ความคิดเห็นที่ 1 ความแม่นยำต่ำลง ไม่แน่อาจจะวัดได้แพงขึ้น แต่ที่แน่ๆ ค่าหม้อแปลงแพงขึ้น จากคุณ : ฟหกด - [ 29 พ.ค. 52 02:10:05 A:124.120.217.97 X: TicketID:205742 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ไม่ได้ประหยัดเลยครับ แอมป์เยอะขึ้นหมายถึงภาระที่สามารถขับโหลดได้เยอะขึ้น เหมือนคนผอมมีขีดจำกัดการยกนน.ได้ 10 กิโล แต่คนแข็งแรง(แอมป์เยอะกว่า)มีขีดจำกัดสามารถยกได้เยอะกว่า 10 กิโล จากคุณ : พาลท้อแท้ - [ 29 พ.ค. 52 02:33:51 ]

ความคิดเห็นที่ 3 สรุปคือไม่เกี่ยวกัน เหอๆ... จากคุณ : pakeeranung - [ 29 พ.ค. 52 03:10:05 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ไม่เกี่ยวกันครับ หม้อแปลงจ่ายกระแสได้ 5A แต่ไม่ได้แปลว่าจะเปลืองไฟ 5A*220V = 1100W เสมอไปครับ ถ้าเป็นอย่างนั้น แม้เราไม่ได้ใช้ไฟ ก็แปลว่าเปลืองไฟเท่ากันตลอดนะสิ??? ไม่ใช่้แล้วล่ะครับ มันขึ้นอยู่กับว่า Load (อุปกรณ์ที่ใช้ไฟ) ดึงกระแสไปมากเท่าไหร่ ก็จะกินไฟเท่านั้นครับ แต่ก็จะไม่สามารถมากเกินไปกว่า 5A ได้ เพราะมันจ่ายได้แค่นั้น จากคุณ : ตาบี้ - [ 29 พ.ค. 52 03:36:57 ]

ความคิดเห็นที่ 5 แต่สองมิเตอร์ประหยัดค่าไฟกว่าแน่นอน เพราะอัตราค่าไฟแบบก้าวหน้า แต่ไม่ได้ประหยัดไฟนะ จากคุณ : HanumaN-ZA - [ 29 พ.ค. 52 04:16:53 ]

ความคิดเห็นที่ 6 หม้อ 10A เสียค่าไฟ อัตราแพงกว่า 5A จากคุณ : Darkvider - [ 29 พ.ค. 52 05:07:16 ]

ความคิดเห็นที่ 7 เรียกว่ามิเตอร์นะครับ มันเป็นเครื่องมือวัด 5A(15A) หรือ 10A(30) มันก็คือพิกัดที่เครื่องมือวัดนี้จะทำงาน ถ้ากระแสเกินพิกัดในวงเล็บมาก ๆ  เป็นระยะเวลานาน ขดลวดกระแสในมิเตอร์จะเสียหาย ค่าติดตั้งมิเตอร์จะแตกต่างกันในตอนแรก ส่วนประหยัดเงินค่าไฟขึ้นอยู่กับการใช้ของเราครับ ไม่เกี่ยวกับมิเตอร์ ใช้มากก็จ่ายมาก เป็นอัตราก้าวหน้า กรณีที่จะประหยัดได้ก็คือการมีมิเตอร์มากกว่า 1 ตัว หรือขอใช้ไฟฟ้า 3 เฟส แต่ก็ต้องยอมเสียค่าติดตั้งในตอนแรกที่แพงกว่า เช่นถ้าเราใช้ไฟ 300 หน่วย จากเดิมมิเตอร์ตัวเดียววัดได้ 300 หน่วย การไฟฟ้าจะคิดอัตราก้าวหน้า 300 หน่วยเต็ม แต่ถ้าสมมุติว่ามีมิเตอร์ 2 ตัว ก็จะตกตัวละประมาณ 150 หน่วย ซึ่งคิดอัตราก้าวหน้าแล้วจะประหยัดกว่ามิเตอร์ตัวเดียว จากคุณ : กระเพาะปลาผัดแห้ง - [ 29 พ.ค. 52 06:43:58 ]

ความคิดเห็นที่ 8 สิบแอมป์ไม่มีแล้วครับ มีแต่สิบห้าแอมป์ และตอบว่าไม่เกี่ยวกัน แต่ถ้าไม่ใช้ไฟเลยหรือใช้หลอดไฟแค่หลอดเดียวหรือสองหลอด มิเตอร์สิบห้าแอมป์เสียค่าไฟมากกว่า จากคุณ : rdo - [ 29 พ.ค. 52 09:25:28 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ถ้าพวก ปั้มน้ำ 10aอาจจะประหยัดกว่า5aได้ในบางกรณี จากคุณ : Roninkung - [ 29 พ.ค. 52 09:27:56 ]

ความคิดเห็นที่ 10 จขกท.ใช้คำผิด จนได้คำตอบผิด ๆ ไปหลาย คห. ไม่ทราบว่าหมายถึง หม้อแปลง หรือมิเตอร์ครับ แต่ผมว่าน่าจะเป็นมิเตอร์มากกว่า คำตอบตาม คห.7 ครับ จากคุณ : Phoenix032 - [ 29 พ.ค. 52 09:32:11 ]

ความคิดเห็นที่ 11 มิเตอร์วัดพลังงานไฟฟ้า ชื่อเต็มก็ Kilowatt Hour Meter ขนาดพิกัดที่การไฟฟ้ามีก็ 5(15) A , 15(45)A ,30(90)A  ขนาด 5 A เดือนไหนไม่ใช้ไฟไม่เสียเงิน แต่ 15 A มิเตอร์ไม่หมุน(เพราะไม่มีคนใช้ไฟ) ก็ต้องจ่ายค่าดูแลมิเตอร์ หม้อแปลง หรือ Tranformer พิกัดมันเป็น KVA ส่วนหม้อไฟ หม้อใหญ่มันแพงกว่า ไม่เชื่อลองสั่งหัวปลาหม้อไฟดูสิ จากคุณ : Waterman (LN106) - [ 29 พ.ค. 52 10:17:37 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ถ้าอัตราค่าไฟเดียวกัน ใช้มิเตอร์ 15(45) A ค่าไฟถูกกว่าเล็กน้อย เพราะอะไร? มิเตอร์ 5(15) A จะมีความแม่นยำในการวัดดีที่สุด ถูกต้องที่สุดที่ 5 A ถ้า ใช้ไฟน้อยกว่า 5 A จะเกิดความผิดพลาดขึ้นในแง่ลบซึ่งหมายถึงอ่านค่าได้น้อยกว่าความเป็นจริง เช่นเมื่อใช้กระแส 5 A มิเตอร์หมุน 100 รอบต่อนาที ถ้าใช้ 1 A มิเตอร์ควรหมุน 20 รอบต่อนาที แต่ความจริงไม่ได้เป็นเช่นนั้น มันอาจหมุนเพียง 19.95 รอบต่อนาที น้อยกว่าที่ควรจะเป็น ในขณะที่ ถ้าใช้คุณใช้ไฟ 10 A มิเตอร์ควรหมุน 200 รอบต่อนาที แต่ในความเป็นจริงหมุน 200.5 รอบต่อนาทีซึ่งความผิดพลาดจะเป็นบวก ทำให้ต้องจ่ายค่าไฟมากกว่าที่ควรจะเป็น ดังนั้นถ้าคุณใช้ไฟมากกว่า 5 A การเปลี่ยนมิเตอร์ไปใช้ขนาด 15(45) A จำนวนหน่วยที่เครื่องวัดอ่านได้จะน้อยกว่าเล็กน้อย (แต่ค่าไฟอาจแพงกว่าถ้าอัตราค่าไฟไม่เท่ากัน) เพราะเครื่องวัดขนาด 15(45) A จะมีความแม่นยำในการวัดถูกต้องที่สุดที่ 15 A ถ้าน้อยกว่า15 Aจะผิดพลาดในแง่ที่อ่านได้น้อยกว่าความเป็นจริง ถ้ามากกว่า 15 A จะผิดพลาดในแง่ที่อ่านได้มากกว่าความเป็นจริง สรุปว่าเปลี่ยนมิเตอร์ขนาดใหญ่ขึ้น จำนวนหน่วยที่มิเตอร์อ่านได้จะน้อยกว่าเดิมแน่นอน แต่น้อยมากจนไม่คุ้มกับค่าใช้จ่ายในการทำเรื่องเปลี่ยน ตลอดจนค่าไฟอาจได้ใช้อัตราใหม่ซึ่งสูงกว่าเดิม จากคุณ : HogHeaven - [ 29 พ.ค. 52 10:25:43 ]

ความคิดเห็นที่ 13 คุณ : HogHeaven  เข้าใจผิดเล็กน้อยครับ มิเตอร์ไฟ จะแบ่งออกเป็น class เช่น 0.5 , 1 , 2 แต่ละ class บอกค่า accuracy (ไทยเรียกว่า ความแม่น)ครับ ผมยกตัวอย่าง class 1 จะมี accuracy ไม่มากกว่า 1 % โดยประมาณ ทำไมต้องบอกโดยประมาณ เพราะมันจะมีรายละเอียดปลีกย่อยอีกเยอะที่ยอมให้มี accuracy เกินกว่านี้ได้อีกในกรณีเงื่อนไขพิเศษ จำพวกสภาวะอากาศสุดโต่ง หรือการรบกวนทางแม่เหล็ก การใช้กระแสน้อยจริง ๆ การติดตั้งเอียงข้างใดข้างหนึ่ง รูปคลื่นกระแสที่มีฮาร์โมนิคจนบิดเบี้ยวน่าเกลียด เพาเวอร์แฟกเตอร์ต่ำมากๆ ฯลฯ ทีนี้เข้าประเด็นที่ว่า มิเตอร์ 5 แอมป์ กับ 15 แอมป์ อันไหนอ่านค่าแล้วทำให้ผู้ใช้อย่างเราๆ ท่านๆ ประหยัดเงินค่าไฟฟ้ากว่ากัน อันนี้ถ้าจะเปรียบเทียบกันก็ต้องใช้ class เดียวกันมาเทียบกันถึงจะเป็นธรรม ซึ่งถ้าว่ากันตามตัวเลขสำหรับพฤติกรรมการใช้ไฟของไพร่ฟ้าประชาชี  ที่ไม่คิดยิบย่อยสุดโต่งจนน่าเกลียดแล้ว ก็บอกได้ว่า มิเตอร์ควรจะอ่านค่าพลังงานได้เท่า ๆ กัน  นั่นคือเราควรจะจ่ายค่าไฟฟ้าเท่ากันด้วย ก่อนอื่นเราควรทราบก่อนว่ามิเตอร์ 5 แอมป์คืออะไร มิเตอร์ตัวแรก 5 (15) A class 1    - ตัวเลข 5 แอมป์ คือ Ib ในที่นี้คือ basic current      - 15 แอมป์ (ค่าในวงเล็บ) เป็น Imax คือ maximum current        - มาตรฐานท่านว่า มิเตอร์ตัวนี้จะมีค่า accuracy ไม่แย่กว่า 1 % ตราบเท่าที่เราใช้กระแสระหว่าง  0.1*5 A =0.5 A เรื่อยไปจนถึง 15 A มิเตอร์ตัวที่สองก็มีความหมายเทียบเคียงได้ในทำนองเดียวกัน คือ มี accuracy 1% เมื่อใช้กระแสตั้งแต่ 1.5 A เรื่อยไปจนถึง 45 A ประเด็นยิบย่อยมันมีให้คิดเพิ่มอีกว่า มิเตอร์ผ่านมาตรฐานที่การไฟฟ้าฯ นำมาใช้นั้น มันจะแม่นตามที่กำหนดก็เฉพาะกรณีที่เราใช้กระแสในช่วงตั้งแต่  0.1 lb  ถึง Imax เท่านั้น   นอกช่วงนี้ไป ค่า accuracy จะใหญ่กว่านี้ ทีนี้ประเด็นที่จะถกกันได้อีกก็อยู่ที่ว่า  ถ้ากระแสที่เราใช้อยู่นอกช่วงความแม่นที่กำหนดล่ะจะว่าอย่างไร แบ่งได้เป็น  2 กรณี - ใช้กระแสน้อยกว่า 0.1Ib   กรณีนี้มีข้อกำหนดกำกับไว้อีกว่า ถ้าใช้กระแสตั้งแต่ 0.05Ib มิเตอร์จะมี accuracy ไม่เกิน 1.5 % (class 1) ถ้าน้อยกว่านั้นอีก มาตรฐานไม่ได้กำหนดครับ แต่ว่าเมื่อใช้กระแสตั้งแต่ 0.004Ib มิเตอร์ต้องบันทึกค่า(หมุน)ได้ครบรอบ ถ้าน้อยกว่านี้อีก มิเตอร์จะหมุนหรือไม่หมุนก็ได้ แต่ถ้าไม่จ่ายโหลด มิเตอร์ต้องไม่หมุนจนครบรอบ(หมุนก็ได้แต่ห้ามหมุนจนครบรอบ) - ใช้กระแสมากกว่า Imax  กรณีนี้มาตรฐานไม่ได้กำหนด accuracy ดังนั้นถ้าใช้กระแส  16 แอมป์ มิเตอร์ตัวแรก(5 แอมป์) เสียเปรียบทันทีเพราะอยู่นอกช่วงความแม่นที่กำหนด แต่ตัวที่สอง (15 แอมป์) ยังสบายๆ ได้ความแม่น 1% เท่าเดิม ตัวที่สองจึงควรจ่ายค่าไฟน้อยกว่า แหล่งข้อมูลอ้างอิง มอก.1030-2551 http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2552/E/021/14.PDF แก้ไขเมื่อ 29 พ.ค. 52 17:03:15 จากคุณ : =Lord Gary= - [ 29 พ.ค. 52 16:46:18 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ส่วนที่ว่า มิเตอร์ 5 แอมป์ จะอ่านค่าได้ดีที่สุดเมื่อใช้กระแสเท่ากับ 5 แอมป์ อันนี้ผมก็ไม่อาจทราบได้ มาตรฐานก็ไม่ได้กำหนด คงต้องขึ้นอยู่กับ characteristics ของมิเตอร์ของผู้ผลิตแต่ละรายแล้วครับ ซึ่งอาจจะให้ความแม่น ดีกว่า 1% ก็ได้(แต่ไม่แย่กว่านี้) ทั้งนี้ มาตรฐานไม่ได้บังคับ แต่กระนั้นเราจะสรุปว่า ที่ class เดียวกัน ใช้กระแส 5 แอมป์ได้ความแม่นดีที่สุด นั้น โดยนัยยะแล้วยังไม่หนักแน่นพอครับ จากคุณ : =Lord Gary= - [ 29 พ.ค. 52 16:57:53 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ตอบ จขกท. ในทางเทคนิคโดยส่วนใหญ่แล้ว มิเตอร์ไฟตัวใหญ่กว่า 15 (45) A จะหมุนช้ากว่า อยู่ที่การออกแบบของผู้ผลิตแต่ละรายครับ หมายถึงว่า เราใช้ไฟ 1 หน่วย มิเตอร์อาจหมุน 1 รอบ หรือ 100 รอบ ก็ได้ อยู่ที่การออกแบบล้วน ๆ แต่ทั้งนี้ตัวเลขที่แสดงผล ต้องให้ค่าการใช้พลังงานเท่ากันคือ 1 หน่วย +/- 1% (ที่ class 1) ซึ่งอัตราการหมุนว่าเร็วหรือช้าเรียกว่า ค่าคงตัวของมิเตอร์ (meter constant) บอกเป็นจำนวนรอบต่อตัวเลขที่แสดง ถึงตรงนี้ก็บอกเป็นแนวโน้มได้ว่า มิเตอร์แอมป์ใหญ่กว่าจะหมุนช้ากว่าเห็นๆ แต่ว่า ตัวเลขที่จะนำไปคิดค่าไฟยังคงไม่ต่างกัน นอกจากนี้ ตัวมิเตอร์ไฟเองมันยังกินไฟเสียเองอีกด้วย แน่นอนว่าตัวใหญ่กว่าก็มักจะกินไฟมากกว่า แม้ขณะ no-load มาตรฐานท่านยังยอมให้กินไฟได้ถึง 12 VA (class 1) แต่ไม่ต้องตกใจ เพราะ ที่ No-load มาตรฐานท่านบังคับไม่ให้มิเตอร์หมุนจนครบรอบ ดังนั้น ค่าไฟตรงนี้ เราผู้ใช้จึงไม่ต้องจ่าย ซึ่งจะว่าไปเราก็จ่ายอยู่ดีในรูปของค่าบริการอื่นๆ หรือค่ารักษามิเตอร์ แก้ไขเมื่อ 29 พ.ค. 52 17:40:17 จากคุณ : =Lord Gary= - [ 29 พ.ค. 52 17:28:45 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ประหยัดกว่าถ้าใช้ไฟน้อยๆ เคยทดลองกับหลอดตะเกียบ 8W ที่บ้านผม ใช้หม้อ 15A ถอดปลั๊กทุกอย่างหมดเปิดแค่ หลอดเดียวปรากฎว่า มิเตอร์มันไม่หมุนไม่ขยับเลย  พอไปทดลองบ้านแฟน หม้อไฟ 5 A ปรากฎว่ามิเตอร์หมุนแต่ช้ามาก ไม่รู้ว่าท่านใดเคยทดลองแบบนี้บ้างคับ หรือเป็นที่ meter บ้านผมเสีย จากคุณ : pet252003 - [ 29 พ.ค. 52 18:17:09 ]

ความคิดเห็นที่ 17 คุณ : pet252003 จากที่ผมอธิบายไว้ใน  คห.13 " กรณี - ใช้กระแสน้อยกว่า 0.1Ib  กรณีนี้มีข้อกำหนดกำกับไว้อีกว่า ถ้าใช้กระแสตั้งแต่ 0.05Ib มิเตอร์จะมี accuracy ไม่เกิน 1.5 % (class 1) ถ้าน้อยกว่านั้นอีก มาตรฐานไม่ได้กำหนดครับ แต่ว่าเมื่อใช้กระแสตั้งแต่ 0.004Ib มิเตอร์ต้องบันทึกค่า(หมุน)ได้ครบรอบ ถ้าน้อยกว่านี้อีก มิเตอร์จะหมุนหรือไม่หมุนก็ได้ แต่ถ้าไม่จ่ายโหลด มิเตอร์ต้องไม่หมุนจนครบรอบ(หมุนก็ได้แต่ห้ามหมุนจนครบรอบ)" ตีความตามข้างบนนี้จะได้ว่า ถ้าใช้กระแส 0.004 Ib มิเตอร์ต้องหมุนตามที่มาตรฐานท่านบังคับเอาไว้ ในที่นี้คือ อย่างน้อยมิเตอร์ต้องหมุนเมื่อกระแสที่เราใช้มีค่าเป็น : - 0.02 A สำหรับ มิเตอร์ประเภท 5 แอมป์ - 0.06 A สำหรับ มิเตอร์ประเภท 15 แอมป์ ถ้ากระแสต่ำกว่านี้ มิเตอร์จะหมุนหรือไม่หมุนก็ได้(ไม่บังคับ)     กรณีหลอดไฟ 8 w ต้องคำนวณก่อนว่ากินกระแสเท่าไหร่ ซึ่งขึ้นกับตัวประกอบกำลังอีกด้วย(pf.) เอาง่ายๆ คิดที่  pf = 0.8 จะได้ค่ากระแสที่หลอดไฟดึงไปเป็น 0.045 A [คำนวณจาก P=V*I*cos(-) ]       ซึ่งก็สอดคล้องกับข้อมูลข้างต้น คือ มิเตอร์แบบ 5 แอมป์ ต้องหมุน และ มิเตอร์แบบ 15 แอมป์ จะหมุนหรือไม่หมุนก็ได้(เพราะยังไม่ถึงกระแสขั้นต่ำ) ใช้หลักการข้างต้นคำนวณต่อไปพบว่า อย่างน้อย ๆ มิเตอร์แบบ 5 แอมป์  จะต้องหมุนเมื่อเราใช้ไฟ  4.4 W (กรณีคิดจาก 220 V*0.02 A , pf = 1 ) ถ้าใช้ต่ำกว่านี้ มิเตอร์จะหมุนหรือไม่หมุนก็ได้(ไม่บังคับ) จากคุณ : =Lord Gary= - [ 30 พ.ค. 52 00:25:49 ]

ความคิดเห็นที่ 18 พิจารณากราฟ คุณสมบัติของ Electromechanical meters ถึงแม้ว่าแต่ละยี่ห้อ แต่ละ  class จะมีค่าความผิดพลาดที่ไม่เหมือนกันแต่ก็จะมีลักษณะกราฟที่เหมือนกันคือ 1. เมื่อกระแสน้อยกว่า 1Ib ความผิดพลาดเป็นลบ 2. มากกว่า 1Ib ความผิดพลาดเป็นบวก 3. น้อยมากเช่น <0.1Ib ค่าความผิดพลาดจะเพิ่มขึ้น ลองจินตนาการดูว่าถ้าใช้ไฟ 5-15 A มิเตอร์ 5(15)A  หรือ  15(45)A อะไรจะอ่านค่าได้น้อยกว่ากัน อันนี้ชัดเจนว่ามิเตอร์ 15(45)A อ่านค่าได้น้อยกว่า ยิ่ง pf น้อยเท่าไรความแตกต่างระหว่างตัวมิเตอร์ใหญ่กับเล็กยิ่งมาก ส่วนกรณีที่ใช้กระแสน้อยเช่น 1 A ค่าความผิดพลาดของตัว 15(45)A เมื่อคิดเป็น % จะมีค่ามากกว่า แต่เมื่อคิดเป็นค่าแล้วจะไม่มากเท่าไหร่ ประเด็นที่ คคห.13 ไม่ได้พิจารณา ก็คือช่วง 0.1Ib ถึง  3Ib ค่าความผิดพลาดกรณี class 1 ไม่ได้คงที่ที่ค่าไม่เกิน 1% หรือค่าความผิดพลาดเป็นอย่างไรก็ไม่รู้ รู้แต่ว่ามันผิดพลาดไม่เกินนี้ ซึ่งจริงๆแล้วมันมีคุณสมบัติที่เป็นไปตามกราฟข้างต้น จากคุณ : HogHeaven - [ 30 พ.ค. 52 11:34:41 ]

ความคิดเห็นที่ 19 โพสรูปไม่ได้ เอาเป็นว่าลองศึกษาคุณสมบัติ load curve ของ มิเตอร์ชนิดจานหมุนดูก็แล้วกันนะครับ ขอบคุณ คคห.13 ที่ช่วยแนะนำคุณสมบัติในช่วง <0.1Ib สรุปใหม่เป็นว่าถ้าใช้ไฟ มากกว่า 1.5 A มิเตอร์ 15(45) A อ่านค่าไฟได้น้อยกว่า น้อยกว่า 1.5 A มิเตอร์ 5(15) A อ่านค่าไฟได้น้อยกว่า แก้ไขเมื่อ 30 พ.ค. 52 11:50:16 แก้ไขเมื่อ 30 พ.ค. 52 11:38:33 จากคุณ : HogHeaven - [ 30 พ.ค. 52 11:38:04 ]