 |
ความคิดเห็นที่ 1 |
ณ ดินเเดนเเห่งหนึ่งที่มีชื่อเรียกว่า 'โลก' [ตอนที่สอง]
http://www.pantip.com/cafe/wahkor/topic/X5718574/X5718574.html
ความเดิม ...
โลก กำลังเดินไปสู่หายนะ อารยธรรมกำลังเข้าขั้นวิกฤต แต่สมาคมลับ หว้ากอ ได้จัดประชุมขึ้นอย่างเงียบๆ หลังจากที่ประชุมเกิดความขลุกขลักเนื่องจากภาวะดิจิตอลเดี้ยงอย่างเฉียบพลัน ของเดวิด(ซึ่งถูกลากออกไปซ่อมโดยบุคคลนิรนาม) ก็มีการเสนอแนะแนวทางแก้ไขปัญหาโลกร้อนต่างๆนานาในที่ประชุม โดยเฉพาะแนวคิดของสมาชิกโค้ดเนม Professor และแนวคิดอื่นๆ ซึ่งต่อมา เซียนแห่งMath ก็ออกมาแสดงความกังขาถึงหน้าที่ความรับผิดชอบอันหนักอึ้งนี้ว่า ใครจะเป็นคนทำเมกะโปรเจ็คดังกล่าวให้ได้ผลสำเร็จ ....
==========================================
Mr.Terran ผลุดลุกขึ้นทันที เขาควักธนบัตรปึกใหญ่ออกมา ดูแล้วไม่น่าจะต่ำกว่าแสนบาท ชายหนุ่มยักคิ้วแผล็บแล้วฉีกปึกธนบัตรออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย ท่ามกลางที่ประชุมที่มองอย่างไม่เชื่อสายตา
"ถ้าเรื่องทุนไม่ต้องห่วง ผม Mr.Terran ไทยแท้ จะเป็นคนสนับสนุนงบประมาณให้ทุกท่านเอง" เขาโค้งให้กับเสียงปรบมือกึกก้องจากที่ประชุม
อา เสี่ย Terran ไทยแท้ เจ้าของร่างสูงชะลูดเห็นอะไรทางหางตาแวบๆ เขาหันขวับไปทันทีแล้วทำตาเขียวกับ กิ้มกุ่ม โหระพากุล ที่กำลังนั่งเก็บเศษธนบัตรอยู่อย่างขะมักเขม้น
ฝ่ายที่โดนจ้องสะดุ้งเฮือก ยกนิ้วใส่ปากกัดแล้วแกว่งแขนไปมา
"นายเก็บทำไม" อาเสี่ยถาม ถลึงตาจ้อง
"รับ ประทานผมเก็บไว้เพื่อจะได้มีทรัพย์เหมือนอาเสี่ย ที่รวยที่สุดในประเทศไทยไงขอรับ" นายกิ้มกุ่มตอบ ยิ้มแห้งๆ "ขึ้นชื่อว่าอาเสี่ยแล้ว ต้องแบงค์ดีๆทั้งนั้น รับประทานไม่มีแบงค์กงเต็กแน่นอน"
เสี่ย Terran ยิ้มแก้มแทบแตก เขาตบไหล่กิ้มกุ่มแล้วพูดว่า "เออ-ดี งั้นเก็บไปเถอะตามสบาย"
อาเสี่ยหันกลับมาหาที่ประชุม พลางกล่าวว่า
"ผม เห็นด้วยกับการสร้างเรือเหาะเพื่อดึงมลภาวะจากบรรยากาศชั้นบน แต่เราต้องมองทางแก้ที่ง่ายกว่านั้นเสียก่อน ผมขออนุญาตที่ประชุม แนะนำวิศวกรที่ปรึกษาของผม คุณอิฐมอญ..."
ไฟสปอตไลท์สองสามดวงสาด ส่องลงมาต้องร่างใครคนหนึ่ง ที่ซ่อนตัวอยู่ภายใต้ผ้าคลุมเปลี่ยนเฟส แสงที่เลี้ยงเบนเมื่อต้องร่าง ทำให้ร่างของเขากลืนไปกับฉากหลังของห้อง
"สวัสดีครับทุกท่าน ผมชื่อ อิฐมอญ" ร่างนั้นกล่าวแก่ที่ประชุม เสียงดังกังวาน
"ผม คิดว่า ทางเดียวที่จะแก้ปัญหาโลกร้อน และช่วยบรรเทาผลกระทบเรื่องผืนดินที่กำลังจะจมเนื่องจากน้ำทะเลที่สูงขึ้น และที่อยู่อาศัยของประชากรคนไทยในศตวรรษที่ 22 ไปด้วยในตัว คือการก่อสร้างสมุทรนคร(Ocean City/Floating City) ครับ"
"หลายท่าน คงไม่ทราบว่า สมุทรนครคืออะไร สมุทรนครคือเมืองทั้งเมืองที่สร้างให้ลอยอยู่ในมหาสมุทร โดยอาศัยพลังงานจากความแตกต่างของระดับอุณหภูมิน้ำในทะเลระดับตื้น และระดับลึก ในการกำเนิดกระแสไฟฟ้า พร้อมด้วยพื้นที่ที่ใช้เป็นฟาร์มปลา กุ้ง ยีสต์ และสาหร่าย พอเพียงกับการเลี้ยงประชากรได้ทั้งจังหวัดในแต่ละเมือง"
วิศวกรลึกลับนามอิฐมอญหันไปคว้าโอเลี้ยงมาดูด แล้วกล่าวต่อแก่ที่ประชุม
"รูป ที่เห็นนี้เรียกว่า Open Cycle Ocean Thermal Energy Converter หรือ OTEC ซึ่งเป็นเครื่องกำเนิดพลังงานจากน้ำทะเลที่มีระดับอุณหภูมิต่างกันครับ"
"สำหรับ องค์ประกอบในภาพ A คือ Evaporator, B คือ Demister หรือตัวกำจัดหมอก, C คือ ตัวปั่นไฟหรือ Generator, D คือส่วนของใบจักรเทอร์ไบน์, E คือส่วนของท่อคอนเดนเซอร์, F เป็นส่วนกักเก็บน้ำจืด, G คือส่วนที่จะนำน้ำเย็นจากใต้ทะเลลึกขึ้นมา, H คือส่วนที่จะปลดปล่อยเอาน้ำเย็นจากทะเลลึกที่ใช้แล้วกลับออกไป, I คือส่วนปล่อยน้ำอุ่นจากผิวทะเลที่ใช้แล้วกลับออกไป, J คือผนังเกราะหุ้มของยูนิต OTEC Platform, K มองไม่เห็นแล้วครับ แต่นั่นคือคนตัวเล็กๆเมื่อเทียบกับ OTEC, L คือท่อนำน้ำอุ่นจากผิวทะเลเข้ามาใช้งาน"
Free Photo hosting by PhotoLava.com
จากคุณ : DigiTaL-KRASH!!!
"เคล็ด ลับของกลไกนี้คือการใช้ห้องความดันต่ำครับ เนื่องจากจุดเดือดของของเหลวใดๆจะขึ้นกับความดัน ดังนั้นน้ำทะเลอุ่นๆจะถูกนำเข้ามาในห้องสุญญากาศที่มีความดันราว 0.43 psi ซึ่งบางส่วนของน้ำอุ่นจะกลายเป็นไอน้ำอุณหภูมิต่ำ (การที่มีความดันและอุณหภูมิต่ำหมายความว่า "ไอน้ำ" ในที่นี้จะเป็นแค่ไอของน้ำเท่านั้น ไม่ใช่ไอน้ำร้อน ดังนั้นห้อง A จึงเรียกว่าห้องระเหย(Evaporator) แทนที่จะเรียกว่า หม้อต้ม(Boiler) ครับ ส่วนน้ำทะเลอุ่นส่วนเกินที่เหลือจาการระเหยจะถูกปล่อยทิ้งไป" อิฐมอญกล่าวต่อที่ประชุมที่กำลังให้ความสนใจมองภาพฉายกลางอากาศ
เขา พยักหน้าให้ที่ประชุมพลางก้มลงหยิบชอล์กเขวี้ยงไปที่ Jinx D Wednesday ที่กำลังนอนหลับอุตุอยู่ ฝ่ายหลังสะดุ้งตื่น แล้วหันหน้ามองคนรอบข้างเลิกลั่ก
"หลังจากนั้นไอน้ำที่ได้จะวิ่งผ่าน เข้าไปยังส่วนของเทอร์ไบน์เพื่อหมุนปั่นไฟด้วยตัวปั่นไฟครับ หลังจากออกจากเทอร์ไบน์แล้ว ไอน้ำจะถูกควบแน่นด้วยน้ำเย็นจากทะเลลึกจนกลายเป็นน้ำกลั่นที่เป็นน้ำจืด เก็บไว้ในส่วน F ซึ่งเป็นส่วนเก็บน้ำจืด ซึ่งจากการเปลี่ยนวัฏภาคนี่เอง ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงความดันภายในระบบทั้งระบบ สร้างสภาพสุญญากาศที่จะทำให้น้ำทะเลอุ่นๆจากผิวทะเลที่เข้ามาในภายหลังระเหย ต่อไป"
"ตัวสมุทรนครจะลอยตัวอยู่บนผิวทะเล โดยมีท่อดึงน้ำเย็นของ OTEC จากระดับลึกดังรูปแผนผังด้านข้างของสมุทรนครนะครับ เราจะเห็นได้ถึงองค์ประกอบอื่นๆด้วยในรูปนี้ ทั้งสมอที่ใช้ยึดทั้งนครกับพื้นสมุทร และส่วนของ "ชายหาด" เทียม หอระฟ้าตรงกลาง ส่วนกั้นคลื่น และส่วนของที่อยู่อาศัยใต้ระดับน้ำ"
Free Photo hosting by PhotoLava.com
จากคุณ : DigiTaL-KRASH!!!
"ส่วน ต่างๆที่สร้างขึ้นของสมุทรนครอะควาเรียส จะเป็นรูปแบบ Hexagonal Grid เพราะความแข็งแรงด้านโครงสร้างที่คล้ายรวงผึ้ง และการจัดเรียงตัวแบบนี้ของโครงสร้างหลายประการในธรรมชาติ เช่นโครงสร้างของฟองเบียร์ โดยมีส่วนของหอระฟ้ากลางเกาะสมุทรนครที่สูงที่สุด ล้อมรอบไปด้วยคอลัมน์ที่ล้อมเป็นวงแหวนถึงแปดชั้นโดยแต่ละชั้นจะมีความสูง ไล่ระดับลงมาจากชั้นก่อนหน้านั้นโดยอัตราส่วน natural fibonacci number ทำให้เกิดสมดุลทั้งความสวยงามทางกายภาพของโครงสร้างลอยน้ำขนาดยักษ์นี้ และเสถียรภาพทางพลศาสตร์"
Free Photo hosting by PhotoLava.com
จากคุณ : DigiTaL-KRASH!!!
"จาก หอคอยชั้นในที่เราเรียกว่าส่วนโครงสร้างพื้นผิวหรือ surface structure จะมีการสร้างโครงสร้างต่อออกไปอีก เพื่อทำฟาร์มเลี้ยงชีวมวลที่จำเป็นต่อระบบนิเวศน์ และเศรษฐกิจของทั้งนคร ดังภาพครับ" อิฐมอญกล่าวพลางขยับจะขว้างชอล์กไปที่ Jinx D อีก แต่คราวนี้ Jinx D ไหวตัวทันไม่ได้หลับ เขาจึงหันมากล่าวต่อแก่ที่ประชุม
"ใครมีข้อสงสัยในเรื่องการก่อสร้างไหมครับ"
"ผมเห็นว่ามันเป็นเรื่องที่ดี และน่าทำ" เงาร่างในความมืดสลัวลางของห้องประชุมกล่าว ป้ายชื่อที่ติดโต๊ะระบุนาม ... MaSaChi ...
"หาก แต่คุณจะเอาวัสดุมาจากไหนมากมายในการสร้างโครงสร้างขนาดยักษ์นี้ ปูนซิเมนต์จำนวนมากที่ต้องใช้ ไม่ทำให้ธรรมชาติยิ่งถูกทำลายมากขึ้นไปอีกหรือ" เขากล่าวต่อที่ประชุมด้วยน้ำเสียงเจือความกังขา
Free Photo hosting by PhotoLava.com
จากคุณ : DigiTaL-KRASH!!!
อิฐมอญยิ้มแป้น เขากล่าวกับ MaSaChi ว่า
"ปัญหา ที่คุณ MaSaChi เป็นห่วง ได้รับการคิดเอาไว้แล้วครับ ปูนซิเมนต์และวัสดุอื่นๆในการก่อสร้าง จะใช้ในขั้นต้นเท่านั้น แต่ที่เหลือเราจะอาศัยการ "ปลูก" โครงสร้าง ให้งอกออกไปในทะเลด้วยกระแสไฟฟ้าที่ได้มาจาก OTEC"
เมื่อเห็นอีกฝ่ายตีสีหน้ากังขา เขาจึงอธิบายเพิ่ม
"คือ แบบนี้นะครับ เราจะใช้ขั้วไฟฟ้าทั้งแอโนด และแคโธด ไปต่อเข้ากับตะแกรง โดยน้ำทะเลจะทำตัวเป็นสารละลายอิเลกโตรไลต์ และคาร์บอนไดออกไซด์จากชั้นบรรยากาศที่มีละลายอยู่ในน้ำทะเลจะค่อยๆถูก เปลี่ยนเป็นหินปูนเกาะตัวกับตะแกรงโลหะที่ได้ออกแบบมาเป็นพิเศษครับ ดังสมการเคมีในรูป"
Free Photo hosting by PhotoLava.com
จากคุณ : DigiTaL-KRASH!!!
"และนี่คือภาพวาดของจิตรกร แสดงภาพสมุทรนคร หลังจากที่มันสร้างเสร็จแล้วครับ"
อิฐมอญฉายภาพนครที่สวยงามสีขาวสะอาด ภายใต้ชื่อโปรเจ็ค อควาเรียส หรือชื่อไทย "นวสมุทรปราการ" ให้แก่ที่ประชุม
ที่ ประชุมปรบมือกึกก้องให้แก่วิศวกรหนุ่มเนิ่นนาน จนกระทั่งประธาน -=jfk=- ต้องใช้ค้อนเคาะโต๊ะอีกรอบ แต่คราวนี้พลาดไปโดนนิ้วโป้ง ท่านประธานร้องลั่นสูดปากพลางสะบัดมือเร่าๆ
จนความเจ็บปวดบรรเทาลง ท่านจึงกระแอมไอ แล้วกวาดตามองที่ประชุมอีกครั้ง ท่านพยายามซ่อนความเจ็บนิ้วหัวแม่โป้งไว้ ภายใต้สีหน้าเคร่งขรึมอันเป็นแบบฉบับของประธานหว้ากอทุกรุ่น
"ผมเห็น ว่าเราควรเริ่มต้นจากการสร้างสมุทรนคร ก่อนเริ่มโครงการอื่นๆนะ ที่ประชุมเห็นว่าไง" ท่านประธานพูด พลางนวดนิ้วโป้งที่ซ่อนไว้ใต้โต๊ะ
(โปรดติดตามต่อในตอนหน้า)
Free Photo hosting by PhotoLava.com
จากคุณ : DigiTaL-KRASH!!!
ปล.
ที่มาของข้อมูล: เห็นญี่ปุ่นชอบมีเมืองปราการ เนโอโตเกียว อยู่บ่อยๆ(อย่างในอีวานเกเลียน) ก็ เลยจินตนาการถึง นวสมุทรปราการ นครลอยน้ำที่มีครบตั้งแต่การผลิตอาหารเลี้ยงประชากรด้วยการทำฟาร์มกุ้ง หอย หลา และสาหร่าย รวมไปถึงการสนับสนุนทรัพยากรที่ใช้ในเชิงอุตสาหกรรมจากทะเลด้วย และอาจจะถึงเป็นที่ตั้งของจุดยุทธศาสตร์ทางหทารได้ เพราะอ่าวไทยและฝั่งอันดามัน เป็นทะเลที่มีพื้นที่กว้างขวาง เหมาะกับการตั้งเมืองในอาณาเขต 200 ไมล์ทะเลจากชายฝั่ง
ไอเดียทาง เทคนิค นำข้อมูลมาจาก Savage, M.T. 1994. The Millenial Project : Colonizing the galaxy in eight easy steps. Little, Brown & Company (Canada), Ltd., New York. ส่วนคำนำเขียนโดย เซอร์ อาร์เธอ ซี. คลาร์ก
จากคุณ : DigiTaL-KRASH!!!
จากคุณ |
:
Chaotic System
|
เขียนเมื่อ |
:
วันแม่แห่งชาติ 17:57:13
|
|
|
|
 |