"การต่อสู้ระหว่าง การศึกษาเพื่อตลาดแรงงานสากล กับการศึกษาเพื่อกาศึกษาจึงเริ่มขึ้น"
"ความน่าสนใจของการประท้วงด้านการศึกษาในครั้งนี้ที่เยอรมัน มีความน่าสนใจด้วยกันหลายประการ
ไม่ว่าจะเป็นการเริ่มต้นประท้วงมีจุดเริ่มต้นมาจากนักศึกษาเอง ที่เห็นว่าระบบการศึกษาแบบใหม่ไม่ส่งผลดีกับตน
ซึ่งผมคิดว่าเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยาก ที่เหตุการณ์ทำนองนี้จะเกิดขึ้นในประเทศไทยในตอนนี
หรือแม้แต่แนวคิดของนักเรียนนักศึกษา ที่ชอบแบบ "เรียนนาน ๆ แต่ขอแน่น ๆ" มากกว่า "เรียนเร็ว ๆ แต่ขอวุฒิสูงๆ"
จนมีศาสตราจารย์หลายท่านเรียกระบบการศึกษาแบบใหม่นี้ว่า "ระบบการศึกษา McDonal"
ซึ่งดูจะสวนทางกับวิธีคิดในเรื่องการศึกษาในประเทศไทยอยู่เหมือนกัน"
------------------------------------------------------------------------------
ระบบการศึกษาเยอรมันเริ่มเป็นพิษ
โดย bow_der_kleine
การศึกษาคือทุกอย่าง แม้ว่าจะมีคำพูดที่เราได้ยินเสมอว่า "การศึกษาไม่ได้ทำให้คนดีขึ้น" แต่การศึกษามีอิทธิพลต่อกระบวนการคิดของคนเป็นอย่างมาก อาจจะจริงที่ว่า การศึกษาไม่ได้ทำให้คนดีขึ้น แต่การศึกษาก็ทำให้กระบวนการคิดที่จะเป็นคนดีหรือไม่ดีเปลี่ยนไป อย่างน้อยหากคนมันจะไม่ดีอยู่แล้ว การศึกษาก็ทำให้เขากลายเป็นคนไม่ดีที่มีเหตุผล (หรือเปล่า?) ผมก็พล่ามไปเรื่อย ซึ่งไม่ค่อยเกี่ยวกับเรื่องที่เขียนเท่าไร
ในช่วงอาทิตย์นี้มีเหตุการณ์ที่น่าสนใจที่เกี่ยวข้องกับระบบการศึกษาของเยอรมัน นั่นคือ การประท้วงของเรียนนักศึกษาและศาสตราจารย์ทั่วเยอรมัน เนื่องจากตั้งแต่ปี 1999 จนถึงปัจจุบัน รัฐบาลเยอรมันพยายามเปลี่ยนแปลงระบบการศึกษาของตัวเอง ให้เป็นไปตาม สนธิสัญญา Bologna ซึ่งว่าด้วยกระบวนการสร้างความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ของระบบการศึกษาภายในยุโรป ทำให้การทำงานข้ามประเทศระหว่างประเทศในยุโรป และอเมริกา เป็นไปอย่างราบรื่นขึ้น
โดยหลัก ๆ ก็คือ เปลี่ยนจากระบบวุฒิการศึกษา Diplom/Magister เป็น Bachelor+Master ดูเผิน ๆ เหมือนกับไม่มีอะไรมาก แค่เปลี่ยนระบบวุฒิ แต่เอาเข้าจริงแล้ว ระบบการศึกษาทั้งระบบ รวมไปถึงปรัชญาการศึกษากลับได้รับผลกระทบจากกระบวนการนี้เป็นอย่างมาก ...
ระบบ Diplom หรือ Magister ของเยอรมันนั้น หากอธิบายให้ง่ายก็คือ เอาปริญญาตรีกับปริญญาโทมารวมกัน เรียนจบปุ้บก็มีวุฒิเทียบเท่าปริญญาโททันที ข้อแตกต่างที่เห็นได้ชัดระหว่าง Diplom/Magister กับ Master คือขบวนการเรียนรู้ ที่ Diplom/Magister จะเน้นการเรียนแบบกว้าง ๆ ไม่ลงลึกมากนัก และนักศึกษาจะมีความเป็นอิสระค่อนข้างสูง สามารถเลือกเรียนในสิ่งที่ตัวเองชอบได้ และจะเลือกเรียนเมื่อไรก็ได้ หากวิชานั้นเปิดสอน (ทำให้บางคนใช้เวลาเรียนเกือบสิบปี) ซึ่งความเป็นอิสระในการเรียนรู้ จะมาพร้อม ๆ กับ การเรียนรู้ด้วยตัวเอง โดยศาสตราจารย์มีหน้าที่เป็นผู้ชี้แนะแนวทาง มากกว่าเป็นผู้สอน
แต่ในระบบ Bachelor+Master ที่เริ่มมีการใช้มาตั้งแต่ปี 2004 นั้นแตกต่างออกไป การเรียนการสอนมีโครงสร้างเพื่อรองรับตลาดแรงงาน และโลกาภิวัฒน์มากขึ้น โดยนักศึกษาต้องเรียนตามขั้นตอนที่ทางมหาวิทยาลัยกำหนดมากขึ้น ต้องเรียนเฉพาะทางมากขึ้น และด้วยระบบ European Credit Transfer System (ECTS) ทำให้การเรียนต้องเป็นไปอย่างเร่งเรีบมากขึ้น ทั้งหมดทั้งสิ้นก็เพื่อป้อนบุคคลากรเข้าตลาดแรงงานตามคุณสมบัติ "young, specialized and highly qualified"
ผลกระทบทางอ้อมที่เกิดจากระบบการศึกษาแบบใหม่คือ การเสียค่าเล่าเรียน (แม้จะไม่มากก็ตาม) และด้วยระบบใหม่ที่บีบรัดเรื่องเวลามากขึ้น การทำงาน part time ก็เป็นไปได้ยากขึ้น อีกทั้งทุนการศึกษาจากรัฐบาลยิ่งนับวัน ยิ่งน้อยลงเรื่อย ๆ ทำให้หลายคนตั้งข้อสังเกตว่า ระบบการศึกษาแบบใหม่นี้ เหมาะสำหรับคนมีเงินเท่านั้น การตั้งคำถามเรื่องโอกาสทางการศึกษาจึงเกิดขึ้นอย่างวงกว้าง
ความเปลี่ยนแปลงที่นักเรียนนักศึกษา และเหล่าศาสตรจาย์เริ่มรู้สึกได้ในตอนนี้คือ ผู้เรียนต้องใช้เวลากับการเรียนมากขึ้น แต่มีเวลาให้กับการศึกษาน้อยลง กล่าวคือ ด้วยระบบแบบใหม่ ทำให้การเรียนการสอนเกิดลักษณะการอัดแน่นของเวลาเรียน จนทำให้นักศึกษามีเวลาทบทวนและทำความเข้าใจในสิ่งที่ตัวเองเรียนน้อยลง และแทบจะไม่มีเวลาให้กับสิ่งที่ตนเองสนใจด้านอื่น ๆ เลย หรือแม้แต่ผู้สอนเอง ก็ต้องมุ่งเป้าไปกับการสอนมากขึ้น (ที่มีเนื้อหาเท่าเดิม แต่เวลาน้อยลง) จนแทบจะไม่สามารถปลีกตัวไปทำวิจัย หรือพัฒนาหลักสูตรได้เลย
ด้วยแรงกดดันต่าง ๆ เหล่านี้เอง ทำให้เหล่านักเรียนนักศึกษา และอาจารย์ผู้สอนเริ่มปิดห้องเรียน แล้วไปเดินประท้วงตามท้องถนนตั้งแต่วันจันทร์ที่ผ่านมา จนถึงวันศุกร์นี้ โดยมีเป้าหมายหลักคือ การเปลี่ยนระบบกลับมากเป็น Diplom/Magister และการยกเลิกการเก็บค่าเล่าเรียน โดยเสียงตอบรับจากนักการเมืองในขึ้นต้นคือ "ไม่" เพราะการเปลี่ยนระบบการศึกษาเป็นกระบวนการที่ต้องลงทุน ลงแรง ลงเวลาจำนวนมาก จะให้เปลี่ยนกลับเป็นระบบเดิม คงเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยาก
การต่อสู้ระหว่าง การศึกษาเพื่อตลาดแรงงานสากล กับการศึกษาเพื่อกาศึกษาจึงเริ่มขึ้น
ความน่าสนใจของการประท้วงด้านการศึกษาในครั้งนี้ที่เยอรมัน มีความน่าสนใจด้วยกันหลายประการ ไม่ว่าจะเป็นการเริ่มต้นประท้วงมีจุดเริ่มต้นมาจากนักศึกษาเอง ที่เห็นว่าระบบการศึกษาแบบใหม่ไม่ส่งผลดีกับตน ซึ่งผมคิดว่าเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยาก ที่เหตุการณ์ทำนองนี้จะเกิดขึ้นในประเทศไทยในตอนนี้ หรือแม้แต่แนวคิดของนักเรียนนักศึกษา ที่ชอบแบบ "เรียนนาน ๆ แต่ขอแน่น ๆ" มากกว่า "เรียนเร็ว ๆ แต่ขอวุฒิสูง ๆ" จนมีศาสตราจารย์หลายท่านเรียกระบบการศึกษาแบบใหม่นี้ว่า "ระบบการศึกษา McDonal" ซึ่งดูจะสวนทางกับวิธีคิดในเรื่องการศึกษาในประเทศไทยอยู่เหมือนกัน
แต่สำหรับผมตอนนี้ เรียนยังไงก็ได้ ขอให้จบ เรียนจนหัวหงอกแล้ว!
http://www.biolawcom.de/blog/888/Bildungsstreik-2009.html
จากคุณ :
Alcohol Degree
- [
27 มิ.ย. 52 12:01:01
A:118.172.31.126 X: TicketID:219728
]