ความคิดเห็นที่ 1 เคยเห็นแต่เครื่องตำข้าวเม่าอ่ะ ตามในห้างเห็นมีโชว์อยู่ ตามร้านขายข้าวเม่าอ่ะ ส่วนถ้าจะตำส้มตำก็น่าจะได้นะ แต่คงช้าเกินไปอ่ะกว่าจะได้กินคงเซ็งกันพอดี จากคุณ : sanchai0045 เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 52 23:27:51

ความคิดเห็นที่ 2 เขาเรียกว่า...ครกกระเดื่อง... จากคุณ : เบิ้มจัง เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 52 23:33:30

ความคิดเห็นที่ 3 น่าจะได้นะคะ แต่เท่าที่เห็นและพอจะเรียกว่าเป็นกลไกได้ก็ ครกกระเดื่อง แล้วก็ยังมีเครื่องปั่นที่ใช้แทนครกได้ ยกเว้นทำอาหารบางอย่างไม่สามารถใช้เครื่องปั่นแทนได้ อย่าง ส้มตำ แก้ไขเมื่อ 10 ส.ค. 52 23:47:12 จากคุณ : Matriarchal Miaw เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 52 23:45:14

ความคิดเห็นที่ 4 ก็มีแล้วนี่ครับ แบบหมุนได้ ควงได้ สั่นได้ แต่ไม่ได้ใช้ตำน้ำพริกนะ ^__^' จากคุณ : Tire Tracks Studio เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 52 23:45:49

ความคิดเห็นที่ 5 จากคุณ : DigiTaL-KRASH!!! เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 52 00:14:03

ความคิดเห็นที่ 6 คนที่ไม่ใช่แฟน ทำแทนให้กันไม่ได้... ดังนั้น ครก กับสาก ไม่อาจพรากกันได้ แต่หากสากไปใช้กับครกอันอื่น ก็อาจพรากจากโลกนี้ไปได้ไม่ยาก อิอิอิ สำหรับ ส้มตำ ใช้ครกไม้ หรือครกดิน กับสากไม้ ได้รสชาติมากกว่าอย่างอื่น ๆ สำหรับน้ำพริก ใช้ครกหิน กับสากหิน จะอร่อยมากมาย สำหรับครกหิน กับสากหินแล้ว สามารถใช้เลือกคู่ได้อีก หากหญิงสาวโสดนางใด ตำน้ำพริกเสียงดังจากปากซอยยันท้ายซอยได้ หญิงนางนั้นจะเป็นที่หมายปองของหนุ่ม ๆ ทั้งหลาย อิอิอิ จากคุณ : @==ไข่ดำ==@ เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 52 01:07:53

ความคิดเห็นที่ 7 ไม่น่าจะใช้กันในเฉพาะ เอเซียนะครับ matrix3 ยังตะบันดินปะสิว (หรือเปล่า) เพื่อทำระเบิดเลยนะ จากคุณ : แมงหวาน (mangwan) เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 52 01:14:05

ความคิดเห็นที่ 8   ถ้าจะให้เท่ากับจังหวะของคนเลยนั้นไม่มีทาง เพราะ คนไม่สามารถรักษาจังหวะในการตำได้เลย แต่ถ้าจะเอาแค่ตำเป็นจังหวะที่เท่ากันสม่ำเสมอตลอดเวลานั้น ไม่ใช่เรื่องยากอะไรเลย หลักการครกกระเดื่องนั้น จะใช้คนเหยียบ ปั่น ใช้น้ำไหลผ่านให้ทำงานได้เอง ใช้กระแสลม ฤ จะใช้วิธีอื่นๆ ก็ทำได้ตั้งแต่สมัยโบราณแล้วละครับ 666 จากคุณ : monsungja เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 52 02:10:29

ความคิดเห็นที่ 9 ยังไม่มีครับ ครกกระเดื่องอาจจะใกล้เคียง แต่ครกมือ ไม่มีแน่ เพราะคนมีการเพิ่มน้ำหนักในการตำด้วย หรือบางทีตำเอียงซ้าย เอียงขวาได้ด้วย จากคุณ : unimox เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 52 20:12:08

ความคิดเห็นที่ 10 ฟันธง: คนถาม และคนตอบส่วนใหญ่ ไม่เคยทำกับข้าว การตำ .. ไม่ใช่แค่ยกสากขึ้น แล้วทิ่งลงไปให้ชนของในครกเท่านั้น มันมีมากกว่านั้น จะเห็นได้ว่า .. ไม่มีใครใช้่ครกหิน ตำส้มตำ ครกไม้ สากไม้ นอกจากน้ำหนักเบาแล้ว ยังให้เราใช้น้ำหนักที่"เบา" ในการ"กระแทก"เส้นมะละกอ ให้พอบุบๆ แตก มีกลิ่นหอมหวล และน้ำหนักที่เบานั้น "อัด" เครื่องปรุงเข้าไปในเส้นมะละกอ ------- ครกหิน และสากหิน น้ำหนักมาก เนื้อเนียน แรงกระแทก จะทำให้เซลล์แตกละเอียด รวมทั้งผนังเซลล์ด้วย ปลดปล่อย aromatic compound ออกจากเซลล์และผนังเซลล์ การตำน้ำพริกด้วยครกหิน เฟสแรก .. เครื่องปรุงยังอยู่หนา แรงกระแทกจะทำให้เครื่องปรุงทั้งหมด แตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย ใส่แรงลงไปเยอะๆ ก็เสียเปล่า แต่พอเฟสหลัง .. เครื่องปรุงจะอยู่ในสภาพผงเล็ก ไม่มีอะไรขวางระหว่างครกกับสาก คราวนี้ ตำเหนื่อย แต่ทำให้อร่อย ก่อนไปถึงเฟสสุดท้าย .. พวกมะเขือ หรือ พริก ที่ตำแค่พอบุบ ตรงนี้ต้องลดแรงกระแทกลงมากๆ และตำแบบว่า .. เพื่ออัดน้ำพริกเข้าไปในเนื้อ เครื่องกล ทำได้ไหมหละ ------------- เครื่องแกงที่เกิดจากการปั่น เป็นการ"ตัด" ชิ้นส่วนเครื่องปรุง ด้วยความเร็วสูง เซลล์และผนังเซลล์ฺไม่แตก .. ทำให้ไม่ค่อยหอม-อร่อย แถมความร้อนจากการเสียดสี ยังทำให้น้ำมันหอมระเหยในเครื่องครัว ระเหยหายไปกว่าครึ่ง .. ไม่หอม ไม่อร่อย เศษไฟเบอร์ และองค์ประกอบอื่นๆ ที่เกิดจาก"แรงกระแทก" ... ทำให้เกิดกลิ่นไม่ค่อยอร่อยแถม น้ำพริกครกหิน จึงอร่อยด้วยประการละฉะนี้แล เราสามาร จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง เขียนเมื่อ : วันแม่แห่งชาติ 09:13:34

ความคิดเห็นที่ 11   ตาม คห10 ถ้าเป็น ทฤษฏีก็เป็นไปตามนั้น ส่วนปฏิบัติ ถ้าทำเฉพาะกินเองก็พอไหว ส่วนถ้าจะทำเป็นแมสโปรดัก ก็เห็นใช้เครื่องกันเป็นแถว ดังนั้น เรื่องรายละเอียดในแต่ละขั้นตอนเพื่อเพิ่มความอร่อยเหมือนสมัยก่อนก็ต้องทำใจครับ 666 จากคุณ : monsungja เขียนเมื่อ : วันแม่แห่งชาติ 12:05:22

ความคิดเห็นที่ 12 สรุปจาก#10 ครกมีจุดเด่นที่ทำให้ผนังเซลล์แตก และอัดเครื่องปรุงเข้ากับส่วนประกอบได้ ุ จากคุณ : HWalker เขียนเมื่อ : วันแม่แห่งชาติ 16:31:39