ความคิดเห็นที่ 1 ผมสนับสนุนนโยบายนี้นะ ไม่มีความสามารถก็ไม่ต้องรับเข้ามา ล้างบางซะที  ตัดตอนทิ้งไปเลย จากคุณ : La Gioconda - [ 5 มิ.ย. 52 15:11:38 ]

ความคิดเห็นที่ 2 "หมั่นฝึกฝนและดูแล อัจฉริยภาพเป็นจริงได้" "เหล้าและบุหรี่ ทำให้ประสิทธิภาพการทำงานของสมองลดลง" ท่องเอาไว้ แล้วจะตอบปัญหาที่ถามมาได้ จากคุณ : ผู้สังเกตการณ์ - [ 5 มิ.ย. 52 15:12:41 ]

ความคิดเห็นที่ 3 จากประสบการณ์ที่เรียน ปวช มาไม่จบ วิชาคณิตศาสตร์ เหมือนของเด็ก ป 5  คือ เปิดมา เป็น เศษส่วน - ทศนิยม จนท้ายเล่ม จบที่ บรรยัติไตรยางค์   ไม่มียกกำลังเลยสักนิด มีไม่ต่ำกว่า 20% ที่ไม่เข้าใจ ติวให้แล้วก็ไม่เข้าใจ - -! ---------------------------------------------- ส่วนวิชาทางไฟฟ้าก็ เล่นซะ Complex number อาจารย์ต้องติวช่วงปิดเทอมก่อนเรียน สอบผ่านกันไม่ถึง 5% ด้วยซ้ำ ถ้าไม่มี lab และ การบ้านกลุ่มช่วย --------------------------------------------- ถ้าบ้านเรา การเข้าสายอาชีพ เพราะ เรียนสายสามัญไม่ไหว ก็สภาพเช่นนี้ครับ ขนาดสายสามัญ ยังดันทุรังกัน  สอบ Entrance ได้เฉลี่ย 20 กว่า % เลยครับ จากคุณ : IRQ5 - [ 5 มิ.ย. 52 15:13:16 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ดีแล้วครับ จากคุณ : บ่าวจ่อย - [ 5 มิ.ย. 52 15:15:07 ]

ความคิดเห็นที่ 5 อ่อไม่จบ เพราะผมจบ กศน ม.ปลายตั้งแต่ ม. 3 แล้ว แต่อายุไม่ถึง 15 อยากเป็นวิศวะมาก เลยเรียนเอาความรู้ซึ่งได้ประโยชน์มากตอนเรียน ปตรี และ Ent ติดตอนจบปี 2 เลยลาออกไป จากคุณ : IRQ5 - [ 5 มิ.ย. 52 15:15:36 ]

ความคิดเห็นที่ 6 เพิ่งจะรู้ว่า  เดี๋ยวนี้เกณฑ์ผ่านเข้ามหาวิทยาลัยนี่อยู่ระดับคะแนน 50% กันแล้ว จำได้ว่า  สมัยก่อนนี่เกณฑ์ขั้นต่ำมัน 70% ขึ้นไปไม่ใช่หรือ จากคุณ : Healer - [ 5 มิ.ย. 52 15:24:54 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ยังไงๆ อยู่นา เปิดรับ 500 สมัครรอบแรก 300 รอบสอง 200 ถ้าไม่มีการสอบก็รับได้ทั้งหมด เด็กที่ไม่มาสมัครเค้าไม่อยากจะมีปัญหาระหว่างสถาบันหรือเปล่า จากคุณ : กฤตยฎีกา - [ 5 มิ.ย. 52 15:29:49 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ผมว่า เดี๋ยวนี้ใช้คำว่าวิศวะ กันฟุ่มเฟือยไปหน่อย ก็เข้าใจนะว่ามันเป็นจุดขาย แต่มันทำให้คำนี้ลดระดับลงมา เกี่ยวกะเนื้อหาไหมเนี่ย เข้าเรื่องๆ ค่าคะแนนต่างๆควรให้ตามเกณฑ์ครับ ประเดี๋ยวจะได้วิศวะเก่ง ภาษาไทย สังคม จะแย่เอา อาชีพนี้ต้องรับผิดชอบครับ จากคุณ : ศุกร์13 ฝันหวาน - [ 5 มิ.ย. 52 15:38:09 ]

ความคิดเห็นที่ 9 คุณกฤตยฎีกา แล้วแต่การมองครับ เพราะว่า ถ้าผ่านแค่นี้ไม่ได้ ก็ยากครับว่าจะผ่านในระดับต่อไป ดูมหาวิทยาลัยอื่นก็ได้ครับ ที่ไม่มีเกณฑ์ขั้นต่ำ เข้าไปเยอะก็ตกออกเยอะเหมือนกัน ส่วนตัวผมว่า แทนที่จะเสียเงินแพงๆ ไปเรียนแล้วตกออกมา เว้นไปปีหนึ่งมาทบทวนเตรียมความพร้อมก่อน แล้วไปสมัครใหม่ปีหน้ายังไม่สาย แก้ไขเมื่อ 05 มิ.ย. 52 15:42:56 จากคุณ : KL - [ 5 มิ.ย. 52 15:39:00 ]

ความคิดเห็นที่ 10 มันอยู่ที่การเตรียมตัวครับ ผู้สอบมีความตั้งใจแค่ไหนล่ะ ในการมาสอบครั้งนี้ ผมว่าดีนะ ตั้งเกณฑ์ชัดเจนดี ถ้าเอคะแนนสูงสุด โหน curve เข้าไปเรียน เจอมาตรฐานตามเกณฑ์เข้าไป ็อาจได้รีไทร์ยกห้องอยู่ดี เขาไม่โง่หรอกครับ แต่เขามีความตั้งใจ มีความพร้อมหรือเปล่า เท่านั้นเอง จากคุณ : zoopod - [ 5 มิ.ย. 52 15:57:50 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ที่ทำงานเค้าบอกว่าแต่ก่อนรับแบบอิงกลุ่มครับ ปีนี้มารับแบบอิงเกณฑ์ ก็เลยไม่ผ่านกัน จากคุณ : elvish346 - [ 5 มิ.ย. 52 16:01:28 ]

ความคิดเห็นที่ 12 เพื่อนเราที่สอบเข้าพวกนี้บางคนทำคณิตไม่เป็นจริงๆนะคะ อย่างเช่น 3 หารด้วย 2 ออกมาเป็น 1.5 เค้าก็ทำไม่ได้นะคะ (บางคน) สอนแล้วก็ไม่เข้าใจซักที ปัญหาคือ เค้าไม่รู้มาตั้งแต่เด็กๆ แล้วก็ปล่อยมาเรื่อยๆๆๆ ผ่านมาจนโต ได้ไงก็ไม่รู้ สอนแล้วเหนื่อยมาก จะสอนสถิติ ที ต้องย้อนไปตั้งแต่เรื่องเศษส่วน ทศนิยม แก้สมการง่ายๆ สรุป 1 วันก็ไม่ได้เข้าเรื่องสถิติ จากคุณ : lazywii - [ 5 มิ.ย. 52 16:13:04 ]

ความคิดเห็นที่ 13 เด็กไม่โง่หรอกครับ แต่คิดว่าระบบสอบเข้า รึ ระบบการศึกษามีปัญหามากกว่า ที่อื่นก็ยังมีคนเข้าได้ปกติ คิดว่าน่าจะเกิดจาก ตัวข้อสอบเอง จากคุณ : CitizenShip - [ 5 มิ.ย. 52 16:29:18 ]

ความคิดเห็นที่ 14 เพราะว่าเขาไม่คิดจะสนใจพื้นฐาน หวังจะเอาสูง พื้นฐานไม่ดีก็ต่อยอดสูงไม่ได้ เลยเป็นฉะนี้แล จากคุณ : Shineokung - [ 5 มิ.ย. 52 16:30:47 ]

ความคิดเห็นที่ 15 สนับสนุนแนวคิดของ สถาบันฯปทุมวันครับ....... ถ้าไม่ผ่านเกณท์ที่ตั้งไว้ก็ไม่ควรรับ...เพราะ้ถ้ารับมาเมื่อตอนจะจบก็จะกลายเป็นปัญหาของสถาบันอีก ดีไม่ดี....คนที่จบไปแบบได้คุณภาพไม่ดี...กลับไปสร้างชื่อเสียให้กับสถาบันอีกด้วย จากคุณ : Mine_Knight - [ 5 มิ.ย. 52 16:40:10 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ไม่เป็นไรครับที่ญี่ปุ่นก็มีแบบนี้ คุโรมาตี้ไง แค่ + - เลขได้ก็ผ่านแล้ว จากคุณ : WindMaster - [ 5 มิ.ย. 52 16:59:02 ]

ความคิดเห็นที่ 17 สนับสนุนสถาบันครับ มีสถาบันให้เลือกมากมาย ในเมื่อไม่ผ่านตามเกณฑ์ก็ต้องยอมรับครับ จะบอกว่าองุ่นเปรี้ยวมะนาวหวานไม่ได้หรอก จากคุณ : กุหลาบหลงเงา - [ 5 มิ.ย. 52 17:00:18 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ในช่วงแรกๆคงถูกด่าถูกดูถูก แต่ผมเชื่อว่าในระยะยาวผลดีจะตกแก่สถาบัน ผลดีจะตกแก่ตัวเด็ก และตกแก่ประเทศ ต่อไป จากคุณ : Sial - [ 5 มิ.ย. 52 17:07:36 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ไม่รู้เกี่ยวมั้ย.. - ครั้งหนึ่ง ผมเคย สอบ ติดเข้าสถาบันอาชีวะประจำจังหวัด เป็นวิทยาลัยเทคนิค สมัยนั้นมีรอบเช้า รอบบ่ายด้วย .. อาจารย์บอกว่า ผมสอบติดเป็นอันดับหนึ่งของนักศึกษารอบบ่าย ผมปลื้มสุดๆ แม้ว่าต่อมาจะเรียนไม่จบ ด้วยเพราะไม่สามารถเอาตัวรอดในสังคมที่มีแต่สิ่งยั่วยุได้ หรือจะเรียกว่าดีแตกก็ได้ - ต่อมา ผม สอบ ติดที่สถาบันอาชีวะประจำจังหวัดอีกแห่ง เป็นวิทยาลัยอาชีวศึกษา สาวๆเย้อออ.. และต่อมา ผมก็เรียนไม่จบอีก ด้วยเพราะติดเพื่อน ติดสังคม ฯลฯ เป็นช่วง 2-3 ปีที่เหนื่อยและท้อใจมากๆ แต่ผมก็ภูมิใจเวลาคุยกับคนอื่น หรือพวกรุ่นน้องว่า ผม สอบ ได้ ต่อมา พอทราบว่า วิทยาลัยอาชีวะ จะไม่มีการสอบเข้าแล้วนะ สมัครเข้าเรียนเลย ผมล่ะ.. เสียดาย เท่าที่เห็น โอกาสทางการศึกษาของบ้านเราน่ะมีครับ คิดเป็น % ก็ยังสูง แต่ปัญหาคือตัวเด็ก, คือสังคมวัยรุ่น, คือวัฒนธรรมใหม่ๆ มากกว่า กลายเป็นว่าจากที่สถาบันต่างๆ เคยกรองนักศึกษาด้วยการสอบ แต่พอไม่มีการสอบ คุณภาพจึงตกต่ำลง และพาลจะเป็นแรงงานชั้นล่างๆ อยู่ดี คือ จำนวนคนเรียนอาจจะเยอะขึ้น แต่คุณภาพต่ำลง ไม่รู้ผมคิดไปเองมั้ย แต่รู้สึกเหมือนวัยรุ่น, นักศึกษาหลายๆ คนไม่ขยัน, ไม่ทุ่มเทเหมือนสมัยก่อน ซึ่งส่วนหนึ่งก็คงเป็นเพราะสังคมเปลี่ยนไป ทุกวันนี้ใครไม่เข้าผับก็แปลกเสียแล้ว, ใครไม่เล่นเกมส์ออนไลน์ก็เชย ไม่รู้ว่านักศึกษาที่ดีใจกับการได้ชุดนักเรียน ได้หนังสือ ได้ไปเรียน จะยังมีอยู่ไหมนะ หรือว่าไปดีใจกับการได้เที่ยว ได้อยู่กับเพื่อน ได้ทันสมัยหมดแล้ว สมัยก่อน ตอนที่สอบติดที่สถาบันอาชีวประจำจังหวัด เพื่อนผมคนนึง อยู่วัด ไม่มีทีวี ไม่มีอะไรเลย ห้องแคบๆ กับที่นอน และกองหนังสือ แต่เขาเรียนจบปวช.อิเล็กโทรนิกส์ได้ เกรดดีเสียด้วย ผมเองที่มีฐานะทางบ้านดีกว่าเขากลับทำไม่ได้ ดูเหมือนว่า "ภูมิต้านทานต่อสิ่งยั่วยุ" ของวัยรุ่นทุกวันนี้อาจจะน้อยลงกระมัง... จากคุณ : art_sarawut - [ 5 มิ.ย. 52 17:42:26 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ไม่รู้นะ จบปวส. มาเหมือนกัน...สอบเข้าได้ที่ 1 จบออกมาก็ได้เกรด 3 หน่อยๆ...ที่จริงน่าจะ 4 ด้วยซ้ำ พอดี ช่วงปีที่ 2 เค้าเอาคะแนน คนที่ได้มากสุดไปเฉลี่ยกับเพื่อนๆทั้งห้อง เพื่อให้ฉุดเกรดกันขึ้น ผลเลยมาตกกับกลุ่มที่เรียนระดับหัวแถวในห้อง... ผมว่า การเรียนอาชีวะ เค้าเน้นปฏิบัติมากกว่าทฤษฎีนะครับ ตอนผมเรียน เทอมแรกก็ตกคณิตศาตร์ครับ พวกอัลกอริทึ่มอะไรเทือกนั้น พอดีผม เว้นช่วงเรียน 3 ปี ก่อนหน้านั้นไปเรียน ช่างยนต์ 1 เทอม ออก แล้วไปต่อ ฟิสิก ราชภัฎ แล้วออกเทอม 2 เรียนไม่ไหว ทำนาอยู่ 2 ปีแล้วมาเรียนต่อ...เลยอ่อนเลข แต่คอม ผมไม่ได้ทิ้ง เลยเรียนได้เร็ว เวลาเรียนทฤษฎี ผมก็ไม่ได้รู้เรื่องเท่าไหร่นะ แต่ปฏิบัติ ถือว่า ระดับกลุ่มหัวแถวของห้อง....ตอนสอบดีหน่อย ไม่ค่อยมี กากบาท มีแต่ให้อธิบาย เลยได้คะแนนดี เพราะผมไม่ชอบท่องตำรา ตอบคำถามตามที่ผมรู้และเข้าใจ ผมเรียนจบ คอมบริหาร ปัจจุบันทำงานออกแบบเครื่องจักรกลครับ เหอๆ.. แก้ไขเมื่อ 05 มิ.ย. 52 18:22:04 แก้ไขเมื่อ 05 มิ.ย. 52 18:21:10 จากคุณ : คนจ๊นจน - [ 5 มิ.ย. 52 18:17:08 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ตำนานสายอาชีพ จบแล้วสินะ - -' จากคุณ : nutxnut - [ 5 มิ.ย. 52 18:53:16 ]

ความคิดเห็นที่ 22 สิ่งยั่วใจมันเยอะค่ะ จากคุณ : ก้านดอกบัว - [ 5 มิ.ย. 52 19:09:08 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ไม่แปลก เด็ก ม.6 สายศิลป์ ยังตั้งแกน x-y ไม่เป็น ไม่รู้จักคู่อันดับ บวกลบเศษส่วนไม่เป็น เด็ก ม.6 สายวิทย์ ผันเสียงวรรณยุกต์ไม่เป็น ไม่ได้ใช้ ไม่ใส่ใจ ไม่สนใจ ไม่เข้าใจ ไม่รับรู้ จากคุณ : abc - [ 5 มิ.ย. 52 19:29:50 A:125.24.175.92 X: TicketID:062703 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ทำแบบนี้ก็ดีแล้วครับ 2 ปีที่แล้ว โควตาแพทย์ ม.แห่งหนึ่งในภาคเหนือตอนล่าง รับ 35 คน แต่มีนักเรียนที่สอบผ่านเกณฑ์ขั้นต่ำ 13 คน . .. . จากคุณ : ไม่มีสมาชิกชื่อนี้ - [ 5 มิ.ย. 52 19:30:37 ]

ความคิดเห็นที่ 25 เขาทำถูกแล้ว มีเรื่ิิองจริง เรื่องหนึ่งขอเล่าให้ฟัง ลูกชายของเพื่อนผม จบ ม.6 ด้วยคะแนน 1.95 โรงเรียนรัฐบาลปลายแถว หมอนี่ sin cos tan ยังตั้งไม่เป็น ไม่รู้ว่า sin60 = cos30 ยื่นใบสมัคร เข้าวิดวะ มช.ภาคสมทบ ทางคณะก็รับไป และก็ได้ สวมชุดนักศึกษาวิดวะ ตามที่อยากสวม พอเรียนเข้าจริง เขาตัดเกรดรวมกับ นักศึกษาที่ Ent เข้ามาภาคปกติ เทอมแรก เกรดหรูซะไม่มีคือ 0.65 เทอมที่สอง พอๆ กัน สุดท้าย ก็ได้ สวมชุดนักศึกษาวิดวะ ตามที่อยากสวม แต่ไม่ได้เรียน ครั้งคราใด ที่มีใครถาม ก็จะบอกว่า เรียนวิดวะ มช. นี่ผ่านไปสามปีแล้่ว เด็กคนนี้ สมัครเข้าเรียนวิดวะ เครื่องกล ที่  U แถวๆ อีสานที่ไม่ใช่ KKU  อีกครั้ง ถ้าเกณฑ์ การเรียนการวัดผล ไม่ต่างจาก มช. ผลคงออกมาเช่นเดียวกัน ผมไม่ตำหนิเด็กดอก ที่ควรตำหนิคือ พ่อแม่ ที่ไม่รู้จักให้คำแนะนำที่ดี เด็กคนนี้ เล่นดนตรีได้ดี เป็นมือต้นๆ ของรุ่นเขาเลย หากส่งเสริมให้ถูกทาง คงจะรุ่ง และทำเงินได้ไม่ยากในอนาคต ผมก็ใ้ห้ความเห็นไป  ที่ไหนได้ โดนเมียเพื่อน ด่ากลับซะเดินหนีแทบไม่ทัน บอกว่า ลูกของชั้น มีความสามารถ เข้าวิดวะได้ วิดวะ มช ก็เข้ามาแล้ว ทำไม จะเรียน วิดวะที่นี่ไม่ได้ ผมได้แต่ จากมาด้วยความเสียดาย เสียดายเงินของหลวง เสียดายเงินภาษีของประชาชน ที่ต้องเอามาจ่ายให้กะคนที่ ไม่เหมาะสม ที่สำคัญ ที่นั่ง นั้น อาจเหมาะกับเด็กคนอื่นที่มีความมุมานะ มีความชอบทาง วิดวะ มากกว่า เด็กคนนี้ก็ได้ วิดวะเครื่องกลนั้น ต้องเรียน Cal 4 ตัว เด็กคนนี้ สอบเลข ได้ 0 ได้  1 มาตลอด ผมยังจินตนาการไม่ออกว่า มันจะผ่าน cal 1 ไปได้อย่างไร คนเป็นพ่อแม่ หากไม่รู้อะไรเลย หากคิดหลงไปว่า ลูกตัวเอง เรียนได้ โดยไม่ดูพื้นฐาน ไม่ดูปูมหลังของเด็กเลย ผลเสียจะเกิดกับทุกฝ่าย ที่สำคัญ พ่อแม่เด็กคนนี้ การเงินขัดสนมาก หาเช้ากินค่ำ  เป็นหนี้คนไปทั่ว จ่ายมั่ง เบี้ยวมั่ง พอเด็ก ได้เรียน ก็ต้องไปกู้มาส่งลูก ซึ่ง ส่งไป ก้อใช่ว่าจะเรียนได้   น่าสังเวชใจนัก จากคุณ : น้าพร - [ 5 มิ.ย. 52 20:00:27 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ^ ได้เลข 0 กับ 1 มาตลอด สงสัยต้องให้เรียน Computer หรือ Control ครับ น้าพร จากคุณ : IRQ5 - [ 5 มิ.ย. 52 20:15:37 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนในโลก แม้ในหมู่นักเลงหรือเด็กเรียน ก็ย่อมมี"คนเก่ง"ครับ หากผู้เข้าสอบได้คะแนนไม่ถึงเกณฑ์ ผู้ออกสอบก็คงจะต้องพิจารณาตัวเองแล้วครับ จากคุณ : TimeTimeFruit - [ 5 มิ.ย. 52 20:19:51 ]

ความคิดเห็นที่ 28 เขาน่าจะให้เอาข้อสอบเดียวกันมาสอบเด็ก ม.6 สายสามัญ แผนวิทย์-คณิต ด้วยเลยนะครับ จะได้รู้กันไปเลยว่าใครโง่ว่าใครแบบเถียงไม่ได้ จากคุณ : powerconduit - [ 5 มิ.ย. 52 20:30:12 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ^ ได้เลข 0 กับ 1 มาตลอด สงสัยต้องให้เรียน Computer หรือ Control ครับ น้าพร จากคุณ : IRQ5 ---------------------------------- โอ้อ้อ้อ้ออออออออ   ใช่แล้ว เห็นทีจะจริง แล้วผม จะเอาไปบอก พ่อแม่เด็ก ให้ครับ ฮาาาาา จากคุณ : น้าพร - [ 5 มิ.ย. 52 21:19:22 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ผมว่าปัญหานี่น่าจะเป็นไม่มีคนสนใจจะสมัครเรียนมากกว่านะ เปิดรับ 500 คน มีคนมาสมัครแค่ 300 (เปิดรอบสองมาอีก 200) มีคนมาสมัครนิดเดียว แถมน่าจะเป็นพวกมาสมัครไปงั้นๆเผื่อฟลุคซะด้วย ดูจากคะแนนที่ออกมามันบอกได้อย่างนั้นอย่างเดียว ผมว่าทางมหาลัยต้องมาคิดให้หนักแล้วครับว่า "ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น" แก้ไขเมื่อ 05 มิ.ย. 52 22:48:21 จากคุณ : เกียงอุยศิษย์มังกรหลับ - [ 5 มิ.ย. 52 22:47:21 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr. Fusion - [ 6 มิ.ย. 52 01:56:47 ]

ความคิดเห็นที่ 32 เข้ามาดูด้วยคนค่ะ  เรื่องแบบนี้มันอยู่ที่ตัวบุคคลด้วยนะเราว่า... จากคุณ : นู๋ขี้สงสัย - [ 6 มิ.ย. 52 10:04:44 ]

ความคิดเห็นที่ 33 เพื่อนร่วมงานผมเคยเป็นอาจารย์พิเศษที่นี่ครับ ผมถามว่า เกิดจากอะไร เค้าไม่ตอบครับ แต่หัวเราะ หึหึหึ เอ มันหมายความว่าไงหว่า..... จากคุณ : วิลลี่ มักกล้วยทอช (EddyFusher) - [ 6 มิ.ย. 52 13:38:01 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ที่นี่อีก ครับ น่าสงลูกหลานเข้าไปเรียนมากทีเดียว ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.บุษ ( นามสมมติ ) อายุ 18 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 1 สาขาวิชาเทคโนโนยีสถาปัตยกรรม มหาวิทยาลัยเทคโนโยลีราชมงคล ตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย เข้าร้องมูลนิธิปวีณาช่วย หลังถูกรุ่นพี่ รับ น้องโหด โดยเล่าว่า หลังเปิดภาคเรียน เมื่อวันที่ 1 มิ.ยที่ผ่านมา ในทุกๆ เย็น รุ่นพี่จะพาน้องทุกคนมาเข้าร่วมกิจกรรมการรับน้อง วันแรกที่มีการเข้า ร่วมกิจกรรม ตนและเพื่อนๆ ถูกรุ่นพี่บังคับให้กินกระดาษที่มีหมึกปากกาเขียนอยู่เต็ม แผ่น โดยฉีกแบ่งกันกิน และให้อมจนหมึกละลายและกลืนลงไปห้าม คายออก ส่วนเพื่อนที่มีปัญหาด้านสุขภาพถูกรุ่นพี่เพ่งเล็งและทำโทษหนัก กว่าเดิม บางคนที่เคยประสบอุบัติเหตุที่ศีรษะอย่างรุนแรง ได้แจ้งให้รุ่นพี่ทราบแล้ว แต่กลับถูกรุ่นพี่ทำโทษด้วยการตบที่ศีรษะอย่างแรงและบ่อยครั้ง จนต้องลา ออกไปในที่สุด บางวันรุ่นพี่ก็ทำโทษให้รุ่นน้องกินพริกขี้หนูสดๆ โดยนำพริกใส่ถ้วยให้รุ่น น้องกินจนกว่าจะหมด โดยห้ามไม่ให้ดื่มน้ำอย่างเด็ดขาด ซึ่งตนและเพื่อนๆ ถูกทำโทษในลักษณะนี้ทุกวันตั้งแต่เปิดเรียนมาโดยในแต่ละวัน จะมีรุ่นพี่มาคอยคุมตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นช่วงเวลาใด แม้กระทั่งช่วงพักเที่ยงก็จะถูกรุ่นพี่มารับน้อง นอกจากนี้ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา รุ่นพี่ยังสอนให้พกพาอาวุธมีดหรือดาบพร้อม ปลูกฝังทัศนคติที่ไม่ดีกับสถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน โดยบอกว่าคือศัตรู ตน จึงเข้าร้องเรียนขอความช่วยเหลือ และตนเองก็จะขอย้ายไปศึกษาที่สถาบัน อื่น เพราะไม่สามารถรับพฤติกรรมของรุ่นพี่ได้ จากคุณ : น้าพร - [ 7 มิ.ย. 52 20:34:00 ]

ความคิดเห็นที่ 35 สมัยปี47 ตอนผมจบปวช.ใหม่ๆ ข้อสอบที่ปทุมวันนี่อ่อนมากครับ จำได้ว่าข้อแรกๆให้ +- เลขหลักหมื่น...................พอข้อหลังๆค่อยมีแคลคูลัสให้สัมผัสบ้างนิดหน่อย ผมว่าปรับปรุงเรื่องระบบคัดเลือกน่ะดีแล้วครับ จะได้คัดแต่คนที่มีคุณภาพเข้าไปเรียน จากคุณ : jubchay - [ 8 มิ.ย. 52 21:48:10 ]

ความคิดเห็นที่ 36 วิทย์ 14 คณิต 14- เรียกคิดที่จะเรียนวิศวะเหอะ จากคุณ : Walker G-543 - [ 9 มิ.ย. 52 05:33:50 ]