ความคิดเห็นที่ 1 เนื่องจาก 44444 mod 9 = 2 ดังนั้น 444444444 mod 9 = 24444 mod 9 21 mod 9 = 2 22 mod 9 = 4 23 mod 9 = 8 24 mod 9 = 7 25 mod 9 = 5 26 mod 9 = 1 27 mod 9 = 2 ...... ซึ่ง 4444 mod 6 = 4 ดังนั้น เศษของ 444444444 หารด้วย 9 = 7 จากคุณ : ปลัดหน่อง - [ วันอาสาฬหบูชา 13:10:22 ]

ความคิดเห็นที่ 2 1. ผมคิดไม่ออกอะครับ 2. n^2+11n-210 = (n^2+10n+25)+n-235                        = (n+5)^2+n-235              ได้ n-235=0                         n=235 มั้ง             3. คิดไม่ออก แก้ไขเมื่อ 07 ก.ค. 52 14:20:59 จากคุณ : กอริล่าแห่งกรุงโรม - [ วันอาสาฬหบูชา 13:12:16 ]

ความคิดเห็นที่ 3 #1 mod คืออะไรหรอครับ ผมยังไม่เคยเรียนอ่า จากคุณ : กอริล่าแห่งกรุงโรม - [ วันอาสาฬหบูชา 13:14:40 ]

ความคิดเห็นที่ 4 mod คือการหารเอาเศษน่ะ 5 mod 3 ได้ 2 10 mod 4 ได้ 2 ประมาณนี้ จากคุณ : MoMelyz - [ วันอาสาฬหบูชา 13:33:27 ]

ความคิดเห็นที่ 5 mod คือ การหารที่เอาเศษเหลือ เช่น 5 mod 2 =1      10 mod 2 = 0      10 mod 3 = 1 จากคุณ : TreeAmath - [ วันอาสาฬหบูชา 13:36:29 ]

ความคิดเห็นที่ 6 เนื่องจาก 1!+3!+5!+7!+9!+ ... +97! มีค่าเท่ากับ xxxxxxx47 (ลงท้ายด้วย 47) และ 0!+1!+2!+3!+ ... +99! มีค่าเท่ากับ yyyyyyy14 (ลงท้ายด้วย 14) และ 1!+2!+3!+4!+ ... +100! มีค่าเท่ากับ zzzzzzzz3 (ลงท้ายด้วย 3) ดูเฉพาะ (0!+1!+2!+3!+ ... +99!)1!+3!+5!+7!+9!+ ... +97! จะเท่ากับ (yyyyyyyyyy14)xxxxxxxx47   = (yyyyyyyyy14)xxxxxxxx00(yyyyyyyyy1447)   = (yyyyyyyyy1410)xxxxxxxx0(yyyyyyyyy1447) เนื่องจาก yyyyyy1410 จะมีเลขลงท้ายเป็น 76 และเลข 76 ยกกำลังอะไรก็ตามที่เป็นเลขคู่ ก็จะได้เลขลงท้ายเป็น 76 เช่นเดิม ดังนั้นจะสรุปได้ว่า    = (yyyyyyy76)(yyyyyyyyy1447)    = (yyyyyyy76)(yyyyyyyyy1446)(14)    = (yyyyyyy76)(yyyyyyyyy9623)(14)    = (yyyyyyy76)(yyyyyyyyy9622)(96)(14)    = (yyyyyyy76)(yyyyyyyyy1611)(96)(14)    = (yyyyyyy76)(yyyyyyyyy1610)(16)(96)(14)    = (yyyyyyy76)(yyyyyyyyy565)(16)(96)(14)    = (yyyyyyy76)(yyyyyyyyy564)(56)(16)(96)(14)    = (yyyyyyy76)(yyyyyyyyy362)(56)(16)(96)(14)    = (yyyyyyy76)(yyyyyyyyy96)(56)(16)(96)(14)    = yyyyyyyyy04 (ลงท้ายด้วย 04) ดังนั้น (zzzzzzzzz3)yyyyyyyy04 และเนื่องจากเลขอะไรก็ตามที่ลงท้่ายด้วย 3 และยกกำลังลงท้ายด้วย 04 จะได้ผลลัพธ์ลงท้ายด้วยเลข 1 ดังนั้น หากนำค่าดังกล่าวมาหารด้วย 10 จะได้เศษ 1 จากคุณ : ปลัดหน่อง - [ วันอาสาฬหบูชา 14:21:15 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ข้อ3 คือหาหลักหน่วยครับ ตั้งแต่ 5! ขึ้นไปไม่ต้องดูครับเพราะหลักหน่วยเป็น 0 เนื่องจากมี2 กับ5 เป็นส่วนประกอบ 1! + 2!+3!+4! หลักหน่วยคือ 1+2+6+24 = 3 3^1 =3 3^2 = 9 3^3 = 27 3^4 = 81 3^5 = 243 ดังนั้นต้องหา (0!+1!+...)^(1!+3!+5!+...) ด้วยแนวคิดเดิม แต่เราต้อง mod 4 ดังนั้นหลังจาก 9! เราจะไม่สนใจเพราะเราสนใจแค่ 2 หลักสุดท้าย(ของ (0!+1+...)) 1+1+2+6+24+20+20+40+20+80 = 14 เพราะ (14)^x = (12+2)^x (x=(1!+3!+...) (12+2)^x mod 4 = 2^x และ ดังนั้น ถ้า (1!+3!+5!+...) > 2 แล้ว (0!+1!+...)^(1!+3!+5!+...) จะ mod 4 =0 ซึ่ง (1!+3!+5!+...) > 2 ดังนั้น (0!+1!+...)^(1!+3!+5!+...) จะ mod 4 =0 ข้อ 3 ตอบ 1 ครับ จากคุณ : Starfight - [ วันอาสาฬหบูชา 14:40:47 ]

ความคิดเห็นที่ 8 กรรม มีคนแย่งตอบไปแร้ว จากคุณ : Starfight - [ วันอาสาฬหบูชา 14:42:32 ]