ความคิดเห็นที่ 1 เม็กซิโก ต้นกำเนิดโรค คนตายเยอะแยะ ก็ควบคุม ตามสภาวะที่จำเป็นไปเท่านั้นเอง ตอนที่ปิดประเทศ ช่วงแรกๆ เพราะเขายังไม่รู้ว่ามันคืออะไร มาจากไหน ไปไหน ระบาดยังไง แต่พอเขารู้ พอควบคุมได้ เขาก็เปิดประเทศตามปรกติ อเมริกา ตอนแรกพอมีคนตายก็ตื่น แต่ตอนนี้ ก็ควบคุมตามสภาวะที่จำเป็น ก็ไอ้สื่อมวลชนติงต๊องบ้านเรา มันเสนอข่าวแนวสร้างสรรค์ เป็นกันซะที่ไหนละครับ ช่องทางมีที่จะแนะนำได้ ว่าจะทำยังไงถึงจะคุมโรคได้ เป็นขึ้นมาต้องทำอย่างไร แทนที่จะเน้นให้ชัดๆตรงนี้ ก็ไปลงข่าวพุ่มพวง แพนด้า ม็อบสารพัดสี ซะงั้น จากคุณ : bbiggy - [ วันอาสาฬหบูชา 13:09:57 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ถ้าค้นเน็ตเรื่องไข้หวัด2009ตอนนี้ จะมีทั้งข้อมูลวิชาการ และข้อมูลวิชากรู หลั่งไหลออกมาจนสับสนไปหมดแล้ว ถ้าไม่อาจเชื่อใจกระทรวงได้แล้ว เพราะคิดว่ากระทรวงปกปิดข้อมูล(เพื่อให้โรคแพร่กระจายในละแวกบ้านของคนในกระทรวงเช่นกัน  ... ค่อนแคะราวกับว่า คนในกระทรวงใช้อากาศประเทศอื่นหายใจ) ก็ทำตามไกด์ไลน์ที่ถูกอนามัยที่แต่ละคนตั้งขึ้นเองได้ครับ ที่ให้โหวตน่ะถูกทุกข้อ  ไม่มีใครมาบอกให้คุณเชื่อได้ตราบที่คุณไม่เชื่อจ้ะ จากคุณ : natefang - [ วันอาสาฬหบูชา 13:13:18 ]

ความคิดเห็นที่ 3 แตกตื่นหรือไม่ จริงๆไม่สำคัญนัก ที่สำคัญคือ การป้องกันโรค ถ้าหากแตกตื่นและปฏิบัติตัวดี ก็ยังพอช่วยได้ แต่ถ้าแตกตื่น แต่คนที่ไอก็ยังไม่ยอมปิดปาก ... บ่นกลัวแต่ว่ายังไปดูหนังดูคอนเสิร์ต ... กลัวติดโรคแต่ไม่สนใจล้างมือ ... แตกตื่นคือสิ่งที่เป็นปกติครับ หากแต่ว่าสิ่งที่ไม่เหมาะคือเมื่อการแตกตื่นโดยไม่สนใจในการป้องกันหรือการประกาศของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พฤติกรรมของหลายคนตอนนี้เหมือนเจอสึนามิ แล้วกำลังมีคนประกาศว่าให้หนีขึ้นที่สูง บางคนวิ่งหนีขึึ้นที่สูง บางคนตกใจไม่รู้จะทำอะไร แต่บางคนยังฟังiPOD ... ขว้างหินใส่คนประกาศเตือน ... แล้ววิ่งลงทะเล จากคุณ : หมอแมว - [ วันอาสาฬหบูชา 13:14:00 ]

ความคิดเห็นที่ 4 แล้วที่แย่ ก็อย่างเมื่อเช้า ..... ผมเห็นแล้วสิ้นหวังกับสื่อเมืองไทยจริงๆ โรคนี้ออกมาเป็นเดือนแล้ว กระทรวง ... ถึงจะให้ข้อมูลได้ไม่ครบถ้วนนัก แต่ข้อมูลที่สำคัญๆก็ให้มามาก ทีวีหลายช่องเชิญหมอมาออกรายการ หรือไม่ก็โทรสัมภาษณ์ก็หลายครั้ง เมื่อเช้านี้ฟังข่าว ... มีอาจารย์ธีรวัฒน์ เหมจุฑา มาพูดเรื่องไข้หวัดใหญ่ 2009 อาจารย์พูดเกี่ยวกับเรื่องไข้หวัดนี้  ไม่ได้แตกต่างไปจากหมอที่เคยออกรายการก่อนหน้านี้... และข้อมูลก็เหมือนกับข่าวที่ออกๆกันมาก่อนนี้ เช่น 1. เชื้อนี้ไม่ใช่ว่าติดแล้วจะอาการหนักทุกคน คนที่อาการหนักเป็นแค่ส่วนน้อย คนส่วนใหญ่อาการจะเบา พออาจารย์พูดจบ สรยุทธพูดออกมาได้ว่า "นี่เป็นความรู้ใหม่เลยนะครับ ผมเพิ่งรู้" โอ้ว สรยุทธ ขนาดผมไม่ค่อยมีเวลาฟังข่าว ... แต่ก็เคยได้ยินหมอหรือคนในกระทรวงบอกเรื่องนี้มานับครั้งไม่ถ้วน ยังมีการบอกว่าไม่รู้อีกเหรอว่าส่วนใหญ่มันอาการเบา มีส่วนน้อยที่อาการหนัก เป็นความรู้ใหม่ คนมาให้สัมภาษณ์ตั้งหลายครั้ง ยังจะบอกว่าความรู้ใหม่อีกเหรอ ผมล่ะงงจริงๆ จะทำรายการทำไม ในเมื่อคุณเชิญคนมาสัมภาษณ์ ส่งนักข่าวไปสัมภาษณ์ออกรายการ เสร็จแล้วคุณก็ไม่ฟังความรู้ที่เขาให้มาเพื่อเอาไปสื่อสารต่อกับผู้ชมรายการ กลับเอาแต่นั่งเล่าข่าวที่อ่านจากหนังสือพิมพ์ ... เชื่อข่าวที่เขียนโดยนักข่าวด้วยกันว่ามันเป็นหวัดมรณะเป็นแล้วยุ่ง เป็นแล้วอาการหนัก ... อาจารย์ ธีรวัฒน์ ... ถ้าใครเคยเรียนด้วยจะรู้ว่าอาจารย์เล่าเรื่องทางการแพทย์เป็นภาษาที่เข้าใจได้ง่าย ... พวกนักศึกษาแพทย์ปี3-4ฟังแล้วรู้เรื่อง เมื่อเช้านั่งฟัง ยังมีอีกหลายข้อที่อาจารย์เล่าให้สรยุทธฟัง ภาษาชาวบ้านทั้งนั้น 2. ไม่จำเป็นต้องตรวจทุกราย โดยเฉพาะช่วงนี้ที่มีการระบาดแล้วการตรวจจะสงวนไว้เฉพาะรายที่หนักๆ 3. ตัวเลขคนป่วยและคนตายในช่วงหลังๆ ไม่ได้บอกถึงคนที่ติดจริงเพราะเราจะตรวจเฉพาะรายที่หนัก คนที่ติดจริงมีมากกว่านั้น แต่เราก็ยังสามารถบอกความรุนแรงของโรคได้ 4. ยาจะไม่ได้ให้ทุกคน เพราะโรคส่วนใหญ่ไม่รุนแรงและหายเองได้ ยาจะให้ในรายที่รุนแรง แล้วพออาจารย์เล่าจบ สรยุทธก็ทวนสิ่งที่อาจารย์พูด .... แต่ขอโทษทีครับ ทวนแบบผิดๆถูกๆไปหลายข้อเลย เวลาทวนใส่ความคิดตัวเองเข้าไปอีกหลายส่วนจนอาจารย์ต้องมาแก้เป็นจุดๆไปอีก สิ้นหวังจริงๆ จากคุณ : หมอแมว - [ วันอาสาฬหบูชา 13:22:24 ]

ความคิดเห็นที่ 5 #1 เห็นด้วยเรื่องสื่อ ช่วงแรกเห็นว่าไกลตัวเรียกซะเด็ดไปเลย "ไข้หวัดนรก" ถ้ามันเหมือนหวัดทั่วไปจริงก็ควรเลิกให้ความสนใจไปได้แล้ว แต่ปัญหาคือสถานพยาบาลทั่วประเทศพร้อมให้การรักษาเหมือนหวัดทั่วไปแล้วหรือยัง? #3 ถ้าสถานพยาบาลยังไม่พร้อมทุกที่ ผมคิดว่าน่าจะออกโฆษณาถึงวิธีป้องกันให้บ่อยกว่านี้หน่อย ที่ผ่านมาก็ดีพอสมควร แต่รู้สึกเหมือนสื่อถึงแค่หวัดทั่วๆ ไปครับ เจาะจงไปเลยคนจะได้สนใจ จากคุณ : ของเล่นใหม่ - [ วันอาสาฬหบูชา 13:24:54 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ถ้ามีสื่อในมือ คงทำไปแล้วล่ะครับ ที่จริง เมื่อเช้านี้คือช่วงการสัมภาษณ์ที่ยาวนานที่สุดของสื่อ ที่เกี่ยวกับไข้หวัด2009แบบถามจากผู้เชี่ยวชาญ สาเหตุที่ยาวนาน ส่วนนึงเพราะจุดประสงค์ของการสัมภาษณ์พุ่งเป้าไปที่การจะให้ผู้เชี่ยวชาญระบุว่ารัฐบาลกำลังทำผิดพลาดอย่างร้ายแรง ... สรยุทธถามความเห็นหลายครั้งเลยว่า มาผิดทางหรือเปล่า ทำอย่างนี้ผิดใช่ไหม จริงๆควรทำอย่างไร ... ผมสงสัยเหลือเกินว่าถ้าไม่ใช่หัวข้อนี้การสัมภาษณ์จะถึง 5 นาทีหรือเปล่า ******* ส่วนเรื่องการรักษา การจัดการ ระบบที่วางไว้ ตั้งแต่แรกจนถึงตอนนี้มีแนวทางการตรวจรักษาอยู่ซึ่งก็ไม่ได้เปลี่ยนไปจากเดิมมากนัก แต่เอาเถอะครับ เรื่องจริงมันขายไม่ได้ ... ใครจะสนใจทำข่าวกัน จากคุณ : หมอแมว - [ วันอาสาฬหบูชา 13:37:05 ]

ความคิดเห็นที่ 7 #6 ถ้าไม่วิตกบ้างเลย เราก็จะไม่ค่อยระมัดระวังจริงมั้ยครับคุณหมอแมว ผมเองก็สับสนอยู่ว่าควรวิตกระดับไหนถึงจะไม่อยู่ในขั้นแตกตื่น ไม่สามารถรู้ได้ด้วยสิว่าเราจะอยู่ในคนส่วนน้อยหรือส่วนใหญ่ อยากให้บรรดาคุณหมอแสดงความวิตกบางสำหรับคนส่วนน้อย แต่ให้แสดงหน้าระรื่นได้เมื่อพูดถึงวิธีป้องกัน เพราะมันลดความเสี่ยงลงได้จริงๆ จากคุณ : ของเล่นใหม่ - [ วันอาสาฬหบูชา 13:39:55 ]

ความคิดเห็นที่ 8 เรื่องนี้ไม่สามารถต่อว่า หรือปัดความรับผิดชอบว่าเป็นความผิดของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งได้ ทุกคนมีหน้าที่ค้นหาข้อมูล ความรู้ที่ถูกต้อง การแตกตื่นในข่าวไม่ใช่เรื่องเสียหาย ถ้าคนส่วนใหญ่สามารถปฏิบัติตัวได้ถูกต้องและเหมาะสม ถ้าแตกตื่นแต่ไม่ปฏิบัติตัวให้ดีก็ไม่มีประโยชน์ ส่วนเรื่องสำลักข้อมูล มองในแง่บวก ถือว่าเป็นโอกาสที่จะได้ฝึก "คัดกรองสื่อ วิเคราะห์ข้อมูล" ละกันค่ะ จะได้เอาไปใช้ในการวิเคราะห์ fwd mail ได้ด้วย สักวา ใส่หน้ากาก ลำบากแท้ อึดอัดแย่ ล้างมือบ่อย ก็ไม่ไหว อยากดูหนัง ฟังเพลง รำคาญใจ อยากออกไป คอนเสริต เปิดหูตา แต่กลัวหวัด กลัวไข้ กลัวทุกอย่าง ใครใส่ mask ต้องรีบถด หดถอยหนี กลัวติดหวัด จากเขา เอาละซี ทำไงดี ไม่มีแหล่ง เอนเตอร์เทน รัฐบาล ก็ทำผิด เพราะปิดข่าว ทำไงเล่า ยุบสภา ดีไหมหนอ เป็นความผิด ของการเมือง เรื่องรั้งรอ ตัวเองงอ มือเท้า ไม่ผิดเลย พอเป็นหวัด คัดจมูก น้ำมูกไหล ไอจามใส่ ชาวบ้าน กันเถิดหนา เพราะปิดปาก ปิดจมูก รำคาญตา กลัวคนว่า ตัวแพร่เชื้อ แสนเหลือใจ ทำมาบอก ให้ใส่ mask ผมขอบ่น โธ่พ่อคน แสนกระแดะ ว่างนักหรือ ผมเป็นหวัด ธรรมดา อย่าเล่าลือ อยากใส่หรือ คุณก็ใส่ เองเสียซี... ไปหาหมอ หมอกลับไล่ ให้กลับบ้าน ผมลางาน เรียบร้อย คอยพบหมอ อะไรกัน ไม่ให้ยา ให้ผมรอ ขอยาหมอ หมอไม่ให้ หมอน่ะเลว ผมเป็นหวัด ต้องได้พัก นอนที่นี่ อยู่รักษา ตัวซี จึงถูกต้อง ผมกลัวตาย จ่ายมา ทามิฟลู หรืออะไร ที่เอาอยู่ ไว้ป้องกัน หมดอารมณ์แต่งสักวาไร้สาระต่อเลย อ่านด้านบนแล้วเครียด.. ปล. หมอแมวสนใจเขียนหนังสือไหมคะ เดี๋ยวติดต่อบก. ให้ค่ะ เขียนเรื่องหวัด2009นี่แหละ ถ้าไงใครสนใจ ลงขันทำหนังสือแจกฟรีก็ได้ สิ้นหวังกับสื่อจริงๆ จากคุณ : ลูกเป็ดขี้เกียจ - [ วันอาสาฬหบูชา 13:43:33 ]

ความคิดเห็นที่ 9 จะว่าชาวบ้านก็ไม่ได้ ชีวิตใครใครก็รัก เมื่อได้รับข้อมูลผิดๆ ก็ย่อมกังวลและตื่นกลัวเป็นธรรมดา แปลกตรงที่ "สื่อเมืองไทย" นี่ละค่ะ (ความเห็นส่วนตัวล้วนๆ อาจไม่จริงก็ได้) คนแถวๆนี้ ส่วนใหญ่เชื่อ "คนข้างบ้าน"+"นสพ./ทีวี" มากกว่า "หมอ" นะคะ... แล้วคนที่อื่นเป็นยังไงบ้างเอ่ย? จากคุณ : ลูกเป็ดขี้เกียจ - [ วันอาสาฬหบูชา 14:02:14 ]

ความคิดเห็นที่ 10 งงครับ จากคุณ : Tony - [ วันอาสาฬหบูชา 14:23:19 A:192.168.0.138 X:58.8.49.2 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ต้องเทียบอัตราส่วนคนหาย กับคนตายด้วย ไม่ใช่ดูแค่ยอดคนตายแล้วแตกตื่น เทียบกันยังตายไม่ถึง 1% เลย จากคุณ : RadiS - [ วันอาสาฬหบูชา 14:38:07 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ตามหลักแพร่ระบาด มันกระจายไปมากกว่าเดิม เนื่องจาก วันหยุดยาวหลายวัน  คนเดินทางไปต่างจังหวัดเยอะ การแพร่ระบาดก็มีมากขึ้น   การปัองกันคือวืธีที่ดีที่สุดในขณะนี้  การอยู่บ้านเป็นหนทางป้องกันดีที่สุด โดยเฉพาะ เด็ก ถ้าไปข้างนอก พยายามใส่ที่ปิดปาก  ถุงมือได้ก็ดี   ถ้าปรับอุณหภูมิห้องได้ที่ร้อนขึ้นกว่าเดิม ปรับแอร์ให้เย็นน้อยลง  ก็เป็นการหยุดแพร่ระบาดเชื้อโรค  และป้องกันร่างกาย พยายามดื่มน้ำอุ่นเยอะ เพื่อปรับสภาพร่างกายให้ไม่เป็นหวัด เมื่อความกลัว จู่โจมจากทุกทาง จากคุณ : kamenriderkiva - [ วันอาสาฬหบูชา 14:55:00 ]

ความคิดเห็นที่ 13 วันก่อนไปวัด พระเล่าออกไมค์ว่าหวัดหมูครั้งนี้ ไม่ใช่การระบาดครั้งแรก เคยระบาดมาก่อนแล้ว และครั้งนี้ก็เป็นรอบการระบาดล่าสุดอะค่ะ แล้วในรอบก่อน ๆ ตายเป็นเบือเลย แต่ไม่บอกหรอกนะ ว่าประเทศไหน มีใครก็ไม่รู้ บอกอิฉันว่าที่สเปนไงแก ตายเป็นสิบสิบล้าน อิฉันงงไปหมด แต่พระบอกต่อไปอีกว่าไม่มีเจตนาให้ตื่นตกใจ แต่ไม่ควรมองข้ามความปลอดภัย อย่าไปคิดว่าโรคนี้เป็นแล้วไม่ตาย เพราะเคยมีคนตายแล้วมากมาย อีกอย่าง ตัวเลขที่เราได้มา ว่าตายเท่านั้นเท่านี้น่ะ แน่ใจหรือโยม ว่ามันจริง พระบอก ว่าแต่ว่า จริงเปล่าค้า แล้วที่ตายเป็นเบือ มันหวัดอะไรกันแน่ หวัดนก หวัดไก่ หวัดหมู หรือหวัดใหญ่ธรรมดา ที่ไม่ธรรมดา จากคุณ : บัณเฑาะว์พเนจร - [ วันอาสาฬหบูชา 15:10:12 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ตะกี้ไปห้างใกล้บ้านมา คนขายของส่วนใหญ่ใส่ผ้าปิดปาก แต่คนเที่ยวแทบไม่เห็นมีใครใช้ แถมพาเด็กๆมาวิ่งเล่นกันเพียบ เห็นเด็กไอไปวิ่งไปกันหลายคน แถมมีงานแข่งกีฬาในห้างอีก คนมามหาศาล ที่จอดรถแทบไม่มี คนต่อคิวรอดูหนังยาวเหยียด รอเข้าร้านอาหาร fastfood ชื่อดังเพียบ ถ้่ามีคนมีเชื้อ ก็คงกระจายไปได้หลายหมื่นคนภายในวันเดียว แต่แปลกใจที่ผู้ปกครองยังพาเด็กเล็กๆที่เป็นหวัดไปวิ่งเล่นในห้างกัีนเต็มไปหมด เหมือนไม่ระวังอะไรเลย จริงๆถึงเป็นหวัดธรรมดาก็ไม่น่าจะพาไปที่คนเยอะๆแล้ว เด็กเล็กๆป่วยหนักอาการแทรกซ้อนง่ายจะตายไป เฮ้อ ส่วนผมกลับมาก็ล้างมือล้างหน้า ก็คิดว่าน่าจะปลอดภัยระดับหนึ่ง จากคุณ : ....4จุด - [ วันอาสาฬหบูชา 15:14:02 ]

ความคิดเห็นที่ 15 หลังๆก็ไม่ค่อยปลื้มสรยุทธแล้วเหมือนกัน เมื่อวานก็เอานางงามที่โดนกะเทยแอบอ้างชื่อว่าขายตัวมาสัมภาษณ์เดี่ยว นานเชียว.... อ๋อลืมไป ข่าวแบบนี้มันขายดี ขอโทษค่ะ ลืมคอบ สวนเรื่องไข้หวัด 2009 เราเริ่มมั่นใจในการดูแลตัวเองจากโรคมากขึ้นแล้ว ก่อนหน้านี้ เครียดลึกๆ ว่า ว่าอีกหน่อยเราจะต้องเป็นโรคนี้ ต้อง นอน รพ มั้ย กักบริเวณมั้ย  ตอนนี้ไม่แล้ว และก็ไม่ประมาทด้วย ต้องขอบคุณหมอแมว มากๆที่สละเวลาตั้งกระทู้หลายครั้งเลย หายเบื่อยังอะคะ ^^' แก้ไขเมื่อ 07 ก.ค. 52 15:30:21 จากคุณ : Choco-Mix - [ วันอาสาฬหบูชา 15:26:01 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ตอบคุณ บัณเฑาะว์พเนจร คห.13 นะจ๊ะ ตะก่อนตายเป็นเบือจริง อย่างที่พระท่านว่าถูกต้องแล้วจ๊ะ แต่เป็นที่ยุโรป เรียกว่าไข้หวัดเสปน เวลาฟังเทศน์ฟังธรรม มีสมาธินิ๊สสนะจ๊ะ แต่ก็ดีนะมีโอกาสไปฟังธรรม โมทนาสาธุจ้า.. . จากคุณ : Duk-Dui - [ วันอาสาฬหบูชา 21:53:22 ]

ความคิดเห็นที่ 17 เทียบกันแล้วไม่ถึง 1% ติดซักหมื่นคน ก็ตายไม่กี่สิบ ติดซักแสนคน ก็ตายไม่กี่ร้อย ถ้าติดซักล้านคน ก็แค่คนตายไม่กี่พันคน ไม่ถึง 1% เลย ใครไปตกอยู่ในกลุ่มก็ถือว่าซวยไป ตามยถากรรมละกัน จากคุณ : spalke99 - [ วันเข้าพรรษา 09:20:26 ]

ความคิดเห็นที่ 18 มันไม่สำคัญว่า จะตายกี่คนกี่% เพราะทุกชีวิตมีค่าเท่ากันหมด ไม่ว่าจนหรือรวย แต่ปัญหาอย่างที่บอก มาจากนโยบายของกระทรวงที่ขึ้นชื่อว่าดูแลประชาชน ออกมาให้ความรู้ ให้คนตระหนักและป้องกันตัวเองมากน้อยแค่ไหน  คนที่ชอบบอกว่า ตาย0.4% เท่าๆกับประเทศอื่นหล่ะ ลองตรองดูว่า ทำไมคนเหล่านี้ถึงต้องมาตาย ทำไมไม่มีการให้ข้อมูลกับคนเหล่านี้เลยหรือว่า ถ้าท่านมีโรคแทรกซ้อน แล้วมีไข้เป็นหวัดให้รีบมาพบแพทย์ หรือคนที่เสียชีวิตเพราะมาหาคุณหมอช้า ฟังข่าว TNN people เมื่อวาน ที่ อธิบดีมาให้สัมภาษณ์ กลายเป็นว่า พวกเค้าเหล่านี้ มาถึงมือหมอช้าไป  อย่างที่บอก คนตายพูดไม่ได้ คนอยู่ คนที่มีอำนาจ อยากจะพูดอะไรก็พูดได้สิครับ ...อะไรที่ปัดให้พ้นตัวไป มันง่ายมาก  ก่อนหน้าที่มีการระบาดหนัก นโยบายคือ ไม่มีการปิด โรงเรียน ใครป่วยให้หยุดเรียนไป แล้วตอนนี้ไงถึงจะมากลับลำหล่ะครับ เพราะนโยบายที่ผ่านมาผิดหรือเปล่า อันนี้ต้องพิจารณาตัวเองแล้ว  วันนี้ ลมเปลี่ยนทิศ ได้เขียนเรื่องนี้ไว้ ลองหาอ่านดูน่ะครับ ใครที่บอกว่าโรคนี้ พอๆกับ season flu   อาจาร์ยหมอ ธีรวัฒน์บอกไว้ว่าไม่ใช่ มันระบาดง่ายกว่าไข้หวัดใหญ่ปกติมาก ทำให้ความน่าจะเป็นของโอกาสการเสียชีวิตมีมากว่า เพราะมันติดง่ายนี่หล่ะ จากคุณ : Pita - [ 9 ก.ค. 52 08:42:01 ]