ความคิดเห็นที่ 1 1. อยากทราบเหตุผลในการเรียนต่อระดับ Ph.D. เหตุผลอื่นๆที่ไม่ใช่เพราะอยากเป็นอาจารย์มหาลัย ตอบ ทำงานใน บริษัทเอกชน ขนาดใหญ่ ที่ปรึกษา ธนาคาร ราชการ บริษัท อินเตอร์ ฯลฯมี ป.เอก เยอะแยะ รายได้สูง อายุประมาณ 30 ค่าจ้าง หกหลักทั้งนั้น 2. ความสำเร็จของคนที่จบการศึกษาระดับ Ph.D. ถ้าไม่นับเอาเรื่องการตีพิมพ์งานวิจัยใน journal ตอบ ก็สร้างประโยชน์ให้กับ ตนเอง องค์กร และประเทศชาติ เหมือน คนทั่วไป สายอาชีพอื่นๆ  ไม่ต่างกัน 3. ความคาดหวังของสังคมที่มีต่อ Doctor ด้วยครับ ตอบ สังคมไทยส่วนใหญ่ "คิดผิด" ต่อคำว่า Doctor เช่น Doctor ต้องรู้ทุกเรื่อง เก่งไปหมด (อันนี้พวกคนหลงดีกรี) หรือ Doctor รู้แต่ในตำรา นักวิชาการ ปฏิบัติไม่เก่ง (อันนี้องุ่นเปรี้ยว หรือ พวกอ่านหนังสือไม่เป็น) สิ่งที่สังคมควรจะต้องการจาก คนที่มีความรู้ มีสองอย่างคือ 1. ความรู้เชิงลึกเฉพาะทาง ใช้งานในด้านนั้นๆ 2. ความสามารถในการวิเคราะห์และเชื่อมโยงเหตุผล ใช้งานได้ถูกด้าน เพราะคนพวกนี้ถูกฝึกมาหลายปี"ให้เชื่อมโยงตรรกะและเหตุผล" (ตรงนี้คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยมีกัน เวลาเอาจริง ออกทะเลทุกที) ขอให้จำไว้ว่า "Ph.D. เป็นแค่ วุฒิ ใบหนึ่ง เป็นอาชีพหนึ่งเท่านั้น ไม่ต่างจากอาชีพอื่น ความถนัดของอาชีพนี้ถูกฝึกมาให้มี Skill เป็นเลิศในการวิเคราะห์สิ่งต่างๆ มีเหตุผลเชื่อมโยงยืนยัน  และในส่วนด้านเทคนิคแล้วจะถนัดลึกในสาขาที่ตนเองเรียนและทำวิจัยมาเท่านั้น" ขอบคุณครับ แก้ไขเมื่อ 11 มิ.ย. 52 10:10:30 จากคุณ : ไฟล์ท B ทีน้ำเงิน - [ 11 มิ.ย. 52 10:07:51 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ความสำเร็จ ไม่จำเป็นต้องจบ Ph.D. ก็ได้ครับ เห็นอาจารย์ที่ปิดทองหลังพระหลายๆท่าน ไม่ได้จบ Ph.D. ก็มีครับ แต่เหตุผลส่วนหนึ่งที่เรียนคือ         เงินเดือน แปรผันตรงกับ ปริญญา ถ้ามีโอกาส ก็ควรไขว่คว้าไว้ หลายๆคนมองหาโอกาส แต่มันไม่เคยวนผ่านมา ผมไม่คาดหวังว่าสังคมจะมองกลับมาตัวเรายังไง แต่ผมมองว่าเราจะทำให้อะไรแก่สังคม บางทีคนเราพอจบแล้ว เท้ามักจะไม่ถึงพื้นซ่ะนั้น ทั้งๆทีตอนเด็กๆยังก่อกองทรายซะงั้น ^_^ จากคุณ : Aumba_เด็กอนุบาล - [ 11 มิ.ย. 52 10:15:26 ]

ความคิดเห็นที่ 3 อยากทราบเหตุผลในการเรียนต่อระดับ Ph.D. เหตุผลอื่นๆที่ไม่ใช่เพราะอยากเป็นอาจารย์มหาลัย - อยากได้เงินเดือนสูงๆ (ซึ่งรู้แล้วว่าไม่ได้มาง่ายๆหรอก) ความสำเร็จของคนที่จบการศึกษาระดับ Ph.D. ถ้าไม่นับเอาเรื่องการตีพิมพ์งานวิจัยใน journal - ถ้าไม่นับเรื่องงานวิจัย นี่คิดไม่ออกค่ะ (เพราะยังไม่จบอ่ะ) และความคาดหวังของสังคมที่มีต่อ Doctor ด้วยครับ - ตาม #1 - อย่าคาดหวังว่าเราจะรู้อะไรหมด เราก็มนุษย์ นักศึกษา เดินดิน(จนๆ)คนหนึ่ง ที่มีความรู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางเท่านั้น (ตามงานที่ทำวิจัยจ้ะ) จากคุณ : พฤหัสบดี ที่ 5 - [ 11 มิ.ย. 52 10:48:01 ]

ความคิดเห็นที่ 4 1. อยากทราบเหตุผลในการเรียนต่อระดับ Ph.D. เหตุผลอื่นๆที่ไม่ใช่เพราะอยากเป็นอาจารย์มหาลัย ได้ทำงานวิจัยในสาขาที่ชอบและสนุกกับการทำงานวิจัย การเรียนต่อทำให้เราได้ทำวิจัยและรับประกันได้ว่าถ้าไม่ออกไปขายก๋วยเตี๋ยวก่อนก็จะได้ทำวิจัยไปจนจะเกษียณ และอีกอย่างการเรียน Ph.D. ยังฝึกฝนให้เราทำการวิจัยเอง เล่นจริง เจ็บจริง ไม่ใช้ตัวแสดงแทน ไม่มีสลิง 2. ความสำเร็จของคนที่จบการศึกษาระดับ Ph.D. ถ้าไม่นับเอาเรื่องการตีพิมพ์งานวิจัยใน journal ความภาคภูมิใจที่ได้ค้นพบสิ่งใหม่ๆที่เกิดจากการวิจัยของตัวเอง โดยทางอ้อมการเรียน Ph.D. จะสอนกระบวนการคิด การจัดการปัญหาต่างๆ ทำให้เรามีทักษะในการจัดการปัญหาและสามารถเอามาใช้ในชีวิตประจำวันได้ 3. และความคาดหวังของสังคมที่มีต่อ Doctor ด้วยครับ แสดงความคิดเห็นได้เต็มที่ทั้งคนที่เป็น Doctor และไม่ใช่ Doctor สังคมไทยคาดหวังว่าคนเป็น Doctor ก็รู้ทุกอย่าง แต่ความเป็นจริงเค้าก็รู้ดีที่สุดแค่ในงานที่เค้าทำมาก็แค่นั้น (สังคมคาดหวังกับคนที่มี Ph.D. สูงมาก) และนี่ก็คือความกดดันอย่างหนึ่งที่ทำให้เราต้องพัฒนาตัวเองตลอดเวลา จากคุณ : golfemp - [ 11 มิ.ย. 52 11:07:41 ]

ความคิดเห็นที่ 5 อยากทราบเหตุผลในการเรียนต่อระดับ Ph.D. เหตุผลอื่นๆที่ไม่ใช่เพราะอยากเป็นอาจารย์มหาลัย >>>  คิดผิด  (-   -'') >>>  เมื่อก่อนเคยคิดอยากเป็นนักวิจัย อยากทำวิจัย ไม่อยากสอน ความสำเร็จของคนที่จบการศึกษาระดับ Ph.D. ถ้าไม่นับเอาเรื่องการตีพิมพ์งานวิจัยใน journal >>> ถ้าไม่นับเรื่อง paper นับเรื่ององค์ความรู้ที่เกิดจากการวิจัยได้ป่าว แบบว่า ทำแล้วเอาไปประยุกต์ใช้ต่อได้ มีคุณค่าทางวิชาการ และความคาดหวังของสังคมที่มีต่อ Doctor >>> จบแล้วเป็นคนดีของสังคม ออกมาช่วยกันพัฒนาประเทศชาติ~ จากคุณ : Little Bean Sprouts* - [ 11 มิ.ย. 52 11:20:00 ]

ความคิดเห็นที่ 6 1. ชอบวิจัยครับ อยากวิจัยระดับสูงแต่ถ้าวุฒิไม่ถึงเค้าก็ไม่อยากให้ร่วมครับ 2. ได้รู้ในสิ่งที่อยากจะรู้ + ความรู้ที่ได้ถูกนำไปใช้ประโยชน์ในทางที่ดีกับมวลมนุษย์ 3. สังคมชอบคาดหวังครับคิดว่า Dr. ต้องรู้ทุกเรื่อง ความจำดี แต่จริงๆ แล้วอันนั้นไม่ใช่คุณสมบัติหลักของ Dr. ครับ สิ่งที่ทำให้ได้ Dr. มาคือความสามารถในการวิเคราะห์(ให้ความสนใจจากองค์รวม-> หน่วยย่อย) สังเคราะห์(ให้ความสนใจจากหน่วยย่อย -> องค์รวม) จากคุณ : มอนตะทาโร่ - [ 11 มิ.ย. 52 11:46:20 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ขอบคุณทุกความเห็นครับ ยังรอฟังความเห็นอื่นๆอยู่ครับ จากคุณ : No Free Lunch - [ 11 มิ.ย. 52 11:47:50 ]

ความคิดเห็นที่ 8 1. เงินครับ/ ค่าจ้างทุน พอๆ กับเงินเดือนบริษัท ก็ถือซะว่ามาทำงานสามสี่ปีแล้วได้วุฒิ ป.เอกไปด้วย แค่นั้น 2. ก็เงินอีกแหละครับ/ จบแล้วได้ ป.เอก ได้เงินมาอีกก้อน ทีนี้ก็มองหาที่ที่เค้าอยากจ้างนักวิจัยอาชีพต่อไป เพื่อเงินอีกนั้นแหละ จะมาหวังอะไรกับ Dr. ครับ Dr. ก็คน ทำงานหาเงิน เก็บไว้ใช้ยามป่วย ไว้ส่งลูกเรียน ไว้ให้พ่อแม่ใช้ เหมือนคนอื่นนั้นแหละ จากคุณ : kanoomtan - [ 11 มิ.ย. 52 11:55:52 ]

ความคิดเห็นที่ 9 นั่งรออ่าน fallacy เห็นด้วยว่าสังคมไทยคาดหวังกับคนจบ Ph.D. แบบผิดๆ และเชื่อคำพูดของคนจบด็อกเตอร์เกินพอดี พูดอะไรถูกหมดไม่มีผิด ซึ่งขัดแย้งกับกาลามสูตรของพระพุทธเจ้าเสียจริง จากคุณ : Cryptomnesia - [ 11 มิ.ย. 52 12:12:40 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ไม่ใช่ Doctor (ขอออกความเห็นหน่อย) เพื่อประดิษฐ์ในสิ่งที่เห็นว่า น่าจะช๊อคโลกได้สักครั้ง . . จากคุณ : อีคิวศูนย์ - [ 11 มิ.ย. 52 12:23:49 ]

ความคิดเห็นที่ 11 มีเวลาลองอ่านบทความสองบทความนี้ดู http://www.cs.purdue.edu/homes/dec/essay.phd.html http://wuphys.wustl.edu/~katz/scientist.html จากคุณ : PastelSalad - [ 11 มิ.ย. 52 12:58:41 ]

ความคิดเห็นที่ 12 บทความนี้ก็น่าสนครับ "เมื่อ 3 ว่าที่ด๊อกเตอร์คุยกัน" http://www.ie.eng.chula.ac.th/~pramual/blog/etc/21-12-2545-3phd.pdf ขอนั่งอ่านเงียบๆ นะครับ ความเห็นยิ่งหลากหลายยิ่งดีครับ ^_^ แก้ไขเมื่อ 11 มิ.ย. 52 13:11:10 จากคุณ : No Free Lunch - [ 11 มิ.ย. 52 13:05:00 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ผมเคยคุยกับเพื่อนที่จบด๊อกเตอร์มา     ตอนมันจบโทมา คุยกัน ถามมันว่าเป็นไงยากป่าววะ    มันบอกเรียนเรื่องเดียวๆกันกับที่เรียนตอน ปอตรีแหละ ง่ายกว่าที่เราเรียนกันอีกแต่เป็นอีกภาษาก็แค่นั้นเอง พอมันจบเอกมาเพิ่งจะเริ่มทำงาน      ผมทำงานมาหลายปีแล้วเพิ่งมีความคิดอยากเรียนต่อ  ได้คุยกัน   ผมบอกนายแน่มากได้ทุนเรียนจนจบเอกเลยนะด๊อกเตอร์ บ. ด๊อกเตอร์ บ. บอกว่า "มันนะไม่ได้มีอะไรเลย แค่เวลาเราพูดอะไรนะ คนเขาฟังเรามากขึ้นกว่าตอน จบปอตรี ปอโท ก็แค่นั้น" จากคุณ : He's just being modest. (Pier Gerlofs Donia) - [ 11 มิ.ย. 52 14:45:46 ]

ความคิดเห็นที่ 14 1.ยังไม่มีโอกาสได้เรียน แต่ถ้าจะเรียนก็เพราะสะใจในชีวิตที่ได้ศึกษา วิจัย สิ่งใดสิ่งหนึ่งให้รู้จริง 2.ได้มุมมองความคิดแบบดอกเตอร์ และอาจจะทำให้คิดมาก ปลงไม่ตกจนเกินพอดี 3.ต้องไปถามสังคม โดยส่วนตัวไม่คาดหวังนอกจากภูมิปัญญาที่เขามีแล้วพอจะสร้างแนวทางแก้ไขปัญหาให้เราได้ จากคุณ : sabtoat - [ 11 มิ.ย. 52 16:07:17 ]

ความคิดเห็นที่ 15 1. บังเอิญโชคดีพอดีมีโอกาส เลยอยากลองศักยภาพตัวเอง 2. มีชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างปกติสุข สามารถคิดเป็นทั้งทางโลกและทางธรรม ทำประโยชน์ให้กับผู้อื่นหรือสิ่งมีชีวิตอื่นๆ หรือกระทั่งสิ่งไม่มีชีวิตอื่นๆ ได้บ้าง 3. ความคาดหวังทางสังคม เท่าที่เจอนะ ชอบคิดว่าพวกด็อกต้องรู้ทุกเรื่อง เก่งไปหมด คิดว่าเป็นด็อกแล้วอีโก้สูง หวังว่าด็อกจะกู้โลกได้ภายในสามวันเจ็ดวัน จากคุณ : antares[em] - [ 11 มิ.ย. 52 17:01:50 ]

ความคิดเห็นที่ 16 เพื่อนผมคนนึงจบปริญญาเอกมาจากฟิลิปปินส์ Ego สูงมากๆ   ขนาดว่า ห้ามเถียง เพราะว่าข้าจบด๊อกเตอร์ จากคุณ : เต่าหลังอ่อน - [ 11 มิ.ย. 52 20:35:18 ]

ความคิดเห็นที่ 17 1. ด้วยความบังเอิญจึงได้เรียน แต่ถ้าเอาแบบขำๆที่ชอบคุยกัน        ในหมู่เพื่อนฝูงโดยเฉพาะสาวๆ ยิ่งโสดๆ ก็บอกว่าเอาไว้ปิดบัง         คำนำหน้าชื่อ นาง นางสาว มาเป็นดอกเตอร์แทน อิ อิ 2. ความสำเร็จนอกจาก paper ก็คือการได้เรียนรู้ประสบการณ์ชีวิตอีกแบบ 3. ความคาดหวังของสังคมที่มีต่อบุคคลเหล่านี้ ก็เป็นอีกคนที่จะทำให้ประเทศชาติเจริญได้อีกขั้น และทำประโยชน์เพื่อสังคมได้ตามวิชาที่ได้ร่ำเรียนมาคะ จากคุณ : พราวเพชร - [ 12 มิ.ย. 52 00:06:48 ]

ความคิดเห็นที่ 18 เอาจริงๆเลยนะ เพื่อให้อยู่ใกล้ๆคนที่เรารักนานขึ้นอีกสี่ปี เรื่องเงินไม่ใช่ประเด็น มีคนบ้าไม่กี่คนหรอกที่เสียเงินนับสิบล้าน เพื่อกลับมารับเงินเดือนสองหมื่น (พอดีคนบ้ามักมาเจอกันพอดีในสถาบันเดียวกันเสียด้วย) สาขาวิชาเรา จบมาก็ได้แค่นี้แหละ ที่เหลือไม่มีความเห็น รู้แต่ว่า คำกล่าวที่ว่า PhDฉลาดลึกแต่โง่กว้าง ไม่จริงเสมอไป เพราะ ไม่ว่าจะลึก ตื้น กว้าง ยาว ไม่เห็นจะฉลาดตรงไหน โง่มันหมดนั่นแหละ แต่ความสำเร็จที่รอคอย คือได้เปิดโลก เปิดแนวคิดใหม่ๆให้กับเยาวชนและแวดวงสาขาวิชาของเรา แค่นั้นแหละที่ลงทุนไปทั้งหมด รอแค่นี้ค่ะ จากคุณ : scarlett - [ 12 มิ.ย. 52 01:53:32 ]

ความคิดเห็นที่ 19 เหตุผล เพราะอยากเรียนให้มันสุด ไม่ได้จะเป็นอาจารย์ ผมทำงานเพื่อเงินมั้งครับ จากคุณ : เด็กสร้างบ้าน คนสร้างภาพ - [ 12 มิ.ย. 52 06:03:10 ]

ความคิดเห็นที่ 20 เคยเห็นโฆษณารถยนต์ยี่ห้อหนึ่งมาขับขี่ผาดโผนฉวัดเฉวียน แล้วขึ้นว่า "Not that I would, but I could" ผมว่าการเรียน PhD มันก็เป็นโอกาสอย่างหนึ่งให้พบกับสังคมของผู้ที่เกี่ยวข้องกับ PhD เช่น อาจารย์เก่งๆ เพื่อนเก่งๆ บริษัทที่ทำงานวิจัย ความสำเร็จของคนที่จบการศึกษาระดับ PhD อย่างหนึ่งน่าจะเป็น การรู้และยอมรับได้อย่างจริงใจในความไม่รู้ของตัวเอง จากคุณ : 512 - [ 12 มิ.ย. 52 16:17:03 A:75.32.147.200 X: TicketID:031931 ]

ความคิดเห็นที่ 21 เรียน PhD เพราะ สัญชาติญาณ มันพาไป จากคุณ : ped cad - [ 14 มิ.ย. 52 16:54:03 ]

ความคิดเห็นที่ 22 อยากทราบเหตุผลในการเรียนต่อระดับ Ph.D. เหตุผลอื่นๆที่ไม่ใช่เพราะอยากเป็นอาจารย์มหาลัย ตอบ   สนใจในด้านที่เรียนต่อ แล้วรู้สึกว่าอยากเรียนให้ถึงที่สุดของวิชาความรู้         ในด้านนี้   แต่คิดผิด  ยิ่งเรียน ยิ่งรู้สึกว่า รู้น้อย  (ปล. ยังเรียนไม่จบ) ความสำเร็จของคนที่จบการศึกษาระดับ Ph.D. ถ้าไม่นับเอาเรื่องการตีพิมพ์งานวิจัยใน journal ตอบ   ยังไม่จบ  แต่ที่ทำงานเห็นว่าเราเอาเทคนิคใหม่ๆ มาใช้ในงาน แล้ว         มันช่วยให้คุณภาพงานดีขึ้น เพื่อนร่วมงานทำงานง่ายขึ้น ผู้ใหญ่เอาไปใช้ตัดสินใจได้ดีขึ้น และความคาดหวังของสังคมที่มีต่อ Doctor ด้วยครับ แสดงความคิดเห็นได้เต็มที่ทั้งคนที่เป็น Doctor และไม่ใช่ Doctor ตอบ   คนชอบคิดว่า เป็น ดร. ต้องเก่งทุกเรื่อง แล้ว ดร.บางคนก็คิดว่าตัวเองเก่ง         ตัวเองถูกอยู่คนเดียว  แต่สำหรับผม ยิ่งเรียนยิ่งรู้สึกว่าตัวเองโง่มาก         ตอนจบโท คิดว่ารู้มาก เป็นอึ่งอ่างพองลม ปัจจุบันรู้สึกว่าตัวเองตัวเล็กกว่ามด จากคุณ : Fred_Flintstone - [ 14 มิ.ย. 52 18:53:36 ]

ความคิดเห็นที่ 23 จากคหท. 18,20,22 สรุปได้ว่า ผู้มีปัญญามักเห็นความโง่เขลาและความไม่รู้ของตน จากคุณ : No Free Lunch - [ 14 มิ.ย. 52 22:41:03 ]

ความคิดเห็นที่ 24 จริงๆก็ไม่มีอะไรมาก ผมมันพวกชอบมีอะไรก้าวล้ำไปกว่าคนอื่น 1 step ผมอยากมีดาบคมๆเป็นอาวุธลับไว้กับตัว แต่ไม่ได้จะเอาไปเบ่งอวดทับใครนะ ผมจะไม่เอาออกมากวัดแกว่ง หรือพกหราโชว์กร่างให้ใครเห็น เพราะผมจะเก็บเอาไว้ในฝัก เอาซ่อนไว้เงียบๆ ไม่เปิดเผย ถึงไม่ได้ใช้ก็ไม่เป็นไร เก็บไว้แบบนั้นแหละ แต่เผื่อวันนึงข้างหน้า ผมอาจจะจำเป็นต้องใช้ จะได้ควักออกมาฟันฉับในดาบเดียว ให้คนตะลึง ตึ่งๆๆๆๆ นอกจากนี้ ผมเคยเห็นคนได้ทุนเรียน เป็นนักเรียนทุน มันเท่ดี ...ผมก็อยากได้มั่ง ผมเคยเห็นคนไปเรียนต่างประเทศ ได้ไปอยู่เมืองนอกนานๆ ...ผมก็อยากไปมั่ง เคยเห็นคนพูดกันว่า จบปริญญาเอกมันยาก ...ผมก็อยากรู้ว่ามันยากยังไง สุดท้าย ผมเคยเห็นเพื่อนคนนึง ดูเส้นลายมือให้เพื่อนอีกคนอย่างพินิจพิจารณา แล้วบอกว่า เส้นสมองมรึงดี ปัญญาดี แบบนี้เรียนจบปริญญาเอกได้เลย ผมก็เลยยื่นมือให้มันดูมั่ง มันเหลือบตาดูแว่บนึง แล้วก็ผลักมือผมออก แล้วพูดใส่หน้าว่า เส้นลายมือแบบมรึง เอาแค่เรียนจบปริญญาโทให้ได้ ก็บุญแล้ว.... โปรดใช้วิจารณญานในการรับชม จากคุณ : ช่างกล (mancunian) - [ 15 มิ.ย. 52 10:34:30 ]

ความคิดเห็นที่ 25 เรียนจบเอก ถ้าภาษาไม่ดีพอ (กรณีไม่ได้จบจากประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลัก) เวลาพูดก็อาจจะติดๆๆ ขัดๆๆๆ นิดหน่อย เคยเจอมากับตัวเองครับ บางคนเขาว่าตลก อ่ะ จบเอกพูดภาษาอังกฤษ แปลกๆๆ จากคุณ : wangthonglang - [ 15 มิ.ย. 52 22:46:40 ]