ความคิดเห็นที่ 1 จากคุณ : แอคโชนบริเค เขียนเมื่อ : 23 ส.ค. 52 14:04:37

ความคิดเห็นที่ 2 เป็นไปได้ทั้งนั้นหละ แต่น่าเอาไปสร้างหนัง จากคุณ : AVAVA เขียนเมื่อ : 23 ส.ค. 52 14:32:05

ความคิดเห็นที่ 3 ความคิดดี หนังก็น่าเอาไปสร้าง ความเป็นจริงก็น่าเอาไปพิจารณา เยี่ยม ๆ จากคุณ : SuperTee (itCrazy) เขียนเมื่อ : 23 ส.ค. 52 14:55:23

ความคิดเห็นที่ 4 ก้อนนิดเดียว เท่าหลุมสิว มันจะเป็น ดวงจันทร์ได้หรอ...  -_-' จากคุณ : palovema เขียนเมื่อ : 23 ส.ค. 52 14:56:29

ความคิดเห็นที่ 5 จริงๆ แล้วสมัยก่อนมนุษย์ยังไม่มีบนโลกหรอกครับ แต่มนุษย์ต่างดาวกลุ่มหนึ่ง พบว่า ลิงที่อาศัยอยู่บนโลกนั้นมีลักษณะคล้ายพวกตนมาก จึงคิดว่า โลกน่าจะอยู่อาศัย ได้ แต่ว่า พวกมนุษย์ต่างดาวที่มาทั้งหมด กลัวว่า คู่อริจากดาวอื่นจะตามมารังควาญ ก็เลยแบ่งกองกำลังอีกส่วนไว้ที่ดวงจันทร์ หนึ่งในสองดวงของโลกครับ และเมื่อมาอยู่ก็ได้ วิจัยและเปลี่ยนให้ลิงบนโลก ออกมารุ่นต่อๆ ไปเหมือนพวกตน เพื่อไว้ใช้งานครับ (หนึงในงานทดลองที่เกือบสำเร็จแต่ก็ยังไม่ได้ผล ก็คือป้าลูซี่ที่พวกเรารู้จักกันดีครับ) โดยมนุษย์ที่เกิดขึ้นบนโลกจะมีผิวสีเหลือง ผมและตาสีดำ แต่พวกมนุษย์ต่างดาว จะมีผมสีทอง ตาสีฟ้าผิวขาว มีข้อห้าม ในเรื่องการรักกันระหว่างมนุษย์ที่ถูกสร้างขึ้นในดาวนี้ กับมนุษย์ต่างดาวแท้อยู่ครับ มีเรื่องราวความรักน่าประทับใจมากมายเกิดขึ้น แต่จะไม่กล่าวถึงในที่นี้ ผ่านไปได้ หลายพันปี ในที่สุดพวกต่างดาวคู่แค้นก็ตามมาถึงโลกครับ การต่อสู้ดำเนินไปยาวนาน จนกระทั่งยานแม่ ของพวกคุ่อริมาถึง ฝ่ายโลกจึงต้องใช้วิธีสุดท้าย เอาดวงจันทร์พุ่งเข้าชน ครับและสามารถพวกต่างดาวที่มารุกรานได้ทั้งหมด  แต่ว่าสะเก็ดของดวงจันทร์ส่วนนึงได้ตกมาบนโลก และเกิดเหตุการ์ณอย่างที่ จขกท ว่าขึ้นครับ และมนุษย์ต่างดาวคู่อริ เองก็มีหลงเหลืออยู่ และอาศัยอยู่บนโลกมาถึงทุกวันนี้เช่นกันครับ แต่ว่าเนื่องจากเป็นฝ่ายแพ้สงคราม ก็เลยโดนกดขี่มาจนถึงปัจจุบันโดยทุกคนในตอนหลังลืมเหตุผลที่แท้จริงไปแล้วครับ โดยพวกนี้ จะมีผิวสีดำสนิท ร่างกายแข็งแกร่ง และผมหยิกครับ คำถามที่ว่าทำไมร่องรอยหลงเหลือ จึ่งหายไปหมด เพราะว่ามีมนุษย์กลุ่มสุดท้าย อีกกลุ่มที่เป็นกลุ่มชนชั้นปกครอง ที่มีพลังพิเศษ ต่างพาเทคโนโลยี่ทั้งหมด หลบหนีกลับอวกาศครับ โดยคนกลุ่มนี้ ได้เปลี่ยนแปลงหลักฐานต่างๆ ว่าตนเคยมีอยู่ทั้งหมดไป แต่ปัจจุบันก็ยังเหลืออยู่บ้างครับ เช่นสถาปัตยกรรมกรีกโบราณ หลุมที่คุณ จขกท ว่าจริงๆก็เกิดขึ้นในยุคนี้ครับ แต่พวกเผ่าปกครองนี้แก้ไขข้อมูลทางกายภาพทั้งหมด ให้เชื่อได้ว่าเกิดมานานแล้วครับ (เทคโนโลนยี่นี่ง่ายมากครับ ) โดยพวกชนชั้นปกครองนี้จะมีพลังพิเศษติดตัวด้วยครับ เช่นบางคนอาจจะมีปีก และอาจจะมีวงแหวนบนหัว บางคนปล่อยสายฟ้าได้ บางคนมีพลังมาก บางคนเป็นคนครึ่งสัตว์ก็มี   ผมไม่ทราบว่าจขกท ไปเอาข้อมูลลับนี่มาจากไหนนะครับ เพราะเรื่องพวกนี้คนในปัจจุบันจะได้ยิน และนึกว่าเป็นแค่ตำนานแค่นั้น แต่ว่าผมว่าไม่เปิดเผยเลยจะปลอดภัยกว่าครับ เพราะเป็นความมั่นคงระดับกาแล็คซี่ทีเดียว ปล รบกวนใครทำ Story Board ให้ด้วยครับ แก้ไขเมื่อ 23 ส.ค. 52 15:13:17 จากคุณ : xnone เขียนเมื่อ : 23 ส.ค. 52 15:09:00

ความคิดเห็นที่ 6 ในภาพเป็นหลุมที่ Arizona ป่าวครับ จากคุณ : Onesweetday เขียนเมื่อ : 23 ส.ค. 52 15:33:13

ความคิดเห็นที่ 7 The Day Before Yesterday ! มาตั้งชื่อให้เนื้อเรื่อง #5   จากคุณ : meddy hao เขียนเมื่อ : 23 ส.ค. 52 15:39:36

ความคิดเห็นที่ 8 ว่าจะออกไปดูหนัง ไม่ไปล่ะ เอาไปคนละแต้มกันเลยทีเดียว ... จากคุณ : artfromheaven เขียนเมื่อ : 23 ส.ค. 52 15:59:23

ความคิดเห็นที่ 9 คห.7 ก็วันนี้สิครับ To Day จากคุณ : ไม้โมก เขียนเมื่อ : 23 ส.ค. 52 16:01:11

ความคิดเห็นที่ 10 ทฤษฎีเคยมีคนตั้งมานานแล้วครับ แล้วทฤษฎีนี้ก็ถูกขุดหลุมฝังดินโบกปูนทับไปเรียบร้อยแล้วครับ จากคุณ : I'AM เขียนเมื่อ : 23 ส.ค. 52 16:04:08

ความคิดเห็นที่ 11 คคห 9 วันก่อนเมื่อวาน ก็เมื่อวานซืนสิครับ แต่สงสัย คคห 7 ทำไมมนุษย์ต่างดาว ต้องผมทอง ตาสีฟ้าด้วย?? น่าจะเป็นตาสีดำโต ไม่มีผมมากกว่า หรือเอาแบบเกรียน ๆ ผมดำ ตาดำไปเลย......... จากคุณ : ป้ายแดง เขียนเมื่อ : 23 ส.ค. 52 16:30:41

ความคิดเห็นที่ 12 ความคิดเห็นที่ 6     ในภาพเป็นหลุมที่ Arizona ป่าวครับ   จากคุณ : Onesweetday ^ ^ ขอบคุณครับ เป็นหลุมที่อริโซน่าครับ ขอโทษที่ไม่ได้ตรวจสอบข้อมูลภาพก่อนโพสครับ ************************************************ ความคิดเห็นที่ 5 จากคุณ : xnone   ^ ^ ผมไปเปิดเจอบันทึกของทวดที่ห้องใต้หลังคามาน่ะครับ (หุๆๆๆๆ) ย่อๆก็คือ มีแม่ทัพใหญ่ชื่อ เซอุส ได้รวบรวมผู้คนที่หนีมาจากดาวที่ถูกพวก สมาพันธ์ต่างดาวรุกรานมาจนถึงโลกแห่งนี้ จึงได้ก่อตั้งกองกำลังขึ้นที่โลกเพื่อเตรียมต่อกรกับกองทัพของสมาพันธ์ฯ  มีโพไซดอน เป็นแม่ทัพเรือ  เฮสเทียเป็นรัฐมานตรีมหาดไท  ดิมิเทอร์ เป็นรัฐมนตรีเกษตร  อธีน่า เป็นรัฐมนตรีศึกษาธิการ  เฮฟเฟตัส เป็นรัฐมนตรีฯอุตสาหกรรม และอพอลโล เป็นเสนาธิการกองทัพ ซึ่งเป็นการวางรากฐานของการปกครองตามดาวแม่ที่แตกสลายไปแล้ว โดยได้มีศูนย์บันชาการอยู่ที่ดวงจันทร์เทียมชื่อยานโอลิมปัส (อ้างอิงดวงจันทร์เทียมจาก สตาร์วอร์) โดยที่ DNA ของมนุษย์เทพนี้ เป็น DNA ที่บริสุทธิ์ สามารถหลอมรวมกับ DNA ของสัตว์ดั้งเดิมที่อยู่บนโลกนี้มาก่อน เพื่อเป็นการขยายกองทัพจึงได้มีการทดลอง ผสม DNA ของมนุษย์เทพนี้ เข้ากับ DNA ของสัตว์ต่างๆ ผลที่ได้ก็คือ มิโนทอร์ เมดูซ่า สฟิงค์ ไซคลอป หนุมาน หรือแม้กระทั่ง สัตว์ทดลองที่ชื่อ ตือโป้ยก่าย เนื่องจากเป็นการทดลองระยะเริ่มแรกจึงไม่อาจควบคุมความเสถียรของ DNA ได้ สัตว์ทดลองบางตัวจึงถูกกักขังไว้ จวบจนได้มีการทดลองสร้างมนุษย์ HUMAN ขึ้นมา จึงพบว่ามีความสมบูรณ์ของ DNA ดั้งเดิมจากดาวแม่มากที่สุด (การผสมพันธ์กันเองระหว่างเทพ ทำให้เกิดการผสมแบบเลือดชิด ทำให้เกิดยีนด้อย) แต่เนื่องจากเป็น DNA ที่มียีนด้อยมาก ทำให้ความสามารถพิเศษต่างๆหายไป แต่ก็ได้รับความสามารถพิเศษในการสืบพันธ์เข้ามาแทน (สัตว์อื่นๆนอกจากมนุษย์ จะมีช่วงเวลาสืบพันธ์ ไม่เหมือนมนุษย์ที่สามารถทำได้ทุกเวลา) จนกระทั่ง กองทัพของสมาพันธ์ฯ ได้ติดตามมาและได้พบกับโลก ซึ่งเซอุสได้จัดเตรียมกองกำลังไว้ต้อนรับอยู่แล้ว การรบได้ยืดเยื้อยาวนาน ประธานาธิปดีของสมาพันธ์ได้สั่งให้ยิงปืนใหญ่พลาสม่า เพื่อทำลายโลก เซอุสและมนุษย์เทพทั้งหลายจึงได้บังคับยานโอลิมปัสออกจากเงาของดวงจันทร์ พุ่งเข้าชนยานแม่ของสมาพันธ์ จนระเบิด ชิ้นส่วนที่ตกลงมาบนโลกบางชิ้นจึงเป็นอุกาบาตเหล็ก และแร่ต่างๆ ส่วนทหารของสมาพันธ์ เมื่อเห็นยานแม่ถูกทำลาย ก็จึงยอมแพ้ และตกเป็นเชลยให้กับมนุษย์เทพที่หลงเหลืออยู่บนโลก มนุษย์เทพ และมนุษย์ Human ต่างก็ช่วยกันพัฒนาโลกนี้ ให้ศิวิไล ใกล้เคียงกับดาวแม่ที่พวกเขาจากมา พวกเราต่างสำนึกถึงความเสียสละของมนุษย์เทพทั้งหลาย จึงได้สร้างสโตน เฮนจ์ ขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์แก่ความรักและความเสียสละ  และรูปแกะสลักหิน โมอาอิ ที่เกาะอีสเตอร์เป็นการขอบคุณ ว่าพวกเราจะเฝ้ามองเขาจากดาวดวงนี้ตลอดไป ************************************************************** จบแระ .......... จากคุณ : sanchai0045 เขียนเมื่อ : 23 ส.ค. 52 16:55:33

ความคิดเห็นที่ 13 น่าจะเป็นเรื่องลึกลับนะ... เดี๋ยวก็กดไฟแดงซะหรอก!! อุกกาบาตที่อาริโซน่ามีขนาดเล็กมากครับ ขนาดไม่ถึงรถตู้ด้วยซ้ำ ปัจจุบันเชื่อกันว่าหลุมที่ดูน่าจะเป็นต้นเหตุของการสูญพันธุ์ของไดโนเสาร์ ก็คืออ่าวเม็กซิโกนั่นเอง แต่ขนาดก็ยังเล็กกว่าดวงจันทร์ปัจจุบันมากครับ.. ถ้าวัตถุขนาดดวงจันทร์ชนโลกจริง.... ต่อให้คุณปีเตอร์เองก็ไม่รอดครับ.... จากคุณ : vandalism เขียนเมื่อ : 23 ส.ค. 52 17:26:31

ความคิดเห็นที่ 14 http://www.pantip.com/cafe/chalermthai/index.php?subgroup=11 ตรงที่สุด จากคุณ : กฤตยฎีกา เขียนเมื่อ : 23 ส.ค. 52 18:16:20

ความคิดเห็นที่ 15   "เมื่อสมัยก่อนที่ไดโนเสาร์จะสูญพันธ์ ยังมีสัตว์ที่ใหญ่ยักษ์อยู่ทั่วโลก ไม่น่าแปลกใจบ้างหรือว่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับปรากฎการณ์จากพระจันทร์อีกดวง ที่โคจรอยู่ทำให้สภาวะแรงดึงดูดที่เหมาะสมกับขนาดตัว แต่เมื่อดวงจันทร์หายไปจนเหลือเพียงดวงเดียวก็ได้ทำให้สัตว์หลายๆชนิดต้อง ปรับตัว โดยต้องมีขนาดที่เล็กลง เพื่อความสมดุลกับปรากฎการณ์ธรรมชาติแบบใหม่" สัตว์ยืนอยู่ได้ด้วยแรงดึงดูดของโลกมิใช่หรือ ไม่ใช่ดวงจันทร์ จากคุณ : Mr. k เขียนเมื่อ : 23 ส.ค. 52 18:21:25 A:58.11.38.224 X: TicketID:115608

ความคิดเห็นที่ 16 นึกว่ากำลังอ่านนิยายวิทยาศาสตร์ซะอีก - -"   หนุกๆๆ เอาอีกๆๆ จากคุณ : รองเท้ากับนาฬิกา เขียนเมื่อ : 23 ส.ค. 52 18:58:41

ความคิดเห็นที่ 17 ดวงจันทร์ดวงที่ สอง ก็ขนาดเล็กกว่าดวงจันทร์ปัจจุบันไง เราให้คุณค่ากับ จินตนาการนะ ส่วนท่านที่จริงจ๋า  ก็ขออภัย ขำขำนะ  ไม่ทำลายจินตนาการ ใครนะ จากคุณ : จ๊าก เขียนเมื่อ : 23 ส.ค. 52 20:21:31

ความคิดเห็นที่ 18 ความคิดเห็นที่ 15 สัตว์ยืนอยู่ได้ด้วยแรงดึงดูดของโลกมิใช่หรือ ไม่ใช่ดวงจันทร์ จากคุณ : Mr. k   ^ ^ สมุติฐานของผมเองครับ ... ถ้ามี ดวงจันทร์ 2 ดวง ปรากฎการณ์ต่างๆจะมีความรุนแรงมาก เช่นน้ำขึ้นน้ำลง และแรงดึงดูดของโลกจะต้องดึงดูดดวงจันทร์เพิ่มอีกดวงหนึ่ง หลังจากที่อุกาบาตตกใส่โลกก็ไม่น่าจะทำให้สัตว์ขนาดใหญ่สูญพันธุ์ไปหมดทั้งโลกได้ อย่างน้อยสัตว์ยักษ์ที่อยู่ใต้ท้องทะเลก็น่าจะไม่จะได้รับผลกระทบมาก กรณีอยู่ไกลจากจุดตกคนละฝั่งโลก น่าจะยังมีหลงเหลือให้เราได้เห็น ยกเว้นเสียแต่ว่าเกิดการเปลี่ยนแปลงอะไรสักอย่างที่ทำให้กายภาพของสัตว์โลกขนาดใหญ่ไม่เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมที่เป็นอยู่ เช่น การที่ดวงจันทร์หายไป 1 ดวง จะทำให้แรงดึงดูดของโลกเพิ่มมากขึ้น อาจจะเนื่องมาจากอัตราการหมุนของโลก ช้า หรือเร็วขึ้น เพราะมวลที่กระทำต่อโลกได้หายไปส่วนหนึ่ง ทำให้น้ำหนักตัวของสัตว์ขนาดใหญ่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จนสัตว์ยักษ์เช่นไดโนเสาร์นั้น เป็นโรคไขข้อชนิดเฉียบพลันก็เป็นได้ อนึ่ง จากการที่ดวงจันทร์ถูกชนจนตกมาสู่โลกนี้ คงไม่ได้ตกลงมาทั้งดวงอย่างลูกกลมๆที่เราเห็นบนฟ้า แต่คงจะแตกเป็น หลายๆชิ้น และตกลงมาต่างเวลากัน บางลูกก็เท่ากับรถตู้ อย่างที่อริโซน่า  แต่บางลูกอาจใหญ่โตเหมือนที่เม็กซิโก   และการชนครั้งนั้น ก็ได้ทำให้ทวีปที่เป็นหนึ่งเดียวกันของโลกแยกออกจากกัน เหมือน แผ่นน้ำแข็งที่ลอยอยู่บนน้ำ แล้วเราเอาของหนักๆทุ่มลงไปมั้งครับ ***************************************************** ปล. ที่นี่ห้องหว้ากอ ผมไม่ใช่นักธรณีวิทยา หรือ นักวิทยาศาสตร์ แต่เรียนสายช่างไฟมาครับ ทุกอย่างล้วนเป็นข้อสมุติฐานส่วนตัว ไม่มีเอกสารการวิจัยใดๆอ้างอิง ไม่จำเป็นต้องเชื่อที่ผมพูดก็ได้ครับ จากคุณ : sanchai0045 เขียนเมื่อ : 23 ส.ค. 52 20:42:46

ความคิดเห็นที่ 19 ขอโทษที่อาจจะเป็นเหมือนนิยายไปบ้าง เช่น ความเห็นที่ 5 และความเห็น ที่ 12 แต่เนื้อหาของกระทู้เป็นการแตกประเด็นมาจากทู้ X8227523 ซึ่งเป็นของห้องหว้ากอ คงไม่ใช่ห้องเฉลิมไทย   เฉกเช่นต้นแอปเปิ้ลออกลูกเป็นลูกแอปเปิ้ลฉันใด กระทู้แตกประเด็นของห้องหว้ากอก็คงต้องอยู่ที่ห้องหว้ากอฉันนั้น( ตรรกะแถข้างๆคูๆ อิอิ) อาจจะมีบ้างที่ออกทะเลไป แต่เนื้อหาส่วนใหญ่ก็เป็นการคิดเชิงวิทยาศาสตร์กันมิใช่หรือ ดังที่ไอน์สไตน์เคยกล่าว"จินตนาการสำคัญกว่าความรู้" กล่าวคือ วิทยาศาสตร์จะเป็นไปไม่ได้เลยถ้าขาดจินตนาการ ถ้าดาวินชี ไม่เคยฝันถึงปีกบิน พี่น้องตระกูล ไรซ์ ไม่ใฝ่ฝันว่าจะขึ้นไปบินเหมือนนก เราก็คงไม่มีเครื่องบินกันเหมือนวันนี้  ดังนั้น กระทู้นี้ ผมว่ายังไงมันก็มีกลิ่นอายของวิทยาศาสตร์อยู่บ้าง ควรมิควรแล้วแต่จะโปรดครับ..... แก้ไขเมื่อ 23 ส.ค. 52 23:18:33 จากคุณ : sanchai0045 เขียนเมื่อ : 23 ส.ค. 52 20:55:31

ความคิดเห็นที่ 20 ไม่ขำ... มาหาความรู้ ไม่ใช่มาอ่านนิยายวิทยาศาสตร์ จากคุณ : Forever27 เขียนเมื่อ : 23 ส.ค. 52 21:15:18

ความคิดเห็นที่ 21 ง่า.... ไอแซ็คนิวตันก็ขำไม่ออกเหมือนกันครับ ที่คริสจักรออกมาคัดค้านกฎแรงโน้มถ่วงของเขาเนื่องจากการรับรู้ในสมัยนั้นยังจำกัด /ถ้า Gideon Mantell  ไม่จินตนาการถึงเจ้าของฟันขนาดใหญ่ที่เขาขุดพบ จนป่านนี้ ฟอสซิล กระดูกไดโนเสาร์ก็คงไม่ต่างจากกระดูกวัวกระดูกควา ย ที่ไม่มีใครสนใจ ถ้าจะพูดว่าสิ่งที่เรารู้แล้วว่าเป็นวิทยาศาสตร์ แต่สิ่งที่เรายังไม่รู้ และไม่ใส่ใจจะตั้ง สมุติฐาน ว่าเป็นสิ่งไร้สาระก็คงไม่ถูกอย่างยิ่ง  คนที่ชอบก็มี คนที่ไม่ชอบก็มี  ถ้ามีคนบอกว่าไร้สาระให้ไปตั้งห้องอื่น แต่กลับมีอีกหลายคนบอกว่า นี่แหละ สาระ ผมก็คงต้องโพสให้คนที่ชอบอ่าน ส่วนคนที่ไม่ชอบ ผมก็ไม่ได้ห้ามว่าคุณจะต้องเข้ามาดูเลย เดินออกไปเงียบๆก็ไม่มีใครว่า  ถ้าไม่ถูกใจตรงไหนก็ขออภัยด้วยละกันครับ จากคุณ : sanchai0045 เขียนเมื่อ : 23 ส.ค. 52 21:29:54

ความคิดเห็นที่ 22   "ถ้าชีวิตไม่มีพรุ่งนี้...คุณจะทำอย่างไร" << คห.20 . . ....คุณอาจจะกำลังจิตนาการ....เพื่อหาคำตอบอยู่ก็ได้ จากคุณ : คิดมีคิด เขียนเมื่อ : 23 ส.ค. 52 21:56:28 A:125.25.3.114 X:

ความคิดเห็นที่ 23 นึกว่านั่งอ่านฟิค Sci-Fi อยู่ซะอีก ^^" จากคุณ : เลดี้ลิลิ เขียนเมื่อ : 23 ส.ค. 52 21:56:49

ความคิดเห็นที่ 24 ผมพบเเล้ว!!!! ว่าจริงๆนั้นหลุมนั้นมาได้ไง เพราะ พวกนี้ต่างหาก!!! จากคุณ : palovema เขียนเมื่อ : 23 ส.ค. 52 23:06:03

ความคิดเห็นที่ 25 ดวงจันทร์ของโลกใหญ่เกินกว่าจะแชร์วงโคจรกับใคร ในทางกลับกัน โลกก็เล็กเกินไปที่จะมีดวงจันทร์ขนาดใหญ่สองดวง หลักสูตรการศึกษาใหม่ควรอธิบายเรื่องระบบดาวเคราะห์คู่ด้วย เพราะจริงๆดวงจันทร์ของโลกเป็นมากกว่าดาวบริวาร จากคุณ : ชาลีฟ เขียนเมื่อ : 24 ส.ค. 52 06:12:54

ความคิดเห็นที่ 26 สังเกตหลุมจะเป็นสี่เหลี่ยมนะ บางความเห็นว่า ไม่มีก้อนอุกาบาตเหลือ เพราะระเหยไปตอนเสียดสีกับบบรรยากาศ แล้วอะไรที่วิ่งมาชน สะเก็ดเล็กหายไปไหน น่าจะเป็นระเบิดนิวเคลียร์แบบหนึ่ง จากคุณ : jesdath เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 03:52:24

ความคิดเห็นที่ 27   คห ที่ 25 ดาวอังคาร ที่เล็กกว่า โลก ยังมี ดวงจันทรืเป็นบริวารได้ตั้ง 2 ดวงเลยครับ จากคุณ : โอ๊ค เขียนเมื่อ : 5 ก.ย. 52 05:31:20 A:118.173.0.30 X: TicketID:219313