ความคิดเห็นที่ 1 สกปรก ยิงใช้ปากตรงๆแล้วหายห่วง จากคุณ : arsarn - [ 30 พ.ค. 52 17:11:35 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ที่บอก นะใครบอก ??? ถ้าตามฟอร์เวิร์ดเมลละก็ ... โม้ มันไม่มีสารเสินอันตรายอะไรหรอก แต่ที่ควรระวังคือพวกเชื้อโรค สิ่งสกปรกต่างๆมากกว่า เพราะบางคนใช้ใส่น้ำกินเป็นปี ไม่เคยทำความสะอาด จากคุณ : Nibiru - [ 30 พ.ค. 52 17:17:25 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ไม่จริงเลยครับ ขวดพาสติก ไส่น้ำกี่ครั้งก็ได้ เพราะมันไม่โดนความร้อน จึงทนทานมาก ที่เขาบอกห้ามไส่น้ำเกิน2ครั้ง เป็นหลักการตลาดครับ เพราะถ้าคุณไส่น้ำได้หลายครั้ง คุณก็เอาขวดไปเติมน้ำในตู้หยอดเหรียญได้ แต่ถ้าบอกว่าห้ามไส่เกิน2ครั้ง พอคุณใช้หมด2ครั้ง คุณก็ย่อมไปซื้อขวดไหม่ ทำให้ร้านค้า ได้ตังเพิ่ม และกระตุ้นการใช้ขวดน้ำ ทำให้ยอดขายน้ำบรรจุขวดเพิ่ม ขึ้นเท่าตัว มันเป็นหลักจิตวิทยา การตลาดครับ ไม่ต้องไปคิดอะไรมาก จากคุณ : กระจอกคุง - [ 30 พ.ค. 52 17:49:27 A:192.168.0.127 X:124.120.147.74 TicketID:218263 ]

ความคิดเห็นที่ 4 อีกอย่าง ถ้าคุณ ทิ้งขวด มากขึ้น โรงงานก็จะผลิตได้มากขึ้น และขายได้มากขึ้น แต่ถ้าคุณไม่ทิ้งขวดเลย โรงงานก็จะผลิตขวดได้น้อยลง จากคุณ : กระจอกคุง - [ 30 พ.ค. 52 17:50:46 A:192.168.0.127 X:124.120.145.242 TicketID:218263 ]

ความคิดเห็นที่ 5 แล้วทำไมใช้ไปนานๆ มันจะเป็นรอยขุ่นๆ ล่ะครับ จากคุณ : มนุษย์ดาวอังคาร - [ 30 พ.ค. 52 18:11:18 ]

ความคิดเห็นที่ 6 คห.5 มันถูกเสียดสีไง จากคุณ : ผู้ครอบครองจักรยาน - [ 30 พ.ค. 52 18:18:05 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ของผมใส่น้ำประมาณ 10 ครั้ง ราขึ้นก้นขวด เห็นตอนกำลังดื่ม น้ำพุ่ง เลิกใช้ขวดเด็ดขาด... จากคุณ : นายขนมหวาน - [ 30 พ.ค. 52 18:27:44 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ^ ^ ^ ล้างมันบ้างสิครับ เอาทรายใส่ลงไปหน่อย ใส่น้ำนิดนึง เขย่าๆๆๆๆ ล้างให้สะอาดใสปิ๊ง จากคุณ : ปุ้ม ครับ - [ 30 พ.ค. 52 18:31:31 ]

ความคิดเห็นที่ 9 มันทำความสะอาดยาก เค้าเลยให้รีบๆทิ้ง จากคุณ : เชื่อผมเหอะ แล้วดีเอง - [ 30 พ.ค. 52 18:37:32 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ล้างยาก ?? แปรงขัดส้วมไง เอ้ยแปรงล้างขวดนมเด็กไง จากคุณ : ผู้ครอบครองจักรยาน - [ 30 พ.ค. 52 19:02:50 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ใช้เกลือเม็ดแทนทรายก็ได้ค่ะ จากคุณ : เด็กแหนม - [ 30 พ.ค. 52 19:15:53 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ถ้าล้างไม่สะดวก ก็ใช้แค่พอประมาณแล้วก็เปลี่ยนสิครับ อย่างผม ประมาณเดือนนึงก็เปลี่ยนครับ ดีกว่า 2 รอบแล้วเปลี่ยนเป็นไหนๆ จากคุณ : คาถาป้องกันแห้ว - [ 30 พ.ค. 52 21:46:14 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ถาม : ขวดน้ำดื่มใสที่ขายพร้อมน้ำดื่มตามท้องตลาด ที่บอกว่าไม่ควรนำขวดมาใช้ซ้ำเกิน 2 ครั้ง เพราะอะไรครับและจริงหรือเปล่าที่มีสาร ? ตอบ : ไม่จริงครับ แต่ๆๆๆๆๆๆๆช้าก่อน ถ้านำมาใช้งานแล้วไม่ทำความสะอาดก็อาจก่อให้เกิดความไม่ปลอดภัยได้ ได้ อย่าไปเชื่อมาก!!! กับคำว่า "เขาบอกว่า" ความรู้ ขวดน้ำที่เราเห็นตามท้องตลาด ไม่ว่าจะเป็นขวดน้ำ เคยสังเกตบ้างมั้ยว่ามันทำมาจากอะไร  กกร่ม ถ่ายภาพมาให้ประกอบ ใช่แล้ว มันทำมาจาก PET แล้วเจ้า PET คืออะไรล่ะ ย่อมาจาก PET (Polyethyleneterephthalate) อ่านว่า โพลีเอทธิลีนเทเรฟทาเลต  ขวด PET เป็นมาตราฐานของจำพวกขวดน้ำดื่มหรือ น้ำดื่มบ้านเราไปเสียแล้ว ได้รับความนิยมอย่างมาก   ด้วยคุณสมบัติ - ขวดมีน้ำหนักเบา (Light Weight) - มีความสามารถการซึมผ่านของ Gas ต่ำ หรือเรียกว่า (Low Gas Permeability) - มีความแข็งแรงทนต่อการกระแทกสูง (Good lmpact Strength) - สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ รีไซเคิล (Recycle) เมื่อทราบคุณสมบัติเบื้องต้นแล้ว ลองสำรวจดูสิว่าที่ขวดน้ำดื่มมี สัญลักษณ์อะไรบ้าง จากคุณ : กกร่ม - [ 30 พ.ค. 52 21:59:52 ]

ความคิดเห็นที่ 14 คำว่าครั้งนี่หลอกลวงเราได้เหรอนี่ เวลาใส่น้ำตั้งแต่ออกจากโรงงานยันไปถึงร้านค้ามันไม่ใช่ 2  วันนะครับ เป็นเดือน. การแช่น้ำอยู่เฉยๆ เรียกว่าครั้งหรือเปล่าครับ พอบรรจุน้ำรอบใหม่เข้าไปปฏิกิริยาเกิดเลยเหรอครับ ผมงงครับ จากคุณ : WindMaster - [ 30 พ.ค. 52 23:36:07 ]

ความคิดเห็นที่ 15 วันเดือนปี  555 ลบแล้วครับ แก้ไขเมื่อ 03 มิ.ย. 52 17:31:01 แก้ไขเมื่อ 03 มิ.ย. 52 01:02:57 จากคุณ : กกร่ม - [ 30 พ.ค. 52 23:49:15 ]

ความคิดเห็นที่ 16 " โปรดเก็บไว้ในที่แห้ง ระวังไม่ให้ถูกแดด " แก้ไขเมื่อ 03 มิ.ย. 52 16:52:47 จากคุณ : กกร่ม - [ 30 พ.ค. 52 23:53:53 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ความจริง ที่ " โปรดเก็บไว้ในที่แห้ง ระวังไม่ให้ถูกแสงแดด " นะส่วนใหญเค้ากลัวสิ่งที่บรรจุอยู่ มี กลิ่น สี รส เปลี่ยนไปครับ ขนาดเนื้อแดดเดียว ยังต้องเก็บไว้ในที่แห้ง เห็น ไมควรให้ถูกแสงแดด เลยครับ จากคุณ : ++++ - [ 31 พ.ค. 52 00:04:43 A:118.174.164.177 X: TicketID:206189 ]

ความคิดเห็นที่ 18 #15 ตกลงมันคือวันหมดอายุของขวดน้ำหรอครับเนี้ย ทีแรกนึกว่าวันหมดอายุของน้ำเสียอีก -*- จากคุณ : taechawat - [ 31 พ.ค. 52 00:28:25 ]

ความคิดเห็นที่ 19 รู้จัก คำว่า PET แล้วสิน่ะ คราวนี้เอาจริงแล้วน่ะเข้าวิชาการกันเลย อ้างอิง จาก กองควบคุมอาหาร สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ............เที่ยง.......จะมาต่อให้จบ........ราตรีสวัสดิ์ แก้ไขเมื่อ 31 พ.ค. 52 02:44:38 จากคุณ : กกร่ม - [ 31 พ.ค. 52 00:37:08 ]

ความคิดเห็นที่ 20 วันหมดอายุของน้ำไม่ใช่เหรอครับคนข้างบน จากคุณ : จอมโจรจอมกระล่อน - [ 31 พ.ค. 52 00:59:58 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ส่วนเรามักจะเก็บน้ำดื่มที่เหลือจากไปกินตามร้านอาหารมาไว้ในรถ แล้วก็ลืมเอาลงรถทุกที ตากแดด รมแดดในรถอยู่อย่างนั้น อยากถามว่า ถ้าจะดื่มน้ำในขวดนั้นต่อเลย จะเป็นไรมั้ยคะ เช่นว่า ขวดร้อน พลาสติกร้อน เลยทำปฎิกิริยากับน้ำ บลา บลา บลา ... จากคุณ : MooOummy - [ 31 พ.ค. 52 01:32:10 ]

ความคิดเห็นที่ 22 คห 15  นั่นมันวันหมดอายุของน้ำ  ไม่ใช่วันหมดอายุของขวดนะ คิดดูดิ ผมจะไปซื้อของกินมันก็ต้องบอกวันหมดอายุของอาหารดิ ไม่ใช่บอกวันหมดอายุของภาชนะ พระเจ้าช่วยกล้วยทอด!  งั้นประเทศไทยคงเจริญ จากคุณ : ทางนฤพาน - [ 31 พ.ค. 52 12:22:01 ]

ความคิดเห็นที่ 23 คห16 ข้อแนะนำนั้น เค้าบอกเพื่อการเก็บรักษาคุณภาพของอาหารหรือน้ำที่บรรจุข้างในนะ ไม่ใช่แนะนำเพื่อการรักษาคุณภาพของบรรจุภัณฑ์หรือภาชนะจ้า ตัวอย่างเช่น  "ยา"  มีคำแนะนำว่า เก็บไว้ในที่แห้งและเย็น ห้ามโดนแสง หมายถึงตัวยามันจะเสื่อมคุณภาพหากไม่เก็บตามคำแนะนำ มันเป็นคำแนะนำเพื่อรักษาคุณภาพของ "ยา" นะ ไม่ใช่แนะนำเพื่อการเก็บรักษาคุณภาพของกล่องยา -_-' ปล.  คุณกกร่ม เขียนมาดูดีมีหลักวิชาการ และมีภาพประกอบด้วย แต่เสียอย่างเดียวมันผิดน่ะ ลูกหลานๆเข้ามาดูจะพาเข้าใจผิดตามนั้นไปอีก ยุ่งไปใหญ่เลย   อย่าง  คห18  นี่ก็ไม่รู้ว่าเชื่อไปหรือยังนั่นน่ะ จากคุณ : ทางนฤพาน - [ 31 พ.ค. 52 12:31:02 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ยืนยันว่าเป็น "วันหมดอายุของขวดน้ำ" ครับ รายการ ถ้าคุณแน่ อย่าแพ้เด็ก(ประถม) เพิ่งเอาเรื่องนี้มาออก จากคุณ : สมบัติดี - [ 31 พ.ค. 52 14:05:41 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ตอบ ความคิดเห็นที่ 23 คุณ  ทางนฤพาน  ด้วยความเคารพ ตามข้อความ "  ปล.  คุณกกร่ม เขียนมาดูดีมีหลักวิชาการ และมีภาพประกอบด้วย  แต่เสียอย่างเดียวมันผิดน่ะ ลูกหลานๆเข้ามาดูจะพาเข้าใจผิดตามนั้นไปอีก ยุ่งไปใหญ่เลย   อย่าง  คห18  นี่ก็ไม่รู้ว่าเชื่อไปหรือยังนั่นน่ะ "   เนื้อความที่ว่า ผิด >>>ขวดน้ำก็มีวันหมดอายุด้วยน่ะครับ  เรื่องง่ายๆที่ทุกคนส่วนใหญ่ไม่รู้  (ส่วนใหญ่ก้ไม่รู้จริงๆ มีแต่ซื้อและดื่ม ดื่มเสร็จ ทิ้ง หรือจะเก็บมาใช้งานบรรจุน้ำดื่ม แบบที่ จขกท.ตั้งคำถาม) ในความหมาย ของกกร่ม หมายถึงว่า ขวดน้ำพลาสติก ชนิด  PET (Polyethyleneterephthalate) อ่านว่า โพลีเอทธิลีนเทเรฟทาเลต หรือ ภาษา คนเก็บของเก่าเรียกว่า ขวด เพต แต่ไม่ใช่ เพชร มันก็มีข้อความ กำกับ วันหมดอายุ ติดไว้ข้างขวด ด้วยครับ แต่ถ้าจะผิด ก็ผิดที่ไม่ได้บอกว่า วันหมดอายุนั้น ใช้ กับขวดหรือ น้ำ ครับ เท่านั้นครับ มิได้มีเจตนา แค่ ถ่ายรูป แล้ว วงชี้ให้เห็น และบอกด้วยว่า (การเลือกซื้อน้ำดื่มที่สะอาดจะต้อง มี วันเดือนปีที่ผลิต วันหมดอายุ และอย. กองควบคุมอาหาร สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา) กกร่มยอมรับผิดที่ทำให้คุณ ทางนฤพาน  เข้าใจผิด         และอีกข้อความ ว่า "แต่เห็น ในข่าวต่างๆ ที่มีชาวบ้านนำขวด ใส่น้ำดื่มออกมาตากแดด หรือแม้แต่คนเฒ่าคนแก่ ก็บอกว่ามันจะฆ่าเชื้อโรคได้ " ข้อความนี้เป็นความเห็นส่วนตัว ที่ได้ดูจากภาพ ข่าว ที่มีหมู่บ้านหนึ่งน้ำขวดน้ำดื่มมาใส่น้ำและตากแดดยามแดดจัด   ส่วนหลักฐานทางวิชาการ เรื่อง ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการใช้ขวด PET โดย สายันต์ รวดเร็ว จาก กองควบคุมอาหาร สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ตีพิมพ์เป็นบทความใน เวทีวิชาการ FDA JOURNAL ฉบับ January-April 2008         จากข้อมูลทั้งหมด และ กกร่มได้สอบถามทางอย.แล้ว เอกสารนั้นเป็นจริงสามารถใช้ยืนยันข้อเท็จจริงทางวิชาการ แล้วชาวหว้ากอจะเชื่อใครระหว่าง อย. Vs คำว่าเขาบอกว่า ? หรือ e-mail ที่ได้รับมา   และเอกสารฉบับนี้ได้ถูกส่งไปยังห้องสมุดห้องมหาวิทยาลัย เพื่อใช้ในทางวิชาการอีกด้วย                              จึงเรียนมาเพื่อทราบ   กกร่มคอยรัก ปล.ใครหาเจอบทความวิชาการนี้แล้วก็ช่วยกกร่มพิมพ์ด้วยน่ะ ขอบคุณความคิดเห็นที่ช่วยกันต่อยอดทางความคิด แก้ไขเมื่อ 31 พ.ค. 52 15:02:25 จากคุณ : กกร่ม - [ 31 พ.ค. 52 14:58:49 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ใช้ได้กี่ครั้ง ขึ้นอยู่กับความรู้ของผู้ใช้น่ะ... จากคุณ : granun - [ 31 พ.ค. 52 22:39:27 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ต้องล้างขวดนะ จากคุณ : MeaoNoi - [ 31 พ.ค. 52 23:22:47 ]

ความคิดเห็นที่ 28 PET (Polyethyleneterephthalate) เวลาฉีดนี่ เค้าฉีดแต่เม็ดพลาสติกนะครับ ไม่มีสารเจือปน ดังนั้นโอกาสที่สารโมเลกุลเล็กหลุดลอดออกมาเท่ากับศูนย์ครับ แล้วตัว PET เองนี่ถือว่าเสถียรต่อแสงแดดมากถึงมากที่สุดเลยครับ เพราะโครงสร้างเค้าเป็น aromatic back bone ดังนั้นมันจึงสามารถดูดกลืน UV ได้โดยที่โครงสร้างไม่โดนทำลาย แต่ถ้าในสภาวะที่เป็นด่าง ก็ ok ล่ะครับ เก็บน้ำเปล่าก็ไม่อันตรายแน่นอนครับ เอ่อ ถ้าเก็บโซดาไฟไว้กินเล่น ก็นะ โซดาไฟก็คงกัดเนื้อเยื่อที่คอก่อนที่ sodium terephthalate มาอุดตันที่ทางเเดินอาหารก่อนมังครับ เสื้อผ้าืัที่คุณใส่ทุกวันนี้ เกิน 30% นี่ก็ทำมาจาก PET นะครับ ย้อมสีสังเคราะห์ซะด้วย ถ้ามันอันตรายจริง คุณคงคันคะเยอขึ้นเป็นลมพิษนานแล้ว จากคุณ : in-situ - [ 1 มิ.ย. 52 08:38:55 ]

ความคิดเห็นที่ 29 "'''' แก้ไขเมื่อ 01 มิ.ย. 52 09:54:03 จากคุณ : กกร่ม - [ 1 มิ.ย. 52 09:53:32 ]

ความคิดเห็นที่ 30 """"แต่ถ้าจะผิด ก็ผิดที่ไม่ได้บอกว่า วันหมดอายุนั้น ใช้ กับขวดหรือ น้ำ ครับ เท่านั้นครับ มิได้มีเจตนา แค่ ถ่ายรูป แล้ว วงชี้ให้เห็น และบอกด้วยว่า (การเลือกซื้อน้ำดื่มที่สะอาดจะต้อง มี วันเดือนปีที่ผลิต วันหมดอายุ และอย. กองควบคุมอาหาร สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา)"""" ต้องขอโทษด้วยครับถ้าเข้าใจผิด  ขอสอบถามเพิ่มเติมเพื่อเป็นวิทยาทานให้กับคนความรู้น้อยอย่างผมด้วยครับ 1.แล้วอย่างนั้นจากประโยคข้างบนที่คุณกกร่มตอบมา แล้วจะรู้ได้ไงครับว่าเป็นวันหมดอายุของขวดหรือน้ำ ในเมื่อไม่ได้ระบุว่าเป็นวันหมดอายุของอะไร  ลองคิดถึงชาวบ้าน ตาสีตาสา ที่ไม่มีข้อมูลทางวิชาการแบบคุณกกร่มสิครับ แล้วบนขวดก็ไม่ได้ระบุว่าเป็นวันหมดอายุ ของน้ำ หรือ ของขวด แล้วเค้าเหล่านั้นจะรู้ได้ไงครับ ต้องยอมรับนะครับว่า ประชาชนทั่วไปมีจำนวนมากกว่านักวิชาการเยอะ จะทำอย่างไรใหเข้าใจได้ถูกต้องตามนั้นครับ 2.หากดูตามกรณีนี้  ขอสอบถามเพิ่มเติมว่า  นมกล่อง(บางยี่ห้อระบุว่า best before / บางยี่ห้อระบุเพียง วันผลิต วันหมดอายุ ไม่ได้บอกว่าเป็นวันผลิต-วันหมดอายุของนมหรือกล่อง),  ปลากระป๋อง , ครีมทาผิวที่เป็นกระปุกในห้าง, อาหารที่แพ็คใส่โฟมขายในห้างสรรพสินค้า ฯลฯ สินค้าที่กล่าวมานี้ไม่ได้ระบุเลยว่าเป็นวันผลิต-วันหมดอายุ ของสินค้า หรือของ ภาชนะที่ใช้บรรจุ ถ้าดูตามจุดประสงค์ในการซื้อของมารับประทาน หมายถึงสินค้าอย่างอื่นๆด้วย ไม่เพียงเฉพาะแต่น้ำดื่ม  ถึงไม่ได้ระบุว่ามันเป็นวันหมดอายุของภาชนะหรืออาหาร ตามสามัญสำนึกและความเข้าใจของผู้บริโภคมันก็ควรจะเป็นของอาหารไม่ใช่เหรอ เพราะวัตถุประสงค์หลักตั้งใจมาซื้ออาหาร ไม่ใช่มาซื้อบรรจุภัณฑ์ของอาหาร แล้วผู้ผลิตจะมาบอกวันหมดอายุของบรรจุภัณฑ์เพื่อประโยชน์อะไร เพราะเป้าหมายของผู้ซื้อคืออาหารไม่ใช่ภาชนะบรรจุอาหาร  หรือว่าจะมีคนส่วนใหญ่ซื้อปลากระป๋องโดยไม่ได้สนใจกินปลาที่อยู่ในกระป๋องแต่ซื้อเพื่อจะเอากระป๋องเป็นหลักเหรอครับ มีด้วยเหรอครับ ถ้ามีก็คงไม่ใช่คนส่วนใหญ่หรอกครับ ผมมั่นใจ ขอสอบถามว่าวันผลิตและวันหมดอายุของสินค้าทั้งหมดนี้ เป็นวันหมดอายุของภาชนะเหรอครับ  แล้ววันผลิต-หมดอายุบนกล่องยา เป็นวันผลิต-หมดอายุของกล่องยา ไม่ใช่ของยา เหรอครับ แล้วเวลาคนซื้อยา เขาจะใช้ประโยชน์จากยา หรือ จากกล่องยาครับ ถ้า ทาง อย. ยืนยันว่ามันคือวันหมดอายุของบรรจุภัณฑ์จริง งั้นก็คงต้องบูรณาการครั้งใหญ่แล้วล่ะครับ  เพราะไม่ใช่แค่ผมที่เข้าใจอย่างนี้ มีอีกมากๆๆๆๆเลยครับ ที่เข้าใจอย่างนี้ ไม่เชื่อลองไปคุยกับคนรอบข้าง และคนเดินถนนทั่วไปดูสิครับ ถือสินค้าเข้าไปถามเค้าว่า วันผลิต-หมดอายุ ที่บรรจุภัณฑ์ คุณคิดว่าเป็นของสินค้าหรือของบรรจุภัณฑ์   วันหมดอายุ เป็นของน้ำนม หรือ กล่องนม  ลองดูว่าเค้าจะเข้าใจว่าเป็นของอะไร และหากคุณกกร่มติดต่อทาง อย. และขอข้อมูลได้จริง ก็รบกวนแนะนำ อย. ให้หน่อยครับว่า จะมีวิธีการอย่างไรที่จะทำให้ประชาชนจำนวนมาก เข้าใจได้อย่างถูกต้องแบบคุณกกร่ม ต้องย้ำด้วยนะครับว่าคนส่วนใหญ่คือคนทั่วไป ไม่ได้เป็นนักวิชาการแบบคุณกกร่ม ไม่ได้มีเจตนาลบใดๆ แต่ของสอบถามเพื่อเป็นวิทยาทานครับ รบกวนสอบถามด้วยครับ จากคุณ : ทางนฤพาน - [ 2 มิ.ย. 52 10:16:50 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ต้องขอโทษคุณ ทางนฤพาน เป็นอย่างยิ่งครับ ที่กกร่ม โดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์  ที่เอารูปของ ขวดน้ำชนิด Pet มาแสดง(แล้วไม่ได้ระบุว่าวันหมดอายุ ว่าเป็นของขวดหรือน้ำดื่ม) แต่ในใจเพียงแค่ต้องการบอกว่า   ขวดน้ำชนิด PET มีการ พิมพ์ วัน เดือน ปี ที่ผลิต และหมดอายุ ขอบคุณครับ เรื่องต่างๆที่สงสัยกกร่มไม่มีความารถจริง กราบขอโทษเป็นอย่างยิ่ง จะให้ลงกระทู้ ขอโทษก็เอาครับ   เห็นกระทู้นี้และกกร่มมีข้อมูลเรื่อง PET เกี่ยวกับเอกสารอ้างอิง จึงนำมาชี้แจง เพราะบทความทางวิชาการ น้อยคนที่จะได้อ่าน มากกว่าพวก mail ต่างๆที่ส่งมาทำให้คนส่วนใหญ่สับสนและไม่เข้าใจ มาคุยกันเรื่อง PET กันต่อครับ สำหรับ เรื่อง ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการใช้ขวด PET โดย จาก กองควบคุมอาหาร สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ตีพิมพ์เป็นบทความใน เวทีวิชาการ FDA JOURNAL ฉบับ January-April 2008   ใครเจอก็ไปค้นหาได้น่ะครับ แต่ไฟล์ pdf จริงๆหายากมาก จะหาไฟล์ และ ข้อความมาลงให้เร็วๆ นี้ครับ  เพื่อนักเรียนนักศึกษาที่สนใจ จะได้นำไปใช้งานอ้างอิง และศึกษาต่อได้ครับ จากคุณ : กกร่ม - [ 3 มิ.ย. 52 01:12:38 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ประเด็นของผม มันไม่ขึ้นอยู่ว่าขวด PET หรือไม่ PET แต่ขึ้นอยู่ว่า ถ้าผมจะซื้อน้ำดื่ม วัตถุประสงค์หลักคือซื้อน้ำเพื่อจะดื่มเป็นหลักครับ ไม่ได้ซื้อขวดเป็นหลัก ทางผู้ผลิตมาบอกวันผลิต-หมดอายุของขวดให้ผมรู้ทำไม ไม่เห็นมีประโยชน์หรือเกี่ยวพันกับน้ำที่จะดื่มเข้าสู่ร่างกายเลย น่าจะบอกวันหมดอายุของน้ำจะมีประโยชน์มากกว่า ส่วนใครจะนำขวดมาใช้นั่นเป็นผลพลอยได้ เป็นวัตถุประสงค์รองลงมา ดังนั้น ควรจะระบุวันที่ให้กับสิ่งที่เป็นวัตถุประสงค์หลักหรือรองดีครับ? แค่นั้นเอง ประเด็นของผมมีแค่นี้ ส่วนนับจากนี้ใครจะเข้าใจยังไงก็แล้วแต่เถอะครับ ประเทศไทยก็เป็นอย่างนี้แหละ  ต้องทำใจ ส่วนเรื่องลงกระทู้ขอโทษ ไม่ต้องหรอกครับ เพราะคุณกกร่มก็มีความปราถนาดีอยากให้ความรู้แก่เพื่อนๆในเว็ป ถือเป็นวิทยาทานอย่างหนึ่ง ซึ่งเรื่องนี้ก็ขอโมทนาบุญด้วยครับ ไม่เห็นว่าจะต้องขอโทษอะไร เพราะไม่เห็นว่าคุณกกร่มจะทำอะไรผิด น่าจะนำประเด็นนี้ไปต่อยอดว่า -จะทำอย่างไรให้คนจำนวนมากที่ไม่รู้ สามารถรู้และเข้าใจได้ถูกต้องตามนี้ -หรือจะมีการปรับเปลี่ยนการระบุวันหมดอายุอย่างไร ควรจะเป็นวันหมดอายุของขวดต่อไป หรือจะเปลี่ยนเป็นวันหมดอายุของน้ำ ของอาหารดี ให้สอดคล้องกับความเข้าใจ ตามสามัญสำนึกของคนทั่วไปจำนวนมาก(ที่ไม่ใช่นักวิชาการ) และสอดคล้องกับวัตถุประสงค์หลักในการซื้อสินค้านั้นๆ เช่นคนซื้อน้ำดื่ม วัตถุประสงค์หลักก็คือน้ำ ส่วนขวดนั้นเป็นวัตถุประสงค์รอง(คงไม่มีใครดันทุรังแย้งว่าฉันซื้อเพราะอยากได้ขวดเป็นหลักหรอกนะครับ เพราะอย่างนั้นก็คงไม่ฉลาด เพราะมาซื้อในราคาแพง สู้ไปซื้อขวดปล่าวจากโรงงานเลยยังจะถูกกว่าซื้อขวดบรรจุน้ำดื่มไม่ดีกว่าเหรอ) ปล.1 คห.15 รีบลบเชียวนะ เมื่อก่อนยังเห็นเขียนว่า วันหมดอายุของขวด ที่คนส่วนใหญ่ไม่รู้ ปล.2 ส่วนเรื่องกกร่มน้อยคอยรัก ไม่ทราบว่าเจอหรือยัง ถ้าเจอแล้วก็ดีใจด้วยครับ หากยังไม่เจอก็ขอให้เจอเร็วๆ จะได้สิ้นสุดการรอคอยเสียทีครับ แก้ไขเมื่อ 03 มิ.ย. 52 15:28:56 จากคุณ : ทางนฤพาน - [ 3 มิ.ย. 52 15:25:26 ]

ความคิดเห็นที่ 33 1 ขอโทษ ครั้งที่ 3 ครับ คุณ  ทางนฤพาน  แก้ไขให้แล้วครับ 2 กกร่มน้อยก็ต้องคอยรัก สิครับ 55 ขำๆๆ  ใครหาได้ก็เอามาลงกันก่อนได้ครับ หรือ ไม่ก็ตาม Link ของ วารสาร อ.ย. มีประโยช์มาก http://www.fda.moph.go.th/journal/ แก้ไขเมื่อ 03 มิ.ย. 52 18:22:57 จากคุณ : กกร่ม - [ 3 มิ.ย. 52 16:55:09 ]

ความคิดเห็นที่ 34 การจะเลือกซื้อน้ำดื่มสักยี่ห้อใหม่ สังเกตุหลักๆ ที่ง่ายๆคือ 1 แน่นอนค่ะ คุยเรื่องขวด เพท ก็ต้องเลือขวดเพทที่ใสดั่งเพชรคือ ขวดไม่มีตำหนิเช่น ขวดบุบ หรือ บีบแล้วยุบไปยุบมาได้ เพราะ อากาศภายนอกอาจจะมีการซึมเข้าไปปนเปื้อนน้ำในขวดได้ 2 พลิกดูใต้ขวดสักนิด ว่าระบุ PET หรือเปล่าอย่างที่คุณกกร่มให้ความรู้ไว้ใน คห.13 3 ตรวจสอบดูที่ฝาให้แน่ใจว่าปิดสนิด ด้วยการทดสอบบีบที่ตัวขวดดูว่ามีน้ำไหลออกมาจากปากขวดหรือไม่ และที่ฝาต้องไม่มีรอยถูกเปิด ซึ่งในปัจจุบันนิยมใช้ฟิล์มหุ้มปากขวด เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภค 4 สำคัญไปซะทุกอย่าง จุดนี้ก็ลืมเสียไม่ได้เลย คือ ดูที่ฉลากว่า มี อย. 13 หลักหรือไม่ แล้วเลข อย. กับ จังหวัด สัมพันธ์กันแค่ไหน เทคนิคการดูคร่าวๆ คือ เลข 2 หลักแรก จะต้องสัมพันธ์กับ เลข 2 หลักของรหัสจังหวัดนั้น เช่น กรุงเทพ ฯ เลข อย. ต้องขึ้น 10 ชลบุรี ต้องขึ้น 20 ระยอง ต้องขึ้น 21 เป็นต้น ซึ่งถ้าใครเชี่ยวทางด้านรหัสไปรษณีย์ด้วยหล่ะก้อ หายห่วง หยิบน้ำเป็นของจังหวัดไหน เลข 2 หลักแรกต้องถูกไว้ก่อน ข้อนี้ถือซะว่าเป็นการฝึกสมองไปในตัวละกัน ไม่ต้องซีเรียส 5 ข้อนี้ก็ยังต้องสังเกตก่อน ยังเปิดดื่มไม่ได้นะ เพราะต้องดูกึ่งเพ่งพินิจว่า มีอะไรแถมมาในน้ำที่จะดื่มหรือไม่ อ๊ะ อ๊ะ กรุณาสังเกตุก่อนที่จะจ่ายเงินจะดีมาก ยิ่งเราเลือกซื้อเองยิ่งดีใหญ่ ตะกอนที่ลอยตัวอยู่ในน้ำ ขั้นต่ำขอให้สมมติฐานได้ว่า อาจจะเป็นแบคทีเรียชนิดหนึ่ง ส่วนจะร้ายแรงหรือไม่ ต้องให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบ เมื่อผ่านข้อ 1-5 ได้แล้ว จากนั้น ก็ควักตังค์จ่ายได้แล้ว เดี๋ยวเจ้าของร้านตาเขียว 6 จะเริ่มดื่มได้หรือยังหนอ ก็จ่ายตังค์แล้วก็ฉีกฟิล์มอย่างละเมียดละไม ถ้าอารมณ์ดี หรือ จะกระชากก็แล้วแต่เพื่อระยายความเครียด ........ เวลาที่หมุนเปิดฝาสังเกตสักนิดว่า มีเสียงให้รู้สึกว่าเป็นฝาใหม่หรือไม่ด้วยนะ เพราะถ้าบิดเปิดแล้วไม่ให้รู้สึกว่า เป็นฝาใหม่ละก้อ หึ หึ จ่ายเงินแล้วด้วย เสี่ยงเอาละกัน แต่ถ้าผ่านมาได้ถึง 5 ขั้นอรหันต์แล้ว ก็ดื่มได้แล้ว คอจะแห้งตายอยู่แล้ว 7 ในขณะที่ดื่ม ให้สังเกตรสชาตของน้ำด้วย โดยการอมน้ำไว้ในปากสักนิด แล้ว ค่อยๆ กลืนลงคอ ถ้านุ่มลิ้น ลื่นคอ ไม่บาดคอ รสชาตไม่เหม็น นั่นแสดงว่า ท่านได้ให้รางวัลกับชีวิตคุณอย่างสมบูรณ์แบบแล้ว แต่......... 8 ย้อนไปอ่านกันสักนิดว่า ใช้ระบบการกรองแบบไหน แบบ รีเวอร์สออสโมซิสหรือไม่ โอ้ยยยยย จะดื่มน้ำทั้งที มันช่างยากลำบากเหลือเกิน คืองี้ค่ะ ถ้าผู้ที่จะดื่มน้ำ เป็นโรคเกี่ยวกับกระดูก (ฟันผุบ่อย ปวดตามกระดู (((ร่างกายขาดแคลเซียม)))) หรือ เป็นตะคริว ปวดกล้ามเนื้อบ่อยๆ ((((ร่างกายขาดแมกนีเซียม)))))...........ขอบอกว่า หลีกเลี่ยง การดื่มน้ำที่ผ่านการกรองระบบ รีเวอร์สออสโมซิส หรือ บางฉลากจะระบุคำว่า R O อะไรประมาณเนี้ยะ ส่วนผู้ที่ออกกำลังกายเป็นประจำหรือเป็นนักกีฬา หรือ ผู้ที่เสียเหงื่อมากๆ ในแต่ละวันก็ควรหลีกเลี่ยงเช่นกัน อ้าว แล้ว น้ำระบบนี้มันจะดีสำหรับใครบ้างเนี้ยะ ก็เห็นตู้น้ำดื่ม ก็ระบุกันเกลื่อนเมือง?????? ตอบค่ะ.....ก็ผู้ที่ไม่เข้าข่ายข้างต้นไงค่ะ รวมถึงผู้ที่ต้องการจะทำดีทอกซ์ ซึ่งในการทำดีทอกซ์ คงไม่มีใครขยันทำทุกวันหรอกนะคะ ฉะนั้นดื่มได้ แต่อย่าดื่มเป็นประจำแบบร้อยเปอร์เซนต์ในหนึ่งวันก็แค่นั้นเอง จากคุณ : www.cdmawater.com - [ 13 มิ.ย. 52 21:19:21 A:125.27.32.63 X: ]