ในฐานะที่เป็นนักเดินเรือคนหนึ่ง ผมต้องของแก้ต่างให้กับนักเดินเรือ รุ่นบรรพกาลซักนิดนะขอรับ
แม้ว่าจีนจะเป็นชนชาติแรก ที่ได้รู้จักเข็มทิศ แต่ก็มิได้แปลว่า ชั่งโมงแรกแห่งการเดินเรือจะเป็นจุดเริ่ม ณ.ตรงนั้น หากแต่เป็นมิติใหม่แห่งอุปกรณ์เดินเรือเท่านั้นเอง
"นักเดินเรือที่แท้ใช้ดาวนำทาง" ท่านๆ คิดว่า ตามองดาว แล้วเราก็เดินเรือไป มุ่งไปสู่ดาวนั้นยันรุ่งเช้า แล้วเราจะถึงที่หมาย นั้นก็เป็นเรื่องชวนหัวอย่างยิ่ง แท้จริงแล้ว ดาวดวงนั้นจะต้องได้รับการคำนวน ด้วยมากมายหลายหน้ากระดาษ ซึ่งต้องเข้าเงื่อนใขที่ว่า
1.ต้องมีแสงแดด
2.ต้องมีเส้นขอบฟ้า
3.ต้องมีดาว
4.ดาวต้องสูงจากขอบฟ้าไม่เกิน 40องศา
5.ดาวทั้งสามดวงต้องทำมุมซึ่งกันและกัน ไม่น้อยกว่า 40 องศา และไม่เกิน 90 องศา
เวลาจะต้องตรง ทะเลจะต้องเรียบปานกลางที่สำคัญ ดาวมีขึ้นมีตก ขืนหันหัวเรือตามมัน มีหวังได้วนอยู่ที่เดิม เป็นแน่
ที่พูดมาทั้งหมดนี้
เพื่อจะบอกว่า "ทฤษฎี เข็มทิศเบี้ยวๆ กับสนามแม่แหล็กโลกเพี้ยนๆ" ไม่สามารถจมเรือผมได้หร๊อก
จึงอยากให้ทิ้งความคิดเดิมๆ แล้วฟังทางนี้หน่อย ครับว่า Sea Man เราไม่ได้อ่อนต่อโลกขนาดนั้น
อยากแรก ผมอาจจะบอกได้ว่า นักเดินเรือเป็นกลุ่ม อาชีพแรกๆ ที่รู้ว่า เข็มทิศไม่ได้ชี้ทิศเหนือจริง??????????
โฮ่ น่าตกใจมั้ย ก็แหม ดาวเหนือมันก็ฟ้องออกอย่างนั้นใครเชื่อเข็มก็บ้าแล้ว เพราะมันขัดกับความรู้ที่สืบทอดกันมา อ้าวแล้วทำมัยยังใช้เข็มทิศ ก็เพราะว่ามันสามารถชี้ทิศประจำได้อยู่ทิศนึง แล้วทิศที่ว่านี้มันใกล้เคียงกับทิศเหนืออะดิ่
ชาวเรือไม่โง่นะครับ ไม่ใช่ว่าแหม เห็นเข็มอะไรไม่รู้ทาสีแดงๆแล้วเขียนว่า N จะแปลว่าเนี่ยเหนือก็ตาลีตาลาน เดินเรือตามนั้นแล้วก็จม หากใครคิดอย่างนั้น ผมว่ามันออกจะดูถูกเกินไปหน่อย
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เรียนกันในชั่วโมงแรกๆของการเดินเรือครับคือจะต้องเรียนรู้ถึงความผิดพลาดของเข็มทิศแม่เหล็กซะก่อน
โดย
C คือทิศเดินเรือที่ต้องการจะไป
D คือดิวิเอชั่น
M คือเข็มแม่เหล็ก
V คือวาริเอชั่น
T คือทิศจริงในการเดินเรือ
จากคุณ :
หน้าไม้ใจเย็นยิ่ง
- [
9 พ.ค. 52 13:47:18
]