ความคิดเห็นที่ 1 จริงครับ จากคุณ : ฉันมีค่าแค่ไหน เขียนเมื่อ : 26 ก.ค. 52 13:51:20

ความคิดเห็นที่ 2   ผมอ่านหนังสือคุณวินทร์ เลียววารินทร์ เขาบอกว่าจริงครับ... ทำให้ทุกครั้งที่ผมดูท้องฟ้ายามค่ำคืน รู้สึกโรแมนติค ขึ้นอีกเยอะ ถ้าเกิดว่าจักรวาลโค้งงอได้จริง...สมมุติฐานของคุณก็น่าจะเป็นไปได้ ผมคิดว่างั้นนะ... จากคุณ : ห่างไกล แต่ใจจริง เขียนเมื่อ : 26 ก.ค. 52 13:53:56

ความคิดเห็นที่ 3 แสดงว่าภาพดวงดาวต่างๆที่เราเห็นคือภาพเมื่อพันปีแสงที่แล้วสินะครับ ปัจจุบันอาจไม่ใช่แบบนี้แล้วก็เป็นได้  เผลอๆเห็นวิทยาการของมนุษย์ต่างดาวด้วยก็ได้ ก็ผ่านมาตั้งพันปีแล้ว (จินตนาการครับ สำคัญกว่าความรู้) จากคุณ : EleMent M@stER เขียนเมื่อ : 26 ก.ค. 52 13:57:53

ความคิดเห็นที่ 4 เเปลว่าตอนนี้มันอาจโดนหลุมดำดูดหมดเเล้วก็ได้... จากคุณ : palovema เขียนเมื่อ : 26 ก.ค. 52 14:08:06

ความคิดเห็นที่ 5 ก็ถูกแล้วครับ ถ้าเราเดินทางด้วยความเร็วแสงได้ เวลาจะช้าลงแน่นอน เราจึงใช้เวลาไม่นาน ถ้าเทียบกับเวลาบนโลก นั่นหมายถึงว่าเราเคลื่อนที่ได้เท่าความเร็วแสง แต่แสงเองก็ใช้เวลาเดินทางเท่าที่ใช้เวลาเดินทางนั่นแหละครับ ??? จากคุณ : Phoenix032 เขียนเมื่อ : 26 ก.ค. 52 14:19:27

ความคิดเห็นที่ 6 ยิ่งอ่านยิ่งมึน แต่ก็ชอบอ่าน 555+ จากคุณ : MaMa,PaPi เขียนเมื่อ : 26 ก.ค. 52 14:40:51

ความคิดเห็นที่ 7   "ภาพดวงดาวต่างๆที่เราเห็นคือภาพเมื่อพันปีแสงที่แล้ว" <<< ถูกต้องครับ เว้นแต่ถ้าเดินทางด้วยความเร็วแสงแล้ว เวลาจะหยุดนิ่ง  แสงที่เห็นก็จะกลายเป็นแสงปัจจุบันของดาวดวงนี้ "ถ้าเราเดินทางด้วยความเร็วแสงได้ เวลาจะช้าลงแน่นอน"<<<< รอให้เราเดินทางด้วยความเร็วแสงแล้วเราอาจจะพบว่า    มันไม่ได้ทำให้เวลาช้าลงเลย   มันเพียงแค่ทำให้เราเดินทางได้ไกลขึ้น ในเวลาเท่าเดิม เราจะยังพิสูจน์ทฤษฎีนี้ไม่ได้สมบูรณ์ จนกว่าเราจะทดลองจริงๆ  แต่คนที่คิดว่า  หากเดินทางด้วยความเร็วแสงแล้ว  มันไม่สามารถหยุดเวลา หรือทำให้เวลาช้าลงได้ แทบจะไม่สามารถอออกความเห็นได้ เนื่องจากกลัวถูกกล่าวหาว่า  "ไม่โง่ก็บ้า  เพราะเรื่องนี้นักวิทยาศาสตร์เขาทดลองแล้วพบว่า เมื่อเคลื่อนที่เร็วขึ้น เวลาจะช้าลง" สมมติว่า ถ้าเราหยุดเวลาได้เมื่อเราเดินทางด้วยความเร็วแสง     และเราเดินทางจากโลก ไปยังดาวดวงหนึ่งซึ่งห่างไป 1หมื่นปีแสง   เราจะเดินทางโดยการหยุดเวลา(คล้ายๆ วาร์ป) ไปยังดาวดวงนี้ได้หรือไม่  เพราะแสงเอง ยังใช้เวลา 1หมื่นปีในการเดินทาง  ไม่ใช่ 0 วินาที ทฤษฎีนี้เลยเป็นทฤษฎีที่ผมสนใจมาก  และยังพบช่องโหว่ในการทดลองอยู่มากมาย ทำให้ยังไม่สามารถเชื่อได้ 100% ขออภัยครับ ผมไม่ได้ล่อเป้านะ  อยากแสดงความเห็น(โง่ๆ)ของผมเท่านั้นเอง   เพราะมีหลายๆคนเหมือนกันที่คิดแบบผม  แต่ไม่กล้าพูด เพราะพูดไปก็โดนด่าเละ  คิดไว้ในใจดีกว่า  เหมือนสมัยก่อน ที่คิดว่าโลกแบน จากคุณ : AIM-9X เขียนเมื่อ : 26 ก.ค. 52 14:53:15

ความคิดเห็นที่ 8 ^ ^ ^ ล่อเป้าก็ตอนที่บอกว่าไม่ได้ล่อเป้านี่แหละครับ ... ล้อเล่นนะครับ :) เกี่ยวกับเรื่องเวลาและความเร็ว มีหลายทฤษฎีในปัจจุบัน ซึ่งยังพิสูจน์ไม่ได้ แต่สมัยนี้ใครหาว่าโง่หรือบ้า ก็เค้านั่นแหละครับที่โง่หรือบ้า ต่างกันกับยุคคลั่งศาสนานะครับ จากคุณ : Phoenix032 เขียนเมื่อ : 26 ก.ค. 52 15:01:34

ความคิดเห็นที่ 9 ขณะที่เราเห็นแสงของดวงอาทิตย์ มันผ่านไปแล้วห้านาที จากคุณ : chem chem เขียนเมื่อ : 26 ก.ค. 52 15:24:12

ความคิดเห็นที่ 10 แล้วถ้าเราเดินทางได้เร็วกว่าความเร็วแสง เราก็เหมือนคนตาบอดเลยสิครับ ในเมื่อการมองเห็นของเราคือรับแสงเข้ามาในตา จึงเห็นภาพ ปล.ถามแบบคนมีความรู้เท่าหางอึ่ง จากคุณ : PaTaC เขียนเมื่อ : 26 ก.ค. 52 15:39:41

ความคิดเห็นที่ 11 แปดนาทีไม่ใช่รึ ไม่ใช่ห้านาที จากคุณ : อะธีลาส เขียนเมื่อ : 26 ก.ค. 52 15:45:02

ความคิดเห็นที่ 12 ไม่เข้าใจ สมมติดวงอาทิตย์ดับไป โลกจะอยู่ได้อีก 1000 ปี ?? จากคุณ : hydrophobia เขียนเมื่อ : 26 ก.ค. 52 15:57:53

ความคิดเห็นที่ 13 8 นาทีครับ ไม่ใช่5นาที จากคุณ : the last wizard of the century เขียนเมื่อ : 26 ก.ค. 52 15:58:51

ความคิดเห็นที่ 14 ความคิดเห็นที่ 10 แล้วถ้าเราเดินทางได้เร็วกว่าความเร็วแสง เราก็เหมือนคนตาบอดเลยสิครับ ในเมื่อการมองเห็นของเราคือรับแสงเข้ามาในตา จึงเห็นภาพ ปล.ถามแบบคนมีความรู้เท่าหางอึ่ง จากคุณ : PaTaC ----------------- ตอบ จากที่ผมเข้าใจ ถ้าเราเดินทางด้วยความเร็วแสงแล้วหันหลังมองกลับไป เราจะเห็นภาพเดิมเหมือนก่อนที่เราจะถึงความเร็วแสงค้างอยู่แบบนั้น หรืออาจจะมืดไปเลย (คือไม่มีแสงเดินทางเข้ามาสู่ตาเรา)   แต่ถ้ามองไปข้างหน้า เราก็จะยังคงเห็นภาพอยู่เหมือนปกติ จากคุณ : CLK BRABUS เขียนเมื่อ : 26 ก.ค. 52 16:03:51

ความคิดเห็นที่ 15   เรากำลังมองเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อพันปีที่แล้วอยู่เหรอ จากคุณ : คลามิเซีย เขียนเมื่อ : 26 ก.ค. 52 16:44:34 A:192.168.1.76 X:61.7.191.59 TicketID:123589

ความคิดเห็นที่ 16   ถ้าดวงอาทิตย์ดับไปเราคงอยู่ได้อีกไม่นานหรอกครับ 1วันยังไม่รู้เลยว่าจะไหวไหม จากคุณ : ห่างไกล แต่ใจจริง เขียนเมื่อ : 26 ก.ค. 52 17:13:12

ความคิดเห็นที่ 17   #10 และ #14 ครับ ความเร็วของแสงจะเท่าเดิมเสมอ ไม่ขึ้นกับผู้สังเกตุครับ ดังนั้นถ้าคุณเดินทางด้วยความเร็วของแสง ก็ยังเห็นทุกอย่างอยู่ดีครับ จขกท ถ้าเราเดินทางด้วยความเร็วสูงขึ้นเวลาของเราจะช้าลงเมื่อเทียบกับผู้สังเกตุที่ "หยุดนิ่ง" ดังนั้น แสงที่อกกจากดาวที่ห่าง 1000 ปีแสงใช้เวลามาหาเรา ตามเวลาของเรา 1000 ปี แต่ตัวแสงเองอาจรู้สึกว่าไม่ถึง 1000 ปี ในกรณีที่ จขกท พูดถึงการเดินทางเร็วเท่าแสง สมมุติว่า มีฝาแฝด 2 คน ก กับ ข ก อยู่บนโลก ส่วน ข เดินทางไปดาวที่ห่าง 25 ปีแสงแล้วเดินทางกลับมาโลก ข จะรู้สึกว่าใช้เวลาเดินทางไม่ถึง 50 ปีและแก่ขึ้นไม่มาก ก็ถึง แต่ ก จะแก่ขึ้น 50 ปีครับ จากคุณ : ม เขียนเมื่อ : 26 ก.ค. 52 17:41:33 A:202.57.178.152 X: TicketID:104524

ความคิดเห็นที่ 18 การเดินทางด้วยแสง มันไม่ได้ทำให้เวลาของเราช้าลงเลย   มันเพียงแค่ทำให้เราเดินทางได้ไกลขึ้น ในเวลาเท่าเดิม เพราะคนเราอายุ 80 ปี ก็จะเดินทางได้ไม่เกินอายุตัวเอง ในที่ซึ่งห่างไกลที่เราเดินทางได้ก็ไม่เกิน 80 ปีแสง (80ปี แสงเดินทางได้ไกลแค่ไหนก็ไกลเท่านั้นแหละ) และคนที่จะเดินทางต่อไปก็เป็นคนรุ่นต่อไป เช่น ระยะทาง 800 ปีแสง เราไม่มีทางเดินทางไปถึงในชั่วชีวิตเราได้ เวลาจะรู้สึกว่ามันช้าเร็ว เมื่อมีการเปรียบเทียบ มันดูเหมือนเวลามันช้าลงเมื่อเปรียบเทียบสัมพัทธ์ระหว่าง A และ B การเดินทางในจินนาการที่ไกลกว่าการเดินทางของแสงในช่วงชีวิตเราถูกตั้งสมมุติฐานว่าถ้าเราสามารถเดินทางผ่าน Wormhole หรือวาร์ป สิ่งนี้ยังนับว่าเป็นจินตนาการของมนุษย์อยู่ครับ จากคุณ : granun เขียนเมื่อ : 26 ก.ค. 52 18:36:15

ความคิดเห็นที่ 19 ยิ่งไปกว่านั้น  ถ้ามนุษย์ต่างดาวที่อยู่ไกลจากเรา 1000 ปีแสง ส่องกล้องมาดูเรา ก็ไม่เห็นเราตอนนี้หรอก  แต่เห็นโลกเราเมื่อ 1000 ปีที่แล้ว ที่จริงเขาน่าจะช่วยจดบันทึกประวัติศาสตร์ให้เราด้วยนะคะ เพราะเขาก็ต้องเห็นภาพอดีตทั้งนั้นแหละ  สงครามโลก  อาณาจักรเก่าๆ อ้อ น่าจะถ่ายภาพตอนที่เราเจอแฟนคนแรกไว้ให้ด้วย  555 จากคุณ : นู๋นัน เขียนเมื่อ : 26 ก.ค. 52 19:55:22

ความคิดเห็นที่ 20 ผมก็ว่า ถึงจะเดินทางเร็วเท่าแสงเวลาก็ไม่ได้ช้าลงหรือหยุดนิ่งอ่ะครับ จากคุณ : Carroth เขียนเมื่อ : 26 ก.ค. 52 20:00:01

ความคิดเห็นที่ 21 ความคิดเห็นที่ 14   [ถูกใจ]  [แจ้งลบ]   ความคิดเห็นที่ 10 แล้วถ้าเราเดินทางได้เร็วกว่าความเร็วแสง เราก็เหมือนคนตาบอดเลยสิครับ ในเมื่อการมองเห็นของเราคือรับแสงเข้ามาในตา จึงเห็นภาพ ปล.ถามแบบคนมีความรู้เท่าหางอึ่ง จากคุณ : PaTaC ----------------- ตอบ จากที่ผมเข้าใจ ถ้า เราเดินทางด้วยความเร็วแสงแล้วหันหลังมองกลับไป เราจะเห็นภาพเดิมเหมือนก่อนที่เราจะถึงความเร็วแสงค้างอยู่แบบนั้น หรืออาจจะมืดไปเลย (คือไม่มีแสงเดินทางเข้ามาสู่ตาเรา)   แต่ถ้ามองไปข้างหน้า เราก็จะยังคงเห็นภาพอยู่เหมือนปกติ จากคุณ : CLK BRABUS ------------------------------------ แสงเป็นเส้นต่อเนื่อง ครับ แซงแสงได้คือแซงช่วงเวลา ดังนั้นภาพจึงเป็น frame ย้อนหลังครับ เหมือนดูหนังย้อนเวลากลับครับ จากคุณ : WindMaster เขียนเมื่อ : 26 ก.ค. 52 21:29:34

ความคิดเห็นที่ 22 จากการค้นหา กูเกิล th.wikipedia.org/wiki/ปีแสง จขกท น่าจะเข้าใจถูกครับ จากคุณ : ทัช (นายทัช) เขียนเมื่อ : 26 ก.ค. 52 22:28:10

ความคิดเห็นที่ 23   #18 ครับ สมมุติว่า เราเดินทางไปยังดาวที่ห่างจากเรา 1 ปีแสงใช้จรวด ที่มีความเร็ว 90% ของความเร็วแสง สำรับคนบนโลกจรวดจะใช้เวลา =1/0.9=1.11 ปี แต่เวลาของคนบนจรวดจะผ่านไป =sqrt(1-0.9^2) =0.435889894 ปี คิดง่ายๆ ประมาณ 40% ครับ สมสุติว่า อายุเราเต็มที 90 ปี และเราเริ่มเดินทางเมื่ออายุ 20 ปี เรามีเวลาในจรวด 70 ปี ที่ที่ไกลที่สุดที่เราไปได้ด้วยความเร็ว 90% ของความเร็วแสงจะเป็น 70/.4 ประมาณ 175 ปีแสง จากคุณ : ม เขียนเมื่อ : 26 ก.ค. 52 22:58:52 A:202.57.178.152 X: TicketID:104524

ความคิดเห็นที่ 24   เราเดินทางเท่าความเร็วแสง ก็ไม่น่าจะทำให้เวลาช้าลง แค่ไปได้ไกลกว่าเดิม ที่บอกว่าแฝดคนนึงไปแล้วกลับมายังหนุ่ม แต่แฝดอีกคนอยู่บนโลกจะแก่ มันยังเป็นแค่จินตนาการ จากคุณ : IW เขียนเมื่อ : 26 ก.ค. 52 23:39:30 A:203.188.31.202 X: TicketID:218828

ความคิดเห็นที่ 25   เห็นด้วยกับ คห 17 23ครับ ถ้าผู้เคลื่อนที่ด้วยความเร็วแสง ก็แสดงว่า อยู่ในกรอบเฉื่อย เวลาของเขาจะเดินปกติ แต่คนอยู่นิ่งจะเห็นเวลาเขาเดินช้าลง ภาพด้านหลังจะหยุดนิ่ง ภาพด้านข้างกับด้านหน้า น่าจะเห็นหดสั้นลง การคิดระยะเวลา ต้องคิดตามสัมพัทธภาพพิเศษ คือ ต้องหาระยะทาง ที่หดสั้นลง และเวลาที่ยึดยาว จากการเคลื่อนที่ก่อนครับ จากคุณ : mm เขียนเมื่อ : 27 ก.ค. 52 00:07:28 A:222.123.115.244 X: TicketID:207667

ความคิดเห็นที่ 26 สรุป ภาพที่เราเห็นกันอยู่ทุกวันนี้ มันคือภาพในอดีตซิน่ะครับ !! จากคุณ : Baritoreca เขียนเมื่อ : 27 ก.ค. 52 01:34:07

ความคิดเห็นที่ 27 ถ้าถึงเวลาถ้าพิสูจน์ได้ คิดว่าทฤษฎีนี้น่าจะมีการเปลี่ยนหลายอย่าง แบบว่าคงไม่เหมือนกับที่ทฤษฎีพูดไว้ 100% บางทีเราอาจเดินทางด้วยความเร็วเกินแสงก็ได้ ใครจะไปรู้ตราบใดที่เรายังไม่รู้จักเอกภพนี้ดีพอ ทุกอย่างที่ทดลอง ทุกอย่างที่ศึกษาในสิ่งที่ไกลมากๆ เหมือนเป็นแค่จินตนาการมนุษย์ทั้งนั้น. เพราะบางอย่างก็อาจจะไม่เป็นไปตามที่คาดหมายก็ได้  นี่แหละคือเอกภพ มีอีกมากมายที่เรายังไม่รู้และอาจจะไม่มีวันรู้เลยจนถึงวันดับสิ้นมนุษย์ชาติเลยก็ได้.ิ   (แค่โลกของเราๆ ยังรู้ไม่หมดเลย) แก้ไขเมื่อ 27 ก.ค. 52 02:49:30 แก้ไขเมื่อ 27 ก.ค. 52 02:48:49 จากคุณ : Arccyber2004 เขียนเมื่อ : 27 ก.ค. 52 02:48:10

ความคิดเห็นที่ 28 ไม่ค่อยเข้าใจ แต่ถ้าพูดง่าย ๆ ตามความเข้าใจของเรา คงเหมือนกับว่าถ้าเราเดินทางด้วย รถเมล์ กะมอไซด์ตอนเช้า ๆ ที่รีบมาทำงานมั้ง เราใช้เวลากับมอไซด์ 5 นาที กับใช้เวลากับรถเมล์ 15 นาที ทำให้เราไปได้เร็วขึ้น รัยเงี้ยใช่ป่ะ ถ้าเข้าใจผิดก็ขออภัยด้วยค่ะ จากคุณ : MeaoNoi เขียนเมื่อ : 27 ก.ค. 52 10:17:37

ความคิดเห็นที่ 29 ผมเห้นด้วยกับ #18 นะครับ ที่ว่าเวลาของเรา(ที่กำลังเคลื่อนที่)ไม่ได้เปลี่ยนไปเลย สมมติว่าผมไปดวงอาทิตย์ก็ได้อ่ะ 8 นาทีแสง ให้เพื่อนที่อยู่บนโลก กดนาฬิกาจับเวลา พร้อมๆกับเราที่เริ่มเดินทางด้วยความเร็วแสง คนบนโลกจะวัดเวลาไปกลับได้ 16 นาที ซึ่งมันก็ควรจะเท่ากับเราสิครับ ที่เริ่มออกเดินทางด้วยความเร็วแสง ใช้เวลา 8 นาทีกว่าจะไปถึงดวงอาทิตย์ แล้วก็กลับมาถึงโลกอีก 8 นาที คิดยังไงๆ เวลาก็เท่ากันทั้งคนอยู่บนโลก และคนอยู่ในยานนะครับ ส่วนสูตรคำนวนใน #23 คืออะไรอ่ะครับ ทำไมต้องเอา 1-sqrt ด้วยอ่ะ (ผมไม่รู้จริงๆครับ ไม่ได้กวน) จากคุณ : Agent Molder เขียนเมื่อ : 27 ก.ค. 52 12:02:34

ความคิดเห็นที่ 30   #29 ครับเรียกว่า Lorentz factor ครับรายละเอียดดูที่ http://en.wikipedia.org/wiki/Time_dilation Time Dilation เกิดไดจาก ความเร็ว หรือ แรงดึงดูด Time Dilation ได้มีการทดลองและได้ผลลัพธ์ไปตามที่ทฤษฎี เช่นเอานาฬิกา atomic ขึ้นเครื่องบินแล้วบินรอบโลก เมื่อเทียบแล้วนาฬิกาที่ใส่เครื่องบินจะบอกเวลาช้ากว่า(Lag) กับนาฬิกาที่อยู่เฉยๆ มีการทดลองเอาอานุภาคที่มี half life ต่ำๆ มาเร่งเข้าใกล้ความเร็วแสงปราฏว่า half life เพิ่มขึ้นลงออ่านใน web -hk'[o8iy[ จากคุณ : ม เขียนเมื่อ : 27 ก.ค. 52 12:28:57 A:161.200.93.102 X: TicketID:104524

ความคิดเห็นที่ 31 เค้าอาจหมายถึง ความรู้สึกล่ะมั้ง ที่ว่าความเคลื่อนที่เร็วจะ แปรผันกับเวลาที่เสียไป เพราะถ้ามันเป็นยังงั้น จริงๆอ่ะนะ ... พวกนักแข่งรถ ก็หน้าเด็กกว่า คนทั่วไปดิ ถ้านักบอลก็ โรนัลโด้ก็หน้าเด็กกว่าใครเพื่อนเพราะ เคลื่อนที่ ด้วยความเร็ว บ่อยๆ จากคุณ : hahesfha เขียนเมื่อ : 27 ก.ค. 52 13:11:21

ความคิดเห็นที่ 32 ส่วนตัวก็คิดว่า เราเดินทางในความเร็วแสง ได้กี่นาที เวลาบนโลกจริง ก็ผ่านไปเท่านั้นแล สูตรของคุณ ม. ผมก็ไม่เข้าใจครับ อย่างหลายๆความเห็น ในเมื่อเราเดินทางด้วยความเร็วแสง เช่น 8นาทีจริง เดินทางได้ 8นาทีแสง คิดเป็น กิโลเมตร ได้เท่าไร พอเดินทางกลับ ก็ใช้เวลาจริง 8นาทีจริง ก็เดินทางได้ 8นาทีแสงเช่นเดิม ก็รวมกันได้ 16นาที จริง มันจะทำให้เวลาจริงช้าลงได้ไงหว่า ไม่เข้าใจ แล้วถ้าหากอายุไขของมนุษย์ ดีให้เต็มที่ 100ปี เราก็เดินทางได้ไม่เกิน 100ปีแสงอยู่แล้ว นอกจาก จะคิดค้นวิธีจำศีล ในตู้รักษาสภาพ อะไรทำนองนั้น หรือ เราสามารถถ่ายเทจิตรใจเราใส่ในหุ่นยนต์ได้ ก็จะทำให้เราอายุยืนยาวได้ ส่วนเรื่องจิตใจของเรา ที่ทำให้เรารู้ว่าเราเป็นใคร หรือวิญญาณของเรา ส่วนตัว คิดว่า คือ สมอง ครับ คงต้องรอให้สกายเน็ต คิดค้นได้ก่อน แต่คงต้องควบคุมให้ดี เดี๋ยวจะออกมาทำร้ายมนุษย์ จากคุณ : Mr.Ti เขียนเมื่อ : 27 ก.ค. 52 13:46:23

ความคิดเห็นที่ 33 55555 จากคุณ : -APEM เขียนเมื่อ : 27 ก.ค. 52 14:28:56

ความคิดเห็นที่ 34   เมื่อคืนฝันว่าUFO มนุษย์ต่างดาว บุกโลก วิ่งหนีไม่หยุดเลย ตื่นมาเมื่อยมาก ขอบอก จากคุณ : annband เขียนเมื่อ : 27 ก.ค. 52 15:15:44

ความคิดเห็นที่ 35   ถ้าเราเดินทางไปดวงอาทิตย์ ด้วยจรวดที่มีความเร็ว 90% ของแสงคนบนโลกจะรู้สึกว่าเดินทางไปกลับราว 16-18 นาที แต่คนในจรวดจะผ่านเวลาแค่ 6-7นาที และเขาจะแก่ขึ้น 6-7 นาที ขณะที่คนบนโลกจะแก่ขึ้น 16-18 นาที ไอสไตน์กล่าวว่า 1. ความเร็วแสงเป็นความเร็วสูงสุดในจักรวาล 2. ความเร็วแสงคงที่เสมอไม่ว่าผู้สังเกตุจะหยุดนิ่งหรือเคลื่อนไหว สมมุติว่าว่ามีรถไฟขบวนหนึ่งแล่นด้วยความเร็วเท่ากับกระสุนปืน บนรถไฟมีเป้าอันหนึง รถไฟแล่นลอดใต้สะพาน พอ เป้าเลยสะพานไปเล็กน้อย ที่บนสะพานมีคนนคหนึ่งยิงปืนไปที่เป้า เขาจะไม่มีทางยิงถูกเพราะกระสุนปืนวิ่งไปไม่ทันเป้า แต่ถ้ารถไฟวิ่งด้วยความเร็วแสง และบนสะพานมีคนใช้ปืนเลเซอร์ยิงเป้าเขาจะยิงถุกเป้า จากคุณ : ม เขียนเมื่อ : 27 ก.ค. 52 19:00:26 A:202.57.177.141 X: TicketID:104524

ความคิดเห็นที่ 36 ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr. Fusion เขียนเมื่อ : 27 ก.ค. 52 22:17:24

ความคิดเห็นที่ 37 อ่านไปอ่านมา งง กะคุณ ม เหลือเกิน จากคุณ : vader007 เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 52 09:48:06

ความคิดเห็นที่ 38   ^ งง ตรงไหนครับ จากคุณ : ม เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 52 12:15:33 A:161.200.255.162 X: TicketID:104524

ความคิดเห็นที่ 39 งง ตรง Time dilation อ่ะครับ ถ้าเอาความรู้สึกมาจับ คนเดินทางด้วยความเร็วแสงไปดวงอาทิตย์ ไปกลับ ก็น่าจะเท่ากับเวลาของคนบนโลก แต่ที่คุณ ม. บอกมา แสดงว่ามีทฤษฏีที่เชื่อว่า หากยิ่งเดินทางความเร็วใกล้แสงแล้วล่ะก็ เวลาของคนๆนั้นจะยาวนานขึ้นใช่ไหมครับ จากตัวอย่างที่คุณยกตัวอย่างเรื่องนาฬิกาบนเครื่องบิน กับ half life ถ้าทฤษฎีถูก แสดงว่า เวลาก็เป็นสิ่งสมมติเหมือนกัน เราสมมติขึ้นมาเอง เอามาแปลงเป็นวินาที นาทีกันเอง ว่านานเท่านี้เรียกว่า 1 วินาที ความจริง มันอาจว่างเปล่า ไม่มีอะไรเลยก็ได้ ทุกอย่าง มนุษย์อุปโลกขึ้นมา โอ้ยย งงวุ้ย.. จากคุณ : Agent Molder เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 52 13:01:04

ความคิดเห็นที่ 40 ตามที่คุณ ม กล่าวมาดิฉันเคยได้ยินแล้วก็ได้อ่านมาจากหนังสือบ้างเหมือนกันค่ะ แต่ก็ยังไม่ค่อยเข้าใจอยู่ดี แต่ในความรู้สึกค่อนข้างเอนเอียงมาทางคุณ ม นะคะ อาจเพราะเคยอ่านมา คุณ ม พอจะมีหนังสือดีๆแนะนำบ้างมั้ยคะ ดิฉันสนใจเรื่องพวกนี้เหมือนกัน(ก็ไม่รู้จะสนใจไปทำไมอ่ะนะ)  แล้วก็ชอบฟังเวลาคนถกกันเรื่องนี้ ได้ความรู้ดี จากคุณ : พระศุกร์เข้าพระเสาร์แทรก เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 52 15:13:17

ความคิดเห็นที่ 41   เวลานี้สมมุติหรือไม่ผมไม่ทราบครับ แต่ถ้าเชื่อตามทฤษฎีสัมพัธภาพ (เท่าที่ผมเข้าใจ บ้างเล็กน้อย ย้ำว่าเล็กน้อย และเป็นส่วนของทฤษฎีสัมพันธ์ภาพเฉพาะเท่านั้น ) ไอสไตน์ บอกว่า ความเร็วเพิ่มขึ้น มวล จะมากขึ้น ความยาวจะหดลง และ เวลาจะนานขึ้น ดังนั้นสิ่งที่มีมวลจะเดินทางด้วยความเร็วแสงไม่ได้ เพราะจะมีมวลเป็นอนันต์ และมีความยาวเป็นศูนย์ นอกจากความเร็วแล้ว สิ่งที่มีผลกับเวลาอีกอีนหนึ่งหรือแรงโน้มถ่วงครับ สำหรับหนังสือก็ไม่รู้แนะนำอะไรครับเพราะอ่านมานานแล้ว ถ้าเป็น web site แนะนำ http://en.wikipedia.org/wiki/Time_dilation ครับ จากคุณ : ม เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 52 20:35:24 A:202.57.178.102 X: TicketID:104524