ความคิดเห็นที่ 1 ก่อนที่ผมจะเล่าต่อ จำเป็นต้องบอกเล่าถึงสถาบันทางวิชาการที่เก็บสถิติอุณหภูมิของโลก ที่วงการอุตุนิยมวิทยาเชื่อถือแพร่หลายมีสี่สำนักใหญ่ โดยสองสำนักรวมรวมชุดข้อมูลที่ตรวจวัดโดยเครือข่ายสถานีตรวจวัดภาคพื้น (จากตู้เทอร์โมมิเตอร์ที่ตั้งอยู่บนพื้นดิน) อีกสองสำนักเป็นชุดข้อมูลอุณหภูมิของบรรยากาศระดับล่างสุด (Lower Troposphere) ที่ตรวจวัดโดยอุปกรณ์บนดาวเทียม สถาบันที่ศึกษาชุดข้อมูลที่มาจากสถานีตรวจวัดภาคพื้นได้แก่ ชุดข้อมูลของอังกฤษ มาจากสถาบัน Hadley Climate Research Unit แห่งมหาวิทยาลัย East Anglier ชุดข้อมูลที่บอกถึงความผิดปกติของอุณหภูมิโลก เรียกว่า HadCRUT3 มีประวัติข้อมูลย้อนหลังยาวนานกว่าร้อยปี http://hadobs.metoffice.com/hadcrut3/diagnostics/global/nh+sh/monthly ชุดข้อมูลของสหรัฐฯ มีสองสำนักที่ศึกษาเรื่องนี้ คือ National Climate Data Center (NCDC) และ Goddard Institute for Space Study (GISS) มีประวัติการเปลี่ยนแปลงอุฌหภูมิโลกย้อนหลังยาวนานกว่าร้อยปีเช่นกัน แต่เนื่องจากทั้งสองสำนักนี้ใช้ข้อมูลดิบที่ถือว่าเป็น clone ซึ่งกันและกัน จึงมีคุณค่าเสมือนเป็นแหล่งข้อมูลเดียว สองสำนักนี้ได้ผลลัพท์อุณหภูมิโลกที่ต่างกันเล็กน้อย เนื่องมาจากใช้วิธีการคำนวณที่แตกต่างกัน http://data.giss.nasa.gov/gistemp/tabledata/GLB.Ts+dSST.txt ผลการคำนวณความผิดปกติของอุณหภูมิโลกของทางฝ่ายสหรัฐฯจะสูงกว่าของอังกฤษ เนื่องมาจากแต่ละสำนักใช้เทคนิคทางคณิตศาสตร์ในการหาค่าเฉลี่ยที่แตกต่างกัน แต่อย่างไรก็ตามแนวโน้มหรือทิศทางการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิค่อนข้างสอดคล้องกัน ต่อมาเมื่อถึงทศวรรษ 1970s โลกก็เริ่มมีดาวเทียมสำรวจทางอุตุนิยมวิทยา ชุดข้อมูลอุณหภูมิโลกจากดาวเทียมที่วงการนิยมใช้อ้างอิงมีสองสถาบัน คือ Global Hydrology and Climate Center แห่งมหาวิทยาลัย Alabama ชุดข้อมูลความผิดปกติของอุณหภูมิโลก รู้จักกันในชื่อ UAH MSU มีข้อมูลย้อนหลังราวสามสิบปีhttp://vortex.nsstc.uah.edu/data/msu/t2lt/uahncdc.lt และสถาบัน Remote Sensing System (REMSS) แห่ง California ซึ่งเป็น Business unit ที่ได้รับการสนับสนุนจาก NASA ชุดข้อมูลความผิดปกติของอุณหภูมิโลก รู้จักกันในชื่อ RSS MSU http://www.remss.com/pub/msu/monthly_time_series/RSS_Monthly_MSU_AMSU_Channel_TLT_Anomalies_Land_and_Ocean_v03_2.txt ข้อมูลอุณหภูมิโลกจากดาวเทียมของสองสำนักนี้ สอดคล้องกันดี และใกล้เคียงกันมาก เมื่อเปรียบเทียบอุณหภูมิเฉลี่ยของโลก จากสองสำนักที่ใช้สถานีภาคพื้น กับสองสำนักพื้นที่ใช้ดาวเทียม ทางฝ่ายที่ใช้สถานีภาคพื้นจะได้ค่าเฉลี่ยมากกว่าของดาวเทียม การที่ได้ค่าไม่ตรงกันน่าจะเป็นเรื่องธรรมดา ก็เพราะแต่ละสำนักใช้เทคนิคที่ต่างกัน แต่กลับมีความแปลกประหลาด ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าสนใจอย่างยิ่งตรงที่ถ้าความแตกต่างเกิดจากกรรมวิธีในการคำนวณ ความแตกต่างก็ควรจะคงที่ในระดับประมาณนั้นไปตลอด แต่กลับไม่เป็นเช่นนั้น ข้อเท็จจริงที่น่าสนใจคือ เมื่อสามสิบปีก่อนความแตกต่างของอุณหภูมิโลกระหว่างสถานีภาคพื้นกับดาวเทียมต่างกันอยู่ไม่มาก แต่เมื่อเวลาผ่านไป ความแตกต่างกลับเพิ่มมากขึ้นตามลำดับ โดยสถานีตรวจวัดภาคพื้นบอกว่าโลกกำลังร้อนขึ้นเร็วกว่าการตรวจวัดจากดาวเทียมเกือบเท่าตัว ขอให้ดูรูปตัวอย่างการเปรียบเทียบ UAH เทียบกับ GISS http://www.junkscience.com/MSU_Temps/MSUvsGISTEMP.html จากคุณ : กาลามะชน - [ 19 มิ.ย. 52 16:10:26 ]

ความคิดเห็นที่ 2 มีสมมติฐานอธิบายถึงสาเหตุที่ทำให้สถานีภาคพื้นบอกว่าโลกร้อนขึ้นเร็วกว่าดาวเทียม ว่าเป็นเพราะสถานีตรวจวัดอุณหภูมิภาคพื้นโดนมลภาวะทางความร้อน หรือเกิดสภาวะเกาะร้อนแผ่ครอบคลุมสถานี หรืออาจจะเกิดจากสองสาเหตุร่วมกัน เพราะเมื่อเวลาผ่านไปบ้านเมืองเจริญขึ้น สภาวะเกาะร้อนก็รุนแรงขึ้นตามลำดับ สถานีตรวจวัดอุณหภูมิที่เมื่อติดตั้งครั้งแรก ตั้งอยู่กลางทุ่งนา พอเวลาผ่านไปหลายสิบปีก็อาจจะกลายเป็นตั้งอยู่ในเขตชุมชน อุปกรณ์วัดอุณหภูมิภาคพื้นที่แพร่หลายมีสองแบบ คือ Stevenson screen (ขวา) เป็นตู้เก็บเทอร์โมมิเตอร์ ทำด้วยไม้สี่เหลี่ยมทาสีขาว เป็นแบบที่ใช้กันมาแต่โบราณ แต่ก็ยังคงมีใช้อยู่เป็นจำนวนมาก  กับตู้ MMTS (ซ้าย) รูปทรงทรงกระบอก ที่ทันสมัยกว่า สามารถส่งข้อมูลแบบ online ผ่านสายสัญญาณ จากคุณ : กาลามะชน - [ 19 มิ.ย. 52 16:12:12 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ตามปกติ ตู้เก็บเทอร์โมมิเตอร์ ควรติดตั้งบนพื้นที่มีลักษณะเป็นพื้นผิวธรรมชาติ ในที่โล่ง ไม่อยู่ในร่มเงา และห่างจากแหล่งความร้อนที่มนุษย์สร้างขึ้นอย่างน้อย 20-100 เมตร ตัวอย่างการติดตั้งสถานีตรวจวัดภาคพื้นที่ได้มาตรฐาน (Orland, California) Note รูปต่างๆมาจาก http://wattsupwiththat.com/  หรือ http://www.surfacestations.org/ จากคุณ : กาลามะชน - [ 19 มิ.ย. 52 16:15:07 ]

ความคิดเห็นที่ 4 แต่สถานีตรวจวัดที่เมื่อหลายสิบปีก่อนเคยตั้งอยู่กลางทุ่ง แต่ปัจจุบันกลายเป็นเขตชุมชุมแบบนี้ มีตัวอย่างให้เห็นมากมาย เช่นที่ (Santa Ana, Baltimore) จากคุณ : กาลามะชน - [ 19 มิ.ย. 52 16:16:26 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ถ้าไม่ใช่เพราะสภาวะเกาะร้อนหรือมลภาวะทางความร้อนแล้ว ก็ดูเหมือนยังไม่มีสมมติฐานอื่นใดที่ดีไปกว่านี้ ที่จะอธิบายถึงความแตกต่างระหว่างสถานีภาคพื้นกับดาวเทียม ที่ค่อยๆมากขึ้นตามเวลาที่ผ่านไปได้เลย ความบกพร่องเกี่ยวกับสถานที่ติดตั้งสถานีตรวจวัดภาคพื้น ในทางที่จะทำให้วัดค่าอุณหภูมิได้สูงเกินจริง เป็นข้อเท็จจริงทางวิทยาศาสตรที่เห็นเป็นรูปธรรม สามารถพิสูจน์ได้ แต่ก็ยังคงถูกปฏิเสธอย่างแข็งขัน เพราะการตั้งสมมติฐานเช่นนี้ เป็นการคุกคามเกียรติภูมิของหน่วยงานอุตุนิยมวิทยาของประเทศต่างๆ ว่าทำงานบกพร่องในแง่ที่ไม่สามารถรักษามาตรฐานอุปกรณ์ ทำให้ได้ข้อมูลที่คลาดเคลื่อน ซึ่งแน่ละหน่วยงานที่เกี่ยวข้องย่อมต้องออกมาปฏิเสธ ทั้งๆที่เป็นเรื่องที่น่าจะเป็นไปได้อย่างมาก เพราะความคลาดเคลื่อนในระดับจุดทศนิยม อาจจะถูกละเลย เนื่องจากไม่ค่อยมีนัยสำคัญต่อการรายงานสภาพอากาศประจำวัน ที่ต้องการความถูกต้องในหลักหน่วยก็เพียงพอ ทำให้หน่วยงานในสายอุตุนิยมวิทยาไม่ค่อยให้ความสำคัญกับความถูกต้องในระดับทศนิยมเท่าที่ควร จากคุณ : กาลามะชน - [ 19 มิ.ย. 52 16:17:54 ]

ความคิดเห็นที่ 6 แต่ความคลาดเคลื่อนในระดับจุดทศนิยมนี้กลับมีผลกระทบต่อการศึกษาสภาวะโลกร้อนเป็นอย่างมาก เพราะสภาวะโลกร้อน เป็นความเปลี่ยนแปลงในระดับทศนิยมเท่านั้น สภาวะโลกร้อนในปัจจุบันตามที่ IPCC ประเมินคือ 0.6 C ดังนั้นความคลาดเคลื่อนแม้เพียง 0.1 องศาก็มีนัยสำคัญอย่างยิ่งต่อการศึกษาสภาวะโลกร้อน สภาวะโลกร้อนตามข้อมูลของ HadCRUT3 แก้ไขเมื่อ 24 มิ.ย. 52 13:25:10 จากคุณ : กาลามะชน - [ 19 มิ.ย. 52 16:19:08 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับความไม่สอดคล้องระหว่างดาวเทียมกับสถานีตรวจวัดภาคพื้นที่ค่อยๆมากขึ้นตามลำดับ เมื่อมาประสมร่วมกับข้อเท็จจริงที่ว่าสถานีตรวจวดภาคพื้นจำนวนมากน่าจะคลาดเคลื่อนเพราะมลภาวะทางความร้อน ควรฉุกคิดได้ว่ามีความเป็นไปได้ที่การวัดอุณหภูมิเฉลี่ยของโลกมีความคลาดเคลื่อน จากความบกพร่องของอุปกรณ์ แต่อะไรทำให้ประชาชนพลโลกส่วนใหญ่ถึงกับมองข้ามข้อเท็จจริงที่แปลกประหลาดนี้ไป น่าจะเป็นเพราะองค์กรที่ทรงอิทธิพลยิ่ง คือ คณะกรรมการศึกษาการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ แห่งสหประชาชาติ หรือ IPCC ซึ่งเป็นต้นกำเนิดของลัทธิความเชื่อว่ามนุษย์ทำให้โลกร้อนนั้น อ้างอิงทฤษฎีทั้งหมดแขวนไว้กับข้อมูลจากสถานีภาคพื้น ซึ่งให้ข้อมูลว่าโลกกำลังร้อนขึ้นอย่างรวดเร็ว และปฏิเสธข้อมูลจากดาวเทียมแบบไม่มีเยื่อใย เพราะให้ข้อมูลว่าโลกร้อนขึ้นเพียงเล็กน้อย การยอมรับว่าข้อมูลของสถานีภาคพื้นไม่ถูกต้อง จะมีผลกระทบต่องานวิจัยทั้งหมดของ IPCC ถึงขั้นล้มละลาย เพราะเกิดความผิดพลาดในระดับข้อเท็จจริงทางวิทยาศาสตร์ เนื่องจากทฤษฎีมนุษย์ทำให้โลกร้อน มีลักษณะเป็น ลัทธิความเชื่อ มากกว่าการแสวงหาความจริงทางวิทยาศาสตร์ ดังนั้นเมื่อ IPCC กล่าวอ้างโดยไม่มีการพิสูจน์ ในรายงานฉบับที่สามว่า สภาวะเกาะร้อน ทำให้โลกร้อนขึ้นเพียง 0.0006 C ต่อทศวรรษ ก็ดูเหมือนคนทั่วโลกจะยอมรับคำอ้างในรายงานโดยดุษฎีว่าเป็นความจริง และปล่อยให้ข้อเท็จจริงที่ปรากฏ กลับกลายเป็นเหมือนไม่เคยมี Fig. แบบจำลองการพยากรณ์ถึงสภาวะโลกร้อนของกลุ่มต่างๆ จากคุณ : กาลามะชน - [ 19 มิ.ย. 52 16:23:05 ]

ความคิดเห็นที่ 8 คงต้องใช้ ภาพถ่าย อินฟาเรด จาก ดาวเทียม ตัดสิน กระมัง จากคุณ : Humandroy - [ 19 มิ.ย. 52 16:23:05 ]

ความคิดเห็นที่ 9 อย่างไรก็ตามความไม่ได้มาตรฐานของสถานีตรวจัดภาคพื้นจำนวนมาก เป็นข้อเท็จจริงทางวิทยาศาสตร์ที่ปรากฏชัดแจ้ง ไม่มีทางที่จะปฏิเสธ ขาดเพียงแต่ยังไม่เคยมีการประเมินว่าความบกพร่องนี้ออกมาเป็นรูปธรรม ว่ามีผลกระทบต่อการวัดอุณหภูมิของโลกอย่างไร เพราะผู้ที่มีหน้าที่รับผิดชอบไม่เคยยอมรับในความบกพร่อง ไม่เคยคิดจะทำการประเมินถึงผลที่จะกระทบ ดังนั้นในเดือน May 2007 Anthony Watt ผู้สื่อข่าวอากาศ (weather reporter) ได้เริ่มทำโครงการ audit สถานีตรวจอากาศภาคพื้น ที่มีอยู่ประมาณ 1,200 แห่งทั่วประเทศสหรัฐอย่างเป็นระบบ เพื่อจะทำให้หน่วยงานที่รับผิดชอบ ยอมรับความจริงว่าข้อมูลอุณหภูมิส่วนใหญ่ มีความคลาดเคลื่อนอย่างมีนัยสำคัญ ข้อมูลที่เชื่อถือได้มีเป็นส่วนน้อย http://en.wikipedia.org/wiki/Anthony_Watts_(blogger) Anthony Watts ได้ตั้งเวบไซท์เฉพาะกิจขึ้นคือ http://www.surfacestations.org/ ระดมขออาสาสมัครจากผู้ที่ทำงานอยู่ในสายอุตุนิยมวิทยาทั่วประเทศ และทั่วโลก ช่วยทำการ audit สถานีตรวจวัดอุณหภูมิ  รวมทั้งมีการถ่ายภาพอุปกรณ์จากทิศทางต่างๆมารวมไว้ที่เวบไซท์เป็นหลักฐานยืนยัน การ audit จัดแบ่งความคลาดเคลื่อนเป็น 5 ระดับ (category) โดยอ้างอิงตามมาตรฐานของ NCDC ดังนี้ 1. good ไม่คลาดเคลื่อน (แหล่งความร้อนของมนุษย์อยู่ห่างเกิน 100 เมตร) 2. fair คลาดเคลื่อนไม่เกิน 1 องศา หรือมีแหล่งความร้อนของมนุษย์อยู่ห่าง 30-100 เมตร 3. คลาดเคลื่อน 1 – 2  (แหล่งความร้อนของมนุษย์อยู่ห่าง 10-30 เมตร) 4. คลาดเคลื่อน 2 – 5 (แหล่งความร้อนของมนุษย์อยู่ห่างน้อยกว่า 10 เมตร) 5. คลาดเคลื่อนมากกว่า 5 (อยู่ประชิดกับแหล่งความร้อนของมนุษย์) จากคุณ : กาลามะชน - [ 19 มิ.ย. 52 16:29:42 ]

ความคิดเห็นที่ 10 เอาไป ๓ กีฟครับ แต่ถึงโลกเราจะไม่ร้อน เราก็ต้องช่วยกันอนุรักษ์(แปลว่าใช้ประโยชน์อย่างคุ้มค่า)ทรัพยากรธรรมชาติกันนะครับ จากคุณ : Ice-man - [ 19 มิ.ย. 52 16:29:51 ]

ความคิดเห็นที่ 11 สถานที่ติดตั้งจุดตรวจวัดอุณหภูมิมีความสำคัญอย่างไร สิ่งก่อสร้างของมนุษย์นั้นมักจะมีอุณหภูมิสูงกว่าวัสดุธรรมชาติ เพราะมีแหล่งผลิตความร้อนอยู่ข้างใน และแผ่รังสีความร้อนออกมา ดังนั้นถ้าติดตั้งเครื่องตรวจวัดไว้ใกล้กับสิ่งก่อสร้างของมนุษย์ เครื่องวัดก็จะได้รับอิทธิพลความร้อนจากรังสีอินฟาเรด ซึ่งอาจจะก่อให้เกิดความคลาดเคลื่อนในระดับทศนิยมได้ ดังตัวอย่างภาพถ่ายในย่านอินฟาเรดที่ Perry, Oklahoma นอกจากนี้สิ่งก่อสร้างของมนุษย์ที่แม้จะไม่มีแหล่งผลิตความร้อนอยู่ข้างใน แต่ก็มีพื้นผิวที่ดูดซับแสงอาทิตย์ได้ดี และร้อนกว่าพื้นผิวทางธรรมชาติ ที่สำคัญคือพื้นคอนกรีตหรือยางมะตอย ซึ่งมักจะปรากฏอยู่ในบริเวณจุดติดตั้งเครื่องวัดเป็นส่วนมาก จากคุณ : กาลามะชน - [ 19 มิ.ย. 52 16:31:44 ]

ความคิดเห็นที่ 12 การอยู่ใกล้กับสิ่งก่อสร้างของมนุษย์มีผลมากน้อยแค่ไหน Anthony Watts ได้พิสูจน์ให้เห็นโดยทดลองติดตั้งเครื่องวัดอุณหภูมิสองตัว A ติดตั้งอย่างถูกต้องตามมาตรฐาน NCDC และ B ติดตั้งไว้บนรั้วของลานจอดรถที่เป็นพื้นยางมะตอย ด้านที่ติดกับทุ่งหญ้า เพื่อใช้ในการเปรียบเทียบตามรูป จากคุณ : กาลามะชน - [ 19 มิ.ย. 52 16:34:12 ]

ความคิดเห็นที่ 13 Watts เปรียบเทียบความแตกต่างของอุณหถูมิที่วัดได้จากเทอร์โมมิเตอร์ทั้งสอง พบว่าถ้าลมพัดจากทุ่งหญ้ามาที่ลานจอดรถ อุณหภูมิของเทอร์โมมิเตอร์ทั้งสองจะไม่ต่างกันมาก แต่ถ้าช่วงไหนลมพัดจากลานจอดรถไปทางทุ่งหญ้า อุณหภูมิของ B จะสูงกว่าอย่างมีนัยสำคัญ ลมเป็นตัวการที่ทำให้ที่ช่วยส่งอิทธิพลมลภาวะทางความร้อนไปได้ไกล ดังนั้น NCDC จึงได้ตั้งมาตรฐานว่าจุดติดตั้งอุปกรณ์ต้องห่างจากสิ่งก่อสร้างของมนุษย์ (20 m.= fair, 100 m.= good) จากคุณ : กาลามะชน - [ 19 มิ.ย. 52 16:35:22 ]

ความคิดเห็นที่ 14 แต่สถานีตรวจวัดจำนวนมาก ไม่เป็นไปตามมาตรฐาน ส่วนหนึ่งอาจจะติดตั้งถูกต้องในครั้งแรก แต่หลายสิบปีผ่านไป มีการปรับปรุงพื้นที่เช่นก่อสร้างตึกเพิ่ม ขยายลาดจอดรถ โดยไม่ได้ทบทวนเงื่อนไข ทำให้จุดติดตั้งเดิมไม่ได้มาตรฐาน บางครั้งสร้างตึกจนไม่มีที่ว่างจะตั้ง ก็เอาเครื่องวัดไปตั้งไว้บนหลังคาก็มีพบหลายแห่ง จากคุณ : กาลามะชน - [ 19 มิ.ย. 52 16:37:20 ]

ความคิดเห็นที่ 15 แต่อีกส่วนก็มาจากความบกพร่องตั้งแต่แรกติดตั้ง เพราะความขี้เกียจเดินไกลของผู้ปฏิบัติงาน นอกจากนี้เครื่องวัดที่ทันสมัย MMTS ที่ควรจะมีความถูกต้องแม่นยำสูงกว่า Stevenson Screen กลับมีปัญหาเพราะความทันสมัย เนื่องจากจะต้องมีสายส่งสัญญาณมายังเครื่องรับที่มักจะอยู่ข้างในตัวอาคาร เพราะต้องการหลีกเลี่ยงการขุดดินเดินสายไฟไกล ทำให้เครื่องวัด MMTS เป็นเปอร์เซนต์ที่สูงมาก ถูกติดตั้งใกล้ตัวอาคารมากเกินไป จากคุณ : กาลามะชน - [ 19 มิ.ย. 52 16:39:43 ]

ความคิดเห็นที่ 16 อย่างที่ Lampasas แต่ก่อนตอนที่ใช้ตู้ Stevenson เคยตั้งอยู่ที่สวนสาธารณะ ที่น่าจะดี แต่ต่อมาได้รับการ upgrade เป็น MMTS ก็เลยกลายเปนมาติดอยู่อย่างที่เห็นในภาพ จากคุณ : กาลามะชน - [ 19 มิ.ย. 52 16:43:14 ]

ความคิดเห็นที่ 17 กระทูดีครับ แต่อ่านไม่ไหว จากคุณ : sabtoat - [ 19 มิ.ย. 52 16:44:16 ]

ความคิดเห็นที่ 18 เป็นประเด็นค้านที่น่าสนใจมากครับ แต่ประเด็นที่เห็นได้ชัดขนาดนี้ไม่เคยมีการพูดกันมาก่อนเลยหรือครับ จากคุณ : xnone - [ 19 มิ.ย. 52 16:44:25 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ขาประจำ ตามมาอ่าน จากคุณ : กฤตยฎีกา - [ 19 มิ.ย. 52 16:45:15 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ความโหลยโท่ยอย่างไม่น่าเชื่อ มีอยู่มากมาย จากคุณ : กาลามะชน - [ 19 มิ.ย. 52 16:47:05 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ที่ Detroit Lake อยู่ข้าง air compressor แก้ไขเมื่อ 19 มิ.ย. 52 16:56:12 จากคุณ : กาลามะชน - [ 19 มิ.ย. 52 16:49:39 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ที่ Petatuma ตั้งอยู่ข้างสนามบิน เหมือนไม่รู้ว่าลมจากเครื่องบินมันร้อน จากคุณ : กาลามะชน - [ 19 มิ.ย. 52 16:54:03 ]

ความคิดเห็นที่ 23 อยู่เกาะกลาง runways เลยก็ยังมี จากคุณ : กาลามะชน - [ 19 มิ.ย. 52 16:55:19 ]

ความคิดเห็นที่ 24 โห ข้อมูลดีมากเลยครับ จบรึยังเนี้ย น่าสนใจดี จากคุณ : elvish346 - [ 19 มิ.ย. 52 16:57:01 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ลงชื่อชมครับ...... จากคุณ : Mine_Knight - [ 19 มิ.ย. 52 16:58:32 ]

ความคิดเห็นที่ 26 มาจองที่นั่งด้วยครับ ^^ จากคุณ : vn, man - [ 19 มิ.ย. 52 16:59:27 ]

ความคิดเห็นที่ 27 มีทุ่งกว้างสุดลูกหูลูกตา แต่ขี้เกียจเดินสายไฟ จากคุณ : กาลามะชน - [ 19 มิ.ย. 52 17:00:00 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ความมักง่ายมีอยุ่ทุกหนทุกแห่ง จากคุณ : กาลามะชน - [ 19 มิ.ย. 52 17:02:11 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ปาดมั้ง จากคุณ : fah_999_9 - [ 19 มิ.ย. 52 17:05:30 ]

ความคิดเห็นที่ 30 พอเป็นกระสายก็แล้วกัน เพราะถ้าจะเอาสถานีห่วยๆมาให้ดูไปเรื่อยๆก็คงจะเบื่อ (ถ้าอยากดูเพิ่มก็ขอเชิญที่ http://www.surfacestations.org/) ถึงวันนี้ผลการ audit สำเร็จไปแล้วประมาณ 70 % แม้จะยังครบแต่ก็พอจะทำให้เห็นภาพรวมได้บ้าง ผลสำรวจนั้นน่าตกใจ และเลวร้ายกว่าที่คิดไว้มาก มีสถานีที่จัดอยู่ใน catagory 1 -2 (good - fair) เพียง 11% เท่านั้น นอกนั้นเชื่อได้ว่ามีความคลาดเคลื่อนอย่างมีนัยสำคัญ แก้ไขเมื่อ 19 มิ.ย. 52 17:19:20 จากคุณ : กาลามะชน - [ 19 มิ.ย. 52 17:07:24 ]

ความคิดเห็นที่ 31 เย้ เข้ามาดู ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆ จากคุณ : ATiVidia - [ 19 มิ.ย. 52 17:10:07 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ถ้าดูจากแผนที่ สถานีที่ไม่ได้มาตรฐาน เป็นสีส้ม-สีแดงเกือบทั้งประเทศ สถานีดีๆ สีเขียว-สีน้ำเงิน หาทำยายาก เมื่อเป็นอย่างนี้ ก็บอกไม่ถูกว่าโลกร้อนขึ้นจริงหรือเปล่า จากคุณ : กาลามะชน - [ 19 มิ.ย. 52 17:11:30 ]

ความคิดเห็นที่ 33 อ้าว...ยังไม่จบ ขอปาดแล้วกันนะคะ ตามอ่านต่อค่ะ จากคุณ : Matriarchal Miaw - [ 19 มิ.ย. 52 17:14:28 ]

ความคิดเห็นที่ 34 หลักฐานแน่นหนาขนาดนี้ก็ไม่รู้ว่า IPCC และชาวโลกร้อนจะว่าอย่างไร ต่อไปนี้เราคงจะต้องเชื่อผลการวัดของดาวเทียมเพียงอย่างเดียว ซึ่งบอกว่าตลอดสามสิบปี โลกร้อนขึ้นเพียงเล็กน้อย ส่วนความร้อนที่เราตรวจวัดได้จากสถานีภาคพื้น หรือรู้สึกจากการสัมผัสนั้น ส่วนหนึ่งน่าจะเป็นผลมาจากสองสาเหตุคือ สภาวะเกาะร้อน หรือมลภาวะทางความร้อน http://www.junkscience.com/MSU_Temps/MSUvsRSS.html แก้ไขเมื่อ 19 มิ.ย. 52 17:22:18 จากคุณ : กาลามะชน - [ 19 มิ.ย. 52 17:15:17 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ฝ่ายไม่เชื่อโลกร้อน นี่ขยันเอาเรื่องมา discredit จริงๆ เปลี่ยนไปเรื่อยๆ คำถามนี้ เค้าพิสูจน์กันเรียบร้อยแล้ว พบว่า UHI ไม่มีผลอย่างมีนัยสำคัญ ต่อการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิเฉลี่ยโลก ลองอ่านดู http://www.ncdc.noaa.gov/oa/climate/research/population/article2abstract.pdf Devid Parker, Nature Urban heat islands occur mainly at night and are reduced in windy conditions. Here we show that, globally, temperatures over land have risen as much on windy nights as on calm nights, indicating that the observed overall warming is not a consequence of urban development. สุดท้าย ก็แค่เลือกว่าจะเชื่อ งานวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสารนานาชาติ หรือ รูปถ่ายจากเวปไซต์ของฝ่าย Skeptics ก็เลือกเอา จากคุณ : กินดี - [ 19 มิ.ย. 52 17:17:04 A:202.28.24.141 X: TicketID:220092 ]

ความคิดเห็นที่ 36 ^ ^ ข้อมูลเก่าๆจากปี 2002 หรือจะสู้ข้อเท็จจริง 2009 ก็เพราะองค์กรเคยสรุปไว้เช่นนั้น จึงเป็นสาเหตุที่บุคคลในระดับประชาชนธรรมดาต้องลุกขึ้นมา audit เพื่อพิสูจน์ และก็ได้ผลอย่างที่เห็นคือ พบว่าองค์กรใหญ่มีความบกพร่องอย่างไม่น่าเชื่อ อนึ่งคุณ Anthony Watts นั้นเคยเป็นชาวโลกร้อนที่เคยเชื่อ IPCC แบบ 100% มาก่อน แต่มาเปลี่ยนความเชื่อเป็นในทางตรงข้าม เมื่อได้เห็นข้อเท็จจริงทางวิทยาศาสตร์จากงานอาชีพของตน ยังมีต่ออีกหน่อยแต่ขอพักไปทำธุระก่อน แก้ไขเมื่อ 19 มิ.ย. 52 17:42:01 จากคุณ : กาลามะชน - [ 19 มิ.ย. 52 17:25:05 ]

ความคิดเห็นที่ 37 ปาดดดดดแล้วไปโหวต จากคุณ : sassathx - [ 19 มิ.ย. 52 17:36:36 ]

ความคิดเห็นที่ 38 #35 ผมว่านี่คนละโจทย์กันแล้วนะ ถ้าตัวเลขที่วัดเชื่อไม่ได้ เพราะเครื่องมือไม่ได้มาตรฐาน รายงานเกี่ยวกับผลของ UIH ต่อโลกร้อน ก็จะมีปัญหาเนื่องจากความผิดพลาดของข้อมูลดิบ แก้ไขเมื่อ 19 มิ.ย. 52 17:39:36 จากคุณ : house (panote_saechiew) - [ 19 มิ.ย. 52 17:38:22 ]

ความคิดเห็นที่ 39 เข้ามารอสรุป จากคุณ : 0vvaynar0 - [ 19 มิ.ย. 52 17:38:48 ]

ความคิดเห็นที่ 40 อืมม์ๆๆๆๆๆ  อ่านคร่าวๆ เพราะเริ่มไม่เข้าหัว แต่น่าสนใจค่ะ  ให้กิ๊ฟไปเลยค่ะ ^^ จากคุณ : เพนกวิน_อุ๊น - [ 19 มิ.ย. 52 19:04:19 ]

ความคิดเห็นที่ 41 เข้ามาปูสื่อรอครับ ในเมืองไทยก็น่าจะมีหลายที่ ที่เป็นอย่างนี้ เนื่องจากเมื่อก่อน สถานีตรวจวัดอาจจะตั้งอยู่กลางทุ่ง แต่ถูกความเจริญรุกล้ำเข้ามา จนกลายเป็นตั้งอยู่ในเขตชุมชนไป รู้สึกสถานีวัดอากาศจังหวัดผมก็จะ เป็นอย่างนั้นนะ  เดี๋ยวต้องแวะไปดูหน่อย แก้ไขเมื่อ 19 มิ.ย. 52 19:08:31 จากคุณ : Vikee - [ 19 มิ.ย. 52 19:07:09 ]

ความคิดเห็นที่ 42 มาลงชื่อในกระทู้ดี ๆ ... ขอบคุณครับ จากคุณ : เศียรนาคา ... (Eumentis) - [ 19 มิ.ย. 52 19:12:32 ]

ความคิดเห็นที่ 43 เดี๋ยวแอบไปถ่ายสถานีของ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมาให้ดูดีกว่า จากคุณ : กระต๊อบน้อย - [ 19 มิ.ย. 52 19:15:46 ]

ความคิดเห็นที่ 44 อืม เป็นไปได้ จากคุณ : ตาเขียว (GreenEyes) - [ 19 มิ.ย. 52 19:25:08 ]

ความคิดเห็นที่ 45 ยืนยันได้แน่นอนว่าการวัดอุณหภุมิภาคพื้นทั่วประเทศสหรัฐมีความบกพร่องอย่างมีนัยสำคัญ แม้ว่าการสำรวจนี้จะทำในประเทศสหรัฐเป็นส่วนใหญ่ แต่ก็น่าเชื่อว่าปัญหานี้น่าจะเกิดขึ้นทั่วลกด้วยเช่นกัน ตัวอย่างสถานีในประเทศอื่นๆ ที่ตอนนี้ตั้งอยู่ในเขตชุมชน เช่นที่ Melbourne, Australia แก้ไขเมื่อ 21 มิ.ย. 52 09:24:59 จากคุณ : กาลามะชน - [ 19 มิ.ย. 52 19:27:37 ]

ความคิดเห็นที่ 46 #2 ภาพตู้สลับกันครับ แก้ไขข้อความหน่อย เพราะบอกว่าแบบใหม่อยู่ด้านซ้าย แต่ว่ารูปมันเป็นตู้แบบเก่า จากคุณ : HWalker - [ 19 มิ.ย. 52 19:34:07 ]

ความคิดเห็นที่ 47 แล้วการละลายที่หายไป ในน้ำแข็งหลายๆ ส่วนของโลกตอนนี้อะครับ ไม่สามารถทำให้เชื่อว่าโลกร้อนขึ้นหรอครับ ปล.ผมไม่ได้อยู่ฝ่ายไหนนะ เพราะไม่ได้ศึกษาเรื่องนี้ แต่มันเป็นข้อส่งสัยเฉยๆครับ จากคุณ : sos_num - [ 19 มิ.ย. 52 19:35:50 ]

ความคิดเห็นที่ 48 ขอบคุณมากเลยค่ะ สำหรับความรู้  ไม่งั้นก็คิดว่าโลกร้อนอยู่นี่แหละค่ะ หาวิธี ลดโลกร้อนกันไป -..- โวตตตตตค่ะ จากคุณ : Strawberry 59 Baht - [ 19 มิ.ย. 52 19:37:04 ]

ความคิดเห็นที่ 49 และแม้ว่าจะไม่มีการคำณวนออกมาว่าความคลาดเคลื่อนนี้ทำให้อุณหภูมิเฉลี่ยคลาดเคลื่อนไปเท่าไร แต่ก็คงไม่สำคัญนัก เพราะเรายังมีตัวเลขจากดาวเทียมที่ในขณะนี้น่าจะเชื่อถือได้ แต่ถ้าดาวเทียมที่บอกว่าโลกร้อนขึ้นเพียงเล็กน้อยตลอดสามสิบปี คือข้อมูลที่ถูกต้อง ผู้ที่จะได้รับผลกระทบมากที่สุดก็คือ IPCC ตัว boss ของชาวโลกร้อน เพราะแบบจำลองทั้งหมดจะพังพินาศ เนื่องจากค่าพารามิเตอร์ต่างๆที่ใช้ในแบบจำลองถูกปรับให้เข้ากันได้กับสภาวะการร้อนขึ้นอย่างปลอมๆที่วัดได้จากสถานีภาคพื้น วันนี้ขอหยุดก่อน เพราะถูกแย่งคอมพ์ซะแล้ว ถ้าดึกๆมีโอกาสอาจจะกลับมาใหม่ แก้ไขเมื่อ 19 มิ.ย. 52 19:39:44 จากคุณ : กาลามะชน - [ 19 มิ.ย. 52 19:38:14 ]

ความคิดเห็นที่ 50 เคยอ่านรายงานของ IPCC จำได้ว่ามีการปรับค่า heat island แล้ว ก่อนที่จะประกาศเลข 0.6 องศาออกมา ไม่แน่ใจว่าคิดยังไง แต่รู้สึกว่าจะตัดสถานีในเมืองออกหมด จากคุณ : vandalism - [ 19 มิ.ย. 52 19:46:55 ]

ความคิดเห็นที่ 51 ไหนๆก็ไหนๆช่วยอธิบาย วิธีวัดของดาวเทียม ที่น่าเชื่อถือมากที่สุดด้วยก็ดีนะครับ จากคุณ : หลับตา - [ 19 มิ.ย. 52 19:55:44 A:58.64.64.175 X: TicketID:173601 ]

ความคิดเห็นที่ 52 ปูเสื่อนอนรอ.. จากคุณ : Ninoou - [ 19 มิ.ย. 52 20:39:57 ]

ความคิดเห็นที่ 53 1. ถ้่าจะพูดเรื่อง UHI อันนี้ พิสูจน์ไปแล้วว่าไม่มีนัยสำคัญ ต่ออุณหภูมิโลก เค้าพิสูจน์โดยเทียบกันระหว่างคืนที่มีลมแรง กับ คืนที่สงบ (ซึ่ง UHI จะมีผลมาก) พบว่า การเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิไม่ได้ต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญเลย เรื่องแบบนี้ ฝ่ายไม่เชื่อโลกร้อน ตอบได้มั๊ย ??? 2. ถ้าคิดว่าสถานีตรวจวัดเชื่อถือไม่ได้อย่างที่ว่า ก็ขอให้เลือกข้อมูลสถานีที่เชื่อถือได้ แล้วมาดูกันว่า โลกร้อนขึ้นหรือไม่ แต่ ณ ปัจจุบัน ข้อมูลจากสถานีตรวจวัด และทางดาวเทียม ทั้งในเมือง นอกเมือง หรือ แม้แต่นอกโลก บ่งชี้ว่าโลกร้อนขึ้น ใช้วิจารณญาณ อย่าเชื่อแต่ Blogger จากคุณ : กินดี - [ 19 มิ.ย. 52 20:42:01 A:118.172.0.14 X: TicketID:220092 ]

ความคิดเห็นที่ 54 รายงานจากการวัดโดยดาวเทียม พบว่า โลกร้อนขึ้นทศวรรษละ 0.13-0.15 °C * RSS v3.1 finds a trend of +0.154 °C/decade.[3] * UAH analysis finds +0.13°C/decade.[4] http://en.wikipedia.org/wiki/Satellite_temperature_measurements จากคุณ : กินดี - [ 19 มิ.ย. 52 20:44:59 A:118.172.0.14 X: TicketID:220092 ]

ความคิดเห็นที่ 55 อ่านไม่ไหว เพราะงงค่ะ ไม่ค่อยรู้เรื่องเท่าไหร่ รบกวนผู้ใจดีสรุปง่ายๆ ว่า คือ โลกเราไม่ได้ร้อนใช่มั้ยคะ? แต่เป็นเพราะ ... ขอบคุณมากๆ ค่ะ จากคุณ : Mommy&Daddy - [ 19 มิ.ย. 52 21:04:32 ]

ความคิดเห็นที่ 56 #55 อาจจะลำบากหน่อยครับ เพราะเรื่องแบบนี้ไม่มีใครสรุปให้คุณได้นัก โลกเราแย่ลงทุกวันจริงๆ แต่สาเหตุคืออะไร โลกร้อนจริงไหม เรื่องพวกนี้บางทีก็ต้องตัดสินใจเองครับ เฮ้อ จากคุณ : xnone - [ 19 มิ.ย. 52 21:21:57 ]

ความคิดเห็นที่ 57 ผมว่ามันร้อนขึ้นจิง ๆ นะครับ ร้อนมากๆ ด้วย ผมรู้สึกได้เลย เพราะอยู่มานานแล้ว จากคุณ : stalin - [ 19 มิ.ย. 52 21:31:21 A:124.120.18.51 X: ]

ความคิดเห็นที่ 58 กระทู้นี้ต้องดัง Sirius ฟันเฟิร์ม จากคุณ : Prof.Sirius - [ 19 มิ.ย. 52 21:36:44 ]

ความคิดเห็นที่ 59 ร้อนไม่ร้อน ลองออกไปตากแดดตอนเที่ยงสิ หูยย ผิวแทบจะไหม้ เดี๋ยวนี้ หน้าร้อน ก็ร้อนตับแตก ก็รู้สึกอยู่ว่า ตะก่อนเหมือนจะไม่ร้อนขนาดนี้ เหอๆ --ยอมรับซะเถอะว่าทุกวันนี้โลกเราเสื่อมโทรมและโดนทำลายมามากแล้ว พื้นที่สีเขียวก็น้อยลงทุกวัน ถ้าวันนี้ยังไม่ร้อนก็คงเป็นเรื่องดี แต่ถ้ายังเป็นอย่างนี้ไปเรื่อยๆ มันก็ต้องร้อนเข้าสักวันล่ะน่า จริงนะเออ แต่ก็รู้สึกว่ามันร้อนขึ้นจริงๆนะ ..พอพูดว่าร้อนก็รู้สึกร้อนเลยแฮะ เปิดพัดลมดีกั่ว..วืดๆๆๆๆ~~~ ร้อน แต๊ๆเน้อ.. จากคุณ : Mr2.BonClay - [ 19 มิ.ย. 52 21:41:00 ]

ความคิดเห็นที่ 60 รอฟังคนที่มาอธิบายโต้แย้งอย่างมีเหตุผลครับ ผมเองก็เป็นคนที่ไม่เชื่อเรื่องโลกร้อนเหมือนกัน แต่ก็อยากให้มีคนมาโต้แย้งบ้างแต่ก็ขอแบบมีเหตุผล มีข้อเท็จจริงและข้อมูลประกอบ เห็นจุดวัดอุณหภูมิแล้วเขาตั้งจุดวัดแบบมักง่ายเหมือนกันแฮะ โดยปกติแล้วสถาบันเก็บค่า อุณหภูมิก็ควรมีมาตรฐานในการวางจุดนะ เพราะน่าจะรู้อยู่แล้วว่า การวางจุดวัดแบบมักง่าย มันจะได้ค่าที่มันคาดเคลื่อนแน่ๆ ผมสงสัยว่าเขาวางกันแบบมักง่ายจริงๆหรือครับ ยังไงก็ยังตามอ่านอยู่นะครับ ตามมาตั้งแต่กระทู้ที่แล้ว ขอบคุณครับ จากคุณ : poobas - [ 19 มิ.ย. 52 21:41:42 ]

ความคิดเห็นที่ 61 เกิดมา 20 ปี ยังไม่จบป.ตรี ผมยังสัมผัสได้ว่ามันร้อนขึ้น จากคุณ : Kadaj17 - [ 19 มิ.ย. 52 21:47:32 ]

ความคิดเห็นที่ 62 ที่ร้อนมาก ๆ ต้องบอกด้วยว่าอยู่ตรงไหน ตอนอยู่เชียงใหม่ หน้าหนาวถ้าอยู่ในเมือง ตอนกลางวันยังรู้สึกร้อน ๆ ไม่เหมือนฤดูหนาวเลย แต่ถ้าออกไปแถวอำเภอแม่แตง เชียงดาว โทษที เป็นคนละเรื่องเลย วันเวลาเดียวกัน จังหวัดเดียวกัน แต่คนละสถานที่ซึ่งห่างกันไม่เกิน 60 กม อุณหภูมิ ยังต่างกันเลย เพราะอะไรถ้าไม่ใช่เป็นผลมาจาก สภาวะเกาะร้อน  (Urban Heat Island) ขนาดตัวเราเองยังรู้สึกได้ แล้วจะไม่มีผล ต่อเครื่องวัดต่าง ๆ หรือ   และถ้าตัดสถานีวัดที่อยู่ในเมืองต่าง ๆออกไป ค่าอุณหภูมิเฉลี่ยที่ได้มีจะความน่าเชื่อถือหรือเปล่า ? ใช่อุณหภูมิโลกสูงขึ้น แต่สูงขึ้นตามตัวเลขที่IPCC พยากรณ์ไว้หรือเปล่า สูงขึ้นตามความสัมพันธ์กับ ปริมาณ CO2 ที่มากขึ้นในบรรยากาศหรือเปล่า ? จากคุณ : Vikee - [ 19 มิ.ย. 52 21:51:18 ]

ความคิดเห็นที่ 63 งืมๆ ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆนะครับ ผมว่าสุดท้ายแล้วเราก็ควรจะรณรงค์ หรือป้องกันให้โลกไม่ร้อน หรือ ร้อนน้อยลงก็ดีนะ เพื่อชีวิตทุกชีวิตบนโลกนี้ กันไว้ดีกว่าแก้นะจ๊ะ จากคุณ : หมามุ่ย - [ 19 มิ.ย. 52 21:56:21 A:71.17.86.101 X: TicketID:203728 ]

ความคิดเห็นที่ 64 มาปักธง รออ่านความเห็นอื่นๆต่อไปครับ จากคุณ : monopod - [ 19 มิ.ย. 52 21:59:59 ]

ความคิดเห็นที่ 65 แวะเข้ามาตอบ (คงจะตอบไม่ได้หมดทุกคนก็ขออภัย) ดาวเทียมก็บอกว่าโลกร้อนขึ้นนะครับ แต่ร้อนขึ้นน้อย ประมาณครึ่งเดียวของที่สภานีภาคพื้น ที่ชาวโลกร้อนใช้อ้างอิง สำหรับคุณบัตรผ่านขาประจำ ป่วยการที่จะอ้าง IPCC เพราะวิทยาศาสตร์ ควรต้องพิจารณากันด้วยข้อมูลที่เห็นเป็นรูปธรรม ไม่ใช่เชื่อกันที่ชื่อเสียง ซึ่งถ้ายังไม่มีใครสามารถหักล้างข้อพิสูจน์ของ Anthony Watts ก็ควรต้องถือว่า IPCC เป็นฝ่ายที่เข้าใจผิดเรื่องโลกร้อน คำพูดต่างๆของคนที่ถูกพิสูจน์ว่ากำลังเข้าใจผิด ย่อมมีปัญหาเรื่องความน่าเชื่อถือ จากคุณ : กาลามะชน - [ 19 มิ.ย. 52 22:06:11 ]

ความคิดเห็นที่ 66 ความรู้ใหม่ อธิบาย เรื่อง น้ำแข็ง ที่ขั้วโลก ที่มันหายตัวไปอย่างลึกลับ มหาศาล ด้วยสิครับ จากคุณ : Jill Ho - [ 19 มิ.ย. 52 22:06:14 ]

ความคิดเห็นที่ 67 อืม . . . ได้ข่าวว่าฝ่ายไม่เชื่อโลกร้อนเค้าก็บอกว่าโลกเรามันก็ร้อนขึ้นจริงๆน่ะแหละ แต่นิดเดียว ส่วนที่เรารู้สึกกันว่ามันร้อนขึ้นมาก เพราะเราอยู่ใน Urban Heat Island ใช่หรือไม่ ความเห็นส่วนตัวคือไม่ว่าฝ่ายไหนจะจริง สุดท้ายแล้วปรากฎการณ์ "ความเชื่อ" ว่าโลกกำลังร้อนขึ้นเพราะฝีมือมนุษย์ ก็เป็นเครื่องมือที่ดีที่ทำให้เราหันมาใส่ใจโลกที่เราอาศัยอยู่กันมากขึ้นครับ Look at the bright side!!! จากคุณ : Shiroi Tsuki - [ 19 มิ.ย. 52 22:13:32 ]

ความคิดเห็นที่ 68 อืม แต่ประเด็นที่ความเห็น 66 ถามมาเรื่องภูเขาน้ำแข็งและหิมะบนยอดเขาลดลงอย่างน่าใจหายนั่นก็น่าสนใจนะครับ มาขอรับฟังทฤษฎีเพิ่มเติมครับ ^ ^ จากคุณ : Shiroi Tsuki - [ 19 มิ.ย. 52 22:15:27 ]

ความคิดเห็นที่ 69 มาไม่ทัน นั่งแถวหลังแล้วกันครับ ^^ จากคุณ : รักสาว มธ. (NoahComeBack) - [ 19 มิ.ย. 52 22:21:15 ]

ความคิดเห็นที่ 70 เรียนทุกท่าน ปัจจุบันมี 2 ความเห็นนะครับ คือ 1. โลกร้อนเกิดจากการกระทำของมนุษย์ 2. โลกร้อนเกิดขึ้นจากสาเหตุอื่น องค์กรต่างๆ รวมทั้ง IPCC อยู่ในข้อแรก ส่วนคุณกาลามะชนและฝ่าย skeptic อยู่ในข้อที่ 2 ทั้งสองฝ่ายต่างยอมรับว่าโลกร้อนขึ้น แต่เห็นไม่ตรงกันว่าโลกร้อนขึ้นเท่าไร และจากสาเหตุใดครับ จากคุณ : vandalism - [ 19 มิ.ย. 52 22:51:32 ]

ความคิดเห็นที่ 71 ลงชื่อตามอ่านครับ ^^ จากคุณ : noraneko - [ 19 มิ.ย. 52 22:53:57 ]

ความคิดเห็นที่ 72 ผมเองก็สงสัยประเด็นน้ำแข็งขั้วโลกครับ แล้วถ้าโลกหายร้อนแล้วมันจะกลับมาเหมือนเดิมป่าว หรือโลกเราจะไม่มีวันหายร้อนแล้ว ... แต่ถ้าเป็นตาม คห.70 ยังไงก็อันตรายแล้วสิ ... จากคุณ : Fuyu - [ 19 มิ.ย. 52 23:05:51 A:124.120.103.122 X: TicketID:198102 ]

ความคิดเห็นที่ 73 น้ำแข็งจากขั้วโลกที่ละลายไปมากมาย!!! ก็เป็นสิ่งพิสูจน์ว่าโลกร้อนขึ้นนะครับ เหมือนจะเคยฟัง lecture เรื่องนี้อยู่แวบ ๆ จากคุณ : Ngokung - [ 19 มิ.ย. 52 23:12:55 ]

ความคิดเห็นที่ 74 คือมันร้อนขึ้นจริงซึ่งมนุษย์ก็เป็นสาเหตุหนึ่งในหลายๆสาเหตุและก็เป็นสิ่งที่ดีที่เราจะเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้พลังงานและทรัพยากรเพื่อที่จะไม่ไปซ้ำเติมสภาวะที่เป็นอยู่ และมันก็ไม่ได้หมายความว่าต้องกลัวและวิตกกับภาวะโลกร้อนนี้ด้วยการย้ายบ้านหนีน้ำท่วมตามนักวิชาการบางคนที่เกาะกระแสออกข่าวว่าพื้นที่ตรงนั้นจะจมลงใต้น้ำภายในเวลา 10-20 ปี แต่ผมไม่เห็นด้วยกับบางคนที่ชอบเอาบทความแย้งเรื่องโลกร้อนมาเป็นข้ออ้างในการที่จะใช้พลังงานอย่างชะล่าใจ จากคุณ : VeryBadman...Begins - [ 19 มิ.ย. 52 23:36:58 A:128.242.106.124 X: TicketID:185387 ]

ความคิดเห็นที่ 75 สวัสดีครับ คุณ กาลามะชน ^_^ ข้อมูลเจ๋งๆมาอีกแล้วววว จากคุณ : Nanoดะ - [ 20 มิ.ย. 52 00:03:59 ]

ความคิดเห็นที่ 76 มาฟังประเด็นร้อน (อีกแล้วครับท่าน) จากคุณ : เหวเห้ว - [ 20 มิ.ย. 52 00:10:15 ]

ความคิดเห็นที่ 77 น้ำแข็งขั้วโลกละลายไปมาก ? แล้วคุณเคยเห็นน้ำทะเลรวมกันเป็นน้ำแข็งขั้วโลกหรือไม่ ไม่ได้ถ่ายให้เห็นมันไม่ได้หมายความว่าไม่มี จากคุณ : ซายูบิ - [ 20 มิ.ย. 52 00:24:23 ]

ความคิดเห็นที่ 78 อุปกรณ์วัดอุณหภูมิภาคพื้นที่แพร่หลายมีสองแบบ คือ Stevenson screen (ขวา) เป็นตู้เก็บเทอร์โมมิเตอร์ ทำด้วยไม้สี่เหลี่ยมทาสีขาว เป็นแบบที่ใช้กันมาแต่โบราณ แต่ก็ยังคงมีใช้อยู่เป็นจำนวนมาก  กับตู้ MMTS (ซ้าย) รูปทรงทรงกระบอก ที่ทันสมัยกว่า สามารถส่งข้อมูลแบบ online ผ่านสายสัญญาณ _____________________________________ ดูจากรูปแล้ว ตู้ MMTS แบบใหม่  น่าจะมีส่วน เพิ่มความคลาดเคลื่อนได้มาก นอกจาก ตำแหน่งที่ตั้ง ที่ผิดได้ง่าย (เพราะความขี้เกียจเดินสายไฟ) ตัวตู้ที่เล็ก และ(น่าจะ)ทำด้วยโลหะ มีโอกาสแผ่รังสีความร้อนเข้าไปยังตัววัดอุณหภูมได้  มากกว่าแบบตู้ไม้เดิม ผลคือ เมื่อแดดจัด มันก็จะวัดอุณหภูมิได้สูงกว่า ถ้าเปลี่ยนเป็นตู้นี้มากๆ ผลของค่าเฉลี่ยอุณหภูมิ น่าจะเพิ่มแบบมีนัยสำคัญได้ จากคุณ : sb*star - [ 20 มิ.ย. 52 00:24:27 ]

ความคิดเห็นที่ 79 แล้วน้ำทะเลที่เพิ่มขึ้น กินชายฝั่งทะเลไทยบ้านเราละครับ ก็เป็นผลมาจากน้ำแข็งละลายไม่ใช่หรือ ผมว่ามันร้อนขึ้นจริงๆน่ะ จากคุณ : นายขี้เก๊ก - [ 20 มิ.ย. 52 00:35:08 ]

ความคิดเห็นที่ 80 อุณหภูมิของโลกเปลี่ยนแปลงมาตลอดตั้งแต่โลกเกิดขึ้นหลายพันล้านปีก่อน และการเปลี่ยนแปลงไม่ได้เป็นวงจรที่พยากรณ์ได้ เพราะปัจจัยต่างๆมันมากและซับซ้อน ตั้งแต่บรรพบุรุษของคนลงมาจากต้นไม้เมื่อ 2 ล้านกว่าปีก่อน อุณหภูมิของโลกก็เปลี่ยนแปลงมาตลอด โลกเคยร้อนชื้นจนทะเลทรายซาฮาร่า เป็นป่าร้อนชื้น โลกเลยเคยผ่านยุคน้ำแข็งมาหลายครั้ง จริงที่ว่า ไม่มีใครรู้ว่าโลกจะร้อน แล้วสุดท้ายกลับมาเย็น หรือร้อนขึ้นเรื่อยๆ แต่สิ่งที่ค่อนข้างชัดเจนในทุกวันนี้คือสิ่งแวดล้อมเปลี่ยนแปลงไปในอัตราที่ค่อนข้างเร็ว ผลกระทบที่เกิดถ้าจะเกิดก็จะเกิดกับเด็กๆ หรือรุ่นลูกหลานที่ยังไม่เกิด หลักฐานที่สนับสนุนว่า climate change มีทั้งสนับสนุนและไม่สนับสนุน แต่หลักฐานที่มีอยู่มันมากพอที่จะเชื่อว่า สิ่งแวดล้อมเปลี่ยนในอัตราที่เร็วกว่าที่มันควรจะเป็น ผลของการเปลี่ยนแปลงมันวางให้เห็นอยู่ต่อหน้ามากมาย แต่กลไกในการเกิดยังยากที่จะเข้าใจ เมื่อกลไกมันยังไม่ชัด ทำให้การพยากรณ์เป็นไปได้ยากว่าการเปลี่ยนแปลงจะไปในทิศไหน แต่สิ่งที่เราไม่อยากให้เกิดคือ การเปลี่ยนแปลงที่เร็วเกินกว่าสิ่งมีชีวิตทั้งหลายจะปรับตัวได้ทัน หลักฐานที่มีอยู่มันมากพอที่ควรจะตกใจ ตื่นตัวและหาทางแก้ไข สิ่งที่คุณกาลมะชนทำอยู่ ภาษาอังกฤษเขาเรียกว่า cherry picking คือเลือกนำเสนอข้อมูล เฉพาะข้อมูลที่สนับสนุนแนวคิดของตัวเอง เหมือนที่สื่อในเมืองไทยเลือกนำเสนอข่าวการเมืองฝ่ายที่ตัวเองสนับสนุน ในโลกวิทยาศาสตร์ไม่มีอะไรที่ถูกต้อง 100% หรือถูกต้องตลอดไป การถกเถียงกัน การเปิดกว้างทางความคิดเป็นสิ่งที่ดี คุณกาลมะชนก็ทำหน้าที่ของฝ่าย skeptic ผมไม่ใช่ขาประจำพันทิพ เข้ามาเป็นช่วงๆ ไม่รู้จักคุณกาลมะชนมาก่อน ลอง Search อ่านกระทู้ของคุณกาลมะชนดู จึงรู้ว่าคุณกาลมะชนเป็นฝ่าย skeptic สุดตัว แต่คุณกาลมะชนมักจะละเลยที่จะพูดถึงงานวิจัยที่ตีพิมพ์ใน peer-review journal เช่น Science, Nature หรือในวารสารวิทยาศาสตร์เช่น Newscientist สำหรับน้องนักเรียน นักศึกษา ที่คิดว่าจะเชื่อตามคุณกาลมะชน ผมแนะนำว่าลองหาอ่านเรี่องราวอย่างละเอียดจากแหล่งที่มาที่เชื่อถือได้ก่อนนะครับ จากคุณ : it's not urgent - [ 20 มิ.ย. 52 00:38:28 ]

ความคิดเห็นที่ 81 ตามอ่านจนปวดตาเลย ก็คิดว่าพอเข้าใจนะ แต่ไม่มีความรู้จะออกความเห็น - -* ปูเสื่อนอนรอคนมีภูมิเค้าคุยกันดีกว่า จากคุณ : เจ้าหญิงจากความมืด - [ 20 มิ.ย. 52 02:05:57 ]

ความคิดเห็นที่ 82 สำหรับบางคนที่ไม่เข้าใจประเด็นของฝ่าย skeptic นักนะครับ ที่เข้ามาแย้ง ๆ กันว่าอย่างน้อยก็ทำให้คนฉุกคิด ฯลฯ ซึ่งการกล่า่วอ้างเรื่องโลกร้อนเนี่ยต้นทุนของการทำอตรงนี้มันเยอะเกินไปครับ รวมถึงถูกนำไปใช้เป็นเครื่องมือในการตลาดต่าง ๆ นา ๆ ที่สุดท้ายแล้วก็ช่วยให้มีการใช้ทรัพยากรเพิ่มขึ้นอีก ลองนึกดูดี ๆ ว่าที่ผ่านมามีเหตุการณ์คล้าย ๆ อย่างนี้หรือเปล่าเช่นสินค้าบางอย่างที่ยังสามารถใช้ได้อยู่ แต่มันไม่เข้าเทรนด์กรีนเอิร์ธก็เลยทิ้งไปแล้วซื้อใหม่ !?  ทั้งที่เงินที่ใช้ในการแก้ปัญหาโลกร้อนที่เป็นจำนวนมหาศาลนั้น สามารถนำไปรับมือกับปัญหาความยากจนและความอดอยากในประเทศด้อยพัฒนาอีกหลายประเทศเป็นต้นครับ และก็มีกระแสทางการเมืองที่บอกว่าเป็นเครื่องมือของประเทศที่เป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจที่ใช้ในการกดหัวคู่แข่งจากประเทศใหม่ ๆ ก็ว่ากันต่อไปครับ โดยส่วนตัวผมประหยัดหลังงานอยู่แล้วด้วยเหตุผลทางเศรษกิจล้วน ๆ ครับ จากคุณ : Zkizzik - [ 20 มิ.ย. 52 02:26:15 ]

ความคิดเห็นที่ 83 เพื่อนที่อยู่กรีนแลนด์ก็บอกนะคะว่า น้ำแข็งที่นั่นละลายเร็วมากๆ เหลือน้อยมากๆ แต่ไอ้ที่ว่าน้อยเนี่ย เพื่อนบอกว่าต่างจากเมื่อ 3-4 ปีก่อนโน้นเลย เค้าว่าปีที่แล้ว-ปีนี้ละลายเร็วมากๆ ........ ถึงยังไม่ค่อยเข้าใจภาษาด้านวิทยาศาสตร์มากนัก แต่ก็อ่านได้ความรู้มากๆ ค่ะ ขอบคุณมากๆ นะคะ จะตามติดต่อไป .... จากคุณ : Mommy&Daddy - [ 20 มิ.ย. 52 03:47:09 ]

ความคิดเห็นที่ 84 ใช่แล้วครับ ก่อนที่เราจะปักใจเชื่ออะไร ควรหาข้อมูลให้ถี่ถ้วนก่อนที่จะปักใจเชื่อ เรื่องโลกร้อนก็เหมือนกัน เวลาฟังชาวบ้านพูด ควรเช็คด้วย ว่าเขาพูดเกินจริงไปหรือเปล่า? เขาบอกโลกร้อนขึ้น ไม่เชื่อลองเทียบอุณหภูมิกรุงเทพเมื่อ 10 ปีที่แล้วกับปัจจุบันดู มันร้อนขึ้นใช่ไหม? ถ้าใช่ แปลว่าโลกร้อนขึ้น หลายคนก็พาลเชื่อไปเป็นตุเป็นตะ โลกร้อนขึ้นเกือบสิบองศา น้ำแข็งขั้วโลกละลาย (แต่ไม่เคยดูข้อมูลของน้ำแข็งที่เกิดขึ้นใหม่ในแต่ละปีเลย) พอมีคนมาพูดเรื่องทฤษฎีเกาะร้อน ก็ทำเป็นหูทวนลม ตูเชื่อของตูแบบนี้แปลว่าตูเป็นคนมีจิตสำนึกดี ไอ้พวกที่ค้านมันคงอยากให้น้ำท่วมกรุงเทพจนตัวสั่น ไม่ก็เป็นพวกขวางโลก อยากดัง คุณเป็นแบบนี้หรือไม่? และเชื่อหรือไม่ ผมเคยเจอคนแบบนี้มาแล้ว... และคนแบบนี้แหละ ที่เป็นกลุ่มเสี่ยงต่อการถูกหลอก หลอกให้บริจาค หลอกให้ซื้อสินค้า หลอกให้ลงคะแนนเสียง แก่กลุ่มคนที่อ้างโลกร้อนเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง แน่นอน กลุ่มที่ให้ข้อมูลด้วยความหวังดีจริงๆ มีอยู่ ไม่น้อยด้วย แต่กลุ่มที่ให้ข้อมูลเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง มันดันเยอะกว่า นอกจากเหตุผลนี้แล้ว ยังมีเหตุผลอื่นที่ทำให้ผมเชื่อว่า ปัญหาโลกร้อนนั้น เรื่องเล็ก ...ในเมื่อเรายังไม่รู้แน่ชัดว่าอะไรจะเกิดขึ้นในอนาคต แทนที่เราจะเอางบพันล้านช่วยโลกร้อน ที่ยังฟันธงไม่ได้ว่าเกิดจากใคร เกิดเมื่อไหร่ และจะมีผลกระทบหนักขนาดไหน เอาไปช่วยผู้หิวโหย ผู้ป่วยจากโรคระบาด ผู้ไร้ที่อยู่อาศัยจากสงครามทั้งหลาย รวมแล้วปีหนึ่งๆมีหลายล้านคน มองเห็นได้ จับต้องได้ ไม่ต้องรอถึงสิบปี!! แก้ไขเมื่อ 20 มิ.ย. 52 04:20:50 จากคุณ : angel13th - [ 20 มิ.ย. 52 04:19:12 ]

ความคิดเห็นที่ 85 เรื่องน้ำแข็งเคยเขียนไว้ในกระทู้เก่าครับ โลกร้อน ตอน The Day After Tomorrow http://topicstock.pantip.com/wahkor/topicstock/2008/05/X6576611/X6576611.html ส่วนอัตราการเกิดน้ำแข็งในทะเล ถ้าดูของปี 2007 พบว่าลดต่ำเป็นประวัติการณ์ แต่สำหรับปีนี้น้ำแข็งเยอะดี (เส้นสีแดง) http://www.ijis.iarc.uaf.edu/seaice/extent/AMSRE_Sea_Ice_Extent.png แก้ไขเมื่อ 20 มิ.ย. 52 07:21:08 จากคุณ : กาลามะชน - [ 20 มิ.ย. 52 07:08:05 ]

ความคิดเห็นที่ 86 ที่ผ่านมา IPCC ตัว boss ของชาวโลกร้อน อ้างว่าโลกร้อนขึ้น 0.6 C แต่ตอนนี้มีคนออกมาพิสูจน์ให้เห็นเป็นรูปธรรมว่าฐานข้อมูลของ IPCC มีปัญหา มีความคลาดเคลื่อนในระดับทศนิยม ทำให้ผลงานวิจัยและแบบจำลองต่างๆที่ทำอยู่บนฐานข้อมูลที่บกพร่องนี้ พลอยมีปัญหาเรื่องความน่าเชื่อถือไปด้วย ผมติดตามโครงการ audit ของ Anthony Watts มานานกว่าปี ตอนเจอครั้งแรกเขาเพิ่งจะสำรวจไปได้แค่ 30% ผมเคยเกริ่นไว้ในกระทุ้ก่อนๆว่าจะตั้งกระทู้เกี่ยวกับเทอร์โมมิเตอร์ แต่ก็รอเวลาให้การ survey ทำไปได้เปอร์เซนต์เยอะสักหน่อย ซึ่งตอนนี้เขาก็ audit ไปแล้วกว่า 800 แห่งราว 70% เห็นว่าน่าพอจะใช้อ้างอิงได้ จึงตั้งกระทู้ Rome, Italy สถานีตั้งอยู่ปลายรันเวย์ Ciampino airport, อุ่นดี แก้ไขเมื่อ 20 มิ.ย. 52 07:42:53 จากคุณ : กาลามะชน - [ 20 มิ.ย. 52 07:39:38 ]

ความคิดเห็นที่ 87 รูปนี้มาจาก Milan, Italy จากคุณ : กาลามะชน - [ 20 มิ.ย. 52 08:14:05 ]

ความคิดเห็นที่ 88 ถือว่าเป็นข้อมูลที่น่าสนใจค่ะ  อยากติดตาม เอามาลงอีกเป็นความรู้ก็ดีค่ะ ส่วนการตัดสินใจเป็นเรื่องส่วนบุคคลค่ะ  ใครจะเชื่ออะไรอย่างไรเพราะอะไร มันเป็นเรื่องส่วนบุคคลเพียงแต่ถ้าคุณเชื่อแล้ว  ขอให้คุณทำในสิ่งที่ดีต่อโลกของเราก็น่าจะดีนะคะ จากคุณ : นู๋ขี้สงสัย - [ 20 มิ.ย. 52 08:27:17 ]

ความคิดเห็นที่ 89 เรื่องโลกร้อน เป็นเรื่องที่สนุกเรื่องหนึ่งของหว้ากอเลยครับ ^^; มีการถกเถียงจากสองฝั่งกันอย่างสนุกสนานทีเดียว คงเป็นหนึ่งในไม่กี่ที่ในไทยที่มีการถกเถียงกันเรื่องนี้หล่ะครับ จากคุณ : xnone - [ 20 มิ.ย. 52 08:45:47 ]

ความคิดเห็นที่ 90 ขาประจำ (เจ้าเก่า) ตามมาอ่าน #19 เป็นตัวโคลนนิ่ง จากคุณ : ksk - [ 20 มิ.ย. 52 09:07:12 ]

ความคิดเห็นที่ 92 ในกระทู้นี้ ผมไม่ได้อ้างถึง IPCC ซักคำ คุณ กาลามะชน เอาที่ไหนมาพูดครับ ที่คุณกาลามะชนบอกว่า ข้อมูลดาวเทียมบอกว่าร้อนขึ้นแค่ครึ่งเดียว มันจริงหรือครับ ผมเอาตัวเลขให้ดูละกัน ข้อมูลสถานีภาคพื้น (Surface Temp) บอกว่า ร้อนขึ้น 0.17 °C/decade ข้อมูลภาคดาวเทียม (Toposphere Temp) บอกว่าร้อนขึ้น โดย UAH บอกว่าร้อนขึ้น +0.13 Celsius/ทศวรรษ RSS บอกว่าร้อนขึ้น +0.154 Celsius/ทศวรรษ นอกจากนั้นยัง ยังมีกลุ่มอื่นๆ ที่วิเคราะห์ข้อมูลดาวเทียมแล้วบอกว่า Fu et al. (2004) บอกว่าร้อนขึ้น +0.19 Celsius/ทศวรรษ Vinnikov and Grody บอกว่าร้อนขึ้น +0.20 Celsius/ทศวรรษ สรุปว่ามันร้อนขึ้นแค่ครึ่งเดียวจริงรึเปล่า ที่มา http://en.wikipedia.org/wiki/Satellite_temperature_measurements จากคุณ : กินดี - [ 20 มิ.ย. 52 09:31:59 A:118.172.93.9 X: TicketID:220092 ]

ความคิดเห็นที่ 93 ผมรู้สึกว่า ดวงอาทิตย์ มันร้อนกว่าเดิม คงไม่มีใครไปเร่งไฟให้มันหรอกนะ - -' จากคุณ : nutxnut - [ 20 มิ.ย. 52 09:32:54 ]

ความคิดเห็นที่ 94 จากรูปเรื่องจุดติดตั้ง MMTS แล้วจะเห็นได้ว่า.. "คนต่างประเทศมันก็มักง่ายเหมือนกันนี่หว่า" จากคุณ : siLvan - [ 20 มิ.ย. 52 09:36:44 ]

ความคิดเห็นที่ 95 คุณขาประจำบัตรผ่าน เรื่อง IPCC นั้นผมพูดดักคอคุณหรือใครก็ตามที่คิดจะอ้าง IPCC ส่วนเรื่องการร้อนขึ้นที่ดาวเทียมวัดได้นั้น ผมเชื่อตามข้อมูลที่เห็นในกราฟครับ ผมไม่เชื่อข้อสรุปที่เป็นคำพูด อนึ่งเรื่องผลงานที่ผ่านการ peer review นั้น ถ้าเอารายงานไปให้เจ้าสำนักที่เป็นมิจฉาทิฐิทำการ review ผลงานก็ย่อมออกมาในแนวมิจฉาทิฐิ ดังนั้นจะเชื่อสายตาของท่านเอง หรือจะเชื่อข้อสรุปที่เป็นคำพูดของใครก็ไม่ทราบ เป็นพวกมิจฉาทิฐิหรือเปล่าก็ไม่รู้ แก้ไขเมื่อ 20 มิ.ย. 52 10:43:20 แก้ไขเมื่อ 20 มิ.ย. 52 10:02:23 จากคุณ : กาลามะชน - [ 20 มิ.ย. 52 09:52:22 ]

ความคิดเห็นที่ 96 ขอบคุณมากครับ เดี๋ยวจะเรียกเพื่อนๆ ที่เรียนและทำงานด้าน meteo มาอ่าน จากคุณ : PastelSalad - [ 20 มิ.ย. 52 09:56:11 ]

ความคิดเห็นที่ 97 อ่านแล้วงงครับ สรุปแล้วประเด็นเกี่ยวกับ UHI อันนี้เป็นผลกระทบต่องานวิจัยภาวะโลกร้อนจริงหรือเปล่า? ถ้าตามที่ จขกท ยืนยันว่า โลกไม่ได้ร้อนขึ้น หรือ โลกร้อนขึ้นน้อยมากแล้ว พวกหลักฐานตามกายภาพตามข่าวอย่างเช่นพวกรูป หมีขั้วโลกในarctic ระดับนํ้าทะเลสูงขึ้น climate change สัตว์จากทางใต้อพยพขึ้นเหนือ พวกนี้ยังเชื่อถือได้ไหม เป็นประเด็นเดียวกันหรือเปล่าครับ จากคุณ : pendulum swings - [ 20 มิ.ย. 52 10:42:11 ]

ความคิดเห็นที่ 98 มีประโยชน์มากครับ ^^ จากคุณ : ระหว่างเรา - [ 20 มิ.ย. 52 10:46:56 ]

ความคิดเห็นที่ 99 ผมไม่รู้ว่าทฤษฎีไหนจะจริง แต่ถ้าผมเป็นรัฐบาลผมจะไม่เลือกทฤษฎีโลกไม่ร้อน ลองคิดดูว่าหากทุกคนรู้ว่าสิ่งที่ตัวเองทำโลกไม่ร้อนขึ้น พวกเขาก็คงไม่ละอายใจปล่อยมลพิษควันพิษ ตัดไม่ทำลายป่า โดยข้ออ้างว่าก็มันไม่ทำให้โลกร้อนขึ้นนิ จากคุณ : เซียวเล้ง - [ 20 มิ.ย. 52 10:54:41 ]

ความคิดเห็นที่ 100 อย่างนี้แย่เลยครับ โดนฝรั่งมักง่ายหลอกทั้งโลก อ้าว แล้วจะเอาโนเบิลคืนจาก อัลกอร์ ได้ป่าวเนี่ย ความจริงที่ไม่สามารถพูดออกมาได้ง่าย แอน อินคอนวิเนียน ทรูธ จากคุณ : nine_ichatta - [ 20 มิ.ย. 52 10:58:10 ]

ความคิดเห็นที่ 101 กระทู้นี้ต้องการนำเสนอว่า นอกจาก UHI แล้วยังมีแฟคเตอร์อื่นที่ไม่เคยนึกถึงมาก่อน นั่นคือการ "การวัดอุณหภูมิผิดพลาด" เนื่องมาจากจุดตรวจวัดจำนวนมากติดตั้งอยู่ในที่ที่ไม่เหมาะสม ทำให้ได้รับผลกระทบจาก "มลภาวะทางความร้อน" ความผิดพลาดอาจจะไม่มากถึงระดับองศา แต่ก็ทำให้ผิดได้ในระดับทศนิยม ซึ่งมีผลทำให้เข้าใจผิดเกี่ยวกับสภาวะโลกร้อนได้ เพราะผลกระทบในปัจจุบันยังคงอยู่ในระดับทศนิยม แค่ 0.6 C เท่านั้น สถานีที่ Urbana, Ohio ติดไว้ข้างผนังตึก แก้ไขเมื่อ 20 มิ.ย. 52 12:39:27 จากคุณ : กาลามะชน - [ 20 มิ.ย. 52 11:08:54 ]

ความคิดเห็นที่ 102 ที่เมือง Tucson, Arisona ตั้งไว้บนลานจอดรถ จากคุณ : กาลามะชน - [ 20 มิ.ย. 52 11:12:52 ]

ความคิดเห็นที่ 103 เข้ามาฮารูป สรุปว่าเมืองนอกก็มักง่ายเป็นกะเขาเหมือนกัน จากคุณ : silverspider - [ 20 มิ.ย. 52 11:18:50 ]

ความคิดเห็นที่ 104 UHI มีพลังมากกว่าที่ IPCC คิดไว้มาก Anthony Watts ได้ทำการทดลองพิสูจน์ให้เห็น โดยการขับรถที่ติดตั้งเครื่องวัดอุณหภูมิผ่านย่าน downtown ของเมือง Reno รัฐ Nevada การขับรถผ่านเมืองบนถนนที่เป็นเส้นตรงใช้เวลา 24 นาที เครื่องวัดอุณหภูมิรายงานอุณหภูมิณจุดต่างๆดังนี้ จากคุณ : กาลามะชน - [ 20 มิ.ย. 52 11:47:42 ]

ความคิดเห็นที่ 105 จุดติดตั้งเครื่องวัดอุณหภูมิที่เมือง Reno อยู่ที่สนามบิน UHI ของ Reno มีขนาดใหญ่ และมีพลังมาก สถานีวัดอุณหภูมิในปัจจุบันอยู่ห่างไม่พอ เพราะถ้าวันไหนลมพัดมาจาก downtown ก็เสร็จ ดังนั้นอิทธิพลของ UHI ที่สามารถแผ่ตามลมได้ ก็ยังคงมีส่วนทำให้การวัดอุณหภูมิผิดพลาดอย่างมีนัยสำคัญได้เช่นกัน แก้ไขเมื่อ 20 มิ.ย. 52 12:37:05 จากคุณ : กาลามะชน - [ 20 มิ.ย. 52 11:52:21 ]

ความคิดเห็นที่ 106 มันก็เป็นปกตินี่ครับ เดี๋ยวร้อน เดี๋ยวหนาว โลกเรานะ เพียงแต่เรา  อาจไปเร่งให้มันร้อนเร็วขึ้นเท่านั้นเอง จากคุณ : สระนาฬิเกร์ - [ 20 มิ.ย. 52 12:18:07 ]

ความคิดเห็นที่ 107 Heat bubble หรือ Heat Island เนี่ย มันใกล้ตัวและสัมผัสได้จริง มีหลายคนที่ ย้ายบ้านไปอยู่นอกเมือง เพราะเย็นสบายกว่า รู้สึกได้ชัดเจน จนยอมขับรถไปทำงานไกลๆ แต่ทำไม หลาย คห จึงไม่ยอมรับเรื่องที่เห็นได้เอง กลับไปเชื่อเรื่อง น้ำแข็งละลาย เรื่อง หมีขั้วโลก ทั้งๆที่ไม่เคยเห็นภาพจริงโดยรวม สักหน่อย อือมเนอะ จากคุณ : sb*star - [ 20 มิ.ย. 52 12:55:01 ]

ความคิดเห็นที่ 108 คคห. 95 เอาแปลกดีแฮะ เลือกที่จะเชื่อกราฟ พอบอกเป็นตัวเลข กลับไ่ม่เชื่อ แล้วกราฟที่ยกมาก็มีแต่ข้อมูลของดาวเทียม 2 ชุด แต่ไม่่มีข้อมูลของภาคพื้น ลองดูกราฟที่เปรียบเทียบ 4 ชุดข้อมูล ถ้าจะกรุณาแปะให้ด้วยก็ดี http://www.yaleclimatemediaforum.org/pics/0408_gtr.jpg ซึ่งเค้าคิดอัตราการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิ ก็เป็นไปตามที่รายงานไว้ As shown in the figure below, all four temperature series align remarkably well when normalized on the same baseline period. GISS and HadCRU both show a warming trend of 0.16 degrees C per decade from 1979 to February 2008. RSS shows a warming trend of 0.18 per decade over the same period, while UAH shows a warming trend of 0.14. The largest divergence between temperature series over the last 30 years occurred in 1998, when both satellite-based series showed almost half a degree higher temperatures than land-based series, though the cause of this is unclear. จากคุณ : กินดี - [ 20 มิ.ย. 52 13:08:26 A:118.172.4.170 X: TicketID:220092 ]

ความคิดเห็นที่ 109 ค.ห.79 แล้วน้ำทะเลที่เพิ่มขึ้น กินชายฝั่งทะเลไทยบ้านเราละครับ ก็เป็นผลมาจากน้ำแข็งละลายไม่ใช่หรือ ผมว่ามันร้อนขึ้นจริงๆน่ะ --- น้ำทะเลเพิ่มขึ้น แล้วทำไมมันเพิ่มแค่ที่อ่าวไทย? กรุงเทพจะโดนน้ำท่วม เพราะสูบน้ำบาดาลใช้กันจนแผ่นดินทรุด... จากคุณ : ซายูบิ - [ 20 มิ.ย. 52 13:32:46 ]

ความคิดเห็นที่ 110 ถึงผมจะรู้สึกร้อนขึ้น แต่ผมก็ไม่เชื่อว่าโลกร้อน โลกแค่อยู่ปลายสุดๆของยุคน้ำแข็งเท่านั้นเอง โลกจะร้อนขึ้นก็เพราะสภาพปกติตามวัฐจักรของสภาพอากาศโลก การออกมาประกาศเรื่องโลกร้อนของหน่วยงานต่างๆ ทำให้มีคนมากมาย เอาคำว่าโลกร้อนไปอ้างเพื่อใช้ทำ Marketing อย่างน่าเกลียด ถุงผ้าลดโลกร้อนมั่ง ประหยัดน้ำ-ไฟลดโลกร้อนมั่ง ใช้รถ Hybrid ลดโลกร้อนมั่ง ก็อ้างกันไป สภาวะแวดล้อมแย่ลงผมเชื่อ ก็คนมันมากขึ้น จะให้มันดีเหมือนสมัยก่อนได้อย่างไร แย่งกันกิน แย่งกันใช้ ลองมีคนออกมาบอกว่า งดใช้แอร์เพราะทำให้โลกร้อน ใช้เฉพาะการเดินหรือขี่จักรยานลดโลกร้อน งดใช้ไฟฟ้า น้ำมัน หรือเชื้อเพลิงอื่นๆ เพราะทำให้โลกร้อน  กินอาหารดิบโลกจะไม่ร้อน ดูซิว่ามันจะไปได้ไหม แคมเปญโลกร้อนเนี่ย ผมอยากให้คนช่วยกันรักษาสภาพแวดล้อม เพราะรักสิ่งแวดล้อม อยากมีคุณภาพชีวิตที่ดี ห่วงใยโลก ไม่ใช่กลัวโลกร้อนครับ สำหรับผม "สิ่งแวดล้อมแย่เป็นเรื่องจริง โลกร้อนเป็น Marketing ครับ" จากคุณ : Mr. Coffee - [ 20 มิ.ย. 52 13:41:27 ]

ความคิดเห็นที่ 111 ภาพ chart จาก Sea surface temperature trend http://data.giss.nasa.gov/gistemp/graphs/SST.glob+Nino3.4.pdf หากความร้อน อันเนื่องมาจาก Urban Heat Island ก็คงไม่ทำให้ อุณหภูมิ ผิวน้ำทะเล ซึ่งมีพื้นที่ 3/4 ของโลกเป็นอย่างที่เห็นของข้อมูล ที่ได้จากการเก็บตัวอย่าง โดยเรือสำรวจ มาตั้งแต่ 1951 หากบอกว่า UHI เป็นสาเหตุหลักของ Green house effect ก็ถือว่าเป็นเรื่องเดียวกัน ที่กำลังแก้ปัญหากันอยู่ เพราะสาเหตุใหญ่ของ อุณหภูมิโลกสูงสุด เนื่องจาก การปลดปล่อย Gas จากการอุตสาหกรรม และ Urban area จากคุณ : วิโรจน์ - [ 20 มิ.ย. 52 13:54:24 ]

ความคิดเห็นที่ 112 #108 ก็ จขกท กำลังนำเสนอเรื่องความคลาดเคลื่อนของข้อมูลภาคพื้นอยู่ไม่ใช่หรือครับ จากคุณ : silverspider - [ 20 มิ.ย. 52 14:00:55 ]

ความคิดเห็นที่ 113 คุณกินดี #108 กราฟที่คุณอ้างถึง เป็นกราฟที่ถูกดัดแปลงโดยการ shift ข้อมูลดาวเทียวให้สูงขึ้นมาทับกับกราฟของสถานีภาคพื้น แต่ที่อ้างว่าเข้ากันดีนั้น ถ้าดูให้ดีจะพบว่าไม่ใช่ ขอให้ดูกราฟ UAH (สีชมพู) จะเห็นว่าช่วงแรกๆจะคร่อมอยู่ด้านบนเหนือกราฟเส้นอื่น แต่พอช่วงปลายๆกลับหล่นลงไปข้างล่าง ดังนั้นกราฟที่อ้างถึง ก็เป็นหลักฐานที่แสดงว่าดาวเทียมอุ่นขึ้นช้ากว่าสถานีภาคพื้นด้วยเช่นกัน ปล. เพิ่ม Note ผมเชื่อว่าคนจำนวนมาก คงจะคิดว่าถ้าจะเปรียบเทียบ ก็น่าจะปรับจุดเริ่มต้นของกราฟให้เท่ากัน ดังตัวอย่างกราฟที่คุณกินดีกล่าวถึง เรื่องนี้ผมขอค้าน เหตุผลก็คือ การตรวจวัดอุณหภูมิด้วยสถานีภาคพื้นมีมานานกว่าร้อยปีแล้ว ความคลาดเคลื่อนของสถานีภาคพื้นมีสะสมมาตั้งแต่เริ่มตั้งสถานี ไม่ได้เพิ่งจะมาเกิดในปี 1978 ซึ่งเป็นปีที่เริ่มมีการวัดด้วยดาวเทียม ในปี 1978 นั้นบ้านเมืองเจริญขึ้นมากพอควร สถานีภาคพื้นได้สะสมความคลาดเคลื่อนไว้ในระดับหนึ่งแล้ว ดังนั้นจึงเป็นเรื่องธรรมดาที่พอมีการวัดอุณหภูมิด้วยดาวเทียมมาเปรียบเทียบ ก็ควรจะพบเห็นว่ามีความแตกต่างกับสถานีภาคพื้นตั้งแต่แรกเริ่ม แก้ไขเมื่อ 20 มิ.ย. 52 20:40:49 แก้ไขเมื่อ 20 มิ.ย. 52 14:17:28 แก้ไขเมื่อ 20 มิ.ย. 52 14:12:35 จากคุณ : กาลามะชน - [ 20 มิ.ย. 52 14:10:59 ]

ความคิดเห็นที่ 114 คุณวิโรจน์ #111 ลองอ่านเรื่องของ Pacific Decadal Oscillation (PDO) และ Atlantic Multidecadal Oscillation (AMO) ในกระทู้เก่าครับ http://topicstock.pantip.com/wahkor/topicstock/2008/11/X7171370/X7171370.html#37 แก้ไขเมื่อ 20 มิ.ย. 52 14:28:19 จากคุณ : กาลามะชน - [ 20 มิ.ย. 52 14:27:34 ]

ความคิดเห็นที่ 115 อันนี้เป็นกราฟอุณหภูมิ GISS - HadCRUT - UAH แบบที่ไม่มีการดัดแปลงครับ จะเห็นว่าดาวเทียมอุ่นขึ้นน้อยกว่า แก้ไขเมื่อ 20 มิ.ย. 52 14:33:45 จากคุณ : กาลามะชน - [ 20 มิ.ย. 52 14:31:25 ]

ความคิดเห็นที่ 116 แล้วจะทำไมถ้าโลกมันไม่ได้ร้อนจริงอย่างที่เค้าโวยวายกัน พวกคุณที่คิดว่าโลกร้อนจะไม่ช่วยกันรักษาสภาพแวดล้อมหรือไง หรือเพราะโลกร้อนถึงคิดจะทำ...สามัญสำนึก จากคุณ : Pigusto - [ 20 มิ.ย. 52 15:10:27 ]

ความคิดเห็นที่ 117 ... เข้ามาลงชื่อ ว่าอ่านมาถึงตรงนี้ ขออภัยถ้าเป็นการปาดนะครับ จากคุณ : pae3X - [ 20 มิ.ย. 52 15:11:17 ]

ความคิดเห็นที่ 118 เจ้าของกราฟในคคห. 108 (ซึ่งเกี่ยวข้องกับ Yale University) เค้าไม่ได้ดัดแปลงครับ แต่จะเปรียบเทียบกันได้ ต้อง Normalize ข้อมูลฐานให้เท่ากัน ผมไม่ทราบว่า กราฟจากเวป Junk Science เค้าได้ปรับ baseline รึเปล่า ลองดูกราฟที่เค้าเปรียบเทียบใน Wikipedia http://en.wikipedia.org/wiki/File:Satellite_Temperatures.png หรือจะลองเข้าเวปของ UAH เองเลยก็ได้ เค้าก็รายงานว่า http://www.uah.edu/News/climatebackground.php From Nov. 16, 1978, through June 30, 2007, the global lower troposphere has warmed about 0.4 Celsius (about 0.72° Fahrenheit), or global warming at the rate of approximately 1.4 C (about 2.52° Fahrenheit) per century. คือ โลกร้อนขึ้นประมาณ 0.14 Celsius / decade ไม่ได้ต่างจากรายงานภาคพื้นดิน (0.17 Celsius/decade) สักเท่าไหร่ ในเมื่อเจ้าของกระทู้บอกว่า สถานีภาคพื้นดินเชื่อไม่ได้ ก็เชื่อเฉพาะข้อมูลจากดาวเทียมก็แล้วกันครับ จากคุณ : กินดี - [ 20 มิ.ย. 52 15:20:06 A:112.142.119.198 X: TicketID:220092 ]

ความคิดเห็นที่ 119 แล้วเรื่องปริมาณน้ำแข๊งที่ลดลงอย่างมากบนยอดเขาล่ะครับ จากคุณ : ขอเอาชื่ออากงเป็นเดิมพัน - [ 20 มิ.ย. 52 15:44:34 ]

ความคิดเห็นที่ 120 ผมขอยืนยันความเชื่อของผม ขอก็อบมาจากกระทู้เก่าๆละกัน ครับ ตอนนี้ Climate Change กำลังจะมาแรง แต่ผมก็ยังมอง Climate Change ว่าเหมือนกับ Global Warming นั่นคือ เป็นเรื่องของการเมืองและผลประโยชน์มากกว่า ลอง มาคิดๆดู การที่จะตั้งกลุ่ม หรือองค์กรนั้น ไม่ได้ทำกันง่ายๆ ค่าใช้จ่ายก็มี ถ้าไม่มีเงินถุงเงินถัง จะเอาเงินที่ไหนมาจัดกิจกรรมต่างๆ ก็ต้องหาเงินจากการเรี่ยไร หรือการรับบริจาค แน่นอน กลุ่ม/องค์กรดีๆมันก็มี แต่ที่ตั้งขึ้นมาเพื่อหาผลประโยชน์อย่างเดียวมันก็มาก ยิ่งเมืองขยายตัวไปมาก ความร้อนในเมืองก็สูง เมื่อคน "ไม่รู้" ว่าความร้อนที่ตัวเองเจอ มันคืออะไร ก็พาลเข้าใจว่ามันคือโลกร้อนไปหมด กลุ่ม/องค์กรที่อาศัยความไม่รู้นี้หากำไรก็เกิดขึ้นมา นี่แหละ ที่ผมว่า มันเป็นเรื่องของการเมืองและผลประโยชน์ แต่ผมก็ไม่ได้บอกว่าคนเราไม่ต้องไปอนุรักษ์ธรรมชาติ การ อนุรักษ์ธรรมชาติ (รวมไปถึงการลดการใช้พลังงาน) เป็นสิ่งที่ "ควรต้องทำ" อยู่แล้ว ไม่ว่าโลกจะร้อนหรือเย็น เพราะทรัพยากรเรามีจำกัด และการหามาต้องใช้เงิน (ใช้น้อยย่อมจ่ายน้อย เป็นเรื่องที่ดีอยู่แล้ว) แต่การที่จะบอกให้คนอนุรักษ์ธรรมชาติ เพราะโลกกำลังร้อนด้วยมือเรานี่ มันเหมือนเกาไม่โดนที่คัน ทำไมไม่บอกว่า เราควรอนุรักษ์ธรรมชาติ เพราะป่ากำลังหดหาย ต้นน้ำลำธารน้อยลง ดินไม่อุ้มน้ำ ทำให้น้ำท่วม ดินถล่ม ทำไม ไม่บอกว่า เราควรใช้พลังงานอย่างประหยัด เพราะเราผลิดพลังงานเองไม่ทันต่อการใช้งาน และการนำเข้าเชื้อเพลิงมันก็ใช้เงินสูง ถ้าเราประหยัด เราก็เอาเงินส่วนนี้ไปพัฒนาประเทศด้านอื่นได้ ทำไมไม่บอกว่า เราไม่ควรปล่อยกาซไม่พึงประสงค์ เพราะมันทำให้สิ่งแวดล้อมเสื่อมโทรม เพราะมันทำให้ระบบนิเวศน์แถวโรงงานมันล่มสลาย เพราะมันทำให้สุขภาพของคนแถวนั้นมันแย่ แต่ทำไมเราโยนทุกอย่างไปที่โลกร้อน ? ก็อย่างที่ผมเข้าใจอยู่ตอนนี้แหละครับ มันหากินง่าย มันเป็นเรื่องของการเมืองและผลประโยชน์ http://topicstock.pantip.com/wahkor/topicstock/2009/01/X7413397/X7413397.html แก้ไขเมื่อ 20 มิ.ย. 52 16:12:01 จากคุณ : angel13th - [ 20 มิ.ย. 52 16:05:03 ]

ความคิดเห็นที่ 121 ของเล่นใหม่ของประเทศพัฒนาแล้ว Carbon credit จากคุณ : bbiggy - [ 20 มิ.ย. 52 17:30:47 ]

ความคิดเห็นที่ 122 คุณกินดี ผมเชื่อว่าหลักฐานของ Watts มีความหนักแน่นพอที่จะทำให้ใครก็ตามที่ได้เห็น ถ้าไม่ bias จนเกินไปก็ควรจะรู้สึกสงสัยในความถูกต้องในการวัดอุณหภูมิของสถานีภาคพื้นกันบ้าง ซึ่งถ้าคุณยอมรับที่จะพิจารณาสภาวะโลกร้อนบนกราฟดาวเทียม ก็จะช่วยให้ได้มาก ในตอนนี้ดูเหมือนจะเข้าใจตรงกันในแง่ของกราฟดาวเทียม ว่ากราฟที่แต่ละคนยกมา นั่นก็คือกราฟเดียวกัน เพียงแต่ขยับจุดตั้งต้น คุณเชื่อตามที่มีผู้สรุปว่า ดาวเทียมร้อนขึ้น 0.14 C ต่อ ทศวรรษ ก็ไม่เป็นไร ผมเห็นว่าประเด็นนี้ ขึ้นอยู่กับการลากเส้นค่าเฉลี่ย ซึ่งแต่ละคนมีวิธีลากเส้นไม่เหมือนกัน ทำให้ได้ความชันของกราฟที่ต่างกัน ผมมีตัวอย่างการลากกราฟซึ่งเชื่อว่าเป็นพวก skeptic ที่เอามาให้ดูนี้ ไม่ได้เป็นเพราะผมเชื่อตามนั้น เพียงแค่เอามาให้ดูเป็นตัวอย่างว่า จะลากให้เดี้ยงไปเลยก็ยังได้ แต่กราปนี้ ช่วยให้เห็นประเด็นสำคัญอย่างหนึ่ง คือเรื่องเวลา เวลาที่ทำการพิจารณากราฟ มีความสำคัญต่อผลสรุป ยกตัวอย่างเช่นถ้าพิจารณากันในปี 2004 คนที่ดูกราฟก็อาจจะสรุปว่าโลกร้อนขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่ถ้ามาดูกราฟกันในปี 2008 ก็อาจจะสรุปว่าโลกร้อนขึ้นเพียงเล็กน้อย เพราะช่วงปลายเกิดลดลง อนึ่ง ฝ่ายค้านมีความเห็นว่าถ้าถือว่าการวัดอุณหภูมิของดาวเทียมถูกต้อง สภาวะโลกร้อนน่าจะหายไปอย่างน้อย 1/3 เป็นอย่างน้อย หรืออาจจะถึง 1/2 เป็นอย่างมาก ซึ่งเท่ากับ 0.2 -0.3 C แก้ไขเมื่อ 20 มิ.ย. 52 18:47:44 แก้ไขเมื่อ 20 มิ.ย. 52 17:56:16 จากคุณ : กาลามะชน - [ 20 มิ.ย. 52 17:31:47 ]

ความคิดเห็นที่ 123 ยังมีประเด็นสำคัญอีกประเด็นที่หลายคนสนใจ ผมเชื่อว่าคนจำนวนมาก คงจะคิดว่าถ้าจะพิจารณาเปรียบเทียบ ก็น่าจะปรับจุดเริ่มต้นของกราฟให้เท่ากัน ดังตัวอย่างกราฟที่คุณกินดีกล่าวถึง เรื่องนี้ผมขอค้านเต็มที่ เหตุผลก็คือ การตรวจวัดอุณหภูมิด้วยสถานีภาคพื้นมีมานานกว่าร้อยปีแล้ว ความคลาดเคลื่อนของสถานีภาคพื้นเริ่มมีสะสมมาตั้งแต่เริ่มตั้งสถานี ไม่ได้เพิ่งจะมาเกิดในปี 1978 ซึ่งเป็นปีที่เริ่มมีการวัดด้วยดาวเทียม ในปี 1978 นั้น สถานีภาคพื้นได้สะสมความคลาดเคลื่อนไว้ในระดับหนึ่งแล้ว ดังนั้นจึงเป็นเรื่องธรรมดาที่พอมีการวัดอุณหภูมิด้วยดาวเทียม ก็ควรจะพบเห็นความแตกต่างกันตั้งแต่แรกเริ่มเลย กราฟอุณหภูมิของดาวเทียม จึงควรมีจุดเริ่มต้นต่ำกว่าสถานีภาคพื้น และผลต่างในตอนสุดท้ายก็อาจจะเป็น 0.2 -0.3 C ตามในกราฟข้างล่าง แก้ไขเมื่อ 20 มิ.ย. 52 18:53:20 จากคุณ : กาลามะชน - [ 20 มิ.ย. 52 18:39:35 ]

ความคิดเห็นที่ 124 #122 อ้าว  ไหงไปลากเส้นค่าเฉลี่ยให้มันตกลงไปอย่างนั้นล่ะคร้าบบบ   อย่างนี้มันกลายเป็นค่าเฉลี่ยตามอำเภอใจไปซะแล้ว.....   จะเฉลี่ยยังไงก็ตาม ก็ควรต้องใช้หลักการเดียวกันตลอดทั้งเส้นกราฟนะครับผม   (เข้ามาแซวเล่นนะครับ) แก้ไขเมื่อ 20 มิ.ย. 52 18:43:25 จากคุณ : PureTruth - [ 20 มิ.ย. 52 18:42:13 ]

ความคิดเห็นที่ 125 ทิเบตแห้งแล้งหนักสุดในรอบ 30 ปี ปักกิ่ง 20 มิ.ย. - news.mcot สำนักข่าวซินหัวของทางการจีนรายงานว่า ปัญหาความแห้งแล้งในทิเบต ทวีความรุนแรงที่สุดในรอบ 30 ปี ส่งผลให้พื้นที่หลายพันไร่แห้งผาก และทำให้ปศุสัตว์กว่า 13,000 ตัวต้องล้มตาย รายงานอ้างเจ้าหน้าที่อุตุนิยมวิทยาระดับสูงของจีน ระบุว่า เมื่อเดือนก่อนทิเบตเผชิญกับภัยความแห้งแล้งและน้ำท่วมรุนแรงขึ้น เนื่องจากภาวะโลกร้อนทำให้ธารน้ำแข็งบริเวณดังกล่าวละลายลง ด้านสำนักงานใหญ่ด้านการบรรเทาภัยแล้ง และควบคุมอุทกภัยของเขตปกครองตนเองทิเบต กล่าวว่า สภาพอากาศแห้งแล้งนับแต่เมื่อปีก่อนส่งผลกระทบต่อพื้นที่ 5 จังหวัดของทิเบต และร้อยละ 15.3 ของพื้นที่ราบสูงที่ห่างไกล ทั้งยังทำให้ปศุสัตว์ล้มตาย 13,601 ตัว แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดของกรอบเวลาการตาย ส่วนสถานีตรวจวัดอากาศบางแห่งก็ไม่มีปริมาณน้ำฝนเพียงพอในช่วง 226 วัน http://news.mcot.net/international/inside.php?value จากคุณ : หลับตา - [ 20 มิ.ย. 52 19:42:05 A:58.64.64.175 X: TicketID:173601 ]

ความคิดเห็นที่ 126 เจ้าหน้าที่อุตุนิยมวิทยาคนหนึ่ง กล่าวว่า ภาวะแห้งแล้วรุนแรงขึ้นจากอุณหภูมิที่สูงกว่าปกติ โดยปัจจุบันทิเบตมีอุณภูมิสูงกว่าปกติราว 0.4-2.3 องศาเซลเซียส ด้านหัวหน้าสำนักอุตุนิยมวิทยาจีน กล่าวเมื่อเดือนก่อนว่า สัญญาณเตือนของภาวะโลกร้อนคือ การที่ธารน้ำแข็งละลายเร็วขึ้น ซึ่งจะทำให้ระดับน้ำในทะเลสาบของทิเบตเอ่อล้นตลิ่ง จนอาจทำให้ประชาชนหลายล้านคนทางภาคตะวันตกของจีนเผชิญอุทกภัยเป็นในระยะสั้น และจะเผชิญภัยแล้งในระยะยาว.-สำนักข่าวไทย อัพเดตเมื่อ 2009-06-20 17:01:37 จากคุณ : หลับตา - [ 20 มิ.ย. 52 19:43:08 A:58.64.64.175 X: TicketID:173601 ]

ความคิดเห็นที่ 127 อยากให้คุณกาลามะชนช่วยอธิบายเรื่องแผ่นน้ำแข็งแตกและธารน้ำแข็งหน่อยน่ะครับ จากคุณ : EvaNe - [ 20 มิ.ย. 52 20:00:08 ]

ความคิดเห็นที่ 128 #127 ไปอ่านที่ คห 85 ครับ จากคุณ : soginal - [ 20 มิ.ย. 52 20:03:20 ]

ความคิดเห็นที่ 129 เรื่องพวกนี้ตอนนี้ไม่มีใครรู้จริงหรอก เพราะข้อมูลดิบที่ใช้วิเคราะห์มันไม่พอ นักวิทย์ที่บริสุทธิ์เค้าก็แค่เก็บข้อมูลไปตามจริงไปเรื่อยๆ ทดลองโมเดลไปเรื่อยๆ ระหว่างที่ทฤษฏียังไม่สมประกอบตอนนี้ต่างฝ่ายก็ต่างอ้างข้อมูลที่ตัวเองอยากอ้าง ปิดข้อมูลที่ตัวเองอยากปิด นำเสนอในสิ่งที่ตัวเองเชื่อ ถ้าใครว่ารู้จริงก็ต้องทำนายได้อย่างชัดเจนว่าจะเกิดอะไรต่อไป ปลายปีหน้าหนาวจะเป็นยังไง หน้าร้อนจะเป็นยังไง พายุระดับใหญ่ๆลูกต่อไปจะเกิดที่ไหนอย่างไร ปัจจัยต่างๆมีอะไรบ้าง จากคุณ : หลับตา - [ 20 มิ.ย. 52 20:28:44 A:58.64.64.175 X: TicketID:173601 ]

ความคิดเห็นที่ 130 เราเชื่อเรื่อง Global warming และ Climate change.... ... จากคุณ : Halimeda Lover - [ 20 มิ.ย. 52 22:28:47 ]

ความคิดเห็นที่ 131 ร้อนแล้วไง  ไม่ร้อนแล้วไง ต้องรอให้โลกแตกก่อนหรือ ถึงจะช่วยกันรักษาสิ่งแวดล้อมกันได้น่ะ กันไว้ไม่ดีกว่าแก้เหรอ หรือไม่เห็นโลกศพ ก็ไม่หลั่งน้ำตา จากคุณ : Serefim - [ 20 มิ.ย. 52 23:28:08 ]

ความคิดเห็นที่ 132 ^ ^ แต่ผมรู้สึกเหมือนชักปืนมาขู่แล้วบอกให้ไปทำความดีซะ! จากคุณ : ห้ามวางไว้ไกล้เด็ก - [ 20 มิ.ย. 52 23:38:15 ]

ความคิดเห็นที่ 133 เรื่องนี้น่าจะยาวครับ.. เมื่อไม่กี่เดือนก่อน ก็มีการถกเรื่องนี้กันในพันทิพนี่ล่ะครับ.. ห้องหว้ากอ กลายเป็นห้องราชดำเนินไปเลย.. ร้อนจนขนาดมีการแจ้งปิดกระทู้.. อย่าให้บรรยากาศแบบนั้นกลับมาอีกเลยนะครับ.. ผู้ที่เรียนมาก รู้มามาก ก็โปรดอย่าดูถูกเหยียดหยาม ผู้ที่มีโอกาสทางการศึกษา.. น้อยกว่าท่าน (ก็รู้ๆกันอยู่ว่าประเทศเรา มันเท่าเทียมกันแค่ไหน) ฝ่ายที่มีข้อมูลว่าโลกร้อน จากน้ำมือมนุษย์จริงๆ.. ก็โปรดนำเสนอข้อมูลของท่าน โดยปราศจากคำพูดกระแทกแดกดันเถอะครับ.. ผมว่า มันจะมีประโยขน์กับทั้งสองฝ่าย.. ส่วนผม..เป็นกลาง..รักสันติ..อ่านเงียบๆ.. ไม่อยากเอาล็อกอินมาทิ้งแถวนี้.. เคี๊ยกๆๆๆๆ.. อุ๊ย!!.. ขออภัย หัวเราะไม่สุภาพ.. ปล.ผมอ่านกระทู้เก่าๆของเจ้าของกระทู้หมดแล้ว.. ขออนุญาตนำลิงค์ไปแปะที่ วิชาการ ดอท คอม นะครับ.. ไปหาข้อมูลอีกด้าน.. เผื่อมีคนอยากจะค้าน... แต่ขอบคุณเจ้าของกระทู้นะครับ.. ข้อมูลอีกด้านอย่างนี้... ไม่ค่อยได้รับการเผยแพร่เท่าที่ควร.. จากคุณ : โปรดเตรียมตัวยืนตรงเคารพธงชาติ - [ 20 มิ.ย. 52 23:47:00 ]

ความคิดเห็นที่ 134 จะร้อนขึ้นหรือไม่ ยังไงก็สมควรที่จะรักษาธรรมชาติ แต่ที่สำคัญอีกอย่างก็คือความจริง จะร้อนขึ้น หนือไม่ได้ร้อนขึ้น ผมก็อยากรู้ความจริง ที่เป็นจริงเหมือนกัน ขอติดตามดูด้วยคนครับสำหรับหระทู้ดี ๆ อย่างนี้ จากคุณ : Lucky Man. - [ 21 มิ.ย. 52 00:08:22 ]

ความคิดเห็นที่ 135 เรื่องที่น่าเบื่อมากในกระทู้คุณกาลามะชน 1.ชอบมีคนเข้าใจว่าคุณกาลามะชนกล่าวอ้างว่าโลกไม่ได้ร้อนขึ้น (ไม่ใช่เฟ้ย!!!!!!!!! คุณกาลามะชนเชื่อว่าโลกร้อนขึ้น แต่ไม่เชื่อว่าเกิดจากฝีมือมนุษย์แค่นั้น) 2.ชอบมีคนอ้างว่าความเชื่อเรื่องโลกร้อนจากฝีมือมนุษย์มีประโยชน์เพราะช่วยให้คนสนใจอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม (ส่วนตัวมองว่าเรื่องโลกร้อนเพราะมนุษย์หรือเพราะธรรมชาติของโลกมันต่างกันมากๆๆๆๆๆๆๆเลยนะ เพราะชาวโลกกำลังทุ่มเงินทุ่มเวลาแก้ไขปัญหาโลกร้อนจากฝีมือมนุษย์ แต่ถ้าโลกร้อนมันเป็นเพราะธรรมชาติของโลก จะเท่ากับว่าไอ้ที่ทุ่มเงินทุ่มเวลาไปไม่มีประโยชน์เลย แถมกลับจะเสียเปล่าอีกต่างหากด้วย แทนที่จะเอาเงินกับเวลามาหาวิธีรับมือที่ถูกต้อง) 3.ชอบมีคนพูดทำนองว่าคุณกาลามะชนแอนตี้โลกร้อนเพราะเป็นข้ออ้างในการผลาญทรัพยากร (ถ้าตามอ่านจริงๆละก็จะเห็นว่าคุณกาลามะชนสนับสนุนเรื่องการอนุรักษ์ธรรมชาติ แต่แอนตี้เรื่องโลกร้อนเพราะมนุษย์เฟ้ยยยยยยย) 3ข้อนี้เจอทุกครั้งในกระทู้คุณกาลามะชน น่าเบื่อเอามากๆ คือคุณกาลามะชนนำเสนอข้อมูลใหม่ๆทุกกระทู้ แต่ต้องมาเจอปัญหาเดิมทุกกระทู้ เป็นอะไรที่สวนทางกันสุดๆ อย่าง#80พูดจาเหมือนจะดูดี๊ดูดี แต่จริงๆไม่ได้พูดอะไรมากไปกว่าการ discredit ตัวคุณกาลามะชนเลย แต่พูดซะเนียนจนดูไม่เหมือนว่ากำลังดิสเครดิตที่ตัวบุคคลอยู่ บัตรผ่านอย่างคุณกินดี ยังจะดูดีมีชาติตระกูลมากกว่า เพราะอย่างน้อยก็พยายามแย้งด้วยข้อมูลและหลักฐาน (ฝ่ายไหนข้อมูลถูกต้องน่าเชื่อถือกว่าก็เป็นอีกเรื่องนึง) แก้ไขเมื่อ 21 มิ.ย. 52 00:55:21 แก้ไขเมื่อ 21 มิ.ย. 52 00:53:34 จากคุณ : Ponyo - [ 21 มิ.ย. 52 00:52:20 ]

ความคิดเห็นที่ 136 คุณกาลามะชน สู้ ๆ ค่ะ จากคุณ : Strawberry 59 Baht - [ 21 มิ.ย. 52 02:27:36 ]

ความคิดเห็นที่ 137 เอ บัตรผ่านทำไมไม่สมัครสมาชิกให้มันสิ้นเรื่องสิ้นราว สู้กันซึ่งๆหน้าดีไหม ไม่ใช่ทำท่าจะแพ้ก็หาย ไม่รู้ว่าใครเป็นใคร จากคุณ : yinyos2530 - [ 21 มิ.ย. 52 06:08:34 ]

ความคิดเห็นที่ 138 โห ข้อมูลเพียบ แต่ยังไงก็ช่วยกันรักษ์โลกก็ดีนะครับ ผมว่าประเด็นมันไม่ได้อยู่ที่ว่าโลกร้อนจริงรึป่าว แต่อยู่ที่เราจะช่วยกันทำยังไงให้มันดีขึ้นนะ จากคุณ : mus_saleep - [ 21 มิ.ย. 52 06:23:36 ]

ความคิดเห็นที่ 139 อืม . . . ได้ข้อมูลดีครับ แต่บางความเห็นนี่ . . . ถ้าจะไม่กระแทกแดกดันจะเป็นอะไรมากมั้ยครับ - -" จากคุณ : Shiroi Tsuki - [ 21 มิ.ย. 52 07:12:06 ]

ความคิดเห็นที่ 140 ในเรื่องของวิทยาศาสตร์ไม่มีอะไรถูกต้อง 100% ใช่มั้ยครับ ในมุมมองของผม ผมมองในแง่การตลาด และการเมืองครับ เป็นมุมมองที่ลองเดาๆดูนะครับ ไม่ใช่ว่าจะถูกต้องไปซะหมด ตอนแรกผมปักใจเชื่อมาตลอดว่าโลกเราร้อนขึ้นมากจริงๆ และก็มีการรณรงณ์เรื่องโลกร้อนมากมาย แม้แต่ในบ้านเราก็ตาม ซึ่งกิจกรรมที่มนุษย์เราทำมักสวนทางกับสิ่งที่อยากให้เป็น คุณรณรงณ์ก็จริง แต่ในทางกลับกันกิจกรรมต่างๆ ที่อ้างเรื่องโลกร้อนนั้น กลับทำให้โลกร้อนยิ่งขึ้น หลังจากนั้นผมสงสัยมาตลอดว่า นี่เป็นเรื่องจริงหรือเปล่า เพราะผมไม่มีความรู้เรื่องวิทยาศาสตร์ แค่สงสัยว่าอเมริกาจะมาไม้ไหนเนี่ย? ช่วงหลังมานี้มีผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ช่วยเรื่องโลกร้อนได้ ออกมามากมาย แต่ก็ยากกับการจับจองของคนทั่วไปเพราะเรื่องราคาที่สูง ทำให้คนที่สามารถใช้ได้กระจุกตัวอยู่แค่คนส่วนน้อย แล้วมันจะช่วยโลกกันจริงๆมั้ยเนี่ย? พูดกันตรงๆ คือพฤติกรรมที่ทำออกมา เหมือนกับหลอกกัน พูดว่า "เราต้องช่วยโลกร้อน พวกเราต้องช่วยกัน มาซื้อของผมนี่ ช่วยโลกร้อน ไม่ทำลายชั้นบรรยากาศ บลา บลา บลา..." แต่ดูราคาแล้ว โอ้โห ยอมใช้แบบเดิมดีกว่า แน่นอนว่าการผลิตของใหม่ๆออกมานั้นต้องมีค่าผลงานวิจัย แต่ถ้าตั้งใจจะช่วยโลกนี้กันจริงๆแล้ว ปัจจัยเรื่องงานวิจัย ก็ต้องให้ ประเทศที่ปล่อยก๊าซเสียออกมามากจ่ายซิ เอาเป็นว่าผมมองว่า เป็นการตลาด สร้างความหวาดกลัวเพื่อการค้า สร้างกำแพงการค้า/กีดกันทางการค้า กับประเทศที่ไม่ยอมซื้อเทคโนโลยี ที่ช่วยเรื่องโลกร้อนของเราไปผลิต อย่างที่อเมริกาเคยขายอาวุธช่วงสงครามโลก และเครื่องตรวจจับวัตถุระเบิดในเหตุการณ์ 911 ทั้งหมดนี้ เป็นความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ อยากจะระบายออกมาเท่านั้น แต่ก็หวังให้ทุกคนใช้สิ่งต่างๆอย่างประหยัด เพื่อตัวเราเองและลูกหลานในวันข้างหน้า ยาวไปปะเนี่ย จากคุณ : wahz666 - [ 21 มิ.ย. 52 10:05:47 ]

ความคิดเห็นที่ 141 ว่าเรื่องกราฟ จริงๆ จุดเริ่มต้นอยู่ตรงไหนก็ได้ เพราะเราสนใจอัตราการเพิ่มขึ้นของมัน ก็คือ Slope นั่นแหละ ปรากฎว่า Slope ข้อมูลของดาวเทียม ก็ต่างจากภาคพื้นดินเพียงเล็กน้อย การออกมาติว่าสถานีภาคพื้นตรวจวัดผิดพลาด ก็เป็นสิ่งที่ดีนะครับ แต่การอ้างว่าตรวจวัดผิดพลาด แล้วโลกร้อนไม่จริง ก็เป็นอีกเรื่องนึง เรื่อง บัตรผ่าน นี่เรื่องส่วนตัวครับ ผมขอยกเลิกสมาชิก pantip เอง -- ถ้าคุณจะไม่เชื่อที่ผมพูด เพราะผมเป็นบัตรผ่าน ก็ตามนั้นครับ หลายครั้งที่เห็นกระทู้โลกร้อนไม่จริง - แล้วคนฮือฮากัน ว่าเป็นข้อมูลใหม่ จริงๆ เรื่องพวกนี้ หาอ่านได้ตามเวป JunkScience หรือ ClimateAudit หรือ Watts up with that ซึ่งเป็น WebBlog ที่ออกมาวิจารณ์สม่ำเสมอ กลาย เป็นคนดังมีคนติดตามอ่านมากมาย อย่าง Steven Mcintyre เจ้าของเวป ClimateAudit นี่ มีใครรู้บ้างว่า จริงๆเป็นนักเศรษฐศาสตร์ ทำิกิจการเหมืองแร่ ซึ่งต่อมาได้รับแต่งตั้งเป็น "ที่ปรึกษาทางด้านกลยุทธ์" ของบ. CGX Energy บริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่ของแคนาดา หลายงานของฝ่าย Skeptics ได้รับทุนจาก Exxon Mobil ซึ่งเป็นผู้เสียผลประโยชน์โดยตรง จากเรื่องโลกร้อน ลองอ่านข่าวเล่นๆ http://www.independent.co.uk/news/world/europe/exxon-spends-millions-to-cast-doubt-on-warming-427404.html ที่หลายๆคนพูดว่าเป็นเรื่องการเมืองและผลประโยชน์ก็คงเป็นเรื่องจริง ใช่มั๊ย ใครเคยทำวิจัยไม่ว่าสายไหน ก็คงพอเข้าใจ นักวิจัยบางคนก็พูดไม่เป็นก็มี ผมเป็นนักวิจัยคนนึง เห็นว่าหลายข้อสงสัยของฝ่าย Skeptics ก็ถูกตอบไปแล้ว หลายอย่างเป็นงานวิจัยจริงจัง มี peer review ตีพิมพ์ลงใน Nature / Science เพียงแต่ว่ามันอาจจะไม่เท่ห์ ไม่ดัง ไม่แหวกแนว ไม่ตรงใจคนที่อ่านก็แค่นั้น จากคุณ : กินดี - [ 21 มิ.ย. 52 10:20:33 A:118.172.36.56 X: TicketID:220092 ]

ความคิดเห็นที่ 142 สรุปว่าโลกร้อนจริง แต่ 1. ทางนึงเชื่อว่าร้อนขึ้นมาก ทางนึงเชื่อว่าร้อนขึ้นน้อยกว่าที่ฝ่ายแรกบอกมา 2. ทางนึงเชื่อว่าการที่โลกร้อนขึ้น มนุษย์มีส่วนร่วม ทางนึงเชื่อว่าการกระทำของมนุษย์มีส่วนน้อยหรือไม่มีเลย ผมติดใจข้อสองนี่แหละ จากคุณ : Ronachai (amscmu) - [ 21 มิ.ย. 52 11:06:02 ]

ความคิดเห็นที่ 143 #138 ประเด็นอยู่ที่โลกร้อนขึ้นครับ อยุ่ที่ว่าโลกร้อนขึ้นด้วยสาเหตุอะไร จะได้ช่วยกันแก้ไขได้อย่างถูกวิธีนี่ครับ แก้ผิดสาเหตุ แก้ให้ตายมันก็ไม่น่าจะดีขึ้นนะครับ เห็นด้วยกับหลาย คห. ที่มันมีส่วนทำให้เกิดการได้เสียผลประโยชน์ทางการค้าและการเมือง การเมืองก็เสนอนโยบายปลูกต้นไม้กันใหญ่ การค้าก็สรรค์สร้างผลิตภัณฑ์มาโฆษณาว่าช่วยลดโลกร้อน สุดท้าย ถามจขกท.นิดนึงครับ แล้วถ้าไม่ได้เป็นจากฝีมือมนุษย์แล้วเรื่อง Ozone hole ที่เค้าบอกว่ามีอยู่น่ะครับ มันมีจริงหรือเปล่า? ถ้ามีแล้วมันเกิดจากอะไรน่ะครับ? ส่วนตัวเชื่อว่าปัจจัยโลกร้อนด้วยเหตุจาก ozone หายไป เป็นปัจจัยที่สำคัญน่ะครับ จากคุณ : Dr-Zeratul - [ 21 มิ.ย. 52 12:10:12 ]

ความคิดเห็นที่ 144 คุณกินดี ผมก็ยังยืนยันว่าไม่เห็นด้วยกับการปรับเพิ่มจุดเริ่มต้นของกราฟ การที่ดาวเทียมมีจุดเริ่มต้นต่ำกว่าภาคพื้นตั้งแต่แรกนั่นก็ถูกต้องด้วยเหตุและผลแล้ว เพราะสถานีภาคพื้นควรจะมีความคลาดเคลื่อนเกิดขึ้นมานานแล้ว ไม่ได้เพิ่งจะเริ่มคลาดเคลื่อนในปีที่เริ่มมีดาวเทียม ส่วนการที่บอกให้สนใจแต่เฉพาะ slope นั้นก็ไม่ถูกต้อง เพราะถ้าวิเคราะห์กันในปี 2004 ก็คงจะสรุปได้ว่าโลกร้อนขึ้นอย่างรวดเร็ว อาจจะได้ผลใกล้เคียงกับที่คุณยกมานั่นแหละ แต่ถ้ามาวิเคราะห์กันในปี 2009 นี้ ก้คงจะได้กราฟที่มีความชันน้อยลง เพราะอุณหถูมิลดลงอย่างต่อเนื่อง ถ้าไม่เชื่อก็ลองมองดูที่กราฟของจริงได้เลยว่าตอนนี้อุณหภูมิเท่าไร และเมื่อสามสิบปีก่อนอุณหภูมิเท่าไร คิดคร่าวๆจับลบกันหารด้วยสามคุณก็จะได้อัตราการเพิ่มขึ้นต่อทศวรรษ ซึ่งถ้าคุณวิเคราะห์กราฟที่มีข้อมูลถึงปี 2008-2009 ก็จะได้อัตราการเพิ่มแค่ประมาณ 0.1 C เท่านั้น จะดูจากกราฟของคุณหรือกราฟของผมก็ได้ ได้ผลเท่ากัน ข้อมูลที่เป็นปัจจุบันมีให้เห็นอยู่ตรงหน้า คุณพิจารณาได้ด้วยตนเอง ไม่จำเป็นยึดถือข้อสรุปของงานวิจัยที่อาจจะสรุปกันเมื่อหลายปีก่อนในช่วงที่การกลับมาเย็นลงของโลกยังไม่เริ่มต้น คุณ Dr-Zeratul Ozone เป็นกาซเรือนกระจกที่มีพลังสูง มีอิทธิพลประมาณ 3-7% ของพลังเรือนกระจกโดยรวมของมวลอากาศแห้ง ถ้าใครเชื่อว่าโลกร้อนขึ้นเพราะกาซเรือนกระจก การลดลงของ Ozone จะมีผลตรงในทางกันข้าม คือทำให้เย็นลง Tucumari ตัวอย่างสถานีที่ได้มาตรฐาน สำหรับเปรียบเทียบ แก้ไขเมื่อ 21 มิ.ย. 52 19:49:54 แก้ไขเมื่อ 21 มิ.ย. 52 14:04:27 แก้ไขเมื่อ 21 มิ.ย. 52 13:00:20 จากคุณ : กาลามะชน - [ 21 มิ.ย. 52 12:56:49 ]

ความคิดเห็นที่ 145 ผมติดตามเรื่องนี้อยู่เหมือนกันครับ แต่ด้วยเพราะเคยอ่านเรื่องสถานีตรวจจับแต่ละที่ไม่ได้คุณภาพนี่แหละ หลังๆ เรื่องโลกร้อนผมเลยฟังหูไว้หูมากกว่า แต่ยังไงก็ยังช่วยกันอณุรักษณ์นะครับผม :) จากคุณ : monixe - [ 21 มิ.ย. 52 13:20:44 ]

ความคิดเห็นที่ 146 โอ้วพระเจ้า ยิ่งอ่านยิ่งได้อารมณ์ได้ความรู้ ถ้ารู้ว่าโลกร้อนมันมาจากสาเหตุจริงๆคืออะไรมันก็ดีอ่ะนะ แต่ยังไงซ่ะถ้าคนเรายังปล่อยก๊าซนั้นนี้ไปเรื่อยๆ เดี๋ยวเราก็ทำให้มันกลายเป็นสาเหตุที่แท้จริงเองแหละ จะมาติดตามตอนต่อไป แต่ยิ่งอ่านยิ่งมึนแฮะ ต้องยอมรับ จากคุณ : UdornBoy2 - [ 21 มิ.ย. 52 13:56:54 ]

ความคิดเห็นที่ 147 มาตอกบัตรตามอ่านค่ะ ขอบคุณพี่กาลามะชนที่ช่วยแจ้งข่าวด้วยค๊า ^^ จากคุณ : I^^am^^C - [ 21 มิ.ย. 52 15:21:06 ]

ความคิดเห็นที่ 148 ผมเห็นด้วยว่าโลกไม่ได้ร้อนขึ้น หรือโลกจะร้อนเย็น โดยธรรมชาติอยู่แล้ว และมนุษย์มีส่วนทำให้โลกเย็นหรือร้อนน้อยมาก แต่ ผมเห็นว่ายังไงเสียก็ต้องรักษาสิ่งแวดล้อมนะครับ อย่าอ้างว่าโลกไม่ร้อนแล้วทำลายสิ่งแวดล้อมได้ตามสบาย จากคุณ : Ao+ - [ 21 มิ.ย. 52 16:31:43 ]

ความคิดเห็นที่ 149 ผมดูกราฟไม่เป็นแต่รู้สึกได้ว่าทุกวันนี้อากาศมันร้อนเอามากๆ จากคุณ : เด็ก ป.6 - [ 21 มิ.ย. 52 17:43:18 ]

ความคิดเห็นที่ 150 ถึงคุณ กาลามะชน, Shiroi Tsuki, และ เต่าหลังอ่อน ขอบคุณสำหรับกิ๊ฟนะครับ เป็นกิ๊ฟแรกๆสำหรับผมเลย (ตื่นเต้นๆ) จากคุณ : wahz666 - [ 21 มิ.ย. 52 19:33:52 ]

ความคิดเห็นที่ 151 1) พี่กาลามะชน ขอบคุณครับ สำหรับข้อมูลใหม่ๆ ที่น่าตื่นเต้น ขออนุญาตเอาไปเรียบเรียงและใช้งานต่อนะครับ....ขอโทษด้วย ครับไม่มีเวลาตามข้อมูลใหม่ๆ เลย 2) ผมคิดว่า เรื่องนี้ ไม่ได้เกี่ยวกับ การรณรงค์ให้อนุรักษ์ หรือไม่อนุรักษ์นะครับ เหมือนที่ คห.135 บอก เรื่องนี้ คุยกันเรื่องหลักฐานข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ครับ 3) คนไทย ศึกษาหาข้อมูลกันน้อยมาก โดยเฉพาะในมุมที่เป็นแบบ "ตั้งข้อสงสัย" ซึ่งแตกต่างจากฝรั่งอย่างมากนะครับ การมีกระทู้แบบนี้บ่อย ย่อมเป็นประโยชน์มากกว่าโทษ ครับ แก้ไขเมื่อ 21 มิ.ย. 52 21:37:54 จากคุณ : หมูอวบ - [ 21 มิ.ย. 52 21:17:49 ]