 |
"คลองชองเกชอน"เปลี่ยนโฉมหน้ากรุงโซล...คลองแสนแสบน่าเอาเยี่ยงอย่าง
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี ไปที่: ป้ายบอกทาง, ค้นหา คลองชองกเยชอนท่ามกลางตึกในใจกลางกรุงโซล
คลอง ชองกเยชอน(ฮันกึล: ) เป็นคลองโบราณในสมัยราชวงศ์โชซอน อายุกว่า 600 ปี ความยาวประมาณ 5.84 กิโลเมตร ไหลผ่านย่านใจกลางกรุงโซล แต่ในช่วงค.ศ. 1957-ค.ศ. 1977 ได้มีการพัฒนาประเทศอย่างก้าวกระโดด ทำให้คลองถูกถมลงเป็นถนนและทางด่วน เกิดตึกสูงมากมาย คลองชองกเยชอนก็เริ่มเน่าเสียและตื้นเขิน เรียงไปด้วยชุมชนแออัด[1]
กระทั่งปีค.ศ. 2002 นายลี มยองปากได้รับตำแหน่งเป็นผู้ว่าการกรุงโซล เขาได้เสนอโครงการฟื้นฟูคลองชองกเยชอน โดยมีพ่อค้าแม่ค้าและประชาชนต่อต้านจำนวนมาก จนต้องมีการประชุมร่วมกันมากกว่า 2,000 ครั้ง แต่โครงการก็เริ่มขึ้นได้ด้วยดีในวันที่ 1 กรกฎาคม ค.ศ. 2003 โดยเริ่มทุบทางด่วน และรื้อถนนโดยรอบมากมาย จนแล้วเสร็จในปีค.ศ. 2005 มีพิธีเปิดเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม [2] ใช้งบประมาณกว่า 380,000,000,000 วอน หรือราวๆ 1 หมื่นล้านบาท[3] พร้อมกับฟื้นฟูธรรมชาติสองฝั่งคลอง ขุดท่อผันน้ำจากแม่น้ำฮันเข้ามาที่ต้นคลอง มีการสร้างน้ำพุตลอดแนว และมีน้ำตกเป็นแนวกั้นน้ำฝน มีสะพานกว่า 22 แห่ง และทางเดินเลียบคลอง จนปัจจุบันคลองชองกเยชอนได้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญมากในกรุงโซล
---------------------
คลองชองเกชอน เป็นคลองที่ใหญ่เหมือนแม่น้ำ เคยเป็นคลองน้ำเน่าเสียที่เต็มไปด้วยมลพิษและมีถนน “คล่อมคลอง” อยู่
หลายคนหวนคิดคำนึงไปถึง “คลองสาทร” ของกรุงเทพฯ ที่ทุกวันนี้ยังมีแต่ถนนให้เห็นไม่มีวี่แววของคลอง และถนนที่สวยงามด้วยต้น “มาฮอคกานี” ที่ปลูกมาตั้งแต่ ร.5
แต่วันนี้คลองชองเกชอนของ กรุงโซล ได้บูรณะและพัฒนาจนกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวกลางใจกลางกรุงโซล จากแหล่งสลัมโทรมสุดของเมือง เป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวที่ทันสมัย ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก
คลองชองเกชอนเป็นอีกเรื่องที่ต้องไปดูงานและศึกษาจากเกาหลี เพิ่มเติมจากปรากฏการณ์ฮันริว คือ กระแสวัฒนธรรมโดยเฉพาะบันเทิงแนวใหม่ ศิลปินใหม่ วัยรุ่น ละครซีรีส์สไตล์เกาหลี ก่อให้เกิดกระแสการท่องเที่ยวเกาหลีอย่างกว้างขวาง ฉากหลายแห่งที่ใช้ถ่ายทำ กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวของจังหวัดไปอย่างชาญฉลาดแล้ว
ที่นี่ก็เป็นอีกตัวอย่างหนึ่งของการส่งเสริมการท่องเที่ยวของเกาหลี คลองชองเกชอน ความทรงจำที่ไม่มีวันลืม เป็นการเปลี่ยนโฉมหน้าเกาหลี พื้นที่แถบนี้เป็นที่รู้จักกันว่าเป็นศูนย์กลางของกรุงโซล การฟื้นฟูเริ่ม ขึ้นเมื่อปี 2005 เพื่อให้กรุงโซลกลายเป็นเมืองที่น่าอยู่อาศัยสำหรับศตวรรษที่ 21 จึงได้เกิดโครงการฟื้นฟูคลองชองเกชอน โดยเริ่มเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2003 จน
วันที่ 1 ตุลาคม 2005 คลองสะอาดน้ำสีฟ้าใสจึงได้ปรากฏให้ เห็น การฟื้นฟูคลองชองเกชอนครั้งนี้ถือเป็นก้าวที่น่าจดจำในการทำให้กรุงโซลกลาย เป็นเมืองที่ความสมดุลระหว่างธรรมชาติ วัฒนธรรมและประวัติศาสตร์
ผลงานชิ้นโบแดงนี้ส่งผลให้ผู้คิดและพัฒนาโครงการอย่าง “ลี หยอง บัก” อายุ 66 ปี ผู้ว่าฯ กรุงโซล ได้รับการเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีคนที่ 10 ของเกาหลี และเข้ารับตำแหน่งไปเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
คลองชองเกชอนมีคนพูดถึงบ่อย อยู่กรุงโซลสมัย เมื่อปี 60 เป็นคลองที่สกปรกมาก มีโรงงานทิ้งน้ำเสีย น้ำเริ่มเน่า จนถึงยุคของประธานาธิบดี ปัก จุงฮี ของเกาหลี ได้สร้างถนนคล่อมคลองยาวประมาณ 15 กิโลเมตร เมื่อปี 2004 หรือ 2005 ชุมชนกรุงโซล เริ่มเรียกร้องให้ “เอาคลองคืนมา เอาถนนกลับคืนไป” ชาวเมืองแยกเป็นสองฝ่าย พวกหนึ่งต่อต้านโครงการนี้ เกรงว่ารถจะไม่มีถนนวิ่ง อีกฝ่ายให้ทุบถนนทิ้งเอาแต่คลอง มีการถกเถียงกันปีเศษจนในที่สุดก็ตัดสินใจ จากประชามติส่วนใหญ่เห็นชอบให้ทุบถนนทิ้งเอาคลองคืนมาได้
บัดนี้สองข้างถนนกลายเป็นเส้นทางท่องเที่ยวตามแนวคลอง แต่ละจุดมีการสาธิตชีวิตที่ผ่านมาของแต่ละชุมชน
ที่น่าประทับใจก็คือ น้ำในคลองสะอาด ลงไปเดินเล่นได้ ซักผ้าในน้ำได้ มีวิถีชีวิตของคนในสมัยนั้นให้เห็น และมีรถทัวร์นำนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกมาพักผ่อน ช็อปปิ้งที่บริเวณนี้ ด้วย กลางคืนก็จะเป็นการแสดงแสงสีเสียง หรือนั่งเดินในคลองได้ เพราะคลองตื้น กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงามน่าชม
---------------
ที่มาจาก http://www.marketatnation.com/Travel/detail.aspx?NewsID=214&SectionName=%E0%B8%97%E0%B8%B1%E0%B8%A7%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B8%A3%E0%B8%AD%E0%B8%9A%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%9B%E0%B8%94%E0%B8%B2%E0%B8%AB%E0%B9%8C&SectionID=2 http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%84%E0%B8%A5%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%8A%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B9%80%E0%B8%A2%E0%B8%8A%E0%B8%AD%E0%B8%99
----------------- >>>>>>>>>>>>>>
เห็นมีคนบอกว่า ผู้ว่าอภิรักษ์ เคยไปดูงานที่โซล และไปดูคลองนี้ด้วย ตกลงไปดูมาเนี่ย ...เอาคืนเกาหลีหมดแล้วใช่ม่ะ
เงินประมาณ 10000 - 20000 ล้าน ไม่เยอะนะ ...ถ้าทำแล้ว กทมอากาศน่าอยู่ขึ้น ...และที่สำคัญ ผลตามมาคือ นักท่องเที่ยว มาเที่ยว...จะคุ้มกว่าเงินทุกลงทุนไปซะอีกนะคับ....
จากคุณ :
thepowermancity
- [
3 ก.ค. 52 12:42:42
]
|
|
|
|
|