ความคิดเห็นที่ 1 ถ้าสมการหลายตัวแปร ก็ต้องมีสมการ(โดยปกติ) เท่ากับจำนวนตัวแปร อย่าง ถ้ามี 2 ตัวแปรก็ต้องมีอย่างน้อย 2 สมการ โดยใช้การเปลี่ยนรูปสมการให้เป็นความสัมพันธ์ระห่างตัวแปรอย่างเช่น มี 2 ตัวแปร(X กะ Y) จะต้องมีอย่างน้อย 2 สมการ Ex. X+Y = 10 ------------ สมการ 1 X - 2Y = 0 ------------- สมการ 2 จัดการเปลี่ยนสมการที่ 1 ให้กลายเป็น X = 10 - Y จากนั้นก็นำ 10-Y (ซึ่งก็คือ X) ไปแทนค่า X ในสมการที่ 2 ก็จะได้เป็น 10-Y-2Y = 0 10-3Y = 0 3Y = 10 Y = 10/3 จากนั้นก็นำค่า Y ไปแทนค่าในสมการ เพื่อหาค่า X ออกมา ก็คือ X + 10/3 = 10 X = 10-10/3 แต่ถ้าหลายตัวแปร(มากกว่า 2) อาจจะต้อง Matrix (ไม่ใช่ คีอานู รีฟ นะ) หรือใช้กระบวนการทาง Numerical Method หลายๆวิธี แต่ก็ซับซ้อนมากขึ้น แนะนำให้ศึกษาจาก หนังสือเกี่ยวกับ Numerical Method แก้ไขเมื่อ 10 มิ.ย. 52 23:46:06 แก้ไขเมื่อ 10 มิ.ย. 52 23:39:44 จากคุณ : xenophage (Xenophage) - [ 10 มิ.ย. 52 23:38:16 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ส่วนการคำนวณเกี่ยวกับ เลขยกกำลัง หรือ รากที่ 2 หรือ 3 (ซึ่งก็เป็นรูปหนึ่งของเลขยกกำลัง คือ รากที่ 2 จะหมายถึง ยกกำลัง 1/2 ส่วน รากที่ 3 จะหมายถึง ยกกำลัง 1/3) ในการคำนวณจะใช้ Logarithm (เขียนอย่างงี้หรือเปล่าหว่า) มาช่วยในการดึง เลขยกกำลังลงมา จากคุณ : xenophage (Xenophage) - [ 10 มิ.ย. 52 23:44:15 ]

ความคิดเห็นที่ 3 สมการหลายตัวแปร ตามปกติจะต้องมีจำนวนสมการเท่ากับจำนวนตัวแปร อย่างที่ คห 1 บอก จึงจะหาค่าได้ แต่บางครั้งก็อาจจะมีจำนวนสมการน้อยกว่าตัวแปรได้ แต่จะต้องมีเงื่อนไขอื่นๆ เสริม เช่น คำตอบที่ได้จะต้องได้ค่าทุกตัวแปรเป็นจำนวนเต็มบวก อะไรแบบนี้ เรียกกันว่าสมการไดโอแฟนไทน์ ตัวอย่างของโจทย์แบบนี้ที่เห็นกันบ่อยๆ  ก็เช่น มีผู้ชาย ผู้หญิง เด็ก รวมกัน 100 คน ช่วยกันขนไม้ 100 ท่อน โดยผู้ชายแต่ละคนแบกไม้ได้ 5 ท่อน ผู้หญิงแบกได้ 1 ท่อน เด็ก 20 คนช่วยกันแบกได้ 1 ท่อน ถามว่ามีผู้ชาย ผู้หญิง เด็ก อย่างละกี่คน ถ้าเขียนเป็นสมการ จะเป็นสมการสามตัวแปร แต่มีแค่สองสมการ คือ x + y + z = 100 5x + y + z/20 = 100 ถ้าไม่กำหนดอะไรมาเลย จะหาได้แค่ว่า 80x = 19z แต่เนื่องจากจำนวนคนจะต้องเป็นจำนวนเต็มบวกเสมอ ดังนั้นจึงมีค่าเดียวที่จะทำให้สมการเป็นจริงคือ x = 19, y = 1, z = 80 จากคุณ : เกียรตินำ - [ 11 มิ.ย. 52 00:07:13 ]

ความคิดเห็นที่ 4 บวกลบ ราก นั้น จะต้อง เป็นรากเท่ากัน ทั้งค่าราก และตัวเลขที่อยู่ในรากครับ ส่วนการคูณ หรือหารราก นั้น ถ้าค่าราก เท่ากัน เราตัดกัน หรือคูณกันได้เลย ทีนี้ ถ้า เป็น รากของเลข แล้ว กำลัง บวก หรือ ลบ กับเลขอื่น เราจะต้องใช้ แบบ conjugate ครับ คูณเข้าไป ส่วนผม เจอ ให้แยกตัวประกอบชุดนี้ครับ ยังหาคำตอบให้หลานไม่ได้เลยครับ X4  + 4 ครับ จากคุณ : น้าพร - [ 11 มิ.ย. 52 10:21:22 ]

ความคิดเห็นที่ 5 น้าพรครับ x^4 + 4 = (x^2 - 2x + 2)(x^2 + 2x + 2) หรือเปล่าครับ จากคุณ : ATiVidia - [ 13 มิ.ย. 52 20:47:15 ]