ความคิดเห็นที่ 1 ในช่วงทศวรรษ 1980 ความรู้ด้านคอมพิวเตอร์ไวรัส กลายเป็นหัวข้อศึกษา Jurgen Kraus เขียนวิทยานิพนธ์ปริญญาโท ว่าด้วย self-reproduction of programs จนในปี 1983 เฟรดเดริก โคเฮน(Frederick Cohen) ร่วมกับอาจารย์ของตน คือ เลโอนาร์ด เอเดลแมน(Leonard Adleman) ก็สร้างคำว่า ไวรัสคอมพิวเตอร์ และ นิยามของคำว่าติดเชื้อ(Infect) ขึ้น เรื่องน่าเศร้าคือ ในปี 1987 โคเฮน ประสบผลสำเร็จในการพิสูจน์ว่า ไม่มีอัลกอริทึมใด สามารถป้องกันไวรัสได้สมบูรณ์แบบ(there is no algorithm that can perfectly detect all possible viruses.) อย่างที่เคยบอกไปแล้วว่าไวรัส ไม่ได้เขียนยาก ในปี 1981 Elk Cloner ไวรัสบู๊ตเซคเตอร์ตัวแรกๆ ถูกพัฒนาโดย ริชาร์ด สเครนก้า ซึ่งในขณะนั้นมีอายุเพียง 15 ปี เพื่อไว้แกล้งเพื่อนๆ สเครนก้า ชอบเล่นแผลงๆจนไม่มีใครกล้ารับซอฟแวร์จากเขาอีก ไวรัสตัวนี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อ เขาจะได้แกล้งคนอื่นได้ โดยไม่ต้องเข้าถึงคอมพิวเตอร์ของคนอื่นๆ Elk Cloner ประสบความสำเร็จอย่างสูง คือเพื่อนๆของสเครนก้าโดนกันทั่วหน้าและหัวเสียมาก โดยไม่มีความเสียหายร้ายแรงอะไรเกิดขึ้น แก้ไขเมื่อ 11 พ.ค. 52 11:31:37 จากคุณ : house (panote_saechiew) - [ 11 พ.ค. 52 11:30:03 ]

ความคิดเห็นที่ 2 มกราคม 1986 IBM Virus ตัวแรกของโลกกำเนิดขึ้นในชื่อ @Brain หรือ ไข้หวัดปากีสถาน(Pakistan flu) โดยพี่น้อง ฟารุค อัลวี(Farooq Alvi) ไวรัสนี้จะทำให้การทำงานของฟล็อปปี้ดิสต์ช้าลง พร้อมทั้งแสดงชื่อที่อยู่ของพวกเขาบนหน้าจอ ไวรัสนี้แนบไปกับ ซอฟแวร์ ระบบรักษาพยาบาล ที่พี่น้องคู่นี้ผลิตขาย ผู้ที่จ่ายเงินซื้อ ก็จะได้ตัวแอนตี้ไวรัส ไปล้างเครื่อง คนก๊อปปี้ ก็จะโดนไวรัสหลอกหลอนอยู่อย่างนั้นแหละ ผลที่เกิดขึ้นคือการก๊อปปี้โปรแกรมของพวกเขากว้างขวางมาก จนสองพี่น้องต้องรับโทรศัพท์ทั้งวันทั้งคืน ผลลงท้ายคือต้องตัดสายโทรศัพท์ทิ้ง แล้วโอดครวญไว้ ว่า ไม่น่าใส่เบอร์โทรไปเล้ย.. พอถึงปลายปีเดียวกัน CCC องค์กรแฮกเกอร์ในเยอรมัน(ยังอยู่นะครับ) ก็ประกาศความสำเร็จในการสร้างไวรัส ที่เกาะไปกับไฟล์ .com และ .exe ได้เป็นครั้งแรก 1987 ปีทองของไวรัสโดยแท้ เมื่อไวรัสหลากสายพันธ์อาละวาดไปทั่วโลก โดยมีแหล่งกำเนิดจากทั้ง อเมริกา อิตาลี นิวซีแลนด์ ไอบีเอ็ม เริ่มต้นพัฒนา ผลิตภัณฑ์แอนตี้ไวรัส เพื่อออกจำหน่ายในที่สุด แก้ไขเมื่อ 11 พ.ค. 52 11:48:09 จากคุณ : house (panote_saechiew) - [ 11 พ.ค. 52 11:41:36 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ในเดือนธันวาคม ไวรัสที่สามารถส่งผลกระทบผ่านระบบเครือข่ายตัวแรกได้ถูกสร้างขึ้น โดยนิสิตใน มหาวิทยาลัย Clausthal University of Technology มันจะกระจายตัวผ่านเครือข่ายแล้ววาดรูป ต้นคริสมาสขึ้นบนหน้าจอ ชื่อของมันคือ Christmas Tree EXEC 1988 นิสิตคนหนึ่งของมหาวิทยาลัยคอเนล เกิดอยากรู้ว่า อินเตอร์เน็ตมีขนาดเท่าไหร่ จึงเขียนโปรแกรมเล็กๆขึ้นมาตัวหนึ่ง มันจะทำการก๊อปปี้ตัวเองไปตามเครื่องต่างๆ ตรวจว่าเครื่องใดยังไม่มีตัวมันอยู่บ้าง แล้วก็หาทางเล็ดลอดเข้าไป โดยวิธีนี้นิสิตคนนั้นคาดหวังว่า เขาจะสามารถประเมินจำนวนของคอมพิวเตอร์บนอินเตอร์เน็ตได้ น่าเสียดาย โปรแกรมเล็กๆ ที่เขียนโดยเจตนาไม่ร้ายแรงนี้กลับให้ผลร้ายสุดหยั่งคาด การแพร่ขยายรวดเร็วกว่าที่คิด และหลายๆเครื่องมีซอฟแวร์นี้มากกว่า 1 ตัวทำงานอยู่พร้อมกัน ซึ่งทำให้เครื่องช้าลงจนถึงขั้นหยุดทำงาน(และทำให้นับจำนวนคอมบนอินเตอร์เน็ตผิดอยู่ดี)มีการคาดคะเนความเสียหายว่า อยู่ระหว่าง 10-100 ล้าน โรเบิร์ต มอริส รับสารภาพ และได้รับทัณฑ์บน 3 เดือน รับใช้สังคม 400 ชั่วโมง และ ค่าปรับอีก 10,000 ดอลลาห์ DARPA มอบทุน เพื่อก่อตั้ง CERT ศูนย์ประสานงานด้านระบบความปลอดภัยคอมพิวเตอร์ ขึ้นที่มหาวิทยาลัยคาเนกี้เมลอน หลังจากเห็นอำนาจทำลายล้าง ของ มอริส เวิร์ม ในปีเดียวกัน จากคุณ : house (panote_saechiew) - [ 11 พ.ค. 52 11:54:49 ]

ความคิดเห็นที่ 4 มีคนสนใจรึเปล่าไม่รู้ แต่เผ่นไปกินข้าวก่อนละครับ ถ้ามีคนสนใจ เ้ย็นนี้ไว้จะมาต่อ(หรือใครจะแจมก็ได้ ผมรู้ว่าหว้ากอ เซียนคอมเยอะ) http://en.wikipedia.org/wiki/Computer_virus http://en.wikipedia.org/wiki/Fred_Cohen http://en.wikipedia.org/wiki/Timeline_of_notable_computer_viruses_and_worms http://en.wikipedia.org/wiki/Elk_Cloner http://en.wikipedia.org/wiki/Richard_Skrenta http://en.wikipedia.org/wiki/Pakistani_flu http://en.wikipedia.org/wiki/Chaos_Computer_Club http://en.wikipedia.org/wiki/Christmas_Tree_EXEC http://en.wikipedia.org/wiki/Morris_worm http://en.wikipedia.org/wiki/CERT_Coordination_Center แก้ไขเมื่อ 12 พ.ค. 52 10:19:42 จากคุณ : house (panote_saechiew) - [ 11 พ.ค. 52 11:56:12 ]

ความคิดเห็นที่ 5 รอดูครับ ไม่ค่อยรู้เรื่องเท่าไหร่ ไอหลักการทำงานของไวรัสเนีย จะค่อยๆตามอ่านนะครับ จากคุณ : รักอาม่า - [ 11 พ.ค. 52 12:08:51 ]

ความคิดเห็นที่ 6 อ่านไปก็ละอายใจครับ เมื่อคืนก็สร้างๆไว้กะจะปล่อยออกไปอีกตัวก็ บ่ายๆนี้แหละ จากคุณ : ดร บิว - [ 11 พ.ค. 52 12:34:13 A:125.26.190.179 X: TicketID:184507 ]

ความคิดเห็นที่ 7 เขียนต่อเลยค่ะ สนุกดี จากคุณ : ด้วยดินสอและน้ำตา - [ 11 พ.ค. 52 12:38:05 ]

ความคิดเห็นที่ 8 สนใจครับ  ต่อเลย จากคุณ : Munch - [ 11 พ.ค. 52 13:36:26 ]

ความคิดเห็นที่ 9 สนใจครับ จากคุณ : ถุนคุง - [ 11 พ.ค. 52 14:33:09 ]

ความคิดเห็นที่ 10 อย่านะ  ผมเพิ่งฟอร์แมตเครื่องเมื่อเช้านี้เอง TT_TT จากคุณ : พจน (demonicus) - [ 11 พ.ค. 52 17:58:09 ]

ความคิดเห็นที่ 11 มาต่อครับ ;D ในปี 1990 มีความก้าวหน้าสำคัญ(รึเปล่า?) คือเดิมที ไวรัสจะมีลักษณะเฉพาะตัว ที่เราสามารถใช้แยกแยะได้ว่า ไฟล์ใดติดไวรัสหรือไม่ ลักษณะนี้ เราเรียกว่า ลายเซนต์(Signature) และเป็นปัจจัยสำคัญที่โปรแกรมแอนตี้ไวรัส ใช้ในการกวาดล้างไวรัส  Mark Washburn ประสบความสำเร็จในการพัฒนาไวรัสคอมพิวเตอร์ที่เปลี่ยนโครงสร้างของตัวเองเพื่อหลบเลี่ยงการตรวจจับลายเซนต์ได้เป็นครั้งแรก ชื่อของมันคือ 1260 จากคุณ : house (panote_saechiew) - [ 11 พ.ค. 52 20:26:26 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ความก้าวหน้ายังคงพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง ในปี 1996 Ply ไวรัสตัวใหม่ได้พัฒนาเทคนิคการปลอมแปลงที่ก้าวหน้ากว่าเดิม ในขณะที่ 1260 เปลี่ยนลายเซนต์ได้ไม่กี่รูปแบบตามที่ผู้เขียนกำหนดไว้ล่วงหน้า Ply มีส่วนแปลงสภาพที่เอื้อให้แปลงลายเซนต์ของตัวเองได้โดยอิสระ ปี 1998 หนึ่งในไวรัสที่ร้ายที่สุดในวงการคอมพิวเตอร์ก็ปรากฏขึ้น มันคือ เชอร์โนบิล หรือ CIH ของ  Chen Ing Hau ชาวไต้หวัน CIH มีความสามารถพิเศษคือเมื่อมันแฝงตัวเข้ากับไฟล์ใดแล้ว ขนาดของไฟล์นั้นจะไม่เพิ่มขึ้น โดยมันจะแทรกตัวเองเข้าไปตามพื้นที่ของไฟล์ที่ไม่ได้ใช้(ไฟล์ exe ของวินโดว์ จะมีพื้นที่ว่างส่วนเล็กๆที่ไม่ได้ใช้ เรียกว่า Gap, CIH แยกตัวเองเป็นส่วนๆ กระจายเข้าไปอยู่ในพื้นที่ว่างพวกนี้) การกระจายตัวอย่างซับซ้อนนี้เอง ทำให้แอนติไวรัส ประสบความยากลำบากอย่างมากในการแยก CIH ออกจากไฟล์ที่ติดเชื้อ โดยทำได้เพียงระงับการทำงานของ CIH ไม่ให้แผลงฤทธิ์ได้เท่านั้น จากคุณ : house (panote_saechiew) - [ 11 พ.ค. 52 20:38:06 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ในปี 1999 ไวรัส ก็เริ่มกระจายตัวผ่านทางช่องทางใหม่ เมลิสซ่า(Melissa) เริ่มใช้ อีเมล์ และความลามก เป็นสื่อกลางในการแพร่ขยาย เมลิสซ่า แตกต่างจากไวรัสก่อนหน้า เนื่องจากมันเป็นไวรัส มาโคร ตัวแรกๆ และไม่ได้ติดเชื้อไฟล์ exe หรือ com อีกต่อไป แต่โจมตีจากไฟล์ .doc แทน มันแนบตัวเองมาพร้อมกับไฟล์เวิร์ดที่อ้างว่า มีพาสเวิร์ดเว็ปโป๊ อยู่ พอเหยื่อเปิด ก็จะได้ไวรัสเป็นของตอบแทน สิ่งที่มันทำก็คือ เมล์ตัวมันเองต่อๆไปอย่างอัตโนมัติ โดยจั่วหัวอย่างดิบดีว่า เหยื่อคนปัจจุบัน ส่งพาสเวิร์ดเว็ปลับเฉพาะมาให้ ผลคือวิธีนี้ได้ผลดีมาก ในปีถัดมา ILOVEYOU ไวรัสสายพันธ์อินโดนีเซีย เอาอย่างบ้าง แต่พัฒนาไปอีกขั้น ด้วยการไล่ก๊อปปี้ตัวเองทับ ไฟล์ .jpg, .png,.mp3 และอีกสารพัดนามสกุลที่มันนึกออก แล้วส่งตัวเองไปทาง email จั่วหัวว่า LOVE-LETTER-FOR-YOU และเพื่อให้ความบัดซบสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น คนทำก็จัดการแจก ตัว anti-virus ซึ่งตัวมันเองแท้จริงแล้วเป็นโปรแกรมขโมยพาสเวิร์ด ออกไปทั่วอินเตอร์เน็ต ความเสียหายของ ILOVEYOU ประมาณว่าสูงกว่า 5 พันล้านดอล และยิ่งกว่านั้นคือในยุคนั้น อินโดนีเซียไม่มีกฏหมายเกี่ยวกับอินเตอร์เน็ต คณะผู้สร้างความปั่นป่วนกลุ่มนี้ไม่โดนโทษใดๆเลย จากคุณ : house (panote_saechiew) - [ 11 พ.ค. 52 20:49:27 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ปี 2001 ปีของหนอนโดยแท้ ช่องโหว่ในเซอร์เวอร์ IIS ของ Windows กลายเป็นเป้านิ่งให้ Code Red และ Nimda ถล่มอย่างสนุกสนาน ความเร็วของอินเตอร์เน็ตโดยรวมช้าลงอย่างมาก ในเวลาเพียงหกวัน Code Red โจมตีและฝังตัวไปกับคอมพิวเตอร์มากกว่า 3 แสนเครื่อง Nimda ก็ไม่ได้น้อยหน้ากว่าอย่างไร เมื่อมีเหยื่อกว่า 2 ล้านเครื่องในห้าเดือน ปี 2003 บลาสเตอร์แผลงฤทธิ์ หลายคนคงจำหน้าข้างล่างนี่ได้ เมื่อมันจะบังคับให้คอมพิวเตอร์ปิดตัวเองใน 1 นาที ตัวนี้เป็นไวรัสแห่งความทรงจำผมเลย เพราะทำให้ทั้งภาคไม่ได้เรียนแต่ต้องเสียเวลาทั้งวันวิ่งวุ่น ช่วยอาจารย์ล้างเครื่องทั้งมหาวิทยาลัย จากคุณ : house (panote_saechiew) - [ 11 พ.ค. 52 21:06:11 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ในปีเดียวกัน SQL Slammer เป็นตัวแสบที่ผมประทับใจมากอีกตัวหนึ่ง เป้าหมายของมันคือ SQL Server เนื่องจากมันมีขนาดเพียง 300 กว่าไบต์เท่านั้น เล็กเสียจนไม่มีโค้ดสำหรับเขียนตัวเองลงฮาร์ดดิสต์ เพียงการ restart เครื่องก็เพียงพอจะลบมันออกไป แต่ด้วยขนาดที่เล็กนี่เอง ทำให้มันเป็นเล็กพริกขี้หนู เครื่องที่ติดเชื้อ จะยิงตัวมันเองไปยังเครื่องอื่นๆ  ไม่มีการตรวจสอบว่าเครื่องปลายทางนั้นเป็นเป้าหมายหรือไม่ การโจมตีแบบยิงรัวๆ โดยไม่ต้องเล็ง นั้นประสิทธิภาพสูงมาก เครื่องใดที่มี SQL Server จะติดเชื้อทันที และระดมยิงเครื่องอื่นๆต่อไป จำนวนแพ็คเก็ตบนอินเตอร์เน็ตเพิ่มสูงมาก จนทำให้เราเตอร์ล่ม(ตัวจัดการเครือข่าย ว่าแพ็กเก็ตใด ควรส่งผ่านทางใด จึงจะไปถึงเป้าหมาย) การล่มของเราเตอร์ตัวหนึ่ง จะทำให้เราเตอร์ตัวอื่นๆใกล้เคียงทำการแจ้งความล้มเหลวออกไป(เพื่อไม่ให้มีข้อมูลมาทางนี้อีก)การแจ้งเตือนทำให้ข้อมูลมากขึ้นไปอีก ส่งผลให้การล่มของเราเตอร์เพิ่มสูงขึ้นอีก แล้วก็วนเป็นวัฏจักรอุบาทว์ ความเลวร้ายเพิ่มสูงขึ้นเมื่อผู้ดูแลเครือข่าย กลับมาเปิดเราเตอร์ตัวที่ล่ม เพราะสิ่งแรกที่เราเตอร์ทำ คือ การส่งสัญญาณแจ้งตัวเองว่าทำงานได้แล้วเข้ากับเครือข่าย(และเราเตอร์ตัวอื่นๆก็จะส่งข่าวๆต่อๆไปอีก) ทำให้ข้อมูลที่ต้องส่งเพิ่มขึ้นไปอีก แล้วก็ต้องมีเราเตอร์อื่นซักตัวที่ล่ม อีกบางตัวที่เพิ่งเปิดขึ้นมาใหม่ เล็กพริกขี้หนูมากๆ จากคุณ : house (panote_saechiew) - [ 11 พ.ค. 52 21:06:45 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ปี 2004 MyDoom แผลงฤทธิ์มันกระจายตัวทาง Email เป็นหลัก ผู้เขียน MyDoom พยายามปกป้องผลงานชิ้นเอกนี้อย่างรอบคอบ MyDoom จะกันตัวเองให้ห่างๆ Email ของสถานศึกษาทางวิศวกรรมชั้นนำ และ บริษัทเลื่องชื่อทางไอที และ แอนตี้ไวรัส ใครที่ใช้ อีเมลของ แสตนฟอร์ด เอ็มไอที ไมโครซอฟต์ หรือไซแมนเทค จะไม่พบไวรัสนี้เข้าโจมตีเลย MyDoom มีเป้าหมายสองอย่าง คือกระจายตัวเองให้มากที่สุด และ ให้ทุกเครื่องที่ติดเชื้อ โจมตีเว็ปไซต์ของบริษัท SCO พร้อมๆกัน ในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2004 สาเหตุหลังนี้เพียงพอที่จะทำให้ประธานบริษัท SCO ตั้งค่าหัว ผู้เขียนไวรัสตัวนี้ ใครเขียนไวรัสตัวนี้ไม่รู้ แต่ SCO แก้ปัญหาในวันที่ 1 กุมภาพันธ์แบบง่ายๆ คือ ปิดเซอร์เวอร์ของตัวเองตั้งแต่คืนวันที่ 31 มกราคม จากคุณ : house (panote_saechiew) - [ 11 พ.ค. 52 21:17:54 ]

ความคิดเห็นที่ 17 3 มีนาคม 2008  Torpig ตัวแสบตัวใหม่ มาพร้อมกับความสามารถในการปิดการทำงานของซอฟแวร์ แอนตี้ไวรัส ขโมยพาสเวิร์ด รวมถึงเปิดทางให้เจ้าของไวรัส เข้าควบคุมเครื่องเป้าหมายได้อย่างสมบูรณ์ คาดว่า Torpig อยู่เบื้องหลังการจารกรรม บัญชีธนาคารกว่า 5 แสนบัญชี และได้รับการจัดอันดับเป็น หนึ่งในซอฟแวร์อาชญากรรมที่ก้าวหน้าที่สุดที่เคยถูกสร้างขึ้นมา จนถึงวันนี้ ไวรัสใหม่ๆ เกิดขึ้นทุกวัน เกมไล่จับระหว่างแอนตี้ไวรัส และ ผู้สร้างยังเกิดขึ้นอยู่เสมอๆ ตราบเท่าที่ผลประโยชน์ยังยั่วยวนใจ และ ความท้าทายทางสติปัญญาอยู่เหนือจริยธรรม ระวังตัวอย่าเข้าไซต์แปลกๆ หรือ เปิดไฟล์ที่ไม่รู้ใครส่งมาให้ ก็เป็นการป้องกันตัวที่ดีครับ จบแล้วเน้อ http://en.wikipedia.org/wiki/CIH_virus http://en.wikipedia.org/wiki/Code_Red_worm http://en.wikipedia.org/wiki/Nimda http://antivirus.about.com/cs/allabout/a/nimda_e.htm http://www.wired.com/wired/archive/11.07/slammer.html http://en.wikipedia.org/wiki/Blaster_worm http://en.wikipedia.org/wiki/SQL_slammer_worm http://en.wikipedia.org/wiki/Torpig จากคุณ : house (panote_saechiew) - [ 11 พ.ค. 52 21:23:56 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ผมเคยโดนบลาสเตอร์ ทำเอามึนตึบไปเป็นอาทิตย์เลย หลังจากนั้น ก็เลยรู้จักแอนตี้ไวรัส จากคุณ : sawatcafe - [ 11 พ.ค. 52 22:22:26 ]

ความคิดเห็นที่ 19 น่าจะมีของไทยๆบ้างนะ ที่ติดทางแฟลชไดรฟ์น่ะ โดนกันถ้วนหน้า จากคุณ : runury - [ 11 พ.ค. 52 22:25:39 A:117.47.133.14 X: TicketID:208572 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ติดกับแฟลชไดรฟ์นี่น่ากลัวมากครับ เมื่อก่อนยังดี มีงานทำ เอาแฟลชไดรฟ์ไปลบกับเครื่องแมคได้ ตอนนี้ตกงานแล้ว คงต้องทำใจT^T จากคุณ : s m l xl - [ 11 พ.ค. 52 22:35:52 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ^ ^ ^ โดนเหมือนกันเรย มีไวรัสทางMSNด้วย โดนกันถ้วนหน้า จากคุณ : wawah12 - [ 11 พ.ค. 52 22:40:29 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ไวรัส msn ไงคะ ตอนนี้เพื่อนทาง contact list โดนกันถ้วนหน้า แรกๆก็แก้ลำโดย appear offline ไปซะแต่บางครั้งก็ต้องออนขึ้นมารับไฟล์บางอย่างจากเพื่อน ก็จะเจอ ตะดึ๊งๆๆๆๆ ขึ้นมาทุก 5 นาที (จากหลายๆคน) รำคาญมาก กลัวไปเผลอกดถูกด้วย (เพราะเคยเผลอกดมาแล้วจากเพื่อนสนิทคนหนึ่ง ด้วยความที่ ไม่ทันได้อ่าน กดไปก่อน) ตอนนี้เลย บล๊อคทุกคนที่ ตะดึ๊ง ไวรัสขึ้นมาเลย จากคุณ : orchan - [ 11 พ.ค. 52 22:51:31 ]

ความคิดเห็นที่ 23 โดนศุกร์13 T-T จากคุณ : แห้วกับใบบัวบก - [ 11 พ.ค. 52 23:17:23 ]

ความคิดเห็นที่ 24 อืม....ตอนนี้ฟอร์เมตเครื่องเป็นว่าเล่น - -" จากคุณ : env42_tay - [ 12 พ.ค. 52 00:12:20 ]

ความคิดเห็นที่ 25 คงจะโดนไปซักตัวแล้วหละ มีคอมสองตัว วินโดว์เดี้ยง ไป 1 ตัว แต่ไม่รู้ติดมาได้ยังไง เพราะไม่ได้เล่นเอ็ม หรือรับไฟล์แปลกๆเลย จากคุณ : RebmemeR - [ 12 พ.ค. 52 00:47:51 ]

ความคิดเห็นที่ 26 น่าสนใจมากครับ คุณ house ... ขอบคุณครับ ... จากคุณ : Assembly - [ 12 พ.ค. 52 07:03:47 ]

ความคิดเห็นที่ 27 Thabk na ka~~~ จากคุณ : nuanapa - [ 12 พ.ค. 52 08:26:48 ]

ความคิดเห็นที่ 28 เป็นเรื่องที่ซับซ้อนและไม่มีวันที่เราเข้าใจเลย -*- แต่ก็ควรศึกษาไว้ จากคุณ : นู๋ขี้สงสัย - [ 12 พ.ค. 52 08:33:39 ]

ความคิดเห็นที่ 29 โดนหลายตัวเลย T^T จากคุณ : vn, man - [ 12 พ.ค. 52 08:44:00 ]

ความคิดเห็นที่ 30 คุ้นๆ เทอมที่แล้วสอบเกี่ยวกับ Nimda ไป ^^ ~ จากคุณ : KinkyVans - [ 12 พ.ค. 52 09:07:27 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ไม่เคยโดนซักตัวที่กล่าวมา   . . . -_-" ช่วงนี้โดนแต่ไวรัสกลายพันธุ์ ไม่รู้มันกลายได้ไง . . . จากคุณ : รักสาว มธ. (NoahComeBack) - [ 12 พ.ค. 52 09:33:32 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ไวรัส MSN ยังหลอนมาเท่าจนถึงทุกวันนี้ สองเดือนที่ผ่านมา format เครื่องไป สี่ซ้าห้าครั้ง หลอนมาก ๆ (- -") ถามผู้รู้หน่อยค่ะ ไม่รู้ว่าตัว crack ทั้งหลายทั้งแหล่นี่ก็เป็นไวรัสด้วยหรือเปล่าคะ จากคุณ : moonoibeaver - [ 12 พ.ค. 52 09:55:01 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ผมไม่เคยโดนไวรัส MSN เลยไม่อยากจะคุย เพราะผมยุ่งจนไม่มีเวลาเล่น M อ่ะ เลยไม่โดน จากคุณ : นกฮูกผจญภัย - [ 12 พ.ค. 52 10:31:10 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ทั้งสนุกทั้งแค้นครับ ขอบคุณความรู้ดีๆที่ให้กันนะครับ จากคุณ : knine2five - [ 12 พ.ค. 52 10:52:00 ]

ความคิดเห็นที่ 35 บลาสเตอร์ ต้องขอบคุณมันที่ทำให้คอมเราพังพินาศจนได้เครื่องใหม่มา จาก Ram 64 MB (เมาท์ยังสโลว์) พังไปได้ Ram 256 MB มา และอัพเป็น 512 (จนถึงปัจจุบัน...) จากคุณ : ฮ่าๆๆComeback (โฮ่งฮับตังเม) - [ 12 พ.ค. 52 10:59:38 ]

ความคิดเห็นที่ 36 ลืม Die Hard ไปได้ไงครับ.... ตั้งแต่ CIH เป็นต้นมา ผมโดนแทบทุกตัว -__-" จากคุณ : Tire Tracks Studio - [ 12 พ.ค. 52 10:59:41 ]

ความคิดเห็นที่ 37 แล้วมีวัคซีนป้องกันไหมอะ???? จากคุณ : ViZaKitty (vizakitty) - [ 12 พ.ค. 52 12:31:56 ]

ความคิดเห็นที่ 38 วันก่อนก็เพิ่งเขียนโปรแกรม คล้ายๆของนาย โรเบิร์ต มอริส ไป คือตั้งใจให้มันสร้างตัวเอง ถ้าเกิดตัวมัน down ไป แต่มันสร้างตัวเองตลอดเวลา กลายเป็นไวรัสถล่มคอมหลักของบริษัทไปซะงั้น  ทำ server บริษัทยักษ์ใหญ่ของไทย down ... 55+  แต่เค้ามะได้ตั้งใจๆๆๆ น๊า โชคดี ที่ไม่โดนทัณฑ์บน เหมือนนาย มอริส อิอิ  ... จากคุณ : มิโนรุ - [ 12 พ.ค. 52 15:08:52 ]

ความคิดเห็นที่ 39 Die Hard ทำให้การบ้านวิชา pascal ที่อยู่ใน floppy disk ทั้งเทอมหายไป ยังดีที่อาจารย์เมตตา  T-T CIH ทำให้ต้องไปนั่งซ่อมคอมให้เพื่อนเกือบ 2 วัน เพราะ boot ไม่ขึ้น เนื่องจาก bios ถูกทำลาย Melissa, ILoveYou, LoveBug, Code Red, Nimda ทำให้งานเข้ามากมาย เจ้าพวกนี้ล่ะตัวแสบ (ผมทำงานด้าน network) Blaster ทำให้ผมได้ใช้ shutdown -a ปัจจุบัน Firefox + NoScript + รอบคอบ  ทำให้ไม่เคยติดไวรัสมานานมาแล้วครับ ไม่ต้องแก้ไวรัสที่เรา แต่ไปแก้ไวรัสให้ที่อื่นแทน  เศร้า  T-T จากคุณ : Final Fantasy - [ 12 พ.ค. 52 18:46:08 ]

ความคิดเห็นที่ 40 Adober หายไปไหน... จากคุณ : คนเดินบนดิน - [ 12 พ.ค. 52 20:31:13 ]

ความคิดเห็นที่ 41 ขอบคุณครับ ใครที่รู้ตัสอื่นก็ข่วยๆกันละกัน จากคุณ : หมาข้างถนนคนบ้าการ์ตูน - [ 12 พ.ค. 52 22:31:16 ]

ความคิดเห็นที่ 42 เพิ่งเจอไปเมื่อวานนี้เอง พยายามจะโคลนหนังดีวีดีจากแม่สายอยู่เรื่องนึง บ่อยครั้งที่เปิดโปรแกรมแอนตี้ไวรัส แล้วมันจะ conflict กับโปรแกรมโคลนหนัง คราวนี้ก็เลยปิดแอนตี้ไวรัส พอเริ่มโคลนหนังปุ๊บ มันลบไฟล์หนังกับไฟล์รูปในฮาร์ดดิสค์ทิ้งหมดเลย โดนลบไป 300 GB ยังดี มีนไม่ลบในไดร์ฟอื่นไปด้วย สงสัยมีสคริปต์หรือมาโครอะไรซักตัว (จำชื่อไม่ได้) ติดมากับแผ่นหนังดีวีดี ซวยเลย  โดนดัดหลังซะได้ กับพวก worm ก็ทำให้ต้องตั้งกฏกับตัวเองไว้เลยว่า  ห้ามใช้ Unmanaged Gigabit Switch กับ Server อย่างเด็ดขาด  ถ้าไม่อยากงานเข้า จากคุณ : นายเดชา - [ 12 พ.ค. 52 22:46:56 ]

ความคิดเห็นที่ 43 ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr. Fusion - [ 13 พ.ค. 52 00:32:49 ]

ความคิดเห็นที่ 44 Hello I'm a Mac. How are you PC? จากคุณ : อิสระในความเมา - [ 13 พ.ค. 52 02:13:51 ]

ความคิดเห็นที่ 45 ไม่มีไวรัสหนอนปลอกหรอ !! จากคุณ : gunbong - [ 13 พ.ค. 52 11:09:27 ]

ความคิดเห็นที่ 46 ระวัง ไม่เปิดสุ่มสี่สุ่มห้า รอบคอบ เหมือนที่ คห ข้างบนบอก ก็ไม่โดนแล้วครับ ตั้งแต่เล่นคอมพ์มาไม่โดนมานานมากๆ ละครับ เพราะว่าระวังเนี่ยแหละ กะอีกอย่างคอมพ์ผมจับคนเดียว จากคุณ : monixe (monixe) - [ 13 พ.ค. 52 14:59:38 ]

ความคิดเห็นที่ 47 ไม่มีพูดถึงไวรัส DownAD หรือ Configker หรอครับ มานแพร่ตาม Network อะ กะจายเร็วมาก แค่ระวังตัวก็ยังไม่พอคับ ต้องระวังเครื่องอื่นๆ บน Network ด้วย จากคุณ : ryanvee - [ 13 พ.ค. 52 23:19:25 ]

ความคิดเห็นที่ 48 ผมโดนล่าสุดก็ 5เดือนที่แล้วปกติที่ร้านผมอยู่กันหลายคนแต่มีเครื่องคอมแค่ 2 เครื่องคือของผมกะของน้องอีกคน ผมเลยไม่ได้ใส่พาสไว้ มันมาเล่นค่สองวันคอมผมออกเน็ตไม่ได้คลิ๊กโน่นนี่นั่นไม่ได้เปิดทำอะไรกับระบบไม่ได้เลยรีสตาร์ทตลอด ต้องลงใหม่ก็โดนอีกคราวนี้โดนตัวแรง Sality มันเกาะไปกะไฟล์ EXE เน่าหมดเครื่องเลย - - ฮ่วย เลยจำใจต้อง Format แล้วใส่พาสเล่นเครื่องคนเดียวยังไงก็ไม่พัง ไวรัสจาก Flashdrive แก้ไม่ยาก แต่มันน่ารำคาญป้องกันไม่ให้มัน Autorun ดีกว่า ไฟล์Autorun ถ้าดักมันได้มันก็จะไม่สามารถไปสั่งตัวไวรัสให้มาเกะกะเครื่องเราได้ละ ^^ จากคุณ : PUMPKINbig - [ 13 พ.ค. 52 23:26:58 ]

ความคิดเห็นที่ 49 แหะๆ ช่วงนี้งานเข้าครับ ไม่ได้กลับมาดูต่อเลย รู้สึกบลาสเตอร์นี่ยอดฮิตของหลายคนแหะ ผมรู้จัก shutdown -a นี่ก็เพราะมันเหมือนกัน ไวรัสยอดนิยมหลายๆตัวผมก็ไม่รู้จักครับ เอามาลงแชร์ๆกันก็ไ้ด้ :D จากคุณ : house (panote_saechiew) - [ 13 พ.ค. 52 23:41:35 ]

ความคิดเห็นที่ 50 ใช้หมาไฟ+no script ไม่คลิกแบนเนอร์มั่วๆ ไม่ออกนอกไปเว็บแปลกๆ หรือเว็บ18+ ใช้ anti-virus อัพเดด realtime อย่าง Avira อยู่มา 2 ปีแล้วครับ จากคุณ : MondayCool - [ 14 พ.ค. 52 09:51:32 ]

ความคิดเห็นที่ 51 ไม่เคยโดนไวรัส msn เหมือนกัน แต่จะเห็น ของเพื่อนโดนประจำเลย ส่วนใหญ่จะเป็น เครื่องที่ เล่นเกมส์ไม่ก็ก็เข้าเวปต้องห้าม เอิ๊กๆ เดานะไม่รู้ถูกเป่า จากคุณ : Choco-Mix - [ 14 พ.ค. 52 15:40:04 ]

ความคิดเห็นที่ 52 ลาวดวงเดือน ละครับ โดนทีฟังกันเพลิน จากคุณ : .. (datasim) - [ 14 พ.ค. 52 19:46:20 ]

ความคิดเห็นที่ 53 55+ ไม่อยากจะอวดเล้ยว่าซอฟแวร์ทั้งเครื่องผมเนี่ยฟรีหมด ยกเว้นโปรแกรมเดียวที่อุตส่าห์เสียเงินซื้อคือ Kaspersky 55++ ปล. เมื่อไรไอไวรัสเอ็มบ้าบอเนี่ยมันจะหมดซะที...น่ารำคาญได้อีกเว้ยเด้งอยู่ได้ จากคุณ : NorsDavincy - [ 15 พ.ค. 52 01:35:02 ]

ความคิดเห็นที่ 54 "บลาสเตอร์"  เนี่ยตัวดี อยู่ในความทรงจำผังรากลึกเลยค่ะ ทำเอาคอมพังแบบรักษาไม่ได้เลยเซ็งมากๆ ไหนจะเว็บโป๊มั่งหละ (เกิดมาไม่เคยเห็นของแปลกก็ต้องเห็น T-T) ไฟล์หายบ้างหละ ไหนจะคอมอืดสุดชีวิต เฮ้อ~ ตอนนี้ใช้ Mac อยู่แทบจะลืมไปเลยค่ะว่าโลกนี้มีไวรัสอยู่ - -; (ยังไงๆบางโปรแกรมมันก็มีแต่ Windows หละนะ ยังไงก็ต้องใช้บ้างแต่ทิ้งจนฝุ่นเขรอะเลย -*-) จากคุณ : เด็กผู้หญิง - [ 16 พ.ค. 52 03:43:24 ]

ความคิดเห็นที่ 55 ตั้งแต่ ILOVEYOU มาก็โดนทุกตัวอ่ะโด่ ไม่อยากจะคุย T-T จากคุณ : มือปราบหน้าใส - [ 16 พ.ค. 52 10:33:02 ]

ความคิดเห็นที่ 56 น่าปวดหัวมากครับ ถ้าเป็นไวรัสในระบบแลนที่ต้องมีการแม็พไดร์ ฟอร์แมตเครื่องนึง ก็ยังอยู่อีกเครื่อง หรือแอบอยู่ตามแฟลชไดร์คนนู้นคนนี้บ้าง ไม่หมดซะที พวกตัวร้ายๆ อย่าง sality virut conflicker และอีกบางตัว แค่ปิดไม่ให้ autorun เอาไม่อยู่ครับ ลองดูแล้ว แค่เสียบปุ๊บ มาปั๊บ โปรแกรมลบแค่ไฟล์ autorun.inf ทิ้งไป ส่วนไฟล์อื่นยังอยู่ วิ่งไปเปิดพอร์ทที่ไฟล์วอลเตรียมเรียกเพื่อนมาเพิ่มอีก เวรกรรม แถมสร้างไฟล์ .dll ใน system32 ไม่ให้อัพเดทเเอนตี้ไวรัส และไม่ให้เข้าเว็บแอนตี้ไวรัส และ microsoft อยากเอาไฟไปเผาบ้านคนสร้างไวรัสจริงๆ เลย สงสัยคงว่างมาก จากคุณ : หนุ่มน้ำชี - [ 16 พ.ค. 52 17:19:31 ]

ความคิดเห็นที่ 57 เคยโดนเพื่อนมายืมใช้คอม พอเรากลับมาใช้ หน้าจอมีจุดๆเต็มไปหมดขนาดไม่เท่ากัน เลยถามเพื่อนว่าทำไมหน้าจอเป็นแบบนี้ มันบอก "โทษทีว่ะ กรูเป็นหวัด จามแล้วปิดไม่ทัน" -"- จากคุณ : จิ้งจกทะเลทราย - [ 17 พ.ค. 52 00:27:45 ]

ความคิดเห็นที่ 58 สงสัยอ่ะค่ะ ว่าไอไวรัสเอ็มที่มันเด้งๆนี้ เพราะจากสาเหตุที่เราไปกดรับไฟล์มาใช่มั้ยค่ะ   ไม่ใช่แค่ว่าคุยกับคนนั้นแล้วก็ติดเลยใช่มั้ยค่ะ ทุกวันนี้ก็หวั่นๆอยู่เวลาออนเอ็มทีไร กลัวว่าจะติดไวรัสจริงๆ จากคุณ : m-o-o-k-i - [ 17 พ.ค. 52 02:29:49 ]