ความคิดเห็นที่ 1 อันดับ 10: ไข่นกกระจอกเทศ เรื่องมีอยู่ว่า... เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคมที่ผ่านมา ที่ อำเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงา มีชาวประมงพบไข่ขนาดใหญ่ขนาดเท่าลูกมะพร้าว ซึ่งเจ้าของไข่เปิดเผยว่า ขณะที่เขาตระเตรียมอวนตาข่ายเพื่อหาปลา ได้สังเกตเห็นวัตถุสีขาวลักษณะกลมรีคล้ายไข่ไก่ แต่มีขนาดใหญ่ผิดปกติ ตั้งอยู่บนพื้นในพงหญ้า จึงเดินเข้าไปดูใกล้ๆ พบว่าลักษณะภายนอกเปลือกแข็งเหมือนไข่ทั่วไป มีสีขาวครีม ส่งกลิ่นคาว ซึ่งชาวบ้านบางคนคาดว่าสัตว์ที่เป็นเจ้าของคงจะตัวใหญ่มาก และบริเวณที่พบมีน้ำลึกมาก อาจมีสัตว์น้ำขนาดใหญ่มาอาศัยอยู่ ขณะเดียวกันบริเวณนั้นอยู่ห่างจากทะเลประมาณ 700 เมตร ถือว่าไม่ไกลมากนักอาจมีสัตว์บางชนิดขึ้นมาจากทะเลแล้ววางไข่ก็เป็นได้ จึงมีการจุดธูปกราบไหว้บูชาและใช้แป้งโรยไปที่ไข่ (หมายถึงไข่ใบที่เก็บมาจากทะเล) แล้วใช้มือลูบหวังให้เห็นเลขเด็ด จากคุณ : =Por= - [ 25 พ.ค. 52 20:47:32 ]

ความคิดเห็นที่ 2 เหตุผลที่ไม่ควรกราบไหว้... นางระวีวรรณ ยิ่งวรรณศิริ หัวหน้าปศุสัตว์ จ.พังงา เปิดเผยว่า ไข่ที่พบน่าจะเป็นไข่ของนกกระจอกเทศ โดยที่จังหวัดพังงามีฟาร์มนกกระจอกเทศอยู่ 2-3 แห่ง ลูกจ้างของเจ้าของฟาร์มอาจจะขโมยมาจากที่อื่น แล้วนำมาทิ้งไว้ เพื่อจะนำไปปรุงรับประทาน เพราะไข่นกกระจอกเทศนั้นมีราคาแพงมาก ใบละ 100 กว่าบาท แต่เพื่อมั่นใจว่าใช่หรือไม่ ใช่ ต้องนำไข่ไปพิสูจน์ในห้องแล็บ แต่คงเป็นไปไม่ได้ เพราะจากการสอบถามเจ้าของไข่แล้ว ไม่ยอมให้นำไปพิสูจน์ และขณะนี้พบว่าไข่เริ่มมีกลิ่นเหม็นเน่าแล้ว จากคุณ : =Por= - [ 25 พ.ค. 52 20:47:56 ]

ความคิดเห็นที่ 3 อันดับ 9: ต้นหว้า เรื่องมีอยู่ว่า... วันที่ 15 กุมภาพันธ์ ปีนี้ ที่ อำเภอชุมพวง จังหวัดนครราชสีมา ชาวบ้านจำนวนมากแห่ไปมุ่งดูและกราบไหว้ต้นหว้าที่มีน้ำไหลออกมาอย่างขาดสาย เจ้าของที่ดินกล่าวว่า ตนเองกำลังจะตัดต้นไม้ต้นดังกล่าวเพื่อต้องการ ไถดินเพื่อนำนา แต่หลังจากทำงานมาตลอดทั้งวันจึงได้หยุดพักโดยได้นั่งหลบแดดอยู่ใต้ต้นไม้ดังกล่าวซึ่งเป็นต้นหว้า แต่เมื่อนั่งไปได้ระยะหนึ่งรู้สึกว่ามีหยดน้ำไหลออกมาจากต้นไม้ ดังกล่าวเป็นจำนวนมาก จึงเริ่มเดินตรวจสอบบริเวณต้นไม้จึงพบว่ามีหยดน้ำที่ไหลลงมาจากต้นไม้และไม่ใช่หยดน้ำที่เกิดจากน้ำค้างอย่างแน่นอน และเมื่อข่าวแพร่สะพรัดออกไปชาวบ้านจำนวนมากต่างพากันมาดูพร้อมกับน้ำภาชนะ มารองรับน้ำเพื่อนำกลับไปดื่มและอาบเพราะเชื่อว่าเป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์ อีกทั้งชาวบ้านบางส่วนยังเชื่ออีกว่าน้ำที่หยดลงมานั้นเป็นหยดน้ำตาของ ต้นไม้ที่เสียใจว่าจะต้องถูกตัดทิ้งจึงได้ร้องไห้ออกมา อย่างไรก็ตามหลังจากนี้ไปตนเองคงจะไม่กล้าที่จะตัดต้นไม้ต้นนี้ทิ้งอย่างแน่ นอนเนื่องจากชาวบ้านต่างมามุงดูและไม่ยอมให้ตนเองตัดทิ้ง จากคุณ : =Por= - [ 25 พ.ค. 52 20:48:18 ]

ความคิดเห็นที่ 4 เหตุผลที่ไม่ควรกราบไหว้... ต้นไม้ดังกล่าวเป็นต้นหว้าที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติความสูงประมาณ 15 เมตร มีอายุราว 20 ปี ซึ่งต้นว่าเป็นต้นไม้ที่รับประทานผลได้ ส่วนสาเหตุของเรื่องประหลาดที่มีน้ำหยดลงมานั้น จากการตรวจสอบพบว่าน้ำได้ไหลออกมาจากส่วนใบ ผ.ศ. ยงยุทธ์ จรรยารักษ์ กล่าวว่านี่เป็นปรากฎการณ์ที่เกิดจากปัจจัยต่างๆ ที่เหมาะสม เช่น ความชื้น ความกดอากาศ สภาวะแวดล้อม และ กระบวนการหาอาหารของต้นไม้ ซึ่งในบางครั้งที่อากาศมีความชื้นสัมพันธ์สูง น้ำจะระเหยเป็นไอสู่บรรยากาศได้น้อยลง ทำให้การคายน้ำลดลง แต่แรงดันน้ำในต้นพืชยังสูงอยู่ จึงสามารถพบหยดน้ำที่บริเวณกลุ่มรูเปิดที่ผิวใบซึ่งเรียกว่า ไฮดาโทด (hydathode) มักพบอยู่ใกล้ปลายใบหรือขอบใบตรงตำแหน่งของปลายท่อลำเลียง การคายน้ำในลักษณะนี้เรียกว่า กัตเตชัน (guttation) ทำให้พืชสามารถดูดน้ำทางรากเข้าไปใช้ได้ ไม่ได้เกิดจากความเศร้าเสียใจของต้นไม้แต่อย่างใด จากคุณ : =Por= - [ 25 พ.ค. 52 20:48:38 ]

ความคิดเห็นที่ 5 อันดับ 8:ควาย เรื่องมีอยู่ว่า... บ่ายวันที่ 23 กันยายน 2550 ได้มีชาวบ้านจากทั่วสารทิศในจ.ศรีสะเกษจำนวนมากนำดอกไม้ ธูปเทียนมากราบไหว้ลูกควายประหลาดมีรูปร่างหน้าตาเหมือนคน ถูกจัดวางให้อยู่ในสภาพนอนหงาย แขนขากางออกจากกันลักษณะเหมือนกับท่าทางคนนอนหลับ เจ้าของลูกควายประหลาด เปิดเผยว่า มีควายอยู่ทั้งหมด 9 ตัว โดยแม่ของลูกควายประหลาดนี้เป็นตัวที่ 5 ได้ตกลูกออกมาเมื่อ มีลักษณะประหลาดท่าทางเหมือนคนทุกอย่าง ตั้งแต่ศีรษะ ปาก จมูกหู รวมทั้งขาทั้ง 4 ข้าง (เหมือนคนทุกอย่าง???) แต่ไม่มีอวัยวะแสดงลักษณะของเพศผู้หรือเพศเมีย และลูกควายประหลาดได้เสียชีวิตทันทีตั้งแต่แรก ตนกับสามีจึงได้นำซากควายประหลาดไปฝังดินไว้ในนาของตัวเอง ชาวบ้านบางส่วนได้นำน้ำปะพรมบนซากควายประหลาด และเอาแป้งทาตามร่างของซากลูกควายเพื่อขอหวยตามความเชื่อของตัวเองอย่าง คึกคัก พร้อมนำเงินมาทำบุญใส่ในขันเงินและหยอดตู้ไม้ตามแต่ศรัทธา จากคุณ : =Por= - [ 25 พ.ค. 52 20:48:57 ]

ความคิดเห็นที่ 6 เหตุผลที่ไม่ควรกราบไหว้... หลวงปู่เณรคำ ฉัตติโก ประธานสงฆ์วัดป่าขันติธรรมบ้านยาง ต.ยาง อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า อาตมาเห็นว่าการที่ชาวศรีสะเกษพากันแห่ไปกราบไหว้ซากลูกควายประหลาดนี้ ถือว่าเป็นความเชื่อส่วนบุคคลที่สามารถจะทำได้ แต่ว่าตามหลักธรรมคำสอนของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไม่ได้บัญญัติไว้ว่า จะต้องให้พุทธศาสนิกชนไปกราบไหว้ซากสัตว์แต่อย่างใด จากคุณ : =Por= - [ 25 พ.ค. 52 20:49:17 ]

ความคิดเห็นที่ 7 อันดับ 7: เห็ดเขาเหม็น เรื่องมีอยู่ว่า... เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคมที่ผ่านมา มีชาวบ้านล่ำลือกันว่าพบเห็ดประหลาดโผล่ขึ้นมามีลักษณะคล้ายกับหนวดปลาหมึกสูงประมาณ 7-8 นิ้ว โผล่ชูหนวดขึ้นมาประมาณ 8-9 หนวดแถมยังมีน้ำคล้ายน้ำเมือก เจ้าของเห็ดกล่าวว่า ก่อนหน้านี้ตนก็ได้ฝันเห็นงูสีปีกแมงทับเขียวมรกตขนาดใหญ่ 3 ตัว ในฝันนั้นบอกว่างูทั้ง 3 ตัวเป็นผัวเมียและลูกได้มาเกี้ยวพันกันอยู่ในขื่อภายในบ้านของตนแต่ก็ไม่ได้ฝันอะไรต่อไปอีก จึงทำให้ตนสงสัยว่าจะเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นในครั้งนี้หรือไม่ เพื่อความสบายใจของประชาชนในละแวกนี้และผู้ที่พบเห็น ตนจึงได้นำดอกไม้ธูปเทียนมาบูชาเพื่อให้สิ่งที่เกิดขึ้นนี้เป็นเหตุที่ดีแก่ครอบครัวและชุมชน จากคุณ : =Por= - [ 25 พ.ค. 52 20:49:37 ]

ความคิดเห็นที่ 8 เหตุผลที่ไม่ควรกราบไหว้... เช่นเดียวกับเห็ดมือผีที่โด่งดังเมื่อหลายปีก่อน เห็ดชนิดนี้อยู่ในกลุ่มของเห็ดเขาเหม็น (Stink Horn) เห็ด กลุ่มนี้มีลักษณะพิเศษคือ จะส่งกลิ่นเหม็นเมื่อดอกเห็ดแก่เพื่อดึงดูดแมลงให้มาตอม ซึ่งจะทำให้สปอร์ติดตัวไปกับแมลงเพื่อกระจายพันธุ์ยังที่อื่นได้ เป็นเห็ดที่มีลักษณะแตกต่างไปจากราทั่วไป คือ บางชนิดมีรูปร่างคล้ายการพนมมือไหว้ เช่น เห็ดในสกุล Pseudocolus หรือบางชนิดอาจมีลักษณะคล้ายเขาสัตว์ จากคุณ : =Por= - [ 25 พ.ค. 52 20:50:01 ]

ความคิดเห็นที่ 9 อันดับ 6:ปลาจระเข้ เรื่องมีอยู่ว่า... วันที่ 27 กุมภาพันธ์ปีที่แล้ว ชาวปทุมธานีพบกับปลาประหลาดที่ลำตัวมีเกล็ดสีดำเทาเงาคล้ายเกล็ดงูเห่า มีลิ้น 2 แฉก ลักษณะแฉกมนคล้ายรูปหัวใจ และมีกลิ่นคาวปลา เหม็นแรงกว่าปลาชนิดอื่นๆ  มีความแปลกเหมือนมีลักษณะของอวัยวะในส่วนต่างๆ ของปลา งู จระเข้ รวมกัน ซึ่งเจ้าของปลาดังกล่าว เล่าว่าตนฝันแปลกๆ ฝันเห็นว่ามีผู้หญิงแก่เดินเข้ามาหาและจับมือตนไว้ จากนั้นเข้ามากอด เมื่อหญิงแก่คนนั้นกอดตนแล้วสภาพร่างกายของหญิงแก่ก็กลายสภาพเน่าเฟะเหม็น เหมือนศพ จากนั้นตนสะดุ้งตื่น ตอนเช้ามาจึงใส่บาตรทำบุญ และจุดธูปไหว้ขอขมา ซึ่งชาวบ้านที่เข้ามาดูต่างพากันมาลูบที่ตัวปลา มีบางคนมาขอเกล็ดไปไว้บูชาที่บ้านบ้าง จุดธูปไหว้บ้าง วันนั้นทั้งวันตนไม่เป็นอันขายของ เพราะต้องเดินเข้าออกไปมาหยิบปลาประหลาดให้ชาวบ้านที่แห่มาขอดู จากคุณ : =Por= - [ 25 พ.ค. 52 20:50:22 ]

ความคิดเห็นที่ 10 เหตุผลที่ไม่ควรกราบไหว้... ดร.สมหญิง เปี่ยมสมบูรณ์ อธิบดีกรมประมง กล่าวว่า จากการตรวจสอบในเบื้องต้นทราบว่า ปลาที่พบคือ ปลาจระเข้ หรือปลาอัลลิเกเตอร์ การ์ อาศัยอยู่มากในแถบรัฐฟลอริดา ประเทศสหรัฐอเมริกา สำหรับปลาชนิดนี้เป็นปลาที่กินเนื้อเป็นอาหาร โดยส่วนมากถูกนำเข้ามาในประเทศไทย เพื่อเลี้ยงเป็นปลาสวยงาม และเลี้ยงไว้ในบ่อตกปลา ปลาในข่าวอาจจะมีผู้นำมาเลี้ยงเมื่อเกิดเบื่อก็นำมาปล่อยทิ้ง หรืออาจจะหลุดออกมาในช่วงน้ำท่วม ซึ่งในปีพ.ศ.2545 ทางกรมประมงประกาศห้ามนำเข้าปลาจระเข้ เนื่องจากเป็นปลากินเนื้อ อาจทำลายระบบนิเวศของแหล่งน้ำ ด้วยการกินปลาพื้นเมืองที่มีขนาดเล็กกว่า จนทำให้ระบบนิเวศเกิดความเสียหายหรือปลาอาจสูญพันธุ์ได้ จากคุณ : =Por= - [ 25 พ.ค. 52 20:50:48 ]

ความคิดเห็นที่ 11 อันดับ 5: ต้นบุก เรื่องมีอยู่ว่า... ในวันที่ 24 เมษายน 2550 ชาวบ้านเมืองพิจิตร ต่างมาชุมนุมกัน หลังทราบข่าวว่าที่บ้านหลังดังกล่าวมีต้นไม้ประหลาดผุดขึ้นมาจากพื้นดิน มีลักษณะคล้ายพานพุ่มที่จัดวางบนโต๊ะหมู่บูชา โดยต้นไม้ดังกล่าวสูงประมาณ 25 เซนติเมตร เส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 20 เซนติเมตร ซึ่งหากมองจากทางด้านข้างจะเห็นคล้ายพานพุ่ม แต่ถ้ามองจากด้านบนจะคล้ายใบโพธิ์เรียงล้อมรอบ ชาวบ้านที่ เดินทางมาดูต้นไม้ประหลาดดังกล่าวต่างพากันจุดธูปเทียนกราบไหว้ พร้อมทั้งบนบานขอให้มีโชคลาภ เพราะลือกันว่าในงวดที่ผ่านมามีผู้ถูกรางวัลเลขท้ายสองตัวจากจำนวนก้านธูปที่คนนำมากราบไหว้กัน จากคุณ : =Por= - [ 25 พ.ค. 52 20:51:10 ]

ความคิดเห็นที่ 12 เหตุผลที่ไม่ควรกราบไหว้... มันคือต้นบุก ซึ่งอยู่ในวงศ์เดียวกับต้นบอน (Araceae) เป็นไม้ล้มลุก ลำต้นอวบ ไม่มีแก่น สูง 3-6 ฟุต มีดอกสีม่วงเหมือนดอกหน้าวัว เป็นพืชท้องถิ่นของ ประเทศญี่ปุ่น จีน ไทย ฟิลิปปินส์ และอินโดจีน ในประเทศไทย คนไทยใช้เป็น อาหารกันมาช้านานแล้ว โดยใช้ต้นใบ และหัวบุกมาทำขนม เช่น ขนมบุก แกงบวชมันบุก แกงอีสาน (แกงลาว) ซึ่งการนำบุกมาทำอาหารจะแตกต่าง กันในแต่ละภาค นอกจากประโยชน์ดังกล่าวแล้ว บุกใช้เป็นไม้ประดับที่สวยงามโดย นักจัดสวนนิยมนำมาประดับตามใต้ร่มเงาของไม้ยืนต้นที่มีป่าโปร่ง หรือจะนำมาใส่กระถางเป็นไม้ประดับ จากคุณ : =Por= - [ 25 พ.ค. 52 20:51:39 ]

ความคิดเห็นที่ 13 อันดับ 4: จิ้งจก เรื่องมีอยู่ว่า... ในเวลาราวๆ ตีสาม เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคมที่ผ่านมาซึ่งตรงกับวันวิสาขบูชา ที่บ้านหลังหนึ่งใน อำเภอเสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เจ้าของบ้านตื่นขึ้นมากลางดึกและจิ้งจกสีแดงตัวหนึ่งเกาะอยู่ในมุ้ง ซึ่งตอนแรกเจ้าของบ้านก็ไม่ได้สนใจอะไรและนอนหลับไป จนกระทั่งเช้าจิ้งจกสีแดงก็ยังเกาะอยู่ที่เดิม จึงอธิษฐานจิตบอกจิ้งจกตัวนั้นว่า "อยากอยู่ด้วยกันก็ได้" พร้อมทั้งยกมือไหว้แล้วเอื้อมมือไปจับจิ้งจกได้อย่างง่ายดาย โดยมันไม่ได้คลานหลบหนีไปไหน และได้ไปนำเอาตู้ปลามาใส่เลี้ยงไว้ พร้อมตั้งชื่อเจ้าจิ้งจกสีแดงว่า "ถุงเงินถุงทอง" โดยจิ้งจกตัวดังกล่าวมีสีแดงทั้งตัว ขนาดความยาวประมาณ 10 เซนติเมตร นอกจากนี้นิ้วเท้าทั้ง 4 ข้าง ยังแปลกประหลาดกว่าจิ้งจกทั่วไป ซึ่งปกติจะมีนิ้วข้างละ 4 นิ้ว แต่จิ้งจกสีแดงดังกลาวมีนิ้วข้างละ 5 นิ้ว เจ้าของบ้านจับใส่ไว้ในตู้ปลามีมุ้งลวดปิดคลุมไว้ ซึ่งบริเวณแผ่นกระจกด้านนอกตู้ ได้มีชาวบ้านนำแผ่นทองคำเปลวมาปิดไว้ บางรายนำผ้าแพร 3 สี และพวงมาลัยมาผูกไว้ที่หน้าตู้ ประชาชนที่เดินทางไปดูจิ้งจกสีแดงต่างแสดง ความตื่นเต้นประหลาดใจ บางคนก็พูดว่าเป็นมันเป็นจิ้งจก นปช. จากคุณ : =Por= - [ 25 พ.ค. 52 20:52:16 ]

ความคิดเห็นที่ 14 เหตุผลที่ไม่ควรกราบไหว้... นายอรรถกร สุขทวี ผู้เชี่ยวชาญด้านสัตว์ปีกและสัตว์เลื้อยคลาน สวนสัตว์ดุสิต กล่าวว่า ยังไม่สามารถชี้ชัดได้ว่าจิ้งจกดังกล่าวเป็นสายพันธุ์อะไรเนื่องจากยังไม่ เห็นตัวจริง แต่เบื้องต้นจากลักษณะที่บอก คาดว่าอาจเป็นจิ้งจกสายพันธุ์ต่างประเทศที่มีผู้นำเข้ามาเลี้ยง แต่ยังไม่สามารถระบุชื่อพันธุ์ได้ชัดๆ เพราะไม่มีในเมืองไทย ทั้งนี้ ปัจจุบันมีผู้นิยมนำสัตว์เลื้อยคลานจากต่างประเทศเข้ามาเลี้ยงเป็นจำนวนมาก - อย่างไรก็ดีทางผู้ชื่นชอบสัตว์เลื้อยคลานจากเว็บ siamreptile เชื่อว่าเป็นจิ้งจกบ้านหางอ้วนตัวเมียที่ตกถังสีมา และยังกล่าวไว้ว่าจิ้งจกดังกล่าวนั้นมี 5 นิ้วอยู่แล้วไม่ใช่เรื่องแปลกประหลาดแต่อย่างใด จากคุณ : =Por= - [ 25 พ.ค. 52 20:52:41 ]

ความคิดเห็นที่ 15 อันดับ 3: เสาอาคาร เรื่องมีอยู่ว่า... เรื่องเล่ามีอยู่ว่า มีคนงานสาวชาวพม่าตกลงไปในแบบหล่อเสา ขนาดใหญ่ แต่เพื่อนคนงานไม่รู้เลยเทปูนซีเมนต์ทับลงไป ทำให้ฝังร่างเหยื่อทั้งเป็น มารู้อีกครั้งก็ตอนแกะแบบเหล็กออกไปแล้ว จึงเห็นเป็นรูปตัวคนปรากฏอยู่ในเสา วิศวกรคุมงานสั่งให้คนงานช่วยกันกะเทาะคอนกรีตเพื่อนำศพออกมา แต่เนื่องจากคอนกรีตหล่อเสาดังกล่าวมีความแข็งมาก จึงนำศพออกมาได้เพียงบางส่วน จากนั้นวิศวกรจึงสั่งให้อัดซีเมนต์เข้าไปในรอยกะเทาะดังเดิมและฉาบปูนปิดทับ แต่ก็ยังคงปรากฏเป็นรอยปะอยู่ที่เสาสองรอย  ซึ่งบริเวณตรงกลางเสาต้นดังกล่าว มีร่องรอยการฉาบปูนซีเมนต์ขนาดใหญ่ปิดทับอยู่ 2 จุด ลักษณะคล้ายถูกเจาะเนื้อปูนเดิมออกแล้วมีการฉาบปูนใหม่ปิดทับ ผิดกับเสาต้นอื่นที่จะมีลักษณะของเนื้อปูนที่ราบเรียบสม่ำเสมอเป็นเนื้อ เดียวกัน โดยบริเวณรอยฉาบปูนมีคราบแป้งคล้ายมีคนมาถูหาตัวเลข และมีแผ่นทองคำเปลวมาติดที่ต้นเสาเพื่อขอหวย นอกจากนี้ยังมีผู้นำสายสร้อยลูกปัดมาแขวนไว้คล้ายเป็นเครื่องเซ่นไหว้สักการะ จากคุณ : =Por= - [ 25 พ.ค. 52 20:53:22 ]

ความคิดเห็นที่ 16 เหตุผลที่ไม่ควรกราบไหว้... ทางรายการเรื่องจริงผ่านจอได้ติดต่อไปทางวิศวกรผู้สร้างอาคารดังกล่าว และได้คำอธิบายว่า โครงสร้างของเสาที่อาคารหลังนั้นเป็นโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก เป็นเสาขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางขนาด 60 เซนติเมตร ซึ่งภายในเสาจะเสริมด้วยเหล็กเสริมขนาด 28 มิลลิเมตรมัดรวมกัน จำนวน 60 เส้น  ซึ่งรอยปูนนั้นเกิดจากการไหลเวียนขอวงน้ำปูนขณะเทคอนกรีด บางช่วงน้ำปูนไหลไม่สะดวกซึ่งเกิดจาการติดเหล็กเส้นจำนวนมากทำให้เกิดรอยดังกล่าว และในขณะทำการหล่อเสานั้นจะมีการตรวจสอบที่ละเอียดอย่างต่อเนื่อง ทั้งก่อนการเทคอนกรีต ขณะเทคอนกรีต และหลังการเทคอนกรีต ถ้ามีสิ่งแปลกปลอมใดๆ เช่นเศษลวดหรือเศษไม้ทางผู้ตรวจสอบจะไม่อนุมัติให้เทปูน จึงยากที่จะมีวัสดุแปลกปลอมหลุดเข้าไปได้ นอกจากนี้แล้ว จำนวนเหล็กเสริมที่ผูกเรียงกันข้างในนั้นทำให้มีพื้นที่ภายในเสาเพียง 35 เซนติเมตร ซึ่งแคบกว่าคนจะเข้าไปได้ นอกจากนี้แล้วอาจารย์ภาควิศวกรรมโยธาแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้นำเอาเครื่อง Ultra Sonic ไปตรวจสอบ และไม่พบว่ามีสิ่งแปลกปลอมใดๆ อยู่ในเสาต้นนั้นอย่างที่ข่าวลือกล่าวไว้เลย จากคุณ : =Por= - [ 25 พ.ค. 52 20:53:46 ]

ความคิดเห็นที่ 17 อันดับ 2: แผ่นเจลลดไข้ เรื่องมีอยู่ว่า... เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2549 เกิดพายุฝนตกฟ้าคะนองอย่างรุนแรงที่อำเภอลานสัก จังหวัดอุทัยทานี และปรากฎวัตถุเรืองแสงคล้ายผีพุ่งไต้หล่นลงมาจากฟากฟ้า เมื่อพายุสงบลงเจ้าของบ้านหลังหนึ่งได้พบสิ่งมีชีวิตประหลาดมีลักษณะคล้ายตัวหนอนเป็นปล้อง สีขาวเป็นวุ้น ข้างในลำตัวมีลักษณะสีขาวขุ่น คล้ายเป็นแกนน้ำแข็ง มีจุดเล็ก ๆ 2 จุดคล้ายตาและมีติ่งยื่นออกมาคล้ายใบหู มีขนาดเท่าฝ่ามือ ซึ่งพอจับจะหดตัว แต่พอใส่ในขวดโหลตัวจะพองใหญ่ขึ้น เจ้าของบ้านหลังนั้นจึงนำธูป หมากพลูและดอกไม้มาบูชา เชื่อว่าหากใครมีในครอบครอง 7 อัน (เช่นเดียวกับดราก้อนบอล) จะทำให้เจริญรุ่งเรือง สามารถรักษาโรคภัยไข้เจ็บได้ มากไปกว่านั้นยังนำเอาเนื้อเยื่อที่หลุดลุ่ยไปคลุกเคล้ากับข้าวกินกันในครอบครัวอีกด้วย ซึ่งจากเหตุการณ์ดังกล่าวมีประชาชนเดินทางไปดูเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้ชาวบ้านเชื่อว่าเป็นสิ่งที่ฟ้าประทานมาให้ ก่อนจะลงมือจุดธูปเทียนขอเลขเด็ดไปเเทงหวย เลขที่ได้รับความสนใจคือ 115 เเละ 17 โดยตัวเเรกเป็นเลขที่บ้าน ส่วน 17 เป็นจำนวนปล่องที่นับได้จากตัวหนอน จากคุณ : =Por= - [ 25 พ.ค. 52 20:54:07 ]

ความคิดเห็นที่ 19 เหตุผลที่ไม่ควรกราบไหว้... จากข้อมูลที่ได้มาตามเว็บบอร์ดต่างๆ ว่าแท้จริงแล้วหนอนที่ตกมาจากฟ้านั้นนั้นเป็นเพียงเจลลดไข้ที่อมน้ำไว้ ดร.นำชัย ชีววิวรรธน์ นักวิทยาศาสตร์จากศูนย์พันธุวิศวกรรมฯ จึงได้ทดสอบนำหนอนประหลาดที่ส่งมาจากชาวบ้าน มาเปรียบเทียบกับแผ่นเจลลดไข้ที่แช่น้ำไว้  พบว่าวัตถุทั้ง 2 ชิ้น มีลักษณะเหมือนกันทุกประการ และหลังจากข่าวได้เผยแพร่ออกไปแผ่นเจลลดไข้ก็ถึงกับขาดตลาด เนื่องจากผู้คนแห่กันไปซื้อมาเล่น โดยมีการนำเอาเอาแผ่นเจลมาย้อมสีและทำการตกแต่งประดับไปด้วยวัสดุต่างๆ เป็นที่สนุกสนานกัน จากคุณ : =Por= - [ 25 พ.ค. 52 20:54:28 ]

ความคิดเห็นที่ 20 อันดับ 1: น้ำท่อส้วม เรื่องมีอยู่ว่า... เมื่อวันที่ 4 มกราคม 2550 ชาวบ้าน อำเภอเด่นชัย จังหวัดแพร่ และหมู่บ้านใกล้เคียงนับพันคน แห่มาดูสิ่งประหลาดในรั้วของบ้านหลังหนึ่งที่มีน้ำผุดขึ้นจากดินไหลนองไปทั่วบริเวณ โดยชาวบ้านเชื่อว่าเป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่เกิดจาก สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประทานมาให้กับประชาชนที่ยากจนได้ใช้น้ำดังกล่าวไปรักษาโรค ภัยไข้เจ็บ และเป็นสิริมงคล เจ้าของพื้นที่ที่น้ำผุดขึ้นมา กล่าวว่า เห็นสนามหน้าบ้านผิดสังเกตตั้งแต่ในช่วงเช้า เมื่อตรวจสอบพบว่ามีน้ำซึมออกมาจากดิน เมื่อลองเอานิ้วเขี่ยดู น้ำยิ่งออกมากขึ้น จึงได้บอกให้ชาวบ้านมาดู ซึ่งคืนก่อนเกิดเหตุ ตนได้ฝันเห็นยายซึ่งเสียชีวิตไปแล้วมาเข้าฝัน บอกว่าไม่สบายอยากได้ยาพาราเซตามอล เมื่อตนเดินไปหยิบยามาให้ ยายก็หายไปแล้ว ยายอาจมาเข้าฝันบอกเรื่องยารักษาโรคในขณะตอนเช้าน้ำก็ผุดขึ้นมา ทำให้นึกถึงฝันดังกล่าวและเชื่อว่าเป็นยารักษาโรค จึงได้เอาธูปเทียนดอกไม้มาบูชา และขอน้ำไปเก็บไว้เพราะเชื่อว่ารักษาโรคได้ ชาวบ้านบางคนกล่าวว่า เข้าคิวรอตักน้ำตั้งแต่ทราบข่าวในตอนเช้ากว่าจะได้ตักน้ำก็เกือบเที่ยง โดยนำธูปเทียน-เงินถวายจำนวน 20 บาท วางใส่ในถาดดอกไม้ คงเป็นบุญของชาวบ้านที่สิ่งศักดิ์สิทธิ์เห็นใจชาวบ้านที่อยู่ในสภาวะข้าวยาก หมากแพง จึงประทานน้ำศักดิ์สิทธิ์มาให้รักษาโรคคนยากคนจน โดยชาวบ้านต่างรุมล้อมเพื่อขอตักน้ำศักดิ์สิทธิ์ไปบ้าน ในขณะที่น้ำใต้ดินก็ผุดขึ้นมาตลอดเวลา ชาวบ้านที่นั่งรอน้ำผุดขึ้นมามีทั้งน้ำและฟองอากาศ เมื่อชาวบ้านร้องขอให้แสดงปาฏิหาริย์ให้ผุดฟองอากาศ บ่อน้ำขนาดเล็กก็สำแดงให้เห็นทันที จากคุณ : =Por= - [ 25 พ.ค. 52 20:55:06 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ลงชื่อรออ่านจ้า ^^/ จากคุณ : คุณซัมซุง - [ 25 พ.ค. 52 20:55:10 ]

ความคิดเห็นที่ 22 เหตุผลที่ไม่ควรกราบไหว้... เมื่อเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจากโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ได้เดินทางมาที่เกิดเหตุ เพื่อเก็บตัวอย่างน้ำ ในขณะที่จะเข้าไปตักน้ำ ปรากฏว่าน้ำที่ไหลออกมาอย่างรุนแรงหยุดทันทีและยุบตัวจนพื้นดินแห้ง ซึ่งหลังจากนั้นประมาณ 20 นาที น้ำก็ผุดขึ้นมาอีก ทำให้ชาวบ้านเชื่อว่าแพทย์ที่ไปเก็บตัวอย่างน้ำสิ่งศักดิ์สิทธิ์ไม่พอใจ เมื่อไหลออกมาอีก นายสุรินทร์ นิภาโยธิน กำนันตำบลแม่จั๊วะ ได้นำลูกบ้านขุดหาที่มาของน้ำศักดิ์สิทธิ์ดังกล่าว ก็พบท่อเก่าเป็นท่อพีวีซีขนาด 6 หุน ซึ่งมีน้ำไหลออกมา เมื่อขุดตรวจสอบไปอีก จึงพบว่าเป็นท่อจากส้วมเก่าบ้านติดกันห่างจากจุดเกิดเหตุเพียง 4 เมตรเท่านั้น ซึ่งกำลังมีการสร้างส้วม และกำลังทำการเปลี่ยนปั๊มน้ำเพื่อสูบน้ำเข้าไปในส้วม เมื่อชาวบ้านทราบว่าน้ำดังกล่าวมาจากท่อในส้วมเก่า หลายคนที่ดื่มน้ำศักดิ์สิทธิ์เข้าไปแล้วถึงกับอาเจียนออกมาทันที จากคุณ : =Por= - [ 25 พ.ค. 52 20:55:40 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ยังขาดๆ จากคุณ : i.everyday - [ 25 พ.ค. 52 20:56:29 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ครับ จบแล้วล่ะครับ แหม นึกว่าจะปาดกันไม่ทันเสียอีก ช่วง rush hour นี่เร่งแค่ไหนก็ไม่ทันแฮะ ยินดีที่ได้ให้ความบันเทิงครับ จากคุณ : =Por= - [ 25 พ.ค. 52 20:58:31 ]

ความคิดเห็นที่ 25 นี่แหละ ประเตดไตย(ใส่อารมณ์เสียงคนใต้) จากคุณ : Lord BoBo Of Sarkhanland - [ 25 พ.ค. 52 21:01:33 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ถูกใจกระทู้นี้มาก แต่ gift หมดไปแล้วอ่ะ เอ้า โหวตตตตตตต... จากคุณ : yabeer - [ 25 พ.ค. 52 21:02:19 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ไม่มีนักการเมือง ?? จากคุณ : เด็กหญิงต้นข้าว - [ 25 พ.ค. 52 21:04:41 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ผมชอบนะครับ คนอย่าง จขกท ซึ่งคล้ายๆกับนิสัยส่วนตัวผม คือค่อนข้างทีจะหาเหตุผลทางวิทย์ก่อน แต่ก็ไม่ไปลบลู่สิ่งที่เราพิสูจไมได้ พอเห็นเรื่องพวกนี้ตามข่าวที่ไรก็อด อนาถใจไม่ได้ ชาวบ้านก็พากันไปกราบไหว สิ่งเล่านี้ ว่าไปว่า ศักดิ์สิทธิ์ บ้าง เป็นอะไรบ้าง จะเชื่อเรื่องพวกนี้ก็เชื่อได้แต่อยากให้อยู่ในความพอดี มันแสดงให้เห็นว่าการศึกษาของเรายังด้อยอยู่นัก ทั้งๆที่บางเรื่องมันสามารถอธิบายด้วยหลักวิทย์ง่ายๆ จากคุณ : Napoleonic - [ 25 พ.ค. 52 21:07:54 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ผมยังขำหนอนเจลเอเลี่ยนได้ดี ขำชิบเป้ง  หน้าแตกกลางอากาศกันหลายคน ขนาดนักข่าวบอกว่าเป็นอะไร เจ้าของก็ยังไม่เชื่อ เอามาผสมข้าวต้มกิน บอกว่าบำรุงกำลัง เอากะมันสิ จากคุณ : vespa744 - [ 25 พ.ค. 52 21:08:36 ]

ความคิดเห็นที่ 30 เดาที่ 1 ได้ตรงใจผมเป๊ะเลย 555+ ตอนนี้มีว่านจั๊กจั่นมาอีกละ เข้าใกล้วันที่ 1 ของแปลกเริ่มมา จากคุณ : Charlesano - [ 25 พ.ค. 52 21:09:02 ]

ความคิดเห็นที่ 31 555+ จากคุณ : bell4210 (the world is beautiful) - [ 25 พ.ค. 52 21:09:36 ]

ความคิดเห็นที่ 32 แผ่นเจลกับไข่ มีคนมาติดต่อขอซื้อเป็นล้านเลยนี่ แต่เจ้าของไม่ขาย... เสาสุวรรณภูมิ ตอนดังมากๆ ในนี้เถียงกันจะเป็นจะตาย คนเชื่อ ก็เชื่อลูกเดียว ไม่สนอย่างอื่น ตอนนั้นอ่านแล้วฮามาก ท่อส้วมนี่ก็อีกอันที่อ่านข่าว แล้วจี้สุดๆ แก้ไขเมื่อ 25 พ.ค. 52 21:15:27 จากคุณ : นายขนมหวาน - [ 25 พ.ค. 52 21:11:31 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ไม่นาน นี้ รับรองได้เลย ว่ากระทู้นี้ จะลาย เป็น ฟอเวิร์ดเมลล์    55 แต่ผมชอบ ครับ จากคุณ : BLUE SONIC - [ 25 พ.ค. 52 21:12:31 ]

ความคิดเห็นที่ 34 สุดยอด จากคุณ : สหายสายธาร - [ 25 พ.ค. 52 21:17:17 ]

ความคิดเห็นที่ 35 การกราบไหว้สิ่งเหล่านั้นมันงี่เง่ามากค่ะ ชาวบ้านน่ะมีสมองแต่ส่วนใหญ่ไม่เคยจะใช้สมองคิดอะไรเป็นเหตุผลกันเสียบ้าง -*- จากคุณ : เสียงจากบ้านนา - [ 25 พ.ค. 52 21:19:20 ]

ความคิดเห็นที่ 36 คนไทยฉลาดค่ะ เริศ  อยากให้กิ๊ฟ แต่มะมีแล้ว จากคุณ : Arccyber2004 - [ 25 พ.ค. 52 21:19:39 ]

ความคิดเห็นที่ 37 สมควรโหวต น่าเขียนเป็นคอลั่มลงหนังสือพิมพ์ ด้วยนะครับ จากคุณ : นายโอ้นโต้น - [ 25 พ.ค. 52 21:20:42 ]

ความคิดเห็นที่ 38 ประเทิงปัญญาและอารมณ์ ขอบคุณ จขกท มากครับ เล่าเรื่องสุดท้ายให้แฟนฟังฮาท้องแข็งเลย จากคุณ : nine_ichatta - [ 25 พ.ค. 52 21:20:45 ]

ความคิดเห็นที่ 40 555555 ชอบน้ำส้วมมาก บำรุงร่างกาย เด๋วจะไปกินมั่ง แว๊บบบ จากคุณ : หลายแสนไมล์ - [ 25 พ.ค. 52 21:22:20 ]

ความคิดเห็นที่ 41 อ่านไป ฮาไป แต่อันดับที่ 1 ไม่หวาย อยากอ้วก จากคุณ : โซดา&กาแฟ - [ 25 พ.ค. 52 21:24:48 ]

ความคิดเห็นที่ 42 เฮ้อ..........ที่นี่ประเทศไทย เมื่อไหร่เรื่องทำนองนี้จะหมดไปซะที จากคุณ : ค้างคาวอมยิ้ม - [ 25 พ.ค. 52 21:27:30 ]

ความคิดเห็นที่ 43 เห็นด้วยมากกกกกกกกกกกกกก จากคุณ : *-* (ktavee02) - [ 25 พ.ค. 52 21:27:31 ]

ความคิดเห็นที่ 44 จากคุณ : แก่ม แก๊ม - [ 25 พ.ค. 52 21:30:23 ]

ความคิดเห็นที่ 45 มันต้องโหวต... จากคุณ : m_stay22 - [ 25 พ.ค. 52 21:32:26 ]

ความคิดเห็นที่ 46 ขอบคุณที่รวบรวมมาให้อ่านครับ ผมคิดว่า ที่จริงยังมีอีกเยอะเลยนะ d~_~b จากคุณ : Sakuder - [ 25 พ.ค. 52 21:32:36 ]

ความคิดเห็นที่ 47 ^ ^ ^ #33 ขอเอาไปFwd mail คนแรกเลยละกัน คนที่ได้รับ จะได้เอาไปบอกต่อญาติๆว่าอย่าไหว้ไรมั่วๆ แก้ไขเมื่อ 25 พ.ค. 52 22:56:11 จากคุณ : mohicann - [ 25 พ.ค. 52 21:33:06 ]

ความคิดเห็นที่ 48 อันดับ 1 นี่ฮิตตลอดกาลจริงๆ  น่าจะครองสถิติ 3 ปีซ้อน !!! ถ้าครอง 5 ปีซ้อน ลงกินเนสส์บุ๊ครักษาแชมป์นานที่สุดแน่ๆ   จากคุณ : ผู้ศึกษา - [ 25 พ.ค. 52 21:35:20 ]

ความคิดเห็นที่ 49 คิดถึงเจลเหมือนกันก๊าบบ เจลในรูปปลากรอบ น่ารักมากๆๆ จากคุณ : Miracles in my life - [ 25 พ.ค. 52 21:36:26 ]

ความคิดเห็นที่ 50 กะไว้แล้วว่าต้องมีเรื่อง holy shit อยากให้กิฟต์อ้ะ แต่กิฟต์หมดแล้วค่ะ แปะไว้ก่อนนะ เดือนหน้ามาให้ แหะๆ... ปล. แต่ชาวบ้านๆที่ชอบกราบไหว้เนี่ย ไม่เข็ดร้อกกก ดื้อกันจะตาย... จากคุณ : ลูกเป็ดขี้เกียจ - [ 25 พ.ค. 52 21:36:46 ]

ความคิดเห็นที่ 51 น่าเอาไปทำ FW Mail เนอะ ใครเอาไปทำแล้ว ส่งมาให้ด้วยสิ จากคุณ : Lekfoto - [ 25 พ.ค. 52 21:37:15 ]

ความคิดเห็นที่ 52 สุดยอดครับ ถูกใจผมมากเลย จากคุณ : axquest - [ 25 พ.ค. 52 21:44:23 ]

ความคิดเห็นที่ 53 สองข้อหลังสุดนี่กลายเป็นตำนานเลย จากคุณ : Lagnadan - [ 25 พ.ค. 52 21:45:24 ]

ความคิดเห็นที่ 54 อยากจะถอนหายใจยาวๆเป็นจังหวะชะชะช่า ~~ จากคุณ : ถั่วงอกเป็นฆาตกร - [ 25 พ.ค. 52 21:49:02 ]

ความคิดเห็นที่ 55 +10 กะโหลก จากคุณ : มนุษย์ถ้ำ - [ 25 พ.ค. 52 21:50:13 ]

ความคิดเห็นที่ 56 โอ้ มันเป็นไปได้นะ  น่ารักกันจริง จากคุณ : apadechi - [ 25 พ.ค. 52 21:52:35 ]

ความคิดเห็นที่ 57 เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า...เวลามีอะไรแปลกๆ ให้รีบประโคมข่าว จากนั้นถ้ามีคนมาขอซื้อเป็นล้านๆ ให้รีบขายซะ จากคุณ : powerconduit - [ 25 พ.ค. 52 21:58:42 ]

ความคิดเห็นที่ 58 ว้า............ ไม่มี จากคุณ : German Shepherd 02 - [ 25 พ.ค. 52 22:04:13 ]

ความคิดเห็นที่ 59 สุดยอดดดดดดดดดดดด จากคุณ : vandalism - [ 25 พ.ค. 52 22:06:59 ]

ความคิดเห็นที่ 60 ที่นี่ประเทศไทย ...จ้า จากคุณ : axquest - [ 25 พ.ค. 52 22:13:53 ]

ความคิดเห็นที่ 61 ^ ^ ^ ^ ^ จิ้มไปที่ ๓๙ (ตอนแรกจิ้มผิด) "สยามเทวาธิราช" มีมานมนานกาเลแล้วนะจ๊ะ แก้ไขเมื่อ 25 พ.ค. 52 22:18:28 จากคุณ : Lagnadan - [ 25 พ.ค. 52 22:13:58 ]

ความคิดเห็นที่ 62 อันนี้จะโดนด้วยมั้ย^^ http://www.matichon.co.th/khaosod/view_news.php?newsid=TUROd01ERXdNakkxTURVMU1nPT0=&sectionid=TURNd01RPT0=&day=TWpBd09TMHdOUzB5TlE9PQ== จากคุณ : semplice - [ 25 พ.ค. 52 22:15:53 ]

ความคิดเห็นที่ 63 #11ตู้คอนเทนเนอร์ จากคุณ : เสือเพิก ชุมแพ - [ 25 พ.ค. 52 22:16:17 ]

ความคิดเห็นที่ 64 ถึงคุณ #39 http://th.wikipedia.org/wiki/พระสยามเทวาธิราช ปล. คนไทยหรือเปล่า? จากคุณ : axquest - [ 25 พ.ค. 52 22:16:50 ]

ความคิดเห็นที่ 65 จังซี้มันต้อง โหวตตตตตตตตตตตตตตต จากคุณ : วัตถุต้องสงสัย - [ 25 พ.ค. 52 22:17:34 ]

ความคิดเห็นที่ 66 กะว่าจะโหวตให้อยู่กระทู้เด่นสักเดือน ปล. แต่ ลบรูป จิ้งจก รูปใหญ่ๆ ได้มะ ใจจะวาย ขอร้อง แก้ไขเมื่อ 25 พ.ค. 52 22:36:26 จากคุณ : Prof.Sirius - [ 25 พ.ค. 52 22:19:39 ]

ความคิดเห็นที่ 67 ชอบเจลสุดเเละ จำได้เมือก่อนเห็นออกข่าวหน้า1กันใหญ่โต อย่างกับ  เขาจะเปลี่ยนนายกยังไงยังงั้น จากคุณ : Clockup - [ 25 พ.ค. 52 22:24:39 ]

ความคิดเห็นที่ 68 ขออนุญาตเอามาลง เห็นว่าประเด็นใกล้เคียง หมอแมวตอบ จาก http://mor-maew.exteen.com/20090521/entry - - - - - - - - - - - - - - - เรื่องนี้ค่อนข้างน่าเศร้า เพราะโรคมะเร็.กระดูกถือเป็นโรคมะเร็งที่พอจะช่วยเหลือได้หากจัดการรักษาตั้งแต่ต้น จากข่าวนี้ประกอบกับข่าวจากสื่อหลายแขนง พอสรุปได้ว่า มารดาพาเด็กไปตรวจแล้ว หมอแนะนำให้ผ่าตัดแล้ว และทำการส่งตัวรักษาต่อที่เชียงใหม่แล้ว มารดาไม่ต้องการให้ลูกถูกตัดขา จึงพาไปที่วัด มีพระในวัดย่านบางพลีเป่าน้ำมนต์ให้   รักษาไม่หายจนเงินหมด ก็ไม่ไปโรงพยาบาล ไม่ขอความช่วยเหลือเรื่องการรักษาจากสาธารณสุข แต่ไปขอความช่วยเหลือทางด้านสื่อแทน ********* ประเด็นที่อยากชี้ให้เห็นในข่าวคือ   เด็กคนนี้เป็นโรคที่สามารถรักษาชีวิตได้ หากรักษาตั้งแต่แรก , การรักษาไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายมากมายเพราะรักษาที่เชียงใหม่จากการส่งตัว แต่มารดาเลือกที่จะปฏิเสธการรักษาของหมอ แล้วหอบหิ้วมารักษากับพระ มีพระที่น่าจะต้องรอรับผลกรรมที่ทำลายชีวิตของเด็ก(ไม่ว่าจะตั้งใจหรือไม่) ด้วยการยอมเป่าน้ำมนต์พ่นยา เด็กคนนี้ถ้าว่ากันตามเรื่องถ้าจะมารักษาที่ภาคกลางก็ต้องเสียเงิน เพราะออกนอกเขตพื้นที่ ซึ่งหากรักษาที่เชียงใหม่ ไม่ต้องเสียเงิน และหากดูแล้วรักษาไม่ไหว ทางนั้นก็จะส่งต่อกรุงเทพฯไม่ต้องเสียเงินค่ารักษา และอย่างน้อยก็น่าจะมีโอกาสรอดมากกว่านี้ ไม่ได้อยากทับถมอะไร แต่ว่าผมไม่เห็นด้วยกับการกล้าๆกลัวๆไม่กล้าวิจารณ์เพราะว่าอีกฝ่ายคือผู้ที่กำลังจะสูญเสีย หรืออีกฝ่ายเป็นพระ ถ้าพระกล้าเป่าน้ำมนต์รักษา ก็ควรจะรับผิดชอบในการกระทำของตนที่กำลังจะทำให้ชีวิตของเด็กคนนึงต้องหายไป ถ้ามารดามีความเชื่อผิดๆ แม้ว่ากำลังจะเป็นผุ้สูญเสีย เราก็ควรวิจารณ์ หากเราไม่วิจารณ์ให้เห็นความจริง เราก็จะมีเด็กที่เป็นเช่นนี้อีกหลายคน - - - - - - - - - - - - - - - เนื้อข่าว สลด ด.ญ. 7 ขวบ เป็นโรคประหลาดขาบวมมโหฬาร มีขนาดถึง 20 นิ้ว รักษาเท่าไรไม่ หาย แม่เผยโดนเพื่อนทับขาสมัยเรียนอยู่ที่จ.น่าน พาไปพบหมอบอกว่าเป็นมะเร็งที่กระดูก แม่ไม่ต้องการให้หมอตัดขาลูก จึงหอบหิ้วกันมาหาน้องที่ปากน้ำ แต่น้องสาวก็จนปัญญาจึงพาพบนักข่าว วอนคนใจบุญช่วยเหลือ พม.สมุทรปราการพาพบแพทย์รักษาเบื้องต้นแล้ว เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 20 พ.ค. นางปราโลม รุ่งทอง 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 21/9 ม.2 ต.พิมพา อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา อุ้มลูกสาวชื่อ ด.ญ.สุจิตรา รุ่งทอง หรือน้องนุ้ย อายุ 7 ขวบ ซึ่งมีสภาพขาข้างซ้ายตั้งแต่เข่าจนถึงต้นขามีลักษณะบวมเป่ง วัดรอบขาประมาณ 20 นิ้ว เข้าร้องขอความช่วยเหลือผ่านสื่อมวลชน จ. สมุทรปราการ นางปราโลมเล่าว่า เมื่อต้นเดือนมกราคม 2552 ที่ผ่านมา ขณะนั้นน้องนุ้ย เรียนอยู่ ป.1 โรงเรียนจุมปีวนิดาพร จ.น่าน ถูกเพื่อนล้มทับขาขณะวิ่งเล่นอยู่ภายในโรงเรียน จึงไปรักษาที่โรงพยาบาลน่าน แต่อาการก็ไม่หาย และยังมีอาการบวมขึ้น ทำให้ "น้องนุ้ย" มีอาการเจ็บปวดเป็นอย่างมาก จนต้องหยุดการเรียนไว้ก่อน ตนเองพยายามพาไปรักษาที่โรงพยาบาลตลอด จนต้องขายทรัพย์สินที่มีอยู่เพื่อนำเงินมาเป็นค่ารักษาน้องนุ้ยจนหมด ประกอบกับพ่อของน้องนุ้ยต้องตกงานอีก ทำให้ไม่มีเงินเดินทางไปรักษา ครั้งสุดท้ายที่สอบถามหมอที่ร.พ.น่าน บอกว่าน้องนุ้ยเป็นโรคมะเร็งที่กระดูกต้องตัดขา ตนเองทำใจไม่ได้ที่ลูกสาวต้องตัดขาตั้งแต่อายุยังน้อย จึงรวบรวมเงินที่มีอยู่ทั้งหมดเดินทางมาหาน้องสาวที่สมุทรปราการ เพื่อให้น้องสาวช่วยในเรื่องค่ารักษาพยาบาล และคิดว่าแพทย์ที่กรุงเทพฯน่าจะช่วยเหลือลูกสาวได้ แต่เมื่อมาถึงน้องสาวก็ไม่มีเงินที่จะพาไปรักษาที่โรงพยาบาล เนื่องจากน้องสาวเป็นแค่พนักงานในโรงงาน จึงพาไปรักษาทางไสยศาสตร์ ที่วัดแห่งหนึ่งที่อยู่ใกล้บ้านน้องสาวย่านบางพลีน้อย แต่อาการของน้องนุ้ยก็ยังไม่ดีขึ้น กระทั่งมีคนแนะนำว่าให้ขอความช่วยเหลือต่อสื่อมวลชน จึงเข้ามาร้องขอความช่วยเหลือดังกล่าว นายพงษ์พิชญ์ ทองหิตานุวัฒน์ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสมุทร ปราการ กล่าวว่า ครอบครัวของน้องนุ้ยเดินทางมาจากจ.น่าน มาพักอยู่ที่บ้านญาติที่อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นเขตติดต่อกับจ.สมุทร ปราการ หลังจากทราบเรื่องว่าได้รับความเดือดร้อนจึงส่งนักสังคมสงเคราะห์เข้าไปพูด คุยกับครอบครัวของน้องนุ้ยทันที ทราบว่าน้องนุ้ยไม่มีเงินในการรักษาพยาบาล จึงให้ความช่วยเหลือในเบื้องต้นจำนวน 2,000 บาท พร้อมกับประสานโรงพยาบาลของรัฐที่อยู่ใกล้บ้าน เพื่อให้น้องนุ้ยได้รับการตรวจรักษาด้วยแพทย์แผนปัจจุบันอย่างเร่งด่วน โดยจะทำหนังสือขอยก เว้นค่ารักษาพยาบาล และจะประสานกับหน่วย งานสาธารณกุศล เช่น เหล่ากาชาดจังหวัดเข้าไปช่วยเหลืออีกทาง "แม้ว่าน้องนุ้ยจะมีภูมิลำเนาอยู่ที่จ.น่าน มาอาศัยพักอยู่กับญาติในเขตอ.บางปะกง จ.ฉะเชิง เทรา แต่เมื่อทางพัฒนาสังคมจังหวัดสมุทรปราการทราบเรื่องก็ต้องเข้าไปช่วยเหลือ เยียวยาในทันที ให้เขาได้คลายความเดือดร้อน ไม่ให้รู้สึกว่าหน่วยงานของรัฐไม่เหลียวแล ส่วนจะอยู่พื้นที่ไหนนั้นค่อยมาประสานกันในตอนหลังได้" นายพงษ์พิชญ์กล่าว แก้ไขเมื่อ 25 พ.ค. 52 22:40:49 จากคุณ : Prof.Sirius - [ 25 พ.ค. 52 22:26:51 ]

ความคิดเห็นที่ 69 โหวตแล้วนะครับ จากคุณ : axquest - [ 25 พ.ค. 52 22:26:55 ]

ความคิดเห็นที่ 70 ต้องโหวต จากคุณ : unimox - [ 25 พ.ค. 52 22:26:58 ]

ความคิดเห็นที่ 71 โหวตแล้วครับ ฮ่าๆ น้ำส้วม จากคุณ : P Lloyd - [ 25 พ.ค. 52 22:27:43 ]

ความคิดเห็นที่ 72 พังงา นครราชสีมา ศรีสะเกษ ลพบุรี ปทุมธานี พิจิตร พระนครศรีอยุธยา กทม (สมุทรปราการ) อุทัยธานี แพร่ ขอบคุณครับ แก้ไขเมื่อ 25 พ.ค. 52 22:46:32 จากคุณ : อีคิวศูนย์ - [ 25 พ.ค. 52 22:30:24 ]

ความคิดเห็นที่ 73 ชอบที่เป็น น้ำจากส้วม แต่หัวเราะดัง ไม่ได้ครับ เพื่อนร่วมงานที่นั่งข้าง ๆ เป็นคนแพร่จะค้อนเอาครับ จากคุณ : วิลลี่ มักกล้วยทอช (EddyFusher) - [ 25 พ.ค. 52 22:30:57 ]

ความคิดเห็นที่ 74 พูดถึงไอ้หนอนเจลแล้วนึกได้ ยังเจ็บใจอยู่ถึงทุกวันนี้ ของขาด  หาซื้อไม่ทัน  เลยอดเล่นครับ  ^^" จากคุณ : Pixzz - [ 25 พ.ค. 52 22:31:35 ]

ความคิดเห็นที่ 75 อ่านแล้ว เฮ้อ บรรยายออกมาเป็นคำไม่ได้จริงๆ กับคนเหล่านี้ จากคุณ : ซอมบี้หม่ำการ์ตูน - [ 25 พ.ค. 52 22:32:51 ]

ความคิดเห็นที่ 76 ใครเจออะไรแปลกๆรีบขายเลยนะครับ ก่อนที่จะมีคนรู้ความจริง จิ้งจกผมก็ว่าเป็นพันธ์ธรรมดา หนอนเอเลี่ยนนี้ตอนแรกๆก็ตื่นเต้นด้วยอยู่ รู้ความจริงแล้วขำก๊าก เด็ดสุดก็น้ำส้วมนี่แหล่ะ ... คิดได้ยังไง เฮ้อ ... จากคุณ : Gunz_za - [ 25 พ.ค. 52 22:34:55 ]

ความคิดเห็นที่ 77 น้องเจลลดไข้นี่เราก็ซื้อมาเล่นหล่ะ 555+ จากคุณ : ElinTyne - [ 25 พ.ค. 52 22:35:28 ]

ความคิดเห็นที่ 78 เมื่อก่อนที่บ้านก็กิน น้ำชา ดองเห็ดรัสเซีย ใครเคยเห็นบ้างครับ มักพบคนเอาใส่โหล ประกอบด้วยน้ำตาลกับน้ำชา พบเป็นแผ่นวุ้นขนาดใหญ่ ลอยปริ่มผิวน้ำ ตอนหลังผมลองแบ่งออกมาใส่หลอดทดลอง แล้วเลี้ยงด้วยน้ำมะพร้อม ปรากฏว่าการเป็นวุ้นใสๆ สวยงามน่ากินกว่าเดิมมาก ในที่สุดรายการอะไรไม่รู้ออกมา บอกว่ามันเป็นแบคทีเลีย Acetobacter xylinum จะก่อตัวเป็นวุ้น ในน้ำมะพร้าว โชคดีนะที่ มันกินได้ หาใช้เห็ดรัสเซียไม่ แก้ไขเมื่อ 25 พ.ค. 52 23:01:37 จากคุณ : Darkvider - [ 25 พ.ค. 52 22:39:11 ]

ความคิดเห็นที่ 79 อันดับ0 นักการเมือง จากคุณ : จอมโจรจอมกระล่อน - [ 25 พ.ค. 52 22:40:14 ]

ความคิดเห็นที่ 80 อ่านไปขำไป ขอบคุณครับ  จขกท. จากคุณ : BonDsaii (jowa) - [ 25 พ.ค. 52 22:41:46 ]

ความคิดเห็นที่ 81 55555555++++++++++++++ จากคุณ : นางงามพยายามสวย - [ 25 พ.ค. 52 22:43:16 ]

ความคิดเห็นที่ 82 โห....แสดงว่าเรื่องความเชื่อมีทุกภาคของประเทศไทยเลยนะ.. เฮ้อ... จากคุณ : nuanapa - [ 25 พ.ค. 52 22:44:02 ]

ความคิดเห็นที่ 83 น่าเอาไปตั้งไว้ห้อง รดน จากคุณ : Enceladus - [ 25 พ.ค. 52 22:44:29 ]

ความคิดเห็นที่ 84 . แก้ไขเมื่อ 25 พ.ค. 52 22:59:29 แก้ไขเมื่อ 25 พ.ค. 52 22:47:43 แก้ไขเมื่อ 25 พ.ค. 52 22:46:55 จากคุณ : นายสีเสียด - [ 25 พ.ค. 52 22:44:29 ]

ความคิดเห็นที่ 85 555 ชอบกระทู้นี้ ตรงใจดี จากคุณ : หัวใจถวายวัด - [ 25 พ.ค. 52 22:46:28 ]

ความคิดเห็นที่ 86 ว่าแต่ เรื่องน้ำส้วมนี่ อ่านแล้วจะอ้วก จากคุณ : Darkvider - [ 25 พ.ค. 52 22:46:36 ]

ความคิดเห็นที่ 87 แหร่มๆๆๆๆๆๆ จากคุณ : Fatdiary - [ 25 พ.ค. 52 22:49:53 ]

ความคิดเห็นที่ 88 ฟอร์เวิร์ดเมลนี่คงนิยมอยู่ แต่เอาบทความนี้ลงหนังสือพิมพ์ บก. คงโยนลงตะกร้า เดี๋ยวหนังสือพิมพ์จะขายไม่ออก! แก้ไขเมื่อ 25 พ.ค. 52 22:54:27 จากคุณ : s m l xl - [ 25 พ.ค. 52 22:50:16 ]

ความคิดเห็นที่ 89 อันดับ1กับ2นี่สุดๆแล้ว มีเอาไปกินด้วย จากคุณ : ปลาสามฤดู - [ 25 พ.ค. 52 22:53:11 ]

ความคิดเห็นที่ 90 ที่ 1 กับ 2 เป็นไปตามที่คิดจริงๆ ตอนแผ่นเจล ก็จำได้ว่าห้องนี้เล่นกันสนุกเลย จากคุณ : หมาข้างถนนคนบ้าการ์ตูน - [ 25 พ.ค. 52 22:53:41 ]

ความคิดเห็นที่ 91 โชคดีไม่มีจังหวัดเรา 555+ อย่าให้มีเลย สาธุ -*- จากคุณ : ElinTyne - [ 25 พ.ค. 52 22:53:46 ]

ความคิดเห็นที่ 92 วันหลังต้องรีบเข้าป่า เจอไรแปลกๆ รีบแสดงความเป็นเจ้าของ เอาผ้าสามสีมาผูก แล้วเก็บค่าดู พอมีคนขอซื้อ เล่นตัวนิดหน่อย แล้วขายเลย จากคุณ : mohicann - [ 25 พ.ค. 52 22:59:37 ]

ความคิดเห็นที่ 93 คห.68 นี่ใ่ช่เลย พวกเป่าๆ ทั้งน้ำมนต์ น้ำลาย สมุนไพรนี่บ้านนอกมีเยอะ เวลาเราบอกดีๆด้วยเหตุผลก็ไม่เชื่อ เซ็ง... พวกงูสวัดนี่บ่อยมากกกกกกกกก... เฮ้อ จากคุณ : ลูกเป็ดขี้เกียจ - [ 25 พ.ค. 52 23:04:45 ]

ความคิดเห็นที่ 94 5555 จากคุณ : Approch - [ 25 พ.ค. 52 23:06:29 ]

ความคิดเห็นที่ 95 กีฟ หมดเหมือนกัน ให้ไม่ได้เลี้ยว จากคุณ : นายผี (สระนาฬิเกร์) - [ 25 พ.ค. 52 23:07:35 ]

ความคิดเห็นที่ 96 แปลก  ไม่ยักมี  พญานาค-ปลาโอฟิช  แฮะ -_-' จากคุณ : กุนซือเอกแห่งรัฐวุ่ย - [ 25 พ.ค. 52 23:09:36 ]

ความคิดเห็นที่ 97 ขอบคุณ จขกท ครับ แต่ละเรื่อง โอว ไทยแลนด์ เจริญพร จากคุณ : short ride in a fast machine - [ 25 พ.ค. 52 23:13:52 ]

ความคิดเห็นที่ 98 กั่กๆๆๆ ทายอันดับ1ถูก จากคุณ : ร้อยละสิบสลึง - [ 25 พ.ค. 52 23:15:37 ]

ความคิดเห็นที่ 99 เพราะคิดกันได้แบบงมงายแบบนี้ ประเทศชาติถึงไม่เป็นประเทศพัฒนาแล้วซักที อ่านแล้วสลด จากคุณ : gregloki - [ 25 พ.ค. 52 23:20:29 ]

ความคิดเห็นที่ 100 ขอบคุณค้าบบบ :) จากคุณ : ตัวตุ่นตามัว - [ 25 พ.ค. 52 23:24:00 ]

ความคิดเห็นที่ 101 โอว นี่แหละคือไทยแลนด์เมืองศิวิไล โอ้ววว นี่หรือเมืองพุทธ พูดกันจริงๆ หลักศาสนาพุทธแท้ๆ พระพุทธเจ้าสอนไม่ให้ไปไหว้ขอปาฏิหารย์จากสิ่งศักดิ์สิทธิ ไม่ให้ไปไหว้พระอิฐพระปูน อย่าหวังพึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ไอ้การไปไหว้เทพเจ้าต่างๆนั่น มันพราหม์ครับ!!!!! จากคุณ : ซามาโนสุเกะ - [ 25 พ.ค. 52 23:27:34 ]

ความคิดเห็นที่ 102 เจลลดไข้ นี่ตกแต่งดีๆแล้วน่ารักน่าเล่นมาก ^__^ ส่วนอันดับหนึ่งสมเพชมากกว่าตลกอ่ะครับ จากคุณ : sleeper_j - [ 25 พ.ค. 52 23:27:36 ]

ความคิดเห็นที่ 103 สุดยอดดดด ชอบหาเหตุผลเหมือน จขกท เหมือนกัน ทาย 1  เหมือนกันเลย จากคุณ : เม็กนีโต้ - [ 25 พ.ค. 52 23:29:10 ]

ความคิดเห็นที่ 104 ฮากร๊ากเลย มาถึงอันดับ 1 ว่าแล้วววว จากคุณ : Nanoดะ - [ 25 พ.ค. 52 23:29:50 ]

ความคิดเห็นที่ 105 อ่าน อันดับ 1 แล้วสะใจ ... อะไรจะเชื่อแบบไม่มีเหตุผลขนาดนั้น จากคุณ : tuppee - [ 25 พ.ค. 52 23:31:47 ]

ความคิดเห็นที่ 106 โหวต ๆ จากคุณ : handghost - [ 25 พ.ค. 52 23:33:52 ]

ความคิดเห็นที่ 108 ......กินน้ำขี้ อ๊ากซ์!!!!!!!!!!!!........... จากคุณ : ไร้สาระคุง - [ 25 พ.ค. 52 23:46:48 ]

ความคิดเห็นที่ 109 อืมเด็ดทุกอันดับเลยค่ะ จขกท ลืมที่แต่งงานกับงูรึเปล่าคะ อันนี้ก็ฮานะคะ ฮ่าๆๆๆๆๆ จากคุณ : รองเท้ากับนาฬิกา - [ 25 พ.ค. 52 23:48:01 ]

ความคิดเห็นที่ 110 เหนรูปในอันดับ1 แล้วน่ากลัวววมากกกก จากคุณ : น้องจุ่น - [ 25 พ.ค. 52 23:51:32 ]

ความคิดเห็นที่ 111 แหม ทายพลาด นึกว่าอันดับ 1 จะเป็นเจล... แต่เหตุการณ์ต่างๆก็แสดงให้เห็นถึงความตระหนักในวิทยาศาสตร์ของคนไทยได้อย่างดีเลยครับ ยังไงๆก็ช่วยแก้กันหน่อยนะคร้าบบ เจ้านายยย จากคุณ : monopod - [ 25 พ.ค. 52 23:54:17 ]

ความคิดเห็นที่ 112 ฮาจิงๆ จากคุณ : wasabi_gosh - [ 25 พ.ค. 52 23:56:52 ]

ความคิดเห็นที่ 113 เฮ้อออ บ้านเรางมงายกันจังค่ะ แต่ก็เข้าใจ แก้ไขเมื่อ 25 พ.ค. 52 23:59:20 จากคุณ : Pretty_Cute_Girl - [ 25 พ.ค. 52 23:58:46 ]

ความคิดเห็นที่ 114 ผมกินเข้ เข้าไปค้าบบบ (น่าจะมีภาพไปโรงเรียนนะ) จากคุณ : Duk_Dik_Kung - [ 26 พ.ค. 52 00:04:26 ]

ความคิดเห็นที่ 115 หนุกหนานครับผม  แย้งก่อนเอาไปทำฟอร์เวิร์ดเมล์นิดเดียว ปลาที่เอามาไหว้กันใน คห 9 อันนั้น alligator fish ครับ แต่ใน คห 10 เป็น Arapaima ครับผม มาจากอเมซอนเหมือนกัน แต่เป็นปลาคนละชนิดครับ จากคุณ : casanova - [ 26 พ.ค. 52 00:06:53 ]

ความคิดเห็นที่ 116 สวัสดีประเทศไทย จากคุณ : มนุษย์ไฟฟ้าสีเขียว - [ 26 พ.ค. 52 00:11:46 ]

ความคิดเห็นที่ 117 สุดท้ายนี่ฮาจริงๆ จากคุณ : RapidasH - [ 26 พ.ค. 52 00:16:15 ]

ความคิดเห็นที่ 118 #115 จริงอ่าาาา แต่ในเว็บนี้ผู้เชี่ยวชาญทางชีววิทยาสัตว์น้ำกับอีกคนทางด้านมีนวิทยา เป็นคนจำแนกสายพันธุ์และถ่ายรูปนี้อ่ะครับ... ส่วนตัวผมเองก็จนปัญญาจริงๆ ไม่รู้ว่าผิดหรือถูก http://www.thejump.net/fishing/1fishphoto5/fish-pic-15.htm จากคุณ : =Por= - [ 26 พ.ค. 52 00:18:50 ]

ความคิดเห็นที่ 119 ชาติไทยไม่แพ้ชาติใดในโลก จากคุณ : ไม่มีสมาชิกชื่อนี้ - [ 26 พ.ค. 52 00:19:35 ]

ความคิดเห็นที่ 120 ตอนนั้นเสียดาย ไม่ได้ซื้อน้องเจลมาเล่น 555 แต่อันดับหนึ่งนี่.. สุดยอดจริงๆ จากคุณ : A MeloDy - [ 26 พ.ค. 52 00:26:41 ]

ความคิดเห็นที่ 121 เสียดาย ถ้าจขกท ตั้งกระทู้ตอนต้นเดือน กิฟกระจายยยย จากคุณ : HWalker - [ 26 พ.ค. 52 00:32:33 ]

ความคิดเห็นที่ 122 ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ครับ ..... เฮ้อ จากคุณ : Roy E Nem - [ 26 พ.ค. 52 00:37:43 ]

ความคิดเห็นที่ 123 ต้องลองพิจารณากันเองครับ ผมก็ไม่แน่ใจ   อันนี้ อัลลิเกเตอร์ ฟิช http://www.iobis.org/edu/imagelibrary/ILFishBase1.html อันนี้ อาราไพม่า ที่เดอะมอล์ ท่าพระก็มี http://www.jjphoto.dk/fish_archive/warm_freshwater/arapaima_gigas.htm จากคุณ : casanova - [ 26 พ.ค. 52 00:42:45 ]

ความคิดเห็นที่ 124 เฮ้อออ สมเพช... ขยายการศึกษาให้ทั่วถึงหน่อยนะ จะได้ไม่ต้องกินน้ำส้วม... ไม่เปลืองธูปด้วย จากคุณ : มาการีน แยมโรล - [ 26 พ.ค. 52 00:45:53 ]

ความคิดเห็นที่ 125 สุดยอดมากครับ จขกท. เขียนได้เร้ามา ขำสุดๆ 555+ อันดับ1นี่สุดยิด จากคุณ : นายเบียร์ - [ 26 พ.ค. 52 00:54:31 ]

ความคิดเห็นที่ 126 ชาวบ้านที่นั่งไหว้สิ่งต่างๆ ในกระทู้นี้ ล้วนแต่ได้รับการศึกษา "อย่างทั่วถึง" จากภาครัฐทั้งนั้นแหละค่ะ คนไทยสมัยก่อนมีกระทรวงศึกษาธิการ เค้าก็ไม่งมงายกันถึงขนาดนี้หรอกค่ะ ตามคติความเชื่อไทยโบราณ หลายๆ อย่างที่ไหว้กันอยู่ในกระทู้นี้ เค้าเรียกว่า อาเพศ นะคะ เจอที่ไหนต้องทำลายทิ้งที่นั่น ถือว่าเป็นกาลีบ้านกาลีเมืองค่ะ ไม่ใช่มานั่งไหว้กันแบบนี้ค่ะ แต่เพราะหลักสูตรการศึกษาไทย สอนให้คนไทยลืมรากเหง้าของตัวเอง สอนให้หลงลืมภูมิปัญญาของบรรพบุรุษตัวเอง หรือเปล่า? ถึงทำให้คนที่ได้รับการศึกษาอย่างทั่วถึง กลายเป็นคนงมงายกันขนาดนี้ ฝากไว้ให้คิดกันค่ะ จากคุณ : หนอนดาวเรือง - [ 26 พ.ค. 52 00:57:58 ]

ความคิดเห็นที่ 127 Ha ha.. กระทู้เลิศ จิง จิง.. จากคุณ : คุณฉงน - [ 26 พ.ค. 52 01:04:18 ]

ความคิดเห็นที่ 128 อ่านไปแล้วหนึ่งเรื่อง............เื่รื่องสุดท้ายนั่นแหละ โหวตให้ครับ จากคุณ : yut - [ 26 พ.ค. 52 01:08:43 ]

ความคิดเห็นที่ 129 ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr. Fusion - [ 26 พ.ค. 52 01:11:36 ]

ความคิดเห็นที่ 130 ชาวบ้านในแต่ละภาพไม่ได้บูชาเพราะความศรัทธา แต่บูชาเพื่อหวังรวยทางลัดทั้งนั้น จากคุณ : ผู้สังเกตการณ์ - [ 26 พ.ค. 52 01:13:29 ]

ความคิดเห็นที่ 131 ขออนุญาตนำไปเผยแพร่ต่อไปนะครับ จากคุณ : utd - [ 26 พ.ค. 52 01:18:46 ]

ความคิดเห็นที่ 132 น่าจะเป็นเพราะถูกปลูกฝังมาแต่เด็กป่ะ แค่ดูจากรูปนะ เล่นพาเด็กมากราบไหว้กันเลยทีเดียว เฮ้อ จากคุณ : สักวัน..ฉันจะบิน - [ 26 พ.ค. 52 01:43:58 ]

ความคิดเห็นที่ 133 ฮาอันดับ 1 อันดับ 2 มาก แต่อันดับ1 นี่สุดๆ ยิ่งเห็นภาพตักน้ำแล้วนึกถึงต้นน้ำแล้ว อ๋อย ~~~ ไม่น่าเลยเน้อ จากคุณ : CrispyShrimpTempura - [ 26 พ.ค. 52 02:00:48 ]

ความคิดเห็นที่ 134 เข้ามาฮาคะ ชอบทู้นี้จริงๆเลยอะ แต่แหวะน้ำส้วมอย่างแรง จากคุณ : +-- MiNi Cookies&Cream --+ - [ 26 พ.ค. 52 02:02:11 ]

ความคิดเห็นที่ 135 เคยมีคนตั้งชื่อ เรื่องอันดับ 1 ว่า "Holy Shit" จากคุณ : ไม่งงครับ ไม่งง - [ 26 พ.ค. 52 02:06:35 ]

ความคิดเห็นที่ 136 sukoi @@@@@@@@@ จากคุณ : sakurai - [ 26 พ.ค. 52 02:07:02 A:125.24.167.186 X: TicketID:175170 ]

ความคิดเห็นที่ 137 #64 เห็นผมพิมพ์ภาษาไทยได้ ไม่เชื่อว่าเป็นคนไทยรึอย่างไร เป็นคนไทยครับ ดูทะเบียนบ้านได้ ถ้าไม่เชื่อ ถ้าผมเป็นคนอังกฤษ ผมคงจะกราบไหว้พระอังกฤษเทวาธิราช ล่ะมั้งครับ จากคุณ : คุณโฮม - [ 26 พ.ค. 52 02:19:56 ]

ความคิดเห็นที่ 138 ชอบมากมายกระทู้นี้ ทำให้เห็นว่า การศึกษาเป็นสิ่งสำคัญมากๆแก่ประชากร สำหรับคนไทยเพลาๆลงหน่อยก็ดีไอ้เรื่องแบบนี้ อ่านแล้ว  รู้สึก    เฮ้ออ... จากคุณ : Pierrot - [ 26 พ.ค. 52 02:49:36 ]

ความคิดเห็นที่ 139 ยอดเยี่ยมครับ   เห็นแล้วประทับใจประเทศไทยขึ้นเยอะเลย จากคุณ : Kross_ISC - [ 26 พ.ค. 52 03:23:30 ]

ความคิดเห็นที่ 140 คนเราต้องรู้จักสำนึกคุณ ดั่งคำว่าดื่มน้ำต้องนึกถึงต้นน้ำครับ จากคุณ : up2thep - [ 26 พ.ค. 52 03:24:57 ]

ความคิดเห็นที่ 141 ฮา อันดับ 1 ที่สุดแล้ว แห่กันดื่มน้ำส้วม ..อ๊ากกกกก ขอบคุณที่รวมมาให้อ่าน ฮาดี... จากคุณ : โปติ่น - [ 26 พ.ค. 52 03:34:13 ]

ความคิดเห็นที่ 142 อันดับหนึ่งนี่ผมจำได้ขึ้นใจมาก อ่านแล้วไม่รู้จะขำดี หรือว่าจะอนาถใจดี บางคนตักราดหัวไม่พอ ยังดื่มเข้าไปอีกต่างหาก ตอนรู้ความจริงคงล้วงคอกันแทบไม่ทัน ความจริงที่ชาวบ้านงมงายไม่ลืมหูลืมตาแบบนี้ ส่วนหนึ่งก็เพราะสื่อชอบตีข่าวด้วยล่ะนะ (ก็มันดันขายได้นิ..) จากคุณ : AUDAC!TY - [ 26 พ.ค. 52 03:58:49 ]

ความคิดเห็นที่ 143 ข่าวด่วน!!! เจ้าของโต้วุ่น-"จิ้งจกแดง"เริ่มซีด ยังพบว่าตลอดทั้งวันตั้งแต่เช้าถึงเย็นยังมีคนเดินทางมาชม "จิ้งจกสีแดง" กันไม่ขาดสาย ส่วนมากผู้ที่มาชมต่างยกมือไหว้ พร้อมทั้งวางดอกไม้และพวงมาลัยไว้ข้างตู้จิ้งจกสีแดง ขอให้มีโชคมีลาภ เจ้าของจิ้งจกสีแดง กล่าวว่า ยิ่งใกล้วันหวยออกคนเริ่มมามากขึ้น บางคนมาไกลจากกรุงเทพฯ และ จ.นครราชสีมา วันละร่วมร้อยคน ขณะนี้เจ้าจิ้งจกสีแดงเริ่มเปลี่ยนสี จากเดิมที่เป็นสีแดงจัด เริ่มจางลงคล้ายสีชมพูอ่อน ตนสอบถามจากคนเฒ่าคนแก่ บอกว่าจิ้งจกสีแดงตั้งท้องแล้ว กำลังจะออกไข่ สีมันจะเปลี่ยนไปเพราะจิ้งจกจะพรางตัว ไม่อยากให้คนเห็น ตนจึงเอาผ้าขนหนูใส่ไว้ในตู้ ให้มันซุกอยู่ในผ้า เพราะเป็นธรรมชาติของจิ้งจก ดูด้วยสายตาจะเห็นว่ามีไข่สีขาวอยู่ 2 ฟอง การคลานไปไหนมาไหนเริ่มเชื่องช้า นอกจากนี้ที่ปลายนิ้วยังมีเรื่องแปลก คือมีเล็บเริ่มงอกยาวขึ้นเรื่อยๆ ผมว่าเล็บไม่ได้ยาวขึ้นหรอก สีมันหลุดต่างหาก!!! เจ้าของจิ้งจกกล่าวถึงการที่เริ่มมีคนพูดว่าครอบครัวของตนเอาจิ้งจกมาหลอก ยืนยันว่าไม่รู้จะหลอกไปทำไม เพราะไม่ได้หวังประโยชน์จากจิ้งจกสีแดง ไม่ได้ตั้งตู้รับเงินรับทองใคร อยากมาดูตนก็ให้ดู มีแต่คนมากราบไหว้ ทางครอบครัวไม่ขัดสน ตั้งแต่ได้จิ้งจกสีแดงมาอยู่ตนมีความสุขมาก คนที่เคยหยิบยืมเงินไปใช้ก็นำมาใช้คืน ตนเป็นโรคความดันต้องกินยาตลอดเวลา ช่วงนี้หายเครียด ไม่ต้องกินยานอนหลับ โรคความดันหายไป ถึงขณะนี้ยังไม่มีนักวิชาการเข้ามาดูเลย อยากให้เข้ามาศึกษาเหมือนกัน ชาวบ้านคนหนึ่ง กล่าวว่า รู้สึกแปลกใจมาก ว่าจิ้งจกมีสีแดง แต่หลังจากนั้นอีก 2 วันได้เข้าไปดูอีกปรากฏว่าสีเริ่มเปลี่ยนไป ตนถามเพื่อนซึ่งเป็นสัตวแพทย์ จิ้งจกมักจะเปลี่ยนสีไปเรื่อยๆ ปรับตัวตามสภาพของธรรมชาติตามที่อยู่อาศัยใหม่ เชื่อว่าสีของมันจะกลับมาเป็นสีเดิมอีก เท่าที่เห็นในขณะนี้สีมันเริ่มจางเป็นสีชมพูปนทอง เพราะมันใกล้จะวางไข่ ตนรู้จักกับครอบครัวนี้ดี เป็นครอบครัวที่มีฐานะพอสมควร เรื่องที่จะมาหลอกลวงคงไม่มี และนายบริบูรณ์เจ้าของบ้านยังเป็นผู้ใหญ่บ้าน ชาวบ้านเคารพนับถือ เรื่องที่จะมาสร้างเรื่องหลอกลวงชาวบ้านนั้นเป็นไปไม่ได้แน่นอน เจ้าจิ้งจกตัวนี้ต้องมาปรากฏตัวเพื่อให้โชคลาภกับชาวบ้านแน่นอน ด้าน น.สพ.อลงกรณ์ มหรรณพ สัตวแพทย์สำนักพระราชวัง กล่าวว่า การจะฉีดสีหรือหรือการทาสีลงบนตัวของสัตว์เลื้อยคลานนั้น เมื่อถึงระยะเวลาหนึ่งสัตว์ก็จะลอกคราบ เอาสารแปลกปลอมบนผิวหนังออกจนหมด หากเป็นจิ้งจกก็จะอยู่ได้ไม่เกิน 10-15 วัน จะเริ่มลอกคราบ หากเป็นสิ่งผิดปกติต่อร่างกายการลอกคราบจะใช้ระยะเวลาสั้นขึ้น และเมื่อผิวหนังหลุดลอกออก สีจะค่อยๆ กลับมาเป็นสีปกติ อย่างไรก็ตามเท่าที่เคยศึกษามา ยังไม่เคยพบจิ้งจกที่มีสีแดงหรือชมพู จากคุณ : =Por= - [ 26 พ.ค. 52 04:16:01 ]

ความคิดเห็นที่ 144 5555+ จากคุณ : Gopz - [ 26 พ.ค. 52 04:19:40 ]

ความคิดเห็นที่ 145 ชอบๆๆ เดาอันดับต้น 2 อันดับแรกไม่ผิดเลยยย อิอิ จากคุณ : Jet_XP - [ 26 พ.ค. 52 04:37:51 ]

ความคิดเห็นที่ 146 สาเหตุหลักๆมาจากสื่อแท้ๆ จากคุณ : Mr.june - [ 26 พ.ค. 52 04:56:01 ]

ความคิดเห็นที่ 147 เข้ามาฮาอย่างแรง โดยเฉพาะที่1 ผิดมั้ยหว่าที่ผมรู้สึกสะใจมากๆ 555555 จากคุณ : kaori hero - [ 26 พ.ค. 52 05:19:10 ]

ความคิดเห็นที่ 148 ความโลภมันบังตา จากคุณ : donutpla2 - [ 26 พ.ค. 52 06:08:37 ]

ความคิดเห็นที่ 149 ขออนุญาตเอาไปลงบล๊อกนะครับ ทั้งภาพทั้งเืรื่องราวเลย จากคุณ : Msgt.sit_sak - [ 26 พ.ค. 52 06:16:36 ]

ความคิดเห็นที่ 150 คห.115 118 ปลาทั้งสองเป็น อัลลิเกเตอร์ถูกแล้วครับ ดูยังไงเป็นอะราไพม่าล่ะนั่น หัวก็ต่างกันลิบลับ ว่าแต่เขาห้ามนำเข้าด้วยเหรอ เห็นขายกันเกลื่อนจตุจักร จากคุณ : Naruse_X - [ 26 พ.ค. 52 07:13:21 ]

ความคิดเห็นที่ 151 OK VOTE! จากคุณ : knine2five - [ 26 พ.ค. 52 07:18:29 ]

ความคิดเห็นที่ 152 ชอบมากเลยครับเนี่ย ใครทำเป็น FW Mail แล้วช่วยส่งต่อให้ผมหน่อยสิ อยากจะช่วยเปิดหูเปิดตาใครหลายๆคนน่ะครับ จากคุณ : Sleeper MoNKeY - [ 26 พ.ค. 52 07:29:17 ]

ความคิดเห็นที่ 153 มาโหวตให้ความฮาอยู่กับเราไปนานๆ จากคุณ : fuseya - [ 26 พ.ค. 52 07:41:57 ]

ความคิดเห็นที่ 154 เทใจให้หมดเลยกระทู้นี้ สะใจจริง  ไอ้พวกห้ามลบหลู่ ห้ามพิสูจน์ ทั้งหลาย จากคุณ : มายากล - [ 26 พ.ค. 52 08:26:27 ]

ความคิดเห็นที่ 155 บร๊ะเจ้า จอร์ช โซคูล  ชาบูๆๆ จากคุณ : CitizenShip - [ 26 พ.ค. 52 08:48:59 ]

ความคิดเห็นที่ 156 ดีมากครับ จากคุณ : ksk - [ 26 พ.ค. 52 08:54:15 ]

ความคิดเห็นที่ 157 ขอยืมความเห็นที่ 101 มาโพสต์ซ้ำอีกที  เพราะคิดเหมือนกันเลย "โอว นี่แหละคือไทยแลนด์เมืองศิวิไล โอ้ววว นี่หรือเมืองพุทธ พูดกันจริงๆ หลักศาสนาพุทธแท้ๆ พระพุทธเจ้าสอนไม่ให้ไปไหว้ขอปาฏิหารย์จากสิ่งศักดิ์สิทธิ ไม่ให้ไปไหว้พระอิฐพระปูน อย่าหวังพึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ไอ้การไปไหว้เทพเจ้าต่างๆนั่น มันพราหม์ครับ!!!!! " จากคุณ : Dare More - [ 26 พ.ค. 52 08:57:04 ]

ความคิดเห็นที่ 158 ^^ จากคุณ : ช่อเอี้อง - [ 26 พ.ค. 52 08:57:37 ]

ความคิดเห็นที่ 159 มาใหม่อีกแว้ววว.... http://tnews.teenee.com/etc/36316.html จากคุณ : ปลาเป็นวิ่งทวนน้ำ - [ 26 พ.ค. 52 09:00:10 ]

ความคิดเห็นที่ 160 ผมถึงบอกว่า [ไม่เชื่อเชิญพิสูจน์] ดีกว่าไหม อันดับ 10 นี่อ่านแล้วกินน้ำอยู่ น้ำแทบพุ่งออกจากปาก ผลจากการ [ไม่เชื่ออย่าลบหลู่] นี่แหละ เยี่ยมครับ ให้ Give ครับ จากคุณ : NATSKI13 - [ 26 พ.ค. 52 09:20:54 ]

ความคิดเห็นที่ 161 ไม่มีอะไรภายใต้ดวงอาทิตย์นี้ ที่คนไทยทำไม่ได้ จากคุณ : primjang - [ 26 พ.ค. 52 09:29:45 ]

ความคิดเห็นที่ 162 อ่านแล้วโดนใจมากๆ ครับ ถ้าเรารู้จักวิเคราะห์หาเหตุผลทางวิทยาศาสตร์ก่อนที่จะลงความเห็นว่าเป็นเพราะอะไร  บ้านเมืองเราคงเจริญก้าวหน้าทัดเทียมประเทศมหาอำนาจไปนานแล้ว รวมถึงเรื่องลึกลับที่ยกมาถามกันบ่อยๆ ในห้องหว้ากอด้วย ยินดีเท give ให้ครับ แถมโหวตเป็นกระทู้แนะนำด้วย แก้ไขเมื่อ 26 พ.ค. 52 09:43:21 จากคุณ : owl2 - [ 26 พ.ค. 52 09:33:41 ]

ความคิดเห็นที่ 163 อันดับ 1 สุด ทรีนนนนน เลยครับ......น้ำส้วม ศักดิ์สิทธิ์ 5555 ^____^ จากคุณ : TonTon1977 - [ 26 พ.ค. 52 09:33:43 ]

ความคิดเห็นที่ 164 คุณ =Por= กำลังจะเดือดร้อนนะครับ คุณเป็นศัตรูกับผู้ทรงอิทธิำพลแล้ว เพราะคุณกำลังทำลายข่าวพาดหัวสุดเจ๋ง ของหนังสือพิมพ์ยักษ์ใหญ่แห่งประเทศสารขันฑ์ แล้วต่อไป มันจะหากินกับอะไรล่ะเนี่ย... จากคุณ : jaycee - [ 26 พ.ค. 52 09:34:18 ]

ความคิดเห็นที่ 165 จะเล่าเรื่องเล็กๆ ให้ฟังเรื่องนึงละกัน สมัยผมอยู่จันทบุรี (ไปเรียน) เมื่อหลายปีก่อน ทางกลับบ้านพักผม จะมีคนบ้าอยู่คนเดินไปเดินมา หาของกินบ้าง บ่นบ้างโวยวายบ้างไปตามเรื่อง ผมยาวๆ เหมือนทรงเด็ทร็อค อยู่มาวันหนึ่งไม่รู้ใครอุตริ ไปถามหวยพี่แก แล้วดันถูกขึ้นมา ทีนี้ก็ร่ำลือกันไปทั่วตัวจังหวัด พอใกล้วันหวยออกที ก็มีแต่คนมารุมล้อมพี่แก เอาข้าวมาให้ มานั่งคุย  พี่แกก็ชอบ เพราะว่ามีของกินเยอะแยะ มีคนมาให้นั่งขี้โม้ แกก็พูดของแกไปเรื่อย ชาวบ้านก็นั่งพับเพียบ ยกมือไหว้คุยกันเป็นแถว   เรื่องนี้ดำเนินไปนานเชียวครับ แต่ผมจำไม่ได้ว่าสุดท้ายแล้วมันจบยังไง คนบ้าน่ะครับ ไปนั่งกราบไหว้ ขอหวย  เฮ้อ จากคุณ : xnone - [ 26 พ.ค. 52 09:38:19 ]

ความคิดเห็นที่ 166 พวกนั้นไม่มาอ่านหว้ากอหรอก ตั้งไว้ก็เท่านั้น น่าจะจับผิดหมอดูด้วย พวกที่บอกโลกจะแตก คนนี้จะแต่งปีนี้ ไรงี้ มั่วแหลก เดามั่ว ทั้งนั้น อาศัยว่าคนไทยลืมง่าย เดา100ครั้ง ถูกครั้งเดียว ดัง 99ครั้ง คนลืม แต่คนก็ยังเชื่อยกย่องกันใหญ่ จากคุณ : ขอเอาชื่ออากงเป็นเดิมพัน - [ 26 พ.ค. 52 09:44:19 ]

ความคิดเห็นที่ 167 อย่าลืมของขลังประจำซอยทองหล่อด้วยจิคะ.. จากคุณ : จิ้งจอกสาวฝึกหัด - [ 26 พ.ค. 52 09:44:25 ]

ความคิดเห็นที่ 168 สมควรได้กิฟท์เป็นอย่างยิ่ง แต่บังเอิญเราไม่มี  -*- จากคุณ : นู๋ขี้สงสัย - [ 26 พ.ค. 52 09:46:31 ]