ความคิดเห็นที่ 1 แน่นอน จากคุณ : DigiTaL-KRASH!!! - [ 24 พ.ค. 52 23:06:43 ]

ความคิดเห็นที่ 2 คนบนโลกนี้จะมีความรู้แตกฉานอีกเยอะ เพราะเดา ยากหรือไม่ได้เลย จากคุณ : ยัยเขี้ยว - [ 24 พ.ค. 52 23:06:53 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ดินสอ 2B ได้เอาไปวาดรูปอย่างเดียวแน่คราวนี้ หึหึ จากคุณ : Love me love my cat. (yiam21) - [ 24 พ.ค. 52 23:13:03 ]

ความคิดเห็นที่ 4 บางเรื่องคงยุ่งยาก อย่างเช่นปัญหาเกณฑ์การตรวจข้อสอบของอาจารย์บางคน จากคุณ : หมอแมว - [ 24 พ.ค. 52 23:13:53 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ไม่เห็นเกี่ยวกันเลย "คำถาม  : จงอธิบาย . บลาๆๆๆๆ" "ตอบ: บลาๆๆ" จากคุณ : อยู่คนเดียวเปล่าเปลี่ยวใจ - [ 24 พ.ค. 52 23:18:20 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ตอบคุณหมอแมวครับ วิธีตรวจมี 2 ระดับครับ 1.ความมาตรฐานของครู 2.นำข้อสอบทั้งหมดมาเปรียบเทียบแล้วให้คะแนน ข้อสอบอัตนัย มีอยู่แค่ 2 อย่างครับ ผ่านไม่ผ่าน มหาลัยผมทำแบบนินะ จากคุณ : 1234 - [ 24 พ.ค. 52 23:23:17 A:125.26.147.47 X: TicketID:184507 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ไม่มีแบบ ตัวเลือก ..... เฉยๆครับ ตราบใดที่ ยังเน้นให้ท่อง มากกว่า คิด ก็ไม่มีอะไรเปลี่ยน ตัวอย่าง...... คำถาม: ใครคือผู้ก่อตั้งสมาคมแมวเหมียว มิ้วๆๆ คำตอบ(เฉลย): เคนชิโร่ คิตตี้ คำตอบ(ที่นักเรียนตอบ): หม่ำ เชิญยิ้ม -*-.... จากคุณ : ginosty - [ 24 พ.ค. 52 23:34:11 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ไม่ใช่หม่ำวงแคลชหรอ จากคุณ : Mr.june - [ 24 พ.ค. 52 23:36:40 ]

ความคิดเห็นที่ 9 คมมากครับคุณ ginosty จากคุณ : 1234 - [ 24 พ.ค. 52 23:37:34 A:125.26.147.47 X: TicketID:184507 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ผมก็สอบตกบ่อยๆสิ จากคุณ : pheebar - [ 24 พ.ค. 52 23:42:34 ]

ความคิดเห็นที่ 11 เพราะคำถามบอกว่า ข้อสอบทุกอย่าง เลยบอกว่าบางเรื่องคงยุ่งยากไงคะ ถ้าไม่คำนึงถึงปัจจัยอื่นๆเลย อัตนัยดีกว่าอย่างไม่ต้องมีข้อสงสัย แต่ในบางสถานการณ์ ในบางสถานที่ ปรนัยก็จะมีข้อดีขึ้นมา อย่างสอบ Onet Anet ใช้อัตนัยทั้งหมด สอบกพ. ใช้อัตนัยทั้งหมด หรือในบางกรณีที่การสร้างคำถามทำได้ยาก ก็ต้องจำกัดคำตอบด้วยการกำหนดช้อยส์ให้เลือก ข้อสอบปรนัย การคิดข้อสอบทำได้ยากกว่าค่ะ จริงๆถ้ามีทางเลือกเชื่อว่าอาจารย์ส่วนใหญ่น่าจะชอบอัตนัยมากกว่า จากคุณ : หมอแมว - [ 24 พ.ค. 52 23:52:05 ]

ความคิดเห็นที่ 12 เราว่าข้อสอบปรนัยบางประเภท เช่นพวกเคไทป์ โหดกว่าอัตนัยนะคะ... จากคุณ : ลูกเป็ดขี้เกียจ - [ 25 พ.ค. 52 00:07:39 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ไม่เกี่ยวกันเลย เครื่องมือวัดของแต่ละประเภทมันก็มีข้อดีข้อเสียต่างกันหละ ขอสอบที่ดีก็ควรมีทั้ง อัตนัยและปรนัย รวมกัน ถ้าจะมีแต่อัตนัยอย่างเดียว ถ้าใช้สอบกับคนจำนวนมากคนตรวจก็แย่เลย ลายมือของแต่ละคนก็นะ ... บางคนก็สวย บางคนก็เรียกว่าไส้เดือนดิ้น 55 ขอสอบปรนัยนี่เราว่ายากกว่าอัตนัยอีกนะ บางทีจะงงในเรื่องภาษาที่มัน พลิ๊กแพลงทั้งคำถามและตัวเลือกอีก ตัวเลือกบางข้อมันก็ใกล้เคียงกัน วิธีทำมันอาจจะดูง่ายถ้าไม่ได้ก็แค่มั่วกาแต่ก็ยากเหมือนกันนะ แต่ข้อเขียนนี้เราว่าง่ายกว่าแต่ถ้าใครไม่อ่านไม่จำมาก็มั่วลำบาก แก้ไขเมื่อ 25 พ.ค. 52 00:28:06 จากคุณ : Hello_The_Rain - [ 25 พ.ค. 52 00:15:46 ]

ความคิดเห็นที่ 14 เข้าใจครับ คุณหมอแมวรับหลักการเดียวกันกับผมเลย คุณหมอแมววันนี้เอาล๊อคอินมาให้แฟนใช้เล่นแน่ๆ เลย หุหุ เมื่อก่อนยังเหนหมอแมวใช้ครับ ยุ เลย แซวเล่น ครับ จากคุณ : 1234 - [ 25 พ.ค. 52 00:16:52 A:125.26.147.196 X: TicketID:184507 ]

ความคิดเห็นที่ 15 เจอข้อสอบถูกผิดแบบตอบถูก +1  ตอบผิด -1 ก็เครียดแล้วครับ >.< จากคุณ : หมีอ้วนนอนม้วนตัวกลม - [ 25 พ.ค. 52 00:21:54 ]

ความคิดเห็นที่ 16 .. คะแนนก็ แกว่ง ตาม คนตรวจสิครับ แถม ยิ่งจำนวนเยอะๆ ตรวจได้ช้าด้วย จากคุณ : ขนมจีนน้ำปลาร้า - [ 25 พ.ค. 52 00:26:56 ]

ความคิดเห็นที่ 17 เครื่องมือวัดผลมีหลากหลายรูปแบบค่ะ.. เลือกใช้ให้เหมาะสมดีกว่าใช้อย่างใดอย่างหนึ่งนะคะ...ในความคิดเห็นเรานะ.. แก้ไขเมื่อ 25 พ.ค. 52 00:32:48 จากคุณ : primjang - [ 25 พ.ค. 52 00:32:30 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ไม่เกี่ยวเลย ข้อสอบจะดีไม่ดี อยู่ที่ึความสามารถของคนออก การทำข้อสอบอัตนัยให้ได้คะแนนเยอะ คุณไม่จำเป็นต้องมีความรู้ที่ถูก แต่คุณต้องมีความรู้ ตรงกับคนตรวจ แก้ไขเมื่อ 25 พ.ค. 52 01:04:57 จากคุณ : JohnnieWalker - [ 25 พ.ค. 52 01:04:25 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ข้อสอบอัตนัย เหมาะกับการสอบที่ผู้เข้าสอบไม่มาก สามารถให้คนๆ เดียวหรือไม่กี่คนตรวจได้ในเวลาอันสั้น ถ้าเป็นการสอบที่มีคนสอบมากๆ อย่างเอนทรานซ์สมัยก่อนหรือ O-net สมัยนี้ การใช้ข้อสอบอัตนัยจะมีปัญหามาก เพราะจะต้องใช้คนจำนวนมากในการตรวจ ซึ่งแต่ละคนก็อาจจะมีมาตรฐานในการให้คะแนนแตกต่างกัน หรือแม้แต่คนเดียวกันตรวจก็เถอะ แต่ถ้าต่างวันต่างเวลา บางทีมาตรฐานยังแตกต่างกันเลย ตอนแรกๆ อาจจะโหด แต่พอเริ่มตรวจไปนานๆ ชักเหนื่อยชักเบื่อ อาจจะมีหลงหูหลงตาหรือปล่อยๆ ไป หรืออาจจะเป็นตรงกันข้ามคือแรกๆ ใจดี หลังๆ เริ่มโหด ก็เป็นไปได้ทั้งนั้น จากคุณ : เกียรตินำ - [ 25 พ.ค. 52 01:07:19 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ข้อสอบอัตนัย อาจให้คะแนนถ้าตอบโดยอิงเหตุผล แต่บางกรณี ก้จะไม่ได้เลย ถ้าไม่สามารถหาเหตุผลที่ตรงกะบคำตอบที่ถูกต้องได้ เช่น ข้อสอบในคณะนิติศาสตร์ ข้อสอบทุกข้อมีธงคำตอบที่ถูกต้อง แต่ถ้าใครตอบธงคำตอบผิด แต่สามารถให้เหตุผลที่ถูกต้องตามธงคำตอบ ก็อาจให้คะแนนได้ ครับ ดังนั้น การมีข้อสอบอัตนัย จะทำให้คนเรามีเหตุผลมากขึ้น จากคุณ : fmby93 - [ 25 พ.ค. 52 01:12:18 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ถ้าไม่มีมาก่อน ผมจะคิดค้นเป็นคนแรก แล้วนำวิธีสอบแบบนี้ไปจดลิขสิทธิ์ จากคุณ : azurite - [ 25 พ.ค. 52 01:15:02 ]

ความคิดเห็นที่ 22 หากกระทู้นี้เปรียบเสมือนข้อสอบ การตอบกระทู้นี้ก็เสมือนการทำข้อสอบแบบอัตนัย ผู้อ่านความเห็นในกระทู้ก็เสมือนอาจารย์ ผู้ตอบกระทู้ก็ต้องตอบให้ถูกต้องและถูกใจพร้อมกัน จึงจะได้คะแนนดี แต่ต้องเสียเวลาในการอ่าน แต่ถ้ากระทู้นี้เป็นแบบปรนัย คือ มีตัวเลือกให้เลือก โดยสภาพแล้วเป็นข้อสอบที่ต้องการให้ฝึกการตัดสินใจ ภายใต้สถานการณ์ที่จำกัด ทั้งแนวคิดและเวลา จะต้องเลือกอย่างไรให้ถูกที่สุดหรือเสียหายน้อยที่สุด ผู้ตอบต้องตอบให้ถูกต้องตามคำตอบที่ตั้งไว้อย่างเดียวก็พอ แต่ถ้าพูดถึงการตรวจคำตอบ บางทีข้อสอบอัตนัย (เขียน) อาจตรวจง่ายกว่าปรนัย ก็ได้ เพราะว่าหน้ากระดาษจะว่างมากในบางวิชา จากคุณ : ผู้สังเกตการณ์ - [ 25 พ.ค. 52 01:17:32 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ผมคงเรียนไม่จบ จากคุณ : หนังสือที่คุณอ่านแล้ววางไม่ลง - [ 25 พ.ค. 52 01:20:45 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ต้นไม้ต้องถูกตัดเยอะมาก ป่าหายไปอีกเยอะกว่านี้ และทำให้โลกร้อนเร็วขึ้น  เพราะต้นไม้เป็นวัตถุดิบทำกระดาษ จากคุณ : 1p2m - [ 25 พ.ค. 52 03:16:58 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ผมคงเก่งขึ้น(กว่าเดินนิดหน่อย)เพราะมันยากขึ้น และมีทักษะการพูดที่มาก มีผลคัลมีผล และก็คงจะมีคนที่เก่งกว่าผมเพิ่มขึ้นบานเบอะ จากคุณ : tunnie555 - [ 25 พ.ค. 52 04:25:56 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ผมคงสอบตกเพราะลายมือไม่สวยอาจารย์เคยบอกว่าใช้มือหรือใช้.....เขียนเนี่ยฉันปวดหัวแล้วนะ จากคุณ : คนขายข้าว - [ 25 พ.ค. 52 05:33:54 ]

ความคิดเห็นที่ 27 อัตนัย Onet GAT PAT คงตรวจข้อสอบกันยันจบปี 1 จากคุณ : Shinjitsu - [ 25 พ.ค. 52 06:40:33 ]

ความคิดเห็นที่ 28 คุณครูและคณะอาจารย์ ทั้งหลายคงปวดหัวปวดตัว ไม่มีเวลาว่างอีกเลย...........แต่เด็กก็จะได้คะแนนขึ้นบ้างไม่มากก็น้อย แค่เขียนอะไรลงไปก็อาจได้สัก 2-3คะแนน บ้าง........ จากคุณ : chontanon538 - [ 25 พ.ค. 52 06:47:24 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ทั้งสองแบบขึ้นกับคนออกข้อสอบว่าต้องการคุณภาพระดับไหน  แต่ละวิธีก็มีดีของตัวเอง ผมเคยเจอปรนัยแบบ 8 ตัว รู้เลยว่าเรื่องเดาลืมไปได้ แม้แต่รู้ถ้าไม่รอบคอบยังเสร็จ ผมชอบอัตนัยเพราะดิ้นไปได้ วัดความรู้ใช้ปรนัย  วัดความรู้และความคิดใช้อัตนัย  เป็นความเห็นของคนที่ไม่เคยเป็นครูหรืออาจารย์ จากคุณ : cpbu - [ 25 พ.ค. 52 07:11:11 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ข้อสอบปรนัยออกได้ครอบคลุมเนื้อหาทุกอย่างได้   แต่อัตนัยทำไม่ได้ อคติ มาตรฐานการตรวจของคนตรวจแน่นอนหรือไม่ เฉลยถูกต้องเสมอไปหรือไม่  มีคำตอบได้คำตอบเดียวเหมือนปรนัยหรือไม่ จากคุณ : หอมมาก - [ 25 พ.ค. 52 08:49:10 ]

ความคิดเห็นที่ 31 การคำนวณ เพื่อให้ได้คำตอบที่แน่นอน ไม่ควรทำเป็น a b c ควรจะให้ solve หาคำตอบ จะได้รู้วิธีคิดของผู้ตอบ เพราะปัญหาหนึ่งๆ แก้ไข ได้หลายวิธี หากตอบไม่ถูก 0 ทันทีไม่ต้องไปให้คะแนน การทำ .................................................................... จากคุณ : จิ้งจอกเงิน - [ 25 พ.ค. 52 09:19:48 ]

ความคิดเห็นที่ 32 สมัยเรียนมหาวิทยาลัย ก็อัตนัยล้วนๆครับ ข้อละชั่วโมง เขียนตอบกันเป็นเล่มๆ (สมุดเล่มเล็กๆนะ) ผมว่ายังไงมันก็ยังประเมินความรู้ของนักเรียนได้ดีกว่านะ ถ้าคำตอบสุดท้ายผิด ยังพลิกไปอ่านวิธีทำหรือหลักการคิดได้ จากคุณ : jaycee - [ 25 พ.ค. 52 09:30:19 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ดีครับ จะได้คนที่รู้จริงๆมากขึ้น แต่ปัญหาเยอะ อย่างเช่น สอบเอนทราน ใครจะมานั่งตรวจ เป็นแสน แบบนี้ก็ไม่ไหว ถ้าหลายๆ คนตรวจ ก็จะเป็นความเห็นข้างบน ไม่ได้มาตราฐานอีก จากคุณ : kanoomtan - [ 25 พ.ค. 52 09:54:17 ]

ความคิดเห็นที่ 34 เคยเจอข้อสอบปรนัยแบบโหดๆ เช่น a ......................... b .................... c ............................... d .......................... e ........................ 1. ไม่มีข้อใดถูก 2. มีข้อถูก 1 ข้อ 3. มีข้อถูก 2 ข้อ 4. มีข้อถูก 3 ข้อ 5. มีข้อถูก 4 ข้อ 6. ถูกทุกข้อ เจอแบบนี้ทีไร รู้สึกเลยว่าข้อสอบอัตนัยง่ายกว่ากันเยอะ จากคุณ : maxijojo123 - [ 25 พ.ค. 52 10:01:04 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ^ ^ ^ 555+ จากคุณ : zix6_6 - [ 25 พ.ค. 52 10:30:15 ]

ความคิดเห็นที่ 36 คุณครูจะขี้เกียจตรวจ เกิดอาการมั่วคะแนน มั่วเกรด แล้วเราก็จะได้นักศึกษาคุณภาพแย่ลง... ปัจจัยมีมากกว่า 1 จะแก้ที่หนึ่ง ก็ต้องไปแก้อีกที่ด้วยครับ... จากคุณ : mermanoid - [ 25 พ.ค. 52 10:54:13 ]

ความคิดเห็นที่ 37 ปรนัยถ้าตั้งใจทำมันก็ทำให้รอบคอบด้วยนะผมว่า ถ้าเด็กมันไม่ตั้งใจ จะ อัตนัย หรือ ปรนัย มันก็มั่วได้ทั้งนั้น เช่น ผม ในตอนมัธยมเป็นอาทิ ช่วงก่อนที่จะมาเน้นสอบเป็นอัตนัย เวลากาก็มั่วเล่นด้วยความสำราญ(ในบางทีที่มาีการสอบที่ไม่เกี่ยวกับการเรียนจะสนุกเป็นพิเศษ) แข่งขันกันกับเพืื่อนว่า นี่ เราเล่นทิ้งดิ่งแบบนี้ๆ ทำลวยลายสลับฟันปลาสนุกสนาน พอเป็นอัตนัยยิ่งสนุกเข้าไปใหญ่ เขียนตอบบ้าๆบอๆลงไป เช่นเขียนชื่อตัวละคร หรือเขียนอะไรที่ไม่เกี่ยว อธิบายแบบมั่วๆเอาฮาก็มี (ส่วนใหญ่เป็นวิชาที่ปลงอนิจจังแล้ว เช่นภาษาฝรั่งเศส จำได้เลยว่าเพื่อนเขียนชื่อยี่ห้อพวกหลุยวิตตอง กุชชี่ ปราด้าลงไป) ถ้าอธิบายมั่วๆจะเป็นพวกวิชาที่บังเอิญลืมคำตอบพอดีเช่นวิทยาศาสตร์ ถามว่าเกลือจืดคืออะไร ผมตอบว่า เกลือที่มันไม่เค็มเอาไปทำอะไรไม่ได้ เพื่อนตอบว่าเอาไว้โรยไล่สิ่งอัปมังคล - -" จากคุณ : Alovera - [ 25 พ.ค. 52 11:13:26 ]

ความคิดเห็นที่ 38 ลายมือเราไม่สวยครูขี้เกียจอ่านแน่เคยโดนแล้ว...ตอนมหาวิทยาลัย บางครั้งก็อยากให้อาจารย์อ่านความคิดเห็น และเหตุผลของเราบ้าง แต่การที่จะได้คะแนนกับข้อสอบแบบนี้คำตอบต้องตรงกับความเห็นของอาจารย์.. ตัวอย่างเช่น..(บางคนอาจจะเคยเจอคำถามแบบนี้แล้ว^_^) ข้อ1. ถ้ามีเงินอยู่ 10 บาท ซื้อของ 3 บาท จะได้รับเงินทอนเท่าไร? แก้ไขเมื่อ 25 พ.ค. 52 12:12:03 จากคุณ : salient_salient - [ 25 พ.ค. 52 11:59:17 ]

ความคิดเห็นที่ 39 ส่วนใหญ่เจอแต่คำถาม อัตนัยแบบ กระบือๆ - เช่น จงอธิบายว่าสิ่งสิ่งนี้มีกี่ชนิด อะไรบ้าง ///ถามแบบนี้คนบกพร่องทางปัญญาประเภทความจำดีมาตอบก็ได้ 100 คะแนนครับ แต่ไม่ได้เข้าใจจริงๆเลยสักกระนิด - น่าจะถามว่า ถ้านักศึกษาพบสถานะการเช่นนี้จะแก้ปัญหาอย่างใดด้วยวิชาที่เรียนมา....//แบบนี้ถ้าจำมาอย่างเดียวแต่ไม่เข้าใจก็ทำข้อสอบไม่ได้ครับ จากคุณ : วมแย์ราจาอ - [ 25 พ.ค. 52 12:01:18 A:125.27.63.139 X: TicketID:199878 ]

ความคิดเห็นที่ 40 แต่ก่อน ไทยเรา ก็ไม่มี ปรนัยนะครับ มีมาในช่วง 50 ปี ที่ผ่านมานี่เอง ญาติผู้ใหญ่ผม เวลาสอบเข้า มหาวิทยาลัย ก็สอบแบบอัตนัย เขียนเป็นหน้าๆ  เลยครับ ในห้องเรียน ก็ออกสอบ กันเป็นข้อใหญ่ครับ ไม่มีปรนัย จากคุณ : น้าพร - [ 25 พ.ค. 52 12:38:04 ]

ความคิดเห็นที่ 41 ถ้าคนตรวจข้อสอบ ขาดองค์ความรู้ที่ดีพอ หรือ ไม่แน่น คำตอบที่ได้มา จะไม่สามารถ อ้างอิง ว่าถูกต้องได้นิ ต่อให้ นร. ตอบดี ยืดยาวยังไง ถ้าคนตรวจ ไม่มีความรู้หรือ ทัศนคติที่เหนื่อกว่า บางที่ มันก้อวัดอะไรลำบาก สรุปผมว่ามี2แบบ ปนๆไปอะดีแล้ว เลือกใช้ให้เหมาะสมก้อพอ จากคุณ : อาท (chan ty) - [ 25 พ.ค. 52 12:59:21 ]

ความคิดเห็นที่ 42 ทฤษฎีใหม่คงเกิดขึ้นเยอะเลย ตอบไม่ได้ก็แต่งทฤษฎีเองซะเลย จากคุณ : RadiS - [ 25 พ.ค. 52 13:02:08 ]

ความคิดเห็นที่ 43 ครูคนหนึ่งตั้งคำถามกับเด็กว่า "ถ้ามีเงินอยู่ 10 บาท ซื้อของ 3 บาท จะได้รับเงินทอนเท่าไร" เด็กส่วนใหญ่ตอบว่า "7 บาท" แต่มีเด็ก 2 คนที่ตอบไม่เหมือนกับคนอื่น คนหนึ่งตอบว่า "2 บาท" อีกคนหนึ่งตอบว่า "ไม่ต้องทอน" ครูถามเด็กคนแรกว่าทำไมถึงได้เงินทอน 2 บาท คำตอบที่ได้ก็คือภาพในใจของเขาสำหรับเงิน 10 บาท คือ เหรียญห้า 2เหรียญ เมื่อซื้อของราคา 3 บาท เขาก็ให้เหรียญห้า 1 เหรียญ ดังนั้น จึงได้เงินทอน 2 บาท ถามเด็กคนที่สองว่าทำไมไม่เหลือเงินทอนเลย คำตอบก็คือเด็กคนนี้คิดว่าในกระเป๋ามีเหรียญบาท 10 เหรียญ เมื่อซื้อของราคา 3 บาท เขาก็ส่งเหรียญบาทให้ 3 เหรียญ เพราะฉะนั้น คนขายจึงไม่ต้องทอนเงินให้เขา โชคดีที่เป็นการถาม-ตอบในห้องเรียน ลองนึกดูสิครับว่าถ้าโจทย์นี้เป็นข้อสอบที่มีคำตอบเป็น ก-ข-ค-ง เด็ก 2 คนนี้ก็คงไม่ได้คะแนนจากคำตอบที่ผิดเพี้ยนจากคนส่วนใหญ่ การสร้างโจทย์ที่ "เสมือนจริง" จินตนาการของ "ครู" อาจถูกจำกัดเพียงแค่ "ตัวเลข" แต่สำหรับเด็ก จินตนาการของเขาไร้กรอบ 10 บาท จึงสามารถเปลี่ยนเป็นเหรียญสิบ เหรียญห้า หรือเหรียญบาท เมืองไทยมีเหรียญ 2 บาท เราจึงได้คำตอบเพิ่มอีก 1 คำตอบ คือ ได้เงินทอน 1 บาท (coppyมาให้อ่าน) แก้ไขเมื่อ 25 พ.ค. 52 13:55:05 จากคุณ : salient_salient (salient_salient) - [ 25 พ.ค. 52 13:48:15 ]

ความคิดเห็นที่ 44 การสอบแต่ละครั้ง ก็คงต้องใช้คนๆเดียวตรวจเพราะมาตรฐานของคนเราไม่เหมือนกัน สมมุติ สอบ แสนคน เป็นอัตนัยหมด คนตรวจหลายคนก็จะมีการร้องเรียน มาตรฐานไม่เท่ากัน ถ้าจะให้ตรวจคนเดียว คงตรวจเป็นปี กว่าจะตรวจหมดทุกคน จากคุณ : NanA (mooyui_na) - [ 25 พ.ค. 52 15:26:44 ]

ความคิดเห็นที่ 45 ม.รามฯ ผลสอบกว่าจะออกคง 2-3 เดือน หรืออาจมากกว่า ตอนนี้แบบระบาย กว่าจะออกก็เกือบเดือนละ ^^ จากคุณ : ขอบตะวัน - [ 25 พ.ค. 52 16:21:12 ]

ความคิดเห็นที่ 46 แต่สำหรับวิชาทางด้านมนุษยศาสตร์แล้ว การเขียนตอบข้อสอบอัตนัยเป็นสิ่งที่สำคัญเป็นอย่างมากในการประเมินผลการเรียนของนิสิต เนื่องจากด้วยลักษณะของวิชาที่เน้นการคิดและการแสดงความเห็นของแต่ละคนออกมานั่นเอง อย่างผมเรียนประวัติศาสตร์นั้น ตอนปีแรกที่เข้ามาก็ต้องเรียนวิชาอารยธรรมตะวันออกและตก แม้ว่าจะเรียนรวมกว่าสามร้อยคนแต่อาจารย์ก็ยังออกข้อสอบอัตนัย เพื่อดูความคิดและการใช้เหตุผลของนิสิต และยิ่งเข้าวิชาเอกแล้ว เขียนอย่างเดียวเลยครับพี่น้อง ปกติเวลาสอบก็จะให้โจทย์ถามมาประมาณ ๓-๕ ข้อ แล้วให้สมุดคำตอบมาหนึ่งเล่ม เขียนไปเลยสามชั่วโมง เคยทำสถิติเขียนได้มากที่สุด ๙ หน้า มือแทบพังไปข้าง เพื่อนที่เรียนวิศวะได้ยินแล้วอึ้งกิมกี่ไปเลย เพราะมันไม่เคยทำข้อสอบที่ยาวขนาดนี้ อย่างดีก็คำนวณแล้วก็ตอบๆไป ตอนเด็กๆก็ชอบข้อสอบแบบปรนัย แต่พอมาเรียนประวัติศาสตร์แล้วกลับชอบข้อสอบแบบอัตนัย เพราะแสดงความเป็นตัวตนของเราออกมาได้อย่างเต็มที่ ว่าทำไมเราคิดแบบนั้น และที่สำคัญเป็นการฝึกเรียบเรียงความคิดเวลาเขียนด้วย แต่ก็เป็นการเพาะนิสัยในการเขียนแบบยาวๆ อันนี้ไม่ค่อยดีเท่าไร จากคุณ : ภารตยุทธ (ภารตยุทธ) - [ 25 พ.ค. 52 16:40:49 ]

ความคิดเห็นที่ 47 #43 ครับ ถ้าเป็นผมๆจะตอบว่า รูดบัตรเครดิตเอา จากคุณ : LordPongpon - [ 25 พ.ค. 52 17:51:05 ]

ความคิดเห็นที่ 48 Buddhist Teaching ก็เคยเขียน 9 หน้านะ ได้ A ด้วย XD จากคุณ : arsarn - [ 25 พ.ค. 52 19:42:04 ]

ความคิดเห็นที่ 49 ต้องเจอข้อสอบ GAT ข้อสอบที่ใช้ admission53+ ใช้ 10-50% แล้วแต่สาขาวิชา http://www.niets.or.th/upload-files/uploadfile/5/32011effd6de284034b2c6650529d894.pdf อัตนัยบนปรนัย คิดได้ไงอ่ะ ไปสอบทีนี่อึ้ง งงเป็นไก่ตาแตก แถมตอบผิดโดนหัก 3 คะแนนอีกอ่ะ เครียดอ่ะ!!! หลักสูตรการศึกษาไทยไม่เคยมีให้เรียน เราจะทำได้เยี่ยงใดลือเล่า จากคุณ : Mocq - [ 25 พ.ค. 52 21:19:58 A:124.120.10.210 X: TicketID:206532 ]

ความคิดเห็นที่ 50 เอ่อ... เราคงตายคาข้อสอบตั้งแต่ประถม -"- จากคุณ : อายะจัง (ayakoxx) - [ 25 พ.ค. 52 22:54:34 ]

ความคิดเห็นที่ 51 ... ผมคงไม่สามารถใช้การหมุนดินสอช่วยในการหาคำตอบได้ครับ ... จากคุณ : ผมรักคุณ - [ 26 พ.ค. 52 10:33:08 ]

ความคิดเห็นที่ 52 ผมจะขายพวกปากกาและดินสอครับ : ) จากคุณ : เค้าหาว่าผมเป็นเกย์ - [ 26 พ.ค. 52 12:15:24 ]

ความคิดเห็นที่ 53 ผักบุ้งจะขาดตลาด จากคุณ : Santa_Baby - [ 28 พ.ค. 52 11:53:28 ]

ความคิดเห็นที่ 54 คนเขียนปวดมือ คนตรวจปวดกะบาลค่ะ จากคุณ : PoOkKii - [ 31 พ.ค. 52 00:47:42 ]