ความคิดเห็นที่ 1   คอมพิวเตอร์ทั้งหลายในปัจจุบัน มีฐานรากอยู่บนทฤษฏีที่ อลัน แมทธิสัน ทัวริง(Alan Mathison Turing) บิดาแห่งวิทยาการคอมพิวเตอร์สมัยใหม่ วางเอาไปตั้งแต่ปี 1936 บนเครื่องจักรสมมติชุดหนึ่งที่เรียกว่า ทัวริง แมชชีน(Turing machine) นิตยสาร Time เคยให้คำยกย่องไว้ว่า "The fact remains that everyone who taps at a keyboard, opening a spreadsheet or a word-processing program, is working on an incarnation of a Turing machine." เรามาดูกันดีกว่า ว่า เครื่องจักรชุดนี้มันหน้าตาเป็นยังไง และมันทำงานยังไง ทัวริง บอกว่า ทัวริงแมชชีนนั้นประกอบไปด้วย เทปยาวชุดหนึ่งซึ่งบนเทปมีตัวอักษรเขียนไว้ , หัวอ่านเกาะอยู่บนเทปอ่านอักษรได้ทีละตัว , ชุดคำสั่ง และตัวเก็บสถานะภายใน เครื่องจักรกลนี้ทำงานได้แค่  4 อย่างคือ 2. อ่านอักษร 1 ตัวจากเทปพร้อมเปลี่ยนสถานะภายใน 2. เขียนอักษร 1 ตัวลงบนเทปพร้อมเปลี่ยนสถานะภายใน 3. เลื่อนหัวอ่านไปทางซ้าย 1 ตัวอักษรพร้อมเปลี่ยนสถานะภายใน 4. เลื่อนหัวอ่านไปทางขวา 1 ตัวอักษรพร้อมเปลี่ยนสถานะภายใน จากคุณ : house (panote_saechiew) เขียนเมื่อ : 10 ก.ค. 52 11:11:24

ความคิดเห็นที่ 2   หน้าตาในจินตนาการก็เป็นแบบนี้ จากคุณ : house (panote_saechiew) เขียนเมื่อ : 10 ก.ค. 52 11:12:08

ความคิดเห็นที่ 3   เอาใหม่ๆ ดูยาก จากคุณ : house (panote_saechiew) เขียนเมื่อ : 10 ก.ค. 52 11:19:21

ความคิดเห็นที่ 4   เครื่องจักรง่ายๆแค่นี้แหละ ที่เป็นรากฐานของวิทยาการคอมพิวเตอร์ทั้งหมด ทัวริงได้เสนอตัวอย่างของการใช้ทัวริงแมชชีนคำนวณไว้หลายอย่าง ผมจะยกตัวอย่างง่ายๆซักตัวอย่างหนึ่ง(คือยากกว่านี้ ผมก็ยกไม่ไหวครับ T_T) จากคุณ : house (panote_saechiew) เขียนเมื่อ : 10 ก.ค. 52 11:19:59

ความคิดเห็นที่ 5   จากตารางข้างล่างนี้ touring machine จะทำการพิมพ์ 0 1 0 1 0 1 ลงบนเทปครับ ลองค่อยๆไล่ไปดูทีละขั้น ผมใช้ * แทนตำแหน่งของหัวอ่านและ - แทน space ใน step ที่ 1 จากสถานะตั้งต้น q1 และบนเทปไม่มีอักษร หัวอ่านพิมพ์ 0(P0) และเลื่อนไปทางขวา (R) พร้อมๆกับเปลี่ยนสถานะภายในเป็น q2 ใน step อื่นๆก็ทำในทำนองเดียวกันครับ จากคุณ : house (panote_saechiew) เขียนเมื่อ : 10 ก.ค. 52 11:20:28

ความคิดเห็นที่ 6   จุดที่น่าสนใจมากๆของ Touring Machine คือ มันสามารถจำลองการทำงานของคอมพิวเตอร์แบบใดก็ได้ในโลก และสืบเนื่องมาจากข้อคาดการณ์ร่วมของ ลอเรนโซ่ เชิร์ซ และ ทัวริง (Church–Turing thesis)ที่กล่าวว่า "if an algorithm (a procedure that terminates) exists then there is an equivalent Turing machine or applicable lambda-function for that algorithm." "ถ้ามีอัลกอริทึมใดๆ(หรือวิธีแก้ปัญหาใดๆ) ดำรงอยู่แล้ว มันจะมี  Turing machine หรือ lambda-function สำหรับ อัลกอริทึม นั้นดำรงอยู่เสมอ" นั่นคือขอบเขตความสามารถของคอมพิวเตอร์ใดๆในปัจจุบัน ไม่สามารถไปไกลกว่า โมเดลเรียบง่ายที่เสนอไว้เกือบร้อยปีที่แล้วของทัวริงได้ ศัพท์หนึ่งที่คนในวงการคงคุ้นเคยกันบ้างคือ Touring Complete ที่ใช้สำหรับวัดระดับเครื่องกลใดๆ ว่าทำอะไรได้บ้าง(ถ้าสิ่งใดได้รับการจัดระดับเป็น Touring Complete แปลว่ามันทำงานแก้ปัญหาได้เทียบเท่าเครื่องคอมพิวเตอร์นั่นเอง) สำหรับคอมพิวเตอร์ที่เราใช้งานกันในปัจจุบัน สืบทอดมาจากแนวคิดของ ศ. จอร์น ฟอน นอยมันด์ (John von Neumann) เป็นเพียงรูปแบบหนึ่งของคอมพิวเตอร์ที่ทำงานด้วยไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิคเท่านั้น เราอาจกล่าวได้ว่า อะไรก็ตามที่ทำงานได้เช่นเดียวกับ  Touring Machine(ซึ่งทำงานได้แค่ 4 อย่าง) ก็มีศักยภาพที่จะเป็นคอมพิวเตอร์ได้  ดังจะเห็นได้จากความพยายามที่จะสร้างคอมพิวเตอร์ในรูปแบบอื่นๆ เช่น คอมพิวเตอร์โมเลกุล หรือ ควอนตัมคอมพิวเตอร์นั่นเอง กลับไปที่คำถามตั้งต้น คุณสามารถเอาไม้ลงไปกวนๆใน primodial soup เติมฟ้าผ่าซักนิด เกลืออีกหน่อย เอาภูเขามากวนๆ แล้วได้คอม ออกมาซักเครื่องหรือไม่? ไม่รู้ซีครับ คุณๆนักชีววิทยา ว่าไงกันบ้างล่ะ? แต่ผมอ่าน devo-evo ทีไร ผมก็บอกตัวเองว่า นี่มัน Touring Machine ชัดๆนี่หว่า(แบบ 4 อักษร ATCG) แก้ไขเมื่อ 10 ก.ค. 52 11:26:20 จากคุณ : house (panote_saechiew) เขียนเมื่อ : 10 ก.ค. 52 11:22:00

ความคิดเห็นที่ 7   ก็จบสั้นๆแค่นี้ครับ ยังไงถ้าท่านไหนจะเพิ่มเติม ก็เชิญตามสะดวก เรามาสหวิทยาการกันดีกว่า เช่นกระบวนการลอกแบบ/จำลองโปรตีน เหมือนหรือต่างอย่างไร กับ ทัวริงแมชชีัน หรือ DNA/RNA ประพฤติตัวเป็นเช่นเดียวกับ ทัวริงแมชชีนหรือไม่ ผมว่า ดีกว่าไปเถียงประเด็นเดิืมๆ ที่ไม่รู้จบนะ จากคุณ : house (panote_saechiew) เขียนเมื่อ : 10 ก.ค. 52 11:29:09

ความคิดเห็นที่ 8   อืม น่าสนใจดีนะครับ   เอาไปหนึ่งกิ๊ฟ จากคุณ : PureTruth เขียนเมื่อ : 10 ก.ค. 52 11:37:19

ความคิดเห็นที่ 9   แต่เอาเข้าจริง ATGC มันก็เกาะกันเป็นคู่ ก็เหมือนกับ 0 กะ 1 อยู่ดี จากคุณ : NaCl เขียนเมื่อ : 10 ก.ค. 52 12:50:13

ความคิดเห็นที่ 10   ^- ก็พอแล้วนี่ครับ ได้ 1 bit แล้ว ขอแค่ toggle สถานะได้ จะมีกี่อักษรก็ encode ได้ทั้งนั้น ทัวริง แมชชีน บางฉบับ ต้องการแค่ stream input ชุดเดียว โดยตัวเทปมีทั้ง program, input, output ได้เลยด้วยซ้ำ จากคุณ : house (panote_saechiew) เขียนเมื่อ : 10 ก.ค. 52 13:12:04

ความคิดเห็นที่ 11   DNA replication, RNA transcription และ Protein translation มันก็คล้ายๆ อยู่ (ผมยังอ่านไม่เข้าใจทั้งหมด) แต่ไม่รู้ว่า Turing machine ทำงานแบบสมบูรณ์แบบหรือเปล่า คือมี table คำสั่งยังไง เครื่องก็ทำงานอย่างนั้น 100% ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง Turing machine ก็ยังขาดคุณสมบัติสำคัญที่กระบวนการ copy ของ DNA/RNA มี นั่นคือ "ความผิดพลาด" เป็นความไม่สมบูรณ์แบบ ที่ทำให้สิ่งมีชีวิตรอบตัวเราดูสมบูรณ์แบบครับ นั่นคือ ความผิดพลาดในการคัดลอกข้อมูลทางพันธุกรรม ทำให้เกิด Variation และ Variation นี้เป็นทรัพยาการให้เกิด Natural selection กลายเป็นวิวัฒนาการในที่สุด ปล. ชื่อ Turing นี่คุ้นๆ  ไปค้นมาปรากฎว่าเป็นคนไขรหัสเครื่อง Enigma นี่เอง จากคุณ : Geneticist เขียนเมื่อ : 10 ก.ค. 52 13:43:53

ความคิดเห็นที่ 12   ขืนโมเดลคณิตศาสตร์ copy ผิดพลาดนี่คงแย่ครับ Turing machine นั้นก็ไปดื้อๆ ตามตารางนั่นแหละ จุดน่าสนใจของโมเดลนี้คือมันเรียบง่ายมาก มี operation แค่ 4 แบบ แต่ทรงพลังทำได้ทุกอย่างที่คอมพิวเตอร์ทำได้ เราอาจมองการ copy ผิดพลาดเป็น variant ของโปรแกรมได้ ซึ่งทำให้โปรแกรมทำงานผิดเพี้ยนไปจากตอนแรก แต่ก็ไม่ได้ลดทอนพลังของมันลงเลย อย่างไรก็ตาม เราสามารถมอง Turing machine ถอยออกไปอีกหน่อย นั่นคือ Turing machine แบบพิเศษ(จริงๆควรจะเรียกว่ารูปทั่วไป) ที่เรียกว่า non-deterministic Turing machine(NDTM) NDTM เมื่อได้รับ input 1 ชุด มันจะเปลี่ยนสถานะภายในได้มากกว่า 1 สถานะ (อาจจะด้วยความน่าจะเป็น เช่น 70% เีขียน A 30% เขียน B)โดยมีบางสถานะทำงานต่อไม่ได้ แต่บางสถานะก็ทำงานต่อไปได้จนจบ ผมเข้าใจว่านี่น่าจะคล้ายคลึงกับกระบวนการลอกแบบ ของ DNA ที่บางตัวก็ผิด บางตัวก็ถูก บางตัวสูญหายไป และบางตัวสืบทอดต่อๆกันมา NDTM นั้นสมมูลกับ Turing Machine ปกติ นั่นคือ ไม่ได้เก่งกล้ากว่ามากมาย สิ่งที่ Turing Machine ทำไม่ได้ มันก็ยังคงทำไม่ได้(แต่บางกรณี โมเดลแบบนี้มันเข้าใจง่ายกว่า) แก้ไขเมื่อ 10 ก.ค. 52 14:42:34 จากคุณ : house (panote_saechiew) เขียนเมื่อ : 10 ก.ค. 52 14:39:54

ความคิดเห็นที่ 13   งึมๆๆๆๆ กำลังอ่านแล้วก็คิดตามอยู่ครับ จากคุณ : ksk เขียนเมื่อ : 10 ก.ค. 52 15:47:30

ความคิดเห็นที่ 14   ขอร่วมแสดงความเห็นนะครับ แต่ไม่ใช่ข้อเท็จจริงนะ เรื่องความผิดพลาด ในแง่ความเป็นจริง DNA replication, RNA transcription และ Protein translation เกิด Error นำไปสู่ Variation ได้เพราะไม่มีกลไกคอยแก้ไข แต่ คอมพิวเตอร์อิเล็กทรอนิกส์ มีโอกาสเกิดความผิดพลาดในการอ่าน/เปลี่ยน สถานะของ bit ได้เสมอ เพราะใช้ความต่างของระดับแรงดันไฟฟ้าในการกำหนด 0 หรือ 1 แต่มีกลไกคอยตรวจสอบ ป้องกัน และแก้ไข ไม่ให้ผิดพลาดอยู่ตลอดเวลา ถ้าเทียบกับ #12 กลไกสิ่งมีชีวิตของธรรมชาติก็เป็น NDTM ซึ่งควรจะทำความเข้าใจได้ง่าย แต่...ตอนนี้มันยังไม่ง่าย เพราะเราัยังไม่สามารถไขความลับของธรรมชาติได้ทั้งหมดนี่ครับ จากคุณ : TumProfess เขียนเมื่อ : 10 ก.ค. 52 15:58:53

ความคิดเห็นที่ 15   ^- ผมเคยฝันถึงขนาดวันนึงเราจะมี Gene - decompiler ขึ้นมาเป็นภาษาให้เราอ่านกันเลยนะ สงสัยจะฝันกันต่อไป(งานวิจัยพวกนี้นี่มัน reverse engineering ดีๆนี่เอง) จากคุณ : house (panote_saechiew) เขียนเมื่อ : 10 ก.ค. 52 16:12:51

ความคิดเห็นที่ 16   ตามมาจากกระทู้ก่อนอีกที คอมพิวเตอร์ ในธรรมชาติ  ก็สมองมนุษย์นี่แหละ ไม่ต้องเปรียบกับ ทัวร่ง ทัวริ่ง คิดลึก นึกไม่ออกแต่อย่างใด สมองมนุษย์ เป็นคอมพ์ที่ก้าวหน้ายิ่งกว่า คอมพ์โลหะที่เราสร้างในปัจจุบัน มากมาย เห็นได้ชัด ถ้า "เชื่อว่า" มนุษย์ มาจากวิวัฒนาการ สมองมนุษย์ก็กำเนิดโดยธรรมชาติ ดังนั้น เอาไม้ลงไปกวนๆใน primodial soup เติมฟ้าผ่าซักนิด เกลืออีกหน่อย เอาภูเขามากวนๆ แล้วได้คอม ออกมา ได้แน่ๆ จากคุณ : sb*star เขียนเมื่อ : 10 ก.ค. 52 18:36:16

ความคิดเห็นที่ 17   ยังไม่ได้อ่านนะครับ เข้ามาชื่นชมคนแตกกระทู้ ^^อย่างงี้เรียกว่ามีทั้ง  สติ และ ปัญญา ครับ คนมีปัญญาแต่ขาดสติ ปัญญานั้นถือเป็นปัญญาที่ไม่สมบูรณ์  ไปธุระแล้วจะกลับมาอ่านครับผม จากคุณ : ZZsassyZ เขียนเมื่อ : 10 ก.ค. 52 19:04:55

ความคิดเห็นที่ 18   รูปใน #3 คล้ายๆ DNA mapping เลยอ่ะ จากคุณ : Cryptomnesia เขียนเมื่อ : 10 ก.ค. 52 20:19:51

ความคิดเห็นที่ 19   จาก #1 "ทัวริง บอกว่า ทัวริงแมชชีนนั้นประกอบไปด้วย เทปยาวชุดหนึ่งซึ่งบนเทปมีตัวอักษรเขียนไว้ , หัวอ่านเกาะอยู่บนเทปอ่านอักษรได้ทีละตัว , ชุดคำสั่ง และตัวเก็บสถานะภายใน" ชุดคำสั่ง = software  ใช่หรือเปล่าครับ ? จากคุณ : PureTruth เขียนเมื่อ : 11 ก.ค. 52 12:27:01

ความคิดเห็นที่ 20   ผมตั้งข้อสังเกตดังนี้นะครับ เนื่องจาก เรากำลังพยายามใช้คำในทำนองว่า "อย่างง่าย" ในการเล่าถึงพฤติกรรมของเครื่องจักรที่ว่า แต่ผมกำลังคิดว่า เรามองข้ามความจริงไปพอสมควร มันเหมือนกับเรากำลังบอกว่า แค่ scanf printf กับ เครื่องหมายการกระทำทางคณิตศาสตร์ เป็นกลไกการทำงานง่ายๆ แค่นี้ก็สามารถจำลองการทำงานของระบบที่ซับซ้อนกว่าได้แล้ว แต่สิ่งที่เป็นกลไกใน ฟังก์ชั่นเหล่านั้น มันไม่ได้ง่ายปานนั้นครับ เพราะมันจะต้องรองรับด้วย machine code ซึ่งต้องรองรับด้วย micro instruction ซึ่งต้องรองรับด้วย วงจรและเส้นทาง logic ผมจึงยังคงเห็นว่า ในสิ่งที่เรียกว่า "อย่างง่าย" ในหัวข้อนี้ ยังไม่เป็นอย่างง่ายที่แท้จริง ยังมีความซับซ้อนที่ต้องการการออกแบบอยู่ครับ จากคุณ : ksk เขียนเมื่อ : 11 ก.ค. 52 12:27:55

ความคิดเห็นที่ 21   ^ ^ "..ในสิ่งที่เรียกว่า "อย่างง่าย" ในหัวข้อนี้ ..... ยังมีความซับซ้อนที่ ต้องการการออกแบบ อยู่ครับ" เห็นด้วยครับ  โดยเฉพาะอย่างยิ่ง องค์ประกอบของระบบที่เป็น ชุดคำสั่ง นั้น ชัดเจนว่าจำเป็นต้องมีผู้ออกแบบที่ทำหน้าที่กำหนดความหมายของ ชุดคำสั่ง ครับ จากคุณ : PureTruth เขียนเมื่อ : 11 ก.ค. 52 20:10:01

ความคิดเห็นที่ 22   #20 ยอมรับข้อโต้แย้งครับ ว่าต้องมีกลไกซัพพอร์ตข้างหลังจริง ที่บอกว่าง่ายในที่นี้ คือหากกลไกเหล่านั้นทำได้ แค่ 4 อย่างตามที่กล่าว มันก็เพียงพอแล้วที่จะจำลองตัวเองเป็นคอมพิวเตอร์ได้ทุกรูปแบบ คอมพิวเตอร์ไม่จำเป็นต้องประกอบด้วยฮาร์ดแวร์อะไรวุ่นวายมากกว่านั้น(แม้แต่แมชชีนโค้ดใน cpu ก็ย่อยลงไปต่ำสุดได้เป็น touring ที่ทำงานบน digital stream) ตัวโค้ดของมันเอง encode ในตัว Stream เลยก็ยังได้ ตัวภาษาเอง เผลอๆก็จะไม่จำเป็น ขอแค่การ translation code คงที่ มันก็ฟอร์มตัวเองเป็นแมชชีนแบบหนึ่งได้แล้ว ผมนำเสนอโมเดลชุดนี้ขึ้นมาให้พิจารณาเพราะนี้คือ primitive สุดๆ ในเชิงทฤษฏีแล้วครับ อีกตัวที่ primitive พอๆกันน่าจะเป็น lambda function (ซึ่งจะเหลือกลไกเพียงอย่างเดียวคือการแทนที่) แก้ไขเมื่อ 11 ก.ค. 52 21:41:10 จากคุณ : house (panote_saechiew) เขียนเมื่อ : 11 ก.ค. 52 20:54:39

ความคิดเห็นที่ 23   คล้ายๆกับว่า คุณ house จะเห็นด้วยว่า turing machine ที่ว่านั้น ไม่น่าจะง่ายจนขนาดเกิดขึ้นเองจากการกวนน้ำซุป  ประมาณนั้นไหมครับ จากคุณ : ksk เขียนเมื่อ : 11 ก.ค. 52 22:52:49

ความคิดเห็นที่ 24   มันไม่ได้ง่าย แต่มันเกิดเพราะ มีรูปแบบที่เป็นไปได้ในธรรมชาติ ตอนเกิด อาจดูเหมือนน้ำซุป แต่มันก็ไม่ได้เป็นการกวนน้ำซุป มันเป็นวิวัฒนาการ จากคุณ : sb*star เขียนเมื่อ : 11 ก.ค. 52 23:50:44

ความคิดเห็นที่ 25   ขอตอบในแง่มุมของ computer science นะคะ พูดถึงวิทยาการคอมพิวเตอร์แล้ว ก็คงจะเลี่ยงไม่ได้ที่จะพูดถึงความฝันอันสูงสุดของสายวิชานี้ นั่นก็คือ Artificial Intelligent แนวคิดในการพัฒนา AI นั้นมีหลาย model แต่ว่าทุก model แม้ว่าจะถูกออกแบบโดยมนุษย์ แต่ก็มีลักษณะเหมือนกันอยู่อย่างคือ "เลียนแบบของจริง" ค่ะ (เล่นคำนะ เพราะอาร์ทิฟิเชี่ยลแปลว่า"ของเทียม"น่ะ ^^) ดังนั้นการที่ model ของทัวริงแมชชีนจะไปคล้ายกับกลไกของธรรมชาติ เราว่าก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร (แม้ว่่าตอนออกแบบทัวริงจะไม่ได้ตั้งใจจะเลียนแบบธรรมชาติก็เถอะ) และการที่จะเอาความคล้ายคลึงกลไกธรรมชาติของทัวริงแมชชีนไปสู่ข้อสรุปว่าการกำเนิดสิ่งมีชีวิตจะต้องเหมือนคอมพิวเตอร์ เราว่าไม่ถูกค่ะ อันที่จริงคอมพิวเตอร์เองก็มีวิวัฒนาการนะคะ จะบอกว่าคล้าย tree of life ด้วยนะ เริ่มมาจากลูกคิดไปสู่โทรเลข ส่งต่อไปยังเครื่องอีนิกมา และแนวคิดการสร้างเครื่องคิดเลข นำไปสู่"เครื่องคำนวณ" กำเนิดทัวริงแมชชีน อันกลายเป็น mainframe, pc, laptop, PDA มีการต่อยอด แตกเหล่าแตกกอ เกิดใหม่ แตกดับสูญพันธุ์ คล้ายกับอะไรกันน้า? ปล.เห็นจขกท.ถามว่าคอมพิวเตอร์คืออะไร ดังนั้นมีคำถามบ้างค่ะ ออกแนวปรัชญานิสๆ ถ้าหากพระเจ้าสร้างมนุษย์ จึงเป็นพระเจ้าของมนุษย์ แล้วถ้าหากมนุษย์สามารถสร้าง AI ในอุดมคติ นั่นคือสามารถคิดได้เหมือนมนุษย์ เช่นนั้นแล้วมนุษย์จะเป็นพระเจ้า(ของชีวิตประดิษฐ์)หรือไม่คะ? มีความเห็นยังไงกันบ้างเอ่ย? จากคุณ : Ponyo เขียนเมื่อ : 12 ก.ค. 52 02:47:11

ความคิดเห็นที่ 26   ขอตอบคห.24 ของคุณ sb*star ก่อนนะครับ "มันไม่ได้ง่าย แต่มันเกิดเพราะ มีรูปแบบที่เป็นไปได้ในธรรมชาติ" Ans.  ผมคิดว่าไม่น่าจะใช่นะครับ          1. รูปแบบที่ว่านี้คืออะไรเหรอครับ          2. ที่สำคัญคือ คำตอบในข้อ 1. นั้น ครบถ้วนหรือไม่ที่จะทำให้เกิดคุณสมบัติคอมพิวเตอร์ ช่วยอธิบายเหตุผลโดยอ้างอิงลักษณะของคอมพิวเตอร์ตาม #1 ด้วยนะครับ "ตอนเกิด อาจดูเหมือนน้ำซุป แต่มันก็ไม่ได้เป็นการกวนน้ำซุป มันเป็นวิวัฒนาการ" Ans.  คุณกำลังเอาเรื่องวิวัฒนาการ ไปปนกับการกำเนิดสิ่งมีชีวิต (Origin of Life) นะครับ    จริงๆ แล้วในขั้นตอนการกำเนิดสิ่งมีชีวิต คุณจะอ้างเรื่องวิวัฒนาการไม่ได้ เพราะเรื่องทฤษฎีวิวัฒนาการใช้อ้างหลังจากมีสิ่งมีชีวิตตัวแรกเกิดขึ้นมาแล้วครับ จากคุณ : PureTruth เขียนเมื่อ : 12 ก.ค. 52 08:54:05

ความคิดเห็นที่ 27   อะไรคือความแตกต่างระหว่าง  "Cell ที่มีชีวิต"      กับ       "Cell ที่ตาย" จากคุณ : ksk เขียนเมื่อ : 12 ก.ค. 52 18:10:03

ความคิดเห็นที่ 28   ตอบคุณ Ponyo #25  ครับ "ถ้าหากพระเจ้าสร้างมนุษย์ จึงเป็นพระเจ้าของมนุษย์ แล้วถ้าหากมนุษย์สามารถสร้าง AI ในอุดมคติ นั่นคือสามารถคิดได้เหมือนมนุษย์ เช่นนั้นแล้วมนุษย์จะเป็นพระเจ้า(ของชีวิตประดิษฐ์)หรือไม่คะ? มีความเห็นยังไงกันบ้างเอ่ย" Ans. มีความเห็นว่า  ถ้ามนุษย์จะเรียกตนเองว่าเป็นพระเจ้าของชีวิตประดิษฐ์นั้น ก็คงไม่ผิดอะไรมั้งครับ          อย่างไรก็ตาม ก็ต้องดูแล้วแต่กรณีด้วย เพราะถ้าไปๆ มาๆ แล้วชีวิตประดิษฐ์นั้นมีความสามารถสูงกว่ามนุษย์แล้วล่ะก็ มนุษย์จะเรียกตนเองว่าเป็นพระเจ้าของมัน ก็คงไม่เหมาะสมแน่ๆ    คงเป็นได้เพียง 'ผู้สร้างมันขึ้นมาในเบื้องต้น' เท่านั้น   (จริงๆ แล้ว แค่ความสามารถเทียบเท่ากัน แล้วมนุษย์จะยกตัวเองขึ้นเป็นพระเจ้าของมันก็ดูแปลกๆ แล้วล่ะนะ) งงนิดหน่อยครับ ตรงที่คุณ Ponyo บอกว่า "การที่จะเอาความคล้ายคลึงกลไกธรรมชาติของทัวริงแมชชีนไปสู่ข้อสรุปว่าการกำเนิดสิ่งมีชีวิตจะต้องเหมือนคอมพิวเตอร์ เราว่าไม่ถูกค่ะ"    ตรงนี้เนี่ย ตามหลักเหตุผลตรรกศาสตร์ มันควรจะตอบว่าถูก  ทำไมคุณ Ponyo ถึงคิดว่าไม่ถูกล่ะครับ ?  (อ้อ และที่สำคัญก็คือ  มันควรจะเป็นว่า "การที่จะเอาความคล้ายคลึงทัวริงแมชชีนของกลไกธรรมชาติ......"  นะครับ  คือว่าพูดอย่างนี้จะถูกต้องมากกว่า ซึ่งจะทำให้พิจารณาได้ถูกต้องมากยิ่งขึ้นครับ) จากคุณ : PureTruth เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 52 00:56:26