ความคิดเห็นที่ 1 พอจะพูดถึงหลักการคร่าวๆได้มั้ยครับ คือที่ผมอ่านที่กระทู้นู้น รู้สึกว่า มันเป็นเรื่องที่ยิ่งใหญ่มาก ถ้าจริงสามารถต่อยอดไปถึงเทคโนโลยีอวกาศ การบิน ทหาร และยานยนต์ ซึ่งมีผลกระทบต่อหลายวงการเลยนะครับ ถ้าทำได้จริงมันจะส่งผลต่อการประหยัดน้ำมันถึง 10% ของโลกซึ่งมันมหาศาลเลยนะครับ เผลอๆ พวกคุณอาจจะได้รางวัลโนเบลเลยล่ะ จากคุณ : หวาก เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 52 01:58:34

ความคิดเห็นที่ 2 ู^ ^ เกรงว่าจะดับ - - จากคุณ : สายลับ>>>มีด เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 52 02:24:36

ความคิดเห็นที่ 3 FAIL จากคุณ : ไม่มีสมาชิกชื่อนี้ เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 52 02:35:52

ความคิดเห็นที่ 4 ลองเอาไปขายให้ทหารดูสิครับ รถถัง  F16  เรือ 911 คงประหยัดน้ำมันได้เยอะ  ช่วยชาติ ถ้าขายให้ทหารได้  ยอดขายถล่มทลายแน่ GT200 ยังขายได้  ดังนั้นเครื่องนี้ ก็น่าจะขายได้เหมือนกันนะเนี่ย มีใบรับรองด้วย ไม่ได้โม้เลยนะเนี่ย จากคุณ : Professor เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 52 02:42:16

ความคิดเห็นที่ 5 NP Faster เป็นอุปกรณ์ช่วยในการปรับกระแสไฟฟ้ากระแสตรงที่ผ่านจากเบ้าที่จุดบุหรี่เข้าสู่ไดร์ชาร์ต และ ตัวไดร์ชารต์จะแปล่งสนามแม่เหล็ก  จากจุด นิวเครียส เป็นประจุบวกได้แก่ นิวตรอน และโปรตรอน แผ่ขยายวงออกเป็นอีเลคตรน ซึ่งเป็นประจุลบ ในความถี่ประมาณ 1270 เส้น /ตร.ม. ในลักษณะรูปวงรีหมุนรอบตัว มีรัศมีที่แผ่ออกไปจากตัวไดร์ชาร์ตประมาณ 1.5 เมตร   : ฟิสิกส์แผนใหม่(เอี่ยม) เราทราบกันดีว่าสนามแม่เหล็กโลก หรือแรงดึงดูดของโลก  ส่งพลังขึ้นมาในแนวตั้ง แต่ นิวตรอน โปรตรอน และ อิเลคตรอนที่เกิดจาก NP Faster ส่งพลังในแนวนอน : ???????? ดังนั้นพลังงานทั้งสองอย่างจะหักล้างกัน ทำให้แรงดึงดูดของโลกดูดได้น้อยลง จึงทำให้รถยนต์เบาขึ้นกว่าปกติ ในขณะที่รถวิ่งจะเกิดแรงปะทะจากลม สนามแม่เหล็กที่แผ่ออกไปจากตัวไดร์ชาร์ตจะทำให้เกิดโพรงอากาศด้านหน้ารถยนต์ ทำให้แรงต้านลดลง   : สนามแม่เหล็กสามารถทำให้เกิดโพรงอากาศ ???? ลองฟังราวๆ นาทีที่ 6 ผมเพิ่งรู้นะเนี่ยว่า หากรถวิ่ง อากาสเสียดสีกับตัวรถแล้วจะเกิดสนามแม่เหล็กฟุ้งกระจายออกมา ว้าว วิศวกรเครื่องกล เมืองไทยคิดสิ่งที่นักฟิสิกส์ระดับโลกกำลังหากันอยู่ คือ แม่เหล็กแบบ Monopole เชียวนะเนี่ย บางคนก็บอก เครื่องเดินเรียบกว่าเก่า บ้างก็จากเครื่องติดๆ ดับๆ มาเป็นเดินเรียบ แต่บางคนก็บอกว่า เครื่องเหมือนเดิม ไอ้เครื่องนี้โปรโมทช่วงนายกโนบิตะ หรือเปล่า เห็นนามสกุลเหมือนกัน ผมว่า อย่ามาโฆษณาอย่างนี้เลย เอาไปจดลิขสิทธิ์ เครื่องต้นแบบเครื่องต้านแรงโน้มถ่วงดีกว่ามั้ง จากคุณ : Waterman (LN106) เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 52 02:45:35

ความคิดเห็นที่ 6 คุณสมบัติสุดยอดจริงๆ GT200 นี่ชิดซ้ายไปเลย จากคุณ : Professor เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 52 02:49:27

ความคิดเห็นที่ 7 ต่อให้ประหยัดได้จริง หลักการที่อ้างมันก็โกหกชัดๆ.... จากคุณ : Tire Tracks Studio เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 52 02:52:35

ความคิดเห็นที่ 8 ขอออกความเห็นนิดหน่อย + ความสงสัยอีกเล็กน้อย หลังจากอ่านและดูวีดีทัศน์ใน website ในวิดิทัศน์นั้นเจ้าของบอกว่า ระบบนี้เป็นระบบลดแรง g - จากความรู้พื้นฐานฟิสิกส์ม.ปลายเลย แน่นอนครับ แรง g จาก แรงเสียดทาน = สปส.แรงเสียดทาน x แรงกระทำตั้งฉาก (N) ซึ่งแรงกระทำตั้งฉากส่วนใหญ่แล้วก็คือน้ำหนัก หรือ mg (ผมขอบอกตรงว่าใช้ศัพท์ผิด อ้างอิงจาก http://en.wikipedia.org/wiki/G_force) ตัดเรื่องการใช้ศัพท์ผิดออกไปเข้าใจตรงกันว่าท่านพูดถึง mg ลด mg ได้ก็ลดแรงเสียดทาน แน่นอนก็ลดแรงที่เครื่องยนต์ใช้ ทฤษฎีนี้คงไม่มีใครเถียงท่านได้ ท่านเจ้าของกล่าวไว้ในวิดิทัศน์ว่า "ระบบการทำงานของ NP Faster คือการเสริมสร้างสนามแม่เหล็กในยานยนต์ ให้มีความเสถียรเพื่อลดแรงโน้มถ่วงของโลกหรือแรง g" อันนี้สร้างความสงสัยกับผมเป็นอย่างยิ่ง ไม่เป็นไร ลองดูในวิดิทัศน์ต่อไปสำหรับคำอธิบายของท่านผศ.สมศักดิ์ ผมขอย่อความโดยสรุปสำหรับคำอธิบายของท่านว่าอุปกรณ์ดังกล่าวสร้างสนามแม่เหล็ก ผมไม่เข้าใจว่าสนามแม่เหล็กจะเกี่ยวข้องหรือสัมพันธ์ใดๆกับแรงโน้มถ่วงของโลก (หรือแรง g ในนิยามของท่านเจ้าของ) เพราะแรงโน้มถ่วงของโลกเป็นแรงดึงดูดระหว่างมวลกับมวล (อ้างอิงจาก http://en.wikipedia.org/wiki/Gravity) ผมเข้าใจว่าท่านชี้ให้เห็นว่าอุปกรณ์ดังกล่าวสร้างสนามแม่เหล็ก แล้วจะเกิดแรงยกต้านกับน้ำหนักรถทำให้รถเบาขึ้น แรงเสียดทานน้อยลง ซึ่งในความเห็นของผมแล้ว แรงจากสนามแม่เหล็ก คือ F= q(VxB) (อ้างอิงจาก http://en.wikipedia.org/wiki/Magnetic_force) ถ้าจะให้เกิดแรงยกมากพอที่จะทำให้รถรู้สึกเบาได้ อุปกรณ์ของท่านจะต้องสร้างสนามแม่เหล็กมากมายหลายเทสลาแน่นอน (สมมติให้ q และ v คงที่) และที่สำคัญ v ซึ่งเป็นความเร็วนั้นต้องตั้งฉากกับสนามแม่เหล็กด้วย ซึ่งจะขัดแย้งกับคำอธิบายเรื่องสนามแม่เหล็กที่ทำให้ลด Drag ตามที่ท่านอาจารย์สมศักดิ์อธิบาย จากคุณ : Akysar เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 52 02:53:48

ความคิดเห็นที่ 9 ต่อๆ ท่านบอกต่อว่าไดชาร์ตเป็นตัวเปล่งสนามแม่เหล็ก อันนี้ไม่เถียง แต่อยากจะเสริมเล็กน้อยว่าอุปกรณ์ไฟฟ้าทุกตัวสร้างสนามแม่เหล็กทั้งสิ้น แต่ในกรณีนี้ ผมยอมรับว่าไดชาร์ตเป็นตัวสร้างสนามแม่เหล็ก (หน่วย:เทสลา) มากที่สุดในรถยนต์ แต่ผมสงสัยอีกเล็กน้อยว่า ประจุบวกคือ นิวตรอนและโปรตอน เท่าที่ผมมีความรู้เล็กๆน้อยๆ นิวตรอนเป็นกลางมิใช่หรือครับ ผมคงไม่ติดใจเรื่องการใช้ศัพท์และหน่วย ตามที่ท่านบอกว่า "แผ่ขยายวงออกเป็นอีเลคตรน ซึ่งเป็นประจุลบ ในความถี่ประมาณ 1270 เส้น /ตร.ม. ในลักษณะรูปวงรีหมุนรอบตัว มีรัศมีที่แผ่ออกไปจากตัวไดร์ชาร์ตประมาณ 1.5 เมตร" ผมเข้าใจว่าความถี่ที่ท่านกล่าวถึงก็คือความเข้มของสนามแม่เหล็ก หรือ Flux (มั้ง ร้างรามานานความทรงจำอาจเลอะเลือนขออภัย) คราวนี้พิจารณาจาก Maxwell's equation and Gauss' law แล้วผมว่าถ้าสร้างรัศมีแผ่กระจายออกไปจากตัวไดชาร์ตถึง 1.5 เมตรแล้ว ผมขอใช้สมมติฐานว่าเป็นวงกลมแล้วกัน (แต่ท่านบอกว่าเป็นวงรี คือผมขี้เกียจอินทิเกรตรอบรูป แถมสองชั้นด้วย เอาประมาณๆแล้วกัน) จาก Flux = BAcosO = สนามแม่เหล็ก x พื้นที่ตั้งฉาก คราวนี้ รัศมีของท่านก็คือ 1.5 เมตร พื้นที่ทรงกลมคือ 28.26 ตรม. (สูตรง่ายๆ หากันดูแล้วกันนะจ๊ะ) ดังนั้นแล้ว 1270 = B x 28.26  so B = 44.9398 เทสลา ไม่น้อยนะครับพี่น้อง ยิ่งถ้าเป็นวงรีอีก คิดยาก(หรือขี้เกียจคิด แหะๆ) แต่ค่ายังคงมากอยู่ดี ลองกลับไปหาแรงก็ได้ จาก F =q(VxB) ค่า q ของท่านจะต้องมากมาย มองดูแล้วไม่เห็นเกี่ยวข้องกับแรงที่จะเป็นแรงยกตรงไหนเลย และจากรูปอุปกรณ์ของท่านอันเล็กนิดเดียว ท่านอาจจะอ้างได้ว่ามันสร้าง flux จากไดชาร์ต ซึ่งผมก็ยังมองไม่เห็นถึงความสัมพันธ์ใดๆตามสมมติฐานของท่านเลย จากคุณ : Akysar เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 52 03:20:05

ความคิดเห็นที่ 10 จากความเห็นด้านบนๆ (คห.5) ผมเห็นด้วยกับท่านคห. 5 ว่าถ้าท่านสร้างเครื่องต้านแรงโน้มถ่วงได้จริง น่าจะเอาไปใช้ดัดแปลงได้มากกว่านี้ ต่อๆในเรื่องเดิม ต่อมาเรื่องลดแรงต้านอากาศ อันนี้ถนัดกว่าคห.ของผมด้านบนอาจจะยาวนิดหน่อยนะ จากวิดิทัศน์และใน website กล่าวว่าอุปกรณ์ดังกล่าวนอกจากจะช่วยลดแรงกระทำที่พื้น คือลดแรงเสียดทานแล้วยังช่วยลดแรงต้านอากาศ (Drag) ได้อีกโดยการสร้างสนามแม่เหล็กด้านหน้าโดยการสร้างโพรงอากาศ อืมมม อันนี้ความรู้ใหม่เลยนะเนี่ย ลองไล่ดูจากนิยามแรงต้านอากาศก่อนแล้วกัน F = -0.5(ความหนาแน่นของอากาศ)(ความเร็วยกกำลังสอง)(พื้นที่หน้าตัด)(สปส.แรงเสียดทาน) ความหนาแน่นของอากาศคงเปลี่ยนไม่ได้ ความเร็วสมมติว่าคงที่แล้วกัน ตัวเจ้าปัญหาคือพื้นที่หน้าตัดและสปส.แรงเสียดทาน คราวนี้ผมคิดว่าพื้นที่หน้าตัดยังไงๆก็เปลี่ยนแปลงไม่ได้ เหลือแต่สปส.แรงเสียดทาน ท่านกล่าวไว้ว่าสนามแม่เหล็กจะสร้างโพรงอากาศ ผมเรียนตรงๆว่าไม่เข้าใจนิยามของโพรงอากาศ แต่เข้าใจว่าท่านหมายถึงสร้างสนามแม่เหล็กรูปทรงรีด้านหน้ารถ (เหมือนสวมหมวกทรงรีๆ หน้ารถประมาณนั้น) ซึ่งผมก็เข้าใจว่าท่านพยายามบอกว่าอากาศที่เข้ามาด้านหน้ารถจะปะทะกับสนามแม่เหล็ก (ซึ่งเป็นรูปรีๆ) ทำให้ profile ของรถเปลี่ยนไป คล้ายๆกับเครื่องบินว่างั้นเถอะซึ่งช่วยลด สปส.แรงเสียดทาน ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้นทฤษฎีของท่านก็ถูกต้อง ขอเรียนให้ทราบว่าโมเลกุลของอากาศนั้นปกติเราทราบกันดีว่าอาจจะมีประจุไฟฟ้า (ท่านเข้าใจถูกแล้วจากการเสียดสีกับตัวรถ) แต่ผมขอถามปัญหากับท่านว่า ประจุไฟฟ้าเกิดจากการเสียดสีกับตัวรถ แต่อากาศก่อนถึงตัวสนามแม่เหล็กของท่านมิได้เสียดสีกับอะไร แล้วจะมีประจุได้อย่างไร แล้วอากาศจะเลี้ยวเบนตามแรงของสนามแม่เหล็กได้อย่างไร ตามหลักการของอากาศพลศาสตร์แล้ว อุปกรณ์ของท่านไม่เกี่ยวข้องใดๆกับแรงต้านเลย สนามแม่เหล็กของท่านเข้มข้นขนาดทำให้ Profile ของการไหลของโมเลกุลอากาศเปลี่ยนแปลงได้แล้วปุถุชนคนเดินดินธรรมดาที่เดินผ่านหน้ารถท่านไม่โดนผลักกระเด้งออกไปเลยหรือ (เว่อร์ไปขออภัย ผมหมายถึงอันตรายจากแม่เหล็กไฟฟ้าของท่าน) เทียบกับเสาไฟฟ้าแรงสูงแล้ว สนามแม่เหล็กของท่านยังมีความเข้มข้นกว่านั้นอีกมากมายไม่รู้กี่เท่าตัว จากคุณ : Akysar เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 52 03:38:12

ความคิดเห็นที่ 11 สรุปเลยแล้วกัน ยาวแล้ว ง่วงนอนมากๆแล้วด้วย ผมไม่สามารถยืนยันได้ว่าอุปกรณ์ของท่านประหยัดน้ำมันได้จริงหรือไม่ (เนื่องจากยังไม่ได้ทดสอบด้วยตัวเอง) แต่จากหลักการที่ท่านนำเสนอ รวมไปถึงวิดิทัศน์แล้วพบว่าในหลักการยังมีข้อบกพร่องและมีข้อโต้แย้งมากมายทำให้ขาดความน่าเชื่อถือ (ปล.ผมไม่ได้ใส่ใจว่าท่านใดจะมายืนยันความสามารถของอุปกรณ์ของท่าน ผมยึดตามทฤษฎีและกฎต่างๆที่บรรดาวิศวกรทั้งหมดต้องใช้ พูดง่ายๆ ว่ากันตามตำรา) การที่ท่านกล่าวว่าพิสูจน์แล้ว ยังๆไม่มีหลักฐานพอเพียง ลูกค้าซื้อไปแล้วได้ผลเป้นที่น่าพึงพอใจ ก็ยังไม่มีหลักฐานพิสูจน์ คือความพึงพอใจมันวัดตามหลักการทางวิศวกรรมไม่ได้ครับ ขออภัยจริงๆ ถ้าประหยัดน้ำมันได้จริง ก็ถือว่าเป็นอุปกรณ์ที่ดี เหมาะสมกับยุคสมัยนี้ แต่จากความเห็นและข้อสงสัยของผมแล้ว ผมยังไม่สามารถเชื่อได้ว่าเครื่องมืออุปกรณ์ดังกล่าวนี้ประหยัดน้ำมันได้จริง อันที่่จริงอยากลองพิสูจน์เหมือนกันเนื่องจากท่านระบุไว้ว่าสามารถคืนเงินได้ทันที แต่ผมก็ยังไม่แน่ใจเรื่องนี้อยู่ดีเนื่องจากมีสินค้าหรือบริการหลายอย่างก็กล่าวเช่นนี้ แต่พอถึงเวลาขอคืนเงินจริง จะมีเงื่อนไขมากมายจนผู้บริโภคท้อใจไปเอง (ขนาดผู้ผลิตรถยนต์ยังมีปัญหาเรื่องพวกนี้เลย) ดังนั้นแล้วขอให้ท่านผู้ผลิตเพียงชี้แจงเรื่องทฤษฎีหรือกฎพื้นฐานตามข้อสงสัยของผมก็น่าจะเพียงพอที่จะทำให้ลูกค้าหรือผู้สนใจรายอื่นเชื่อมั่นในสินค้าของท่านได้อย่างเต็มที่ อันเป็นการโฆษณาไปในตัวด้วย สุดท้ายแล้ว ผมไม่มีเจตนาโจมตีหรือใส่ร้ายหรือตัดสินอุปกรณ์ของท่าน เพียงแต่มีข้อสงสัยทางวิศวกรรมเล็กๆน้อยๆ เนื่องจากพิจารณาจากเอกสาร วิดิทัศน์ ฯลฯแล้วยังพบข้อโต้แย้งมากมาย จึงตั้งข้อสงสัยและเรียนถามเพื่อเป็นความรู้กับตัวผมเองและผู้สนใจท่านอื่นต่อไป จากคุณ : Akysar เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 52 03:53:46

ความคิดเห็นที่ 12 แหกตา ไม่ต้องอธิบายให้มากความ จากคุณ : อะธีลาส เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 52 04:08:25

ความคิดเห็นที่ 13   มันเป็น ปุ่มกด สั่งหม้อตุ๋นเป็ดให้เริ่มทำงาน   - -" จากคุณ : chanarajung เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 52 05:22:25

ความคิดเห็นที่ 14 จากแนวคิด  เอาไอ้นี่มาเสียบแล้วชั่งน้ำหนักรถดูก็รู้แล้วสินะ เหอะๆ ไว้เอาไปเสียบสิบล้อตอนขึ้นด่านชั่งน้ำหนักดีกว่า จากคุณ : @jirayu (wsteven) เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 52 05:47:32

ความคิดเห็นที่ 15 โกหกหลอกลวง๑๘มงกุฎ จากคุณ : joe (aircraftdesigner) เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 52 07:30:28

ความคิดเห็นที่ 16 โห ต่อซัก 20 อัน รถผมก็บินได้ซิครับ จากคุณ : kiat10100 เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 52 08:32:32

ความคิดเห็นที่ 17 ยากจะเชื่อ เบื่อจะไว้ใจ ไม่ไหวจะเคลียร์ จากคุณ : vespa744 เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 52 08:37:18

ความคิดเห็นที่ 18 ผมจำได้ว่ารายการ Mega Clever ในปีแรกเคยมีการแสดงเรื่องที่ใช้สนามแม่เหล็กหรือสนามไฟฟ้าทำให้เกิดแรงสามารถยกของได้ ถ้าจำได้ไม่ผิด เขาใช้แม่เหล็กที่มีความเข้้มของสนามสูงมาก ๆ อยู่ในเครื่องหล่อเย็นเพื่อให้มีความต้านทานไฟฟ้าต่ำมาก ๆ ภายในช่องสำหรับใส่ของเข้าไปก็เป็นแค่ช่องเล็ก ๆ พอใส่มะเขือเทศ 1 ลูกได้เท่านั้น เพราะเขาใส่ผลมะเขือเทศเข้าไป ซึ่งผลมะเขือเทศสามารถลอยได้จากแรงสนามแม่เหล็ก (อันนี้ไม่เกี่ยวกับมะเขือเทศเขตร้อน หรือมุมอะซิมุธ) จริง ๆ แล้วมีวิธีประหยัดน้ำมันตั้งเยอะตั้งแยะที่สามารถพิสูจน์ให้ได้จริง ไม่ต้องลงทุนลงแรงอะไรมากมาย เก็บเงินไว้ไปใช้จ่ายเรื่องอื่นดีกว่า [เพิ่มเติม] ถ้าเป็นอย่างรูปใน คห.ที่ 20 ละก็ มันคือ....... แก้ไขเมื่อ 02 ส.ค. 52 11:03:08 จากคุณ : Mr. SJ เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 52 09:02:45

ความคิดเห็นที่ 19 ^ ^ Magnetic levitation งับ พื้นฐานของรถไฟ Maglev อ้างอิง http://www.npfaster.com/review.wmv อืมม ลืมคิดถึงเรื่องนี้ไป มัวแต่คิดสนามแม่เหล็กเป็นหมวกหน้ารถ แจ่มๆ จากคุณ : Akysar เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 52 09:15:36

ความคิดเห็นที่ 20 ถ้าเกิดพิสูจน์ได้จริง  ว่า สามารถ ตัดแรงดึงดูดโลกได้  ผมว่าลองทำแบบนี้ดูได้ไหมครับ ถ้าได้ ผมว่าโลกเราจะเปลี่ยนแปลงอย่างมหาศาลแน่นอน.................. ผมก็อยากช่วยโลกเหมือนกันนะ............................................ จากคุณ : asawavet เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 52 09:47:17

ความคิดเห็นที่ 21 ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr. Fusion เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 52 09:54:09

ความคิดเห็นที่ 22 ทฤษฏี Anti Gravity  รึเปล่าครับ ส่งโนเบลเลยๆ จากคุณ : TagMyZky เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 52 09:56:56

ความคิดเห็นที่ 23 โง่ !!! จะหาวิธ๊โปรโมทสินค้าหรือจ๊ะ จากคุณ : amnuayxp เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 52 10:03:22

ความคิดเห็นที่ 24 ใครกดไฟแดง -*- อย่ากดนะเฟ้ยปล่อยไว้งี้อ่ะ เอาให้มันดับไปเลย จากคุณ : สายลับ>>>มีด เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 52 10:05:36

ความคิดเห็นที่ 25 ผมสงสัยว่า ที่ต่างประเทศ มีสินค้าหลอกลวงแบบนี้บ้างหรือเปล่า แล้วทางการเขาจัดการยังไง ทำไมประเทศไทยถึงปล่อยปะละเลย จากคุณ : (-_-") เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 52 10:10:35

ความคิดเห็นที่ 27 คุณจบที่ไหนมา ม.ปลายสายวิทย์ก็รู้ว่ามันโกหก จากคุณ : Shineokung เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 52 10:20:22

ความคิดเห็นที่ 28   เรียนทุกท่าน ที่ยังสงสัย ถ้าใครแน่จริงก็มาพิสูจน์ การประหยัดน้ำมัน จาก อุปกรณ์ NP Faster เลยครับ ถ้าวิจารณ์อย่างเดียว โดยไม่ได้พิสูจน์ ก็จะไม่เิกิดประโยชน์อะไรเลย ด้วยความเคารพ www.npfaster.com จากคุณ : NPFaster.com เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 52 10:29:27 A:118.172.39.48 X:

ความคิดเห็นที่ 29 อยากให้พิสูจน์ยังไงครับ ด้วยการเสียบรถ แล้วชั่งน้ำหนัก ด้วยการเสียบรถ แล้ววัดสนามแม่เหล็กรอบตัวรถ ด้วยการเสียบรถ แล้ววัด drag coeff ในอุโมงค์ลม จากคุณ : PUFF เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 52 10:59:56

ความคิดเห็นที่ 30 ถ้าคุณภาพเป็นไปอย่างที่กล่าวอ้าง ประหยัดน้ำมันได้จริง ผมว่าก็น่าจะเอาไปเสนอขายให้กับผู้ผลิตรถรายใหญ่ ๆ ดีกว่าที่จะมาขายทีละเครื่องสองเครื่อง ให้เสียเวลา Honda Toyota Nissan Mitsubishi บริษัทใดได้อุปกรณ์ชิ้นนี้ไปติดรถยอดขายคงถล่มทลายแน่ ถ้ามันทำให้ประหยัดน้ำมันได้จริง ไม่ได้กล่าวหาว่ามันใช้ไม่ได้ผล เพราะยังไม่เคยใช้และไม่คิดที่จะใช้ด้วย  เพียงแต่แนะนำให้ จขกท.จับตลาดใหญ่ไว้ก่อน ถ้าได้ผลจริงผู้ประดิษฐ์และ ผลิตจำหน่ายคงรวยไม่เลิก จากคุณ : คนข้างถนน เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 52 11:02:56

ความคิดเห็นที่ 31 พนันกันดีว่า ผมลงข้างแหกตา แสนนึง (เพราะมีแค่นี้) ขอวัดสนามแม่เหล็กรอบรถ ขอวัดน้ำหนักรถด้วย จากคุณ : อะธีลาส เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 52 11:11:11

ความคิดเห็นที่ 32 ถ้ามีของแถมด้วยแจ๋วเลย  น่าจะเหมาะกับคนที่ซื้อนะ........ จากคุณ : asawavet เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 52 11:23:20

ความคิดเห็นที่ 33 อยากรู้ ถ้า เสียบรถ แล้วชั่งน้ำหนัก.. ไม่มีการเปลี่ยนแปลง เสียบรถ แล้ววัดสนามแม่เหล็กรอบตัวรถ.. ไม่มีการเปลี่ยนแปลง เสียบรถ แล้ววัด drag coeff ในอุโมงค์ลม.. ไม่มีการเปลี่ยนแปลง ทางบริษัทจะออกมารับผิดชอบเรียกเก็บสินค้า คืนเงินไหมครับ หรือจะพยายามขายต่อไปเรื่อยๆ โดยอ้างว่าคนใช้ได้ผลจริง ถ้าพิสูจน์ว่ามันใช้ไม่ได้ แต่จะยังขายต่ออยู่ดี แล้วจะทำไปทำไมครับ อีกอย่างหนึ่ง.. ไม่ชอบการดึงเอาพระมายุ่งกับธุรกิจด้วย จากคุณ : PUFF เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 52 11:26:18

ความคิดเห็นที่ 34   เรียนคุณ PUFF ต้องการพิสูจน์ผล การประหยัดน้ำมัน ครับ อัตราการใช้น้ำมัน ระหว่าง ไม่เสียบ NP Faster กับเสียบ NP Faster ว่า มีการสิ้นเปลืองน้ำมันต่างกันยังไงครับ ประหยัดคิดเป็นกี่เปอร์เซ็นต์ วิธีทดสอบ เช่น เอาน้ำมันออกให้หมด เติม 10 ลิตร ไม่เสียบ NP Faster ขับตามปกติ ขับจนน้ำมันหมด บันทึกว่า วิ่งได้กี่ ก.ม. เติม 10 ลิตร เสียบ NP Faster ขับตามปกติ ขับจนน้ำมันหมด วิ่งได้กี่ ก.ม. แล้ว เอาผลมาเปรียบเทียบ คุณก็จะได้ อัตราการประหยัดน้ำมันครับ ขอบคุณมากครับ npfaster.com จากคุณ : npfaster.com เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 52 11:29:43 A:118.172.39.48 X:

ความคิดเห็นที่ 35 ผศ. สมศักดิ์ อินทะไชยนี่ใคร เอาไปขึ้นเขียงได้แล้ว จัดกรรมวิธีทดสอบไม่ตรงตามหลักวิทยาศาสตร์แน่นอน (ไม่ได้สื่อว่าเขาโกหกนะ แค่สื่อว่าพลาด) แล้วสิ่งประดิษฐ์อะไรจดลิขสิทธิ์ได้? จากคุณ : PastelSalad เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 52 11:31:32

ความคิดเห็นที่ 36 ^_^ ... จากคุณ : i_teep เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 52 11:34:19

ความคิดเห็นที่ 37 เขาก็บอกแล้วมันเป็นทฤษฎีแหวกแนวต่างจากที่ทุกท่านเรียนมา ต่อให้ท่านๆจบดอกเตอร์สายวิทย์มาก็มิอาจเข้าถึงทฤษฎีนี้ได้ เพราะฉนั้นอย่าไปโต้แย้งเรื่องทฤษฎี ให้ใช้จินตนาการเท่านั้นในการพิสูจน์ อยากรู้ว่าข้างในมันมีวงจรอะไรมั่ง ใครลงทุนซื้อมาผ่าพิสูจน์ได้ป่ะ จากคุณ : ณปัณณ์ เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 52 11:55:55

ความคิดเห็นที่ 38 อ้างทฤษฎีที่เด็กมัธยมก็รู้ แต่อ้างว่าพวกเราไม่รู้เรื่องหรอก -__-" ไปเชิญคนออกแบบมาเลยครับ ถ้าของมันได้ผลจริงก็น่าจะเปิดเผยการทำงานอยู่แล้ว หรือว่ากลัวอะไรเหรอครับ.... จะชวนไปทดลอง บอกตรงๆว่าผมไม่ว่างครับ มีเรื่องอะไรให้ทำที่มีสาระมากกว่าไป พิสูจน์เรื่องแหกตา ถ้าพิสูจน์แล้วแหกตาจริงก็ขอค่าเสียเวลาให้ผมด้วยดีมั้ยจะได้แฟร์ ไอ้แบบเชิญพิสูจน์ ถ้าจริงผมก็เสียหน้า ถ้าไม่จริงผมก็เสียเวลา ใครจะไปอยาก พิสูจน์ล่ะครับถ้าไม่ว่างจริงๆ ตรรกะง่ายๆแบบนี้คนทั่วไปควรจะเข้าใจได้ครับ ทำไม พวกอัจฉริยะสร้างของที่ควรจะเป็นเทคโนโลยี Ground Breaking ถึงไม่เข้าใจล่ะ.... จากคุณ : Tire Tracks Studio เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 52 12:18:07

ความคิดเห็นที่ 39 วิ่งรอบแรก ไม่เสียบ วิ่งรอบที่สอง เสียบ ในเส้นทางเดิม พื้นที่เดิม แต่ต่างกันตรงที่ รอบแรกขึ้นเขา รอบที่สองลงเขา จากคุณ : Admod เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 52 12:29:08

ความคิดเห็นที่ 40 ม่ายน๊าาาาาา จากคุณ : Admod เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 52 12:35:56

ความคิดเห็นที่ 41 555+ ไม่รู้จะตอบอย่างไรก้อ้าง คุณไม่สามารถเข้าใจได้เพราะเป็ทฤษฎีแนวใหม่ ขำว่ะ จากคุณ : VooDooBoy เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 52 12:42:33

ความคิดเห็นที่ 42 ผู้ที่คิดค้นวิทยาการใหม่ๆ ได้ ในทางวิทยาศาสตร์ ไม่มีพฤติกรรมแปลกๆ แบบนี้หรอก ปัญญาอ่อน จากคุณ : chem chem เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 52 12:43:35

ความคิดเห็นที่ 43   เีรียน ทุกท่านที่เข้ามาอ่านกระทู้ ขอบคุณทุก ๆ ความคิดเห็น และคำแนะนำ ที่เป็นประโยชน์ คนมีปัญญาไม่หลงเชื่ออะไรง่าย ๆ คุณไม่เชื่อก็ดีมากเลยครับ คุณเป็นคนมีปัญญา แต่ปัญญาที่สูงขึ้นไปอีกขั้นคือ การพิสูจน์ ทดสอบว่า ประหยัดน้ำมัน จริง หรือ โม้ ? ซึ่งเรายินดีให้พิสูจน์ เอาไป ทดลองใช้ ฟรี ๆ แม้ว่าจะไม่เชื่อ แต่เราควรพิสูจน์ และเิปิดใจเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ถูกต้องมั้ยครับ ? ด้วยความเคารพ www.npfaster.com จากคุณ : NPFaster.com เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 52 13:06:53 A:118.172.39.48 X:

ความคิดเห็นที่ 44 ถ้าของคุณแน่จริง ก็ส่งมาสิ จะพิสูจน์ให้ ถ้าดีจริง ผมก็จะช่วยป่าวประกาศให้ แต่ต้องส่งให้ผมฟรีนะ เสียตังไม่เอา กลัวได้ของแถมตามคห. 32 ปล. จขกท. ไปเรียนกลศาสตร์ใหม่เหอะ g ต่ำลง แต่มวลไม่ลดลงไปด้วย F ที่ต้องใช้เร่งให้ได้ a ที่ต้องการก็เท่าเดิมอยู่ดี จะลดได้ก็แค่ friction นิดหน่อย ซึ่งที่ความเร็วต่ำ มีผลน้อยอยู่แล้ว แก้ไขเมื่อ 01 ส.ค. 52 13:23:27 จากคุณ : alan the lamb เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 52 13:20:31

ความคิดเห็นที่ 45   เรียนคุณ alan the lamb สินค้า NP Faster ถ้าไม่ประหยัดน้ำมันจริง ไม่มีทางได้ใบรับรองจาก มหาวิทยาลัย ในเมื่อมหาวิทยาลัยรับรองแล้ว แปลว่า ได้ผลการประหยัดน้ำมันจริง เรายินดีให้พิสูจน์ ดังนี้ครับ 1. ถ้าอยู่ใน เชียงใหม่ เราจะเอาของไปให้ทดลองใช้ฟรี 7 วัน เอาไปถึงที่ ฟรี 2. ถ้าอยู่ต่างจังหวัด ให้เข้ามารับไปทดลองใช้ ฟรี ได้ที่สำนักงานของเรา ใน เชียงใหม่ครับ 3. ถ้าอยู่ต่างจังหวัด ต้องการทดลองใช้ ไม่สามารถเดินทางมาได้ โทรมาคุยกันก่อนได้ครับ ปล. ขอบคุณสำหรับคำแนะนำครับ ผมเป็นฝ่าย sale & marketing จึง ไม่จำเป็นต้องไปเรียน กลศาสตร์ ครับ ขอบคุณครับ www.npfaster.com จากคุณ : NPFaster.com เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 52 13:34:49 A:118.172.39.48 X:

ความคิดเห็นที่ 46 จขกท เอาไปโพสไว้ที่ห้องรัชดาอีกซักห้องซิ ห้องนั้นนะคนกล้าลองมีอยู่แล้ว จะได้รู้ไปเลยว่าจะรุ่งหรือจะดับ จากคุณ : poxonline เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 52 13:37:23

ความคิดเห็นที่ 47 เอาง่ายๆ ถ้าการลดขั้นต่ำ 10% ทำอุปกรณ์ที่แผ่รังสีได้เท่าไดชาร์จ (ซึ่งไม่ได้ทำให้ รถหนักขึ้นสักเท่าไหร่เลย) 10 อัน ก็ควรจะทำให้รถลอยได้ครับ.... แรงที่ใช้ในการเคลื่อนมันเป็น Function แปรตามมวลโดยตรงในเมื่อสัมประสิทธิ์ Friction คงที่ เรื่องนี้มันไร้สาระยิ่งกว่าคนกราบควายเผือกขอหวยซะอีก.... จากคุณ : Tire Tracks Studio เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 52 13:46:51

ความคิดเห็นที่ 48   ผมกำลัง งง ไฟฟ้าครับ ตั้งแค่ Maxwell ละ 555 ผมชอบ Maglev สวยดี อ.เอามาสอนเรื่อง Feedback control ^^ จากคุณ : Duk_Dik_Kung เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 52 13:48:15

ความคิดเห็นที่ 49 "NP Faster เป็นสิ่งประดิษฐ์ นวัตถกรรมใหม่ ด้วยทฤษฏีใหม่ที่แหวกแนวออกไปจากแนวคิดทฤษฏีที่ทุกท่านเคยเรียนมา" ^ ^ ทฤษฎีอะไรหรือครับ ถ้าใหม่และดีขนาดนี้ น่าจะได้เข้า IEEExplore เลยนะครับ หรือถ้าไม่ถึง IEEExplore ก็ขอแหล่งอ้างอิงหน่อยได้ไหมครับ เพื่อความน่าเชื่อถือ และสิ่งประดิษฐ์ใหม่และ (คาดว่าคงไม่มี) ขั้นการประดิษฐ์ที่สูงขึ้นแบบนี้ ทำไมไม่ขอจดสิทธิบัตรการประดิษฐ์เลยล่ะครับ ส่วนลิขสิทธิ์นั้นมันรวมไปถึง hardware ด้วยหรอ --" ส่วนในเรื่องการทดสอบการประหยัดน้ำมันนั้น ผลการทดสอบนั้นความน่าเชื่อถือมีต่ำครับ เนื่องจากปัจจัยหลายอย่างที่ควบคุมได้ยาก เช่น ความเร็วในการขับขี่ ของการทดสอบสองครั้งนั้น คงไม่สามารถทำให้เท่ากันได้ตลอดทั้งการทดสอบ ซึ่งจะมีผลต่ออัตราการใช้น้ำมัน และ น้ำหนักเท้าที่เหยียบลงไปบนคันเร่ง ก็คงไม่สามารถทำให้คงที่ได้ตลอดทั้งการทดสอบได้อีกเช่นกัน รวมไปถึงสภาพการจราจรที่จะมีผลเช่นกัน และคงมีปัจจัยอื่นๆ อีกที่ผมยังนึกไม่ออก  ดังนั้น การทดสอบและวัดค่าออกมาในเชิงวิทยาศาสตร์อย่างเช่น การชั่งน้ำหนักเพื่อทดสอบว่ารถเบาขึ้นจริงหรือไม่ หรือการวัดแรงต้านอากาศ สิ่งเหล่านี้ดูน่าเชื่อถือกว่ามากครับ จากคุณ : ขนนกโบยบิน เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 52 13:48:23

ความคิดเห็นที่ 50   เรียนคุณ ขนนกโบยบิน ขอบคุณคำแนะนำครับ เรื่อง ทฤษฏี ต้องถามผู้คิดค้นอีกที NP Faster จะทำงานก็ต่อเมื่อรถกำลังวิ่ง เราจึงไม่สามารถชั่งน้ำหนักรถได้ครับ ขอให้ทุกคนเข้าใจตรงกันว่า ประเด็นไม่ได้อยู่ที่ว่า ใช้ ทฤษฏีอะไร ? ประเด็นคือ ประหยัดน้ำมัน จริง หรือ โม้ ? การทดสอบการประหยัดน้ำมัน แบบง่าย ๆ ที่ทุกคนสามารถเห็นผลได้รวดเร็วทันใจ คือ ใช้รถ รุ่นใหม่ เช่น Vios ที่สามารถดู อัตราการใช้น้ำมันในขณะนั้นได้ ว่า กี่ กม. ต่อ ลิตร โดยการเปรียบเทียบระหว่างใส่ NP Faster กับ ไม่ใส่ NP Faster ที่ความเร็วเท่ากัน ในสถานการณ์เดียวกัน แค่นั้นก็เห็นความแตกต่างชัดเจนแล้วครับ ขอบคุณครับ www.npfaster.com จากคุณ : NPFASTER.COM เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 52 14:11:29 A:118.172.39.48 X:

ความคิดเห็นที่ 51 ทฤษฏีมีคนชี้ประเด็นไปแล้ว ส่วนที่สรุปว่า ประหยัดนี้ หวังว่าไม่ใช่ทำการทดลองแบบเดียวกับกระทู้นี้ http://www.pantip.com/cafe/wahkor/topic/X8008958/X8008958.html จากคุณ : KL เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 52 14:28:08

ความคิดเห็นที่ 52 แหกตาครับ ถ้าจะเอาหลักฐานมายืนยัน คุณต้องเอาผลการทดสอบจากหลายๆสถาบันที่เชื่อถือได้ เช่น กระทรวงพลังงาน มหาวิทยาลัย บริษัทผลิตรถยนต์ วิธีก็ไม่ยากอะไร 1.รถคันหนึ่งดูอัตราการกินน้ำมันโดยการวิ่งแล้ัวจดว่ากินน้ำมันไปเท่าไหร่ เป็นระยะทาง 1000 กม. 2.นำอุปกรณ์ที่ว่ามาเสียบและวิ่งทดสอบดูว่ากินน้ำมันน้อยลงไปเท่าไหร่ 3.ทำแบบนี้อย่างน้อย 5 รอบ แล้วนำสถิติออกมาดูเป็นตัวเลขคำนวณได้ 4.ทดสอบแบบนี้ทุกสถาบันที่เชื่อถือได้ ให้ออกใบรับรองมา แค่นี้แหละครับ พูดลอยๆถึงทฤษฏีจักรวาลหรือฟิสิกส์ควอนตัมไปก็ไร้ประโยชน์ จากคุณ : น้ำปลาเดือนห้า เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 52 16:24:31

ความคิดเห็นที่ 53 ผมลองไปอ่านในเว็บดูแล้ว..... แนวคิดเขาคือ....... ..................... ไดชาร์จรถยนต์ ที่น่าจะเป็นตัวดูดและสะท้อนคลื่นจากไดชาร์จได้ พบแล้ว วิทยุไง เป็นตัวรับคลื่นวิทยุ ที่ดีที่สุด น่าจะเป็นตัวดูดสะท้อนได้ เวลา เราเปิดคลื่น เอเอ็ม จะมีเสียงรบกวนจากกระแสไฟฟ้า เวลาเร่งความเร็ว เสียงหวีดจะมากขึ้นตามการเร่งของรถยนต์ แล้วเราจะรับคลื่นวิทยุได้แต่ฟังไม่รู้เรื่อง แต่วิทยุเอเอ็ม รับได้ไกล กว่า เอฟเอ็ม ปกติการแก้เสียงหวีด ช่างวิทยุจะหาสายไฟมาพันแกนคอยด์ เสียงหวีดจะลดลง คือสร้างกราวด์นั่นเอง ใครก็รู้ว่านั่นคือการแก้ปัญหาวิทยุเอเอ็ม จากภูมิปัญหาช่าง ป.4 นั่นเอง แต่เมื่อรถเก่า และคนก็เปลี่ยนเครื่องเสียงเป็น เอฟเอ็มกันหมดแล้ววิทยุในรถไม่มีเสียงหวีดแล้ว แต่วัตถุประสงค์ของเราต้องการเสียงหวีด สังเกตว่า เอารถไปทดลองวิ่งดู ปรากฏว่า รถเวลาวิ่งมีเสียงหวีด รู้สึกได้ว่า ความเร็วรถดีขึ้น รู้สึกว่ารถมันขับสนุก เบา ออกตัวดี และประหยัดน้ำมันกว่า ก็เริ่มรื้อ วิทยุ คำตอบการตีโจทย์ให้แตก ก็มาพบกันแบบลงตัวว่าคลื่นที่จะดึงเอามาจากไดชาร์จ ให้ตัดคลื่นแม่เหล็กโลกชั่วคราวได้อย่างไร (สังเกตให้ดี ในขณะใช้โทรศัพท์มือถือให้ดี ถ้าเราเปิดวิทยุในรถยนต์ จะมีเสียงคลื่นโทรศัพท์มือถือเข้ามาก่อน เสียงเรียกเข้า ความลับของแม่เหล็กโลก และแรงโน้มถ่วงของโลก มาในรูปคลื่นความถี่ สื่อสารไร้สาย กำลังถูกรบกวน) เมื่อใดที่คลื่นแทรกมาได้ แสดงว่า กำลังเกิดช่องว่างของคลื่นแม่เหล็กโลกนั่นเอง คลื่นจะแทรกทะลวง หรือยิงสัญญาณจากดาวเทียมมายังโทรศัพท์มือถือ ทั้งภาพเสียง ข้อมูล อัศจรรย์ยิ่งนัก    ก็หาจนพบ ตัวที่ทำให้วิทยุ หวีด แกะๆรื้อ จนพบ แต่บางเครื่องมันก็ไม่หวีด ก็เอามาทดลอง แยกส่วน วัดหาค่าต่างๆ ที่คิดว่าน่าจะเป็น และค่าที่ไม่เป็น เยอะมากๆ ที่ใช้ไม่ได้ ไม่ตอบรับ คือไม่หวีด รื้อแล้ว เก็บกลับไม่เหมือนเดิม เรียกว่าฝรั่งทำเกิน ญี่ปุ่นทำครบ คนไทยทำขาด เอาว่าดังรับฟังได้ ก็ทนๆเอา ประกอบเสร็จเหลือ อีกตั้ง 2 ตัว เออเกินมาได้ไง (อ่านแล้วอย่าเครียด เพราะผมเครียดมามากพอแล้ว) ถ้าเอาวิทยุมาติดอีกตัวก็คงไม่มีช่องเสียบนะ เรียกว่าวิทยุประหยัดน้ำมัน คงเทห์ดี ก็เลยเอาเฉพาะส่วนที่สำคัญบางตัวมาดัดแปลง กลายมาเป็นปลั๊กเสียบที่จุดบุหรี่ ได้อย่างลงตัว ---------------------จะอ่านต่อก็ไปดูในเว็บเขาครับ ----------- ผมก็อยากรู้เช่นกัน มันอาจมีอะไรที่คาดไม่ถึงทำให้มันประหยัดได้จริงซ่อนอยู่ ? เพียงแต่หลักการตอนนี้หลายๆ คนในนี้อ่านแล้วยังไม่ยอมรับครับ ต้องหาวิธีทดสอบที่ควบคุมอย่างดีผลจะได้เชื่อถือได้ เท่าที่อ่านดูในเว็บและอีกหลายๆ ที่(ก็คล้ายๆกัน)ก็ยังไม่ได้รายละเอียดหรือหลักการชัดเจนอะไร   แก้ไขเมื่อ 01 ส.ค. 52 16:51:23 จากคุณ : Ph เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 52 16:32:30

ความคิดเห็นที่ 54 ถ้าจะวัดระยะทางแบบที่ทางคุณต้องการ ว่าได้ไกลขึ้น เพื่อควบคุมตัวแปรเรื่องทางลาดชัน แรงปะทะจากลม และอื่นๆ ลองใช้ ไดโนเทส แบบในภาพนี่ก็ได้ครับ  วัดประสิทธิภาพเครื่องยนต์ก่อนว่าแตกต่างจากเดิมหรือไม่......... แก้ไขเมื่อ 01 ส.ค. 52 16:48:34 จากคุณ : Ph เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 52 16:41:35

ความคิดเห็นที่ 55 ผมลองค้นๆ กุเกิ้ลดู ก็มียี่ห้ออื่นๆ อีกครับ ขอเซนเซอร์ชื่อยี่ห้อแล้วกัน แต่ไม่ใช่ของ NP ครับ ของเจ้านี้ ทำรุ่นนี้ชาร์จมือถือได้ด้วย !!!  ราคาเดียวกัน ชาร์จมือถือได้อีกต่างหาก แก้ไขเมื่อ 01 ส.ค. 52 17:29:20 จากคุณ : Ph เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 52 17:27:18

ความคิดเห็นที่ 56 การทดสอบโดยการวิ่งไปรอบๆเมือง มีความคลาดเคลื่อนและตัวแปรที่ควบคุมไม่ได้เยอะ ซึ่งส่งผลกับผลการทดลองและข้อสรุปครับ แค่เวลาต่างกัน (เช้า บ่าย) ลักษณะการจราจรต่างกัน อุณหภูมิต่างกัน พฤติกรรมการขับขี่ต่างกัน ก็ส่งผลกับอัตราการใช้น้ำมันได้ถึง 10% อยู่แล้ว  นี่เป็นเหตุให้เวลาโฆษณารถ เค้าจะบอกอัตราการใช้น้ำมันเป็นการวิ่งนอกเมือง กับการวิ่งในเมือง (และส่วนใหญ่ จะต่างกันเกิน 20%) แถมการทดสอบในลิ้งค์นี้ ตอนติดตั้ง กับตอนไม่ติดตั้ง ใช้ระยะทางทดสอบไม่เท่ากัน ทำไม ??? วิ่งคนละเส้นทางหรือไง ผู้ทำการทดสอบ ก็แสดงความเห็นว่าอาจมีความคลาดเคลื่อนรบกวนมาก ผมถึงเสนอไงครับ ว่าถ้าบริษัทอ้างเรื่องลดน้ำหนัก เรามาชั่งน้ำหนักดูก็ได้ ถ้าบริษัทอ้างเรื่องลดแรงต้าน เรามาวัดแรงต้านอากาศก็ได้ ถ้าบริษัทอ้างเรื่องสนามแม่เหล็ก เรามาวัดสนามแม่เหล็กดูก็ได้ ถ้าอ้างว่าต้องทำตอนรถวิ่ง เรามาจำลองสภาวะ แล้ววัดค่าต่างๆตอนรถวิ่งให้ก็ได้ (อย่าบอกว่าทำไม่ได้นะครับ ไม่งั้นเอามาอ้างได้ไง ทั้งน้ำหนัก ทั้งสนามแม่เหล็ก ทั้งแรงต้าน) ถ้าทำออกมาแล้วไม่แตกต่าง ทางบริษัทก็ไม่สมควรอ้างเรื่องน้ำหนัก สนามแม่เหล็ก แรงต้านตอนเอาของไปขายนะครับ สามารถบอกได้แค่ว่าบริษัทไม่รู้ว่ามันทำงานยังไง แต่คิดว่าน่าจะลดอัตราการใช้น้ำมัน (จะมีคนซื้อไหมเนี่ย ขนาดคนทำยังไม่รู้หลักการเลย) ช่วยบอกด้วยว่าการที่จะให้เครื่องทำงาน รถต้องมีอะไรบ้างเป็นอย่างน้อย ที่เสียบบุหรี่+แบตเตอรี่ พอใช้งานได้ไหม ถ้ามีวงจรในรถเป็นส่วนประกอบให้เครื่องทำงาน ต้องมีวงจรอะไรบ้าง กำลังจะออกแบบการทดลองให้ แก้ไขเมื่อ 01 ส.ค. 52 20:39:45 จากคุณ : PUFF เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 52 20:38:03

ความคิดเห็นที่ 57 . จากคุณ : PUFF เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 52 20:43:36

ความคิดเห็นที่ 58 .. จากคุณ : PUFF เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 52 20:44:31

ความคิดเห็นที่ 59 ถ้าจะทดสอบแบบนี้ เอารถไปขับในลู่วิ่งสนามกีฬาไม่ดีกว่าหรือ จะได้ไม่มีปัญหาเรื่องการจร่าจร ใช้ความเร็วได้คงที่ตลอดระยะเวลาการทดสอบ สะดวกกับสักขีพยานในการทดสอบด้วย จะได้สังเกตุการณ์พฤติกรรมการขับขี่ได้ตลอดเวลา เอาสัก 200 รอบสนาม (80 กม.) ก็น่าจะเพียงพอแล้ว ถ้าทดสอบกันแบบนี้แล้วสามารถประหยัดน้ำมันได้ถึง 10% ก็คงต้องยอมรับ จากคุณ : คนข้างถนน เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 52 21:50:04

ความคิดเห็นที่ 60 เอาวิ่งบนลู่แบบคห. 54 ก็ดีนะครับ  เชื่อว่าบริษัทรถยนต์มีอยู่แล้ว สำหรับทดสอบรถ จากคุณ : delabiere เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 52 22:24:54

ความคิดเห็นที่ 61 จะขายแกง แต่คุณไม่บอกลูกค้าว่า มันทำจากอะไร เนื้ออะไร ผักอะไร ประมาณ ตัก  ๆ ให้กินไปเหอะ มันอาหารหมาชัด ๆ ดังนั้น คุณควรจะมีทฤษฏีที่มันอ้างอิงได้ครับ ไม่ใช่มาบอกว่า พวกผมไม่ต้องรู้หรอกว่ามันทำงานอย่างไร แค่เสียบก็ใช้ได้แล้ว จากคุณ : LPGinSIDE เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 52 23:40:36

ความคิดเห็นที่ 62 ... เข้ามาดูอีกที ดูวงจรแล้วมันคือตัวแปลงไฟในรถยนต์ให้เป็นไฟ 5V ไม่ใช่หรือครับ ผมก็ใช้อยู่ แต่ผมใช้ชาร์จมือถือนะ อันนึงไม่กี่สิบบาท จากคุณ : Mr. Fusion เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 52 23:57:27

ความคิดเห็นที่ 63 วิ่งบนแท่นทดสอบก็ได้ครับ สามารถวัดน้ำหนักไปได้พร้อมกันด้วย กรณีถ้าไม่เวิร์ก การรับผิดชอบไม่น่าจะหยุดที่แค่คืนเงินครับ เราในฐานะผู้บริโภค ต้องขอให้บ.เขาชดเชย เป็นตัวเงินด้วยครับ (ให้ไม่มีต้องเงินไปหลอกใครอีก) แล้วดำเนินคดีกับผู้ที่โดนอ้างถึง ที่รับรองการทดสอบ  ยึดไปประกอบวิชาชีพ แต่อย่างว่า..... อะไรที่เสี่ยงเขามักหาทางออกเอาไว้แล้วเสมอ  ลองมองหาดอกจันเล็กๆ ที่เป็นข้อยกเว้น หรือข้อความระบุประมาณว่า บ.จะไม่รับผิดชอบถ้า.... สิครับมีไหม จากคุณ : กาแลนท์เขียวเมืองนนท์ เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 52 00:17:03

ความคิดเห็นที่ 64   ใจเย็นๆครับทุกคน ผมว่าพวกคุณก็ใจร้อนกันไปหน่อย จขกท. เขาก็บอกอยู่แล้วว่าเขาเป็นแค่คนขาย ไม่ใช่ผู้คิดค้น จะไปรีดเอาอะไรก็คงไม่มีประโยชน์หรอกครับ แล้วที่บอกว่าเสียบแล้ว รถเบาลง มาท้าเหย็งๆให้ชั่งน้ำหนัก นั่นก็ว่ากันตามน้ำไปเรื่อยเปื่อย เพราะเขาไม่ได้บอกว่าเสียบปุ๊บรถเบาปั๊บ แต่มันต้องวิ่งฝ่าสนาม แม่เหล็กก่อนถึงจะเบาลง แล้วเขาก็ไม่ได้บอกว่าจะขาย เขาก็บอกว่า ใครอยากพิสูจน์ ให้เอาไปใช้เลยฟรีๆ ก็แล้วทำไมไม่ลองเอาไปใช้ดูล่ะครับ ไม่ได้ต้อง เสียตังค์ซักกะหน่อย บางคนก็ระแวงไปก่อนซะแล้วว่าจะเอาตังค์ก่อนแล้วจะขอคืนยาก ผมคิดๆ ดูแล้ว ก็ไม่เห็นมีอะไรขัดข้องตรงไหน อยากจะเห็นคนลองพิสูจน์ดูแล้วเอามาเขียนเล่าสู่กันฟังมากกว่า มากกว่าอยากเห็น พวกนักเลงคีย์บอร์ดได้แต่พิมพ์โน่นพิมพ์นี่ แล้วสุดท้ายก็ไม่เห็นทำอะไรซักอย่าง มันจะจริงหรือไม่จริง เค้าก็ค่อนข้างแฟร์ที่ให้ลองใช้ได้ฟรีๆ ผิดกับพวกคุณที่เอาแต่พิมพ์อยู่หลังคีย์บอร์ด ผมว่าไม่แฟร์เลย แก้ไขเมื่อ 02 ส.ค. 52 00:34:41 จากคุณ : ปลากวน เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 52 00:33:42

ความคิดเห็นที่ 65   วิดีโอที่เวบ ดูมาแล้ว ขอบอกว่าช่วยอะไรไม่ได้หรอกครับ ต่อให้มีอาจารย์ มีพระพยอมมาพูด อาจารย์นั้นแน่นอนอยู่แล้วรับเงินแหงๆ และค่อนข้างเซฟตัวเองไม่พูดลึกมาก พูดแบบเดียวกับคนทั่วๆไป แต่การออกใบรับรองอ้างชื่อสถาบัน แถมมีตราสถาบันแปะมาด้วยนี่ ผมว่าถ้าใครจะสอบสวนเอาเรื่องเอาราวน่าจะทำได้ ที่เจ็บใจคือ สถาบันเก่าผมด้วย เกิดอาจานกลายเป็นอาชามขึ้นมา ชื่อเสียงสถาบันผมก็เสียไปด้วยซิ ส่วนพระพยอม ผมว่างานนี้พระโดนหลอกครับ พระพยอมท่านเป็นพระก็จริง แต่ท่านไม่ใช่วิศวกร ท่านไม่ได้เรียนสูงนะครับ ความรู้ ท่านก็ชาวบ้านธรรมดาๆ ท่านจะไปรู้อะไรเรื่องสนามแม่เหล็ก แต่คนที่ถือโอกาสเอาพระมาหากินนี่ระวังหัวจะแหว่ง (นรกกินกบาล) ส่วนพวกตัวประกอบโนเนม ตัดไปได้เลย บอกก่อนนะครับว่า โดยส่วนตัวแล้วผมไม่เชื่อเลยสักนิดเดียวครับ แต่อยากรู้ว่า เค้าทำยังไงถึงยังขายอยู่ได้ เท่าที่พอจะนึกออกน่าจะ เป็น Placebo หรืออุปทาน และคงจะไม่ได้ผลทุกคน ใน 100 คนอาจจะอุปทานแรงกล้าจนประหยัดน้ำมันได้จริงๆ สัก 10 คน ซึ่งผม ว่าเค้าก็ไม่ได้ต้องการทั้ง 100 คนหรอก ดังนั้น ป่วยการที่จะถกเถียงเรื่องทฤษฎีว่าจะเป็นไปได้หรือไม่ ยิ่งพวกคุณไปเถียงกับเค้ามากเท่าไร เค้าจะยิ่งขายดีครับ เค้าไม่จำเป็นต้องโต้ตอบหรืออธิบายอะไรกับคุณเลย ปล่อยไว้ให้คนสงสัยจะยิ่งดีกว่า เพราะจะทำให้มีคนอยากลองเพิ่มขึ้นๆ พวกคุณตกเป็นเครื่องมือการค้าของเค้าแล้วล่ะครับ ทางที่ถูกต้องก็คือ พิสูจน์มันไปเลย อย่าให้มันกำกวมจนคนอื่นตกเป็นเหยื่อ แกะดูข้างใน ถ่ายรูปมาดู แกะวงจร ไม่ใช่มัวแต่ท้าทาย เหย็งๆ ผ่านตัวหนังสือแบบนี้ และบังเอิญรายนี้ค่อนข้างใจป้ำ ท้าให้พิสูจน์ได้ ถ้าเทียบกับพวกลวงโลกอย่างลุงจี้ หรืออีกัปคันกำมะลอห่วยแตก อีพวกนั้นเอาแต่ พ่นๆๆ แต่พอจะขอดูมันชิ่งทุกที แล้วตอนนี้โอกาสก็มาแล้วไม่ใช่หรือครับ เข้ามาตั้งกระทู้ท้าเองเลยด้วยซ้ำ ผมจำได้ว่าคุณ Professor อยู่เชียงใหม่ไม่ใช่หรือครับ ยังไงนัดไปออฟฟิศเค้ากันมั้ยครับ เราก็คนอิเล็กเหมือนกัน ไปเอามาแกะดูกัน ซักตัวดีมั้ยครับ จากคุณ : ปลากวน เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 52 00:38:32

ความคิดเห็นที่ 66 คุณปลากวน ผมก็เด็กตีนดอย เสียชื่อจริงๆ ประทานโทษครับถ้างั้นผมเอาแบตรถยนต์สักลูกนึงกับพัดลมตัวนึง มาต่อกันแล้วเอาไ้อ้ตัวนั้นมาต่อด้วยมันก็น่าจะพยุงตัวผมหนัก 80 โลเหาะขึ้นได้อย่าง่ายดาย จากคุณ : เด็กขายก๋วยจั๊บ เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 52 01:00:04

ความคิดเห็นที่ 67   ไม่ได้ครับ เค้าปิดทางไว้แล้วว่าต้องเอาไปวิ่งตัดสนามแม่เหล็กโลกด้วย ใครไม่ใช่เด็กตีนดอยคงไม่เข้าใจว่า เห็นตราสถาบันที่เคยอยู่บนอกเสื้อเรามาแปะอยู่บนใบรับรองกำมะลอแบบนี้แล้ว มันจี๊ดขนาดไหน งานนี้น่าจะมีคนโดนถอนใบอนุญาตกันมั่งล่ะ แก้ไขเมื่อ 02 ส.ค. 52 01:41:15 จากคุณ : ปลากวน เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 52 01:37:25

ความคิดเห็นที่ 68 ผมว่าเขาเปิดโอกาสให้ทดสอบแล้ว ก็ค่อนข้างแฟร์แบบที่คุณ ปลากวน บอกนั่นล่ะ    แต่จากข้อมูลเท่าที่มีตอนนี้ บอกตามตรงผมยังไม่เชื่อครับ แต่ก็พร้อมที่จะรับฟังและเปลี่ยนความคิดได้หากพิสูจน์ได้ชัดเจนกว่านี้ ถ้าต้องวัดน้ำหนักตอนวิ่ง ....... ติดเซนเซอร์วัดตรงโช้ครถยนต์ได้ไหม สังเกตตอนรถบรรทุกหนักๆ กับบรรทุกเบา(น้ำหนักเปลี่ยน)การยุบตัวของโช้คไม่เท่ากัน    อาจจะติดเซนเซอร์อะไรสักอย่างกับโช้คทุกตัวแล้วบันทึกระยะยืด-หดตัวไว้และแสดงผลแบบ realtime แล้วลองวิ่งไป ไม่ต้องวิ่งจนน้ำมันหมด เอาแค่หาทางวิ่งยาวๆ หน่อย ลองหลายๆ ครั้งระหว่างใช้กับไมใช้เครื่อง(ทำให้รถเบา) อีกประเด็นที่ผมสงสัย(สมมุตว่าไม่เกี่ยวกับเครื่องที่กำลังพูดถึง)  หากผมลองขับเส้นทางเดิม ทุกอย่างเหมือนเดิม แต่มีเพื่อนตัวหนักๆ นั่งมาด้วยอีกสองคน แน่นอนรถหนักขึ้น ถามว่ามันจะเปลืองน้ำมันขึ้นกี่ % (อันนี้ผมไม่รู้จริงๆ ขอถามคนที่รู้ครับ ว) หรือในทางกลับกันก็คือพอส่งเจ้าเพื่อนสองคนนั่นลงจากรถ รถผมจะประหยัดน้ำมันได้สักกี่ % ? (เคสนี้ถ้าเพื่อนลงจากรถ รถเบาลงเกือบ 200 kg แน่ๆโดยไม่ต้องใช้เครื่องมือใดๆ คิดว่าจะประหยัดได้สักกี่ % ? ) กระทู้เก่าเมื่อปลายปี 51 ก็เคยมีคนแกะดู แต่ "ไม่ใช่" รุ่นที่พูดถึงในกระทู้นี้ครับ http://topicstock.pantip.com/ratchada/topicstock/2008/10/V7128825/V7128825.html เครื่องของคุณไม่ต้องกลัวครับ ถ้ามันได้ผลจริงดีจริง ไม่ต้องกลัวการทดสอบใดๆ  การทดสอบมันจะพิสูจน์เอง   หากทำได้จริงคุณขายเครื่องได้แน่นอน แก้ไขเมื่อ 02 ส.ค. 52 12:05:46 แก้ไขเมื่อ 02 ส.ค. 52 03:02:44 แก้ไขเมื่อ 02 ส.ค. 52 02:57:34 จากคุณ : Ph เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 52 02:53:07

ความคิดเห็นที่ 69   เรียน ทุกท่านด้วยความเคารพ ผมมาตั้งกระทู้นี้ ด้วยเจตนาดี ต้องการให้มีการพิสูจน์ หาความจริงว่า NP Faster ประหยัดน้ำมัน จริง หรือ โม้ กัน แน่ ? มีความตั้งใจดีที่จะเอาไปให้ใช้ฟรี ๆ ถึงบ้าน แต่รู้สึกว่าจะได้รับการต้อนรับที่ค่อนข้างอบอุ่นทีเดียว แม้แต่ ทดลองใช้ฟรี ๆ ผมรอมาทั้งวัน ผ่านไป 1 วันแล้ว ยังไม่มีใครสักคนที่ต้องการพิสูจน์เลย ดังนั้น ผมขอสงวนสิทธิ์ในการเลือกผู้ร่วมพิสูจน์นะครับ เพื่อจะได้ผู้ร่วมทดสอบที่มีความเป็นกลาง เหมาะสมกับเจตนารมณ์ของกระทู้ ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาแสดงความคิดเห็น www.npfaster.com ปล. อย่าเชื่อในสิ่งที่ยังไม่ได้พิสูจน์ จงเปิดใจให้กว้าง เพื่อเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ จากคุณ : NPFASTER.COM เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 52 03:09:44 A:118.172.93.233 X:

ความคิดเห็นที่ 70 วิศวกรรมสถาน อยู่ไหนคร้าบบบ กรณีนี้ เข้ามาตรวจสอบแล้วจัดการกับใบอนุญาตเลยดีไหม จากคุณ : สามัญ โยธา (เด็กสร้างบ้าน คนสร้างภาพ) เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 52 03:25:45

ความคิดเห็นที่ 71 เค้าสามารถรวม general relativity กับ electro magnetic เข้าด้วยกันได้แล้ว... คนไทยเทพจริงๆครับ จากคุณ : rOhKJiT เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 52 03:40:21

ความคิดเห็นที่ 72 มาช้าไปหน่อย เคยได้ยินเรื่องพวกนี้ แต่ไม่คิดไม่ฝันว่ามันคือแท่งอะไรก็ไม่รู้ เสียบกับรูจุดบุหรี่ แล้วทำงานได้เหมือนเครื่อง Antigravity ถ้าปรับรถให้ต่อเจ้าเครื่องนี้ได้สัก 100 อัน รถจะบินได้เหมือนจานบินไหมครับ เฮ้อ........... อย่างงี้ต้อง Blind testๆๆๆๆๆ จากคุณ : Geneticist เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 52 06:35:35

ความคิดเห็นที่ 73 อยู่กรุงเทพ  อยากพิสูจน์  แต่ไม่มีรถ -*- ปัจจุบันนั่งคิดเท่าไหร่ก็ยังไม่เข้าใจว่ามันช่วยประหยัดน้ำมันอย่างไร เสียบไปแล้วรถวิ่ง  มันจะสร้างสนามแม่เหล็ก (เอ่อ แล้วพวกสัญญาณมือถือไม่โดนกวนตายโหงเหรอเนี่ย) แล้วรถก็จะเบาขึ้นเพราะสนามแม่เหล็กทำอะไรสักอย่างกับรถ (ยก ?) ซึ่งก็คือว่าเครื่องยนต์ทำงานน้อยลง  แล้วประหยัดน้ำมันมากขึ้น ? ทีนี้ที่งงคือมันสร้างสนามแม่เหล็กได้มากขนาดที่จะทำให้รถเบาขึ้น  โดยไม่กวนระบบอิเลคทรอนิคที่อยู่ในรถเลยหรือ ?  อย่างน้อยๆ  ถ้ารถที่ติดทีวีไว้ข้างใน  ภาพมันจะต้องล้มบ้างแหละ (ถ้าจะบอกว่าสนามแม่เหล็กปล่อยออกมาในปริมาณต่ำ  งั้นเอาแม่เหล็กลูกๆไปติดรอบรถก็น่าจะได้ผลเหมือนกันมั๊ง) แล้วอะไรทำให้ นิวตรอน โปรตรอน และ อิเลคตรอน ที่กระปุกนี้สร้างขึ้น  ส่งพลังในแนวนอน ?  ส่วนตัวผมคิดว่าอันที่จริงแล้วถ้าจะทำอย่างนั้นทั้งที  ให้มันส่งพลังลงล่างเลยดีกว่าไหม  ให้มันสวนกัน  ล้วยกกันไปเลย ฮ่าๆ จากคุณ : @jirayu (wsteven) เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 52 06:42:07

ความคิดเห็นที่ 74 อ้าว สงวนสิทธิ์ผู้ร่วมพิสูจน์ซะแล้ว ไม่อยากพิสูจน์ชั่งน้ำหนักตอนรถวิ่งแล้วหรือครับ จากคุณ : PUFF เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 52 06:50:56

ความคิดเห็นที่ 75 ที่ทดลองให้เติมน้ำมันเต็มถังวิ่งไปนาน    ทำไมไม่เติมขวดหรือหลอดแก้วพลาสติก  เอาแค่   1  ลิตร  เติมแล้ววิ่งจนน้ำมันหมด   1  ลิตร  ได้ระยะทางเท่าไร  เติมใหม่  เสียบปลั๊กแหกตา  เอ๊ย ปลั๊กประหยัดน้ำมัน  แล้วสตาร์ต ออกวิ่งให้หมดน้ำมัน    1  ลิตร  ให้ดีขอใช้ลู่วิ่งสนามกีฬาของ มช. นั่นแหละ จะได้ไม่ต้องเถียงกันว่าต่างสถานที่ ถนนไม่เหมือนกัน  แล้วแจ้งสื่อมวลชนมาทำข่าวให้ครึกโครมไปเลย  เท่านี้ก็พิสูจน์ได้แล้ว  ไม่ต้องไปท้าพิสก พิสูจน์อะไรกับชาวบ้านเขาหรอก  ถ้าน้ำมัน   1  ลิตร  พิสูจน์ไม่ได้ ก็อย่ามาแอบอ้าเลย จากคุณ : ขอนเก่า เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 52 06:52:52

ความคิดเห็นที่ 76 ลงทุนหน่อยทำโปรโมชั่น แจกให้ทดลองเลยสัก 50-100 ตัวถ้าดีจริง คนก็บอกต่อหรือพาเพื่อนมาซื้อ จาก 50 จะขายได้ทวีคูณไปเรื่อยๆ ถ้าดีจริงคนยอมเสียตังค์ซื้ออยู่แล้ว จากคุณ : ฟ้าสาง ที่ฝั่งมูล เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 52 07:37:28

ความคิดเห็นที่ 77 คณะวิศวกรรมและอุตสาหกรรมการเกษตร แม่โจ้ ผู้ทดสอบ ผศ. เสมอขวัญ ตันติกุล ผู้รับรอง ดร. ญาณากร สุทัสนมาลี หัวหน้าภาคฯ นายรชฏ เชื้อวิโรจน์ คณะบดี ตัวใครตัวมันละคร้าบบบบบ ปล่อยออกมาได้ยังไง จากคุณ : PastelSalad เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 52 07:52:34

ความคิดเห็นที่ 78   มันก็เหมือนเรื่องมีดหมอที่ ตี 10 เอามาออกแหละครับ คนที่ไม่เชื่อ ก็ด่าว่าต่างๆนานา แต่กลับ....ไม่กล้าไปพิสูจน์  ซึ่งก็ดีครับ คนที่ไปรักษาจะได้น้อยลง ส่วนผม ไปเลยครับ ขับไปแพร่ อยู่ตั้งแต่ 9 โมงเช้าถึง 3 ทุ่ม พิสูจน์กับตัวเองมาแล้ว ครั้งต่อไปที่ อจ. จะลงมา กทม ก็จะพาแม่ไปรักษาครับ ฉะนั้น ใครไม่เชื่อ ก็ไปพิสูจน์สิครับ ถ้ามันประหยัดได้จริง ก็ค่อยจ่ายเงินเขา อาจจะทดสอบน้ำมันซัก 5 ถัง ก็น่าจะรู้แล้ว ถ้าไม่ประหยัดจริง ก็ส่งคืนเขา แล้วค่อยมาโพส ว่าทดสอบยังไง ไม่ประหยัดยังไง ถึงตอนนั้น ด่าเขาก็ยังทันนี่ครับ ได้ช่วยเพื่อนๆในพันทิพย์ด้วย จากคุณ : Red_Arsenal เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 52 09:09:57

ความคิดเห็นที่ 79 เอามาขายในหว้ากอ ไม่ได้กินหรอก จากคุณ : X~JunioR เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 52 09:40:42

ความคิดเห็นที่ 80 ุุถ้าจริง จะติดสัก 10 อัน รถคงบินได้อ่ะ จากคุณ : =Por= เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 52 09:55:46

ความคิดเห็นที่ 81 "NP Faster ไม่ต้องการจะโต้แย้งกับทางทฤษฏีทุกท่าน" มาไม้นี้ ถึงจะจับผิดได้คาหนังคาเขา เขาก็แถไปเรื่อยล่ะครับ กับวงจรชาร์ทไฟในรถแต่เอามามั่วขายเป็นเครื่องประหยัดน้ำมันเนี่ย อ่านใบรับรอง 56 แล้วขำ ประหยัดน้ำมันเี่กี่ยวอะไรกับใ้ห้ foo sci รับรอง เอะอะจะให้ไปพิสูจน์ อันนี้เป็นกลยุทธการโฆษณามากกว่า ท่าทางจะหลังพิงฝา ขายไม่ออก จึงต้องมาเล่นจุดกระแสแบบนี้ สุ่มเสี่ยงนะครับ แอบขายดีๆไม่ชอบ สงสัยอยากเจ๊งเร็ว เอามาท้าพิสูจน์ที่นี่ เพราะถ้าพิสูจน์ด้วยหลักการทางวิทยาศาสตร์หรือวิศวรรมไม่ได้ มันก็ไม่ต่างอะไรกับสินค้าขายความเชื่อทั้งหลาย แนะนำใ้ห้เปลี่ยนคุณสมบัติสินค้าเป็น เครื่องรางประหยัดน้ำมัน อัตราความประหยัดขึ้นกับศรัทธาของคุณ อะไรแบบนี้ จะดีกว่า ฟันธงใ้้ห้แบบไม่ลังเลครับ ว่ามัน "แหกตา" แก้ไขเมื่อ 02 ส.ค. 52 10:01:47 จากคุณ : zoopod เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 52 09:59:33

ความคิดเห็นที่ 82 อ้างอิง คห.69 ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาแสดงความคิดเห็น www.npfaster.com ปล. อย่าเชื่อในสิ่งที่ยังไม่ได้พิสูจน์ จงเปิดใจให้กว้าง เพื่อเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ จากคุณ : NPFASTER.COM   เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 52 03:09:44 A:118.172.93.233 X:     เค้าว่าใครใจแคบเหรอครับ จากคุณ : หิวข้าวแล้ว เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 52 10:03:31

ความคิดเห็นที่ 83 พิสูจน์กับตัวเองสิครับ น้ำมัน 10 ถัง = เงิน 10,000 ^^" จากคุณ : PUFF เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 52 10:09:15

ความคิดเห็นที่ 84   อยากเห็นผลการทดสอบของคนในห้องครับ ใช้หลักการอะไรไม่ค่อยจะสนครับ ถ้าประหยัดได้จริง+ไม่เป็นอันตรายต่อคน,รถ ก็น่าจะมีคนอยากใช้นะครับ    "ไม่สนว่าแมวจะสีอะไร ขอให้จับหนูได้ก็พอ" จากคุณ : ถูกต้องนะค้าบ เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 52 10:26:39

ความคิดเห็นที่ 85   ผมไม่เชื่อหรอกครับว่าจะทำได้จริง ( ถ้าทำได้จริงก็ดังทั่วโลกแน่ๆ ) แต่ก็มีคำกล่าวที่ว่า อย่าหัวเราะให้กับสิ่งที่วิทยาศาสตร์ยังพิสูจน์ไม่ได้ (หรือไม่ได้พิสูจน์) ฉะนั้นผมจะแอบเผื่อใจไว้ซัก 1% ว่ามันจะทำได้จริงระหว่างรอผลทดสอบละกัน~ จากคุณ : Fuyu เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 52 10:35:45 A:124.122.118.189 X: TicketID:198102

ความคิดเห็นที่ 86   แจ้ง DSI ไปเฉ่งมันเลยดีกว่ามั้ง หลอกลวงหน้าด้านๆ จับทั้งคนคิด คนขาย คนรับรอง ทั้งหมดนั่นเลย จากคุณ : ชาเขียวเข้มๆ เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 52 10:42:11

ความคิดเห็นที่ 87 เท่าที่ผมอ่านมาผมรู้สึกทุกท่านไม่เป็นกลางเลยนะครับ อย่างเช่นบาาง คห ผมเห็นเขียนว่า "แหกตาชัวร์" แล้วตามมาด้วย "การทดลอง ทฤษฏี" บลาๆๆ คุณกำหนดเป้าหมายไว้ในใจ เหมือนประเทศไทยจะเอาอภิสิทธิ์เป็นนายกนั่นแหละครับ ผมว่าลองเปิดใจให้กว้าง หาทีมไปทดลองกันจริงๆจังดีกว่า ผมก็อยากรู้ผลเหมือนกัน ถ้ามันช้ได้จริง เราค่อยมาดูหลักวิศวกรรมกันอีกที หว้ากอก็มีคนเก่งอยู่ไม่น้อย จากคุณ : Admod เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 52 11:03:08

ความคิดเห็นที่ 88 รถจะเบาขึ้นแน่นอน เพราะอย่างน้อยก็ไม่ต้องรับภาระการแบกน้ำหนักสมองคนขับ จากคุณ : รู้สึกตัว เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 52 11:05:11

ความคิดเห็นที่ 89 กระทู้นี้ จะเอาฮากันก็ไม่บอก จากคุณ : wrought เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 52 11:07:08

ความคิดเห็นที่ 90 เราว่าเรื่อง เปิดใจให้กว้างไปลองพิสูจน์ กับทฤษฎี มันไปด้วยกันไม่ได้ยังไงไม่ทราบ เราเองก็รู้สึกดีที่มีคนพยายามหาทางลดการใช้พลังงาน แต่ถ้าเอาทฤษฎีมั่วมาใช้ แล้วท้าให้ลองแบบไม่ค่อยเป็นวิทยาศาสตร์ มันยังไงๆอยู่นะ คล้ายๆ ..... ขายตรงบริษัทนึงเลยอ่ะ 55555 จากคุณ : Tatjang เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 52 11:38:14

ความคิดเห็นที่ 91 ขอแจมหน่อยเถอะ ในฐานะที่ผมขับรถที่ขึ้นชื่อว่ากินน้ำมัน ที่คุณ จขกท บอกไว้ตามความเห็นที่ 45 ว่า "ปล. ขอบคุณสำหรับคำแนะนำครับ ผมเป็นฝ่าย sale & marketing จึง ไม่จำเป็นต้องไปเรียน กลศาสตร์ ครับ" ผมถามกลับว่า หากคุณจะขายของชิ้นนึง คุณไม่จำเป็นต้องรู้จักสินค้าชิ้นนั้นอย่างละเอียดเหรอครับ ถ้าคุณไม่รู้จักสินค้าชิ้นนั้นอย่างละเอียด คุณจะอธิบายลูกค้าได้อย่างไร ที่คุณตอบลูกค้าได้ก็มีแค่ "สคริป" ที่เจ้านายคุณบอกไว้ ขายของอย่างนี้ เจอคนรู้จริงมาถาม ถามไปถามมาก็รู้แล้วครับว่า "ท่องสคริป" ไม่ได้มีความรู้ในตัวสินค้าจริงๆ ----------------- ดูจากวิธีการตลาดแล้ว ด้วยผลการทดสอบ ที่ว่าประหยัดได้ 10% ตัวเลขมันเหมือนเยอะ แต่เอาเข้าจริงๆ ก็แค่เศษทศนิิยม คุณก็พูดได้ว่า ประหยัดตั้ง 10% เชียวนะเฟร้ย แต่คุณก็ไม่มาพูดหรอกว่า เจ้า 10% นั่นหนะคิดเป็น 0.xx ลิตร (ไมุ่ถึงลิตร) ซึ่ง การใช้งานรถปกติ วิ่งบนท้องถนนปกติ ไม่ว่าจะวิ่งถนนไหนก็ตามแต่ มันย่อมมีตัวแปรแตกต่างกันไป ทั้งลม ทั้งสภาพการจราจร ทั้งการขับขี่ ทั้งการบรรทุก (แค่คนขับน้ำหนักเปลี่ยนก็มีผลแล้ว) ซึ่งเหล่านี้ ทำให้การวัดอัตราการกินน้ำมันแต่ละครั้ง จึงไม่เท่ากัน ไม่อย่างนั้น ผู้ผลิตรถยนต์ที่ขายกัน จึงมีตัวเลขที่บอกว่า "อัตราการกินน้ำมัน (เฉลี่ย)" (ก็คือการวัดหลายๆ ครั้งเพื่อหาค่าเฉลี่ย) ไปทำไมหละครับ การทดสอบก็ไม่ได้บอกละเอียดว่าทดสอบยังไง เกิดคุณทดสอบโดยการ ขับรถ 2 รอบ แต่ว่า แต่ละรอบคนขับคนละคน หรือว่า รอบนึงขนของไปด้วย อีกรอบนึงเอาของลงจากรถ มันก็ต่างกัน 10% แล้ว หากพูดย้ำบ่อยๆ ว่า ของผมประหยัด 10% เชียวนะ อยู่แค่นี้ พอคนได้ยิน ก็ตะลึงแล้ว หลักการตลาดง่ายๆ --------------------------------- ผมว่าการทดสอบโดยการขึ้นไดโนเทส ก็น่าจะเป็นวิธีที่ใช้ได้ เพราะไม่มีปัจจัยเรื่องลมเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่ก็ยังมีปัจจัยเรื่องอื่นเข้ามาอยู่ดี แต่ผมว่าปัจจัยอื่นๆ ก็ยังพอควบคุมได้นะครับ ---------------------- จริงๆ รถผมก็ประหยัดน้ำมันขึ้น 10-15% โดยไม่ต้องใช้อุปกรณ์ใดๆ เลย เพียงแค่ ขับช้าๆ ใจเย็นๆ เอาของที่ไม่จำเป็นที่อยู่ท้ายรถออก ขับรถไม่เกิน 110 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เติมลมยางตามที่คู่มือรถแนะนำ ประหยัดเห็นๆ โดยไม่ต้องพึ่งพาอะไร พร้อมพิสูจครับ พร้อมโต้เถียงด้านหลักการด้วย มาพิสูจกับผมมั๊ยหละ จากคุณ : joufo เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 52 12:14:10

ความคิดเห็นที่ 92   หนักใจแทนจขกท.จริงๆครับ นายสั่งให้มาขายของในนี้ หรือว่าไม่รู้เรื่องอะไรเลย เลยทำไปตามความไม่รู้ หรือว่าจริงๆแล้วรู้ อาจจะเป็นทึ่เคยถูกหลอก เลยสมัครบัตรผ่านมาให้บริษัทโดนยำเล่น บริษัทนี้ตั้งมาทำไม ขายอะไร ยังไง คนคิดรู้ดีครับ คนอ่านที่มีความรู้อ่านย่อหน้่าแรกก็ไม่คิดจะลองแล้วครับ คนที่ไม่มีความรู้ก็บอกว่าเปิดใจหน่อยสิ งั้นงี้ ... ผมอ่านดูแล้วก็นะ....ถ้ามันจริงอย่างนั้นอีกไม่นานโลกคงเปลี่ยนไป จขกท.มาจากเชียงใหม่จริงคับเช็ค IP แล้วครับ แก้ไขเมื่อ 02 ส.ค. 52 12:20:57 จากคุณ : bhattee เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 52 12:18:43

ความคิดเห็นที่ 93   เรียน ทุกท่านด้วยความเคารพ ที่เรากล้าท้าให้คุณพิสูจน์ เพราะว่า ลูกค้าของเราทุกคนที่ซื้อไปแล้ว พึงพอใจ ไม่มีใครติดต่อมาขอคืนของเลย ลูกค้าของเรา ไม่ใช่ว่าจะเป็นคนการศึกษาต่ำแล้วหลงเชื่อคำโฆษณานะครับ วันที่ 11 ก.ค. 2552 คุณ สิงห์ชัย พรหมแพทย์ -เจ้าของ บริษัท พงศ์เจริญฟรุตส์เอ็กซ์ปอร์ตอินดัสตรี จำกัด -จบการ มหาวิทยาลัยราชมงคลล้านนา -เป็นเพื่อนสนิทกับท่านอธิการบดีคนปัุจจุบัน สนใจอยากจะพิสูจน์ว่า NP Faster ประหยัดจริงหรือโม้กันแน่ จึงซื้อไปทดลอง เราเอา NP Faster ไปส่งถึงบ้านท่านที่ หน้าวัดพระบาทตากผ้า อ.ป่าซาง จ. ลำพูน หลังจากที่ท่านได้ทดลองใช้แล้ว ก็พอใจมากกับผลการประหยัดน้ำมัน คุณ ณัฐพงษ์ พรหมแพทย์ (ลูกชายของคุณ สิงห์ชัย) - จบจาก มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ - ปัจจุบัน เป็น ผู้จัดการ บริษัท ที.เค เทิรน์ คีย์ จำกัด คุณ ณัฐพงษ์ เมื่อเห็นคุณพ่อใช้แล้วได้ผลดี จึงมาหาซื้อ NP Faster ถึงที่ จาก 2 กรณีนี้ ถ้าไม่ประหยัดน้ำมันจริง ผู้ที่เป็นถึง นักวิศวะ เป็นถึงเจ้าของบริษัท คงจะไม่มาขอซื้อถึงที่ เดิมที กระทู้นี้ ตั้งใจจะแจกฟรี NP Faster ให้ทุกท่านได้ทดลองใช้ เพื่อ พิสูจน์ว่า ประหยัดน้ำมัน จริง หรือ โม้ แต่ ดูจากผู้ตอบกระทู้ส่วนใหญ่ ไม่มีความเป็นกลาง เพราะฉะนั้น ผมขอเปลี่ยนแปลงเงื่อนไข นิดหน่อยนะครับ ทุกคนสามารถรับ NP faster ไปทดลองใช้ได้ ฟรี 15 วัน แต่ ขอเงินมัดจำ 1500 บาท (ราคาปกติ 2500 บาท ที่ต้องมีค่ามัดจำเพราะว่า กลัวของหาย เคยมีหลายคนเอาไปแล้วไม่คืน) คุณมีเวลา ทดลองใช้ฟรี ๆ 15 วัน (ปกติ 7 วัน) แล้วเอา NP Faster มาขอรับเงิน ค่าประกันคืน (เอาของมาคืนเงิน เงื่อนไขการคืนเงินมี 1 ข้อคือ ห้ามแกะ ห้ามทำเสียหาย ถ้าแกะออก จะไม่คืนเงิน ) ใช้แล้วได้เป็นเป็นยังไงบ้าง ก็มาเขียน เล่าสู่กันฟังในนี้ ทุกคนจะได้รู้ความจริงกัน ไม่ต้องห่วงหรอกครับ ว่าจะไม่คืนค่า มัดจำ บริษัทเรา ไม่ยอมเสียชื่อเสียงที่สร้างมายาวนาน ด้วยเงินแค่ 1500 หรอก ครับ ถ้าไม่คืนเงินจริง เชิญฟ้องร้องเลยครับ ด้วยความเคารพ ขอบคุณครับ www.npfaster.com ปล. เหตุผล ข้อเดียวที่เรา กล้าท้าให้ทุกคนพิสูจน์ ด้วยการ ทดลองใช้ เพราะว่า ลูกค้าทุกคนที่ซื้อไปใช้พึงพอใจในคุณภาพของสินค้า จากคุณ : NPFASTER.COM เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 52 12:32:07 A:118.172.1.37 X:

ความคิดเห็นที่ 94 สนับสนุนให้ทดลองอีกเสียงครับ ทฤษฎีกับปฏิบัติมันต่างกันครับ ไว้ถ้าทดลองแล้วมันไม่มีผลจริงๆค่อยมาด่าทีหลังก็ยังไม่สาย แถมเอาเรื่องได้จริงจังมากกว่าด้วย จากคุณ : @Lfa7D เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 52 12:32:36

ความคิดเห็นที่ 95   ขอโทษที่เถอะครับ...ที่นี้ไม่ใช่ห้องขายเครื่องสำอาง เราไม่ได้วัดกันที่ความพึ่งพอใจของลูกค้า แต่ที่นี่ต้องการข้อมูลจากผลการศึกษาทดลองที่เชื่อถือได้ครับ แก้ไขเมื่อ 02 ส.ค. 52 12:37:56 จากคุณ : bhattee เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 52 12:37:12

ความคิดเห็นที่ 96   ผมไม่ได้เรียนมาทางวิศวกรรม แต่ผมเชื่อว่ามันมี วิธีวัดอัตราสิ้นเปลืองของเครื่องยนต์ (หรืออาจจะชื่ออื่น) ที่มันเป็นมาตราฐานในระดับสากล ที่บริษัทรถยนต์ต้องใช้ เพื่ออ้างอิงเวลาพัฒนารถยนต์อยู่ คำว่าท้าให้ลองก่อนมันก็เหมือนการขายอาหารเสริมนั้นแหละครับ ไม่พอใจคืนเงิน กินไปแล้วขาว-ผอม หรือไม่อย่างไร ไม่มีเครื่องมือชี้วัดอะไรที่เชื่อถือสักอย่าง คิดเองเออเองทั้งคนซื้อคนขาย -_-; จากคุณ : bhattee เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 52 12:43:07

ความคิดเห็นที่ 97 ขอโทษครับ  แล้วยังงี้ใช้กับมอเตอร์ไซค์ได้ไหมครับ  เพราะมอเตอร์ไซค์เดี๋ยวนี้บางรุ่นมีที่ชาร์ตแบตใต้เบาะรถแล้วนะครับ  เช่นแอร์เบลด  สเต็ปไฮคลาส บอกนิดนึงครับ จากคุณ : pencilboy เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 52 12:43:23

ความคิดเห็นที่ 98   เรียนคุณ pencilboy สินค้ามีอยู่ 3 ตัว 1 สำหรับ รถยนต์ 2 สำหรับ มอเตอร์ไซต์ 3 สำหรับ รถบรรทุก กระทู้นี้ เจตนารมณ์คือ ท้า พิสูจน์ด้วยการทดลองใช้ฟรี 15 วัน ไม่ใช่กระทู้ขายของครับ ขอบคุณมากครับ www.npfaster.com จากคุณ : NPFASTERCOM เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 52 12:50:19 A:118.172.1.37 X:

ความคิดเห็นที่ 99 ^ ^ ^ ^ ^ เข้าไปดูมาแล้วครับ  ทำไมในเวบมันดู ทื่อๆ ตันๆ อ่ะครับไม่ค่อยบอกรายละเอียดของตัวสินค้าเท่าไหร่เลย จากคุณ : pencilboy เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 52 13:06:14

ความคิดเห็นที่ 100 ผมลองด้วยผมอยู่เชียงใหม่ แต่ทำไมคุณตั้งเป็นคนเลือกผู้ทดสอบเองละ ให้ผมเลือกไม่ได้หรอ ถ้าไปเอาตาสีตาสาที่โดนเป่ามาแล้วก็สบายเลยซิ แต่สนามแม่เหล็กับแรงโน้มถ่วงยังจับมาชนกันได้เลย เมพจริงๆ จากคุณ : ... (Mr.june) เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 52 13:07:02

ความคิดเห็นที่ 101   เรียนคุณ ... (Mr.june) ขอบคุณมากครับ คุณ เป็นคนแรก ที่อาสาสมัครเป็นผู้ทดสอบ เมื่อวานนี้แจกฟรี เอาไปให้ทดลองถึงที่ฟรี ๆ แต่ไม่มีคนสนใจ วันนี้กติกาเปลี่ยนไปนิดนึงตาม ความคิดเห็นที่ 93 ครับ ถ้ายังยืนยันที่จะ พิสูจน์ ด้วยการทดลองใช้ฟรี 15 วัน โทรหาเราเลยครับ 084-0402922 , 086-4289369 ขอบคุณมากครับ ปล. ยังมีใครอยากพิสูจน์อีกมั้ยครับ ? จากคุณ : NPFASTER.COM เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 52 13:19:34 A:118.172.1.37 X:

ความคิดเห็นที่ 102 ^ ^ ผมว่าเขาคงเลือกคนที่เป็นกลางน่ะครับ ไม่ได้มีอคติหรือชื่นชมตัวสินค้ามากเกินไป จากคุณ : Admod เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 52 13:22:32

ความคิดเห็นที่ 103 ถ้าหากใครจะทดลองเครื่อง NPFASTER นี้ ผมขอเสนอให้มีการควบคุมแบบนี้ครับ 1. ตัว NPFASTER จริง 1 เครื่อง 2. ตัว NPFASTER เปล่าๆ 1 อัน คือไม่มีวงจรไฟฟ้าข้างใน โดยดูจากภายนอกต้องเหมือนกับ ข้อ 1 ทุกอย่าง 3. รถที่ทดสอบ ทำเต้าเสียบที่จุดบุหรี่เพิ่มอีก 1 จุด เอาไว้ในห้องเครื่อง หรือไม่ก็ที่เก็บของหลังรถ ไม่ให้คนขับรถมองเห็นว่ามีการติดตั้งหรือไม่ การทดสอบเราก็จะจับคู่อุปกรณ์แบบนี้ 1. รถ + NPFASTER จริง 2. รถ + NPFASTER เปล่า ๆ 3. รถเปล่า ๆ ไม่ติด NPFASTER 4. รถ + NPFASTER ติดไว้ในจุดที่ดัดแปลงเพิ่ม 5. รถ + NPFASTER เปล่าติดตั้งในจุดดัดแปลง จำนวนรอบที่วิ่งเท่า ๆ กันทั้ง 5 วิธีการทดลอง แล้วใช้ผลการทดสอบทั้ง 5 นี้มาเปรียบเทียบกัน ทั้งนี้ในการขับขี่แต่ละครั้ง ผู้ขับรถทดสอบจะต้องไม่ทราบว่ามีการติดตั้ง NPFASTER ในลักษณะใด จากคุณ : Mr. SJ เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 52 13:42:16

ความคิดเห็นที่ 104 ^ ชี้ไปที่ ค.ห. 100 ^ ง่ะ เบลอจัด เผลอไปกด "ถูกใจ" เข้า^^" แก้ไขเมื่อ 02 ส.ค. 52 14:07:09 จากคุณ : niola เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 52 14:06:36

ความคิดเห็นที่ 105 มันจะจบเหมือนหม้อตุ๋นเป็ดในตำนานมั้ยนะ.... จากคุณ : แม่หมาทั้ง4 เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 52 14:32:03

ความคิดเห็นที่ 106 เรื่องนี้ไปที่ห้องรัชดาหรือยังครับ ถ้ายังอิอิ เดี๋ยวยาว เพราะที่รัชดาอาจจะพิสูจน์มากกว่านี้อีก ผมอาสาจะทดลองให้ก็ได้ เงื่อนไขของผมคือ ใช้รถผมเอง รายละเอียดรถผม กระบะนิสสัน บิ๊กเอ็มตอนเดียว เครื่องยนต์รหัส Z16 เบนซิน คาบูเรเตอร์ 84 แรงม้า แรงบิด 136 นิวตันเมตร ใช้งานมาแล้ว 2 แสน 1 หมื่น กว่าๆ กิโลเมตร ก่อนทดสอบ ผมต้องการให้ ถ่ายน้ำมันเครื่อง เปลี่ยนไส้กรองอากาศ ไส้กรองน้ำมัน เพื่อลดตัวแปรด้านความสึกหรอของเครื่องยนต์ กำหนดเส้นทางวิ่ง ถ้าจะให้ดี ผมว่าไม่ควรน้อยกว่า 100 กิโลเมตรต่อเที่ยว เส้นทางเดิม เวลาเดิม ผมให้เอากล่องอะไรมาครอบตรงที่จุดบุหรี่ไว้เลย ผมคนขับจะได้ไม่รู้ว่าเสียบหรือไม่เสียบ ไม่ติดตั้งอุปกรณ์ 3-5เที่ยวว่ากันไป ติดตั้งก็เท่ากัน เอามั้ยล่ะ ผมอาสา เพียงแต่ ออกค่าน้ำมันให้ผม ออกค่าเปลี่ยนของเหลวให้ผม ค่ารถ+ค่าเสียเวลาวันละ 300 บาท จะเชิญสื่อมวลชน สักขีพยานกี่ร้อยชีวิตถ่ายทำก็ตามสะดวก ขับรถตามผมไปเลยก็ได้ แน่หรือไม่แน่ ติดต่อผมหลังไมค์เลย จากคุณ : ก็อยากจะลองเหมือนกัน (johnlee) เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 52 14:59:39

ความคิดเห็นที่ 107 คงกะว่าในนี้มีแต่การโต้แย้งแบบวิทย์ ไม่มีใครรู้เรื่องการตลาดเลยสินะ ถึงได้ดึงดันไม่ยันกับคนอื่นด้านวิทย์ ใช้อ้างเครดิตต่างๆ นานา แค่หลักการยังไม่ถูก คนที่คุณไปยกเครดิตมาอ้างด้วยน่ะ เครดิตสูญสลายพร้อมกัยหลักการที่ไม่กล้าแย้งแล้ว ตอนแรกบอกใครก็ได้ ทดลองได้เลย แต่เชื่อสิ ว่าตอบรับไปก็มีการคัด มีการคุย จะปรับแปลงการทดลองให้ Error ออกมาอย่างที่ตัวเองต้องการ ถ้าเขาไม่ยอมทดลองตามวิธีที่บอก ก็ไม่ให้เขาทดลอง หาว่าเขามีอคติ นี่ผ่านมาวันนึงก็อ้างเอาดีเข้าตัว เราเปิดโอกาสใหญ่หลวงให้แล้ว ไม่รับเอง งั้นเราจะเพิ่มกติกา คัดคน เอา Guilt มาเล่นงาน ฮ่วย สมัครวันแรกก็แบบนี้เหมือนกันแหละ เข้าใจนะว่านายสั่งมาให้มาทำตลาด แต่ระวังถ้าไม่หยุดดีๆ เรื่องมันจะยาวไปสคบ. ไปหากลุ่มมาตราฐานที่ใหญ่กว่าคุณจะรับมือได้ ดูกรณีอื่นๆ เอา ว่าที่พันทิปนี่ไล่ล่ากันถึงไหน คุณยิ่งรุกเข้า เขายิ่งรุกไล่ ไปชั่งใจเอาเองแล้วกันว่าการตลาดแบบที่ทำอยู่นี่มันจะมีผลสะท้อนแบบไหน เล่นกับ mass วิธีนี้อาจจะใช้ได้ แต่เล่นกับกลุ่มคนเฉพาะทางที่มารวมกันแบบนี้ ไม่รู้เหมือนกันว่ามุขเดิมๆ จะได้ผลไหม จากคุณ : Neopunx เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 52 15:13:19

ความคิดเห็นที่ 108 ถ้าเป็น sale & marketing จริง ก็ถือว่าสอบตกล่ะครับ พูดได้เพราะผมทำงานทั้งด้านวิศวกรรรมและ marketing เต็มรูปแบบ มีที่ไหน คนที่เขามารอข้อเท็จจริง คนในนี้โดยมากมีทั้ง Soon to be และ Refusing customer ที่พร้อมจะเปลี่ยนเป็น New Customer ได้ ถ้ามันมีหลักการทำงานที่น่าเชื่อถือและอ้างอิงได้ ไม่ใช่อ้างตัวบุคคล แต่นี่ ไม่มีเลย และที่สำคัญ กลับกลายเป็นว่าคนที่คลางแคลงกลับกลายเป็นคนไม่เป็นกลางไปเสียอีก วิธีการขายแบบนี้ โดยอ้างคนที่ดูน่าเชื่อถือ ไม่ได้อ้างอิงหลักการ นี่มัน MLM ใช้นะครับ คนเป็นหมอ เป็นวิศวะ ก็หันมาขายของเรา เป็น gimmick อมตะไปแล้ว แต่ต้องมัดจำเงินก่อนแล้วของเราไปก่อน เหอๆ ทุกวันนี้ คนเรามันโกหกเพื่อผลประโยชน์กันได้อย่างไม่น่าเชื่อ แม้แต่ในระดับผู้บริหารประเทศ ถ้ามาโพสที่หว้ากอ ผมก็เชื่อว่าคนที่นี้ส่วนมาก ต้องการ หลักการทำงานที่อยู่บนพื้นฐานความเป็นจริงทางวิทยาศาสตร์และวิศวกรรม ของอุปกรณ์ชิ้นนี้ว่าประหยัดน้ำมันได้อย่างไร มิใช่เพียงคำกล่าวอ้างของบุคคลครับ ไม่ว่าจะเป็นครูบาอาจารย์ เจ้าของกิจการ ใครมาจากไหน มาพูด ก็ไม่มีน้ำหนักเท่า "ข้อเท็จจริง" นะครับ แก้ไขเมื่อ 02 ส.ค. 52 15:28:10 แก้ไขเมื่อ 02 ส.ค. 52 15:26:39 จากคุณ : zoopod เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 52 15:23:10

ความคิดเห็นที่ 109 ก่อนไปพิสูจน์ความประหยัดน้ำมันน่ะ ขอผ่าดูไส้ในเครื่องประหยัดน้ำมันเทพเจ้าของท่านก่อนได้เปล่า ขอทัศนาวงจรภายในให้เป็นบุญตาทีเถิดพี่น้อง (เพิ่งจะรู้ว่า IC สำหรับ Charge Battery มันมีคุณวิเศษถึงปานนี้) ถ้าเป็นงั้นจริงเดี๋ยว IC เบอร์นี้ได้ขาดตลาดแหงๆ ฮ่า      ทำไปได้ ผมว่าผมว่าผมแทบจะเห็นเทคโนโลยีรวมไปถึง IC เบอร์ใหม่ๆที่ออกจำหน่ายในท้องตลาดแทบจะทุกตัวนะเออ(ก็ผู้ผลิตอุปกรณ์อิเล็คทรอนิคเขาพิมพ์ส่งให้ลูกค้าทุกเดือน) แต่ดั๊นหลงหูหลงตาไม่เคยเห็น IC วิเศษวงจรอิเล็คทรอนิคเทพเจ้าอย่างนี้ได้อย่างไร ทำงานด้านอิเล็คทรอนิคมานานเพิ่งเคยเห็นเคยได้ยิน หลอกหากินกันง่ายๆยังงี้เลยเหรอ ฮ่า   ด้านเจงๆๆๆๆๆๆ ฮ่าๆๆๆๆๆๆ จากคุณ : เป็นคนควรมีคุณธรรมนะครับ (mang+por) เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 52 15:25:43

ความคิดเห็นที่ 110 ทำไมเจ้าของอุปกรณ์ดังกล่าว ทำไมไม่ให้ หลายๆสถาบันรับรองละครับ และมีการทดสอบแบบจริงจัง ไม่ใช่ท้าให้คนโน้นคนนี้มาทดสอบ เหมือนการทดสอบชิมอาหาร ผมว่าวิธีการมันไม่ถูกต้องนะ จากคุณ : dansivilai เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 52 15:53:17

ความคิดเห็นที่ 111 #101 จขกท ครับ คห.44 เขาขอไปพิสูจน์ก่อนที่คุณจะตั้งกฏขึ้นมาเสียอีก ย้อนขึ้นไปดูได้ครับ คุณน่าจะส่งให้เขาฟรีๆได้นะครับ ในเมื่อตอนนั้นเงื่อนไขยังไม่เปลี่ยนแปลง เขาสมควรจะได้รับการแจกเครื่องมือที่ว่าไปพิสูจน์ฟรีๆครับ อีกอย่างครับ มัดจำ 1500 คุณกลัวถูกขโมยของ ฝ่ายนี้กลัวถูกหลอก ใครมันจะยอมเสียล่ะครับ ตีราคาอุปกรณ์วงจรพิสดารนี้มา บวกกับค่าสมองของคนคิด ที่ถัวเฉลี่ยกำไรไปเยอะแล้ว ลดราคามัดจำลงหน่อยนะครับ เหลือสัก 100-200 ถือว่าคุ้มค่าครับ ถ้าคุณคิดว่ามันใช้ได้จริง เขาเสียเงินไป ต่อให้คุณขาดทุนของเขาคนเดียวก็ยอมหน่อย ขยายตลาดได้กว้างเลยนะครับ ถ้ามีคนพิสูจน์แล้วมันเจ๋งจริง พันทิปนะคนเป็นพันเป็นหมื่น ห้องรัชดาที ขยายตลาดๆๆๆๆๆๆๆ จขกท ท่องไว้ครับ แล้วจัดหนักๆให้ห้องนี้พิสูจน์ฟรีๆซัก 2 3 คน จากคุณ : เครื่องวัดความสวย เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 52 16:17:57

ความคิดเห็นที่ 112   เรียนคุณ ก็อยากจะลองเหมือนกัน (johnlee) ขอบคุณมากครับ ที่คุณอาสาร่วมทดสอบ เจตนารมณ์ของกระทู้นี้ คือ เราต้องการให้มีการพิสูจน์ ด้วยการทดลองใช้ ฟรี 15 วัน ด้วยตัวเอง คุณจะเอาไปทดลองวิธีใหนก็ได้ตามใจคุณ (กติกามีข้อเดียวคือ ห้ามแกะออก ) หลังจาก ทดลองใช้แล้ว เอาสินค้ามาคืนเพื่อรับค่ามัดใจคืนไป แล้วมาเปิดเผยความจริงว่า ผลการทดสอบเป็นไง ? ถ้ายืนยันที่จะทดสอบ โทรมาหาเราเลยครับ เรียนคุณ Neopunx ขอให้เข้าใจตรงกันครับว่า เมื่อวาน แจกให้พิสูจน์ด้วยการทดลองใช้ฟรี เอาไปให้ถึงที่ฟรี แต่ไม่เห็นมีใครบอกว่า ต้องการทดลองใช้แม้แต่คนเดียว วันนี้ กติกามี 1 ข้อ เท่านั้นครับ คือ ขอมัดจำค่าประกันของหาย 1500 บาท เอาของมาคืนเมื่อไหร่ ก็จะคืนเงินให้ทันที อันนี้มันยุติธรรมกับทั้งสองฝ่ายอยู่แล้วครับ คุณลองมองในมุมของผมบ้างสิ ถ้าคุณอยู่ในสถานการณ์แบบผม ถ้าไม่มีเงินประกันของหาย คุณจะมั่นใจได้อย่างไรว่าเค้าจะเอาของไปแล้วจะเอากลับมาคืน ? ขอให้เข้าใจตรงกันด้วยว่า เจตนาของเราคือ ต้องการให้คนเอาไปทดลองใช้งานจริง ว่าผลเป็นยังไง แล้วมาเล่าสู่กันฟัง ถ้าไม่ประหยัดจริง ค่อยมาด่าก็ยังไม่สาย เรียนคุณ zoopod เนื่องจากที่บางโพสบอกว่า มีแต่คนโง่ที่จะมาใช้สินค้าของเรา ผมจึงจำเป็นต้องบอกข้อเท็จจริงไปว่า แม้แต่ คนจบ วิศวะ เป็นถึง ประธานบริษัท ก็มาขอซื้อ ถึงที่ สาระสำคัญของกระทู้นี้ อยู่ที่ ประหยัดน้ำมันจริงหรือโม้ ? คุณพูดพูดต้องเลยครับ ข้อเท็จจริง สำคัญ ที่สุด ผมถึงบอกไง ถ้าอยากรู้ข้อเท็จจริง ว่า ประหยัดน้ำมัน จริงหรือโม้ ก็เอาไปทดลองใช้ฟรี ๆ 15 วัน ถ้าไม่ประหยัดจริง ค่อยมาด่าก็ยังไม่สาย เรียนคุณ เป็นคนควรมีคุณธรรมนะครับ (mang+por) จริง ๆ แล้ว ไม่ได้ใช้อุปกรณ์วิเศษอะไรหรอกครับ ใช้ IC ทั่วไปนี่แหละ แต่ประเด็นอยู่ที่ว่า ประหยัดน้ำมัน จริง หรือ โม้ ? ประดิษฐ์ออกมาแบบง่าย ๆ แต่ที่วิเศษ คือ ประหยัดน้ำมัน ช่วงที่เราเปิดขายใหม่ ๆ ขายดีมาก อุปกรณ์ประหยัดน้ำมันแนวเดียวกันนี้ มีอีก 4 ยี่ห้อ เดิมทีพวกเค้าก็เป็นตัวแทนจำหน่าย NP Faster แต่พอเค้าผ่า NP Faster ดูเสร็จ ก็ประดิษฐ์ออกมาขายแข่ง ทั้ง 4 ยี่ห้อ อยู่ในเชียงใหม่ทั้งหมดครับ ขอบคุณทุก ๆ ความคิดเห็นครับ www.npfaster.com จากคุณ : NPFASTER.COM เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 52 16:21:46 A:118.172.1.37 X:

ความคิดเห็นที่ 113 #ถ้าคุณอยู่ในสถานการณ์แบบผม ถ้าไม่มีเงินประกันของหาย คุณจะมั่นใจได้อย่างไรว่าเค้าจะเอาของไปแล้วจะเอากลับมาคืน ? เปลี่ยนคำพูดหน่อยนึง #ถ้าคุณอยู่ในสถานการณ์แบบผม ถ้าของของคุณไม่ได้เรื่อง คุณจะมั่นใจได้อย่างไรว่าเค้าจะเอาเงินไปแล้วจะเอากลับมาคืน? สถานการณ์ไม่ต่างกันครับ ถึงคุณประกาศปาวๆว่ายินดีคืนเงิน สถานการณ์ก็ไม่ได้ต่างกันเลย เหมือนพูดว่า เอามาให้ผมพิสูจน์ฟรีสิครับ ดีหรือไม่ดี ผมยินดีคืนของ จากคุณ : เครื่องวัดความสวย เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 52 16:34:14