ความคิดเห็นที่ 1   ผมต้องกระทู้นำเสนอข้อมูลฟ้าทะลายโจรไว้ในอีกกระทู้นึงครับ ซึ่งอ้างอิงจากข้อมูล MedPlant ของมหิดล ซึ่งน่าจะรวบรวมขึ้นก่อนหน้าข้อมูลในบัญชียาหลัก เล่มนี้ และตอนที่สรุปข้อมูลออกมาก็ขาดส่วนนี้ไปซึ่งสำคัญมาก ขอบคุณมากครับที่นำเสนอ กำลังหาอยู่เลยครับ อยากให้กิฟท์แต่ให้ไม่ได้น่ครับ ^_^ จากคุณ : bhattee เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 52 03:19:38

ความคิดเห็นที่ 2   ขอบคุณมากๆครับ เสียดาย กิฟท์หมดแล้ว จากคุณ : เส้นขอบฟ้าเวลาพระอาทิตย์ตกดิน เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 52 04:03:03

ความคิดเห็นที่ 3   ขอบคุณมากค่ะ จากคุณ : kekodes เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 52 14:11:37

ความคิดเห็นที่ 4   ขอบคุณครับ เวลาเจอพวกที่ชอบพูดว่า "กินๆ เข้าไปเถอะ มันเป็นพืชผัก มีอยู่ในธรรมชาติอยู่แล้ว ไม่อันตรายหรอก" อย่างเซ็ง จากคุณ : สิงห์แก้ว เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 52 14:41:05

ความคิดเห็นที่ 5   จริงครับ ผมเองเวลาทานฟ้าทะลายดจรก็ต้องทานระวังเหมือนกัน เคยคลื่นไส้ ใจสั่น เวียนศรีษะ ด้วย ตอนแรกก็งงๆ อ้าวเราไม่ได้ทานอะไรผิดปกติเลยนี่ ก้มีแต่ฟ้าทะลายโจรเท่านั้นเอง ที่ไหนได้ สำหรับบางคนก็ต้องทดลองทานทีละน้อยก่อนเพื่อสังเกตอาการครับ จากคุณ : granun เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 52 19:57:57

ความคิดเห็นที่ 6   ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr. Fusion เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 52 20:43:21

ความคิดเห็นที่ 7   อยากขยายตรงนี้นิดนึงนะครับว่า ประสิทธิผลในการบรรเทาอาการไข้เจ็บคอของฟ้าทะลายโจร น่าจะเกิดจากฤทธิ์ลดไข้และฤทธิ์ต้าน         การอักเสบมากกว่าฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรีย ดังนั้น เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ป่วยได้รับอันตรายที่เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย Streptococcus group A ซึ่งอาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงตามมา เช่น ไข้รูห์มาติค โรคหัวใจรูห์มาติค และไตอักเสบ จึงมีข้อห้ามใช้ฟ้าทะลายโจรสำหรับแก้เจ็บคอในกรณีต่าง ๆ ต่อไปนี้              - ในผู้ป่วยที่มีอาการเจ็บคอเนื่องจากติดเชื้อ Streptococcus group A              - ในผู้ป่วยที่มีประวัติเป็นโรคไตอักเสบ เนื่องจากเคยติดเชื้อนี้              - ในผู้ป่วยที่มีประวัติเป็นโรคหัวใจรูห์มาติค              - ในผู้ป่วยที่มีอาการเจ็บคอเนื่องจากมีการติดเชื้อแบคทีเรีย และมีอาการรุนแรง เช่น มีตุ่มหนองในคอมีไข้สูง หนาวสั่น เพราะฟ้าทะลายโจรมีฤทธิ์แค่กระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันในการต้าเชื้อไวรัสเท่านั้น ไม่มีฤทธิ์ในการต้านเชื้อแบคทีเรีย ดังนั้นถ้าใช้ฟ้าทะลายโจรในการรักษาอาการเจ็บคอ เนื่องจากติดเชื้อแบคทีเรียมันก็จะไม่ได้ผล และถ้าใช้เดี่ยวๆก็จะเกิดอันตรายได้ ส่วนการแยกความแตกต่างว่าเราติดเชื้อไวรัสหรือแบคทีเรียกันแน่ผมขอตัดตอนมาจาก ฺBlog ของหมอแมวครับ http://mor-maew.exteen.com/20080819/by 1) การติดเชื้อไวรัสบริเวณคอ ในกลุ่มของโรคที่เรียกว่าไข้หวัด เชื้อไวรัสจัดว่าเป็นสาเหตุที่พบได้บ่อยที่สุดครับ อาการที่พบได้ก็คือ การครั่นเนื้อครั่นตัว มีไข้ต่ำๆ ไอ เจ็บคอ คัดจมูก และน้ำมูกไหล ... การติดเชื้อไวรัสที่เกิดอาการหวัดเจ็บคอนี้ เรียกอีกแบบหนึ่งได้ว่า การติดเชื้อระบบทางเดินหายใจส่วนบน (upper respiratory tract infection;URI) เพราะว่าการติดเชื้อเหล่านี้เป็นการติดเชื้อในส่วนของโพรงจมูกเรื่อยลงไป จนถึงคอส่วนล่าง ซึ่งจะทำให้ตำแหน่งของคอส่วนดังกล่าวเกิดอาการระคายและเจ็บได้ 2) การติดเชื้อแบคทีเรียบริเวณคอ การ ติดเชื้อและเจ็บคอจากเชื้อแบคทีเรียเกิดได้จากเชื้อหลายชนิดที่พบในบริเวณลำ คอและช่องจมูก ในการเป็นหวัดเจ็บคอนั้น มีสาเหตุจากเชื้อแบคทีเรียเป็นสัดส่วนที่น้อยกว่าจากเชื้อไวรัสหลายเท่าครับ อาการที่พบได้ก็คือมีไข้สูง และ อาการเจ็บคออย่างมาก บางครั้งมากจนกลืนอาหารลำบาก สามารถคลำต่อมน้ำเหลืองที่คอได้เป็นก้อนนุ่มๆกดเจ็บ ส่วนอาการอื่นๆที่พบน้อยกว่าได้แก่ ไม่ค่อยคัดจมูกน้ำมูกไหล ไม่ค่อยไอ แต่ถ้าเอาให้ชัดกว่านั้นก็คือ ส่วนมากอาการเจ็บคอในทางปฏิบัติมักจะเริ่มจากการติดเชื้อไวรัสก่อนประมาณวันสองวัน แล้วตามมาด้วยแบคทีเรีย ดังนั้นการแนะนำให้เริ่มรักษาอาการเจ็บคอไข้หวัด ด้วยฟ้าทะลายโจรภายในวันสองวันแรก เริ่มมีอาการระคายคอ จึงเป็นการใช้ยาเพื่อเพิ่มภูมิต้านไวรัสและลดโอกาสที่จะติดเชื้อแบคทีเรีย ตามมาทางอ้อม ดังนั้นถ้าเจ็บคอมาสองสามวันแล้ว ผมว่ากินไปก็เท่านั้นคงไม่ช่วยอะไรเท่าไหร่ ส่วนประเด็นการใช้ป้องกัน โดยส่วนตัวผมก็ยังเชื่อว่าใช้ในปริมาณน้อยก็ยังปลอดภัยอยู่ซึ่ง ไม่ตรงกับความเห็นส่วนใหญ่ของผู้เชี่ยวชาญ --------------------------------------- ส่วนความคิดเห็นที่ 5 ผมสงสัยว่าน่าจะเกิดจากฤทธิ์ในการลดระดับน้ำตาลในเลือดของฟ้าทะลายโจรที่กล่าวอ้างกัน ตามแหล่งอ้างอิงต่างประเทศ หรืออาจจะมีสาเหตุมาจากการที่มีฤทธิ์เป็นยาเย็นของตัวฟ้าทะลายโจร อันนี้อ้างอิงตามตำรา ยาแผนโบราณ --------------------------------------- ความคิดเห็นที่ 4 เห็นด้วยอย่างยิ่งครับ การใช้ยาแผนโบราณต้องมีการศึกษาเช่นเดียวกับยาสมัยใหม่ครับ ที่ต้องอาศัยความรู้ความใจ สำหรับผมแล้วผมว่ามันยิ่งอันตรายใหญ่เพราะยาสมุนไพรส่วน มากขาดการศึกษาอย่างเป็นระบบ แต่กระนั้นการใช้กันสืบต่อมานานก็แสดงถึงความปลอดภัย และประสิทธิภาพได้เช่นกัน ดังนั้นมันจึงเหมือนเป็นเรื่องที่เป็นการขัดกันเอง -_-" แก้ไขเมื่อ 19 ก.ค. 52 21:27:12 จากคุณ : bhattee เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 52 20:54:21

ความคิดเห็นที่ 8   แพ้ฟ้าทะลายโจรค่ะ พอกินเข้าไปแล้วเหมือนมีเข็มเป็นพัน ๆ เล่มแทงที่ฝ่าเท้าทั้ง 2 ข้าง หลังจากนั้นลมพิษจะขึ้นทั้งตัว (เป็นตั้งแต่กินเม็ดแรกเลย) ทิ้งระยะไปหลายเดือน ทดลองกินอีกครั้งนึง อาการเหมือนเดิมเลย สรุปแล้วแพ้จริง ๆ .. จากคุณ : jibninja เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 52 23:50:20

ความคิดเห็นที่ 9   ถ้่าแพ้ฟ้าทะลายโจรอย่างความคุณ จิ๊บนินจา ผมว่าต้องระวังเวลาจะใช้ยาแผนโบราณซึ่งส่วนมากเป็นตำรับยาผสมครับ อาจจะมีฟ้าทะลายโจรผสมอยู่ด้วย ดังนั้นควรดูข้างกล่องให้ดีครับโดยระวังชื่อเหล่านี้ ฟ้าทะลาย น้ำลายพังพอน หญ้ากันงู สามสิบดี คีปังฮี ซีปังกี ชวนซินเหลียน ชวงซิมไน้ Creat Green chireta Kalmegh King of bitters Kirayat Andrographis paniculata ด้วยนะครับ อีกอย่างที่น่าสงสัยก็พวกยาฆ่าแมลง เพราะยาแผนโบราณบ้านเรา ไม่ได้จริงจังเรื่องการผลิตแบบปลอดสารพิษน่ะครับ จากคุณ : bhattee เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 52 11:41:09

ความคิดเห็นที่ 10   ขอบคุณสำหรับเรื่องราวที่มีประโยชน์ค่ะ จากคุณ : auaukrub เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 52 11:59:39