ความคิดเห็นที่ 1 สามยักษ์ใหญ่ในแดนมังกร (Three Galaxies in Draco) [1 July] ภาพดาราจักรสามพี่น้องนี้มีชื่อเรียกอีกชื่อว่า “แก๊งค์มังกร” หรือ Draco Group เนื่องจากทั้งสามมีที่ตั้งอยู่ทางด้านเหนือของกลุ่มดาวมังกรหรือ Draco นั่นเอง ดาราจักรซ้ายบน มีชื่อเสียงเรียงนามตามรหัสว่า NGC 5981 เป็นดาราจักรกังหันที่หันด้านข้างอันแสนจะแบนบางเข้าหาโลก ถัดมาดาราจักรตรงกลางภาพเป็นดาราจักรรูปไข่ NGC 5982 พี่น้องรหัสตามติดกันมากับดาราจักรบนซ้าย และ ดาราจักรที่สาม เป็นดาราจักรกังหันแบบเดียวกับดาราจักรแรก แตกต่างกันที่มุมมอง โดยเจ้า NGC 5981 หันด้านข้าง ขณะที่ NGC 5985 ผู้น้องหันด้านหน้าเข้าหาโลก ดาราจักรสามรูปแบบปรากฏนี้มีขนาดบนท้องฟ้าใหญ่กว่าขนาดครึ่งหนึ่งของพระจันทร์เต็มดวงเพียงเล็กน้อย ซึ่งขนาดเท่านี้ยังใหญ่เกินกว่าจะถูกจัดเป็นกระจุกกาแลกซี แม้แต่ชื่อกลุ่มก็ยังไม่มีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการ ทั้งสามมีระยะห่างจากโลกประมาณ 100 ล้านปีแสง จากการศึกษาอย่างใกล้ชิดทางด้านสเปคโทรกราฟของ NGC 5985 บอกให้นักดาราศาสตร์รู้ว่า มันเป็นดาราจักรแบบเซเฟิด ซึ่งเป็นรูปแบบหนึ่งของดาราจักรที่มีการตื่นตัว ไม่เหมือนกับ กลุ่มดาราจักรอื่นๆที่นักดาราศาสตร์รู้จัก ด้วยสามความแตกต่างอย่างลงตัวนี้ ทำให้มันเป็นหนึ่งในวัตถุท้องฟ้าที่ต้องตาต้องใจเหลือเกินของเหล่านักล่าดาวยามค่ำคืน ถึงอย่างนั้นการจะได้รูปของมันมายลโฉมไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เนื่องจากระยะที่ไกลจากโลกมากทำให้ความสว่างของมันริบหรี่กว่าดาวเนปจูนเสียอีก (โชติมาตรปรากฏ 13.0 , 11.1 , 11.0 ตามลำดับ) แก้ไขเมื่อ 05 ก.ค. 52 20:31:20 จากคุณ : nOnG_WinZ - [ 5 ก.ค. 52 20:17:20 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ณ ดินแดนอันไกลโพ้น [2 July] ไกลเกือบสุดขอบจักรวาล กลุ่มก๊าซไฮโดรเจนขนาดกว้างกว่าหนึ่งแสนปีแสงปรากฏชัดอยู่ในภาพซ้ายมือ ภาพที่ว่าเป็นการนำภาพถ่ายจาก 4 แห่งนำมาผสมผสานกันจนได้เป็นข้อมูลภาพนี้ แหล่งภาพทั้ง 4 คือ 1.กล้องโทรทรรศน์ซุบารุ (Subaru Telescope) ของญี่ปุ่น ถ่ายภาพในช่วงคลื่นที่ตามองเห็น (visible light) ปรากฏในภาพเป็นสีเหลือง 2.กล้องโทรทรรศน์อวกาศฮับเบิล (Hubble Space Telescope) ถ่ายในช่วงคลื่นที่ตามองเห็นเช่นกัน ปรากฏในภาพเป็นสีขาว 3.กล้องโทรทรรศน์อวกาศสปิตเซอร์ (Spitzer Space Telescope) รับผิดชอบถ่ายในช่วงคลื่นอินฟราเรดอย่างที่มันถนัด ปรากฏในภาพด้วยสีแดง และ 4.ภาพจากหอสังเกตุการณ์รังสีเอกซ์จันทรา (The Chandra X-ray Observatory Center) ถ่ายในย่านความถี่ X-ray ตามชื่อ ปรากฏในภาพด้วยสีน้ำเงิน ภาพนี้ถ่ายย้อนกลับไปเมื่อเอกภพมีอายุเพียง 2000 ล้านปี นั่นหมายความว่า กลุ่มก๊าซร้อนที่ว่าอยู่ห่างจากโลกประมาณ 12000 ล้านปีแสง ผลจากการศึกษาในช่วงคลื่น X-ray ชี้ชัดว่าหลุมดำมวลยิ่งยวดที่อยู่ภายในใจกลางดาราจักรกำลังเติบโต และสิ่งนี้นี่เองที่ให้พลังงานแก่กลุ่มก๊าซไฮโดรเจนจนเปล่งแสงสว่างออกมาได้ งานวิจัยนี้มีคุณค่ามากในแง่ของการศึกษาเกี่ยวกับการก่อตัวของกาแลกซี ว่ากาแลกซีในระยะแรกก่อตัวขึ้นอย่างไร และหลุมดำมวลยิ่งยวดในใจกลางกาแลกซีที่มีรูปร่างจะเติบโตจนคงที่เมื่อไหร่และอย่างไร... แก้ไขเมื่อ 05 ก.ค. 52 20:31:50 จากคุณ : nOnG_WinZ - [ 5 ก.ค. 52 20:28:16 ]

ความคิดเห็นที่ 3 จากใกล้สู่ไกล ::: Happy Aphelion Day [3 July] ตำแหน่ง อะฟีเลียน (Aphelion) หมายถึงตำแหน่งที่ดาวเคราะห์อยู่ในตำแหน่งที่ไกลจากดวงอาทิตย์มากที่สุดในรอบวงโคจร ขณะที่ เพอริฮีเลียน (Perihelion) หมายถึง ตำแหน่งที่ดาวเคราะห์อยู่ใกล้ดวงอาทิตย์มากที่สุดในรอบวงโคจรของมัน สำหรับโลก วันพรุ่งนี้จะเป็นวัน อะฟีเลียน หรือดวงอาทิตย์จะอยู่ห่างจากโลกในระยะทางที่มากที่สุด หลายคนมักเข้าใจผิดว่า ระยะที่ดวงอาทิตย์ไกลจากโลกมากกว่าปกตินี้ จะทำให้โลกหนาวเย็นทำให้เกิดฤดูหนาว แต่ความจริงแล้วไม่ใช่เลย ความแตกต่างของตำแหน่ง เพอริฮีเลียน และ อะฟีเลียนนั้น ต่างกันเพียง 5 ล้านกิโลเมตร ซึ่งน้อยมากจนแทบไม่มีการเปลี่ยนแปลง สิ่งที่ทำให้เกิดฤดูกาลนั้นคือการที่โลกของเราเอียงต่างหาก เมื่อโลกของเราเอียงแต่ละซีกโลกก็จะได้รับแสงอาทิตย์ไม่เท่ากัน นั่นทำให้ในเดือนกรกฎาคม ซีกโลกใต้ซึ่งหันออกจากดวงอาทิตย์เป็นฤดูหนาว ขณะที่ซีกโลกเหนือส่วนใหญ่ยังร้อนอยู่ ระยะห่างจากโลกถึงดวงอาทิตย์ที่เปลี่ยนไปมีผลต่อขนาดปรากฏบนท้องฟ้าของดวงอาทิตย์ด้วย จากภาพเป็นการถ่ายภาพดวงอาทิตย์จากกล้องตัวเดียวกันในวัน อะฟีเลียน และ เพอริฮีเลียน เพื่อนำมาเปรียบเทียบขนาดกัน อย่างไรก็ตามจากภาพยังสรุปแน่ชัดถึงความแตกต่างของขนาดปรากฏของดวงอาทิตย์ไม่ได้ แต่น่าจะอยู่ที่ราวๆ 3 เปอร์เซน แก้ไขเมื่อ 05 ก.ค. 52 20:32:03 แก้ไขเมื่อ 05 ก.ค. 52 20:31:02 จากคุณ : nOnG_WinZ - [ 5 ก.ค. 52 20:29:22 ]

ความคิดเห็นที่ 4 Star and the Presidents [4 July] ภาพนี้เป็นภาพท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวเหนืออุทยานแห่งชาติเมานต์รัชมอร์ ประเทศสหรัฐอเมริกา สังเกตุที่ภูเขาในภาพจะเห็นรูปสลักขนาดใหญ่ของประธานาธิบดี 4 คนของสหรัฐฯ ซึ่งถูกสลักบนหน้าผาหินแกรนิต เรียงจากซ้ายไปขวา คนแรก จอร์จ วอชิงตัน ประธานาธิบดีคนแรกของอเมริกา คนที่สอง โทมัส เจฟเฟอร์สัน ประธานาธิบดีคนแรกที่เป็นหัวหน้าพรรคการเมือง คนที่สาม ทีโอดอร์ รูสเวลล์ ผู้สร้างคำว่า เทดดี้แบร์ และคนสุดท้าย อับบราฮัม ลินคอห์น ผู้ต่อต้านระบบทาสในสหรัฐเจ้าของวาทะ “การปกครองในระบอบประชาธิปไตย หมายถึง การปกครองโดยประชาชน ของประชาชน เพื่อประชาชน” ตรงกลางภาพเหนือหน้าผาพอดีจะเห็นกลุ่มดาวหมีใหญ่ (Ursa Major) หรือกลุ่มดาวกระบวยใหญ่ (Big Dipper) ได้อย่างชัดเจน ถ้าลากตามส่วนโค้งของหางกระบวยไปทางซ้าย ที่มุมซ้ายล่างของภาพจะเห็นดาวสว่างดวงหนึ่ง ดาวนั้นคือ Arcturus หรือดาวดาริกามณีในชื่อไทย และถ้าลากตามดาวสองดวงปลายสุดของตัวกระบวยขึ้นไปทางด้านขวาบน จะพบดาวสว่างอีกดวง ถ้าคนที่พอดูดาวเป็นจะทราบว่าดาวดวงนั้นอยู่ตรงปลายสุดของกลุ่มดาวอีกกลุ่มหนึ่ง กลุ่มดาวนั้นคือกลุ่มดาวหมีเล็ก (Ursa Minor) และแน่นอนที่สุดครับ ดาวดวงนั้นคือดาวเหนือ หรือ โพลาริส (Polaris) นั่นเอง ปล.การลากกลุ่มดาวหมีเล็กนั้น คล้ายกลุ่มดาวหมีใหญ่ คือเป็นกระบวยเหมือนกัน แต่หันกันไปคนละด้านและคว่ำลง ขณะที่ กลุ่มดาวหมีใหญ่เป็นกระบวยหงาย แก้ไขเมื่อ 05 ก.ค. 52 20:32:21 จากคุณ : nOnG_WinZ - [ 5 ก.ค. 52 20:30:34 ]

ความคิดเห็นที่ 5 กล้องพวกนี้ถ่ายภาพไกลๆ ได้ยังไงอ่ะครับ แล้ว... มันใช้พลังงานเยอะขนาดไหนน้อ จากคุณ : กระต๊อบน้อย - [ 5 ก.ค. 52 20:30:41 ]

ความคิดเห็นที่ 6 กล้องพวกนี้ถ่ายภาพไกลๆได้ด้วยการเปิดหน้ากล้องไว้นานๆครับ เหมือนเราฝนดินสอลงกระดาษ ถ้าฝนซ้ำๆไปเรื่อยๆนานๆ ตรงที่เราฝนมันก็จะเข้มขึ้นเรื่อยๆใช่ไหมล่ะครับ จากคุณ : nOnG_WinZ - [ 5 ก.ค. 52 20:34:41 ]

ความคิดเห็นที่ 7 สวยมาก ๆ จะรอติดตามเรื่อย ๆ นะ จากคุณ : MoMelyz - [ 5 ก.ค. 52 20:55:24 ]

ความคิดเห็นที่ 8 โหม่งพสุธา ::: Crash Landing [5 July] ในปี 2004 มีวัตถุลึกลับปรากฏขึ้นบนจอเรดาร์เหนือน่านฟ้าสหรัฐ จากข้อมูลบ่งบอกว่าวัตถุนี้ตกจากห้วงอวกาศลงสู่ทะเลทรายยูทาห์ มันไม่ใช่ UFO หรือภาหนะของเอเลี่ยน แต่เป็นวัตถุที่ถูกสร้างขึ้นด้วยฝีมือมนุษย์เรานี่เอง สิ่งนี้คือ แคปซูลที่เก็บเซลล์ของลมสุริยะเอาไว้จนเต็ม เป็นแคบซูลเก็บข้อมูลของโครงการ genesis ครับ ดาวเทียม Genesis ถูกยิงขึ้นสู่ท้องฟ้าในปี 2001 เพื่อศึกษาผลกระทบของพายุสุริยะต่อวัสดุที่ไม่ได้รับการปกป้องจากมัน แคปซูลนี้มีหน้าที่เก็บเอาข้อมูลที่ได้เพื่อส่งกลับมายังโลก ตามแผนเดิม แคปซูลจะถูกชะลอความเร็วด้วยร่มชูชีพ และถูกเก็บด้วยเฮลิคอปเตอร์ขณะมันลอยอยู่กลางอากาศเพื่อไม่ให้ข้อมูลที่ได้สูญหาย แต่บังเอิญว่าขณะกลับสู่โลก ร่มชูชีพของแคปซูลไม่ทำงาน ทำให้มันตกลงสู่พื้นด้วยความเร็วกว่า 300 กิโลเมตรต่อชั่วโมง มันจึงโหม่งโลกพังเละอย่างที่เห็น จากคุณ : nOnG_WinZ - [ 5 ก.ค. 52 22:17:43 ]

ความคิดเห็นที่ 9 น่าจะสรุปเป็นสัปดาห์ๆ จากคุณ : Cryptomnesia - [ 5 ก.ค. 52 23:28:59 ]

ความคิดเห็นที่ 10 อวกาศ ดาราศาสตร์ ช่างงดงาม... จากคุณ : borderer (borderer) - [ 5 ก.ค. 52 23:32:26 ]

ความคิดเห็นที่ 11 เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย รูปแบบของกาแลกซี กาแลกซีมีกี่รูปแบบกัน?? จาก APOD เรื่อง สามยักษ์ใหญ่ในแดนมังกร (Three Galaxies in Draco) เราเห็นกาแลกซีมีรูปร่าง 2 แบบ สามกาแลกซีอยู่ในภาพเดียวกันใช่ไหมครับ แล้วกาแลกซีมันมีกี่ลักษณะกันล่ะ??? 1.กาแลกซีที่มีรูปร่างหรือสัณฑาน      1.1 กาแลกซีทรงรี หรือรูปไข่ (elliptic galaxies)            กาแลกซีจำพวกนี้จะประกอบด้วยสมาชิกที่เป็นดาวยักษ์แดงเป็นจำนวนมากเนื่องจากอัตราการเกิดใหม่ของดาวค่อนข้างน้อย กาแลกซีทรงรีนี้สันนิฐฐานว่าเกิดจากการรวมตัวกันของดาราจักรหลายดาราจักรที่เคลื่อนที่เข้าชนกัน มักพบมากในใจกลางของกระจุกกาแลกซี      1.2 กาแลกซีแบบกังหัน หรือกาแลกซีก้นหอย (Spiral Galaxies)            กาแลกซีจำพวกนี้จะมีสีสันและเห็นรายละเอียดปลีกย่อยมากกว่ากาแลกซีจำพวกแรก ประกอบด้วยบริเวณศูนยฺกลาง ซึ่งเป็นแหล่งกระจุกตัวของดาวฤกษ์เก่าแก่ และแขนโค้งม้วนโคจรรอบหลุมดำมวลยิ่งยวด (Supermassive Blackhole) ที่ศูนย์กลาง กาแลกซีแบบนี้ ถ้าแขนที่กระจายออกมาจากศูนย์กลางเห็นเป็นแท่งชัดเจนไม่โค้งมน เราจะเรียกว่ากาแลกซีแบบกังหันบาร์       1.3 กาแลกซีประหลาด       กาแลกซีจำพวกนี้เป็นกาแลกซีที่แตกต่างจาก 2 แบบด้านบน เนื่องจากถูกอัตรกริยาจากการรวมตัวหรือเฉี่ยวชนของกาแลกซีอื่น จากภาพ  :  วิวัฒนาการกาแลกซีตามทฤษฎีวิวัฒนาการกาแลกซีของฮับเบิล ซึ่งปัจจุบันเราทราบแล้วว่ามันผิด ซ้ายมือเป็นลักษณะและสัญลักษณ์แทนกาแลกซีทรงรี ขวาบนเป็นกาแลกซีกังหันธรรมดา ขวาล่าง เป็นกาแลกซีกังหันแบบมีแขนหรือบาร์ แก้ไขเมื่อ 06 ก.ค. 52 07:07:33 แก้ไขเมื่อ 06 ก.ค. 52 07:07:15 แก้ไขเมื่อ 06 ก.ค. 52 07:03:10 จากคุณ : nOnG_WinZ - [ 6 ก.ค. 52 06:58:20 ]

ความคิดเห็นที่ 12 กาแลกซีวงแหวน กาแลกซีรูปแบบหนึ่งที่พบเห็นไม่บ่อยนัก จากคุณ : nOnG_WinZ - [ 6 ก.ค. 52 07:10:01 ]

ความคิดเห็นที่ 13 รูปแบบของกาแลกซี ต่อ 2.กาแลกซีไร้รูปร่าง หรือ กาแลกซีแคระ   กาแลกซีรูปแบบนี้เป็นกาแลกซีที่มีอยู่จำนวนมากกว่ากาแลกซีมี่รูปร่างเสียอีก เพียงแต่ขนาดของมันเล็กเกินกว่าจะสังเกตุได้เด่นชัดอย่างกาแลกซีมีรูปร่าง ขณะที่กาแลกซีมีสัณฐานยึดหลุมดำมวลยิ่งยวดเป็นศูนย์กลาง กาแลกซีไร้รูปร่างกลับรวมกลุ่มกันเปงโดยไม่ยึดสิ่งใด กาแลกซีแคระมักจะโคจรรอบกาแลกซีมีรูปร่างเสมือนอนึ่งเป็นกาแลกซีบริวารของกาแลกซีมีรูปร่างเหล่านั้น จากภาพ : ดาราจักรเมฆแมกเจลแลนใหญ่ ดาราจักไร้รูปร่างที่เป็นดาราจักรบริวารของทางช้างเผือก สามารมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าหากท้องฟ้าทัศนวิสัยดี จากคุณ : nOnG_WinZ - [ 6 ก.ค. 52 07:28:51 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ง่วงมากแล้ววันนี้ไม่ไหว ผมว่าผมไปพักก่อน -....- กลับบ้านนอนดีกว่าครับ โหม DotA หนักไปหน่อยเมื่อคืน เอิ๊กๆ ถ้ามีเวลาจะมาลากต่อกลุ่มดาวในท้องฟ้าเหนือใบหน้าสี่ประธานาธิบดีผู้เกรียงไกรครับ จากคุณ : nOnG_WinZ - [ 6 ก.ค. 52 07:31:23 ]

ความคิดเห็นที่ 15 แปะลิงก์ http://www.astroschool.in.th/ จากคุณ : แอลอีดีสีเขียว - [ 6 ก.ค. 52 09:41:24 ]

ความคิดเห็นที่ 16 จะติดตามชมตอนต่อไปนะครับ จากคุณ : ดอกนางแย้ม - [ 6 ก.ค. 52 11:00:44 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ชอบจังเลยค่ะ ขอบคุณสำหรับรูปสวยๆและข้อมูลนะคะ เป็นสัปดาห์ก็ดีนะคะ จะได้ดูเยอะๆ ทีเดียวเลย จากคุณ : Septem sigN - [ 6 ก.ค. 52 14:05:32 ]

ความคิดเห็นที่ 18 เป็นสัิปดาห์ได้ครับ ขอบคุณสำหรับข้อมูลกับภาพสวยๆ ครับ จากคุณ : เล็ก มหึมา (^oio^) - [ 6 ก.ค. 52 14:32:26 ]

ความคิดเห็นที่ 19 เอามาเผยแพร่ก็ดีครับ แต่อย่าลืมลงเครดิต!!!! จากคุณ : The Absurdist - [ 6 ก.ค. 52 20:40:14 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ^ ^ ^ ผมเป็นคนแปลเองครับ ทั้งเวบนี้ และเวบนู้น Credit : ตัวเอง !! จากคุณ : nOnG_WinZ (nOnG_WinZ) - [ 6 ก.ค. 52 22:33:05 ]