ความคิดเห็นที่ 1 เคยได้ยินมาว่ากับตันจะสั่งปิดเตาปฏิกรนิวเคลียร์ก่อนอะ จากคุณ : fah_999_9 - [ 9 มิ.ย. 52 19:49:46 ]

ความคิดเห็นที่ 2 เจ้าของกระทู้คิดว่า เวลาเตาปฏิกรณ์ มันระเบิดจะเหมือนกับฮิโรชิม่ากับนางาซากิ เหรอครับ มันไม่ระเบิดหรอกครับ แต่ที่น่ากลัวคือการรั่วไหลของรังสี เวลา เกิดปัญหาขึ้นมา ทางกัปตันจะสั่งปิดเตาปฏิกรณ์ ก่อนเพื่อนเลยครับ แล้วไปใช้พลังงานสำรองแทน ดังนั้น สบายใจได้ แต่ถ้าสั่งปิดเตาไม่ทัน ก็ตัวใครตัวมัน รังสีรั่วครับ จะเหมือนกับเหตุการณ์ที่ เชอร์โนบิล คือ รังสีรั่วออกมา โดยที่ประชาชนไม่รู้สึกตัว จนกลายเป้นมะเร็งไปตามๆกัน (มันไม่ระเบิดเหมือนระเบิดนิวเคลียสที่ใข้ทำลายล้างนะครับ ไม่ต้องกลัว) จากคุณ : Ice-man - [ 9 มิ.ย. 52 19:52:46 ]

ความคิดเห็นที่ 3 โดยปกติ มีกำแพงหลายชั้นคอยป้องกันตัวเตาปฎิกรณ์อยู่ แต่ถ้าโดนขีปนาวุธยิงจังๆ ก็ถือว่าซวยครับ ไงๆก็กันไม่อยู่หรอก  แต่ถ้าหากโดนยิงส่วนอื่นที่ไม่ใช่เตา ก็คงเสียหายหนัก แล้วเรือจะรีบปิดเตาปฎิกรณ์ของตัวเองครับ- เพื่อป้องกัน รังสีรั่วไหลโดนลูกเรือและป้องกันเชื้อเพลิงนิวเคลียร์รั่วไหล โดยหันไปใช้ ระบบขับเคลื่อนสำรองอย่างดีเซล/แบตเตอรี่ . . แต่ถ้าโดนเข้าเต็มที่กลางเตาปฎิกรณ์ ก็เละแต่ถึงระเบิดก็ไม่ได้กลายเป็น นิวเคลียร์ครับ แต่จะเกิดเหตกัมมันตรังสีรั่วไหล เป็นบริเวณกว้าง และ กระแสน้ำในอ่าวไทยค่อนข้างอ่อน และวนภายในอ่าวค่อนข้างเยอะ เมื่อ เทียบกับพื้นที่ทะเลเปิด  ดังนั้นคงเกิดเหตรังสีปนเปื้อนไปอีกนานพอดู (แต่ก็ไม่เท่ากับเชอร์โนบิล- เพราะขนาดเตาแตกต่างกันมาก + น้ำมีการ ไหลเวียนง่ายกว่า) จากคุณ : Kross_ISC - [ 9 มิ.ย. 52 19:53:21 ]

ความคิดเห็นที่ 4 เรือรบพลังงานนิวเคลียร์ ที่จขกทงว่ามานั้น ในการออกแบบเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ เมื่อเกิดเหตุระบบจะปิดตัวเอง เพื่อป้องกันความเสียหายและป้องกันการรั่วไหลที่จะเกิดขึ้นครับ ตัวอย่างที่เหตุได้ชัดคือ กรณี อุบัติเหตุเรือดำน้ำรัสเซีย K-141 Kursk จากคุณ : กกร่ม - [ 10 มิ.ย. 52 15:14:49 ]

ความคิดเห็นที่ 5 เมื่อปีที่แล้ว วันที่ 12 สิงหาคม ปีพ.ศ 2543 เรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ Kursk ซึ่งเป็นเรือดำน้ำที่ทันสมัยที่สุด ของกองทัพเรือรัสเซีย ได้เกิดอุบัติเหตุจมลง ระหว่างการฝึกซ้อมบริเวณทะเลบาแรท ( Barents Sea ) พร้อมกับชีวิตลูกเรืออีก 118 คน บริเวณที่เกิดเหตุ จากคุณ : กกร่ม - [ 10 มิ.ย. 52 15:16:21 ]

ความคิดเห็นที่ 6 เปรียบเทียบระดับความลึกที่ เรือจม จากคุณ : กกร่ม - [ 10 มิ.ย. 52 15:17:22 ]

ความคิดเห็นที่ 7 1. ปฏิกรปรมาณู เรือดำน้ำเคิร์สค์ เป็นเรือดำน้ำพลังงานปรมาณู  ซึ่งพลังงานถูกปิดลงเมื่อเรือดำน้ำจมลงสู่ก้นทะเลทำให้เรือดำน้ำไม่สามารถใช้พลังงานความร้อนเพื่อปรับอุณหภูมิ พลังงานไฟฟ้าเพื่อใช้แสงสว่าง และเครื่องกรองอากาศ แต่เรือดำน้ำก็ยังพอมีพลังงานสำรองจาก แบตเตอรี่ ซึ่งพอจะใช้ได้ในช่วงเวลาจำกัด 2. ที่อยู่ของลูกเรือ ลูกเรือทั้งหมดที่รอคอยความช่วยเหลือต้องอดทนรออยู่ในความมืด ที่หนาวเหน็บ ทุกคนต้องพยายามใช้พลังงานให้น้อยที่สุด เคลื่อนไหวน้อยๆ หายใจช้าๆเพื่อประหยัดอากาศหายใจ กำลังใจและความเข้มแข็งเท่านั้นที่จะทำให้พวกเขามีโอกาสรอด แม้ว่าลูกเรือดำน้ำทุกคนเคยได้รับการฝึกให้รับมือกับอุบัติเหตุมาแล้ว แต่ก็เป็นที่รู้กันในหมู่ทหารว่า เรือดำน้ำนั้นเปรียบเหมือน "โรงศพเหล็ก" ของพวกเขา 3. ศูนย์บัญชาการ และควบคุม เรีอดำน้ำเคิร์สค์ เป็นเรือธงที่มีอุปกรณ์ควบคุม และบัญชาการที่สลับซับซ้อนและทันสมัยแต่อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นระหว่างการซ้อมรบ  ทำให้ลูกเรือต้องขอความช่วยเหลือโดยวิธีพื้นฐาน คือเคาะที่ลำเรือ เพื่อขอความช่วยเหลือจากภายนอกแทน 4. ความเสียหาย ทางรัสเซียแจ้งว่า เรือดำน้ำเคิร์สค์ได้รับความเสียหายที่หัวเรือ และมีบางส่วนของเรือดำน้ำถูกน้ำท่วม หอที่ใช้ในการสำรวจ และสอดแนมได้รับความเสียหาย นอกจากนี้ฝาปิดท่อจรวดนำวิถีด้านขวาของตัวเรือหลุดหายไป และเพื่อหนีน้ำท่วมที่บริเวณด้านหน้าลำเรือ ลูกเรือทั้งหมดน่าจะหลบไปด้านหลังของเรือดำน้ำ 5. จรวดนำวิถี เรือดำน้ำเคิร์สค์ สามารถติดตั้งจรวดปรมาณูนำวิถีจำนวน 24 ลูก แต่กระทรวงกลาโหมรัสเซียแจ้งว่าไม่มีจรวดนำวิถีดังกล่าวติดตั้งอยู่ขณะที่เรือจมแต่มีผู้กังวลว่าระเบิดปรมาณูนำวิถีเหล่านี้อาจถูกทิ้งไว้ที่ก้นมหาสมุทร และวันหนึ่งอาจมีสารกัมมันตภาพรังสีรั่วไหลออกมาทำความเสียหายแก่สิ่งมีชีวิตและสิ่งแวดล้อมในท้องทะเล จากคุณ : กกร่ม - [ 10 มิ.ย. 52 15:20:23 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ภาคการเตรียมตัวการต่อเทียบเชื่อมระหว่างเรือกู้ภัย LR5 กับ Kursk แต่ก็ช้าเกินไปในการช่วยเหลือ จากคุณ : กกร่ม - [ 10 มิ.ย. 52 15:23:47 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ปฎิบัติการกู้เรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ Kursk Submarine จากคุณ : กกร่ม - [ 10 มิ.ย. 52 15:27:00 ]

ความคิดเห็นที่ 10 12 August 2000: The Russian submarine K-141 Kursk, a nuclear-powered cruise missile submarine of the Oscar II class, was participating in military exercises in the Barents Sea north of Russia when a massive explosion rocked the vessel. The blast ruptured the hull sending the Kursk into a terminal dive towards the sea floor 350 ft (105 m) down. Though 23 of the 118 crewmembers survived the initial sinking, attempts to rescue them failed. The men had perished from lack of oxygen and the vessel had completely flooded by the time divers were able to enter the wreck. Subsequent investigations concluded the sinking was caused by a fire in the torpedo room similar to the one that had sunk the USS Scorpion in 1968.       A torpedo's propellants ignited creating a large fire that soon caused the warheads of other torpedoes to detonate. The massive explosion ripped the forward part of the submarine open and quickly flooded the forward compartments. Russia indicated that no nuclear weapons were aboard, and the nuclear reactors were recovered in 2001 when the wreck was raised. เรือลำนี้จะใช้ในการปฏิบัติภารกิจกู้เรือ Kursk  ขึ้นมา จากคุณ : กกร่ม - [ 10 มิ.ย. 52 15:30:27 ]

ความคิดเห็นที่ 11 แทบไม่น่าเชื่อว่าคำตอบของปริศนานี้อาจจะมาจากจุดที่เกิดโศกนาฎกรรมหลายร้อยไมล์ ณ. ชนบทแห่งหนึ่งในอังกฤษ มีศูนย์ปฎิบัตการลับของรัฐบาลอังกฤษที่ชื่อว่า Blacknest Seismic Research Centre ศูนย์ดังกล่าวทำหน้าที่        ตรวจจับการทดลองนิวเคลียร์ทั่วโลก โดยอาศัยเครื่องวัดความสั่นสะเทือน และคลื่นเสียงใต้พื้นพิภพ ในวันที่ 12 สิงหาคมปีที่แล้ว ศูนย์ดังกล่าวได้จับคลื่นเสียงจากทะเลบาแรท บริเวณที่เรือดำน้ำ Kursk เกิดโศกนาฎกรรม คลื่นเสียงที่บันทึก ซ่อนสาเหตุของอุบัติเหตุคร้ังนี้ไว้        จากการแปลผลของคลื่นเสียงที่ตรวจจับได้ นักวิทยาศาสตร์สังเกตุพบการระเบิดใต้น้ำครั้งใหญ่ ซึ่งคาดว่าเป็นการระเบิดของตอปิโดซึ่งเก็บอยู่ในส่วนหัวของเรือดำน้ำ แต่ที่ยังเป็นปัญหาคือ อะไรเป็นสาเหตุให้ตอปิโดเกิดระเบิดขึ้น อาจจะเกิดจากการชนกับเรือดำน้ำ หรือทุ่นระเบิดใต้น้ำก็ได้        หลักฐานชิ้นสำคัญมาจากข้อมูลเสียงจากทะเลบาแรท ซึ่งบอกถึงเหตุการที่น่าสนใจ 2 นาที 30 วินาทีก่อนตอปิโดในเรือจะระเบิด เครื่องวัดจับสัญญานบางอย่างได้ ซึ่งทางรัสเซียเชื่อว่าว่าน่าจะเป็น "สัญญานของการชนกันของเรือดำน้ำ" นักวิทยาศาสตร์ที่ Blacknest Seismic ResearchCentre ได้ทำการวิเคราะห์สัญญาดังกล่าว ซึ่งมีความแรงน้อยกว่า สัญญานการระเบิดของตอปิโดในเรือถึง 100 เท่า        เนื่องจากว่าสัญญานเสียงที่มาจากการระเบิดใต้น้ำ กับการชนของวัตถุใต้น้ำนั้น มีลักษณะที่ต่างกันอย่างชัดเจน นักวิทยาศาสตร์จึงสามารถที่จะ จำแนกสัญญานได้ว่ามาจากเหตุการณ์ใด เหมือนดูรอยนิ้วมือของคนแต่ละคน จากคุณ : กกร่ม - [ 10 มิ.ย. 52 15:33:06 ]

ความคิดเห็นที่ 12 จากการวิเคราะห์พวกเขาพบว่าสัญญานดังกล่าวไม่ได้เกิดจากการชนของวัตถุใต้น้ำ แต่เป็นการระเบิดใต้น้ำ ซึ่งเป็นการระเบิดที่แรงน้อยกว่าการระเบิดของตอปิโดมาก ด้วยเหตุผลนี้จึงทำให้สามารถตัดขอสันนิฐานว่า อุบัตติเหตุครั้งนี้เกิดจากการชนกันของเรือดำน้ำไปได้ นอกจากนี้ยังสามารถที่จะตัดขอสันนิฐานเกี่ยวกับ ทุ่นระเบิดใต้น้ำได้อีกด้วย เนื่องจากแรงระเบิดจากทุ่นระเบิดใต้น้ำ มีความแรงมากกว่าสัญญานที่จับได้ นักวิทยาศาสตร์ และวิศวกรเรื่อดำน้ำ จึงต้องหาให้ได้ว่าเกิดอะไรขึ้นที่ 2 นาทีครึ่ง ก่อนจะเกิดการระเบิดครั้งใหญ่ ที่จมเรือ Kursk       ขอสันนิฐานใหม่ที่น่าจะเป็นไปได้ มาจากตัวตอปิโดเอง ด้วยสาเหตุที่ว่าตอปิโดที่ใช้ในกองทัพเรือรัสเซียนั้น ต่างจากตอปิโดทั่วไป ตอปิโดนั้นมีโครงสร้างง่ายๆ ประกอบด้วยตัวถังทรงกระบอก ที่บรรจุระเบิด เชื้อเพลิง และเครื่องยนต์ ปัญหาของตอปิโดนั้นอยู่ที่มันทำงานใต้น้ำ ซึ่งไม่มีอ็อกซิเจน มันจึงต้องนำอ็อกซิเจนลงไปด้วย เพื่อช่วยให้เครื่องยนต์ทำงานได้ ตอปิโดของรัสเซียนั้นใช้สารเคมีขื่อ ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ หรือน้ำยาล้างแผลเป็นตัวให้อ็อกซิเจน โดยปกติไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ เป็นสารเคมีที่ไม่ติดไฟ จึงไม่น่าจะเป็นอันตราย แต่มันจะทำปฎิกริยารุนแรงกับโลหะ และให้ก็าซอ็อกซิเจน        ผู้เชี่ยวชาญสันนิฐานว่าสารไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ ในตอปิโดอาจจะรั่วออกมาจากถังเก็บ และทำปฎิกริยากับโลหะ ที่อยู่ในตัวถังของตอปิโด ทำให้เกิดก็าซขึ้นในตัวถัง ปฎิกริยาดังกล่าวอาจจะทำให้แรงดันในตัวถังของตอปิโด มีมากขึ้นจนโลหะที่ทำตัวถังทนไม่ได้ เกิดระเบิดขึ้นเหมือนถังแก๊ซ แรงระเบิดดังกล่าวอาจทำให้ เกิดไฟใหม้ในห้องเก็บตอปิโด ความร้อนจะทำให้หัวระเบิดในตอปิโดลูกอื่นระเบิดขึ้น เป็นสาเหตุให้เรือดำน้ำ Kursk พบจุดจบ แรงระเบิดของตัวถังนั้น มีขนาดพอเหมาะกับสัญญานเสียงที่ตรวจจับได้อีกด้วย ภาพข้างล่างเป็นแบบแปลนของเรือดำน้ำ Kursk จากคุณ : กกร่ม - [ 10 มิ.ย. 52 15:35:57 ]

ความคิดเห็นที่ 13 การกู้ซากเรือดำน้ำเป็นไปอย่างเรียบร้อยและนำเข้าอู่เพื่อทำการตรวจสอบหาหลักฐาน จากคุณ : กกร่ม - [ 10 มิ.ย. 52 15:38:39 ]

ความคิดเห็นที่ 14 สภาพความเสียหายจากภายนอก แสดงให้เห็นถึงแรงระเบิดขนาดใหญ่ บริเวณหัวของเรือ จากคุณ : กกร่ม - [ 10 มิ.ย. 52 15:39:54 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ภาพความเสียหายด้านนอก จากภาพแสดงให้เห็นถึงโครงสร้างขนาดใหญ่ จากคุณ : กกร่ม - [ 10 มิ.ย. 52 15:41:01 ]

ความคิดเห็นที่ 16 มาสำรวจความเสียหายจากภายในกัน จากคุณ : กกร่ม - [ 10 มิ.ย. 52 15:42:54 ]

ความคิดเห็นที่ 17 แรงระเบิดมหาศาล ที่เกิดขึ้นภายในส่วนหัวของเรือ จากคุณ : กกร่ม - [ 10 มิ.ย. 52 15:44:11 ]

ความคิดเห็นที่ 18 อีกภาพ จากคุณ : กกร่ม - [ 10 มิ.ย. 52 15:44:48 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ความเสียหายจากแรงระเบิดและเกิดความร้อนมหาศาลทำให้เกิดการหลอมละลายวัสดุในลำเรือ จากคุณ : กกร่ม - [ 10 มิ.ย. 52 15:46:07 ]

ความคิดเห็นที่ 20 เรือ K-141 "Kursk" ไม่ได้ติดจรวดนิวเคลียร์ แต่ติดจรวดร่อนต่อต้านเรือความเร็วเหนือเสียงแบบ SS-N-18 Shipwreck/Granit ไว้ที่ข้างลำตัวเรือในแนวเฉียง  ซึ่งจรวดนี้ใช้หัวรบปกติ แต่มีความสามารถในการติดหัวรบนิวเคลียร์ได้ครับ เรือลำนี้ถูกออกแบบมาให้เป็นเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ที่ใช้จรวดร่อนเป็นอาวุธ(SSGN) ซึ่งไม่เหมือนกับเรือดำน้ำนนิวเคลียร์ติดขีปนาวุธทางยุทธศาสตร์(SSBN)      สาเหตุการระเบิดเนื่องจากตอร์ปิโดตามคลื่นน้ำท้ายเรือแบบ 65-76K ซึ้งใช้ไฮโรเจนเพอร์ออกไซด์เป็นเชื้อเพลิงนั้นเกิดเชื้อเพลิงรั่ว แล้วเชื้อเพลิงเกิดไปทำปฏิกริยากับพวกโลหะต่างๆ เลยเกิดประกายไฟและเกิดการระเบิดในครั้งแรกครับ ประกอบกับวันนั้นได้มีการทดลองยิงตอร์ปิโดจรวด VA-111 "Shkval" แบบใหม่ ซึ่งการยิงนั้นจะทำให้ความดันในคอมพาร์ทเมนต์ส่วนนั้นสูงมาก เลยเปิดประตูเพื่อลดความดันลง     ทำให้แรงระเบิดในครั้งแรก(ซึ่งไม่แรงมาก) เข้าไปถึงคลังอาวุธครับ หลังจากนั้นสิ่งที่เหลือคือ ชะตากรรมอันน่าเศร้าของเหล่าลูกเรือ K-141 ที่อยู่ในคอมพาร์ทเมนต์หลัง ซึ่งรอดชีวิตจากการระเบิด แต่ก็ต้องเสียชีวิตจากอากาศเป็นพิษในเวลาต่อมา(จากผลการทดสอบอากาศที่เก็บได้จากตอนเปิดฝาช่วยชีวิต) ในการระเบิดครั้งนี้ ระบบเตาปฎิกรณ์ไม่ได้รับความเสียหายแต่อย่างใด ความเสียหายส่วนใหญ่เกิดจากแรงระเบิดบริเวณส่วนหัวของเรือดำน้ำ ครับ อ้างอิงจาก http://www.aerospaceweb.org/question/weapons/q0268.shtml http://englishrussia.com/?p=845 http://www.fas.org/nuke/guide/russia/theater/949.htm จากคุณ : กกร่ม - [ 10 มิ.ย. 52 15:57:32 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ขอบคุณในข้อมูลขอรับ เอากีบไป จากคุณ : Ice-man - [ 10 มิ.ย. 52 19:20:31 ]

ความคิดเห็นที่ 22 แล้วปัจจุบัน เรือ K-141 "Kursk" มีสถานภาพยังไงบ้างครับ จากคุณ : Sweet-14 - [ 10 มิ.ย. 52 20:00:56 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr. Fusion - [ 13 มิ.ย. 52 13:01:06 ]