ความคิดเห็นที่ 1 ผมไม่ค่อยเชื่อหรอก เทคโนโลยีเมคเอาได้ ถ้ามนุษย์ต่างดาวลักหลับอาจจะเชื่อบ้าง จากคุณ : สุดโหดโคตรโรแมนติค เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 52 15:44:46

ความคิดเห็นที่ 2   เชื่อครับผมเคยเห็น จากคุณ : โรนัลโด้ โด๊สซานโต๊ส อเวโร่ เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 52 15:48:27

ความคิดเห็นที่ 3 รอด้วยความระทึกในหทัย จากคุณ : 0vvaynar0 เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 52 15:50:49

ความคิดเห็นที่ 4   ต่อ   เอ็ดเวิร์ด วอลเตอร์ส เป็นนักธุรกิจรับเหมาก่อสร้างใน กัลฟ บรีซ รัฐ ฟลอริด้า เขามีฐานะดีและเป็นที่รู้จักในแวดวงสังคม อาศัยอยู่กับครอบครัวที่แสนอบอุ่นอย่างมีความสุข.... จนกระทั้งเขาได้พานพบกับจานบินทั้งสิ้น 20 ครั้ง ในช่วง 5 เดือนครึ่ง และยังถูกลักพาตัวโดยจานบินหลายครังจนหาความสงบสุขมิได้                      เรื่องของเขาเป็นที่สนใจของนักจานบินวิทยามาก เขาสามารถถ่ายภาพยานลึกลับไว้ได้สี่สิบภาพ ซึ่งผ่านการตรวจสอบโดยผู้เชียวชาญหลายสิบคน เช่น ดร.บรู๊ซ เอส แมคคาบี นักทัศนศาสตร์ แห่งกองทัพราชนาวีสหรัฐ  บัดด์ ฮอบคินส์ บ๊อบ วิศวกรไฟฟ้า เอ็ดเวิรด์ไวบี้ รวมทั้งผู้เชียวชาญของบริษัทโพลาลอยด์อีกหลายคน ใช้เวลาตรวจสอบกว่า 8 เดือน แต่ไม่พบข้อผิดพลาดใดๆที่น่าสงสัยแม้จะมีการจับผิดทุกวิถีทาง นอกจากนี้เอ็ดผ่านการทดสอบด้วยเครื่องจับเท็จถึงสองครั้ง เขายังได้ใช้วีดีโอบันทึกภาพ จานบินไว้ด้วยทำให้หลายคนตะลึงไปกับภาพที่ได้เห็น ซึ่งเป็นเรื่องยากมากหากใครจะทำขึ้นเพื่อหลอกลวง                                                            อีกซักครู่มีต่อ... จากคุณ : nadashiko (nadashiko) เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 52 15:59:05

ความคิดเห็นที่ 5 ขอ link วีดีโอ ที่ว่าด้วยครับ สนใจ ส่วนตัวก็เชื่อเรื่องนี้ครับ ใจกว้างพอๆ กับจักรวาลแหล่ะผมน่ะ เปิดรับฟังทุกเรื่องไป จากคุณ : leetaesok เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 52 16:21:37

ความคิดเห็นที่ 6   ยังไม่เชื่อจนกว่าจะได้สัมผัส จากคุณ : ศิษย์จูกัดเหลียง เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 52 16:25:11

ความคิดเห็นที่ 7 ทำไมคนไทยไม่โดนลักพาตัว ลักพาแต่อเมริกา จากคุณ : b_b (blacklimpbizkit) เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 52 16:33:57

ความคิดเห็นที่ 8   ไม่เชื่อครับจนกว่าจะเจอตัวจริงครับ จากคุณ : ยมฑูต เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 52 16:39:59 A:117.47.93.30 X: TicketID:222168

ความคิดเห็นที่ 9   ต่อ เอ็ดได้พบจานบินครั้งแรกเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 1987 และได้บันทึกเหตุการณ์ไว้ดังนี้ (คำว่าผมในที่นี้หมายถึงเอ็ด)      ประมาณ 5 โมงเย็น ขณะผมมองออกไปนอกหน้าต่างในห้องทำงานผมสังเกตเห็นแสงไฟประหลาดเคลื่อนไปมาอยู่ระหว่างต้นสน ผมลุกขึ้นยืนเพื่อมองให้ชัดยิ่งขึ้นมันยังคงอยู่หลังต้นไม้ แสงไฟที่สาดส่องออกมานั้นสว่างไสวผิดปกติแตกต่างจากเครื่องบินหรือเฮลิคอปเตอร์ที่บินไปมาเป็นประจำ ผมรีบวิ่งออกไปหน้าบ้านและได้พบกับ...คุณพระช่วย! ยานอวกาศสีน้ำเงิน-เทา เรืองแสงลอยโดดเด่นอยู่ที่นั้น ผมไม่เคยเห็นมาก่อนในชีวิต  ผมวิ่งเข้าไปในบ้านฉวยกล้องโพราลอยด์ออกมาถ่ายภาพยานไว้ได้ ยานดังกล่าวมีลักษณะดัง จานบินทั่วไป มันมีขนาดใหญ่เท่าบ้านแต่สูงกว่า 3 เท่า ไม่มีเสียงเครื่องยนต์ รอบๆยานมีช่องเล็กๆคล้ายหน้าต่าง วงแหวนวงเล็กที่อยู่ใต้ยานดูเปี่ยมไปด้วยพลังงาน วงแหวนรอบนอกปล่อยแสงสว่างจ้า ร่างของผมสั่นสะเทิ้มไปหมด...  ปัง!อะไรไม่รู้ปะทะร่างผมอย่างจังทำให้ผมไม่สามารถขยับเขยื้อนได้แสงสีน้ำเงินสาดส่องไปทั่วทุกๆอย่างๆกลายเป็นสีน้ำเงิน ผมพยายามส่งเสียงร้องแต่ไม่มีเสียงเล็ดลอดออกมา ทันใดนั้นก็มีเสียงแวบเข้ามาในสมอง "เราไม่ทำร้ายคุณ" เสียงลุ่มลึกคล้ายเสียงของคอมพิวเตอร์ดังขึ้น "จงสงบ" ผมได้ยินทุกคำผ่านสมอง ผมรองอีก "ปล่อยฉันลง" ครู่ต่อมาร่างผมลอยขึ้น ร่างทั้งร่างลอยขึ้นมันไม่ใช่ความฝันแน่!!!                                                               อีกซักครู่มีต่อ... จากคุณ : nadashiko (nadashiko) เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 52 16:52:44

ความคิดเห็นที่ 10 เย้ ให้มันมาเคาะประตูบ้านก่อนค่อยเชื่อเนอะนักวิทย์ทั้งหลาย ไม่ค้นหา สักแต่ว่าจะรอ... เปิดใจให้กว้างไว้ก่อน อย่าเพิ่งเชื่ออะไร หากยังไม่ลองลงมือพิสูจน์ จากคุณ : <NaturaL M> เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 52 16:53:47

ความคิดเห็นที่ 11   ขออภัยได้ยินมาว่าหลังจากตรวจสอบรูปถ่ายและวีดีโอ ทางรัฐบาลสหรัฐสั่งเก็บเป็นความลับ  แต่หากหลุดออกมาเมื่อไหรผมเอามาลงแน่ครับ จากคุณ : nadashiko (nadashiko) เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 52 16:54:37

ความคิดเห็นที่ 12   ต่อ    มันเป็นเรื่องจริง ที่แย่ที่สุด ผมช่วยตัวเองไม่ได้เลย กลิ่นรุนแรงคล้ายกลิ่นของแอมโมเนียและซินนามอนตลบอบอวลไปทั่ว หัวใจผมเต้นแรงจนรู้สึกไปถึงปลายเท้าทั้ง 2 ข้าง เหตุการณ์ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ขณะที่ผมลอยขึ้นสูงประมาณ 2 ฟุต ก็เริ่มรู้สึกวิงเวียนใกล้หมดสติ...อากาศ ผมสูดอากาศแปลกๆเข้าไปจนเต็มปอด  เสียงผู้หญิง แล้วภาพสุนัขตัวแล้วตัวเล่า หน้าหนังสือไล่ไปทีละหน้า ข้างใต้นั้นมีตัวอักษรอยู่ด้วย  เสียงคล้ายรถที่แล่นผ่านไปโดยเร็วดังคลอเบาๆอยู่ตลอดเวลา  ตุ๊บ! ร่างของผมร่วงหล่นลงกับพื้น แสงสีนำเงินหายไปแล้ว พร้อมทั้งเสียงดังกวนประสาทนั้นด้วย ผมสูดอากาศของจริงอีกครั้ง  เกิดสำลักจนแทบอ้วก!                                                   อีกซักครู่มีต่อ... จากคุณ : nadashiko (nadashiko) เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 52 17:05:38

ความคิดเห็นที่ 13   เชื่อว่ามันไม่ลักพาตัว แต่อยากมาอยู่กับเราสุดๆ จริ๊ง จากคุณ : UBL เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 52 17:10:12

ความคิดเห็นที่ 14   ต่อ    โชคดีจริงๆเครื่องบินลำหนึ่งบินมาถูกจังหวะ จึงช่วยผมไว้ได้โดยบังเอิญ ยานลึกลับลำนั้นหายไปอย่างรวดเร็ว ไร้ร่องรอย ผมสงสัยนัก เครื่องบินจะมองเห็นมันหรือไม่ ?   ผมเหลือบตามองท้องฟ้าอย่างหวาดวิตก ไม่มีอะไรเราคงบ้าไปแล้ว หรือว่ามันเป็นภาพหลอน ฝันร้าย ไม่ใช่ทั้งนั้นแหละ  ...งี่เง่า....ผมถ่ายภาพมันไว้ได้ เมื่อภรรษและลูกสาวผมกลับมาถึงบ้าน เธอร้องทักว่าทำไมเนื้อตัวผมจึงมีกลิ่นแปลกๆ ติดอยู่ เธอเห็นสีหน้าผมก็รู้ได้ทันทีว่ามีบางอย่างผิดปกติเกิดขึ้น  ผมเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เธอฟังอย่างละเอียด พร้อมทั้งโชว์ภาพถ่ายให้ดูผมนึกดีใจที่มีภาพถ่ายไว้เป็นหลักฐาน  เธอมองผมราวกับว่าผมเป็นบ้าไปแล้ว ผมไม่โทษเธอหรอก  ถ้ามีใครสักคนมาเล่าเรื่องทำนองนี้ให้ผมฟังผมเองก็คงขำกลิ้งกับพื้นไปแล้ว แต่นี่มันเป็นเรื่องจริง! เรื่องจริงที่เกิดขึ้นกับผมเอง และหลักฐานก็มีอยู่ เราจะปฏิเสธได้ยังไง?                                                          อีกซักครู่มีต่อ... จากคุณ : nadashiko (nadashiko) เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 52 17:19:14

ความคิดเห็นที่ 15   ต่อ 20 พฤศจิกายน 1987 การเผชิญหน้าครั้งที่2 ผมไม่ได้เตรียมตัวรับการกลับมาของพวกมัน เพราะการที่ได้เห็นจานบิน ในชีวิตครั้งหนึ่งก็ถือว่าเป็นเรื่องที่แปลกที่สุดแล้ว หนึ่งในล้านคนที่จะได้เจอ ผมกำลังกลับเข้าบ้าน ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงแหลมสูงดังขึ้นในหูข้างขวา ค่อยๆดังขึ้น ดังขึ้น ผมสะบัดศีรษะอย่างแรงหวังให้มันหายไปแต่เสียงมันยังคงดังก้องอยู่ในหูของผม   เกิดอะไรขึ้น หัวของผมส่งเสียงประหลาดออกมาหรือนี่...ฟรานเซสจะได้ยินมันหรือปล่าว  ผมคงเป็นโรคจิต...เสียสติไปเพราะจานบินแน่ๆ ผมระรึกได้ว่าเป็นเสียงเดียวกับที่ได้ยินขณะที่ถูกแสงสีน้ำเงินครอบคลุม ฟรานเซสเข้ามาช่วยผมให้พ้นจากอาการทุรนทุราย สักพักเธอพาผมเข้าไปนั้งในห้องทำงาน ผมนั้งตัวสั่น เหงื่อออกทั่วร่าง  เสียงยังคงอยู่ เป็นคำพูดที่ผมไม่เข้าใจ ดังแล้วก็หยุด หนักแน่นคล้ายเสียงจากคอมพิวเตอร์ผมจำได้แล้ว....                                                           อีกซักครู่มีต่อ... จากคุณ : nadashiko (nadashiko) เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 52 17:34:18

ความคิดเห็นที่ 16   โห... มาหาผมมั่งสิ ผมไม่กลัวเหมือนเอ็ดหรอกนะ อยากเจอ ดูซิมีอะไรน่าสน ข้างบน เอารูปมาแปะมั่งสิครับ ! จากคุณ : Time & Space เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 52 18:03:13

ความคิดเห็นที่ 17   แล้วไงอีก ตื่นเต้ลๆ -..- จากคุณ : เกรอะกรัง เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 52 18:08:50

ความคิดเห็นที่ 18   ^ ^ ^ คห.16 ถ้ามันมีรูปผมก็จะเอามาลงอยู่นะครับ แต่ผมไม่ใช่คนของกระทรวงกลาโหมสหรัฐเลยไม่รู้จะเอามายังไงดีครับ ปล.บอกไปแล้วยังไงครับหลุดออกมาเมื่อไหรผมเอามาลงแน่ จากคุณ : nadashiko (nadashiko) เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 52 18:10:30

ความคิดเห็นที่ 19 เรื่องของเอ็ด วอลเตอร์เป็นเรื่องนึงที่ผมอ่านแล้วค่อนข้างสนุกมาก ตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ขึ้นใหม่ๆเมื่อ 20 ปีก่อน จากคุณ : Mr.Terran เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 52 18:17:46

ความคิดเห็นที่ 20 นี่เป็นภาพถ่ายต่างๆของเอ็ด แก้ไขเมื่อ 14 ก.ค. 52 18:31:09 จากคุณ : Mr.Terran เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 52 18:19:13

ความคิดเห็นที่ 21   ต่อ หลังจากนั้น เวลา5โมงเย็น ฟรานเซสขับรถไปงานเลี้ยงโรงเรียนของ ลอร่าและแดน ทุกอย่างเงียบสงบ แต่ผมรู้ได้โดยสัญชาตญาณว่ามันอยู่ข้างนอก...ผมอยากจะกรีดร้อง...   ผมตะโกนโพลงออกไป"ฉันได้ยินแก่ :-)"เสียงหยุดในทันที  ภายนอกหน้าต่างปรากฏดาวดวงเล็กดวงหนึ่งพุ่งลงมาจากท้องฟ้าด้วยความเร็วไม่หน้าเชื่อ มันค่อยๆใหญ่ขึ้นๆ ทันใดนั้นมีเสียงดังขึ้นในสมอง   "จงสงบ ก้าวออกมาข้างหน้า" ผมยกกล้องขึ้นหวังจะถ่ายภาพจานบิน เสียงดังขึ้นอีก  "อย่าทำอย่างนั้น" เสียงผู้หญิงแปร่งๆเป็นภาษาเปน  "ไม่มีความเจ็บปวด เพียงแค่การสำรวจเล็กน้อยเท่านั้น ผมขัดขืนและถ่ายภาพที่6 ไว้  จานบิน ดูเหมือนหมุนไปเรื่อยๆ พุ่งเข้ามาใกล้จากนั้นก็ถอยกลับ ที่ข้างใต้ของมันปล่อยแสงออกมาสว่างจ้าเหลือเกิน จนผมคิดว่าต้องมีคนอื่นๆเห็นมันด้วยแน่ "ออกมาที่นี่ เราจะพาไป" ผมตอบไม่มีทาง"                                                        อีกซักครู่มีต่อ... จากคุณ : nadashiko (nadashiko) เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 52 18:24:37

ความคิดเห็นที่ 22 ภาพถ่ายต่างๆเหล่านี้คือภาพที่เอ็ดได้ถ่ายไว้ระหว่างที่เขาพบจานบิน 20 ครั้ง ในช่วง 11 พฤศจิกายน 1987 ถึง 1 พฤษภาคม  1988 จากคุณ : Mr.Terran เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 52 18:25:08

ความคิดเห็นที่ 23   คห.19-20 ขอบคุณครับช่วยลงรูปแทนที จะเป็นพระคุณอย่างสูง จากคุณ : nadashiko (nadashiko) เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 52 18:25:56

ความคิดเห็นที่ 24 เดี๋ยวผมรอให้ จขกท.ลงเรื่องให้เสร็จก่อนล่ะกันครับ ^^ การที่ผมนําภาพมาลงเพราะจะเสริมข้อมูลให้ แต่คิดว่าการมาโพสต์แทรกดูจะเสียมารยาท ก็เลยรอให้ จขกท.โพสต์เสร็จก่อนดีกว่า แก้ไขเมื่อ 14 ก.ค. 52 19:20:40 จากคุณ : Mr.Terran เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 52 18:30:01

ความคิดเห็นที่ 25   ผมถ่ายภาพที่7และ8 ติดต่อกัน พลางคิดว่าตัวเองไม่ต่างอะไรจากสุนัขเลยที่ต้องมาทำตามคำสั่งของมัน "มานี่ นั่งลง ดีมาก"เอ็ดคิด ทันใดนั้นก็มีภาพผู้หญิงภาพแล้วภาพเล่า ถ้านีเป็นแผนล่อให้ผมออกไปละก็ไม่มีทางเสียหรอก เสียงจากจานบิน "เราจะกลับมาหาเจ้า" ผมถ่ายภาพที่9 ขณะที่จานบิน พุ่งขึ้นและหายไปในความมืดอย่างรวดเร็ว ผมนอนไม่หลับตลอดทั้งคืน ถ้าพวกมันกลับมาจริงผมจะทำยังไงดี      หลังจากหนังสือพิมพ์ตีพิมพ์เรื่องของเอ็ด อีกหนึ่งอาทิตย์ต่อมาก็ได้มีพยานคนอื่นๆรายงานว่าพบจานบินเช่นกัน ในวันเดียวกับที่เอ็ดพบจานบินครั้งแรก(วันที่ 11 พฤศจิกายน) มีรายนามดังนี้ เจ็ฟ ทอมป์สัน ,ลินดา ลูบี้,โจเซฟ ซามิทท์,แครี่กับเพื่อนอีกสามคน,ชาลส์ ซอมเมอร์บี้ พวกเขาพบจานบินในสถานที่และเวลาที่แตกต่างกัน                                              อีกซักครู่มีต่อ... จากคุณ : nadashiko (nadashiko) เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 52 18:37:42

ความคิดเห็นที่ 26   ต่อ  2 ธันวาคม 1987 การเผชิญหน้าครั้งที่3  มันอยู่ข้างนอก...ทำไม... ทำไมต้องเป็นผม? ผมเกลียดแสงสีนำเงินอันทรงพลัง มันคืออะไรกัน?  ผมนอนนิ่งไม่กล้าขยับเขยื้อน ค่อยๆ คว้าปืนมาแนบอก เสียงแหลมสูงดังขึ้นอีกแล้ว มันเข้ามาใกล้แล้ว ผมวิ่งออกไปหลบซ่อนพร้อมภรรยา ยานบินดิ่งลงมาเร็วมาก ผมหมายถึงเร็วมากจริงๆ ลอยอยู่ไม่ไกลจากบ้านของเราดูเหมือนรอคอยอะไรสักอย่าง  ผมถ่ายภาพที่10 แล้วจานบิน ก็ค่อยๆเปลี่ยนสีและหายลับไป พร้อมๆกับเสียงในสมองผม  สามครั้ง...สามครั้งแล้ว..มันมาเพื่ออะไรกัน?  ถึงจะเป็นเรื่องที่น่ากลัว แต่เราก็ได้รู้ความจริง บางอย่างซึ่งคนทั้งโลกมิอาจรับรู้ ฟรานเซสบรรยายว่า "จานบินเป็นสิ่งมหัศจรรย์ เหลือเชื่อ เคลื่อนไปมาอย่างทรงประสิทธิภาพ ดูน่าเกรงขาม แต่ก็งดงาม"                                                         อีกซักครู่มีต่อ... แก้ไขเมื่อ 14 ก.ค. 52 18:51:33 จากคุณ : nadashiko (nadashiko) เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 52 18:51:09

ความคิดเห็นที่ 27   ต่อ 3ธันวาคม 1987 การเผชิญหน้าครั้งที่ 4 ในคืนเดียวกันนั้นเอง เวลาตีสามครึ่งคริสตัลเห่าขึ้นครั้งนึงแล้วก็หยุด มันกลับมาอีกแล้ว อะไรกันหนักหนา ผมเริ่มโมโห...คราวนี้ผมตัดสินใจใช้ปืนเล่นงานมัน  มือขวาถือกล้อง มือซ้ายถือปืน ผมเดินไปที่หน้าต่าง ดึงม่านขึ้นอย่างช้าๆ แล้วยืนพิงกระจก ผมสะดุ้งเฮือกเมื่อสายตาปะทะกับมนุษย์ต่างดาวร่างเล็ก ซึ่งยินนิ่งจ้องมองด้วยดวงตาสีดำ กลมโตอย่างไม่กระพริบ ผมร้องด้วยความตกใจสุดขีด กล้องหล่นลงไปกองกับพื้น  มันยืนนิ้งเฉยอยู่อย่างนั้น ร่างของมันสูงประมาณ4ฟุตเห็นจะได้ ถูกปกปิดด้วยโลหะสีเงินคล้ายเกราะ ดวงตาใหญ่โตมากๆ ในมือถือด้ามโลหะสีเงินเรืองแสงอยู่ด้วย ผมยกปืนขึ้นส่องแต่ไม่มีปฏิกิริยาใดๆ โต้ตอบกลับมา มันเพียงแต่จ้องมองโดยปราศจากความกลัวโดยสิ้นเชิง สายตาส่อแววอยากรู้อยากเห็น ฟรานเซสคลานเข้ามาอยู่เคียงข้างผม เวลาดูเหมือนจะหยุดนิ่ง มนุษย์ต่างดาวหันหลังกลับแล้วเดินจากไป แทนที่จะโลงใจ  ผมกลับรู้สึกโมโหขึ้นเรื่อยๆ นึกว่าจะกลับไปง่ายๆ อย่างนั้นหรือ? ไม่มีทาง ผมจะต้องจับตัวมาให้ได้ ผทถอดกลอนประตูวิ่งไปที่หน้าบ้านเห็นมันเคลื่อนไปอย่างช้าๆ ในจังหวะสม่ำเสมอ "เสร็จแน่" ผมยิ้ม                                                     อีกซักครู่มีต่อ... จากคุณ : nadashiko (nadashiko) เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 52 19:09:23

ความคิดเห็นที่ 28   ต่อครับ(เหนื่อยครับล้างตู้เย็นไปโพสไปเฮ้อ) ขณะที่ผมก้าวออกมาได้เพียงสองเก้าแสงสีนำเงินก็จู่โจมลงมาในทันที ถูกขาขวาของผมเข้าอย่างจัง  ผมล้มลง แสงสีน้ำเงินเริ่มดึงดูดผมออกไปข้างนอก ผมเกาะขอบประตูไว้แน่นมองขึ้นไปเห็น   จานบินลำใหญ่ลอยอยู่เหนือศีรษะเพียง50ฟุตเท่านั้น...ผมสั่นสะท้าน...  ผมพยายามดึงตัวเองออกจากวงแสงประหลาดนั่น ฟรานเซสช่วยด้วยอีกแรง ในที่สุดขาผมก็หลุดรอดมาได้ ผมวิ่งเข้าไปหยิบกล้องมาถ่ายรูปที่ 11 เอาไว้ มิน่าละมนุษย์ต่างดาวจึงดูไม่ร้อนรนนักเพื่อนพ้องของมันรออยู่ข้างนอกนั้นเอง ผมค่อนข้างแน่ใจว่าแสงสีนำเงินนั้นได้พาร่างของมันกลับขึ้นยาน (ในคืนเดียวกันนั้น แพทและเอลซี่ แม็คคลีลันได้พบจานบินห่างจากกัล บรีซไป10ไมล์)                      ขอกลับมาต่อวันพรุ่งนี้นะครับ จากคุณ : nadashiko (nadashiko) เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 52 19:40:53

ความคิดเห็นที่ 29 ขอไม่เชื่อ แต่ชอบติดตามเรื่องราวแบบนี้ แต่เท่าที่ อ่านๆมา ยังไม่โดนต่อมเชื่อ จากคุณ : เต๋านีโอ เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 52 19:46:21

ความคิดเห็นที่ 30 ในเมื่อ จขกท.โพสต์เสร็จแล้วผมก็ขอต่อเลยนะครับ การเผชิญหน้ามี 20 ครั้ง จขกท.พึ่งลงไปได้แค่ 4 ครั้ง (ก็กะแล้วว่าไม่จบแน่) ผมก็ขอเสริมต่อเลย เผื่อ จขกท.เองจะได้ไม่ต้องเหนื่อยไปมากกว่านี้ ^^ เรื่องของเอ็ดเวิร์ด วอลเตอร์ เป็นเรื่องโกหกครับ นักข่าวของ Pensacola News Journal ที่ได้ร่วมทําการขุดคุ้ย กับ MUFON ได้ทําการสํารวจและตรวจสอบทุกด้านกับเอ็ด ซึ่งเขาไม่เคยผ่านเครื่องจับเท็จได้เลย และก็พบหลักฐานมากมายที่เขากุเรื่องขึ้น นสพ.ลงข่าวการค้นพบโมเดลที่เอ็ดใช้ทําปลอม จากคุณ : Mr.Terran เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 52 19:51:08

ความคิดเห็นที่ 31   ^ ^ ^ คห.30 มาแบบนี้ก็ขอจบเลยละกัน จากคุณ : nadashiko (nadashiko) เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 52 19:54:19

ความคิดเห็นที่ 32 และเหตุการณ์เหล่านี้ก็ถูกเปิดเผยด้วยการตรวจสอบของทีมของโรเบิร์ตในเดือนมิถุนายน 1990 ซึ่งอย่างที่ผมบอกในครั้งแรกแล้วไงครับ ว่าเมื่อเกือบ 20 ปีก่อนตอนที่ข่าวเอ็ดกําลังโด่งดัง สําหรับผม (หมายถึง Terran นะ ไม่ใช่เอ็ด -ฮา) มันเป็นเรื่องที่สนุกเรื่องนึง แต่ในอีกไม่กี่ปีต่อมา (คือ ปี 1990) เรื่องราวก็ถูกเปิดเผยขึ้น และแน่นอนครับ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ผมออกมาชี้แจงเรื่องนี้ แต่ผมได้ทํามาตลอดหลายปีที่ผ่านมาอย่างที่เพื่อนๆหลายๆท่านทราบกัน เพราะยังมีคนที่เข้าใจผิดอีกมาก โมเดลที่พบในการทําปลอม จากคุณ : Mr.Terran เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 52 19:58:45

ความคิดเห็นที่ 33 การที่ จขกท.ยกเรื่องนี้มา ก็ดีครับ จะได้กระจ่าง เพราะคงยังมีอีกหลายคนที่ยังเข้่าใจผิดอยู่ ซึ่งก็ไม่เป็นไร เพราะฝรั่งมันโกหกเก่ง ( 55+ ) เอ็ดออกมายอมรับหลังจากถูกคาดคั้นอยู่นาน จากคุณ : Mr.Terran เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 52 20:02:08

ความคิดเห็นที่ 34   แหมผมกะจะเอามาเป็นกรณีศึกษาในด้านจิตวิทยาในด้านการหว่านล้อมให้ผู้คนคล้อยตาม กับเรื่องที่ผู้อื่นนำมาเล่าให้ฟัง และจะมาเฉลยตอยจบ พร้อมทั้งบอกว่า "เรื่องจริงสามารถหมดความน่าเชื่อถือได้หามีแต่การกุเรื่องหลอกลวงมาบดบังความจริง"และ"การที่จะเชื่อเรื่องที่ผู้อื่นเล่าเราก็จำเป็นที่จะต้องค้นหาความจริงด้วยตัวเราเองให้กระจ่าง"  บางกรณีนั้นผมเองก็ไม่สามารถตัดสินใจได้ ว่าเป็น"เรื่องจริง"หรือ"เรื่องหลอกลวง" ปล.คุณ Mr.Terran กะจะมาเฉลยตอนจบให้คนตกใจเล่นซะหน่อย อดเลย(เหนื่อยไปเพื่อสอนคนอื่น เศร้าใจ) จากคุณ : nadashiko (nadashiko) เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 52 20:04:17

ความคิดเห็นที่ 35 พยานหลายๆคน เอาเฉพาะที่ จขกท.ยกเรื่องมาแล้ว เช่น สมิทซ์ ก็เป็นผู้ที่ออกมายอมรับเรื่องนี้ก่อนใครเพื่อน "เขาต้องการให้ผมเป็นพยานให้ ผมใช้เวลาคิดอยู่นาน ผมบอกเขาว่า มันคงจะเป็นตลกเล็กๆ แต่ท้ายสุดมันก็เป็นเรื่องใหญ่โตไปจนได้" สมิทซ์กล่าวถึงตอนที่เอ็ดขอให้ร่วมมือตอนทําโมเดล จากคุณ : Mr.Terran เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 52 20:07:09

ความคิดเห็นที่ 36 ผมไม่เข้าใจที่คุณ  nadashiko  ว่ามาสักเท่าไรนะ แหมผมกะจะเอามาเป็นกรณีศึกษาในด้านจิตวิทยาในด้านการ หว่านล้อมให้ผู้คนคล้อยตาม กับเรื่องที่ผู้อื่นนำมาเล่าให้ฟัง และจะมาเฉลยตอยจบ พร้อมทั้งบอกว่า "เรื่องจริงสามารถหมดความน่าเชื่อถือได้หามีแต่การกุเรื่องหลอกลวงมาบดบัง ความจริง"และ"การที่จะเชื่อเรื่องที่ผู้อื่นเล่าเราก็จำเป็นที่จะต้องค้นหา ความจริงด้วยตัวเราเองให้กระจ่าง" ก็ตอนต้นกระทู้คุณ nadashiko เขียนไว้เองว่า ผมขอยกตัวอย่างที่แม้แต่ทาง FBI ยังให้การยอมรับ ว่ามันเกิดเหตุการณ์ขึ้นจริง เป็นเรื่องราวของ เอ็ดเวิร์ด วอลเตอร์ส ซึ่งน่าจะเป็นหลักฐานชิ้นยอดและชัดเจนแจ่มแจ้งจนเราไม่อาจปฏิเสธการมีอยู่ของ UFO ได้ง่ายๆ ผมก็เข้าใจว่าคุณ nadashiko หมายถึงเรื่องจริงนะสิ เพราะผมตามกรณ๊นี้มาตั้งแต่เหตุเกิดแล้วยังไม่มีพบว่า FBI ได้เข้ามายอมรับเลย จากคุณ : Mr.Terran เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 52 20:12:06

ความคิดเห็นที่ 37   ผมหลอกเล่นนะครับ ผมอยากจะลองดูว่าจะมีคนที่สนใจจะไปค้นหาความจริงด้วยตัวเองกันซักกี่คน จากคุณ : nadashiko (nadashiko) เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 52 20:15:55

ความคิดเห็นที่ 38 ^ ^ ลองกับห้องหว้ากอเนี๊ยะนะ.... จากคุณ : Night Claw เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 52 21:31:12

ความคิดเห็นที่ 39 จขกท.คะ การมาหลอกคนอื่นเล่นแล้วพูดออกมาง่ายๆว่า "ผมหลอกเล่นน่ะสิ" มันไม่ค่อยสวยเลยค่ะ จะมาอ้างเหตุผลในการทดสอบคนอื่นมันไม่เข้าท่าเลยนะคะ หลายคนเข้ามาในนี้เค้าก็ตอบกระทู้กันแบบจริงจัง แต่ถ้ามาทราบทีหลังว่าคุณ จขกท. พูดง่ายๆแบบนี้คงไม่ยินดีในการ "หลอกเล่น" ของคุณซักเท่าไหร่ เสียดายเวลาที่ติดตามอ่าน วิเคราะห์ตั้งแต่เมื่อตอนเย็นมากๆ ป.ล. ขอบคุณคุณ  Mr.Terran มากค่ะ ที่เข้ามาเฉลยให้ทราบ จากคุณ : เด็กหญิงในวันสุข เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 52 21:31:43

ความคิดเห็นที่ 40 Mr.Terran นายแน่มาก   ติดตามผลงานอยู่นะครับ จากคุณ : พจน (demonicus) เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 52 22:37:05

ความคิดเห็นที่ 41 น่าจะยาว จากคุณ : นู๋ฝน2 เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 52 22:44:18

ความคิดเห็นที่ 42 ว่าเรี๊ยะ มันแปลกๆ ตรงที่เรื่อง ชุด เรื่องตา เรื่อง ยาน เรื่องแสงดูด ทำไมมันเหมือนในหนัง หรือในการ์ตูน -*- จากคุณ : leetaesok เขียนเมื่อ : 15 ก.ค. 52 01:02:17

ความคิดเห็นที่ 43 ผมไม่เชื่อเพราะเหตุการณ์ที่เล่ามาทั้งหมดขาดเหตุผลสนับสนุน. ถ้ามนุษย์ต่างดาวจะวิจัยคน มนุษย์ต่างดาวทรงพลังอำนาจขนาดนั้นไม่วิ่งไปหาคนๆ เดียวให้เหนื่อยครับ. แต่กระทู้นี้ น่าจะเป็นอุทาหร สำหรับ คนที่หลงเชื่องมงายเรื่อง จานบิน สักนิดนะครับว่า ควรใช้เหตุผลมากกว่านี้ เราไม่เคย พอเองเจอเอง แต่เราก็ดันไปเชื่อ คนที่บอกว่าเห็นมากับตาตัวเองซะงั้น. ถ้าผมบอกกับคนอื่นว่าผมเห็นแมวประหลาดมีปีก มากับตาตัวเองเลยหล่ะครับ ใครจะเชื่อผมบ้างหรือเปล่า. คดีนี้คล้ายๆกับ ช้างจิ๋วบ้านเราแหล่ะครับ อยู่ๆ ออกข่าวว่าเจอจริงๆ นะเอ้า คนไทยก็เฮโลเชื่อตามทั้งๆที่ตัวเองก็ไม่รู้เลยมันมีจริงหรือเปล่าเห็นก็ไม่เห็น เผลอๆ ตาฝาด เห็นเครื่องบินธรรมดา เป็น UFO ก็มี จากคุณ : WindMaster เขียนเมื่อ : 15 ก.ค. 52 14:43:18

ความคิดเห็นที่ 44 ป้าดโถ้ อ่านตั้งนาน อย่างตื่นเต้นและตั้งใจ โดนหักมุมซะงั้น ฮ่าๆๆๆๆ จากคุณ : MAD เม่น เขียนเมื่อ : 15 ก.ค. 52 16:14:11

ความคิดเห็นที่ 45 แง๊ กำลังมันส์เลย  โธ่ เอ่ยยยย จากคุณ : คุณป้าหางดง เขียนเมื่อ : 15 ก.ค. 52 22:02:39

ความคิดเห็นที่ 46 คุณ Mr.Terran ก็น่าจะรอให้เค้าโพสให้จบจริงๆซะก่อนจะได้รู้ว่าความจริงแล้วเค้าจะมีเฉลยตอนจบหรือป่าว ไม่น่าใจร้อนรีบแทรกเลย จากคุณ : Bubblesoda เขียนเมื่อ : 16 ก.ค. 52 02:26:23

ความคิดเห็นที่ 47 ว่าแล้วทำไมยานมันไฟสว่างๆพิกล จากคุณ : Hand Dryer เขียนเมื่อ : 16 ก.ค. 52 09:41:44

ความคิดเห็นที่ 48   -*-. เหอะๆ ยังไงก็ขอบคุณทั้งสองคนและทุก ๆ คน เลยนะครับ อิอิ จากคุณ : ลั ล ล า (meekung555) เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 52 15:02:21

ความคิดเห็นที่ 49   ผมว่าเขามีความฉลาดสูงมากเกิน กว่าจะต้องมาศกษาเราครับ เขาห่วงความประพฤติเกเรของเรามากว่า จากคุณ : Sublimis (Sublimis) เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 52 20:24:37