ความคิดเห็นที่ 1 เขาไปหาคู่กันตะหาก จากคุณ : Naruse_X - [ 13 มิ.ย. 52 22:39:04 ]

ความคิดเห็นที่ 2 เรียนเพื่อให้มีความรู้มากกว่า่ที่มีอยู่เดิม เรียนเพื่อเพิ่มความมั่นใจ เรียนตามกระแส เรียนในห้องเรียนพอไหม  ก็ต้องไปถามผู้เรียนเอา  แต่ละที่สอนไม่เหมือนกัน ความสามารถในการถ่ายทอดของคนสอนต่างกัน ทำไมต้องเสียเงินเพิ่ม  เพราะเค้าไม่ได้ให้เรียนฟรี คอมเครื่องนึงพอไหม  แล้วแต่คน ความสามารถในการเรียนรู้ของแต่ละคนไม่เท่ากัน คอมไม่ได้มีทุกเรื่องที่เราอยากรู้ จากคุณ : NaTArT - [ 13 มิ.ย. 52 22:39:47 ]

ความคิดเห็นที่ 3 บทเรียนไม่เคยเรื่องที่ผมอยากรู้ เอาคอมมายังดีซะกว่า จากคุณ : ร้อยละสิบสลึง - [ 13 มิ.ย. 52 22:44:22 ]

ความคิดเห็นที่ 4 แฟชั่น ,ตามเพื่อน , ไม่เรียนถือว่าเชย ไม่มีจุดยืนของตัวเอง จากคุณ : matsurii - [ 13 มิ.ย. 52 22:44:22 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ผมคิดว่าแต่ละคนไม่เหมือนกันนะครับ การเหมารวมว่าคนประสบความสำเร็จ เรียนพิเศษ หรือ ไม่เรียนพิเศษก็ได้ นั้นไม่ถูก คงจะอยู่ที่สภาพแวดล้อม ความสามารถหรือทักษะในการเรียนรู้ ความขยัน ... ของแต่ละบุคคลเองนะครับ จากคุณ : Phoenix032 - [ 13 มิ.ย. 52 22:44:46 ]

ความคิดเห็นที่ 6 1. หาคอมพิวเตอร์ให้ ไม่พอครับ เพราะเด็กบางคน เปิดคอมมาก็ Hi5, chat, ฟังเพลง ไม่สนใจจะหาความรู้ แต่ถ้าไปอยู่ในห้องเรียนพิเศษ เล่นของพวกนี้ไม่ได้ เป็นการบังคับให้เรียนครับ 2. การเรียนพิเศษ ไม่จำเป็น ถ้าเด็กตั้งใจจะเรียนด้วยตัวเอง ก็ทำได้  ตอนผมเรียน ม.5-6 ก็ไม่ได้เรียนพิเศษ ยังสอบเอ็นทรานซ์ได้ บางคนพอมีเวลาว่างก็เอาแต่เล่น ไม่สนใจเรียน ก็ไม่รู้เรื่อง บางคนสนใจ ตั้งใจเรียน แต่ไม่เข้าใจ การที่มีคนช่วยสอนก็จะช่วยได้ จากคุณ : ผลึกความคิด - [ 13 มิ.ย. 52 22:46:36 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ถ้าเป็นเด็กกันเองแล้วจะเข้าใจครับ ผมเห็นหลายกระทู้แล้วตั้งแบบนี้ ถ้าคุณลอง delete ข้อมูลในสมองคุณใหม่หมด ลองไปนั่งเรียนในห้องธรรมดาดูครับ แล้วคุณจะหลับดีกว่า คุยดีกว่า ipod ดีกว่า อาจารย์ธรรมดาไม่ได้มีการสอนเทคนิคอะไรดีมากมาย ไม่มีแรงจูงใจ เข้ามาก็บ่น ให้การบ้าน ไปศึกษาเอง ก็ต้องไปศึกษาข้างนอกอยู่ดี ใน google ไม่ได้มีอะไรไปสักทุกอย่างหรอก ถ้าผมหาโปรแกรมสักโปรแกรมนึง เช่น XXX ผมพิมพ์ไป download xxx เวบที่ 1 เข้าไปไฟล์หมดอายุ เวบที่ 2 คุณลองไปหา google ดูสิ เวบที่ 3 คุณลองไปหา google ดูสิ เวบที่ 4 เข้าไปไฟล์หมดอายุ เวบที่5 คุณโดนกับดักแล้ว spyware เวบที่ 6 เข้าไปหาใน google ดูสิ . . . หว้ากอก็เหมือนกัน กระทู้ xxx เข้ามาลองค้นกระทู้ดูสิ เดจาวูแล้ว พอค้นก็เจอทุกกระทู้เข้าไป ลองค้นดูสิๆ เดจาวู แล้วเนื้อกระทู้จริงๆอยู่ไหน??? มันจะเป็นเรื่องของอนันต์ต่อไป โจทย์ในเวบมันก็ไม่ค่อยมีหรอก หรือถ้ามีจะให้อ่านให้ตาเน่าทั้งวันอะเหรอ? ได้ใช้แต่สัมผัสทางตา เบื่อ!!! เรียนในห้อง 3 คาบ 150 นาที เช่นเคมี/สัปดาห์ ไปเรียนอาจารย์อุ๊บ 2 ชม./สัปดาห์ยังเข้าใจกว่า ใน รร.ให้จดเองงี้ก็ช้า เนื้อหาเยิ่นเย้อ ไม่เชื่อลองไปซื้อหนังสือกระทรวงมาดู แล้วเปรียบเทียบหนังสือเรียนพิเศษก็น่าจะเข้าใจกันแล้ว ปัจจุบัน 1 คอร์สห้อง DVD ทั่วไป 3000 บาท ประมาณ 20 ครั้ง อะ แต่!!! การเรียนครูติวเดี่ยวเริ่มเยอะขึ้นแล้ว 2 ชม./สัปดาห์ ชั่วโมงละ 250 ค่ารถให้ครูอีก พบได้ตามร้าน star bug ถ้าไม่เรียนโจทย์ก็ออกมาให้ทำยากๆ ก็ตามไม่ทันอะครับ ถ้าไม่เรียนจะสู้เพื่อนได้เหรอ? จากคุณ : คนรักแมวมาก - [ 13 มิ.ย. 52 22:54:08 ]

ความคิดเห็นที่ 8 เรียนในห้องเรียนพอมั้ย? -พอครับ แต่ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ว่าเด็กนำความรู้จากในห้องไปใช้ในชีวิตประจำวันมากกว่า เป้าหมายที่เรียนกันทุกวันนี่ก็เพื่อการสอบเข้ามหาวิทยาลัยครับ เป็นอย่างเดียวที่ทำให้ธุรกิจการสอนพิเศษดำรงมาได้จนถึงทุกวันนี้... จากคุณ : CaminoReal - [ 13 มิ.ย. 52 22:55:11 ]

ความคิดเห็นที่ 9 1 การศึกษามาอาจไม่ได้คุณภาพตามที่ต้องการ 2 อั๊พเกรด อยากได้เกรด A ทุกวิชา 3 วิชาที่อยากเรียน ไม่มีให้เรียน 4 ต้องเรียนพิเศษ เพราะพ่อแม่หวังอยากให้ลูกได้ดี จากคุณ : สาวใหม - [ 13 มิ.ย. 52 22:57:17 ]

ความคิดเห็นที่ 10 สำหรับผม ผมไปเรียนนะ คิดว่ามันจำเป็นอ่ะ แล้วผมก็เป็นคนอ่านหนังสือเรียนเองไม่ค่อยรู้เรื่อง ต้องมีคนอธิบายให้ฟัง พูดตามตรง เรียนในห้องเรียนมันไม่พอน่ะครับ สอบ PAT ครั้งแรกออกแคลคูลัส ตั้งแต่ยังไม่ขึ้นม.6 มีคอมก็ดีนะ หาความรู้แปลกใหม่ๆได้ เรียนพิเศษก็ดี ได้ความรู้ที่ไม่ได้ในห้องเรียนเยอะเหมือนกัน บางคนก็ประสบความสำเร็จโดยไม่ต้องเรียนพิเศษก็มีครับ เอาเวลาไปเรียนพิเศษยังดีกว่าไปเถลไถลทำเรื่องไม่ดีนะครับ ^^ จากคุณ : Saturndays - [ 13 มิ.ย. 52 22:59:12 ]

ความคิดเห็นที่ 11 เรียนเพื่อเกรด...กูเกิ้ลไม่สามารถช่วยเพิ่มเกรดได้ จากคุณ : นายขนมหวาน - [ 13 มิ.ย. 52 23:01:03 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ไม่เคยเรียนพิเศษใดๆ ทั้งสิ้น แม้แต่ภาษาอังกฤษเรียนที่โรงเรียนเท่านั้น สมัยไปเรียนต่างประเทศประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี ดู MyBlog จากคุณ : Practical x 2 - [ 13 มิ.ย. 52 23:01:18 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ก็แล้วแต่คนสิครับ คือเป็นคนในบ้านเองเนี่ย น่าจะรู้จักเด็กคนที่จะเรียนพิเศษดีที่สุดนะ ลองเรียนหลายๆ วิธี เรียนด้วยตัวเอง เรียนพิเศษเป็นกลุ่ม เรียนพิเศษเดี่ยวๆ ผมว่าถ้าลองดูแล้วการเรียนมันดีขึ้นก็ให้ทำไปเหอะครับ วิธีไหนก็สนับสนุนกันไป ถ้าไม่ดีค่อยเลิก มัวมานั่งเถียงว่าเรียนไม่เรียน จะเสียเวลาเปล่า (ถ้าไม่บ่จี๊จริงๆนะ) แต่จขกท.เหมือนไม่อยากให้เรียนพิเศษอยู่แล้วหนิ ดูอคติยังไงไม่รู้ ปล.อีกนิด ต่อให้คนในนี้ ทุกคนตอบว่าไม่ต้องเรียนพิเศษก็เก่งได้ มันก็ไม่สามารถเอาไปเป็น หลักในการตัดสิน ว่าจะให้คนของคุณไม่ต้องเรียนพิเศษก็เก่งได้ เพราะคนเรามันต่างกัน แก้ไขเมื่อ 13 มิ.ย. 52 23:14:20 จากคุณ : bermby38 - [ 13 มิ.ย. 52 23:10:07 ]

ความคิดเห็นที่ 14 เออ คุณมันเก่ง ไม่ต้องเรียน ผมมันโง่เลยต้องเรียนไง อ่านเองมันไม่รู้ต้องไปจ้างเค้าสอนเพิ่มถึงรู้ นี่ล่ะเหตุผลที่เรียน จากคุณ : อั้ม แฟนคลับ Liv tyler (อั้ม ติ่งเหลือม) - [ 13 มิ.ย. 52 23:12:07 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ไปเพิ่มความรู้ ไปเข้าสังคม ไปหาสาว ดีกว่าปิดตัวเองกับคอมครับ จากคุณ : pop_mmt - [ 13 มิ.ย. 52 23:19:50 ]

ความคิดเห็นที่ 16 หาสังคมครับ จากคุณ : Mypaa - [ 13 มิ.ย. 52 23:21:05 ]

ความคิดเห็นที่ 17 คห 7 ไปหาอะไรคับนั่น xxx ถามกลับว่า ถ้า จขกท มีลูกจะกล้าให้ไม่ไปเรียนพิเศษแล้วยกโน้ตบุ๊คให้ 1 เครื่องไปไว้ในห้องนอนป่ะ จะว่าไปความจริงก็ต้องแก้กันที่ระบบการศึกษานั่นแล (พูดกันมาตั้งกะสมัยผมเรียนประถมจนตอนนี้จะสามสิบแล้ว) รีบทำเสียก่อนที่สถาบันสอนพิเศษจะมีทุนหรือำนาจมากพอที่จะเอามาใช้เป็นเครื่องมือต่อรองทางการเมืองให้ได้นะครับ มิเช่นนั้นอนาคตระบบการศึกษาไทยคงจะตกอยู๋ภายใต้เงื้อมมือสถาบันกวดวิชาจนยากที่จะแก้ไขอะไรอีกแล้ว จากคุณ : nisas - [ 13 มิ.ย. 52 23:30:10 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ก็มันให้สอบเอ็นครั้งสุดท้ายก่อนที่คุณจะเรียนจบ ม6 แล้วมันจะไม่เรียนได้ไง (ผมไม่เรียนนะ 555) จากคุณ : rikusu - [ 13 มิ.ย. 52 23:30:43 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ชอบ #7 ตรงที่ใช้หว้ากอเป็นตัวอย่างนี่แหละ โดนได้ใจ จากคุณ : KiDMaIOoK - [ 13 มิ.ย. 52 23:32:17 ]

ความคิดเห็นที่ 20 คนออกข้อสอบ ออกให้ยากกว่าที่เรียน ม ปลาย หรือเปล่าครับ จากคุณ : 1812Overtureyoot - [ 13 มิ.ย. 52 23:41:15 ]

ความคิดเห็นที่ 21 แนวข้อสอบไม่ได้อยู่ในบทเรียนหรืออินเตอร์เน็ท แต่มันอยู่ในคอร์สเรียนพิเศษ จากคุณ : AW Milan - [ 13 มิ.ย. 52 23:55:21 ]

ความคิดเห็นที่ 22 เรื่องแบบนี้ ถ้าไม่มาเป็นคนที่โดนระบบกลั่นแกล้ง ก็ไม่รู้สึกอะไรหรอก.. ลองมา ent' กันใหม่มั้ยล่ะครับ เด็กก็ไม่ได้ผิดอะไร ไม่ได้โทษระบบ ก็แค่ไหลตามระบบไป อะไรกัน ตูเรียนไม่จบไหงมันให้ตูสอบแล้ววะ (สทศ บอกอย่างหน้าตายว่า "ยังไงก็เรียนไม่จบเหมือนกันทั้งประเทศ") ถามว่าสอนที่โรงเรียนพอไหม ? ตามหลักสูตรมันก็อาจจะพอ แต่คนสอนบางคนก็วนไปวนมา.. เหมือนบังคับให้เราไปศึกษาเองกลายๆ ซึ่งถ้าเราอ่านเองรู้เรื่องหมด โรงเรียนก็ไม่ต้องมีมันแล้ว.. เนื้อหาก็อัดกันเกิน ตอนผม ม.5 เวคเตอร์(จำเป็นต้อง)สอนจบในสองคาบ เพราะสอนไม่ทัน... เด็กบางคงเรียนเก่ง แต่สอบไม่เก่ง ก็คงต้องมาพึ่ง(ตะ)กวดวิชานี่ล่ะครับ แล้วก็หากกรองน้ำออกจากหนังสือกระทรวง จากเล่มหนาๆ สองสามร้อยหน้ามันจะเหลือบางกว่าหนังสือของมาดามอุ๊สอีกครับ... เปลี่ยนระบบทีไรก็แยกคนจนกับคนมีอันจะกินมากขึ้น เปลี่ยนระบบทีไรแนวข้อสอบก็เปลี่ยน PAT2 เนื้อหาฟิสิกส์เหลือแค่ การเคลื่อนที่ + พลังงาน เนื้อหาเคมีเหลือแค่ สารและสมบัติของสาร เนื้อหามันหดจนไม่รู้กรูเรียนมา 3 ปีเพื่ออะไร บ้าบอ สรุป มันเป็นแผนของนักกินเมือง คนมีความรู้มันปกครองยาก.... (เดบิต : axquest) ปอลิ่ง : Part เชื่อมโยงงงอิ๊บอ๋าย ปอปอลิ่ง : ไหงอังกฤษ GAT มันยากเวอร์กว่า ent' ที่แล้วมาโคตรๆ ฟะ... เดวิลลิ่ง : เอาตังตูไปเหอะ ขอ ent' ระบบเก่าคืนมาให้ตูเหอะ... เเสรด.... บายครับ พรุ่งนี้มีเรียนอุ๊สคอร์สเอนท์ จากคุณ : หล่อเทพเบสิคดี (Shinjitsu) - [ 14 มิ.ย. 52 00:01:00 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ถ้าให้เลือกระหว่าง เรียนพิเศษ กับ คอมพิวเตอร์ 1 เครื่อง ไปเรียนพิเศษเถอะครับ ผมว่ามันสร้างแรงกระตุ้นแล้วก็เปิดโอกาสรอบด้านดีนะ ไม่ใช่แค่เรียนเก่งเกรดดีขึ้นอย่างเดียว ไปเรียนในห้องเรียนก็เหมือนไปเรียนพื้นฐาน ไปเรียนพิเศษก็เพื่อเป็นการเสริมทักษะให้แน่นขึ้นอีกที คุณคิดว่าเท่าไหร่ถึงจะพอล่ะ อันนี้ก็ต้องประเมินจากตัวเด็กด้วยนะ แต่ถ้าจะให้เรียนเน้นๆกับคอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่ง ผมว่ามันดูว้าเหว่ไปสักหน่อย นอกจากจะต้องศึกษาจดจำอะไรต่างๆด้วยตนเองแล้ว ยังต้องมานั่งแยกแยะข้อมูลผิดๆถูกๆอีกด้วย แล้วคิดว่าเด็กวัยกำลังเรียนรู้ จะทำอะไรได้มากน้อยแค่ไหนกันล่ะ ด้วยความหวังดีครับ จากคุณ : โซก๊อกจูอาช - [ 14 มิ.ย. 52 00:01:03 ]

ความคิดเห็นที่ 24 สังคมไทยยังเป็นแบบเรียนเพื่อสอบอยู่น่ะ (เอาจริงๆ ไม่ว่าสังคมประเทศไหนก็เป็นเรียนเพื่อสอบกันซะส่วนใหญ่) มีน้อยคนที่จะเรียนไปเพื่อรู้ และต่อยอด จากคุณ : ERWA - [ 14 มิ.ย. 52 00:03:41 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ผมว่าเด็กสมัยนี้ เรียนตามเพื่อน หรือไม่ได้ไปเรียนหรอก ไปหาเพื่อนซะมากกว่า... เรื่องเรียนเป็นแค่ข้ออ้างเพื่อใช้ในการออกจากบ้านเท่านั้น แต่ ผู้ปกครองก็คิดซะว่าดีกว่าเอาเวลามานั่งเล่นเกมส์ เล่นคอมพิวเตอร์ สรุปทุกฝ่ายได้ประโยชน์   -ผู้ปกครอง เห็นเด็กได้ใช้เวลาให้เป็นประโยชน์(บ้าง)ก็ยังดี   -เด็ก  ได้ออกจากบ้านมาเที่ยวหาเพื่อนคือเหตุผลหลัก ได้ความรู้นิดๆหน่อย เป็นของแถม   -สถาบันกวดวิชา รวยมหาศาล.... จากคุณ : Lekfoto - [ 14 มิ.ย. 52 00:12:40 ]

ความคิดเห็นที่ 26 เราว่าเนื้อหาที่ค้นได้จากคอมมันให้เราจำมากกว่าน่ะ แต่ไม่ได้สอนให้เราคิด หรือ เทคนิคน่ะ อย่างตำราเรียนเล่มเดียวกัน เราอ่านเข้าใจ เพื่อนอ่านไม่เข้าใจ เราก็สอนเทคนิคเพื่อนว่าต้องจำอย่างไร อาจจะวาดเป็นรูปภาพเพื่อให้ง่ายในการจดจำหรือสร้าง code ขึ้นมาเพื่อใช้ในการจำ ซึ่งพอเราสอนเทคนิคไปเพื่อนก็ชอบ เพราะจำได้ง่ายมากกว่าอ่านคนเดียวและเนื้อความประโยคซับซ้อนก็เอามาย่อให้มันเหลือแค่ใจความที่จะสื่อพอ จากคุณ : ขี้เหงา...เอาแต่ใจ - [ 14 มิ.ย. 52 00:15:51 ]

ความคิดเห็นที่ 27 เอาจากประสบการณ์เลยนะ ว่าทำไมเราถึงต้องเรียนพิเศษ เพราะ ความเป็นจริง คือ ความรู้ในห้องมันไม่พอ  ที่จะเอาไปต่อสู้ในสนามสอบใหญ่จริงๆ    แถม ใช่ว่าแต่ละ โรงเรียนจะมีมาตรฐานการสอนเหมือนกัน แล้ว เรียนพิเศษ  ก็ได้ความรู้ ความเข้าใจเพิ่มขึ้นด้วย   ขนาด  อาจารย์ในโรงเรียนเอง  ยังต้องรับสอนพิเศษเลยอ่ะ   เรียนพิเศษ ก็คงจะเป็นการ  เปิดโอกาสให้ตัวเอง มากขึ้นนั่นแหละ อย่างเราจะเรียนพิเศษ  วิชา อังกฤษ กับ เลข  วิชาอื่นๆที่คิดว่าไม่จำเป็นเท่าไหร่ก็ไม่เรียน แล้วไอ้เรื่อง คอมพิวเตอร์ หนึ่งตัวมานั่ง  ค้นคว่าเอง  คงยาก เพราะ ต่างคน มีความมุ่งมั่นต่างกัน  บางคนชอบอ่านเอง  แต่บางคนก็ชอบที่จะมีใครมานั่ง อธิบายมากกว่า อย่างเรา  ก็ไม่ได้เป็นคนขยันอะไรนัก  ชอบฟังคนอื่นอธิบายมากกว่า  ก็เข้าใจมากกว่า หลายคนบอกตามกระแสก็อาจจะใช่   อาจจะเป็นการแข่งกันเรียนด้วยแหละมั้ง   ประมาณว่า  เพื่อนเรียน  ชั้นก็ควรจะเรียนด้วย  เดี่ยวรู้ไม่เท่าเพื่อน หลายคนไปนั่งเรียนพิเศษ ก็เล่นๆขำๆ ไม่ตั้งใจเรียน โดด ไปเที่ยงบ้าง โน่นนี่ แต่สำหรับเรา เราไปเรียนเราก็นั่งเรียนจริงๆ แล้วความรู้มันก็ได้จริงๆ อีกอย่างง  ถ้าไม่ได้ไปเรียนพิเศษ  โดยส่วนตัวแล้วนะ เด็กอย่างเรา  ก็ นั่งเล่นคอม อ่านการ์ตูน ก็ไม่ค่อยได้ประโยชน์อะไรขึ้นมาอยู่ดี 555 จากคุณ : d2bill - [ 14 มิ.ย. 52 00:16:09 ]

ความคิดเห็นที่ 28 การรับรู้เรื่องต่างๆ  การเรียนรู้เรื่องต่างๆ โดยเฉพาะ ทางวิชาการ คนแต่ละคน รับรู้ เรียนรู้ได้ต่างกัน โดยเฉพาะ จะใช้เวลาที่ต่างกัน บางคน ไม่ต้องเรียนพิเศษ ไม่ต้องให้เพื่อนติวเพิ่ม อ่านเอง ก็เข้าใจได้โดยง่าย บางคน ต้องอ่านเอง ต้องทบทวนหลายครั้ง ต้องใช้เวลา จึงจะเข้าใจ  แต่ต้องใช้เวลามากเหลือเกิน บางคน ทำอย่างไร ด้วยตนเอง ก็แทบจะทำความเ้ข้าใจไม่ได้ ทีนี้พอมีคนมาติว มาสอน มาชี้แนะ ในบางจุด บางเรื่อง ที่สำคัญ ก็เข้าใจได้   สุดท้าย การติว การเรียนพิเศษ จึงเกิดขึ้นมาและเพิ่มจำนวนขึ้นมากมาย ในทุกวันนี้ จากคุณ : น้าพร - [ 14 มิ.ย. 52 00:18:29 ]

ความคิดเห็นที่ 29 จากประสบการณ์เลย ตอนนี้เข้ามหาลัยแล้วยังไปติวอยู่        ตอนเรียน มัธยมไม่ค่อยได้ติว เรียนมันปกติ รู้เลยว่าพวกที่ติวไปไกลกว่าเยอะ กลาเป็นเราคะแนนท้ายๆของห้องเลยหละ (โดยพื้นเป็นคนไม่ได้เรื่องอยู่แล้ว)         พอเข้ามหาลัย  บอกตรงๆเลยว่าเข้าเรียนแล้ว อย่าง งง มาก ไปไวมาก เพราะอาจารย์ใช้สไลด์สอน ไปเร็ว งงๆ บอกไม่ถูกอ่ะค่ะ เลยตัดสินใจ ไปติวแบบ .สรุป 3 วันก่อนสอบ    ไปแค่สามวัน วันละ 2 ชม.  เข้าใจหมดทะลุปรุโปร่งมากมาย จากหัวกลวงๆ พอไปติวเหมือนเค้าเอามาสรุปจุดสำคัญๆให้อ่ะค่ะแล้วมีเทคนิคต่างๆ  มันทำให้เราเข้าใจง่ายขึ้น   น่าแปลกเนอะที่สมัยพ่อแม่เราไม่เห็นมีเรียนเลยแฮะไอ้พิสงพิเศษเนี่ย เคยได้ยิน(จากใครไม่รู้)ว่า ยิ่งสถาบันติวมีเยอะขึ้น มันยิ่งบ่งบอกถึง คุณภาพของโรงเรียนสมัยนี้ว่าเป็นอย่างไร.. แก้ไขเมื่อ 14 มิ.ย. 52 00:37:11 จากคุณ : ปลาหมึกรสเลม่อน - [ 14 มิ.ย. 52 00:34:14 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr. Fusion - [ 14 มิ.ย. 52 00:59:24 ]

ความคิดเห็นที่ 31 นึกถึง "แด่หนุ่มสาว" จากคุณ : ทะเลคราม (blueocynia) - [ 14 มิ.ย. 52 01:13:56 ]

ความคิดเห็นที่ 32 A:ทำไมต้องส่งเด็กที่บ้านไปเรียนพิเศษ <BR>Q:จ้าง...มาสอนที่บ้านก็ได้ค่ะ ไม่ต้องส่งไปก็ได้ =_= (เปล่ากวนนะ) แค่ค่าหัวจะแพงมากเป็นพิเศษ... <BR><BR>A:เรียนกันไปเพื่ออะไร? <BR>Q:Admission + เรื่องที่ยังไม่รู้.. (สำหรับคนอื่นไม่รู้เหมือนกัน) <BR><BR>A:เรียนในห้องเรียนนี่มันไม่พอเลยใช่ไหม <BR>Q:ไม่พอ .. (ลองเปรียบเทียบการสอนในห้องของอาจารย์บางท่านกับอาจารย์สอนพิเศษดู =_= ว่ามัน อืมๆ...ดีนะ) <BR><BR>A:ทำไมต้องไปเสียเงินเพิ่มเพื่อเรียนพิเศษด้วย <BR>Q:ก็เพราะไม่มีที่ไหนสอนให้ฟรีๆไง .. (ถึงมีก็น้อย เคยเรียนเมื่อหลายปีก่อน ปิดไปแล้วด้วยมั้ง..) <BR><BR>A: หาคอมพิวเตอร์ให้เครื่องนึง หรือไม่ก็โน๊ตบุ๊ค1เครื่อง แค่นั้นพอหรือเปล่าครับ แล้วไม่ต้องไปเรียนพิเศษ เรียนด้วยตัวเองได้ไหม <BR>Q: คิดว่าทำได้หมดแหละ...แต่ว่าสำหรับบางคน(อย่างหนูเป็นต้น) .. ก็คงอดไม่ได้หรอก อย่างน้อยๆ เปิดคอมมาก็ต้อง ออนเอ็ม =_= ... สรุป ก็คงได้ศึกษาแค่ 10% อีก 90% ก็หลั่นล้า...~? <BR><BR>A:คนที่ประสบความสำเร็จในการเรียนทุกคนต้องไปเรียนพิเศษหรือเปล่าครับ <BR>Q:ไม่ทุกคนหรอกมั้งคะ...(แล้วสำเร็จที่ว่า มันสำเร็จใน จุด ไหนหรอคะ เอ็นท์ ติด หรือว่า....?) <BR><BR><BR>++ .. ก็นะ..ตอนนี้อยู่ ม.6 ก็เรียนพิเศษเหมือนกัน ... <BR>>> แฟชั่น ,ตามเพื่อน , ไม่เรียนถือว่าเชย<< ก็จริงค่ะ แต่ไม่ใช่ทุกคนหรอกมั้งคะ..คนที่ไม่ได้เป็นแบบนั้นก็เยอะนะคะ =_=... <BR><BR> เคย ไม๊....ที่เวลาอาจารย์สอนไม่ทัน อาทิตย์หน้าจะสอบแล้ว หาตารางชดเชยก็ไม่ได้ .. "งั้น เดี๋ยวไปอ่านเองแล้วกันนะ" ... ?? เซ็งนะคะ ค่าเทอมก็จ่ายครบ แต่ได้เรียนไม่เท่าห้องอื่น .. อาจารย์ แต่ละคน ที่สอนก็ยังสอนไม่เหมือนกันเลยค่ะ ... <BR><BR>แล้ว ก็..GAT PAT สอบกันตั้งแต่ จบ ม.5 อ่ะ อย่างที่ ร.ร. สอบไฟนอลเสร็จวันสุดท้าย วันต่อมา สอบเลย ... =_= แถมเรียนไม่เหมือนชาวบ้านด้วย ... ถ้าไม่เรียนจะเอาอะไรไปสู้เขาอ่ะคะ ไหนจะ O-net อีก.. <BR><BR>"ปอลิ่ง : Part เชื่อมโยงงงอิ๊บอ๋าย" << จริงๆ .. ถ้าไม่เคยผ่านข้อสอบมา อย่างน้อยๆ เวลาอ่านโจทย์ก็หลายนาทีแร้ว กว่าจะเข้าใจ ครึ่ง ชม. ได้มั้ง =_= .... <BR><BR>ปล. อุ๊ คอสเอ็นท์ถึกได้อีก =_= (อีก 30 กว่าครั้งเท่านั้นแหละ) <BR><BR>ปล2. แต่..มันก็ไม่ได้ดีไปทั้งหมดหรอกค่ะ ... คือ มันแพง =_= บางคนเรียนแล้วก็ไม่เข้าใจก็มี...นะ <BR><BR>..แพล่มยาวจังฮู้เรา งิ๊ ... ตอนโพสจะติด Br ป่าวหว่า งิ๊ (บ่เคยโพส แหะๆ) จากคุณ : Pandanus - [ 14 มิ.ย. 52 01:26:36 A:112.143.53.227 X: ]

ความคิดเห็นที่ 33 แง่วๆ มันติด BR ไปด้วยง่ะ เง้อออ... ทำไมๆๆ ตอนไม่ใส่ กด Preview แร้วมันติดกันเป็นพรืดเลย T^T แว๊กกกกกก! จากคุณ : Pandanus - [ 14 มิ.ย. 52 01:28:46 A:112.143.53.227 X: ]

ความคิดเห็นที่ 34 ผมเรียนพิเศษ บางครั้งมันก็จำเป็นนะ ยกตัวอย่างวิชาพวก ฟิสิกส์ กับ คณิตศาสตร์ ซึ่งที่จริง ความรู้ที่สอนในห้องน่ะพอที่จะไปใช้ในการสอบแน่นอน แต่วิชาพวกนี้ จะทำได้ต้องประยุกต์ความรู้พื้นฐานที่เรียนมา เพื่อแก้ปัญหาที่เจอในข้อสอบ   แต่เมื่อเจอข้อสอบยาก การที่เด็กจะหาวิธีประยุกต์เอาความรู้พื้นฐานของวิชาเหล่านี้มาใช้ มันก็ยากขึ้นตามไปด้วย บางคนถึงกับทำไม่ได้เลย ก็เลยต้องพึ่งสถาบันกวดวิชา เพื่อชี้แนวทาง เทคนิค วิธีในการแก้โจทย์เหล่านี้ ซึ่งเทคนิค บางอันไม่มีสอนในโรงเรียน จุดประสงค์ของวิชาอย่างคณิตศาสตร์ และ ฟิสิกส์คือต้องการให้เด็ก คิดวิธีแก้ปัญหา แต่ข้อสอบก็ยาก และเยอะเกินที่เด็กจะคิดวิธีการแก้โจทย์ได้ด้วยตนเองในห้องสอบได้ แต่บังเอิญว่าข้อสอบเหล่านี้ มีแนวทางการแก้ปัญหาที่เหมือนกับข้อสอบที่อยู่ในสถาบันกวดวิชา ทีนี้เด็กที่กวดวิชาก็ได้เปรียบสิครับ แทนที่ว่าเด็กที่สามารถหาวิธีแก้โจทย์เหล่านี้ได้จะได้คะแนนมากกว่า กลับกลายเป็นว่า เด็กที่ได้วิธีทำโจทย์ ได้เทคนิคคิดลัดมาจากโรงเรียนกวดวิชา ได้เปรียบมากกว่า เพราะว่าในโลกแห่งความเป็นจริง สำหรับข้อสอบเอ็นท์ของไทย ไม่มีทางเลยที่จะทำข้อสอบวิชาพวกนี้ทัน หากไม่เคยเจอหรือเคยทำโจทย์ ที่มีแนวทางใกล้เคียงกันมาก่อน จากคุณ : wachira2k - [ 14 มิ.ย. 52 01:43:45 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ถ้าคนเราแค่อ่านหนังสือแล้วก็เข้าใจอะไรกันไปซะหมดแล้วเราจะมีโรงเรียนไว้ทำไมหล่ะครับ เพราะเรื่องบางเรื่องอ่านให้ตายก็ไม่เข้าใจ พี่ๆคิดว่าเราสามารถเรียนเมทริกซ์หรือจัดเรียงออบิทัลเองที่บ้านได้เหรอครับ โอเค..ในเมื่อเราต้องเรียนครูทั่วประเทศมันจะสอนดีทุกคนมันจะเป็นไปได้มั๊ย แน่นอนว่าไม่ได้ .....เด็กไม่เข้าใจ...สอบตก...เอนท์ไม่ติด อาจารย์อุ๊ อาจารย์ปิง พี่แนน ครูสมศรี อาจารย์เผ่า พี่ๆเดอะเบรน เลยจำเป็นไงครับ หน้าที่ของที่เรียนพิเศษก็แค่ทำให้เด็กเข้าใจมากกว่าเดิม..และสามารถเอาไปใช้ในห้องสอบจริงๆได้ จำเป็นนะครับ^_^ จากคุณ : NorsDavincy - [ 14 มิ.ย. 52 02:09:25 ]

ความคิดเห็นที่ 36 คุณน่าจะรู้ว่าทุกวันนี้การแข่งขันสูงมาก เราลองคิดไปว่าถ้าเรามีความรู้แค่ในห้องเราจะเป็นยังไง เราว่ามันคงจะน้อยกว่าตอนนี้มาก จะสู้ใครเค้าได้คะ? ในห้องเรียนมันเรียนไม่ทันที่ใช้สอบนะ และอาจารย์ที่ รร.บางท่านยังสอนผิดๆกันอยู่เลย ข้อสอบไม่ว่าที่ไหนก็ปรับระดับให้ยากหนีเด็กไปเรื่อยๆ แล้วจะให้เด็กอยู่เฉยๆก็คงไม่ใช่ ถ้าอ่านเอง ทำเองได้มันก็ดีกว่าอยู่แล้ว แต่มันไม่ง่ายนะคะ บางเรื่องอ่านไปก็ไม่เข้าใจ แต่อยากมีความรู้เนี่ยไม่ว่าวิธีไหนเราก็มองว่ามันเป็นเรื่องที่ดีนะคะ ส่วนที่บอกว่า เรียนตามเพื่อน หาคู่ มันก็แค่บางส่วน จากคุณ : yuanyin - [ 14 มิ.ย. 52 02:19:29 ]

ความคิดเห็นที่ 37 ผมไม่เคยเสียตังให้ที่เรียนพิเศษเลยครับ ส่วนใหญ่ ก็ศึกษาเองจากที่เพื่อนๆ ไปเรียน ฮ่าๆ แอบเลวบางครั้งก็ให้เพื่อนติว แต่ไปเรียน กับไม่ไปเรียน สำหรับผม ถือว่าไม่ต่างครับ ถ้าไปเรียนแล้วตั้งใจจริงๆ อาจจะต่าง แต่ส่วนใหญ่ ก็ไปดูสาวๆ แหละครับ บางทีเสียเงินไปนั่งหลับก็มี บางที เสียเงินเพื่อไปเอาแค่หนังสือก็มี เพราะ งั้นมันอยู่ที่คนครับ ว่าตักตวงเอาความรู้จากที่เรียนพิเศษมากแค่ไหน ในเนต มันไม่มีทุกอย่างหรอกครับ จากคุณ : Lodlem - [ 14 มิ.ย. 52 02:46:02 ]

ความคิดเห็นที่ 38 สำหรับ ลูกผม ถ้าจำเป็นต้องเลือก ไปเรียนพิเศษเถอะครับ ระบบมันเป็นแบบนี้ จากคุณ : ต้ากงอ้วง - [ 14 มิ.ย. 52 03:15:02 ]

ความคิดเห็นที่ 39 เมื่อตอนอยู่มาปลาย........ผมคิดนะว่ามันจำเป็นจริงๆ ต้องเรียน.....ไม่งั้นจะโอกาสเอ็นฯติดน้อยมาก.....วิชาไหนอ่อนต้องเสริม แต่พอเอาเข้าจริงๆ ก็เรียนสองวิชาคือ เคมี(ซึ่งเป็นวิชาที่ถนัด) และอังกฤษ(ซึ่งสอนแค่การทำข้อสอบ ได้คะแนนดีนะ แต่ ไม่ได้ภาษาแบบที่ใช้ในการทำงานเลย.... ^_^!) แต่ถ้ามองจากมุมมองปัจจุบัน.......ผมว่าการเรียนพิเศษ เป็นการใช้เวลาไปอย่างเปล่าประโยชน์   ....เพราะเพียงถ้าหาก เรารู้ว่าจะอยากจะไปเป็นอะไร อยากจะทำงานแบบไหน ชอบแบบไหน ก็เลือกเรียนคณะนั้น..... ถ้าจะสอบ มหาลัยฯ รัฐไม่ติด ก็เรียนเอกชนก็ได้ เพราะอย่างไรก็ตาม ก็ได้เรียนในสิ่งที่ถนัด สิ่งที่ชอบ แต่หากว่า ปัญหาคือ เด็กๆ ไม่รู้ว่าตัวเองชอบอะไร จนเมื่อบางคนจบแล้วทำงานแล้ว เพิ่งจะรู้ว่าตัวเองไม่ชอบ แล้วก็เปลี่ยนสาย  ซึ่งถ้ามองกลับไป ....*** มันคือการลงทุนที่สูญเปล่ามากๆ *** และถ้าผมมีลูก - สิ่งที่ผมจะทำคือให้เขาคิดเองให้ได้ว่า ชอบอะไร.....ถ้าลูกอยากจะเรียนก็ได้ตามใจ แต่ เวลาเรียนห้ามมากวนวันเสาร์-อาทิตย์ และ วันหยุด  เพราะอะไรหรือครับ ..... ก็เพราะมันเป็นเวลาของครอบครัวผม ผมจะพาลูกและแฟนผมไปเที่ยว ไปพักผ่อนทั้งครอบครัว เจอญาติพี่น้อง  ... และผมให้นำ้หนักกับเวลาครอบครัวมากกว่าเรียนพิเศษแน่นอน และเชือบนพื้นฐานที่ว่า การเอ็นฯ การเรียน ไม่ใช่สิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิต  สิ่งที่สำคัญสุดในชีวิตผม(และลูกของผม) คือ การได้ทำในสิ่งที่รักและถนัด ...... จากคุณ : Mine_Knight - [ 14 มิ.ย. 52 03:40:41 ]

ความคิดเห็นที่ 40 เรียนพิเศษ  มันมีสูตรลัด  บางทีก็สอนแล้วเข้าใจมากกว่าอาจารย์สอน มีโจทย์หลากหลาย  มองง่ายๆ  ถ้าคุณสอบวิชาเคมี  ถ้าไม่เรียนพิเศษวิชาเคมี  จะทำทันไหมนั่น จากคุณ : nuch_tiew - [ 14 มิ.ย. 52 04:11:02 ]

ความคิดเห็นที่ 41 เรียน เพื่อ ความพิเศษ 555++ เรียนแล้วอย่างน้อย ก็รู้อะไร ๆ เท่าที่คนอื่นเข้ารู้กัน ปฏิเสธไม่ได้หรอกว่าระบบการศึกษาแค่ในโรงเรียนมันไม่ได้ช่วยทำให้เด็กหัวทึบอย่างเราเอนท์ติด จากคุณ : KinkyVans - [ 14 มิ.ย. 52 07:12:17 ]

ความคิดเห็นที่ 42 สมัยที่เราเรียน ก็แค่เรียนเพราะเพื่อนค่ะ อยากไปเจอเพื่อน ความรู้อะไรไม่ค่อยเข้าหัวหรอก จากคุณ : เสียงจากบ้านนา - [ 14 มิ.ย. 52 07:56:44 ]

ความคิดเห็นที่ 43 ผมไปเรียนพิเศษนะ แต่ตอนนี้ก็ยังโสดซิงอยู่ 555+ ไม่เกี่ยวๆ ก็ ตอนขึ้น ม.ปลาย ผมก็คิดว่า อืม ลองอ่านเองดูซิ ไม่ต้องไปเรียนมันหรอก เรียนพิเศษน่ะ เหนื่อย เลิกดึก ต้องกินข้าวบนรถ(โคตรเกลียดชีวิตแบบนี้บนรถ) กลับบ้านมาดึุกก็ยิ่งต้องนอนดึก ก็เลยเลือกที่จะไม่เรียนพิเศษ ผลปรากฎว่า สอบออกมาแต่ล่ะครั้ง ผลสอบออกมาอยู่ในเกณฑ์กลางๆ ถ้าจะภูมิใจว่า ชั้นไม่เรียนพิเศษก็ยังได้ขนาดนี้เลยนะ มันก็ดูแปลกๆนะครับ เพราะมีอีกหลายคนที่ไม่ได้เรียนแต่ผลการเรียนเป็นเลิศ นั่นเป็นไปเพราะอะไร เพราะคนเราไม่เท่ากันครับ นอกจากไม่เท่ากันแล้ว สไตล์ยังแตกต่างกันอีกด้วย พอขึ้น ม.5 วิชาวิทย์ๆหลายวิชาเริ่มดิ่งเหวแล้ว สอบออกมาก็อยู่ที่เกือบผ่าน(ไม่ใช่เกือบตกนะ อิอิ) ก็เลยคิดว่า ไม่ไหวแล้ว ต้องขอทำนายปณิธานว่าจะไม่เรียนพิเศษ สุดท้ายก็ไปเรียน โดยเริ่มเรียนเคมีก่อน เรียนเสร็จสอบออกมา ได้Top ห้อง จากที่แต่เดิม ม.4 ม.5 สอบออกมาได้17-18/30 ตลอด มันเป็นไปได้อย่างไร มันเป็นอย่างนั้นเพราะผมเข้าใจ และชำนาญไงครับ เข้าใจคือเข้าใจให้ชัด และแจ่มแจ้ง แล้วก็ละเอียด ซึ่งข้อสอบสมัยนี้ก็เล่นซะลึก เราจะรู้แค่คอนเซ็ปท์ไม่ได้ครับ เราต้องรู้ถึงข้อยกเว้นทุกประการ ในห้องเรียนที่โรงเรียน ซึ่งนอกจากจะเรียนไม่ติดกันแล้ว(อ้าว วิชานี้ เรียนอาทิตย์ละ2คาบ จันทร์วัน พฤหัสวัน เป็นต้น) ยังไม่มีความเป็นฟอร์มด้วย ซึ่งตรงนี้โรงเรียนพิเศษ จะดีกว่า เนื่องจากเค้าทำหนังสือของเค้าเอง และระบบการสอนเค้าก็วางเอง เพื่อที่จะมาอุดช่องว่างตรงนี้ การปะติดปะต่อเป็นเรื่องที่สำคัญมากครับ เพื่อที่จะได้เห็นเนื้อหาวิชาเป็นภาพเดียวกัน เชื่อมโยงกัน แล้วก็จะเข้าใจอย่างแจ่มแจ้งในที่สุด นอกจากต้องเข้าใจแล้ว ยังต้องมีความชำนาญครับ ชำนาญอะไรล่ะ ชำนาญโจทย์ไงครับ แล้วโรงเรียนสอนพิเศษ ก็วางระบบตรงนี้ดีมากครับ หนังสือโจทย์ก็รวบรวมโจทย์เอนท์ต่างๆ โจทย์โอลิมปิก ฯลฯ มีการให้การบ้าน มีการทำโจทย์ด้วยกันในห้องเรียน ซึ่งเป็นการสร้างสถานการณ์การแข่งขันที่ดี ทำไปนานๆเข้า คนเรียนก็จะช่ำชองขึ้นเรื่อยๆ อาจไม่ใช่คนฉลาดแต่ช่ำชองครับ จริงๆ ถ้าถามว่าสิ่งเหล่านี้ สามารถทำได้ในห้องเรียน ทำได้เองที่บ้านได้มั้ย ก็บอกว่าบางคนทำได้ บางคนทำไม่ได้ มันอยู่ที่ความอดทนของสิ่งเร้า และความขี้เกียจครับ ผมลองสังเกตดู ถ้าผมไปอยู่ที่ที่ไม่มีคอมพิวเตอร์ ไม่มีอินเตอร์เน็ต ผมจะอ่านหนังสือนะ หนังสือเรียนเนี่ยล่ะ เพราะสถานการณ์พาไป ยิ่งไปอยู่ที่ๆคนรุ่นเดียวกัน ที่มีจุดประสงค์เดียวกัน อยู่เยอะๆ อย่างห้องสมุด ก็ยิ่งมีแรงจูงใจให้อ่านมากขึ้น แต่ถ้ามีคอม มีเน็ตแล้วล่ะก็ 55+ คุณก็คงรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นนะ นี่คงจะพอตอบได้มั้งครับว่า ทำไมคนสมัยก่อน ไม่เรียนพิเศษ แต่ก็โอเค ก็เพราะ"คอมพิวเตอร์เครื่องเดียว"นี่ไงครับ ที่เด็กสมัยนี้ต้องมาเรียนพิเศษ 555+ (ไม่ได้โทษคอมอย่างเดียวนะครับ แต่ก็เป็นปัจจัยหนึ่งล่ะ) จากคุณ : Tidal - [ 14 มิ.ย. 52 09:20:54 ]

ความคิดเห็นที่ 44 ลองมาอยู่ รร ที่อาจารย์ ไม่สอนอะไรเลยซิ การเรียนพิเศษจำเป็นขึ้นมาทันที ไม่งั้นก็สอบเข้าไม่ได้ จากคุณ : MoonyuE - [ 14 มิ.ย. 52 09:47:44 ]

ความคิดเห็นที่ 45 ก็ระบบมันห่วย ก็ต้องมีคานขนาดใหญ่มาดามระบบที่มันกำลังจะล้ม ระบบอุทุมพรน่ะครับ ยกตัวอย่างอย่างวิชาพื้นฐานวิศวกรรมเลยครับ โจทย์งี้ ยากโคตร โคตรยาก สุดจะหาคำบรรยาย ข้อที่ออกง่ายๆก็ทำให้มันยากๆๆๆๆ (ผมไม่ได้คิดไม่คนเดียวหรอกนะครับ เด็กโอลิมปิกก็พูดว่ามันยาก) ถ้าไม่เรียนพิเศษ คุณไม่สามารถเก็บ concept ของวิชาทางวิศวกรรมได้หรอกครับ มันเยอะวุ่นวายกระจัดกระจายมาก การที่เรียนพิเศษมันจะช่วยฝัง concept ลงในหัวเราอย่างเป็นระบบระเบียบยิ่งขึ้น ไม่ดีหรอ? จากคุณ : Shineokung - [ 14 มิ.ย. 52 10:10:03 ]

ความคิดเห็นที่ 46 ถ้าไปเรียนก็ดีนะครับ ผมคิดว่าดีมากๆเลย อย่างเรื่องปริมาณสาร เค้าจัดเรียงเรื่องไว้ดีมากๆ คือโจทย์อ่ะครับ ความจริงไม่ต้องเรียนก็ได้ แต่เข้าไปแล้วสนุกดี อ.อุ๊เค้าให้เด็กห้องสดตอบ ส่วนเราก็ทำแข่งกับเด็กห้องสด 555+ เวลาเรียนพิเศษเด็กแต่ละคนก็ได้ไม่เท่ากันอยู่ดีครับ บางคนไม่ทำการบ้านเลย แต่ยังเก่งกว่าคนทำการบ้านทุกวัน ขึ้นอยู่กับแต่ละคนจริงๆครับ บางคนไม่จำสูตรที่อ.เค้าให้ไว้เลย แต่ก็ทำข้อสอบได้ทะลุปรุโปร่ง เพราะเข้าใจล้วนๆ สรุปว่า ผมว่าจำเป็นครับ เพราะมันเป็นความได้เปรียบเสียเปรียบอ่ะครับ อีกอย่าง เรียนที่รร. 1ชม.ได้ไม่เยอะครับ เพราะมันมีข้อจำกัด ต้องทำตามจุดประสงค์ สั่งงาน การบ้านตามหลักสูตร ไม่ได้ทำหรอกครับข้อสอบ เข้าไปเรียน ได้ความรู้แน่น นำเพื่อน ไม่คุ้มกว่าเหรอครับ เพื่อนผมหลายคนหมดกับเรียนพิเศษแสนกว่าๆ แต่ก็ไม่ได้เก่งกว่าผมมากหรอกครับ(โม้) ก็พอๆกับผมแหละครับ(ผมเรียนไม่ค่อยเก่งหรอก) ยังสงสัยว่าไปเรียนเยอะแล้วมันดีขึ้นตรงไหน แต่พอไปเรียนแล้วคิดว่าดีครับ จากคุณ : int.anti - [ 14 มิ.ย. 52 10:15:14 ]

ความคิดเห็นที่ 47 เพราะมัน "พิเศษ" จากคุณ : KeKXiM - [ 14 มิ.ย. 52 10:48:54 ]

ความคิดเห็นที่ 48 มีโรงเรียนประถม-มัธยมที่ไหน อนุญาตให้เอาคอมพิวเตอร์หรือโน๊ตบุ๊คเข้าห้องสอบได้เหรอ ไม่เห็นน่าถาม จากคุณ : lord_guan - [ 14 มิ.ย. 52 12:17:16 ]

ความคิดเห็นที่ 49 แต่ละอย่างมีข้อดีข้อเสียในตัวมันเองหมดแหละครับ ไม่ควรเหมารวมว่าสิ่งนี้ควรหรือไม่ควรสำหรับทุกคน เรียนในห้องเรียนที่โรงเรียนอย่างเดียว : ความรู้ก็จำกัดอยู่แค่ในห้องเรียนแหละครับ ใช้ได้ดีกับการสอบเก็บคะแนน สอบมิดเทอม สอบไฟนอล ถ้าตั้งใจมากๆก็ใช้ได้ถึงสอบเอ็นสะท้าน(เดี๋ยวนี้เป็นแกะกับแพะใช่ป่ะ???) ข้อเสียก็คือ ถ้าเด็กไม่ตั้งใจเรียน ไม่สนใจเรียน(ไม่ว่าจะด้วยตังเอง หรือด้วยเพื่อน)มันก็ใช้ไม่ได้เลยไม่ว่าจะสอบอะไรก็ตามแต่ ไปอ่านหนังสือในห้องสมุดเพิ่ม : ก็เป็นสิ่งที่ดีครับ ค้นคว้าความรู้ด้วยตนเอง ช่วยให้จำได้ดีขึ้นเพราะไปค้นคว้าความรู้มาใส่หัวแบบตั้งใจจริง มันเลยเข้าเต็มๆไงครับ แต่ข้อเสียก็คือ ห้องสมุดบางแห่งมีหนังสือไม่เพียงพอ ทำให้แหล่งความรู้มันน้อย หรือว่ามีเยอะ เด็กเลยเลือกไม่ถูกว่าเล่มไหนดี เลือกไปเลือกมาเลือกผิด จะเอาฟิสิกส์มาอ่าน ได้ FHM มาอ่านซะงั้น(ห้องสมุดที่ไหนมีหว่า จะไปอ่านมั่ง ^^) ค้นคว้าจากอินเทอร์เน็ต : อันนี้ก็ดีเหมือนห้องสมุดเลยครับ แต่ได้ความรู้เยอะกว่าแบบเห็นได้ชัดเจน แถมรวดเร็วด้วย แต่ข้อเสียก็มีมากมาย หลายๆความเห็นก็กล่าวไปบ้างแล้ว ไม่ขอกล่าวซ้ำแล้วกันครับ เดี๋ยวจะเบื่อซะก่อน ไปเรียนกวดวิชากับอาจารย์ชื่อดังต่างๆ : ไม่ว่าจะเจ๊อุ๊ส อาจารย์หมอ หรือท่านอื่นๆ อันนั้นข้อดีก็คงจะเรื่องของการเอาไปใช้สอบเลยครับ เหมือนกับว่าเค้าเอาข้าวมาผัดให้แล้ว ตักใส่จานแล้ว ป้อนใส่ปากแล้ว เหลือแค่เราจะเคี้ยวหรือคาย ส่วนจะอิ่มหรือไม่นี่เค้าไม่สนใจครับ(ต่างจากในโรงเรียนนะครับ ที่จะเอาข้าวมาผัดให้ ตักใส่จานให้ รอจะป้อน แต่เราจะเอาหรือไม่ก็อีกเรื่อง แล้วค่อยมาวัดว่าเด็กกินอิ่มหรือไม่ ถ้าไม่ก็ต้องมากินข้าวกันใหม่ ถ้าอิ่มแล้วรอกินในเทอมต่อไปครับ) ข้อดีข้อเสียก็บอกกันไปหมดแล้วอีกเช่นกัน ไม่พูดอีกแหละครับ เดี๋ยวเบื่อ สุดท้าย หลายคนถาม เอามารวมๆกันดีไหม? : ก็ดีที่สุดแหละครับ ใช้สอบก็ได้ ต่อยอดก็ยิ่งดี มีแต่ด้านบวกครับ จะมีด้านลบอย่างเดียว ก็เรื่องสังคมภายนอกนี่แหละครับ กลาบเป็นว่าชีวิตนี้จะมีเพื่อนที่ชื่อว่าความรู้อย่างเดียวเหรอครับ อย่างนี้รับได้มั้ยล่ะครับ??? จากคุณ : heynong1 - [ 14 มิ.ย. 52 12:24:16 ]

ความคิดเห็นที่ 50 เรียนเฉพาะที่โรงเรียนไม่พอแน่นอนครับ... สมัยนี้มันแข่งขันกันสูง... จากคุณ : m_stay22 - [ 14 มิ.ย. 52 12:43:03 ]

ความคิดเห็นที่ 51 ผมเคยเรียน เพราะอาจารย์ในห้องสอนไม่รู้เรื่อง จริงๆนะครับ ....... จากคุณ : ไม่หล่อ ไม่ดี ไม่มีอะไรเลย - [ 14 มิ.ย. 52 14:39:49 ]

ความคิดเห็นที่ 52 เห็นชื่อ จขกท.ก็พอรู้แล้วว่ากระทู้ยาวแน่ เราก็ไม่ได้เรียนนะ ที่เป็นพวกวิชาการทั้งหลาย ไม่ได้เรียนเก่งอะไรด้วย ถือว่ากลางๆถ้าเทียบในโรงเรียน - -" เหตุผลที่ไม่เรียนมันก็หลายๆอย่างรวมกันนะ แค่เรียนในห้องก็เหนื่อยแล้ว กลับมาแทบสลบ อีกอย่างคืออยากว่างด้วยแหละ คอมนี่จะแตะก็แค่ช่วงวันหยุดเท่านั้น(ถ้าไม่มีงานเข้า) ชอบทีก็ทำอะไรเพลินๆ ยืมหนังสือห้องสมุดมาอ่านบ้าง มีคนรู้ว่าไม่เรียนพิเศษก็ชอบถามว่า อยู่บ้านนี่ต้องอ่านหนังสือทุกวันแน่เลย เปล่าเลย อ่านหนังสืออื่นอะ หนังสือเรียน ใบความรู้อ่านก่อนสอบซะเป็นส่วนมาก ตอนนี้ก็กลัวๆเหมือนกันนะ ใกล้จะแอดมิชชั่นอยู่แล้ว GAT PAT ก็คะแนนออกมาไม่ได้เรื่อง (บ่นๆๆ...) คะแนนสอบในโรงเรียนก็นะ บางทีรู้สึกว่าได้พอๆกับเพื่อนที่เรียนพิเศษ แต่เหมือนเค้าเก่งกว่าเรายังไงไม่รู้ ย่อหน้าสุดท้ายแล้ว จากที่สังเกตเพื่อนๆที่ไปเรียน ก็มีคนที่เก่งมากๆอยู่นะ แต่ละคนเรียนกันไม่รู้กี่ที่นับไม่ถ้วน จะมีบ้างที่เรียนไม่เยอะแล้วมานั่งอ่านเอง จากที่ฟังๆเพื่อนคุยกันมาว่าบางคนไปก็ไม่เรียน ไปนั่งหลับ โดดเรียนบ่อยๆ บางคนอ้างพ่อแม่ว่าไปเรียนแต่จริงๆโดดไปเที่ยว ฯลฯ ค่าเรียนก็ไม่ใช่น้อยๆนะนั่น แต่อย่างว่าแหละมันก็มีข้อดีข้อเสียไปคนละอย่าง ส่วนถ้าเรื่องให้ไปเรียนกับให้โน้ตบุ๊ค เราเองถ้าให้โน้ตบุ๊คคงไม่ได้เรียนอะไรมากเหมือนกันนะ ปล.แต่เบื่อประเภทที่ว่าเรียนเยอะจนไม่ว่างช่วยงานกลุ่มน่ะสิ จากคุณ : rrltai^^ - [ 14 มิ.ย. 52 16:09:40 ]

ความคิดเห็นที่ 53 เรียนเพื่อไปสอบแข่ง นั่งโง่อยู่ในห้องเรียนมันก็เท่านั้น แข่งกับใครไม่ได้หรอก สอบแข่งขัน ยังไงก็ต้องเหนือกว่าคนอื่น เรื่องเงินเรียน ไม่ใช่ปัญหา สบายๆ ส่วนคอมพิวเตอร์ มันช่วยได้ แต่ไม่ทั้งหมด อ้อ เอาไว้เปิด DVD ของติวเตอร์ได้ จากคุณ : Sympho - [ 14 มิ.ย. 52 16:13:29 ]

ความคิดเห็นที่ 54 การรู้จักเรียนรู้ด้วยตัวเองเป็นสิ่งที่ดีครับ แต่เด็กแต่ละคน ศักยภาพไม่เท่าเทียมกัน บางคนเรียนแค่ในห้องก็เพียงพอ บางคนก็ไม่พอ ปัญหาที่เกิดขึ้นคือ ในเมื่อสังคม ยังให้โอกาสกับคนที่เรียนเก่งมากกว่า การเรียนเสริม หรือ เรียนพิเศษจึงเป็นสิ่งที่ ตามมาทีหลังครับ ดังนั้นการเรียนพิเศษจึงไม่ใช่เรื่องเลวร้าย หากเด็กคนนั้นจำเป็นจริงๆ เพียงแต่ ถ้าเด็กคนไหนมีศักยภาพที่จะเรียนด้วยตัวเองได้ดี คนๆนั้นก็ไม่จำเป็น ต้องเสียเงินเรียนพิเศษหรอกครับ สมัยผมนะ ผมก็ไม่เรียนพิเศษครับ ไม่ได้เก่งหรอก แต่ไม่มีเงิน จากคุณ : Generals - [ 14 มิ.ย. 52 16:14:59 ]

ความคิดเห็นที่ 55 จะว่าไปเรื่องการเรียนในระบบก็ไม่รู้จะเรียนไปเพื่ออะไรกัน เพื่ออนาคตที่มั่นคง เพื่อการไต่เต้า เพื่อประสบความสำเร็จ เพื่อความฝัน แต่สิ่งที่เรียนอย่างดีก็ได้แต่ความรู้ แต่เรียนจบออกมาจะได้ปัญญาซักเท่าไหร่เชียว เมื่อเราเรียนจบออกมาจะมีความอยากรู้อยากเห็นอยาก และอยากอยู่บนโลกมากขึ้นหรือไม่ ไม่มีคำตอบ เพราะระบบการศึกษาไม่ได้สนใจผู้ศึกษาหรอก จึงยัดเอาความรู้ที่มากมาย แต่ไม่ใช่แก่นสารของชีวิตมาลงไว้มากมาย กับค่านิยมที่ต้องแข่งขันเพื่อเอาตัวรอดกันอยู่่ตลอดเวลา แล้วอะไรคือชีวิตเล่า เราเกิดมาเพื่อแข่งขันกันเองเหรอ? เมื่อการเรียนในระบบที่มันซับซ้อนและยุ่งเหยิง ไร้ความสดใหม่ จะมีกี่คนที่มีความสุขในการเรียนในระเบียบบ้าง การเรียนที่อยู่ในโรงเรียน คนทำคะแนนได้น้อยก็รู้สึกไม่มั่นคง คนที่ได้คะแนนเยอะ ก็กลัวคะแนนตก เพราะอย่างไรที่บ้านก็คงไม่่ชอบใจถ้าคะแนนไม่กระเตื่องหรือแย่ไปกว่าเดิม ดังนั้นในเมื่อเรียนในโรงเรียนมันไม่ช่วยให้มั่นใจขึ้น ประกอบกับค่านิยมสังคมเรื่องการแข่งขันมีอยู่มากแล้ว การเรียนพิเศษก็เป็นผลพลอยได้... แม้ว่ากระทรวงศึกษาไม่ต้องการให้นักเรียนไปหนักกับการเรียนพิเศษจนก่อร่างสร้างระบบแอดมิชั่นขึ้น บางทีถ้ากระทรวงต้องการแก้ไขให้ตรงจุดอีกนิด ใส่คุณค่าของความเป็นคนเข้าไปอีกนิดก็คงจะดี จากคุณ : ทะเลคราม (blueocynia) - [ 14 มิ.ย. 52 18:16:45 ]

ความคิดเห็นที่ 56 ถ้าเจออ.แก่ๆ จะเข้ามาบ่นไป40 นาที เหลือ 10 นาทีเรียน จากคุณ : Shineokung - [ 14 มิ.ย. 52 19:30:18 ]

ความคิดเห็นที่ 57 เรียนพิเศษไม่ใช่ไม่ดี มันได้อะไรพอสมควร ในสังคมที่แข่งขันกันสูง ถ้าคุณอยากได้สิ่งที่หวัง คุณอาจต้องการตัวช่วย แต่ถ้าคุณมีสมองดีอยู่แล้ว ก็รอดไป เหมือนคนทำงาน ยังต้องไปหาอบรมเพิ่มพูนความรู้ ไม่งั้นตกยุด ถ้าบอกให้ผู้ใหญ่ไปเปิดคอมดูเอง คงยาก จากคุณ : www3www - [ 14 มิ.ย. 52 21:20:13 ]

ความคิดเห็นที่ 58 เอาประสบการณ์มาเล่าให้ฟัง เรียนพิเศษเลข... ก่อน ent เรียนครึ่งคอร์ส โดดไปเล่นเกมอีกครึ่ง ติด มธ. จากคุณ : StreamRider - [ 14 มิ.ย. 52 21:52:58 ]

ความคิดเห็นที่ 59 คิดว่าถ้าเจอเหตุการณ์ต่อไปนี้... คุณจะได้ความรู้ครบถ้วนจนสามารถไปทำข้อสอบเอนท์ได้จริงๆ เหรอคะ??? - อ.สังคมที่สอนแบบพายเรือในอ่างและออกทะเล แต่ออกข้อสอบโหด เปรียบเทียบให้เห็นภาพคือ เหมือนอ.ที่เพิ่งสอนว่า is กับ are ต่างกันยังไง แต่ออกข้อสอบ If clause ให้เด็กทำ เด็กคงจะตรัสรู้คำตอบได้เองละมั้งคะ... - อ.สังคมที่เข้ามาร่ายย่าวพรรณาอยู่ 30 นาที และเร่งสอนอีก 20 นาที - อ.คณิตที่เพิ่งจบมาใหม่ๆ เอ้านักเรียน!จดบนกระดานนะ เด็กก็ ลอกๆๆๆ เอ แล้วที่ตูลอกไปมันแปลว่าอะไรวะ... เอ้านักเรียน! สอบเก็บคะแนน... ตู้ม เด็กตกทั้งห้อง 55555 - อ.คณิตที่เข้ามาสอนสาย ติดประชุมนู่นนี่ สอนแบบง่ายๆ แต่ออกข้อสอบยาก แจกชีทแบบฝึกหัด 80 หน้า (ซึ่งเนื้อหาส่วนใหญ่ไม่เคยสอน) ให้ทำให้ครบทุกข้อ โดยแจกมาให้ก่อนสอบปลายภาคไม่ถึงอาทิตย์ (พูดง่ายๆ คือให้ทำมันช่วงเด็กอ่านหนังสือสอบ) ...เด็กก็นั่งทำมั่วๆๆๆ ไปทุกข้อ ขอให้มีคำตอบให้เค้าเห็นเป็นพอ แหม แจกชีทให้เด็กไปตั้ง 80 หน้า เค้าคงคิดว่าเด็กได้ความรู้กันไปเยอะ เปล่าหรอก มั่วจ้ะ! ถ้าจะบอกว่า เรียนหนังสือนี่ต้องเรียนเพื่อให้ได้ความรู้ ไม่ใช่มุ่งเอาไปสอบเอนท์อย่างเดียว คือ...ถ้าเจออ.แบบข้างบนนี่ แค่ตัวองค์ความรู้เฉยๆ ก็ไม่ได้แล้วค่ะ ไม่ต้องไปพูดถึงสอบเอนท์หรอกนะ... ยิ่งเจอระบบ Gat-Pat กลั่นแกล้งเข้าไป ก็ยิ่งบีบให้ไปเรียนกันใหญ่ รุ่นเราสอบได้ 4 ครั้ง... ได้สอบตอนจบม.6 แล้วแค่ 1 ครั้ง นอกนั้นสอบตอนอยู่ม.5และตอนกำลังเรียนม.6 ข้อสอบก็ยากกว่าเดิม อย่าง Pat 7 ญี่ปุ่นนี่ เทียบกับข้อสอบเอนท์ญี่ปุ่นเก่าๆ แล้ว pat ยากกว่าเยอะมากกกก แต่เราลงเรียนพิเศษไม่ทัน+ที่เรียนมันไกล เลยต้องมานั่งฟิตอ่านเนื้อหาม.6 ให้จบ อ่านไวยากรณ์ระดับ 3 ซีร็อกซ์ข้อสอบเก่ามาทำ ฯลฯ เดือนก.ค.นี้จะได้รู้กันละว่าอ่านเองจะได้ซักแค่ไหนกัน TT อ้อ ทิ้งท้าย ถามจริงๆ เถอะ คิดว่าทำไมเด็กต้องรีบเรียนให้จบ รีบเอนท์ รีบทำงาน รีบซื้อบ้านซื้อรถขนาดนั้น ก็ไม่ใช่เพราะสังคมไทยมันบีบเหรอ รับสมัครงานที มีแต่คนกำหนดวุฒิขั้นต่ำปริญญาตรี มีประสบการณ์การทำงาน แต่ดันเอาอายุน้อยๆ จะให้เด็กไปพักผ่อนเดินทาง วิ่งไล่ตามหาสิ่งที่ตัวเองชอบซักปีสองปีแบบเด็กฝรั่งก็ไม่ได้ ถ้าไม่รีบทำงานจะเอาอะไรกิน edit เพิ่ม อ้อ ถ้าจะบอกว่า เรียนพิเศษเหมือนเรียนไปเพื่อสอบ ไปเอาแนวข้อสอบ แต่ไม่ได้ตัวความรู้ไปต่อยอดน่ะ อันนี้เราว่ามันแล้วแต่คนจะเปิดรับ+ความสนใจของแต่ละคนนะคะ อย่างเราเรียนคอร์สประวัติศาสตร์ของอ.ปิงแล้วสนุกมากกก เพิ่งรู้ว่าสิ่งที่มันดูน่าเบื่อๆ อย่างประวัติศาสตร์มันสนุกขนาดนี้ เราไปนั่งค้นไปนั่งอ่านมาเพิ่มเยอะแยะเลย แก้ไขเมื่อ 14 มิ.ย. 52 22:24:15 จากคุณ : = Un Insomnia = - [ 14 มิ.ย. 52 22:15:12 ]

ความคิดเห็นที่ 60 เรียนเพราะแม่บังคับ จำได้ว่าเรียนอะไรเกี่ยวกับสูตรเลขสักอย่าง แต่ก็เคยขอเรียนวาดรูป แต่แม่ไม่ให้ พอเข้ามหาลัยก็ไปเรียนศิลปกรรมตามฝัน............................ จากคุณ : Fatdiary - [ 14 มิ.ย. 52 23:04:12 ]

ความคิดเห็นที่ 61 บางท่านก็กั๊กไม่ตั้งใจสอนในห้องเรียน  ไปเต็มที่เอาตอนสอนพิเศษ ก็รายได้มันดีนิ จากคุณ : ขอซักชื่อเหอะ - [ 15 มิ.ย. 52 01:20:38 ]

ความคิดเห็นที่ 62 ต้องดู  ว่า เป้าหมายคือคณะอะไร แล้วดูว่า นักเรียนเอง อยู่ตรงไหน ของ กลุ่ม ก้าเป้าสูง  และตัวนักเรียน อยู่ล่างๆ คงจะไปสู่เป้าได้ยาก  หากต้องการให้ไปถึุงเป้า คงต้องเรียนแล้วหละ ทีนี้ ถ้าเป้าไม่สูงเกินไป และนักเรียน อยูในกลุ่มสูง อย่างนี้ื เรื่ยนหรือไม่เรียนก็ได้ ที่พูดๆ กันมา ว่าฉัน ติดโน่น ฉันเข้านี่ได้นั้น ต้องดูว่า  ทีี่เข้ามาได้  นั้น เป็นคณะที่มีคะแนนสูงหรือไม่เพียงใด แล้วตัวคนพูด อยู่ตรงไหน ของกลุ่ม การจะยกข้อมูล บางอย่างแล้วเอามาสนันสนุนตัวเอง หาก "ตัดตอน"  มาเพียงบางตอน เหตุผลที่ยกมานั้น มันอาจเข้า ข่าย fallacy ได้โดยง่าย จากคุณ : น้าพร - [ 15 มิ.ย. 52 14:07:57 ]

ความคิดเห็นที่ 63 เอางี้ผมเป้นเด็ก ผมว่า ทำลายไอ้ระบบเรียนพิเศษไม่ยาก 1.อาชีพครู คือคนเก่ง + ถ่ายทอดวิชาได้ดี เราจะเห็น ครูสอนพิเศษ ประสบการณ์ +ความเก่ง ถ้าเทียบ ครูท่ รร.บรรจุใหม่  หมัดต่อหมัด รับรอง ครู บรรจุใหม่ น็อคตั้งแต่ยังไม่เริ่ม เพราะอะไรรู้ไหมครับ อาชีพครู คะแนนต่ำ ผมไม่ได้ดูถูกครูนะครับ แต่ มันเป็นอย่างนั้นจริงๆ 2.ครู บรรจุใหม่ สอนไม่ชำนาญ เอาเด็กไม่อยู่ สอนไม่เข้าใจ บางคน จบมาสอนดีก็มีแต่น้อย ! ครับ บางคนถึงขั้น ซีลอคเนื้อหาแจก + ใบงาน แล้วทำส่งท้ายชั่วโมง วันดีคืนดี ผมโมโหอยากย้อนไปว่า  สอนแบบนี้ผมก็ทำได้ 3.ผม อยู่ ม.1 จน ม.6 เจอครูสอนดี ไม่ถึง 10คน ผมไม่เคยอคติ กับคนสอน และไม่เคยอวดเก่งวันเรียนพิเศษแล้วจะหลับ หรือโดดในคาบนั้นๆ 4.บรรยากาศการเรียน  อากาศร้อน เหงื่อ ออก คุณครูชอบดุกินเวลา เพื่อนๆคุยกัน เสียงดัง เราน่าร่วมวงด้วย 5 55 คนรักอยุ่ในห้อง มองเขา น่ารักดี ห้องรอบข้างเสียงดังเปิดเพลง น่ารำคาญ จารย์สอนวนไปวน แล้วไอ้เครื่องฉายสไลด์นี่ มันไม่จำเป็นเลย ทำให้ผมเรียนไม่รู้เรื่อง มองไม่เห็น ไม่ชัดเจน 5.จากข้อ 4 ที่เรียนพิเศษเล็งเห็น มีคนคุมห้อง + แอร์เย็น + แยกที่นั่งกันนั่ง +เห็นชัดเจน 6.ไอ้แผนที่ความคิดบ้าๆบอๆ ให้ทำ เทอมนึงหลายครั้ง คะแนนวัดจากลายมือ + ความสวยงาม น่าเบื่อ ! เอาโจทย์มาฝึกทำยังดีกว่า หรื ทดลอง ให้ดูยังดีกว่า 7.ผมสอบ ฟิสิกส์ ผ่านหมด เพื่อนผมตกหมดทุกครั้ง ผมได้เกรด 2 เพื่อนได้ 3.5 เพราะคะแนนเก็บ 76 คะแนน ชึ่งคะแนนสอบย่อยๆ ผมไม่รู้ว่าได้เท่าไหร่มั่ง แล้วที่ผมได้คะแนน น้อย ก็เพราะ ทำ powerpoint ไม่โดนใจอาจารย์ >< พอเห็นคร่าวๆ แล้วนะครับ ทางแก้ที่ผมอยากเห้นในอนาคต ทุ่มเงิน ติดแอร์ทุกห้อง ให้ นร.สับห้องที่นั่ง ตามรายชั่วโมง แล้ว  ใครอยากเรียนก็เรียน ไม่อยากเรียนไม่ต้องเข้า เข้ามาก็คุย เพราะ ม.4 5 6 ผมว่า น่าคิดได้ คิดไม่ได้ ผมว่าก็เรียนสายวิทย์ไม่ไหวหรอก กิจกรรมน้อยลง  แล้วนำอาจารย์ ฝีมือดีๆ มาสอน จะทำ dvd แบบ ที่เรียนพิเศษก็ได้ อาจารย์ได้ไม่เหนื่อย คนได้เห็นอาชีพนี้ สบาย ได้แข่งขันกัน พอสงสัยไปถาม ent ขอ ใช้วิชาสอบตาม คณะเหอะครับ วิศวะ ก็ใช้ พถ.วิศวะ +เลข ไรงี้ ไม่ใช่ เอา คะแนนไทยสังคมมาด้วย ไร้สาระ ครับ ไทยสังคม ถ้าใครอยากจ่อวิศวะ ผมว่า วิชาเหล่านี้เรียนเพื่อรู้ ดีกว่า เรียนเพื่อชำนาญครับ ผมคงชี้แนะได้แค่นี้ จากคุณ : Mr>Robuk - [ 15 มิ.ย. 52 23:17:23 ]

ความคิดเห็นที่ 64 ปลาก็ถามว่าบนฟ้ามีสาหร่ายไหม นกก็ถามว่าในน้ำมีเมฆด้วยรึเปล่า คนเราจะถามอะไร ก็วัดจากพื้นฐาน ประสบการณ์ที่ตนเองรู้ หน่ะครับ จากคุณ : yog_bf - [ 16 มิ.ย. 52 15:46:39 ]

ความคิดเห็นที่ 65 ถ้าเรียนพิเศษเพียงวันละไม่กี่ชั่วโมงได้ผลดี ผมอยากให้ผู้ปกครองคิดว่า ทำไมจะต้องส่งลูกหลานไปโรงเรียนวันละ 7-8 ชั่วโมง เอาเวลา 7-8 ชั่วโมงที่ต้องทนทุกข์ทรมาน ขับรถไปส่งลูก ไปรับไปส่ง ให้ลูกเล่นอยู่กับบ้าน เย็นๆค่อยไปเรียนพิเศษไม่ดีกว่าหรือ ผมว่าค่านิยมเรียนพิเศษเกิดจากคนโลภ อยากให้ลูกของตัวเองเรียนเก่ง เก่งๆ แล้วทำไรได้ ค่อยคิดกันทีหลัง จากคุณ : TinyNu - [ 16 มิ.ย. 52 21:05:27 ]

ความคิดเห็นที่ 66 ถ้าถามผม เรียนพิเศษ ผมว่าไม่จำเป็นครับ เด็กแต่ละคน ย่อมมีความเก่งความชำนาญในแต่ละด้านไม่เท่ากัน แต่เนื่องจากตอนนี้ ค่านิยมที่ว่าความสำเร็จคือการเอ็นติด ถ้าเรียนม.ดังๆแล้วคุณคือคนที่เพอร์เฟคในทุกด้าน วิศวะ หมอ คือคนที่ประสบความสำเร็จในชีวิต เด็กที่ยังไม่พบตัวเองชอบอะไรและจะทำอะไรถนัดอะไร จึงหลงเข้าไปในกระแสนิยมนั้น จึงทำให้แข่งขันสูง ต้องไปเรียนพิเศษ ทั้งๆที่จริงๆแล้วไม่จำเป็นต้องเข้าไปแข่งขัน และมีตัวเลือกอื่นๆตามถนัดอีกมากมาย แล้วพอจบออกมาก็มาตกงานกันเป็นแถว..หรือไม่ก็ได้มาแค่กระดาษแปะฝาบ้าน ผมค่อนข้างเห็นด้วยกับความเห็น 39 เชื่อมั้ยครับว่าสมัยเรียนผมเรียนห้อง 1 เกรดเฉลี่ยสูงกว่า3.8ทุกเทอม แต่ผมกลับเลือกเรียนราม และก็เรียนไม่จบด้วย แต่ปัจจุบันผม มีชีวิตกับอาชีพที่มีความสุข มั่นคง มีเงินเก็บ จริงอยู่การเอ็นติดมันคือการเปิดโอกาสให้ชีวิต แต่มันไม่ใช่ทุกอย่างของชีวิต และ ชีวิตจริงๆมันเริ่มหลังจากที่คุณก้าวออกจากรั้วมหาลัยต่างหากครับ จากคุณ : น้ำนอง - [ 21 มิ.ย. 52 12:29:58 ]