 |
ความคิดเห็นที่ 34 |
นอกจาก Pepper Transcript ได้ตีพิมพ์ออกมาสู่สายตาชาวโลกแล้ว... ก็ยังมีนักวิทยุสมัครเล่นอีกหลายคนออกมาบอกไว้ด้วยว่า Pepper Transcript นั้นเป็นเรื่องจริง และ NASA เองก็บอกว่าไม่จริงเหมือนเคย ... แต่เพราะว่าคำพูดที่นักบินได้ติดต่อกับฐานไว้เป็นคำสุดท้ายก่อน 2 นาทีจะหายไป ทำให้คนทั้งโลกอยากรู้ ... นาซ่าเองก็ออกมาบอกว่าหลักฐานทั้งหมดสืบได้ ... แต่ก็ยังมีคนที่สงสัยอีกหลายคนว่า "ถ้า" นาซ่าต้องการจะปกปิดอะไรเราล่ะ?
เป็นการเริ่มต้นของเรื่อง "หลักฐานที่ NASA เอามาให้คนทั้งโลกดูนั้น เป็นหลักฐานจริง หรือหลักฐานปลอมเพราะต้องการบิดบังข้อมูลเรื่อง UFOs" และภายหลังเหตุผลจริงๆ ของเรื่องหลักฐานปลอมได้ถูกลืมไป... กลายเป็น การจับผิดว่า NASA ไม่ได้ไปดวงจันทร์จริงๆ
แรงบรรดาลใจที่หยิบมาพูดว่าทำไม NASA ต้องโกหก(วะ) 1. สงครามเย็น - รัฐบาลสหรัฐต้องการที่จะชนะสหภาพโซเวียท ... การไปดวงจันทร์ต้องใช้เงินเยอะ และเสี่ยงมาก ก็เลยปลอมแมร่งเลย ( J.F.K. ได้ให้เหตุผลว่าทำไมถึงต้องไปดวงจันทร "เพราะว่ามันยากและท้าทาย" # ^ "We choose to go to the Moon! We choose to go to the Moon in this decade and do the other things – not because they are easy, but because they are hard." - President John Kennedy, speaking at Rice University, September 12, 1962. From A Man on the Moon, by Andrew Chaikin, p. 2, (c) 1994, 2007, ISBN 978-0-14-311235-8 ) 2. เงิน - NASA ได้เงินมาทั้งหมดประมาณ USD$30,000,000,000 สำหรับโครงการไปดวงจันทร์ 3. ความเสี่ยง - เรื่องนี้มีเฉพาะช่วงแรกของโครงการนำร่องครับ ทั้ง Mercury - Gemini - Apollo ตอนนั้นอุปกรณ์อะไรต่ออะไรถือว่ายากมากๆ ช่วงแรกๆ มีคนคำนวนว่าความสำเร็จที่จะลงดวงจันทร์สำเร็จมีแค่ 0.017% We Never Went to the Moon: America's Thirty Billion Dollar Swindle, Bill Kaysing, Pomeroy, WA, USA: Health Research Books, 2002. ISBN 1-85810-422-X. 4. เบี่ยงเบนความสนใจ - อเมริกาต้องการให้กระแสของสงครามเวียดนามเบาลงครับ เลยต้องสร้างเรื่องนี้ขึ้นมา แต่ยังไงก็ตามโครงการ Apollo ยุติลงหลายปีกว่าสงครามเวียดนามจะจบซะอีก 5. ไม่ทันเวลาเลยโม้ซะเลย - เพราะว่า J.F.K. ได้ให้คำสัญญาใว้ในปี 1961 ว่าจะต้องลงที่ดวงจันทร์ให้ได้ก่อนจะหมดช่วงเวลาของแก พอเห็นจะไม่ทัน เลยต้องโม้ซะ (Kennedy speech to Congress, May 1961. Chaikin, p. 1)
นอกเรื่องอีกแล้ว - -' เอาเป็นว่าเราลืมเรื่องการลงจอดที่โกหกไป ... มาดูว่าทำมั้ยยยย ทำไม NASA ถึงอยากจะปิดบังข้อมูลของจริงกันนักกันหนา...
เคยมีศาสตราจารย์ท่านหนึ่งได้คุยกับปู่อาร์มสตรองเป็นการส่วนตัว ว่าตอนนั้นมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ... ว่าด้วยเรื่องความปลอดภัยของตัวศาสตราจารย์เอง แกไม่ได้ระบุไว้ครับว่าแกคือใคร... แกทิ้งไว้ให้แต่บทสนธนาช่วงหนึ่งที่น่าสนใจไว้ดังนี้
Professor: What REALLY happened out there with Apollo 11? Armstrong: It was incredible, of course we had always known there was a possibility - the fact is, we were warned off! There was never any question then of a space station or a moon city. Professor: How do you mean "warned off"? Armstrong: I can't go into details, except to say that their ships were far superior to ours both in size and technology - Boy, were they big!...and menacing! No, there is no question of a space station. Professor: But NASA had other missions after Apollo 11? Armstrong: Naturally - NASA was committed at that time, and couldn't risk panic on Earth. But it really was a quick scoop and back again.
โปรฯ : จริงๆ แล้วมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่กับ Apollo 11 ในตอนนั้น? ตรองฯ : โอ้วมันสุโก้ยมากๆ ... แน่นอนๆ พวกเรารู้มานานแล้วล่ะว่าเราต้องเจออะไรบนดวงจันทร์แหงๆ ... พูดก็พูดเลยดีกว่านักบินทั้งสามคนโดนเตือนไว้หมดแล้วว่าในระหว่างการสื่อสารห้ามพูดเรื่องอื่นนอกจากพวกเรื่อง skylab หรือเรื่องโครงการที่จะสร้างฐานบนดวงจันทร์ Project Constellation [/sup] http://en.wikipedia.org/wiki/Project_Constellation[/sup] โปรฯ : คุณว่ายังไงนะ โดนเตือนไว้แล้ว? ตรองฯ : เรื่องนี้ผมบอกไม่ได้จริงๆ ... นอกจากว่ายานอวกาศลำนั้นที่ผมเห็นมันโครตใหญ่เลยถ้าเทียบกับเรา ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง Technology หรือเรื่องขนาด... โอ้วววว.... มันใหญ่มากๆ และน่ามหัศจรรย์มากๆ ... เออวุ้ยลืมไป - -'!!! ผมไม่สามารถพูดถึงเรื่องยานหรือฐานทัพพวกนี้ได้ โปรฯ : แต่นาซ่าเองก็ยังส่งคนไปดวงจันทร์อีกนี่หลังจาก Apollo 11 ตรองฯ : มันก็ตามนั้นแหละ... ช่วงนั้น NASA ตั้งใจมากๆ NASA ก็ไม่สามารถจะเสี่ยง ที่จะให้โลกแตกตื่นเรื่อง UFOs ได้... มันเลยเป็นอะไรที่เร็วมาก ... พวกเราเห็น! พวกเราเจอ! และพวกเราก็ต้องกลับไปทำงาน... (จขกท. เซ็งเป็ด)
...นอกจากเรื่องนี้แล้วโปรฯ ก็ได้ข้อมูลพวกนี้จากการที่คุยกับปู่อาร์มสตรองในวันนั้นด้วย...
ปู่อาร์มสตรงได้ส่งสัญญาณไปบอก Houston ว่าได้เจออะไรไม่รู้สองอันลอยไปมา ดูพวกเขาทำงานอยู่บนดวงจันทร์ แต่ข้อมูลทั้งหมดไม่เคยได้ออกไปถึงสาธารณะชนทั้งโลก เพราะ NASA censored ทั้งหมดออกไปแล้ว
ปู่อัลดรินได้ถ่ายรูปไอ้ดวงไฟสองดวงนั่นตั้งแต่อยู่ใน LEM จนถึงออกมานอก LEM หลังจากที่ปู่อาร์มสตรองได้ออกมาข้างนอกแล้ว
ปู่อาร์มสตรองได้ให้สัญญาว่าเรื่องทั้งหมดนี้เป็นความจริง แต่แกไม่สารถบอกรายละเอียดได้มากกว่านี้อีก นอกจากจะทิ้งเกร็ดเล็กๆ ไว้ว่า CIA อยู่เบื้องหลังการปิดบังข้อมูลทั้งหมดของ NASA
NASA เองก็บอกว่ารูปถ่ายทั้งหมดอ่ะ ไปหาดูได้ทั่วไปใน Internet หรือจะไปกับ NASA โดยตรงเลยก็ได้ ใครอยากรู้ หรือยากดูก็เขียนจดหมาย มีชื่อที่อยู่ พร้อมซองเปล่าสอดแสตมป์ไปที่
NASA HQ, Media Services Branch. Code PM, 300 E Street South West Washington DC 20546 USA
อย่าลืมบอกด้วยนะครับว่าอยากได้ภาพถ่ายของ Apollo11 - หมายเลขแคตตาล็อกคือ "AS11-37-5438" บินวันที่ 16 กรกฏาคม 1969
จากคุณ |
:
monixe
|
เขียนเมื่อ |
:
24 ก.ค. 52 11:10:17
|
|
|
|
 |