่ 86 จขกท เมพจิงๆ :) จากคุณ : ราชันย์พันทัพ - [ 10 พ.ค. 52 22:53:42 ]