Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com


    ก่อนจะเปลี่ยนมือถือใหม่....อยากให้อ่านตรงนี้สักนิด

    1,222,245,200,000คือ ยอดขายโทรศัพท์มือถือในปี 2551
    จากสถิติ ของ Worldwatch institute ระบุว่า
    ระยะเวลาเฉลี่ยในการใช้โทรศัพย์มือถือ 1 เครื่อง
    ในปัจจุบันมีอยู่ราว 14 เดือน ก่อนจะเปลี่ยนเครื่องใหม่
    นับว่าน้อยกว่าอายุการใช้งานจริงที่ควรจะเป็น

    ทั้งๆที่มือถือยุคใหม่ไม่ได้ทำอะไรออกมาสนองความต้องการมากนัก
    และระยะเวลาในการใช้งานอาจจะน้อยเกินไปกว่านั้น
    ในกลุ่มผู้ใช้มือถือที่เห็นเป็นเพียงอุปกรณ์เสริมความมั่นใจ
    เปลี่ยนเครื่องใหม่ทุกครั้งเพื่อให้แน่ใจว่าอยู่ในเทรนด์
    และได้ของที่ฉลาดสุดๆอยู่ในมือ





    แต่รู้หรือไม่ว่า เบื้องหลังความพอใจที่ได้อินเทรนด์นี้
    ยอดขายหลายล้านๆเครื่องในแต่ละปี หมายถึง น้ำตา ฝันร้าย
    และความตายของชาวคองโกนับล้านชีวิต
    นี่ยังไม่นับรวมการฆาตกรรมหมู่ในป่าลึก,
    ความตายของกอริลล่ายักษ์ที่อาจเหลือฝูงสุดท้ายในรวันดา



    ตัวเชื่อมที่ทำให้มือถือโยงไปถึงสงครามร้ายแรงที่สุด
    ในประวัติศาสตร์แอฟริกาคือ โคลัมไบต์-แทนทาไลต์
    หรือ แร่โคลแทนที่พบมากในแอฟริกากลาง,แน่นอน...ในคองโก



    ด้วยคุณสมบัติทนความร้อนสูง ทำให้ผงแทนทาลัม
    ที่สกัดได้จากโคลแทน กลายเป็นวัตถุดิบจำเป็นที่อยู่ในมือถือ
    คอมพิวเตอร์,เพลย์สเตชั่นฯลฯ

    โคลแทน กลายเป็นblack goldในขณะเดียวกัน
    สงครามคองโกครั้งที่ 2 ทำให้แร่สีดำชนิดนี้
    กลายเป็นแร่สีเลือด blood coltan



    เพราะการลักลอบทำเหมืองและส่งออกโคลแทน
    กลายเป็นแหล่งหารายได้ที่เติมเชื้อไฟให้กับAfrican World War

    ในจำนวนประเทศทั้ง8 ที่ติดหล่มสงคราม
    และกองกำลังติดอาวุธกว่า20กลุ่ม
    หลายกลุ่มหาผลประโยชน์จากพื้นที่คองโก
    ที่ประเมินว่ามีแร่โคลแทนมากถึง 80% ของปริมาณโคลแทนในโลก



    การดิจิไทซ์โลก ถนนทุกสายจึงมุ่งไปที่พื้นดินของคองโก
    กองกำลังประชาธิปไตย กลุ่มปลดปล่อยรวันดาหรือ FDLR
    ที่มีชาวฮูตูเป็นแกนนำ เป็นตัวอย่างที่เห็นชัด
    ของการทำเหมืองแร่ในคองโกอย่างผิดกฏหมาย
    แม้จะต้องเสี่ยงจากการถูกปราบปรามจากรัฐบาลคองโก
    แต่FDLR และอีกหลายกลุ่ม
    ก็เห็นว่ามันเป็นความเสี่ยงที่คุ้มค่าอยู่ดี

    เพราะแทนทาลัมเพียง 1 ปอนด์ทำเงินร่วม หมื่นบาท
    แทนทาลัม 1 ปอนด์ เป็นได้ทั้งตัวเก็บประจุในโทรศัพท์มือถือเครื่องใหม่
    และแปลงเป็นAK-47พร้อมกระสุนให้กับกองกำลังติดอาวุธ

    หน่ำซ้ำในกระบวนการร่อนแร่หาโคลแทน
    แรงงานที่ถูกบังคับให้ทำเยี่ยงทาส ก็คือเด็กๆคองโกลีส
    ซึ่งองค์การสหประชาชาติรายงานว่า ในบางพื้นที่ของคองโก
    ในเด็ก100คนจะมี30คน ที่ต้องใช้เวลาทั้งวัน
    ไปกับการแยกโคลแทนออกจากเศษหินอื่นๆ

    เงินค่าจ้างไม่ถึง 35 บาท ต่อการหาโคลแทนให้ได้ 1 ปอนด์

    เรื่องมือถือเปื้อนเลือดถูกพูดถึงเมื่อหลายปีก่อน
    บริษัทระดับโลกอย่าง Nokia,Ericsson,Moto,Acer ,Compaq
    ออกมาปฎิเสธเสียงแข็งว่า โคลแทนที่ใช้ในการผลิตของตน
    ไม่ได้มาจากคองโก แต่มีซัพพลายเออร์ที่เชื่อถือได้หามาให้

    ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้วแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่บอกได้ว่า
    แทนทาลัมในมือถือที่พกติดตัวจนกลายเป็นอวัยวะที่33
    นั้นมาจากคองโกหรือเปล่า

    การตรวจสอบเส้นทางของแทนทาลัมนั้น
    ต่อให้ใช้วิธีตามไปดูถึงที่แบบกบนอกกะลา
    ก็ยังไม่สามารถบอกที่มาได้
    โคลแทนได้ถูกลักลอบเอาออกนอกคองโก
    เข้าสู่ตลาดมืด และขายทอดต่อไปเรื่อยอีกอย่างน้อย 10 ทอด
    กว่าจะไปถึงผู้จัดหารายใหญ่ ที่บริษัทบิ๊กๆเลือกเป็นคู่ค้า

    ความพยายามทุกวิถีทาง เพื่อให้ได้วัตถุดิบ
    มารองรับความต้องการการซื้อมือถือในตลาดโลก
    นอกจากจะมีส่วนสร้างประวัติศาสตร์เลือดให้กับอัฟริกาแล้ว
    ยังส่งผลร้ายต่อสัตว์ป่าด้วย



    เพราะในพื้นที่ๆขุดหาโคลแทน มันคือบ้านของ กอริลล่าภูเขา
    ที่เหลืออยู่บนโลกนี้ไม่กี่ร้อยตัว

    สัตว์ร่วมวงศ์กับมนุษย์ ที่แสนจะขี้อาย สุภาพ
    ไม่เพียงถูกเหมืองคุกคามถิ่นที่อยู่
    พวกทำเหมืองยังล่าพวกมันเอาหัว บางทีก็ชำแหละนำเนื้อมากินด้วย



    สวนสัตว์ในแอฟริกาหลายแห่ง รณรงค์การรีไซเคิลมือถือ
    เพื่อลดอัตราการใช้โคลแทนในการผลิตมือถือใหม่
    ด้วยหลังจะชะลอการสูญพันธุ์ของกอริลล่าภูเขาในคองโกได้บ้าง

    แต่ดูเหมือนไม่ทันต่ออัตราการเติบโต
    ของอุปกรณ์ที่เป็น “มากกว่าใช้พูด” แต่ส่วนใหญ่”ก็ใช้แค่พูด”เท่านั้น

    ในทวีปแอฟริกาเอง พิษภัยจากมือถือคุกคามชีวิตและทรัพยากรตัวเอง
    แต่อัตราการใช้มือถือก็เพิ่มขึ้น 1000%

    เช่นเดียวกับจำนวนคนบริสุทธิ์ที่ล้มตายลง
    ในสงครามกลางเมืองคองโก ประมาณการณ์กันว่า
    นับแต่ปี 2547 ซึ่งเป็นปียุติสงครามอย่างเป็นทางการ
    ยังมีผู้เสียชีวิตจากความรุนแรงรูปแบบต่างๆถึงเดือนละ 45,000คน
    หรือปีละ 540,000 คน ตัวเลขนี้ยังไม่รวมถึง
    ผู้หญิงหลายหมื่นที่ถูกทารุณทางเพศ
    ของกลุ่มติดอาวุธต่างๆ เพียงแต่พวกเธอยังไม่ตาย



    1,222,245,200,000กับ540,000 อาจมีหน่วยนับต่างกัน
    แต่อัตราการขยายตัวกลับแปรตามกันอย่างน่ากลัว
    ถ้าความอินเทรนด์ของคุณ นำมาซึ่งตัวเลขที่มีหน่วยศพเพิ่มมากขึ้น
    คุณยังอยากเปลี่ยนมือถือทัชสกรีนมาใช้เล่นอีกสักเครื่องไหม ...!?!

    จากคุณ : SpiritWithin_HolyStream - [ 28 มิ.ย. 52 12:52:06 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป


Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com