ความคิดเห็นที่ 1 http://www.onopen.com/2008/02/2990 ตีพิมพ์ครั้งแรก: นิตยสาร GM ฉบับเดือนกรกฎาคม 2551 วินทร์ ตอบ ปราบดา 7 มิถุนายน 2551 หลายปีมาแล้วนักข่าวชาวเยอรมันคนหนึ่งถามผมว่า “นักเขียนไทยมีเสรีภาพเขียนได้ทุกเรื่องทุกประเด็นเกี่ยวกับเมืองไทยหรือไม่?” เพื่อรักษาภาพลักษณ์ที่ดีของนักเขียนเมืองไทยผสมกับเลือดรักชาติที่พลุ่งพล่าน ผมก็ตอบว่า “ได้ซีจ๊ะ...” ตามด้วยคำกระซิบที่ไม่มีใครได้ยินแน่นอนว่า “แต่...” ที่ไม่อยากให้ฝรั่งได้ยินคำว่า “แต่...” เพราะขี้เกียจขยายความ กลัวพูดไปแล้วจะร่ำไห้! เนื่องจากมองไปแทบทุกวงการก็เห็นคำว่า “แต่...” “เราเป็นประชาธิปไตย คุณทำอะไรก็ได้ แต่...” “คุณมีอิสระเต็มที่ แต่...” “อยากสร้างสรรค์งานอะไรก็ทำไปเลย แต่...” เริ่มจากวงการศิลปะเมื่อปีก่อน คุณอนุพงษ์ จันทร จิตรกรผู้เขียนภาพ ภิกษุสันดานกา ถูกองค์กรทางศาสนารุมกินโต๊ะ โชคดีที่ได้รางวัลเหรียญทองงานศิลปกรรมแห่งชาติมาเป็นเกราะกำบังช่วยลดแรงถีบได้ในระดับหนึ่ง และก็อย่างที่เรารู้ๆ กัน ถึงวันนี้ก็ไม่มีใครแยแสข่าวนี้อีกแล้ว ราวกับว่าไม่เคยเกิดเรื่องนี้ขึ้นในประเทศนี้! มาที่วงการภาพยนตร์บ้าง คุณอภิชาติพงศ์ วีระเศรษฐกุล ผู้กำกับภาพยนตร์เรื่อง แสงศตวรรษ ก็ถูกคณะกรรมการพิจารณาภาพยนตร์เคาะหัวหลายทีด้วยข้อหาสร้างหนังแย่ๆ อะไรก็ไม่รู้ อย่างเช่น พระเล่นกีตาร์ หมอดื่มเหล้าในโรงพยาบาล ฯลฯ หนังถูกแบนด้วยเหตุผลว่ากระทบต่อภาพลักษณ์ขององค์กรศาสนาและองค์กรทางการแพทย์ คุณอภิชาติพงศ์ก็ตัดสินใจทำอย่างที่ไม่มีคนสร้างหนังใดในบ้านเรานิยมทำคือ “เรื่องมากก็อย่าฉายมันเลยวะ!” ที่ตบหน้าเราอย่างแรงก็คือการที่หนังเรื่องนี้ที่ได้รับรางวัลสำคัญหลายรางวัลในต่างประเทศ ตามมาด้วยการที่คุณอภิชาติพงศ์ได้รับเลือกเป็นหนึ่งในคณะกรรมการตัดสินรางวัลภาพยนตร์เมืองคานส์ ปราบดาว่าแปลกไหมครับที่ผลงานที่บ้านเราว่าไร้คุณค่า กลับไปโด่งดังในเมืองนอก พวกฝรั่งนี่ช่างมีรสนิยมแย่เสียนี่กระไร ยี้! น่าขยะแขยง! ข่าวดีก็คือ ไม่เฉพาะแต่บ้านเราที่เจอเรื่องแบบนี้ ประเทศอื่นๆ แถวนี้ก็นิยมคำว่า “แต่...” เช่นกัน! ในมาเลเซียห้ามแม้แต่บทจูบ พอพระเอกยื่นหน้าเข้าใกล้นางเอก ก็ “ควับ!” ภาพขาดหายไป โหย! ดูหนังโรแมนติกในมาเลเซียนี่เสียมู้ดหมดฟีลลิ่งไปเลย พอกับดูภาพเบลอเลอะๆ ในฉากคนสูบบุหรี่ของบ้านเรา! ในสิงคโปร์ไม่ห้ามสร้างหนังครับ แต่ถ้าคิดจะวิพากษ์รัฐก็เตรียมเงินไว้มากๆ เอาไว้สู้คดีก็แล้วกัน เล่นกันหนักถึงฟ้องล้มละลาย สำหรับในเมืองจีนก็ยังชอบตัดฉากที่ทำให้ภาพลักษณ์ของชาติ ‘เสียหาย’ ยกตัวอย่างเช่น ภาพยนตร์เรื่อง Beijing Bicycle ของผู้กำกับคลื่นลูกที่หกของจีน หวังเสี่ยวซือ เป็นเรื่องของหนุ่มบ้านนอกที่มาทำงานขี่จักรยานรับจ้างส่งของในปักกิ่ง และจักรยานของเขาถูกขโมยไป เรื่องนี้ถูกแบนในเมืองจีนเพราะ “ใช้ฉากด้านมืดของปักกิ่งมากเกินไป” กองเซ็นเซอร์จีนบอกว่า ไอ้หยา! อาตี๋ เมืองปักกิ่งก็มีภาพสวยๆ ทำไมลื้อจึงไม่ไปถ่ายมิซับทราบ? หนังเรื่องนี้ก็มีชะตากรรมคล้ายเรื่อง แสงศตวรรษ คือถูกแบนในประเทศ แต่ไปรับรางวัลที่ต่างประเทศ เชื่อว่าปราบดาน่าจะได้ดูหนังจีนเรื่อง Lust, Caution ของคุณอังลีแล้ว หนังที่มีฉากอีโรติกแบบถึงพริกถึงขิงเรื่องนั้นน่ะ ส่งผลให้คณะกรรมการเซ็นเซอร์แห่งเมืองจีนระงับงานของนางเอกหนังเรื่องนี้ในเมืองจีน ทั้งที่เวอร์ชั่นที่ฉายในเมืองจีนถูกตัดฉากที่ผมชอบไปหมดแล้ว! นัยว่าเป็นการหาแพะรับบาปสักคนที่ทำให้ภาพลักษณ์ของประเทศจีนแปดเปื้อน ตอนนี้กลายเป็นว่า จะแสดงออกงานศิลปะอะไรก็ต้องไปทำกันในเวทีต่างประเทศในซีกโลกตะวันตก เรียกได้ว่าทั้งประเทศเสรีนิยมและสังคมนิยมก็ไม่ต่างกัน คือขอรักษาภาพลักษณ์ไว้ก่อน แน่นอนมีปฏิกิริยาจากสังคมกลุ่มหนึ่งที่ต่อต้านการเซ็นเซอร์แบบไม่มีเหตุผล แต่คำว่า “ไดโนเสาร์เต่าล้านปี” ฯลฯ ยังไม่มีผลอะไรต่อนโยบายการเซ็นเซอร์ของหลายประเทศ โดยเฉพาะบ้านเราจะยังไม่มีหนังที่ตำรวจเป็นผู้ร้าย พระเป็นฆาตกร ครูตุ๋ยเด็ก ฯลฯ เหตุผลง่ายนิดเดียว เพราะบ้านเราไม่มีคนชั่วไงครับ สังคมเรามีแต่เรื่องดีๆ พระดี หมอดี ตำรวจดี ฯลฯ ตำรวจเลวคือตำรวจนิวยอร์ก ลอส แองเจลิสโน่น ไม่ใช่ตำรวจสน.ที่ปากซอยบ้านเรา ผู้พิพากษาที่กินสินบนก็มีสำมะโนครัวอยู่ที่ชิคาโกโน่น พระเลวคือพระฝรั่ง ไม่ใช่พระไทย แม่ชีฝรั่งร้องเพลงได้ แม่ชีไทยสวดมนต์อย่างเดียว ปราบดาเขียนบทหนัง ก็รู้ๆ อยู่ว่า เรื่องที่ตัวละครทุกตัวเป็นเทวดาน่ะน่าเบื่อแค่ไหน และเป็นเรื่องเหนือจริงอย่างยิ่ง โลกที่สวยงามแบบนี้มีอยู่สองที่เท่านั้นคือในนิทานของเด็กอายุห้าขวบกับโฆษณาชวนเชื่อของรัฐเผด็จการที่ผู้นำมีสมองเท่าเด็กอายุห้าขวบ การเซ็นเซอร์ในวงการภาพยนตร์เป็นเพียงตัวอย่างหนึ่งของประเด็นเสรีภาพของการแสดงออก ตามรัฐธรรมนูญเรามีเสรีภาพเต็มที่ แต่ในความเป็นจริงยังมีอีกหลายเรื่องที่เราพูดไม่ได้ คำถามคือ เราจะพัฒนาหรือเราสามารถพัฒนาไปจากนี้ได้หรือไม่? เราควรรักษาภาพลักษณ์ของชาติไว้ก่อน แม้ว่าด้วยการพูดไม่จริงหรือไม่? เราจะสอนให้เด็กมองโลกแบบไม่จริงและ ดับเบิ้ล สแตนดาร์ด ตั้งแต่เล็กไปอย่างนี้เรื่อยๆ หรือไม่? หนังที่สมควรถูกเซ็นเซอร์ (หากเรายังจะรักษาประคับประคองระบบนี้ต่อไปด้วยเงินภาษีของประชาชน) น่าจะเป็นหนังที่ทำให้สังคมเสื่อมลงมากกว่าหนังที่ฉายความจริงของสังคม เพื่อให้ทุกคนตระหนักถึงปัญหาที่มีอยู่มิใช่หรือ? ท้ายที่สุดแล้วเราก็ต้องวัดคุณประโยชน์ของการรักษาภาพลักษณ์และเสรีภาพในการแสดงออกแบบครึ่งใบว่ามันช่วยทำให้สังคมของเราดีขึ้นในระยะยาวหรือไม่ ทำให้คนไม่โกงหรือเปล่า? การทำเอ็ฟเฟ็กท์เบลอภาพคนสูบบุหรี่ทำให้เด็กไม่สูบบุหรี่จริงหรือ? ถ้าคำตอบคือ ไม่ เราก็อาจต้องพิจารณาดูใหม่ว่า บางทีนี่อาจไม่ใช่ทางแก้ปัญหาที่น่าจะเป็น ไม่นานมานี้ผมอ่านข่าวท่านผู้นำของอิหร่านบอกชาวโลกว่า ในประเทศอิหร่านไม่มีเกย์ ทีแรกนึกว่าเป็นการสร้างภาพลักษณ์ ที่ไหนได้ ที่อิหร่านไม่มีเกย์จริงๆ เพราะพวกรักร่วมเพศถูกจับประหารหมด โดยส่วนตัวผมเชื่อว่า ประชาธิปไตยจะเต็มใบก็ต่อเมื่อเราทำจริงๆ ไม่ใช่ good-but-speak หรือพูดอย่างทำอย่าง คนเราแสดงความเห็นได้อย่างเสรี แต่ต้องรับผิดชอบต่อการกระทำนั้น แน่ละ ในกรณีของเราคงต้องใช้เวลาอีกนานพอควรกว่าจะไปถึงจุดนั้นได้ ปัจจุบันเราใช้ช่องโหว่ตรงนี้เป็นเครื่องมือหาผลประโยชน์และอาวุธทางการเมือง บางครั้งเป็นอาวุธที่ร้ายแรงกว่าการไล่ถีบ ส.ส. ในสภาเสียอีก ตอนนี้บ้านเมืองเรากำลังอยู่ในสภาพเละตุ้มเป๊ะ เศรษฐกิจแย่ ศีลธรรมเสื่อม ผู้คนเต็มไปด้วยโลภะและโมหะ ข้าวยากหมากแพง เป็นยุคที่แย่ที่สุดยุคหนึ่งในประวัติศาสตร์ชาติไทย แต่เราก็ยังเลือกที่จะทะเลาะกัน! ขออภัย! เขียนผิด! ตอนนี้บ้านเมืองเรากำลังอยู่ในสภาพรุ่งเรือง อุดมสมบูรณ์ ผู้คนมีศีลธรรม เป็นยุคที่ดีที่สุดยุคหนึ่งในประวัติศาสตร์ชาติไทย เพราะเราสมัครสมานสามัคคีกัน อืม! อ่านแล้วสบายใจขึ้นเยอะใช่ไหม? มิน่าล่ะเราจึงยังต้องมีระบบเซ็นเซอร์ ไม่ใช่เพื่อรักษาภาพลักษณ์ของประเทศหรอก แต่ทำให้ประชาชนมีความสุขในโลกของ The Matrix ไปวันๆ! ตีพิมพ์ครั้งแรก: นิตยสาร GM ฉบับเดือนกรกฎาคม 2551 http://www.onopen.com/2008/02/2990 จากคุณ : Poster - [ 14 พ.ค. 52 17:28:39 A:118.172.88.94 X: TicketID:215915 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ต้องเปลี่ยนประโยคจาก Cloning พระพุทธเจ้า เป็น Cloning เจ้าชายสิทธัตถะ ก็อาจจะยอมรับได้ เพราะคำว่า "พระพุทธเจ้า" มันแฝงนัยยะทาง "เคารพศรัทธา" น่ะ จากคุณ : ปุถุชน - [ 14 พ.ค. 52 17:33:01 A:118.172.88.94 X: TicketID:215915 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ไปตอบเหมือนกัน แล้วก็เห็นมันหายไปเหมือนกัน เอาเถอะครับ ศาสนา แห่งปัญญา และ เอหิปัสสิโก แต่สาวก "ห้ามตั้งคำถาม" จากคุณ : house (panote_saechiew) - [ 14 พ.ค. 52 17:43:06 ]

ความคิดเห็นที่ 4 มีหลายบุคคลเลยแหละ ที่เว็บเค้าไม่ยอมให้คุณตั้งคำถามแบบนี้แน่ๆ ของแบบนี้คุยได้เฉพาะกลุ่มเท่านั้นแหละ จากคุณ : สุดโหดโครตโรแมนติก - [ 14 พ.ค. 52 17:51:04 ]

ความคิดเห็นที่ 5 เข้าใจเจตนารมณ์ของคุณ จขกท. DigiTaL-KRASH นะคะ เพียงแต่..ตัวเองจะมีความคิดเห็นในอีกทางหนึ่ง.. "สิทธิและเสรีภาพ" เป็นของทุกคนในสังคมที่จะแสดงความคิดเห็น และใช้สิทธิในการเลือกผู้แทนของตน ฯลฯ นอกจากนี้..เราทุกคนยังมี "หน้าที่" ที่จะปฏิบัติตามหน้าที่ของตนในสังคมนั้น และร่วมมือกันให้สังคมมีความสุข กระทั่ง..การทำตามประเพณี วัฒนธรรม ค่านิยมที่สืบทอดกันมา ดังนั้น.."อิสรภาพ" เมื่อลองคิดให้ดี ๆ จะไม่มีอยู่จริง.. เพราะอิสรภาพทุกอย่าง..จะอยู่ภายใต้เงื่อนไขทั้งสิ้น.. ไม่งั้น..เราคงเห็นคนเดินเปลือยกายอยู่บนถนนเมื่ออยากทำ ใครอยากทำอะไรที่ขัดต่อจารีตประเพณีก็ทำสินะ.. ถ้าจะมองให้ดี ๆ...หัวข้อกระทู้บางกระทู้..ก็ตั้งเหมือนการพาดหัวข่าว.. ขอให้เด่นและผู้คนสนใจเข้ามาดู...แต่ข้างใน..อาจจะไม่รุนแรง หรือไม่มีอะไร ซึ่ง..ตัวเองไม่เห็นหัวข้อกระทู้นี้.. แต่ถ้าอ่านตามที่คุณ KRASH เขียน...ก็ต้องยอมรับว่า...ค่อนข้างขัดตาสำหรับท่านที่เคร่งศาสนา หน้าที่หนึ่งที่จะทำให้สังคมอยู่ร่วมกันอย่างมีสุขสำหรับดิฉันเอง.. คือจะพยายามไม่คุยเรื่อง "ศาสนา และการเมือง" เด็ดขาด...อิอิ สิ่งที่คนไทยและสังคมไทยให้ความสำคัญ..จะค่อนข้างไวต่อการรับรู้นะคะ ถ้าไปเปรียบเทียบกับประเทศที่เค้าไม่ได้ให้ความสำคัญกับสิ่งนี้..ก็จะเห็นว่าธรรมดา.. แต่..ใครจะรู้ละคะ... วันหนึ่งเราอาจจะไปแตะสิ่งต้องห้ามของประเทศเหล่านั้นเข้าบ้างก็ได้ :) ปล. ไม่ได้ว่าความแทนผู้ที่ลบกระทู้นะคะ ขอเป็นกลางค่ะ อิอิ จากคุณ : คิมมี่ (*CriMy*) - [ 14 พ.ค. 52 17:54:10 ]

ความคิดเห็นที่ 6 กดอ่านยังไม่ทันเลยอ่ะ มีแต่สถานที่ตามประวัติ แต่ก็ยังบอกไม่ได้เลยว่า พระพุทธเจ้ามีจริง สอนคนว่าอย่าเพิ่งเชื่อ ถ้ายังไม่ได้... แต่ทำไม... จากคุณ : Hello_The_Rain - [ 14 พ.ค. 52 17:54:55 ]

ความคิดเห็นที่ 7 เสียใจครับที่กระทู้หายไป ตอบกระทู้เสร็จ วิ่งไปบอกพี่ lab ข้างๆให้ไปอ่านดู(แกเป็นแฟนห้องศาสนา) เผื่อแกมีไอเดียอะไรดีๆ ปรากฏว่ากระทู้หายไป เสียใจ จากคุณ : golfemp - [ 14 พ.ค. 52 17:59:16 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ที่โดนลบอาจจะไม่ใช่เนื้อหาของ จขกท หรอก เมื่อเช้ามาอ่านทันเหมือนกัน เดาว่าอาจจะเป็นเพราะคนในกระทู้เริ่มออกทะเลไปทะเลาะกันรึเปล่า มันเกินขอบเขตอภิปรายอะไรอย่างงี้ ตัวเราเองอ่านทันยังไม่กล้าออกความเห็นในทางชีววิทยาเลย ไหนๆ ก็ออกทะเลแล้วเลยออกจากกระทู้มาอย่างเงียบๆ นั่นแหล่ะ เข้าใจว่าเป็นเพราะความเห็นไม่ลงรอยกัน และอภิปรายเกินขอบเขตวิทยาศาสตร์ จากคุณ : antares[em] - [ 14 พ.ค. 52 18:08:20 ]

ความคิดเห็นที่ 9 จขกท คงอยู่ในกลุ่ม Free  thinker ก็เลยไม่เข้าใจความรู้สึกของ  คนที่ยึดมั่นในศาสนา จากคุณ : sb*star - [ 14 พ.ค. 52 18:08:26 ]

ความคิดเห็นที่ 10 #8 อันที่จริง มันก็ไม่ใช่กระทู้ของผมหรอกครับ เป็นกระทู้ของคนอื่นน่ะ เพียงแต่ผมเข้าไปตอบยาว แล้วรู้สึกเสียเที่ยว จากคุณ : DigiTaL-KRASH!!! - [ 14 พ.ค. 52 18:11:35 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ประเด็๋นมัน sensitive เกินไปค่ะ หนูเข้ามาอ่านไม่ทันเหมือนกันค่ะ กดเข้ามาก็ถูกลบไปแล้ว ~ จากคุณ : KinkyVans - [ 14 พ.ค. 52 18:12:01 ]

ความคิดเห็นที่ 12 #9 อันที่จริงผมเข้าใจความรู้สึกนะ ที่ว่าเข้าใจ เพราะผมเองก็เคยรู้สึกอย่างนั้น ก่อนจะพัฒนาแนวคิดมาเป็นแบบปัจจุบัน และผมก็ยังรู้สึกเคืองอยู่ เวลาที่เห็นฝรั่งเอาพระพุทธรูปไปประดับบ้าน ดังนั้นผมคิดว่า ผมเข้าใจ ถ้ารู้จักล็อกอินผมมา จะเห็นว่าถึงผมสงสัย ผมก็ไม่ได้ถามตอบเกินขนาดไป เพียงแต่อะไรที่สงสัย ก็คือสงสัย และแสดงความเห็นอยู่บ้าง ตัวอย่างเช่น ในกระทู้นี้เป็นต้น http://www.pantip.com/cafe/religious/topic/Y7858640/Y7858640.html แต่ก็อีกนั่นแหละ ผมก็อาจไม่น่าจะถามทวงกระทู้นั้นก็ได้ เพราะว่ายังไงมันก็ไม่ใช่กระทู้ที่ผมตั้ง แต่เป็นคนอื่นตั้ง เอาละ แค่นี้พอดีกว่าครับ เดี๋ยวของผมจะยาวเกินไป จากคุณ : DigiTaL-KRASH!!! - [ 14 พ.ค. 52 18:20:18 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ยังไม่ทันเข้าไปอ่านเหมือนกัน กะว่าให้มีเวลาก่อน เพราะแนวกระทู้ค่อนข้างต้องใช้ความคิด กล่าวพาดพิงถึงบุคคลสำคัญทางศาสนา ยังไงผมว่าควรเลือกลบเป็นบางคห.ที่คิดว่าไม่เหมาะสมก็ได้นะครับ เพื่อไม่ให้กระทู้เสียไป คนแวะมาดูทีหลังจะได้ไม่ขาดโอกาส และหมายรวมถึงกระทู้อื่นๆด้วย จากคุณ : C.ker - [ 14 พ.ค. 52 18:26:03 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ผมคิดว่าประเด็นของกระทู้คือ "ทำไมต้องเลือกปฎิบัติ" อ.เดี้ยงครับ เคยมีคนมาตอบแบบเหน็บๆไว้ว่า "ห้องหว้ากอตั้งอะไรก็ได้ แค่อ้างเรื่องเหตุเรื่องผลหน่อยก็ตั้งได้ละ" ผมไม่เห็นด้วย หลายๆคนที่เล่นประจำมักจะรู้กันเองเป็นอย่างดีว่า "จะไม่กดลบกันเลย กระทู้นี้ช่วยได้ฉันช่วย ช่วยไม่ได้ก็เก็บกระทู้ไว้ รอคนอื่นที่ตอบได้มาตอบ" ฉนั้นผมว่าการเอาอะไรมาถามก็ได้นั้นมันก็ใช่ แต่บางคำถามมันหาได้ด้วย Smart Search หรือ Google ไม่ได้ เลยต้องมาตั้งถามกัน ผมก็เคย หมอเจว่าดังๆยังเคยเลย อยากให้ที่หว้ากอเป็น "บ้าน" ที่ใครเดือดร้อนอะไรก็ช่วยเหลือกัน ชั้นถามเธอ เธอถามชั้น ชั้นช่วยเธอ เธอช่วยชั้น ไม่ใช่ "ค่ายทหาร" มาแสดงพลังมหาอำนาจอมยิ้ม อำนาจเกรียนกันแถวนี้ กฏระเบียบมีไว้สร้างความเรียบร้อยของสังคม แต่กฏระเบียบก็ไม่ได้จำเป็นต้องทำตามเสมอไป "ถ้าน้ำใจหรือการทำอะไรก็แล้วแต่มันเลยมันเหนือกฏระเบียบไป แล้วมันทำให้เกิดประโยชน์ต่อสังคมนั้นๆ ผมก็จะทำ !!" แก้ไขเมื่อ 14 พ.ค. 52 18:26:59 จากคุณ : Cocopok - [ 14 พ.ค. 52 18:26:42 ]

ความคิดเห็นที่ 15 หรือบางที"ศาสนา"อาจจะเป็นตัวปิดกั้นมนุษย์จากความรู้ที่ถูกต้อง? ถ้าไม่มี"ศาสนา" มนุษย์คงจะสามารถค้นพบเพื่อนร่วมจักรวาลไปแล้ว? จากคุณ : Plamany - [ 14 พ.ค. 52 18:27:39 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ลองไปตาม Cache ใน Google ละ ไม่ได้เก็บไว้ด้วยสิเจอแต่รหัสกระทู้ "X7860235" เท่านั้นเอง น่าเสียดาย... จากคุณ : Cocopok - [ 14 พ.ค. 52 18:33:46 ]

ความคิดเห็นที่ 17 เรื่องศาสนา ความเชื่อ ความสัทธา การเมือง คุยกันยากคุยกันยาวครับ... ในเมื่อโดนลบ ก็ไม่เป็นไรช่างมันเหอะครับ... ก็จะได้รู้ ว่าโดนลบเพราะเรื่องอะไร...เหตุใดถึงโดนลบ... จุดประสงค์ขอวกระทู้ก่อน คือ ต้องการรู้ว่า จะโคลนนิ่ง ได้หรือไม่... ฉนั้น ลอง หา อะไรก็ได้ ที่คล้าย ที่มีอายุ มากว่า 2552 ปี มาแลกเปลี่ยนความคิดกันดีกว่า ครับ.... ผมไม่มีความรู้ทางด้านนี้ ก็เลยอยากจะอ่านอยากศึกษาทำความเข้าใจบ้าง....... แต่มีเรื่องศาสนา เข้ามาซะเยอะ ก็เลยชวด.... เอาน่า ครับ ลองตั้งใหม่ เปลี่ยนชื่อเปลี่ยน บุคคล ซะ จะได้ ไม่ต้องขัดแย้งกัน.... จากคุณ : TonTon1977 - [ 14 พ.ค. 52 18:48:07 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ผมคนหนึ่งล่ะ  ที่แสดงความเห็นว่าไม่เหมาะสม    เพราะจะเป็นชนวนทะเลาะกัน ซึ่งผมไม่ทราบเจตนาของ จขกท   ซึ่งถ้าเป็นความบริสุทธิ์ใจ  ก็ไม่มีปัญหาอะไรและขออภัยมา ณ ที่นี้ ประเด็นก็คือ  คำถามต้องการคำตอบทางวิทยาศาสตร์  ใช่หรือไม่  ... น่าจะใช่เพราะถามในหว้ากอ ถ้าจะสรุปแบบที่ต้องการคำตอบก็คือ  กระดูกมนุษย์อายุประมาณ 2500 ปี สามารถโคลนนิ่ง ได้หรือไม่ การเอ่ยถึงพระพุทธเจ้า ประกอบคำถาม  จะเห็นได้ว่าไม่ใช่สาระของคำถามที่จะให้ได้คำตอบในทางวิทยาศาสตร์เลย มีวิธีถามอีกมากมายที่จะได้คำตอบที่ต้องการอย่างเดียวกัน บ้านเราเป็นเมืองพุทธ   ความรู้สึกที่มีต่อพระพุทธเจ้า  อย่างไรก็น่าจะพอเข้าใจได้อยู่บ้าง ในที่สาธารณะอย่างนี้  การเข้าใจในความรู้สึกของผู้อื่น  ก็จะหลีกเลี่ยงความขัดแย้งที่อาจเกิดขึ้นได้ นอกเสียจากว่า  จงใจจะให้เกิดความขัดแย้งนั้นเสียเอง ที่ผมแสดงความเห็นว่าไม่เหมาะสม    ก็คือไม่ต้องการให้ทะเลาะกันนั่นเอง   ซึ่งตอนที่ผมเข้าไปก็มีขึ้นแล้ว  และแน่นอนว่าไม่จบง่ายๆ เพิ่มเติมข้อความว่า   ผมไม่ได้เป็นคนเสนอลบ   แต่ก็โล่งใจที่หายไป แก้ไขเมื่อ 14 พ.ค. 52 19:05:15 จากคุณ : เข็มแม่เหล็ก - [ 14 พ.ค. 52 18:49:27 ]

ความคิดเห็นที่ 19 เพราะผมเองก็เคยคิดว่าตัวเองเป็นพุทธมาก่อน (ปัจจุบันอยู่บนหนทางในการทำความเข้าใจพุทธใหม่ เพื่อ จะได้เป็นพุทธโดยแท้จริง - หรือไม่เป็นในบั้นปลายก็แล้วแต่) . . . . . เหมือนผมเลยครับ   จากคุณ : Kross_ISC - [ 14 พ.ค. 52 18:52:39 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ใครลบควรแสดงทัศนะ ความคิดเห็น ในกระทู้นี้ด้วย ว่าเพราะเหตุใด ถ้าเพราะเห็นความเห็นออกทะเล ใยไม่ลบความเห็นนั้นๆทิ้งไป ส่วนตัวผมว่าห้องนี้คุยได้หมดทุกเรื่อง ด้วยพื้นฐานเหตุผล ถ้าไม่คุยห้องนี้จะคุยห้องไหน ดูนักวิทย์ต่างประเทศสิ เค้าก็คุยเรื่องศาสนาคริสต์ ก็คุยกันได้ แถมยังมีสารคดีแสดงแนวคิดต่างๆมากมาย ทั้งเกี่ยวกับปาฏิหารย์ ความน่าจะเป็นของข้อมูลในไบเบิล เค้าก็ทำให้คุยกันได้หมดแสดงแนวคิดได้หมดแล้วก็ทิ้งให้คนไปคิดต่อเอง หรือเราต้องรอนักวิทย์ฝรั่งมาเป็นคนวิเคราะห์ศาสนาพุทธ ว่าสิ่งนี้คืออะไรสิ่งนั้นคืออะไร นักวิทย์ไทยกลับปิดกรอบความรู้ จากคุณ : หลับตา - [ 14 พ.ค. 52 18:53:57 A:58.64.68.214 X: TicketID:173601 ]

ความคิดเห็นที่ 21 การเมือง ศาสนา ศรัทธา ความเชื่อ เพิ่มอีกอันละกัน สถาบันการศึกษา (แอบแซวกระทู้เดือดๆข้างล่าง) มันเป็นสิ่งบอบบาง พูดกันไปก็รังแต่จะเลาะกันครับ แต่น่าสังเกตว่าบางคนก็แปลกครับ ไม่ชอบหัวข้อแบบนี้จะเข้าไปดูให้เสียจิตทำไมไม่รู้ แล้วยังกดลบกระทู้ให้คนอื่นเค้าวงแตกอีก จากคุณ : มนุษย์ถ้ำ - [ 14 พ.ค. 52 19:05:48 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ตั้งแต่ผมดู The Others ผมก็เลิกกลัวผี ตั้งแต่ผมเห็นคนไปทำกิจกรรมงานบุญเกี่ยวกับศาสนา ไม่ว่า คริสต์ พุทธ หรือ อิสลาม แต่กลับไม่ถึงบ้าน เพราะรถชน รถตกเขา เหยียบกันตาย กำแพงโบสถ์ถล่มทับ ตายหมู่ ผมก็เริ่มคิดใหม่ คิดหลากหลาย คล้ายๆบ้า แต่ยืนยันว่ายังไม่ใช่ เคยสงสัยกันมั๊ยว่าทำไมจักรวาลมันกว้างใหญ่นัก มันเป็นจักรวาลของมนุษย์อย่างเราหรือปล่าว แม้แต่เวลานี้ที่คุณคิดว่าเป็นชืวิต ก็อาจเป็นเพียงวาระหลังความตายรวมกันอยู่ที่นี่ รอเวลาไปเกิดใหม่ เพื่อใช้พลังแห่งชีวิตที่แท้จริงเดินทางไปทั่วจักรวาลก็เป็นได้ ซึ่งผมคิดว่า ถ้าเวลานี้มนุษย์หาวิธีเดินทางไปทั่วจักรวาลได้ ยังจะมีใครเชื่อในคำสอนของใครอีกหรือปล่าว จากคุณ : คนสีคล้ำ - [ 14 พ.ค. 52 19:18:42 A:10.1.72.25 X:203.152.19.170 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ไม่ได้เกี่ยวกับกระทู้ที่โดนลบนะครับ แต่จากตัวอย่างที่ยกมา   ผมว่า เสรีภาพก็ต้องมีขอบเขต ขอบเขตในที่นี้คือไม่ก้าวก่ายในเสรีภาพของผู้อื่น ก็ต้องมาตีความกันว่า เสรีภาพของแต่ละคนหมายถึงอะไร คุณมีเสรีภาพในการวิจารณ์  "แต่"  เสรีภาพของคุณต้องไม่ไปทำลายเสรีภาพของคนอื่น  ตัวอย่างง่ายๆ ถ้าสมมติว่ามีคนๆนึงเสรีภาพร้อยล้าน% บอกว่าเค้าอยากทำไรก็ได้  เดินไปเจอคนคนนึงเค้าหมั่นไส้ เค้าฆ่าคนนี้ทิ่้งได้ เพราะเป็นเสรีภาพของเค้า ใช่มั้ย?  ใช่  แต่เสรีภาพของคนๆนี้ ไปทำลายเสรีภาพในการดำรงชีวิตของผู้อื่น   ในทำนองเดียวกัน เรามีเสรีภาพที่จะพูดจะทำอะไรก็ได้ อยากทำอะไรก็ทำ แต่เสรีภาพของคุณถูกจำกัดด้วยการไม่ไปวิจารณ์บุคคลที่คนๆนั้นนับถือ ตัวอย่างเช่น คุณมีเสรีภาพจะวิจารณ์ใครก็ได้ อยู่มาวันนึงคุณมาวิจารณ์พ่อเพื่อนว่านิสัยอย่างนั้นอย่างนี้ ได้มั้ย "ได้" แต่เสรีภาพของคุณไปทำลายเสรีภาพที่เคารพคนๆนั้นของเพื่อนคุณ อันนี้ผมวิจารณ์ คำว่า "แต่"  ที่ จขกท หยิบยกเป็นตัวอย่าง ====================== มาถึงประเด็น Cloning พระพุทธเจ้า  ผมว่ากระทู้นั้นไม่ควรลบ ไม่ได้ดูหมิ่นดูถูกอะไรเลย  พุทธศาสนิกชนก็รู้กันดีอยู่แล้วตามหลักศาสนาว่าท่านปรินิพพานไปแล้ว ไม่กลับมาเวียนว่ายตายเกิดอีกตามที่เชื่อกัน  แต่การโคลนนิ่งเป็นการสร้างกายเนื้อขึ้นมา ซึ่งไม่ได้เกี่ยวกับพระพุทธองค์เลย จากคุณ : oakemon - [ 14 พ.ค. 52 19:26:03 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ข้างบนหลายๆท่านได้พูดไปหมดแล้ว ไม่รู้จะเสริมยังไง ขอเข้ามาแจกกิ๊ฟแล้วกันค่ะ จากคุณ : Antiphist - [ 14 พ.ค. 52 19:44:50 ]

ความคิดเห็นที่ 25 เมกาที่ว่าเสรี ยังไม่ทุกเรื่องไปเลย (ไม่เคยไปหรอกเค้าว่ามานะ) จากคุณ : ART Shotgun - [ 14 พ.ค. 52 19:58:49 ]

ความคิดเห็นที่ 26 จขกท. "ปัจจุบันอยู่บนหนทางในการทำความเข้าใจพุทธใหม่ (เพื่อ จะได้เป็นพุทธโดยแท้จริง - หรือไม่เป็นในบั้นปลายก็แล้วแต่)" ----------------------------------------------------------------- แค่เริ่มก็พลาดแล้วครับ ** ขอโทษที่ผมบังอาจบอกว่ามันใช้ไม่ได้ อันนี้ของฝากครับ "You are already complete. You just don't know it." ผมอาจจะเสือก บอกอะไรที่ไม่เข้าหู จขกท. ก็ขออภัย ณ.ที่นี้ด้วยครับ มันไม่เกี่ยวอะไรกับกระทู้นี้เลย ผมเพียงสะดุดกับประโยคของ จขกท. ที่ผมยกมา เท่านั้น แก้ไขเมื่อ 14 พ.ค. 52 21:03:18 จากคุณ : Time & Space - [ 14 พ.ค. 52 20:40:37 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ไหนๆชื่อผมก็ถูกขึ้นไปอยู่ข้างบนก็ขอแสดงทรรศนะบ้างละกัน หว้ากอในสมัยที่อยู่กันตอนนี้เป็นสังคมที่มีขนาดใหญ่กว่าแต่ก่อนมาก การกระทบกระทั่งเลยมีได้มากกว่าสมัย 10 กว่าปีที่แล้ว ที่คนที่จะเข้าห้อง X-file นี้ จะเป็นกลุ่มคนที่แสวงหา และเปิดกว้างในการถกเถียง สมัยก่อนปัญหาเรื่องกระทบเฉียดคุกหรือเฉียดนรกก็เคยมี แต่ทุกๆคนที่ตอบคำถามก็จะต้องช่วยกันตะล่อมให้อยู่ในกรอบความเป็นวิทยาศาสตร์ และไม่ให้เกินเลยไปกว่านั้น อย่างกระทู้เรื่องพระพุทธเจ้า ผมคิดว่าด้วยคำสอนของพระองค์เองการนำเรื่องมาวิเคราะห์ก็ยังอยู่ใน Concept เพราะท่านสอนสาวกในแนวแบบ ปัญญา คิด วิเคราะห์ ตัดสินใจเชื่อไม่เชื่อ ถ้าเป็นศาสนาที่เน้นศรัทธาเราก็ไม่ควรไปยุ่ง เพราะถึงเข้า Concept วิทยาศาสตร์ แต่ก็หลุด Concept ของความศรัทธา อันนี้ถ้าจะลบผมก็เห็นด้วย กฏไฟแดงของพันทิปเขาก็มีเหตุผลอยู่ในการทำให้คนหมู่มากอยู่ร่วมกันได้โดยไม่เกิดการทะเลาะเบาะแว้งเกินเลยกันไป แต่ผมเชื่อว่า วิทยาศาสตร์ไม่อาจเติบโตได้โดยการจำกัดกรอบความคิด ผมอยากให้พวกเราพยายามเปิดใจกว้างกันนิด อะไรดูจะหลุดๆ แทนที่จะกดลบอยากให้พยายามช่วยกันตะล่อมให้เข้ามาใน Concept การวิเคราะห์ด้วยเหตุและผล ถ้าบางคนออกอารมณ์เกินไปหรือ หลุด Concept เกินไป ก็น่าจะช่วยหลังไมค์ให้เจ้าของ คคห มาพิจารณาลบหรือปรับเปลี่ยนคำพูดคำถามด้วยตนเอง น่าจะทำให้หว้ากอน่าอยู่ขึ้น ในความเห็นผม ถ้าจะมีกระทู้ที่ควรลบจริงๆก็ควรเป็นกระทู้ที่ จขกท ไม่ต้องการรับฟังความเห็น นั่นคือกระทู้ที่หลุด Cocept หว้ากอไป จากคุณ : Darth Prin - [ 14 พ.ค. 52 20:44:18 ]

ความคิดเห็นที่ 28 #26 น่าคุณ Time & Space ขอผมลองดูหน่อย จะช้าจะเร็ว เห็นเขาว่า ไม่ว่าเราจะเดินไปทางไหนๆ ท้ายที่สุดแล้ว ก็ไปถึงจุดเดียวกันเหมือนกันไม่ใช่เหรอ ผมอาจจะเดินชมนกชมไม้ไปเรื่อย ไม่ได้เดินบนเส้นทางที่ตัดตรง แต่ก็คงไปถึง เหมือนกันล่ะ สมัยก่อนเมื่อสิบเอ็ดปีที่แล้ว ตอนที่ผมเข้าพันทิป ตอนแรกๆช่วงนั้น ผมคิดว่าตัวผมรู้มากเลย แต่มาตอนนี้ผมว่าผมไม่ค่อยรู้อะไรเท่าไหร่ ต้อง อ่าน ถาม แล้วก็เก็บมาคิดกันต่อไป ไม่เฉพาะเรื่องทางศาสนานี้หรอก แต่แม้แต่เรื่องที่ผมเรียนมา ผมก็ยังไม่รู้อะไำรอีกเยอะ สรุปว่าขาดข้อมูลอย่างแรงเลย คุณ Darth Prin ขอบคุณที่มาร่วมแสดงความคิดเห็นครับ ขอโทษที่เอ่ยชื่อไว้ข้างบนครับ ผมเสียดายที่ไม่ได้เซฟ กระทู้ที่แล้วเก็บเอาไว้ เพราะเป็นกระทู้ที่ตอบกันไว้ดีมาก กระทู้หนึ่ง จากคุณ : DigiTaL-KRASH!!! - [ 14 พ.ค. 52 21:55:57 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ก็มีสามคนมากดไฟแดงพร้อมกันโดยมิได้นัดหมายมั้งครับ จากคุณ : nisas - [ 14 พ.ค. 52 22:34:53 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ความกลัว ทำให้เสื่อม แต่ การถกเถียงบนพื้นฐานของเหตุและผล ก่อให้เกิดปัญญา นำไปสู่ทางออก ในการแก้ปัญหา จากคุณ : Tamaflu - [ 14 พ.ค. 52 23:21:12 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ^ ^ ^ ก็อาจจะมีคนที่ไม่เห็นด้วยหลายๆคนมาโพสในกระทู้เดียวกันโดยมิได้นัดหมาย และจึงนัดกันกดไฟแดงพร้อมกันโดยนัดหมาย จากคุณ : Shineokung - [ 14 พ.ค. 52 23:24:14 ]

ความคิดเห็นที่ 32 รู้สึกว่าตัวเองเหมือนคุณ Digital-KRASH แฮะ ตอนนี้ผมก็ถอยหลังจากศาสนาพุทธเวอร์ชั่นประเทศไทยมาหลายๆ ก้าว ออกมาดูเป็นผู้สังเกตุการณ์ แต่ใจไม่สามารถรับหลัก"ความเชื่อ" หลายๆ อย่างที่ชาวพุทธส่วนใหญ่ในไทยมี (การลบกระทู้ที่ว่าก็เป็นอีกตัวอย่างหนึ่ง) หวังว่าสักวันใจของผมทั้งใจคงกลับไปนับถือศาสนาพุทธที่แท้ได้ ถ้าไม่งั้น ก็คงเลิกนับถือศาสนาใดๆ ไปเลย ผมสงสัยจังว่าถ้ามีคนถามคำถามเดิมแต่เปลี่ยนจากพระพุทธเจ้าเป็นพระเยซู ศาสดามูฮัมหมัด หรือศาสดาในศาสนาอื่น จะมีใครมาตามลบหรือเปล่า ปล. ผมเป็นคนแรกๆ ที่ตอบกระทู้นั้น คำตอบในฐานะที่รู้เรื่องโคลนนิ่งพอ สมควรคือ DNA ถ้าถูกเผาด้วยความร้อนสูงๆ และถูกเก็บรักษาในอุณหภูมิ ห้องนานๆ เป็นพันปีเนี่ย DNA จะเสื่อมสลายไปมาก ไม่สามารถเอามาโคลนได้ จากคุณ : Geneticist - [ 14 พ.ค. 52 23:38:10 ]

ความคิดเห็นที่ 33 อ่านทัน แต่แว๊บไปอ่านอันอื่นนิดหนึ่ง กลับมาหายไปแล้ว หว้ากอ เป็นห้องวิทยาศาสตร์ ที่เราพยามค้นหาความจริงของธรรมชาติ เราควรเปิดใจให้กว้าง เพื่อการศึกษาหาความรู้ บางเรื่องไม่อาจถามที่อื่นได้ สิ่งที่น้อยที่สุดต้องมี คือ กฏหมาย บอกแล้วว่าเราจะทำอะไรได้ในขอบเขตของสังคม เหนือขึ้นไปคือศีลธรรมจริยธรรม มันวัดยาก มองในขีดจำกัดต่ำสุดแล้ว กระทู้สมควรตั้งได้ในเชิงวิทยาศาสตร์ หัวใจของนักวิทยาศาสตร์คืออะไร เราพิจารณาเอง ถ้าการค้นหาคำตอบ ถูกจำกัดด้วยความเชื่อ เหมือนหลายร้อยปีก่อน มันน่าเศร้าใจ แต่หัวใจที่รักความจริงไม่เคยตาย ความรู้จะสะสมรุ่นสู่รุ่น เมื่อวันหนึ่งในกาลข้างหน้า เมื่ออารยธรรมก้าวหน้า ถ้าเราเดินทางย้อนเวลาได้ เราสามารถสร้างสิ่งต่างๆโดยการสำเนาวัตถุ ในระดับควอนตัมได้ ธรรมชาติจะเปิดเผยอะไรแก่เราอีกขนาดไหน แต่เวลานี้รอไปก่อน เรายังล้าหลังอยู่ จากคุณ : mm - [ 14 พ.ค. 52 23:47:50 A:125.27.116.22 X: TicketID:207667 ]

ความคิดเห็นที่ 34 เราว่าเราก็ยึดมั่นในศาสนามากๆ นะ แต่ดันคิดว่าคำถามแบบนี้ไม่เห็นจะเสียหาย คนเรามีสิทธิอยากรู้ แล้วก็ไม่ได้ลบหลู่จาบจ้วงอะไรซะหน่อย เอาเป็นว่า ส่วนตัวเราเชื่อว่า หากโคลนได้จริง ก็คงโคลนได้เฉพาะร่างกาย ส่วนภูมิปัญญา ความสามารถ และความเพียรในการไปให้ถึงนิพพานนั้น ไม่รู้ว่าจะทำได้หรือเปล่า ถ้าโคลนตัวเราออกมาล่ะ ถือว่าเป็นคนๆ เดียวกับเราไม้ ก็เปล่า เกิดมาก็เหมือนเด็กธรรมดาทั่วไป ยังไม่รู้เรื่องอะไร ต้องผ่านการเรียนรู้อีกมาก แล้วก็ไม่ได้หมายความว่าจะต้องเรียนได้อย่างเรา หรือมีนิสัยเหมือนเรา เพราะสิ่งแวดล้อมมันต่างกัน ปล.ความเห็นส่วนตัว ถ้าใครไม่พอใจต้องขออภัยด้วย จากคุณ : ปฏิจจสมุปบาท (ปฏิจจสมุปบาท) - [ 15 พ.ค. 52 00:26:02 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ผมเป็นคน ที่ตั้งกระทู้ โคลนนิ่งเองครับ เป็นเจ้าของกระทู้นั้นเลย โดยสุจริตใจครับ   คือผมคิดจะบวชในพระพุทธศาสนา  ผมเป็นชาวพุทธตั่งแต่เกิด นับถือศาสนาพุทธทั้งตัว และหัวใจ เมื่อวันหยุดยาวที่ผ่านมา ผมได้เดินทางไปสักการะ พระบรมสารีริกธาตุ มาครับ จึงเกิดคำถามกับตัวเอง  ว่า ทำไมเราถึงสร้างสิ่งปลูกสร้างมากมายเพื่อที่จะบรรจุกระดูก  ของ คนที่สอนให้เราปล่อยวาง ทำไมเราให้ความสำคัญกับวัตถุ มากกว่าแก่นของคำสอน เราปล่อยวางสู่ ความว่างจริงๆหรือ ความสงสัยในเรื่องต่างๆ ที่ยิ่งผมอ่านพุทธประวัต ก็ยิ่งสงสัย ก็เลยคิดไปคิดมา มองพระพักองค์พระประธานในโบถส์ ก็สงสัยว่า แท้จริงแล้ว หน้าตาของ พระพุธเจ้า เป็นเช่นไร จึงเกิดความคิดเรื่องโคลนนิ่ง ขึ้นมาครับ อยากรู้จริงๆว่า ถ้าทำได้ เราจะได้คนที่คิดคำสอนเรื่องหลุดพ้น พร้อมๆกับนิสัย ความคิด ของท่าน มาได้ไหม นั่นคือ ต้นเหตุ ที่ผมคิดถาม วันนี้ก็เพิ่งมีเวลาได้เข้ามาอ่าน ก็ถึงรู้ว่า กระทู้ผมโดนลบไปแล้ว ยอมรับครับว่าเสียใจจริงๆ ยิ่งรู้ว่ามีคนตอบด้านความรู้ทางวิทยาศาสตร์ ผมยิ่งเสียดายที่ไม่ได้อ่าน ผม ไม่เคยคิดจะลบหลู่ใดๆเลย โดยสัจจริง ขอบคุณ พี่ DigiTaL-KRASH!!! มากๆครับ ที่ตั้งกระทู้นี้ จากคุณ : Dr.Jackass. - [ 15 พ.ค. 52 00:50:40 ]

ความคิดเห็นที่ 36 เห็นด้วยกับกระทู้นี้ครับ ผมก็คิดว่าผมเป็นพุทธที่ออกห่างจากคนไทยส่วนใหญ่ ผมอ่านกระทู้นั้นไม่ทันเพราะคลิกไปก็โดนลบไปแล้ว #35 ผมก็เคยสงสัยเช่นนั้นครับ "ทำไมเราถึงสร้างสิ่งปลูกสร้างมากมายเพื่อที่จะบรรจุกระดูก  ของ คนที่สอนให้เราปล่อยวาง ทำไมเราให้ความสำคัญกับวัตถุ มากกว่าแก่นของคำสอน" ... อยากจะแสดงความเห็นอีก ก็ไม่ได้ ... เดี๋ยวโดนลบ ... จากคุณ : Phoenix032 - [ 15 พ.ค. 52 07:07:13 ]

ความคิดเห็นที่ 37 กดไฟแดงได้สามครั้งก็ถูกลบ แน่นอนว่า หากกระทู้นั้นมีเนื้อหาที่ไวต่อความรู้สึก มันก็เป็นเรื่องธรรมดาครับ ที่จะถูกลบได้ เราสร้างกฏเรื่องไฟแดงลบกระทู้ขึ้นมาก็ต้องยอมรับในอำนาจของมันไปด้วยน่ะครับ แล้วก็ไม่ใช่คนทุกคนจะคิดเหมือนกัน ร้อยคนมองว่าไม่ลบหลู่ แต่สามคนมองว่าใช่แล้วกดลบ กระทู้มันก็ไปแค่นั้น จากคุณ : Generals - [ 15 พ.ค. 52 08:41:44 ]

ความคิดเห็นที่ 38 ศีล สมาธิ ปัญญา คือสิ่งที่พุทธต้องการ "sb*star" แค่การที่คุณบอกว่า เป็นคนยืดมั่นในศาสนา ก็แปลว่าคุณยังยึดติดเกินไป กลายเป็นอารมณ์ขุ่นมัวเพราะมีคนมาว่ากล่าวในสิ่งที่เราแอบอิงอยู่ กลายเป็นโมโหและเมื่อความโมโหบังใจ ปัญญาก็มืดลง ลองอ่านนิทานเซ็นครับ เน้นเรื่องการปล่อยวาง จากคุณ : <--APART - [ 15 พ.ค. 52 13:20:39 ]

ความคิดเห็นที่ 39 ทั้งน่าเศร้า และ น่าขำ เหตุที่กระทู้ ไม่สมควรตั้ง เป็นเห็ตุเดียว กับ ที่ พระบรมสาลีฯ ไม่สมควร ถูกนำไป โคลน ไม่ใช่กระทบต่อศาสนา แต่ กระทบ ต่อ ศรัทธา ของใครบางคน จากคุณ : Humandroy - [ 15 พ.ค. 52 14:32:13 ]

ความคิดเห็นที่ 40 มีบุคคลอื่นอีกนอกเหนือจากพระพุทธเจ้า ที่หลายๆคนอยากรู้ว่าโคลนได้ไหม แต่ถามไม่ได้ เพราะที่นี่คือประเทศไทย จากคุณ : powerconduit (powerconduit) - [ 15 พ.ค. 52 16:05:33 ]

ความคิดเห็นที่ 41 ต่างคนก็ต่างทำหน้าที่ครับ คห35-36 อยู่ที่เราเองจะเลือกอะไร ถ้าไม่มีคนสร้างเปลือกห่อแก่น แก่นก็คงไม่มาถึงพศ.2552นี้เช่นกัน คำสอนยังมีอยู่ครบสำหรับทุกๆท่าน ถ้าเรามัวแต่ไปคิดว่าทำไมไม่ทำอย่างนั้นอย่างนี้ คนนั้นไม่ทำอย่างนั้นอย่างนี้ ผมว่าโดนกิเลสต้มแล้วละ เพราะที่แท้เราต้องดูศึกษากิเลสตัวเองเป็นสำคัญ เมื่อเราพัฒนาผู้อื่นก็จะพัฒนาไปด้วยนั้นเอง จากคุณ : หลับตา - [ 15 พ.ค. 52 19:25:02 A:58.64.64.77 X: TicketID:173601 ]

ความคิดเห็นที่ 42 นั่นสิ เปลือกบางทีก็จำเป็น แต่บางทีก็มีคนห่อหนาไปหรือห่อจนอะไรไม่รู้อยู่ข้างในเอามาหลอกขายคนดูก็เยอะ จากคุณ : mm - [ 16 พ.ค. 52 22:17:28 A:125.27.137.242 X: TicketID:207667 ]