ความคิดเห็นที่ 1 คุณรู้จักมะม่วงไหม? ผมจะผ่ามะม่วงให้คุณดูแล้วบอกคุณว่ากินเม็ดมันเข้าไปแล้วจะเป็นอมตะฆ่าฟันไม่ตาย คุณจะเชื่อผมไหมล่ะ? ฉันใดก็ฉันนั้น จากคุณ : axquest เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 16:10:40

ความคิดเห็นที่ 2 ของบางอย่าง มันไม่ต้องทดลอง ก็รู้ผลอยู่แล้วครับ ใช้สมองนิดเดียวเท่านั้น เช่น ตัดหัว แล้วจะมีชีวิตอยู่หรือเปล่า เรื่อง NP รู้สึกว่าเป้าจะอยู่ที่ว่ายอมเป็นคนโดนหลอกครับ แล้วจะได้ฟ้องศาลได้   แต่ผมก็ไม่เห็นทำอะไรเหมือนกัน ปล่อยคนโกงกินเงินฟรี จากคุณ : Professor เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 16:15:41

ความคิดเห็นที่ 3 ถ้าอย่างจขกท.ว่า ผมเอามะม่วงของความคิดเห็นที่1 ไปเสียบแทน NP Faster ก็ได้ครับ Jinx D Wednesday ผู้น่าเชื่อถือที่สุดในจักรวาล ขอรับรองว่า มะม่วง มีผลปล่อยคลื่นออร่าจากใยมะม่วง ทำให้น้ำมันประหยัดลง จขกท.ห้ามปอกมะม่วงแล้วหัวเราะ เสร็จจิ้มน้ำปลาพริกกินนะครับ กรุณาเอามะม่วงไปเสียบทดลองกับรถหลายๆรุ่น และวาดกราฟมาก่อนในฐานะนักวิทยาศาสตร์... บรืนๆๆ~ แก้ไขเมื่อ 25 ส.ค. 52 16:20:08 จากคุณ : Jinx D Wednesday เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 16:19:03

ความคิดเห็นที่ 4 เรื่องบางเรื่องมันก็ถูกอย่างที่เจ้าของกระทู้ว่ามานะครับ ที่ว่ามันต้องทดลองแล้วยืนยัน แต่กลับกันบางเรื่องที่มันสามารถอธิบายและมีคำตอบในตัวมันเองตั้งแต่แรกแล้ว เราก็ไม่จำเป็นต้องไปทดลองให้เสียเวลานี่ครับนะ คิดต่างน่ะได้ครับ แต่คิดให้มีเหตุผลด้วยครับ ด้วยความเคารพเช่นกันครับ แก้ไขเมื่อ 25 ส.ค. 52 16:27:04 จากคุณ : ลูกแมวปลอมตัวมา เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 16:23:10

ความคิดเห็นที่ 5 มะม่วงนั้นใช้ได้แต่รถรุ่นเก่าที่จ่ายน้ำมันผ่านคาบิวเท่านั้น รถรุ่นใหม่ต้องใช้สตอเบอรี่ จากคุณ : =Por= เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 16:23:49

ความคิดเห็นที่ 6 มีคนเห็นฟาง กับก้อนดินในก๋วยเตี๋ยวก็ยังจะกินแฮะ พอคนอื่นเค้าเห็นว่ามันเป็นฟางกับก้อนดินเค้าไม่กินก็ไปท้าให้เค้ากินแฮะ เห็นอยู่แล้วโดยตรรกะว่ามันใช้อะไรตามที่อ้างไม่ได้ จะพิสูจน์อะไรกัน แต่จริงๆแล้วก็มีคนที่เค้าพิสูจน์กันอยู่เยอะแยะแล้ว ที่เค้าติด LED กันเต็มรถน่ะ ถามเค้าเอาเถอะครับว่ามันประหยัดขึ้นมั้ย ด้วยความเคารพ จากคุณ : judo13 เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 16:24:34

ความคิดเห็นที่ 7 เห็นด้วยกับ จขกท ครับ ถึงแม้ว่า จะมีการผ่าพิสูจน์แล้วว่า วงจรจะดูไร้ประสิทธิภาพมากแค่ไหน แต่ถึงอย่างไรก็ตาม  "สิ่งที่ถูกต้อง" ก็คือ ไม่กล่าวหาคนอื่นเลื่อนลอย ถึงแม้ว่ามีหลายๆเป็นเรื่องที่ "รู้ๆกันอยู่" สำหรับคนในห้องหว้ากอ แต่เรื่องที่ "รู้ๆกันอยู่"  เหล่านี้กลับไม่เป็นอย่างนั้น สำหรับ คนอื่นๆ โดยเฉพาะคนที่ถูกครอบงำด้วย ความเชื่ออย่างผิดๆ และความหลงงมงาย หากไม่มีหลักฐานหนักแน่น ก็จะก่อให้เกิดการโต้เถียงไปมาไม่จบสิ้น และท้ายที่สุด ก็จะกลายเป็นการ  "ปล่อยผ่าน"  ซึ่งเกิดขึ้นบ่อยๆในสังคมบ้านเรา (ถึงแม้บางเรื่องจะมีหลักฐานหนักแน่น ก็ยังไม่จบสิ้นมีการแถต่อเนื่อง และปล่อยให้เรื่องเงียบ) แต่ยังไง หว้ากอ และ พันทิพ ก็ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีนะครับ สำหรับสังคมออนไลน์คุณภาพ ลองยกตัวอย่างดู ถ้าคนสมัยก่อนบอกว่า "ไม่ต้องออกสำรวจในทะเล เพราะ เมื่อเดินทางไปจะเจอขอบโลกแน่นอน เป็นเรื่องที่ รู้ๆกันอยู่ (ในสมัยนั้น)"  ก็คงไม่เกิดการพัฒนาอะครับ   แก้ไขเมื่อ 25 ส.ค. 52 16:28:16 จากคุณ : โจวจ้าวหนาน เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 16:26:02

ความคิดเห็นที่ 8   คห 1 หาก มีการกล่าว อ้างแบบนั้น จริง คุณต้อง ออก แบบการทดลอง ที่ เชื่อ ถือได้ ผม จะเชื่อ การทดลอง ของคุณ เช่น ให้ สัตว์ทดลองกิน แล้ว ลองทำมันให้ตาย หรือทำมันให้บาดเจ็บ เรื่อง ง่ายๆ ทำไม ถึงคิดว่าจะทำไม่ได้ ??? คห 2 กรณี ของการเอา สิ่งที่ ทดลอง แล้ว รู้กัน แล้ว มาพูด เทียบ ผมก็ว่า มันเหมือน พยายามเลี่ยง ความจริง ที่จะได้จากการทดลอง สิ่งที่ไม่เคยมี มาก่อน เพราะตัดหัวแล้วอยู่ไม่ได้ เห็นๆรู้ๆกันอยู่แล้ว .... ผม ถามกลับว่า แล้ว ได้ NP มัน ประหยัดได้จริงไหม อย่าตอบ หาก คุณไม่ได้ทดลอง มันจริงๆ ซะก่อน ประเด็น คือ ผมไม่ต้องการ การเทียบเคียง การประชดประชัน หรือ การคาดเดาเอาเอง ซึ่ง ไม่ตรงหลัก วิทยาศาสตร์ ด้วยความเคารพ จากคุณ : think4223 เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 16:26:48

ความคิดเห็นที่ 9 ^ ^ ก็เขาผ่าออกมาวิเคราะห์วงจรขนาดนั้นแล้ว ยังจะเหลืออะไรอีกครับ ตัวส่ง ตัวรับ ไม่มีสักอย่าง วงจรที่ได้มันต่างอะไรกับเอามะม่วงเสียบใส่รถ นอกจากเปลืองไฟเพราะ LED บรืนๆๆ~ จากคุณ : Jinx D Wednesday เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 16:29:45

ความคิดเห็นที่ 10 เข้าใจครับว่าคุณต้องการให้ทำตามกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ก็ขั้นตอนการผ่าไอ้เครื่องนั้นให้ดูไงครับ ลำพังแค่วงจรที่ผ่ามาให้ดูมันก็สามารถอธิบายตามหลักวิทยาศาสตร์แล้วไม่ใช่เหรอครับว่ามันไม่สามารถต้านแรง g ของโลกได้ เมื่อมันเป็นเช่นนั้นแล้วเรายังต้องทดลองอะไรอีกเหรอครับ ไม่เข้าใจ แก้ไขเมื่อ 25 ส.ค. 52 16:32:39 จากคุณ : ลูกแมวปลอมตัวมา เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 16:30:46

ความคิดเห็นที่ 11 ผมคิิดว่า  สิ่งที่หว้ากอได้ตอบไปก็คือ คำถามที่ว่า "วงจรทำให้เกิดการต้านแรง g ของโลกได้รึเปล่า" ซึ่งค่อนข้างชัดเจน ว่าไม่น่าจะได้ แต่ " NP faster ใช้แล้วประหยัดน้ำมันจริงรึเปล่า ไม่ว่าจากสาเหตุใดก็ตาม" ตรงนี้ยังไม่ค่อยเคลียร์ ถึงแม้จะดูเป็นไปไม่ได้ก็ตาม แก้ไขเมื่อ 25 ส.ค. 52 16:34:54 จากคุณ : โจวจ้าวหนาน เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 16:34:10

ความคิดเห็นที่ 12   สิ่งที่ คนทั่วไป อาจมองข้าม คือ มันอาจมีทริกอะไร ในวงจรแบบนั้นเมื่อนำมาต่อกับรถไหม ถ้าหาก ไม่ได้ ไปสนใจว่ามัน มีอะไรอยู่ข้างใน แต่มันให้ผลอย่างไร กับการใช้งานจริง ตรงนี้คือประเด็นมากกว่า เพราะ ก่อนหน้านี้ไม่เคยมีการต่อวงจร แบบนี้ไปไว้ในรถมาก่อน น่าเสียดาย ใจร้อนรีบผ่ากัน ก่อนที่ จะทดลองเป็นเรื่อง เป็นราว ซึ่ง น่าจะเกิดก่อน การผ่า ด้วยซ้ำ เสียใจ ที่มันข้ามขั้นตอนไปจริงๆ เพราะ หาก ทดลอง ได้ผล จะกล้าผ่าไหม มันก็ความคิดเค้า หรือ หากไม่ได้ผลการ ผ่า เนี่ย ประจานได้ดีที่สุด หรือผมพูดผิด แก้ไขเมื่อ 25 ส.ค. 52 16:40:07 แก้ไขเมื่อ 25 ส.ค. 52 16:37:57 จากคุณ : think4223 เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 16:36:00

ความคิดเห็นที่ 13 นี่คือสิ่งที่ผมเข้าใจในเรื่อง NP faster ่ที่ทาง NP faster เค้าโฆษณามันทำให้ชวนคิดไปเป็นลำดับขั้นได้ว่า ใช้ NP faster ----> ต้านแรง g ----> ประหยัดน้ำมัน ซึ่งทางห้องหว้ากอก็พิสูจน์จุดตรงกลางให้ดูไงครับว่าจากวงจรที่มีมันไม่ได้ต้านแรง g อะไรเลย ดังนั้นมันจึงไม่ได้ช่วยประหยัดน้ำมันเลย นี่คือความคิดเห็นของผมนะ ด้วยความเคารพอีกครั้งหนึ่ง แก้ไขเมื่อ 25 ส.ค. 52 16:41:15 จากคุณ : ลูกแมวปลอมตัวมา เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 16:39:51

ความคิดเห็นที่ 14 เห็นด้วยกับ จขกท.ครับ ดูเหมือนจะข้ามขั้นตอนไปหรือเปล่า น่าจะมีขั้นตอนการพิสูจน์ด้วยการทดลองก่อนนะ จากคุณ : น้อย นางครวญ (^oio^) เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 16:42:00

ความคิดเห็นที่ 15   หา....... เอางั้นเลยหรอครับ ลองสิ่งที่ควรลองครับ วิทยาศาสตร์มีกระบวนการในการพิสูจน์หลายทางครับ การทดลองก็เป็นเพียงกระบวนการหนึ่งในนั้น ของบางอย่างมีสมมติฐานแล้ว แต่ทฤษฎีตก ก็ไม่จำเป็นต้องทดลองแล้วครับ ประมาณนั้น จากคุณ : AsV เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 16:46:03

ความคิดเห็นที่ 16   คห 13 ด้วยความเคารพ หลักการ อะไรก็ตามที่ ทำให้ ทดลอง แล้ว พิสูจน์ได้ ว่า มันประหยัด หรือ ไม่ประหยัดได้จริง สำคัญ กว่า หลักการทำงาน ที่เค้าพูด หรือกล่าวอ้าง มันถูกหรือผิด หรือหลักการ แม้ดูไม่เข้าท่าแค่ไหน แต่ ประเด็น ของการนำได้ตัวนี้มา โฆษณาขายละ มันเป็นเรื่อง ว่ามันประหยัดได้จริงไหม ตะหาก ผมว่าจุดนี้หากเราหาคำตอบได้ชัดและพิสูจน์ได้ ตามหลัก วิทยาศาสตร์ เราก็สามารถที่จะด่ากลับกันได้อย่างเต็มปากเต็มคำ มากกว่า ที่จะดูๆแล้วว่า มันไม่น่าจะทำอะไรได้ แต่ในใจก็ยัง สงสัย ว่ามีผลการทดลอง ที่เชื่อถือได้จริงมายันหรือยัง ประเด็น ผม คือ ผมอยากจะด่า อะไรที่มันเป็นเรื่องหลอกลวงได้เต็มปากเต็มคำ ด้วยการทดลองที่ พิสูจน์ได้จริง น่ะครับ ใครคิดเหมือนผมมั่ง เพราะหากเรื่องนี้ ถึงศาล ก็ไม่จำเป็นต้องกลัวอะไร จากคุณ : think4223 เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 16:49:20

ความคิดเห็นที่ 17   คห 15 ผมหวังว่า มันจะจบ ด้วยหลักฐาน ผลการทดลองที่เป็นที่ ยอมรับ จะได้เลิกเถียงกันไปมาซักที... เพราะ ผมข้องใจ ผมก็แค่อยาก พิสูจน์ เท่านั้นเอง ด้วยความเคารพ จากคุณ : think4223 เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 16:54:33

ความคิดเห็นที่ 18 มันเรียกว่าหลักการไม่ได้ครับ เอาเฉพาะ ขับรถปกติ เส้นทางเดิม ให้กินน้ำมันเท่ากันยังยากเลย ที่ไม่ทดลอง เพราะ มันไม่คุ้มค่าที่จะทำ ของมันเห็นๆกันอยู่แล้วว่าเป็นไปไม่ได้ จากคุณ : nuuduke เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 16:57:06

ความคิดเห็นที่ 19 เหนือสิ่งอื่นใด .. ชาวหว้ากอตอนนี้ ทำหน้าที่ พลเมืองดีของประเทศ  อย่าเต็มภาคภูมิ แล้วครับ จากคุณ : ทุ่มเท เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 17:01:47

ความคิดเห็นที่ 20 ^ ^ ตรงไหนครับ ????????   เวอร์ไปรึเปล่า ด้วยความเคารพ จากคุณ : โจวจ้าวหนาน เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 17:03:16

ความคิดเห็นที่ 21 NP Faster เค้า claim ชัดเจนว่าเค้าประหยัดน้ำมันด้วยการตัดแรงโน้มถ่วง ทำให้รถเบาลงครับ เมื่อวงจรพิสูจน์แล้วว่าตัดแรงโน้มถ่วงไม่ได้ ก็ถือว่าเค้าโฆษณาเกินจริงแล้วครับ ถึงแม้ว่าวงจรนั้นอาจจะช่วยประหยัดน้ำมันได้จริง (สมมุตินะ) จากการที่ไปปรับแรงดันไฟฟ้าที่ใช้ในรถยนต์ให้ประหยัดไฟได้ดีขึ้น ทำให้ประหยัดน้ำมันด้วย ก็ถือว่าเค้าโกหกอยู่ดีครับ เพราะมันไม่ได้ตัดแรงโน้มถ่วง ให้รถเบาลงเลย จากคุณ : GeneralAK เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 17:05:48

ความคิดเห็นที่ 22   คห 18 เป็น ความเห็น ที่ เข้าท่า มากครับ อย่างน้อย ต้องมีเหตผล ที่ ดีในการอธิบาย ว่า เหตใด จึงไม่ควรทดลอง แต่สำหรับผม ผมคิดว่า หากคุณ จะทำการทดลอง คุณต้อง ศึกษาตัวแปร และควบคุม ตัวแปร ให้ได้มากที่สุด นอกจาก ตัวแปรตาม บางส่วนที่ยาก จะ ควบคุม เช่น การทำตัวปรับ ความเร็วรถให้คงที่ วิ่งวน ในอาคารทดสอบ หรืออื่นๆ เพื่อ ให้เกิดความแม่นยำในการทดลองยิ่งขึ้น และรอบแรกของการ ทดลอง คือ การทดลอง ขับรถ วน ในพื้นที่ ทดสอบ จำนวน รอบ เช่น 3 รอบ การทดลอง ทำ เป็น จำนวน 10 ครั้ง เพื่อ หาค่า เฉลี่ย การ กินน้ำมัน รถในแต่ครั้งของการทดลอง เพื่อใช้เป็นค่ามาตรฐาน ของการทดลองครั้ง นั้น ในการอ้างอิงหลังจากติดอุปกรณ์ NP โดย ทดลอง ให้ วิ่ง 3 รอบ 10 ครั้งเช่นกัน แล้ว ก็เทียบค่าเฉลี่ย การกินน้ำมัน กับ การทดลอง แรก มันก็พอ เป็นไปได้ครับ ปล หาก 10 ครั้งมากไป ก็ลดลงมา ตาม ความเหมาะสม ครับ ผมแค่อยากได้การทดลอง ที่ เชื่อถือได้ ก็เท่านั้น จากคุณ : think4223 เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 17:08:14

ความคิดเห็นที่ 23 เจ้าของกระทู้ไม่ได้มีความรู้ทางวิทยาศาสตร์(ในที่นี้ เน้นไปที่ไฟฟ้า)บ้างเลยหรือครับ   จึงยังเคลือบแคลงใจว่าชุดวงจร(...)นั้นอาจให้ผลประหยัดน้ำมันได้จริง ด้วยทฤษฎีอะไรซักอย่าง ซึ่งคุณเจ้าของกระทู้ไม่ทราบ แต่คนในหว้ากอส่วนใหญ่เขาทราบกัน d-_-b จากคุณ : Sakuder เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 17:08:38

ความคิดเห็นที่ 24 นักวิทย์ 99 คน บอกว่าไม่ต้องทดลอง......ยังไงซะมีแค่ Led ตัวเดียวมันจะทำให้ประหยัดน้ำมันได้ยังไง.... กับนักวิทย์ 1 คน บอกทดลองเหอะ เราเป็นนักวิทย์นะ ต้องผ่านกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ซะก่อน...... ของแบบนี้ เอาแค่สามัญสำนึกก็บอกได้แล้ว ว่ามันไม่ประหยัดจริงๆ จะบอกว่าก้อนหินก้อนนี้มันอาจจะลอยน้ำก็ได้ (หินกรวดเท่ากำปั้น หนักอึ้งเลย) แล้วจะยังเสียเวลาไปทดลองอีกหรือ ในเมื่อสามัญสำนึกของคนเรามันบอกว่า มันไม่มีทางเป็นไปได้ที่ก้อนหินมันลอยน้ำได้ (ยกเว้น DeadSea นะ) คราวนี้สามัญสำนึกของคนเรามันเกิดขึ้นมาได้จากประสบการณ์ การเลี้ยงดู สภาพแวดล้อมที่สืบต่อกันมาจากบรรพบุรุษ เหมือนอย่างยุคหิน เจอไฟแล้ว โอ้ยยย....ร้อนนะ ห้ามเข้าใกล้เด็ดขาด แล้วก็สอนกันต่อๆักันมาว่าไฟมันอันตราย ห้ามเข้าใกล้ รึจะบอกว่า เจอไฟแล้ว วิ่งเข้ากองไฟไปเลย มันต้องพิสูจน์ตามหลักวิทยาศาสตร์นะ สรุปนะ ที่ผมพูดมาเนี้ย หลอด Led หนึ่งดวงมันขัดกับสามัญสำนึกของคนเราว่า มันจะทำให้รถมันมีสนามแม่เหล็กบินได้ ได้ยังไง ในเมื่อหลอดมันทำหน้่าที่ให้แสงสว่างเท่านั้นนี่ครับ..... ด้วยความเคารพครับผม..... จากคุณ : Sakurachan (Tomoeda) เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 17:12:18

ความคิดเห็นที่ 25 ถ้าผมรู้ว่าสิ่งนั้นเป็นขี้ จากการดูและดมกลิ่นแล้ว  ผมจะไม่เอานิ้วไปแตะมาแล้วป้ายชิมน่ะ จากคุณ : Tears เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 17:12:36

ความคิดเห็นที่ 26   คห 21 ok ประเด็น คุณ ถูก ที่คุณ เจาะลงไป ถึงหลักการ และ การกล่าวอ้าง ที่ ผิดจาก สาเหตที่แท้จริงของการประหยัด ก็ ด่ากันไปได้เลย แต่หาก มัน ประหยัดได้จริง แม้จะด้วยหลักอะไรสักอย่างของมันก็ตาม สำหรับรถบางคันที่ติดตั้งเจ้านี่ได้ รถเหล่านั้นก็น่าจะได้ใช้ สิ่งที่มีประโยชน์ กับรถของเค้า ในการประหยัดน้ำมันด้วยเช่นกัน เพราะ แนวคิด ประหยัด เซฟ เงินกระเป๋า ในระยะยาว เป็นเรื่อง ที่ ใครๆก็อยากได้ แต่สำหรับ ผม เนื่องจากเห็นไส้ในแล้ว และหากผลการทดลอง จริงๆ บอกว่าได้ผล บอกได้คำเดียวว่า คนไทยด้วยกัน ช่วยขาย แค่ 1 ใน 4 ของราคา ปัจจุบันได้ไหมคับ อิๆ จากคุณ : think4223 เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 17:15:04

ความคิดเห็นที่ 27 อืม ยังไงดีหล่ะ งั้นเอาแบบนี้ดีกว่าเป็น ถามกลับ สินค้าแบบนี้ ทำหน้าที่ การทดลอง ได้ถูกต้องหรือยัง ทำไมไม่มี มอก หรือองกรพวก IEEE อะไรเทือกนี้ ผ่านมาตราฐานการทดสอบมายังไง จากคุณ : นายโอ้นโต้น เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 17:17:20

ความคิดเห็นที่ 28   คห 24 ผมก็ไม่แน่ใจ ว่า 1 ในร้อย มัน จะทำให้พลาดอะไรไปหรือไม่ ตามหลัก สถิติ อาจมองข้าม 1 ในร้อย แต่ หาก อยากได้ ความจริง ที่ไม่ใช่ จากการ คาดการณ์ จากความรู้เก่าๆของคนหมู่มาก คงต้องใช้หลัก ปชต คือ ฟัง เสียง 1 เสียง แล้ว ลองดู ให้รู้แล้วรู้รอดไป จะได้ จบๆ หากมันไม่ได้ยากเย็นเกิน จะพิสูจน์ จากคุณ : think4223 เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 17:18:23

ความคิดเห็นที่ 29 แอบเข้าใจคุณเจ้าของกระทู้นะครับว่าอยากจะซัด NP Faster ได้อย่างเต็มปากเต็มคำโดยทดลองในประเด็นที่เค้าว่าประหยัดน้ำมันกันไปเลยตรงๆ แต่ก็อย่างที่ว่ามาครับ ว่าบางเรื่องที่มีทฤษฏีที่เป็นที่ยอมรับแล้วก็ไม่ต้องพิสูจน์อะไร แต่นำไปใช้ได้เลย ในกรณีนี้ เรื่องที่ไม่ต้องพิสูจน์อะไร คือ วงจร LED ไม่สามารถนำช่วยต้านแรง g ได้ และใำนเืมื่อทางนั้นเค้าบอกว่าจุดสำคัญคือการต้านแรง g แล้วทำให้ประหยัดน้ำมัน ดังนั้น การนำไปใช้ได้เลย ก็คือ การสรุปว่ามันไม่ได้ช่วยประหยัดน้ำมันไงครับ ปล.ผมว่าไม่ต้องประชดกันก็ได้นะครับนะ สำหรับคนที่ไม่เห็นด้วยกับเจ้าของกระทู้ นี่ห้องหว้ากอนะครับ เดี๋ยวจะโกรธกันเปล่าๆครับ แก้ไขเมื่อ 25 ส.ค. 52 17:22:01 จากคุณ : ลูกแมวปลอมตัวมา เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 17:19:58

ความคิดเห็นที่ 30 มะม่วงเขตร้อน ทำมุมอะซิมุท ปล่อยรังสีคลื่นแม่เหล็กแนวขวาง จากคุณ : AW Milan เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 17:23:54

ความคิดเห็นที่ 31 เหตุใดจึงมาทะเลาะกันอยู่เล่า ใครใคร่ทดลองก็ทดลองเถอะครับ ถ้าคุณเป็นนักวิทยาศาสตร์ 1 ใน 100 ที่ว่า ถ้ามันประหยัดได้จริง คุณก็เอาผลนั้นหละมาดูกัน เพราะพี่น้องคู่หนึ่ง ไม่เชื่อนักวิทยาศาสตร์อีกหลายร้อย เราจึงมีเครื่องบิน เพราะชายคนหนึ่งไม่เชื่อคนครึ่งค่อนโลก เราจึงรู้ว่าโลกกลม แต่ผมเห็นต่างอย่างหนึ่งว่าเขาค้าน แต่เขาทำครับ *แก้คำผิดครับ* แก้ไขเมื่อ 25 ส.ค. 52 17:29:40 จากคุณ : judo13 เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 17:28:49

ความคิดเห็นที่ 32 ผมว่ามันดูดันทุรังมากกว่าดูเป็นวิทยาศาสตร์นะครับ ผมคงรู้สึกเศร้ามากถ้า Scientific method ของนักวิทยาศาสตร์ไทยจะจบลงแค่นี้ แบบวิธีการถกเถียงของจขกท. ถ้าผมมองด้วยกระบวนวิธีทางวิทยาศาสตร์แบบที่ผมเรียนมา จุดประสงค์ของการหาคำอธิบายนี้ ไม่ได้อยู่ที่ว่า "มันประหยัดได้จริงหรือไม่" แต่คำอธิบายมันน่าจะอยู่ที่ว่า "มันประหยัดได้จริงเพราะอะไร" ต่างหากล่ะครับ ในเมื่อ evidence ที่มีอยู่(วงจรLED) มันใช้อ้าง อย่าง สมเหตุสมผลตามกระบวนวิธีคิดได้ว่า เพราะวงจรดังกล่าวไม่มีผลอะไรต่อการประหยัดน้ำมัน ตั้งแต่แรกแล้ว ตามความรู้(knowledge)ทางวิทยาศาสตร์ที่เรามี มันก็ตอบเหตุผลนั้นสมบูรณ์ มี validation แล้ว ไม่งั้นถ้ามีคนเสนอ วงจรมะม่วงเสียบรถ ประหยัดน้ำมันมา ก็ต้องไปทดลองหมด ห้ามปอกแล้วผ่ากินไปหัวเราะไป ถ้าจะมีอะไรสักอย่างที่เรียกว่า "ความเป็นนักทดลองที่ดี" แบบนิยามที่ผมพยายามจะถอดจากข้อความของ จขกท. ผมคงให้นิยามนั้นเหมือนกันว่ามันไม่ใช่ "ความเป็นนักวิทยาศาสตร์ที่ดี" เอะอะทดลองยัน ไม่ได้ใช่สติปัญญาที่ร่ำเรียนมาเลย บรืนๆๆ~ จากคุณ : Jinx D Wednesday เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 17:36:58

ความคิดเห็นที่ 33 คนส่วนใหญ่ในหว้ากอเค้าก็ไม่ได้บอกว่าจะไม่ทดลองนี่ครับ เห็นมีแผนการทดลอง ตั้งสมมติฐานอะไร ตั้งหลายอย่าง ถ้า.... มันมีวงจรอะไรที่มันทำงานเยอะกว่านี้ ซับซ้อนกว่านี้สักหน่อยน่ะครับ แต่.... อันนี้มันมีแค่ตัว R, Tr, C กับ LED แถมยังต่อไม่ครบวงจร แบบนี้ผลการทดลองเขียนไว้ล่วงหน้าก้อยังได้เลยคร้าบท่าน จากคุณ : วิลลี่ มักกล้วยทอช (EddyFusher) เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 17:39:49

ความคิดเห็นที่ 34 จินตนาการสำคัญกว่าความรู้ (ขอยืมประโยคทองของไอสไตน์มาใช้หน่อย) อย่าลืมว่าไอสไตน์มีทั้งความรู้และจินตนาการ จึงละไว้ในฐานที่เข้าใจว่า จินตนาการที่บรรเจิดภายใต้กรอบความรู้ที่มีอยู่ ทำให้เกิดการสร้างสรรค์ผลงานอันยิ่งใหญ่ได้ เรื่องนี้ก็เช่นกัน ต้องเริ่มต้นจากความรู้ที่ตกผลึกก่อนเป็นที่ตั้ง ไม่งั้นจะไปบรรญัติกฏ ทฤษฎีต่าง ๆ ต่อยอดงานวิจัยกันไปทำไมครับ วงจรที่เป็นองค์ประกอบคงวิเคราะห์ได้ไม่ยากสำหรับผู้มีความรู้ทางไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์ คราวนี้ จะจินตนาการต่อว่า NP Faster มันประหยัดพลังงานโดยไปเหนี่ยวนำอะไรต่อมิอะไร ทำให้รถเบาลง มันเป็นไปได้ตามกรอบความรู้นั้นหรือไม่ ถ้าความรู้ไม่พอที่จะตอบปัญหานี้ ค่อยไปดำเนินการออกแบบการทดลอง ทำงานวิจัยต่อเพื่อตกผลึกความรู้ แล้วนำมาใช้อธิบายครับ แต่ถ้าพิจารณาดูจนครบทุกแง่มุม ก็ไม่สามารถนำความรู้ที่ปรากฏในโลกนี้มาอธิบายได้ ก็น่าจะสรุปได้ว่ามันไม่จริงครับ ถ้าต้องการให้ทดลองและพิสูจน์ ผู้ประดิษฐ์หรือผู้ที่เกี่ยวข้องต้องเสนอคล้าย ๆ เป็น proposal มาก่อน มีสมมติฐานว่ามันไปเหนี่ยวนำ ฯลฯ เพื่อให้รถเบาลง หักล้างสนามแม่เหล็กโหลด ได้จากอะไร อุปกรณ์ตัวไหน ปัจจัยอะไรทำให้เป็นแบบนั้น เสนอมาแบบเป็นวิชาการหน่อย เหมือนคุณเรียน ป โท/ป เอก จะเสนอโครงร่างวิทยานิพนธ์ประมาณนั้น ไม่ใช่ให้คนดูในเว็บบอร์ด ขอเรียกว่า ผู้ตรวจสอบเป็นคนกำหนดและทำการทดลองเอาเองครับ อย่าเอากระบวนวิธีทำการทดลองทางวิทย์ มาใช้มั่ว ๆ แล้วบอกว่า ชาวหว้ากอได้ทำหน้าที่ของนักวิทยาศาสตร์และนักทดลองหรือยัง แบบนี้เรียกว่า 1. พิสูจน์ด้วยอะไรก็แล้วแต่ ถ้าประหยัดจริง NP Faster กำไรไปเต็ม ๆ 2. พิสูจน์ด้วยอะไรก็แล้วแต่ ถ้าไม่ประหยัดจริง NP Faster ก็เสมอตัว เพราะโดยวิจารณ์กระจุยไปแล้ว จากคุณ : Underdog เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 17:50:19

ความคิดเห็นที่ 35   ชาวหว้ากอได้ ทำหน้าที่ ของนักวิทยาศาสตร์ และ นักทดลองที่ดีแล้วหรือยัง ?? ผมอยากถามคุณกลับว่าคุณติดตามเรื่องนี้มาอย่างดีโดยตลอดหรือไม่ มากกว่า ?? ผมและชาวหว้ากออยากจะทำการทดลอง แต่เมื่อพิจารณาความคุ้มค่าแล้วมันไม่ คุ้มที่เราจะต้องลงแรงกัน ซึ่งก็ชี้แจงไปแล้วหลายครั้ง ซึ่งถ้าคุณเห็นว่ายังไม่ดีพอ ผมก็ต้องยอมรับมัน แต่คราวหน้าถ้าคุณมีความสามารถที่จะทำได้เชิญ มารวมมือกันนะครับ จากคุณ : อยากตอบแรงๆ แต่ไม่หลงกลหรอก (bhattee) เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 17:53:58

ความคิดเห็นที่ 36 นักวิทยาศาสตร์ที่ฉลาด ต้องฉลาดที่จะพิสูจน์ด้วย คนที่รู้ว่าวงจรแค่ขับ LED คงไม่ "บ้า" ขนาดจะไปเสียเงิน พิสูจน์ว่า มันก็ทำให้ LED สว่าง หรือจขกท จะออกเงินให้ ผมว่ามีคนยอมเสียเวลา ทดลองตามที่ต้องการนะ จากคุณ : ผู้เฒ่าสายลม เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 17:59:40

ความคิดเห็นที่ 37 อ่านเนื้อหากระทู้แล้วเหมือนคุณ think 4223 จะออกแนวหาเรื่องเล็กๆครับ คุณเป็นใครครับ เป็นผู้มีส่วนได้เสียกับ NP Faster หรือเปล่าครับ ทำไมชาวหว้ากอต้องพิสูจน์เพิ่มเติมตามที่คุณบอก ทำไมคนขายไม่ทำเอง การให้ชาวหว้ากอทำ ก็เท่ากับว่า NP Faster ไม่ต้องลงทุนพิสูจน์ตัวเองเลยหรือครับ จะขายของทั้งทีเนี่ยอ่ะนะครับ จากคุณ : sommass เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 18:02:40

ความคิดเห็นที่ 38 นักวิทยาศาสตร์ทำการทดลองเพื่ออะไร เพื่อตรวจสอบสมมติฐานที่ตั้งขึ้นใช่ไหมครับ ซึ่งในที่นี้ก็คือว่าอุปกรณ์ตัวนี้มันประหยัดน้ำมัน แล้วสมมติฐานตั้งจากการอ้างอิงทฤษฏีบท ซึ่งในที่นี้คือการต้านแรงโน้มถ่วงจากอะไรก็แล้วแต่ ในเมื่อชาวหว้ากอได้ทำการซักค้านและพิสูจน์ทฤษฏีบทดังกล่าวแล้วว่าไม่เป็นจริง คุณ จขกท. คงต้องไปหาทฤษฏีบทใหม่มาอ้างอิงสมมติฐานใหม่จะดีกว่า ก่อนที่เราจะออกแบบการทดลอง ผมคิดอย่างงี้นี้มันผิดหลักวิทยาศาสตร์หรือไม่ แล้วนักวิทยาศาสตร์ทั่วโลกคิดกันอย่างงี้หรือไม่ ด้วยความเคารพ จากคุณ : pizza_p เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 18:03:40

ความคิดเห็นที่ 39 อันนี้คับ หลักการทำงานของ NP faster ซึ่งจะเห็นว่าวงจรนี้แค่ทำให้หลอด LED ติด+แสงไหวหน่อยๆแค่นั้นคับไม่เกี่ยวกับแรงโน้มถ่วงโลกแรงแม่เหล็กหรือระบบไฟฟ้าภายในรถอะไรเลย ดังนั้นถึงแม้ว่าการทดลองจะออกมา valid แบบมีนัยสำคัญมันก็ไม่เกี่ยวกับวงจรนี้น่ะคับ -_-" ปล. ดังนั้นนอกจาก NP faster จะซื้อสื่อ+ซื้อศาลได้แล้วชาวหว้ากอก็ไม่จำเป็นต้องไปกล้วว่าจะติดคุกหรอกคับ แก้ไขเมื่อ 25 ส.ค. 52 18:09:25 จากคุณ : Catwater (Catwater) เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 18:05:47

ความคิดเห็นที่ 40 ปรกติการทดลองทางวิทยาศาสตร์ จะทำเพื่อพิสูจน์ทฤษฎี ทดสอบสมมุติฐาน แต่เครื่องนี้ในทางทฤษฎีมันเป็นไปไม่ได้ แค่หลอดไฟอันเดียวมันจะมีผลต่อคลื่นแม่เหล็กได้ยังไง ไม่จำเป็นต้องทดสอบหรอกครับ แค่ของบจะทดลองก็โดนตีกลับไปแล้ว จากคุณ : ความจำสั้นสันหลังยาว เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 18:20:51

ความคิดเห็นที่ 41   ถ้ารูปใน คห.ที่ 39 สามารถทำให้รถเบาขึ้นได้ ผมพกมือถือเอาไว้ มิลอยออกสู่อวกาศเลยหรือครับ จากคุณ : AsV เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 18:31:06

ความคิดเห็นที่ 42 ถ้าผ่าแล้วเห็นมันเป็นแค่หลอดไฟ คุณคิดว่ามันยังประหยัดน้ำมันได้หรอ... แล้วถ้าทดลองเอารถวิ่งแล้ว ถามหน่อยว่า คิดหรอว่ามันจะเป็นผลมาจากหลอดไฟ... ซึ่งถ้าอย่างนั้น เอาน้ำหอมมาติดในรถกับไม่ติดแล้วลองเอารถวิ่ง... คุณจะสรุปเลยใช่มั้ยว่า น้ำหอมทำให้รถประหยัดน้ำมันได้... ฉันใดฉันนั้น... จากคุณ : Little Pig in Big World เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 19:03:35

ความคิดเห็นที่ 43 ในโลกนี้ เขามีหลักการอยู่อย่างหนึ่ง ก็หลักการ exception หรือข้ามไป ถ้าเป็นในการบริหาร, การแก้ปัญหา, หรือการพิสูจน์อะไรที่มีความซับซ้อน เขาเรียก Management by exception อาศัยประสบการณืที่เรียนรู้ที่ผ่านมาวิเคราะห์งาน ไปจดจ้องพิสูจน์ สิ่งที่แตกต่างออกไป ดีกว่ามา focus ในสิ่งที่ผ่านการพิสูจน์มาแล้ว งานไหนที่ยังทำไปได้ปกติ จะปล่อยไป จะ focus ไปแก้จุดที่้มีปัญหา ไม่เสียเวลาเรื่องจุกจิก ยกเว้นตอนใกล้ตกงาน แล้ววว่างงานเยอะ อันนั้นตัวใครตัวมัน ข้ามไป ไปทำอะไรที่มีสาระดีกว่า ในเมื่อพิสูจน์ด้วยสิ่งที่เราเรียนรู้มาแล้ว วิเคราะห์ได้ ว่ามันลวงโลก จะไปเสียเวลาทำไม เหมือนตอนเด็กๆ จำได้ว่าการ์ตูนขายหัวเราะ หรือการ์ตูนอะไรสักอย่าง เขียนวนเวียนไปมาเพื่อให้ตลก ว่า มีเพื่อนสองคนยืนเถียงกัน ว่าไอ้กองที่ว่างเห็นอยู่ข้างหน้า มันกองขี้หมารึเปล่า นายแดงบอก จากประสบการณ์เห็นๆ แล้วมันขี้หมาชัดๆ นายดำสงสัย บอกว่าขี้หมามันต้องมีกลิ่นตุๆ เอ้าลองพิสูจน์ เดินไปดูใกล้ๆ นายแดงบอก ไอ้บ้า มันขี้หมา ยังมาเถียงอีก นายดำบอกว่า เดินเข้ามาใกล้ๆ แล้ว ไม่เห็นมันมีกลิ่น นายแดงบอก ก็ประสบการณ์กรูบอก มันคือขี้หมายังมาเถียงอีก นายดำบอกว่า เอ้า งั้นลองชิมดีกว่า อ้วก  กรูเชื่อแล้ว ว่าขี้หมา แก้ไขเมื่อ 25 ส.ค. 52 19:14:39 จากคุณ : Ii'8N เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 19:09:26

ความคิดเห็นที่ 44 อ้อ....ผมเขียนไว้ หลังจากเรื่องซาไปแล้ว ว่า NP Faster เขามีทฤษฎีเหมือนกัน ไม่ใช่หลักลอย เป็นทฤษฎีที่ชาวหว้ากอเริ่มคุ้นเมื่อไม่นานนี้ ขอเรียกชื่อว่า Thancook Theory โดยมาจากคำสนธิ นาธาน+คุ็กกี้ อาจออกเสียงว่า "ทานคุก" หรือจะเพลินคิดไปว่าต้มตุ๋นชาวบ้าน แล้วไปโดนต้อมตุ๋ยในคุก ก็ไม่ว่ากัน จากคุณ : Ii'8N เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 19:20:10

ความคิดเห็นที่ 45 ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr. Fusion เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 19:22:57

ความคิดเห็นที่ 46 สมมุติฐานนะ....หลอด Led กับวงจรทำให้ขับสนามแม่เหล็กได้..... คราวนี้หาข้อมูลประกอบ หลอด Led ทำหน้าที่เปล่งแสงสว่างโดยใช้แรงดันไฟน้อย.... อ้าว.....ขัดกับสมมุติฐานต็มๆว่ามันขับสนามแม่เหล็กได้...... แล้วจะทดลองยังไง...... จากคุณ : Sakurachan (Tomoeda) เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 19:39:46

ความคิดเห็นที่ 47   เอางบมาให้ผมสิครับ  เดี๋ยวจะช่วยทดลองแบบเต็มรูปแบบเลย   ถ้างบส่วนตัวผมเองก็ขอบายละ  ใครอยากใช้ก็ใช้ไป ทำไมผมต้องเสียเงินเป็นแสนเพื่อให้ คนอื่นไม่ถูกหลอกด้วยล่ะ จากคุณ : GUZZA (AIM-9X) เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 19:41:42

ความคิดเห็นที่ 48 ไม่ใช่เขาปฏิเสธไปเลยที่จะไม่ทดลองครับโดยสิ้นเชิงครับ แต่ว่าในโลกนี้นั้นทรัพยากรมันมีจำกัด (เวลาก็เป็นทรัพยากรอย่างหนึ่ง) จึงต้องมีการเลือกที่จะทำครับ สิ่งหนึ่งที่ช่วยเอามาตัดสินความน่าจะเป็น ได้คือกรอบทฤษฏี ว่าน่าจะทำเพียงใด ในกรณีนี้ หลายทฤษฏีและหลักฐานการทดลองที่เกี่ยวข้องที่ผ่านๆมาในอดีต มันขัดแย้งกับกรณีอยู่มากๆครับ มันเลยถูกจัดอยู่ในกลุ่มพวกโอกาสที่จะเป็นจริงน้อยๆมากๆครับ ดังนั้นถ้าจะทดลอง ก็ควรจะจัดทรัพยากรให้ ซึ่งตรงนี้ควรจะเป็นเจ้าของที่อยากจะพิสูจน์ค้าน มากกว่ากลุ่มหว้ากอครับ ส่วนเทคนิควิธีต่างๆ ผมเคยpostไว้แล้วลองค้นๆดูก็ได้ครับ อาจารย์ผมบอกว่า "เวลาเรียน 4 ปี ต้องเป็น 4 ปีที่บวกกับเวลาที่มนุษย์เริ่มคิดค้นองค์ความรู้ด้านนั้นๆ" จากคุณ : KL เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 19:53:12

ความคิดเห็นที่ 49 มันส่งหางแถวมาแถเล่นๆดู เผื่ออุปกรณ์ที่มันขายยังดังอยู่ในหว้ากอ จากคุณ : dekkim93 เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 20:01:02

ความคิดเห็นที่ 50 กล่าวอ้างว่า: เมื่อเกิดปฏิกริยาA ส่งผลให้เกิดปฏิกริยาB ความเป็นจริง: ปฏิกริยาAไม่เกิด คำถาม: ทำไมถึงคิดว่า ปฏิกริยาฺBจะเกิดขึ้นได้? จากคุณ : ผีหน้าคอม~ เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 20:22:15

ความคิดเห็นที่ 51 ผมจะเอาขี้หมูมาละลายน้ำใส่ขวดขาย แล้วบอกว่ามีผลต่อการลดมะเร็ง,ลดเบาหวาน,ลดไขมันในหลอดเลือด,ทำให้สมองปลอดโปร่ง ฯลฯ แล้วมี อาจารย์จาก มหาลัยอะไรสักอย่างมารับรองผลการกิน 1 ขวด แล้วขายทางเน็ตขวดละ 2500 บาท ............... แล้ว จขกท. อยากจะซื้อมาลองกินดูไหมครับ ? เพราะ - ไม่มี อย. - ไม่มี มอก. - ไม่มี การแสดงผลการวิจัยจากอะไรทั้งสิ้น จากคุณ : น้ำปลาเดือนห้า เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 20:27:58

ความคิดเห็นที่ 52 ในที่สุดผมก็นึกออก ว่าทำไมทดสอบแล้วจึงประหยัดกับวงจรนี้ เพราะอุปกรณ์นี้ เขาลงอาคมลอยตัวเอาไว้ จากคุณ : ผู้เฒ่าสายลม เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 20:49:55

ความคิดเห็นที่ 53 ต้องการให้มีการทดลอง หรือ ต้องการวัตถุประสงค์แอบแฝงหืมม ในนี้คงไม่มีใครเต้นตามเกมหรอกครับ ปล. การผ่าวงจรมาวิเคราะห์ตามหลักไฟฟ้า นี่ไม่ได้เรียกว่าการทดลอง,วิเคราะห์ตามทฤษฎีหรือครับ? แก้ไขเมื่อ 25 ส.ค. 52 20:59:06 จากคุณ : Thadias เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 20:56:32

ความคิดเห็นที่ 54 คุณรู้เรื่อง วงจรไฟฟ้ามากน้อยแค่ไหนครับ จากคุณ : akekop เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 21:33:30

ความคิดเห็นที่ 55 จขกท. เป็นอะไรมากมั๊ยครับ จากคุณ : TriCell เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 22:10:47

ความคิดเห็นที่ 56 งั้นคุณ : think4223  ก้อทดลองเองเลยสิครับ ผมมีเมนูให้ ให้มันรู้ไปว่า นาซ่าไม่รู้ว่าหลอด LED สามารถตัดแรงดึงดูดได้ จากคุณ : โอมี (Anna_NSW) เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 22:16:37

ความคิดเห็นที่ 57   ผมอยากรู้จังเลยว่าพวกที่เก่งแต่บนคีย์บอร์ดเนี่ยจบอะไรกันมาบ้างครับ ปวช.หรือ ปวส. หรือ ม.ปลาย เพราะผมเห็นหลายคนวิจารณ์ อาจารย์ที่เค้ารับรองกันเสียๆหายๆ อย่างน้อยการมี EQ ที่ดีน่าจะมี Respection กันบ้าง อันนี้ผมเห็นแต่ละคนเก่งและซ่าท้าทายกันจังเลย คือผมไม่ได้ดูถูกใครนะ อาจารย์ที่พวกคุณกำลังด่าน่ะ อย่างน้อยผมว่าเค้าเรียนมากกว่าคุณเสียอีก รู้มาว่า อ.สมศักดิ์ เค้าสอน Statics ด้วย ไม่ใช่ Statistic นะ คือผมไม่เคยเห็น Suggession อย่างนี้ในต่างประเทศเลย อย่างน้อยถ้าจะออกมาว่าใครคุณต้องมีหลักฐานแบบครบทุกด้าน การที่มาเปรียบเทียบกับมะม่วงอะไรน่ะ ผมว่ามันเป็นการประจานสมองตัวเองมากกว่านะครับ ตรรกกะมันคนละอย่างกัน เช่น ถ้ามีคนมาบอกเราว่าเราจะสามารถเดินทางย้อนเวลาได้ถ้าหากเราเดินทางด้วยความเร็วมากกว่าความเร็วแสงจะมีคนเชื่อมั้ย ผมว่าต้องมีคนเชื่อเพราะคนนั้นเป็นไอน์สไตน์ แต่ถ้าคนนั้นเป็น บ. Np faster ล่ะ จะมีใครเชื่อมั้ย ผมจบแค่ ม.3 เองครับ ผมไม่ได้มีเจตนาจะมาประชดใครนะครับ แต่อยากให้สังคมไทยมี Vision ที่กว้างมากกว่านี้อย่าให้ สิ่งแวดล้อมข้างๆตัวคุณเป็นกรอบของตัวคุณเองเลย ยังไงถ้าทำให้ดอกเตอร์ ในนี้ไม่พอใจขอโทษด้วยละกัน จากคุณ : turbo46 เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 22:22:42 A:118.172.34.6 X:

ความคิดเห็นที่ 58 ยังมีสมุน npfarter มาแถอีกแฮะ ว่าแต่ npfarter เองนั่นแหละเปิดเผยผลการทดลองมาสิ เพราะก่อนที่จะเอามาขายคุณต้องทำการทดสอบก่อน เอามาให้ดูสิ แล้วก็อย่าบอกนะว่าที่สองอ.นั่นทดสอบน่ะ ใช้ได้ ตอบคำถามของจขกท.นะครับ ว่าทำหน้าที่ดีแล้วครับ ดีเกินไปแล้วด้วย เพราะของอย่างนี้เห็นปั๊บ ฟังที่เขาโม้ปุ๊บ ให้ลองใช้สมองแต่เศษเสี้ยวโมเลกุลเดียวก็เกินพอที่จะสรุปได้แล้วว่า เบิกเนตร แน่นอน จากคุณ : Ronachai (amscmu) เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 22:47:07

ความคิดเห็นที่ 59 เรียนมาน้อยอ่ะ ด่าใครไม่ได้เลยทีนี้ จากคุณ : Jitkarn เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 22:53:02

ความคิดเห็นที่ 60   ถ้าคุณรู้เรื่องอิเล็กทรอนิกส์ในระดับ ปวช.ขึ้นไป  คุณก็จะไม่สามารถหาเหตุผลทางวิทยาศาสตร์ด้านคุณสมบัติทางไฟฟ้าของอุปกรณ์ในวงจรนี้ มาบอกว่าวงจรนี้ทำให้ประหยัดน้ำมันได้โดยผลจากวงจรนี้เลย   อุปกรณ์เหล่านี้ NP ไม่ได้สร้างขึ้นมาเองนะครับ ทั้ง Transister  Resister Capacitor และ LED ดังนั้น หมายความว่าซื้ออุปกรณ์จากที่อื่นมาผลิต(ประกอบ) และจากการที่ผมอยู่วงการอิเล็กทรอนิกส์ มากว่า 15 ปี  ผมไม่เคยได้ยินว่ามีอะหลั่ยชิ้นไหน สามารถให้ผลเกี่ยวกับการทำงานดังที่ อ. ท่านนี้กล่าวอ้างได้เลย   ดังนั้น  ถ้าอาจารย์ หรือ NP นำ Datasheet(ใบแสดงคุณสมบัติของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และวิธีใช้ ซึ่งเขียนและรับรองโดยโรงงานผู้ผลิตอุปกรณ์นั้นๆ) ของอะไหล่ ที่นำมาประกอบมาแสดง เพื่อพิสูจน์ตัวเอง  มันก็จะเป็นประโยชน์กว่านี้ครับ ว่าแต่ไอ้ตัวนี้ ประหยัดได้ 10%  ถ้าติด 10 ตัวจะประหยัดกี่ % ครับ ทดลองหรือยัง  การเป็น อ. ต้องมีจรรยาบรรครับ ไม่ใช่ใครให้รับรองอะไรก็เซ็นๆๆๆ อย่างเดียว   สมมติว่าถ้าเกิดเป็นการเซ็นรับรองโครงสร้างตึกล่ะ จะเกิดผลเสียขนาดไหนถ้าไม่ทดสอบให้ดี  ทุกวันนี้สินค้าหลายชนิด มีการเซ็นรับรองแบบชุ่ยๆแบบนี้ก็ไม่น้อย  เพื่อนของผมเคยเอาแบบวงจร วิทยุชุมชน ไปให้ อ. มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งเซ็นเพื่อจะขอใบอนุญาต   เขาเรียก 2 หมื่น ผมกับเพื่อนก็เอาวงจร และรายละเอียดการทำงาน Datasheet และเครื่องจริงไปให้ทดสอบ  อ.สอนวิศวะกรรมไฟฟ้า ท่านนั้นกลับบอกว่า  "ไม่ต้องเอาวงจรมาให้ผมดูหรอก ผมดูไม่รู้เรื่องหรอก  ผมรู้เรื่องแต่ทฤษฎีไฟฟ้ากำลัง ไม่เคยต่อวงจร"     ผมก็ได้แต่อึ้ง  แต่เขาก็เซ็นให้ โดยไม่ได้ทดสอบอะไรเลย (ยังคิดอยู่เลย "ตรู อุตส่าเตรียมวงจร และข้อมูล สำหรับประกอบการขอใบรับรองแทบตาย  เล่นเซ็นโดยไม่ขอดูอะไรเลยหรือ  งงจริงๆ") จากคุณ : AIM-9X เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 23:09:18

ความคิดเห็นที่ 61 คคห.57 argument ของผมคือ 1. วงจร LED อย่างง่ายของ NP Faster (ตามผังข้างบนและในหลายกระทู้) ไม่สามารถตัดค่า g และช่วยให้รถประหยัดน้ำมันได้ 2. มะม่วง 1 ผลของ คคห.1 (หาได้ตามตลาด หรือต้นมะม่วง) ไม่สามารถตัดค่า g และช่วยให้รถประหยัดน้ำมันได้ 3. ดังนั้น การเสียงวงจร LED อย่างง่ายของ NP Faster และการเสียบมะม่วง ใส่รถ ไม่สามารถตัดค่า g และช่วยให้รถประหยัดน้ำมันได้เหมือนกัน จาก 3. ผมจึงได้ข้อสรุปว่าการเสียบวงจร LED อย่างง่ายของ NP Faster กับการเสียบมะม่วงใส่รถ มีผลไม่แตกต่างกัน ช่วยเสนอเหตุผล ตรรกะ หรือหลักฐานที่ดูฉลาดๆ หลักฐานทางวิทยาศาสตร์ มาหักล้างข้อเสนอของผมทีครับ ถ้าคุณบอกว่าตรรกะมันคนละอย่างกัน เพราะผมยังไม่เห็นข้อความที่ดูอ่อนด้อยของคุณในคคห.57 มีผลหักล้าง argument ของผมแต่อย่างใด หรือไปเชิญพวกอาจารย์ฉลาดๆของคุณ มาหักล้างทีก็ได้ครับ จะไปจุดธูปเชิญไอน์สไตน์มาหาทางหักล้าง argument นี้ด้วยก็ได้นะครับถ้าสมมติว่าไอน์สไตน์มี vision เดียวกับคุณ ขอบคุณครับ ป.ล. แล้วก็ขอเสริมนิดนึงนะครับเพราะเห็นพูดถึง EQ และ respect ถ้าเข้าใจเรื่อง EQ จริงๆไม่ได้สักแต่จำขี้ปากเค้ามาพูดน่าจะรู้นะครับว่า คนที่เค้ารู้จักใช้ การใช้เหตุผล (rationalist) ไม่ว่าจะเป็นนักปรัชญาวิเคราะห์ หรือนักวิทยาศาสตร์ เขาไม่ได้จะเชื่อข้อเสนอต่างๆโดยดูที่ "ใครเป็นคนเสนอ" แต่เขาดูกันที่ "เขาเสนออะไร และวิเคราะห์แล้ว สมเหตุสมผลหรือไม่" ต่างหาก บรืนๆๆ~ แก้ไขเมื่อ 25 ส.ค. 52 23:22:37 จากคุณ : Jinx D Wednesday เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 23:13:43

ความคิดเห็นที่ 62 เขาไม่ได้เชื่อเพราะคนนั้นเป็นไอสไตน์ครับ เขาเชื่อเพราะทฤษฎีมันมีเหตุผล และเมื่อพิสูจน์ก็ได้ผลเป็นจริง ตอนที่ไอสไตน์ค้นพบสูตรต่างๆ อย่าง E=MC^2 คุณคิดว่าพอไอสไตน์นำสูตรไปเสนอ ทางรัฐบาลจะดีใจตาเหลือกรีบเอาสูตรไปสร้างระเบิดเลยหรือครับ? สูตรเหล่านั้นมันก็ต้องถูกอธิบายถึงที่มาที่ไป อธิบายทั้งเหตุและผล จนได้รับการยอมรับ มันถึงถูกนำไปใช้ แต่ลองมาดู NP นะครับ อุปกรณ์เขาสร้างมาแล้ว พอผ่าออกมา กลายเป็นวงจรหลอดไฟ แบบนี้ใครๆก็เซ็งครับ เพราะด้วยความรู้พื้นฐาน ก็ทำให้เข้าใจได้ว่ามันไม่สามารถทำให้ประหยัดขึ้นได้ ซึ่งก็ต้องกลับไปถาม NP หรือ จขกท ก็ได้ว่า ทฤษฎี มันมีความน่าเชื่อถือ มีเหตุมีผลดีพอรึยัง(หรือมีซักนิดนึงก็ยังดี) ถ้าหาความน่าเชื่อถือ หาเหตุผลเจอแล้ว ค่อยทดลองก็ยังไม่สาย หรือทาง NP จะออกมาอธิบายอีกทีครับ ว่า LED ทำให้ประหยัดขึ้นได้ยังไง? ขอแค่อย่ามั่วมาเหมือนกระทู้ที่แล้วๆมาก็พอ หรือถ้า จขกท ต้องการรู้ผลเร็วๆ แนะนำให้ออกเงินครับ ผมว่าคนในหว้ากอยินดีออกแรง ซึ่งการทดลองอาจจะต้องใช้เงินมากพอสมควรเหมือนกันนะ เพราะต้องคุมปัจจัยตั้งหลายอย่าง และอาจจะต้องทดลองหลายรอบ และกับรถหลายรุ่นด้วยเผื่อว่าอยากรู้ว่าใช้กับรุ่นไหนได้ดีที่สุด จากคุณ : soginal เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 23:27:18

ความคิดเห็นที่ 63 คุณมีเครื่องมือที่ทำให้รถวิ่งด้วยอัตราเร็วและอัตราเร่งที่สม่ำเสมอไหมล่ะ ถ้าไม่มีก็เลิกพูด  เพราะเคยบอกแล้วว่าความรู้สึกของคนนี่แหละตัวหลอกลวงที่สุด ถ้าทดสอบจากแล็ปที่เครื่องไม้เครื่องมือพร้อม  ได้ผลอย่างไรก็ตามนั้น ไม่ได้เรียนวิศวะ  ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับวงจรไฟฟ้า   แต่ถ้าจะทดลองทางวิทยาศาสตร์ที่ได้ผลเป็นที่ยอมรับ  ก็ต้องทดลองแบบนี้ คิดว่าแล็ปที่มีเครื่องไม้เครื่องมือพร้อม  น่าจะทดสอบได้ จากคุณ : jedi-jaidee เขียนเมื่อ : 26 ส.ค. 52 00:24:28

ความคิดเห็นที่ 64 เจ้าของกระทู้ต้องเพิ่งเข้ามาอ่านประเด็นนี้เมื่อไม่นานมานี้แน่เลย เลยไม่เข้าใจอะไรบางอย่าง ไม่มีใครยืนยันว่ามันไม่ได้ประหยัดน้ำมันครับ มีแต่คนยืนยันว่ามันตัดแรง g ไม่ได้ แล้วทุกคนที่เห็นด้วยอย่างนี้ก็เชื่อว่ามันไม่น่าจะช่วยประหยัดน้ำมันได้ ทำไมน่ะเหรอครับ เหตุผลง่ายๆครับ NP Faster บอกว่าอุปกรณ์ตัวนี้ทำให้ประหยัดน้ำมันได้ เพราะมีการแผ่สนามแม่เหล็กไปตัดแรง g เป็นเพียงเหตุผลเดียวที่เขาบอก แล้วก็จากความรู้พื้นๆที่เด็ก ม.ต้น บางคนก้รู้ วงจรแค่นี้ อย่างดีก็แค่ LED ติด กินไฟหน่อยๆ ร้อนอีกนิดนึง ประหยัดน้ำมันหรือเปล่าอันนี้ผมก็ไม่รู้ แต่ผมรู้แค่ว่าวงจรแค่นี้มันสร้างสนามแม่เหล็กไม่ได้หรอกครับ ไม่เชื่อลองไปให้ช่างไฟฟ้าทำวงจรนี้ให้สิครับ แล้วลองเอาไปใช้ดู ลองเอาเข็มทิศติดไปด้วยนะครับ ส่วนจะสังเกตอย่างไรก็คงรู้นะครับ จากคุณ : heynong1 เขียนเมื่อ : 26 ส.ค. 52 00:31:25

ความคิดเห็นที่ 65 ผมว่า กระทู้นี้คือการตอบโต้หว้ากอที่ไปเปิดโปงเขา .. ตั้งกระทู้ดิสเครดิต และใช้เหตุผลค่อนข้าง Fallencies พอควร ... หว้ากอไม่ได้บอกว่าให้คุณเชื่อนิ คุณจะเชื่อหรือไม่ในสิ่งที่คนในหว้ากอพูดก็ไม่มีใครห้ามนิครับ คุณเลือกเอาเองดิครับ.. แต่ผมเชื่อคนที่วิเคราะห์ NP ฟาสสะเต้ออะไรนั่นน่ะ เพราะยืนยันหนกแน่นดี.. ที่สำคัญ ฝ่าย NP ฟาสะเต้อก็ยังไม่สามารถโต้แย้งหว้ากออย่างหนักแน่นได้ด้วย .. ปล....การแถ ไม่นับว่าหนักแน่นเด้อ ขอบอก.. จากคุณ : นายอึเหม็น เขียนเมื่อ : 26 ส.ค. 52 00:45:33

ความคิดเห็นที่ 66 #๕๗ ผมว่าคุณนั้นแหละ นักเลงหลังคีย์บอร์ดตัวจริง สมัครสมาชิกมา post สิครับ จากคุณ : Ice-man เขียนเมื่อ : 26 ส.ค. 52 00:50:00

ความคิดเห็นที่ 67 ... ความเห็นที่ 57 จากคุณ : turbo46   เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 22:22:42 A:118.172.34.6 X: จากคุณ : NPFASTER.COM   เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 52 01:06:16 A:118.172.2.255 X: ... จบ ม.3 หรือ ราชมงคลเชียงใหม่ (ที่เดียวกับอาจารย์คนนั้น??) เอาให้แน่ ๆ หน่อย จากคุณ : ต้องพิสูจน์อีกไหม ... (SoundForce) เขียนเมื่อ : 26 ส.ค. 52 00:57:13

ความคิดเห็นที่ 68 เรียน จขกท. เวลาจะทำโครงการวิจัย ก่อนจะทำการทดลอง และสรุปผล จะต้องออกแบบการทดลอง (Research Method) ก่อน และก่อนหน้านั้นจะต้องทำการหา ทฤษฎีที่เกี่ยวข้อง และตรวจเอกสารก่อน (Literature review) แล้วมาตั้งสมมติฐาน จากทฤษฎีที่เกี่ยวข้อง ในเมื่อ ทฤษฎียังไม่ผ่าน  แล้วจะทำการทดลองต่อไปเพื่ออะไรครับ แก้ไขเมื่อ 26 ส.ค. 52 01:20:39 จากคุณ : EITHER เขียนเมื่อ : 26 ส.ค. 52 01:19:48

ความคิดเห็นที่ 69 ที่มันยังหลอกขายได้เรื่อยๆก็เพราะมีคนแบบนี้นั่นละ จากคุณ : มหาภารตะ เขียนเมื่อ : 26 ส.ค. 52 02:57:01

ความคิดเห็นที่ 70 จะทดลองอะไร จะพิสูจน์อะไร มันต้องมีความสมเหตุสมผลด้วย มิใช่เอะอะก็พิสูจน์ๆไปหมด จะมะม่วง จะขี้ บอลไทยจะไปบอลโลกในปีหน้า ฯลฯ ไม่น่าเชื่อว่ายังมีคนไปหลงเชียร์ NP Faster อีก แถมหัวข้อกระทู้ก็เล่น ซะ "ชาวหว้ากอ" เป็นนักวิทย์ที่ดีรึยัง ทำยังกับว่าตอนนี้เป็นนักวิทย์ที่ไม่ดีหรือ? คนตั้งกระทู้ได้ไปผ่าเครื่องพิสูจน์ ได้ทดลองอะไรมาให้คนอื่นเค้าดูบ้างมั้ง ไม่ว่าจะเรื่องเล็กเรื่องใหญ่ก็เถิด เหตุผลการประหยัดของ NP faster ที่โฆษณามาเนี่ย ถ้าเชื่อกันไปได้ แล้วแถมยังมาโวยวายในบอร์ดยังงี้อีก ขอให้ไปทบทวนระบบการจัดการศึกษาของ อบต. อบจ. ณ บริเวณนั้นด่วน ทนไม่ไหว ขอ comment บ้าง จากคุณ : มู้ดดี้ แม้ดอาย เขียนเมื่อ : 26 ส.ค. 52 03:05:44

ความคิดเห็นที่ 71 ตอบง่ายๆ เกี่ยวกับ NP Faster ชาวหว้ากอได้ ทำหน้าที่ ของนักวิทยาศาสตร์ และ นักทดลองที่ดีแล้วหรือยัง ทำแล้ว จบไหม? จากคุณ : JengisKhan เขียนเมื่อ : 26 ส.ค. 52 03:08:46

ความคิดเห็นที่ 72 ผมขอพูดอย่างเป็นกลางนะครับ ผมเองก็ยังไม่ได้ปักใจตามที่เพื่อนๆในนี้พิสูจ ซะ100% อาจมีความเป็นไปได้บางอย่าง หรือความผิดพลาดอะไรที่เราจะกระจ่างได้จากการสนทนารอบด้าน ทั้ง 2 ฝ่าย หรือ รอข้อมูลเพิ่มเติมมาชี้แจง แต่ ทุกคนไม่ได้เป็น R&D ให้กับ บริษัทผู้ค้านะครับ เพียงแต่ใช่ทัศนแบบนักวิทยาศาสตร์ ตั้งข้อสงสัยและ ทดลอง ผมว่าคุณเองนั่นแหละครับ ที่ไม่รู้ว่าตัวเองกำลังพูดอะไร ถ้าอยากจะเอาแบบนี้ลองดูก็ได้ครับ 1. ปัญหา >> เรายังไม่อยากจะเชื่อสรรพคุณตามคำกล่าวอ้าง เพราะรู้สึกว่าไม่มีน้ำหนักพอ >> สมมุติฐาน>> ถ้าจะมีอุปกรอะไรที่ทำความเข้าใจได้และให้ O/P ที่ได้ผลตามอ้าง มันน่าจะอยู่ข้างในอุปกร์ณ 2 ออกแบบการทดลอง >>ผ่าดูเพื่อทำความเข้าใจ 3. วัตถุประสงค์ >> เพื่อทำความเข้าใจการทำงานของตัวอย่าง โดนเปรียบเทียบกับคำกล่าวอ้าง และเหตุผลประกอบ 4>> ทำการทดลอง 5 สรุป >>>> เค้าสรุปกัน ประมานนี้เป็นส่วนใหญ่ คือ ยังหาเหตุผล หรือสาเหตุที่จะทำความเข้าใจไม่ได้ หรือ จากที่ดูวงจร เห็นว่า ไม่มี output ที่ส่งผลถึงความสามารถที่กล่าวอ้างได้อย่างมีนัยยะสำคัญ ตรงไหนไม่เป็นวิทบาศาสตร์ครับ ถือว่าสมเหตุสมผล และ เป็น ปรกติของการทดลองทั่วๆไป ไอ้ที่คุณพูดมานั่นแหละ ไปเอามาจากไหน เอาความสะเทือนใจมาพูดหรือเปล่าครับ ส่วนผลการทดลองนั้น จะแม่นหรือไม่ น่าเชื่อถือแค่ไหน ก็เป็นเรื่องของความสามารถ ทัศนะ ความเข้าใจ และ วัตุประสงค์ ของบุคคลที่ทดลอง ไม่ใช่เรื่องของขบวนการหรือมาตาฐานนักทดลอง  ถ้าไม่ใช่ ผู้ค้าก็ออกมาชี้แจงสิครับ จะได้เข้าใจกัน เรื่องของท่านที่ทดลองและผู้ค้าก็มาถึงตรงนี้แหละครับ แม้จะไม่ถึงกับจบอย่างเป็นทางการ แต่ก็ไล่ สเตจได้แบบวิทยาศาสตร์ คุณนั่นแหละโผล่มาจากไหน มามั่วกลางวงอย่างนี้ เมาหมัดก็ไม่แปลกหรอกครับ ที่หลังผมว่าคุณอยากให้เป็นทางการ หรือนำเสนอมาตราฐานใหม่ที่ดีกว่าคนอื่น ผมว่าคุณเริ่มจากคุณดีกว่าครับ อาจเริ่มจาก ประสานงานกับ ฝ่ายเทคนิกของผู้ค้า แล้ว มาอธิบายไขข้อข้องใจกันดีกว่าครับ อย่างนี้ก็ไม่มีใครว่า และดูมีน้ำหนัก โวยวายไปไม่เห็นได้อะไร แถมผมคิดว่า ไม่เข้าเรื่องด้วยซ้ำ ถึงตรงนี้ถ้าเห็นด้วย คงเข้าใจตรงกันว่ามันไม่เข้าท่า  ถ้าท่าน จขกท อยากทดลองต่อ ก็ลองเริ่มจากไปเสียบทดลองดูสิครับ ถ้ามันประหยัดน้ำมันจริง ก็ต้องมาดูอีกว่าเพราะอะไร ใช่อย่างที่อ้างหรือไม่ ก็หนีไม่พ้นต้องแกะวงจรมาทดลองศึกษาดูอยู่ดี  อาจต้องหาเครื่องมือวัดแม่นๆมาวัดเพื่อเปรียบเทียบ ก็จะพบอีกว่า ไม่มี Datasheet ที่มีข้อมูลที่ว่าให้เห็น เช่น รายละเอียดประเภท "ทำให้รถเบาขึ้น 0.005 ของน้ำหนักสำหรับรถขนาดกลาง" หรือ หรือรายละเอียดทางเทคนิคอื่นๆเพื่อสนับสนุนคำอ้าง ซึ่งถ้าทางผู้ค้าเทส และ ทดลองมาอย่างดี ก็ต้องมีข้อมูลประมาณนี้ให้อ้างอิง ก็อาจจะลองไปขอดู สมมุติมีนะครับ ก็เอามาประกอบการทดลอง และทำความเข้าใจ ท่านก็จะพบว่าไม่เข้าใจ ถ้าเราไม่ได้เข้าใจผิดเกี่ยวกับความสามารถของสินค้า หรือ อุปกรณ์ภายในไม่ได้มีเท่าที่ผ่ามาดู มันก็จะกลับมาที่เดิมคือ ตกลงมันทำได้ยังไง ก็กลับมาตรงนี้อยู่ดีอะครับ คือรอท่านผู้ค้ามาอธิบาย หรือให้ข้อมูลเพิ่มเติมในส่วนที่ขาดไป ก็เท่านี้แหละครับ กลายเป็นต้องมาหาเหตุผลว่าทำได้ หรือไม่ได้อีก  จะเห็นว่าไม่มีตรงไหนที่ทำให้ความเห็น จขกท มีน้ำหนัก หรือดูมีมาตรฐานสูงขึ้นเลย จริงๆไม่มีอะไรเลยด้วยซ้ำนอกจากมาพูดอะไรที่แถวบ้านผมเรียกว่าพูดไม่รู้เรื่อง ไปทำความเข้าใจมาใหม่ดีกว่าครับ ปล 1 ผมเองก็ได้แต่หวังว่าอาจาร์นท่านจะออกมาชี้แจงแบบมีน้ำหนักนะครับ เพราะผมก็ฟังหูไว้หูอยู่ (หรือผมตกข่าว) 2 ขออธิบายว่าที่ความเห็นผมข้อนข้างเป็น ปรปักษ์ เช่นนี้เพราะ ผมเห็นว่า การพิสูจคำกล่าวอ้างนั้นเป็นเรื่องที่ถูกต้องอยู่แล้วในฐานะผู้สังเกตุที่มีความสงสัย และการทำกันเป็นกลุ่มที่ผู้สงสัยมารวมตัวกัน แถมดีกับผู้ซื้อทั่วไปซะอีก ไม่ได้เอาไปลงหนังสือพิมพ์ หรือแพร่ความเห็นที่ยังไม่ได้ระบุว่าถูก นอกกลุ่มผู้สงสัยนี่ครับ ถ้ามีก็เป็นเรื่องรายบุตตลไม่ใช่มาเหมารวมอย่างนี้ หรือถ้ามันผิดกฎหมายตรงไหน ทางผู้ค้าก็มีช่องทางดำเนินการอยู่แล้ว ก็จะเป็นความรู้กันไปว่าเรื่องอย่านี้ทำไม่ได้ แก้ไขเมื่อ 26 ส.ค. 52 04:05:53 แก้ไขเมื่อ 26 ส.ค. 52 04:03:48 แก้ไขเมื่อ 26 ส.ค. 52 04:02:40 แก้ไขเมื่อ 26 ส.ค. 52 03:22:45 แก้ไขเมื่อ 26 ส.ค. 52 03:13:46 จากคุณ : +5 Coulomb เขียนเมื่อ : 26 ส.ค. 52 03:09:46

ความคิดเห็นที่ 73 มิน่า ผมไปดู คอนเสิร์ต AF มา ผมเห็นแฟนคลับหลายคน ลอยอยู่กลางอากาศด้วยแหละครับ รู้สึกในมือเค้าจะถือแผ่นป้ายไฟที่ทำด้วยหลอด LED ด้วยอ่ะครับ... อันนี้ผมล้อเล่นนะครับ.. แต่อยากจะบอกว่า ป้ายไฟหลอด LED ที่แฟนคลับนักร้องถือกันเนี่ย วงจรมันก็แบบเดียวกับไอ้อุปกรณ์ NP Faster ไรเนี่ยแหละครับ ถ้าอย่างนั้นคนที่ถือป้ายนั่น ก็ต้องรู้สึกว่าตัวเองตัวเบาขึ้นใช่ไหมครับ ถ้าไม่ไช่ ก็แสดงว่า ไอ้อุปกรณ์ประหยัดน้ำมันอะไรนั่น ก็เป็นไปไม่ได้แล้วล่ะครับ ใครว่างๆลองไปถามน้องๆที่ถือป้ายไฟ LED  ให้หน่อยนะครับ.... จากคุณ : T DE ROOD เขียนเมื่อ : 26 ส.ค. 52 03:50:29

ความคิดเห็นที่ 74 การทดลองนี้ต้องเสีย เวลา ค่าน้ำมัน ค่าใช้จ่ายต่าง หลายหมื่นอยู่นะ เรื่องอะไรจะเอาเงินไปทิ้งเล่น ถ้ามันเข้าใจยากนัก ใครอยากใช้ก็ใช้ไปเถอะ เบื่อจะเคลียร์ จากคุณ : chusak (p_chusak2007) เขียนเมื่อ : 26 ส.ค. 52 06:35:05

ความคิดเห็นที่ 75   มา ทำความ เข้าใจ ผม เป็น สมาชิกใหม่ ของ หว้ากอ เมื่อไม่นาน มานี่เอง ไม่มี ส่วนได้เสีย ไม่ใช่สมุน ของ NP หรืออะไรๆ ผม เป็นตัวของผมเอง กรุณาอย่าใส่ความกันเลย เอาเหตผลมา พูดกันผมยอมรับได้มากกว่า.. ผมแค่สงสัย หากเป็นผม ผมอยากรู้ ความจริง ผมจะตั้งสมมุติฐานก่อน ว่าถ้าเค้าไม่ได้หลอกลวง หรืออุปกรณ์นี้ ประหยัดน้ำมันได้จริงหรือไม่ แม้หลักการ จะบ้าบอยังไงก็ตาม ... ผมไม่เชื่อหลักการณ์ ของสิ่งนี้หรอก เพราะมัน พิสูจน์ได้ยาก กว่า การทดลองผลของมันจริงๆ ซึ่งผมเองมุ่งประเด็น ที่อยากดูผลของมันจริงๆมากกว่า** แล้วผมจะทำการทดลอง ตาม function ปกติของ เครื่อง มันก่อน เพราะ 1 ผม เป็นนักประดิษฐ์ ผมเข้าใจนักผระดิษฐ์ด้วยกัน ผม จะเคารพผลงานเค้าก่อนโดย การไม่แกะดู จนกว่าผม ทดลองแล้ว ผลปรากฏว่า เครื่องนั่น ไม่ได้ช่วยอะไรเลย ผมจะเอาผลการทดลองของผมค้ำคอ ตัวเอง เพื่อ ให้กล้าที่จะแกะ มัน มาดูว่า อะไรอยู่ข้างใน อันนี้ พอเข้าใจผม หรือไม่.......T__T ผมเรียน อิเล็กทรอนิกส์ ปวช 3 ปี ปวส โทรคมนาคม 2 ปี ย้ำ นะผมไม่โง่ ผมเข้าใจ วงจร เป็นอย่างดี เพราะ ช่วงทำ project ผมก็เป็นคนออกแบบ วงจรการทำงานเอง แต่สำหรับเรื่อง NP นี้ ผม พูดจากใจจริง เหมือนเด็กที่พยายาม รู้ว่าอะไรอยู่ข้างใน เลยมุ่งแต่แกะ โดยไม่ทันได้ดูเลยว่า มันทำอะไรได้ไม่ได้ยังไง ประเด็น คือ มันข้ามสิ่งที่ควรทำไปแล้ว.....(ตอนนี้ เรียกร้องยังไง ก็เหมือนกับ ว่า ไม่จำเป็น เพระวงจรมันง่ายเหลือเกิน) มาสรุป เลยที่ว่า เห็นวงจร แล้ว เมินหน้าหนี ไม่คิดจะทดลองอะไรๆ อีกแล้ว จริงๆนะถ้าเป็นผม ผมจะไม่แกะมันก่อน เพราะผมคิดว่า ถ้าผมไปแกะมันก่อน ที่จะทดลอง ตอนที่สภาพมันยังดีอยู่ ก็เท่ากับว่าผมไม่เคารพ สิทธิ์ การประดิษฐ์ ของคนอื่นเลย แม้ผมจะรู้ว่ามันน่าจะมีอะไรอยู่ข้างใน แต่ผมอยาก เห็นผล ของการประดิษฐ์นั้นๆก่อน แล้วค่อยมาตีแผ่ความจริง ด้วยการแกะ หากมันเป็นเรื่องหลอกลวง ทำไม ชาวหว้ากอ ต้องใจแคบ กับผม ด้วยเรื่องแค่นี้ด้วย เพราะนี่มัน ความคิด หรือ วิธีการของผม (ผม ยังเคารพ คนอื่น แล้ว ทำไมคนอื่นไม่เคารพ ผม) ซึ่ง สำรับนักประดิษฐ์ น่าจะเข้าใจ ประเด็นนี้ อย่างน้อย หัวอก ของนักประดิษฐ์ ด้วยกัน คงไม่ต้องพูดอะไรกันมาก นะครับ แค่เข้าใจกัน บ้างก็พอ ด้วยความเคารพ แก้ไขเมื่อ 26 ส.ค. 52 08:46:57 แก้ไขเมื่อ 26 ส.ค. 52 08:23:54 แก้ไขเมื่อ 26 ส.ค. 52 08:22:09 จากคุณ : เคน (think4223) เขียนเมื่อ : 26 ส.ค. 52 08:19:58

ความคิดเห็นที่ 76 จขกท.ยังไม่เข้าใจกระบวนการวิจัยนะึครับ ขั้นตอนการออกแบบการทดลองและliterature review มันสำคัญมาก ถ้าสงสัยมั่วๆจนออกแบบการทดลองมั่วๆก็จะทำให้เสียเวลาและทรัพยากรในการทำวิจัยโดยไม่จำเป็น การทดลองทางวิทยาศาสตร์เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการวิจัย ซึ่งจะต้องออกแบบการทดลองและตั้งสมมติฐานบนพื้นฐานของการอ้างอิงทฤษฎีบท ซึ่งถ้าเป็นทฤษฎีใหม่ก็ต้องบอกว่าทฤษฎีใหม่ ไม่ใช่อ้างทฤษฎีฟิสิกส์มั่วๆแล้วบอกว่าต้องทดลองให้เห็นผลนะ ซึ่งเรื่องของ NPFaster มันตกตั้งแต่ตอนตรวจสอบทฤษฎีแล้วล่ะครับ การพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ไม่ใช่การพิสูจน์ไสยศาสตร์นะครับ จะได้เน้นผลลัพธ์มากกว่ากระบวนการ จากคุณ : ....4จุด เขียนเมื่อ : 26 ส.ค. 52 08:47:22

ความคิดเห็นที่ 77 ไม่ใช่ว่า "วิทยาศาสตร์ = การทดลอง" นะครับ การทดลองเป็น "ส่วนหนึ่ง" "ของเครื่องมือ" ที่ใช้ในระเบียบวิธีการทางวิทยาศาสตร์ การทดลองไม่ใช่ทั้งหมดของวิทยาศาสตร์ในการหาความจริง เรามีเครื่องมืออีกหลายอย่างที่ใช้ในการหาความจริง ที่ทำมาในกระทู้ก่อน ก็ครบถ้วนตามระเบียบวิธีการทางวิทยาศาสตร์แล้ว ตั้งแต่ขั้นแรกจนสุดท้าย สรุปผล เข้าใจว่า เจ้าของกระทู้มาจากสายปฏิบัติการ เลยต้องการจะเห็นผลแบบจับต้องได้ ไม่ได้เรียนกระบวนการ หรือระเบียบวิธีวิจัยทางวิทยาศาสตร์มาเหมือนทางสายวิทยาศาสตร์แท้ๆ อาจจะไม่สะใจกับผลการทดลองแบบนี้ แต่กระบวนการแบบนี้แหละที่เรายอมรับ ถูกใช้ ถูกปรับปรุงแก้ไขในวงการวิทยาศาสตร์มาเป็นร้อยๆ ปีแล้ว จากคุณ : อะธีลาส เขียนเมื่อ : 26 ส.ค. 52 09:13:32

ความคิดเห็นที่ 78 ... .....  ... ..  ... .  .....:  .. .......   ........ .........  ..... ....  ........:  ..... ..  .......:  ........ .  ......... .  ...... ..  ......:  ........ ..  ... .  ......... .  ...... ........  ......:   ..... .....  ......:  ...... ....  ....... ....  ........ ..  .... ........  ....... ........  ...... ....  ... ...  ........ .......  .... ......  ........ .........  .......:  ... ....  ........ .........  ..... ....  ........:  ..... ..  ..... ..  ....... ........  ... .  ...... ....  ........ ...  .....:  ...... .  ....... .........  .....:  ........ ....  ....... ....  ......... .  ......:  ....... ....  ... ...  ....... ....  .......:  ...... .  ... .....  ........ .  ...... ..  ........ ........  ....... .....  ... .....  ....... ........  ... .  ... ...  ........ ...  .... .......  ........ .........  .....:  ....... ....  ........ ..  ......... .  ...... ........  ...... ..  ....... ....  ..... ..  ........ .   ...... ........  ...... ..  ........ .....  .......:  ...... ....  ....... ....  ........ ..  ......... .  ......:  ....... ....  ...... ..  ........ ........  ....... .....  ... .....  ....... ........  ... .  ........ .........  ...... ..  ........ ....  ...... .  ... ....  ...... ...  .........:  ........ ..  .... .......  ....... ........  ..... ...  ... ...  ...... ....  ........ ..  ......:  ...... .......  .........:  ........ ..  ... ...  ....... ........  ....:  .. .........   หว้ากอคงเข้าใจเนอะว่าผมพิมพ์อะไร จากคุณ : Thadias เขียนเมื่อ : 26 ส.ค. 52 09:15:11

ความคิดเห็นที่ 79   ^ คห 76 การพิสูจน์ผล ของไสยศาสตร์ ก็เป็นกระบวนการทาง วิทยาศาสตร์ นะครับ เพื่อ หาความจริงที่อธิบายได้ เกี่ยวกับปรากฏการณ์ นั้นๆ อีกนัย คือ พิสูจน์ ว่า มัน เป็นเรื่อง จริงหรือหลอกลวง ที่ ยืนยันได้ ด้วยการทดลอง ไม่รู้ ว่าคนมาตอบหลังๆ ได้อ่าน กระทู้ อันล่าสุด ของผมมั่งไหม สำหรับเรื่อง NP ผมว่าไม่ใช่การ วิจัย นะครับ เรากำลังอยู่ใน ฐานะ ของผู้ พิสูจน์ ความจริง มากกว่า ซึ่ง ประกอบด้วย 2 ส่วน ทาง ทฤษฎี และทาง ปฏิบัติ หาก ทั้ง 2 ตัวสอดคล้องกัน นั่น จะเป็น บทสรุป แต่หาก ทฤษฏี บอกว่า เป็นไปไม่ได้ แต่ ตอน ทดลองเกิดทำได้ คุณ จะคิดยังไงต่อไป อย่างน้อย ต้อง มีคำอธิบายอื่นมา สนับสนุน เราไม่ได้ทำ วิจัย เพื่อสร้าง สิ่งนี้อยู่จริงไหม เรากำลัง แค่พิสูจน์ความจริงด้วย การทดลอง ไม่ใช่การคาดเดา เพียง ทฤษฏี ที่ ยากจะ เข้าใจ หาก มันลงมทุน หมื่น แสน ล้าน แน่นอน ไม่คุ้ม แต่หาก ไม่กี่ พัน กับ การได้ทำเอกสาร เป็นทางการ ถึงการทดลอง จาก พี่น้อง หว้ากอ ได้ มันจะเป็น ความภูมิใจ หน้าใหม่ของ ชาวหว้ากอ รวมทั้งผมด้วยเช่นกัน ผมเอง เข้าใจหลักการวิจัย และ รู้ว่าการ วิจัย คือ การ ทำแนวคิด ออกมาเป็นรูปธรรม ซึ่ง รวม ถึง การลองผิดลอง ถูกด้วยในบางครั้ง แม้จะ พยายาม ทำเป็นรูปแบบมากแค่ไหนก็ตาม การวิจัย ยังต้อง อาศัย แนวคิด ที่ แปลกใหม่ และ นอกกรอบ เพื่อ ให้เกิดสิ่งใหม่ๆ เพราะ วิจัย เพื่อทำสิ่งเดิมให้ดีขึ้นหรือให้เกิดสิ่งใหม่ๆ แต่ วิทยาศาสตร์เป็นกระบวนการ ที่ ใช้ในการ ยืนยันทำซ้ำ เป็นสถิติ ตรวจสอบได้ และช่วย สนับสนุน ผลการวิจัย ให้เป็นที่ยอมรับ **สรุปคือ ไม่ต้อง มีการทดลอง ไม่ต้อง ทำอะไร เพราะ มันไม่คุ้ม หรือ กลัว ว่า หากมันทำได้ จริงๆ ชาวหว้ากอ จะกล้ารับความจริงไหม (ใน ฐานะ ของ นักวิทยาศาสตร์ ที่ ใช่แค่ นักทดลอง แต่ เป็น นักวิทยาศาสตร์ที่ มี ใจ เปิดกว้าง กล้ายอมรับ ไม่อคติ ไม่ปิดกั้น การพิสูจน์ มันคงไม่มี อะไร แบบนี้มาให้ พี่น้องหว้ากอ ปวดหัวกันบ่อยนักหรอก ผมถือเป็น โอกาสที่จะได้ แสดงฝีมือกันเต็มที่ ในการพิสูจน์ ความจริง เพื่อสังคม) หรือหาก มันทำให้ประหยัดน้ำมันไม่ได้ จริงๆ ชาวหว้ากอ ตะหากที่ จะได้ เครดิต ไปเต็มๆ ที่สามารถ ตีแผ่ กลลวง ช่วยไม่ให้คนตกเป็นเหยื่อมากขึ้นได้ จากคุณ : think4223 เขียนเมื่อ : 26 ส.ค. 52 09:24:13

ความคิดเห็นที่ 80 เด็กด้วยกันมักจะมีเรื่องโม้มาคุยให้เพื่อนๆฟัง และเด็กด้วยกันมักจะเชื่อ หรือถ้าไม่เชื่อก็คิดอยากจะพิสูจน์ แม้ว่าสิ่งที่ท้าทายกันมันจะเป็นเรื่องเหลวไหลมากแค่ไหนก็ตาม แต่ด้วยวุฒิภาวะของเด็กๆ ที่ยังไม่มีประสบการณ์ทางโลกจึงไม่สามารถแยกแยะได้ว่าสิ่งไหนจริงสิ่งไหนไม่จริง เด็กๆจึงต้องเรียนรู้ด้วยการทดลองอยู่เสมอๆ แม้ว่าในสายตาผู้ใหญ่สิ่งเหล่านั้นจะเหลวไหลแค่ไหนก็ตาม แต่เวลามีเด็กเล็กๆมาหลอกหรือมาโม้เรื่องอะไรให้เราฟัง เราซึ่งโตเป็นผู้ใหญ่แล้วก็จะหัวเราะ เพราะรู้ในทันทีว่าสิ่งที่เด็กพูดมานั้นมันเป็นไปไม่ได้ เช่นเล่าว่าเพื่อนกินลูกอมแล้วบินได้ ก็จะไม่มีผู้ใหญ่ที่ไหนตื่นเต้นหน้าตั้งแล้วบอกให้เด็กพาไปหาเพื่อนคนนั้นเพื่อพิสูจน์ เพราะผู้ใหญ่ผ่านโลกมามากวุฒิภาวะในการใช้เหตุผลวิเคราะห์มีสูง ไม่จำเป็นที่ต้องพิสูจน์ทุกอย่าง แค่ใช้การวิเคราะห์ก็จะรู้ทันทีว่า เรื่องที่เด็กๆเล่ามานั้นมันเป็นแค่เรื่องโกหก หาใช้ความเป็นจริงไม่ เรื่องของ NP Faster ก็เช่นกัน หากคนที่มีวุฒิภาวะเพียงพอ โดยไม่จำเป็นต้องมีความรู้ทางวิทยาศาสตร์เลย ก็จะสามารถใช้วิจารณาญาณของตัวเองได้ว่า สิ่งที่ NP กล่าวอ้างมานั้นไม่มีทางเป็นความจริงได้ และยิ่งมีการผ่าพิสูจน์วงจรภายในของตัวอุปกรณ์แล้ว ยิ่งทำให้ NP ออกหากจากโลกแห่งความเป็นจริงมากขึ้นไปอีก ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องทดลอง เพราะรู้อยู่แล้วว่าวงจรเพียงแค่นั้นไม่ช่วยให้รถเบาขึ้น เหมือนกับผู้ใหญ่ไม่จำเป็นต้องให้เด็กพิสูจน์ว่ากินลูกอมแล้วบินได้ จากคุณ : (-_-") เขียนเมื่อ : 26 ส.ค. 52 09:32:56

ความคิดเห็นที่ 81   ขอบคุณ คุณท่านทั้งหลายที่ได้ Feed back กลับมานะครับ เริ่มจาก คคห.61 - ก็ผมบอกแล้วไงครับว่าผมจบ ม.3 ผมอยู่เชียงใหม่นี่แหละครับทำงานเป็นคนกวาดขยะ ผมก็เลยจำขี้ปากเค้ามาพูดไงครับ แต่ผมก็มีความเคารพ และมีใจกว้างพอที่จะให้โอกาสความเห็นของคนอื่นโดยไม่เอาความรู้แค่หางอึ่งมาอ้างหรือข่มคนอื่นนะครับ คือผมมิได้เชียร์ Np faster หรืออะไรก็แล้วแต่และผมก็ไม่ได้แถด้วย แต่ผมอยากให้นอกจากจะเรียนเก่ง ฉลาดเหมือนคุณแล้ว แต่ขอให้มันเป็นไปในด้านดีๆทุกด้านบ้าง ไม่ใช่ว่าข้าเก่ง(หรือเปล่า) แล้วข้าจะต้องก้าวร้าวกับคนอื่นๆด้วย อย่าลืมว่าใช่ พรรคพวกในนี้ของคุณเยอะแยะอาจจะมี conspiracy บ้าง แต่ที่ผมบอกการเคารพผู้ที่สูงวัยกว่า นั่นหมายถึงคุณสมบัติที่ คนไทย ต้องมีนะครับ - ย้ำอีกครั้งว่าผมไม่ได้มีส่วนได้เสียกับใครที่มันขายของอย่างนี้เลย แต่ผมไม่อยากจะเห็นลูกหลานในประเทศ ฉลาดแต่ก้าวร้าวเลย คุณเรียนตำราที่แปลมาจาก Text book ของฝรั่งอีกที ตราบใดที่คุณยังไม่คิดทฤษฎีออกมาเอง ผมว่าคุณอย่าพึ่งตัดสินอะไรง่ายๆดีกว่ามั้ย รู้ว่าวงจร LED ที่เรียนมาเป็นสิบๆรุ่นมันมีหน้าที่อะไร แต่ถ้าวันนึงมันมีคุณสมบัติอย่างอื่นที่เราไม่เคยรู้ล่ะ ที่ผมเข้ามาโพสเนี่ยเพราะผมเข้าใจ จขกท. ว่าเค้าต้องการสื่ออะไร - คคห. 66 คุณน่าจะเป็นรุ่นหลานผมเลยมั้ง ผมเล่นพันทิพมานานพอ แต่ผมเลือกที่จะไม่สมัครสมาชิกเพราะมันเป็นเรื่องของผม แต่ถ้าคุณข้องใจคุณกับผมเจอกันที่ไหนก็ได้นัดมาเลย จะได้มานั่งคุยกันหน่อย โอเคมั้ย -คคห. 68 คุณ EITHER เราเจอกันบ่อยในห้องรัชดา ผมเข้าใจความเห็นของคุณครับ เพียงแต่ผมอยากเห็นลูกหลานมันมีมารยาทหน่อยเท่านั้นเองครับ จากคุณ : turbo46 เขียนเมื่อ : 26 ส.ค. 52 09:37:56 A:202.183.189.114 X:

ความคิดเห็นที่ 82 อย่าลืมว่าสิ่งที่ NP กล่าวอ้าง คือหลักการที่ทำให้รถเบาขึ้น ไม่ใช่ทำให้รถประหยัดน้ำมัน เช่นเดียวกับเด็กที่โกหกว่ากินลูกอมแล้วบินได้ ฉันใดฉันนั้น วุฒิภาวะ ทำให้ทุกคนรู้ว่า บริษัทรถยนต์ทั่วโลกมีการแข่งขันเรื่องการประหยัดน้ำมันกันอย่างดุเดือด เหล่านักวิทยาศาสตร์หัวกระทินับพันคน ต่างต่อสู้ค้นคว้าเพื่อหาทางให้เหนือกว่าคู่แข่งได้ ไม่ใช่เพียงแค่ยี่ห้อเดียว แต่ทุกยี่ห้อชั้นนำของโลกต่างต่อสู้กันอย่างดุเดือดคิดค้นกันแทบตาย แล้ว NP Fast เป็นใคร? ทำไม NP Fast ไม่ไปรับรางวัลโนเบล? จากคุณ : (-_-") เขียนเมื่อ : 26 ส.ค. 52 09:38:52

ความคิดเห็นที่ 83   เวร กรรม หลังๆ กลายเป็น มาเถียงกัน ว่า เพราะอะไร ถึงไม่คิด จะพิสูจน์ เพราะ คนนั้น เรียน มา อย่างนั้น เพราะคน นั้นเรียน มาอย่าง นี้ เพราะ หลักการ นั้น หลักการ นี้ เอาก็เอา สรุป หรือไม่คุ้ม ค่ากับการทดลอง เรื่อง บางอย่าง ความคุ้มค่า ทาง ด้านการเงิน ก็เทียบ กับ ความคุ้มค่าทางสังคมไม่ได้ ว่ากันไป ด้วยความเคารพ ครับ จะไม่มีอะไรมากกว่า นี้แล้ว ใช่ไหม ผม จะได้ ทำใจ สักที...T__T จากคุณ : think4223 เขียนเมื่อ : 26 ส.ค. 52 09:41:39

ความคิดเห็นที่ 84   คห 82 ครับ ผม ไม่คิดรอกว่า มัน จะทำให้ รถ เบา ขึ้น ถึง ผมคิด ผมก็เคยได้เสนอ แนวทาง พิสูจน์ไปบ้างแล้ว ลองไปหาดู ที่ผม กำลัง มาพิมพ์อยู่เนี่ย ผม มุ่งไปที่ผล ของ อุปกรณ์ ไม่ใช่ แนวคิด บ้าๆบอๆ ที่ มัน จะเป้นไปได้หรือ หาก ช่วยแยก ออกจากกันหน่อย จุดขาย ไม่ได้ ขาย ทฤษฎี แต่ มัน ขายคนที่อยาก จะได้ อะไรที่ช่วยให้ มันประหยัด น้ำมัน แล้ว ไอ้ นั่นมัน ประหยัดได้ จริงมั้ยก็ ว่ากันไป ไม่งั้น เท่ากับว่า เรา มองคนละมุม คือ มุม ของ คนที่ ค้าน ทฤษฎี กับ มุม ของคนที่ ต้องการ พิสูจน์ว่า มัน หลอกขาย อุปกรณ์ ประหยัดน้ำมัน อยู่หรือไม่ ได้โปรด แยก เรื่อง ทฤษฎี ออกไปก่อน เพื่อหาคำตอบว่า คนไทยกำลังโดย NP หลอกอยู่หรือปล่าว เรื่อง ทฤษฎี ที่เค้ากล่าว อ้าง ผมเองก็ต้องอาศัยการทดลอง จึงจะเชื่อได้เช่นกัน หรือคุณ จะ ว่า ไม่เชื่อ ไม่ทดลองก็แล้วแต่ ประเด็นคือ พิสูจน์ สิว่า มันช่วยหรือไม่ช่วย ประหยัดน้ำมัน เอา แบบ วิทยาศาสตร์ นะไม่ใช่ แค่การตีขรม หรือการคาดเดาจากประสบการณ์ ด้วยความเคารพ จากคุณ : think4223 เขียนเมื่อ : 26 ส.ค. 52 09:51:40

ความคิดเห็นที่ 85 ช่วยโหวตให้เห็นชัดๆกันไปเลย จากคุณ : Multiverse เขียนเมื่อ : 26 ส.ค. 52 09:53:19

ความคิดเห็นที่ 86 อยากให้ทดลองเอาเงินมากองสักล้าน เดี๋ยวก็มีคนพิสูจน์ให้เห็น มันไม่ใช่กิน กุ้งกับวิตามินซีนะ มันต้องใช้เวลาและ ค่าใช้จ่าย เขาวิเคราะห์กันแล้วก็ไม่เชื่อ เพราะถ้าหากทำได้จริง ไม่ต้องมาทำ อุปกรณ์ขายหรอกครับ ไปยื่่นขอรางวัล โนเบลได้เลย anti gravity แบบนี้ ดัง กว่าไอน์สไตน์แน่นอน สรุปแล้วขอตังค์เลยครับ อย่ามานั่งพิมพ์ เฉยๆ แล้วกล่าวหากัน จากคุณ : .eAT เขียนเมื่อ : 26 ส.ค. 52 10:06:19

ความคิดเห็นที่ 87 ถ้าจะพิสูจน์กันจริงๆ ก็ทำได้ครับ 1 ซื้อ NP Fast มา 5 ตัว 2 เอารถยนต์ที่จะใช้ทดสอบ เป็นรุ่นเดียวกันสภาพเดียวกัน 5 คัน 3 ใช้อุปกรณ์ตรวจวัดน้ำมันของบริษัทรถยนต์ (วัดได้ละเอียดอ่อนมาก) 4 ทำการทดสอบขับรถ 5 คัน โดยไม่ใช้ NP 5 ทำการทดสอบขับรถ 5 คัน รอบที่ 1 โดยใช้ NP 6 ทำการสลับ NP กับรถทุกๆคัน 7 ทำการทดสอบซ้ำหลายรอบ คำถามคือ ในเมื่อรู้ว่าลูกอมที่กินแล้วบินได้มันไม่มี จะพิสูจน์ไปทำไม จากคุณ : (-_-") เขียนเมื่อ : 26 ส.ค. 52 10:08:08

ความคิดเห็นที่ 88   ตั้ง กระทู้โหวต ว่า จะทดลอง หรือไม่ทดลองก็ได้ ครับ หากผล บอกว่า จะทดลอง  จะช่วย ออก สัก 500 แต่ ขอ ดู มาตรฐานการทดสอบด้วยนะครับ ร่างเป็นแบบ ฟอร์ม มา โพส ก่อนนำไปทดลองจริง ซึ่งต้อง มีพี่น้องหว้ากอ เป็น สักขีพยาน กัน จำนวนหนึ่ง อย่างน้อย ได้พบ เจอกัน ตัวเป็นๆ ถือเป็น หว้ากอ ภาค เฉพาะกิจ ละกัน สำหรับผล โหวต ออกมา ยังไง ผมก็จะยอมรับเสียงข้างมากละกันคับ จากคุณ : think4223 เขียนเมื่อ : 26 ส.ค. 52 10:18:38

ความคิดเห็นที่ 89   อ่านไปแค่ คห.5 นะครับ ถ้าผมเป็นเจ้าของบริษัทเจอเรื่องแบบนี้ ผมคงจัดการทดลองที่ดีกว่านี้แหละครับ และคนในนี้ก็ไม่ได้มีหน้าที่ต้องพิสูจน์ให้บริษัทนะครับ อาจเหมือนกล่าวหา แต่ก็ไม่ถึงกับเป็นการกล่าวหาอย่างไร้เหตุผลนะครับ จากคุณ : Axl เขียนเมื่อ : 26 ส.ค. 52 10:24:53 A:125.27.230.53 X: TicketID:140031

ความคิดเห็นที่ 90 500 ค่าเ่ช่ารถสักคันยังไม่ได้เลย ไหนจะอุปกรณ์วัดต่างๆ ค่าคนขับ ค่าน้ำมัน ต้องล้านหนึ่ง ขาดตัว ทดลอง 5 คันน้อยไป อย่างน้อย ไม่ต่ำกว่า 20 คันครับ จากคุณ : .eAT เขียนเมื่อ : 26 ส.ค. 52 10:28:36

ความคิดเห็นที่ 91 มันมีวิธีง่ายกว่านั้นครับ คือไม่ต้องพิสูจน์เรื่องการประหยัดน้ำมัน แต่ให้ NP ออกมาชี้แจงว่า อุปกรณ์ชิ้นนั้นทำงานอย่างไร ซึ่งต้องเป็นเหตุทางวิทยาศาสตร์จริงๆ ไม่ใช่เหตุผลพิศดารแบบที่กล่าวอ้าง เช่น ทำให้รถเบาขึ้น สนามแรงดึงดูดเอย ในมุมมองของผมแล้ว การจะพิสูจน์ NP Fast ว่าประหยัดน้ำมันหรือเปล่า มันเหมือนกับการพิสูจน์ว่าผีมีจริงหรือเปล่า โดยแยกออกเป็น 2 ฝ่าย ฝ่ายที่อ้างว่าผีมีจริง คือฝ่าย NP บอกว่าในกล่องที่ตัวเองสร้างมีผีอยู่ข้างใน(ผีช่วยยกให้เบาขึ้น) แต่พอหว้ากอผ่าพิสูจน์แล้วว่าภายในไม่มีผีอยู่จริง ฝ่าย NP ก็เถียงหัวชนฝาว่า มีผีอยู่จริงๆ จากนั้นก็ถ้าทายให้พิสูจน์ แต่ไม่ใช่การพิสูจน์โดยการอธิบายว่า NP จับผีมาได้อย่างไร แต่ NP ถ้าให้ หว้ากอพิสูจน์โดยการ ให้ไปหาหลักฐานว่าผีไม่มีอยู่จริง คุณคิดว่า ถ้าให้คุณพิสูจน์ 2 กรณี อันไหนจะยากกว่ากันครับ 1 ให้คุณพิสูจน์ว่าผีมีอยู่จริง 2 ให้คุณพิสูจน์ว่าผีไม่มีอยู่จริง ก็รู้ๆกันอยู่ครับว่า พิสูจน์กรณีที่ 1 ง่ายกว่า เพราะคนที่กล่าวอ้างว่าผีมีจริง ต้องหาผีมาโชว์ให้ได้ แต่คนที่ต้องพิสูจน์กรณีที่ 2 มันกว้างมาก เขาต้องตะเวนหาผีทั้งโลกนี้ ค้นทุกซอกทุกมุมเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีผีอยู่จริง ถ้าหากเขาไปไม่ทั่วทุกพื้นที่ ก็จะมีคนมาแถว่า ก็คุณยังหาไม่ทั่ว ที่โน่นไง ที่นั่นไง ทำไมไม่ไปหา กรณีของ NP Fast หลักการที่กล่าวอ้างมันเป็นเรื่องเหลวไหลครับ แล้วการพิสูจน์ว่ามันประหยัดน้ำมันจริงหรือไม่ มันไม่จำเป็นหรอก ให้ NP ออกมาชี้แจงก็พอว่า อุปกรณ์ของตนทำงานอย่างไร ด้วยหลักวิชาการและวิทยาศาสตร์จริงๆ เราต้องให้คนที่อ้างว่ามีผี จับผีมาพิสูจน์ครับ ไม่ใช่ว่าเราต้องเป็นคนพิสูจน์โดยการค้นทุกซอกทุกมุมของโลกเพื่อพิสูจน์ว่าผีไม่มีจริง จากคุณ : (-_-") เขียนเมื่อ : 26 ส.ค. 52 10:33:38

ความคิดเห็นที่ 92   คห 89 ผมว่า เรา พิสูจน์ เพื่อ คนไทย จะได้ไม่โดนหลอก เพื่อ ตีแผ่ ความจริง ไม่ใช่ เพื่อ บริษัท เจ้าของผลงาน เลย เพราะ ผมเล็งเห้นผล ประโยชน์ ของ คนไทย ที่ จะตกเป็นเหยื่อ มากกว่า จะมาช่วยอะไรกับ บริษัท ที่ขายของ นั้นๆ ประเด็น คือ เรากำลัง มอง ตัวเรา แค่ เครื่องมือง ของ บริษัท หนึ่งๆ หรือ เรา คือเครื่อง มือที่ หาคำตอบ และชี้ทางที่ถูกต้องให้ สังคม หาก เครื่องนั้น ประหยัดน้ำมันได้ จริง ก็เท่ากับ ว่า เราได้แนะนำ สิ่งที่ช่วยลดค่าใช้จ่ายให้แก่ คนไทยคนอื่นๆได้ ทั้งคุณและ ผม หากมันไม่ประหยัดอะไรเลย ก็เท่ากับว่า คุณได้ พาคนไทยอีกหลายๆคน ได้ตาสว่าง และหลุด พ้น จาก ความเชื่อ ทฤษฎี ที่ เหลือเชื่อ ด้วย การพิสูจน์ แบบ เชื่อถือได้ หรือ มัน พิสูจน์ ยากเกิน ความสามารถ หรือ ไม่ต้องการรู้ผลอะไรจาก วงจร ที่ ไม่ได้ซับซ้อน ?? ไม่รู้ ทำไมต้อง สร้าง เกราะ ให้ตัวเอง กันนัก มันคงไม่มี เคสอะไร ที่ให้ ชาวหว้ากอ ลง ทุน เพื่อ ตีแผ่ความจริง เรื่อง แบบนี้กันได้บ่อยๆไหรอกครับ ไม่ทำครั้งนี้ มี มาเรื่อยๆ ก็ จะมีคนตกเป็นเหยื่อไปเรื่อยๆ ก็ได้ แล้ว ที่ว่าจะทำประโยชน์ให้สังคม นั้นทำได้ จริงหรือ หรือ แค่ ได้ ด่า กัน สนุก ไปแค่นั้น เอง ด้วยความเคารพ จากคุณ : think4223 เขียนเมื่อ : 26 ส.ค. 52 10:35:20

ความคิดเห็นที่ 93   คห 89 ผมว่า เรา พิสูจน์ เพื่อ คนไทย จะได้ไม่โดนหลอก เพื่อ ตีแผ่ ความจริง ไม่ใช่ เพื่อ บริษัท เจ้าของผลงาน เลย เพราะ ผมเล็งเห้นผล ประโยชน์ ของ คนไทย ที่ จะตกเป็นเหยื่อ มากกว่า จะมาช่วยอะไรกับ บริษัท ที่ขายของ นั้นๆ ประเด็น คือ เรากำลัง มอง ตัวเรา แค่ เครื่องมือง ของ บริษัท หนึ่งๆ หรือ เรา คือเครื่อง มือที่ หาคำตอบ และชี้ทางที่ถูกต้องให้ สังคม หาก เครื่องนั้น ประหยัดน้ำมันได้ จริง ก็เท่ากับ ว่า เราได้แนะนำ สิ่งที่ช่วยลดค่าใช้จ่ายให้แก่ คนไทยคนอื่นๆได้ ทั้งคุณและ ผม หากมันไม่ประหยัดอะไรเลย ก็เท่ากับว่า คุณได้ พาคนไทยอีกหลายๆคน ได้ตาสว่าง และหลุด พ้น จาก ความเชื่อ ทฤษฎี ที่ เหลือเชื่อ ด้วย การพิสูจน์ แบบ เชื่อถือได้ หรือ มัน พิสูจน์ ยากเกิน ความสามารถ หรือ ไม่ต้องการรู้ผลอะไรจาก วงจร ที่ ไม่ได้ซับซ้อน ?? ไม่รู้ ทำไมต้อง สร้าง เกราะ ให้ตัวเอง กันนัก มันคงไม่มี เคสอะไร ที่ให้ ชาวหว้ากอ ลง ทุน เพื่อ ตีแผ่ความจริง เรื่อง แบบนี้กันได้บ่อยๆไหรอกครับ ไม่ทำครั้งนี้ มี มาเรื่อยๆ ก็ จะมีคนตกเป็นเหยื่อไปเรื่อยๆ ก็ได้ แล้ว ที่ว่าจะทำประโยชน์ให้สังคม นั้นทำได้ จริงหรือ หรือ แค่ ได้ ด่า กัน สนุก ไปแค่นั้น เอง ด้วยความเคารพ จากคุณ : think4223 เขียนเมื่อ : 26 ส.ค. 52 10:35:38

ความคิดเห็นที่ 94 ความคิดของผมคือ ผู้ผลิตมี " หน้าที่ " ต้องพิสูจน์ว่าผลิตภัณฑ์ที่จำหน่าย มีคุณสมบัติ ประสิทธิภาพ ตามที่โฆษณา ไม่เช่นนั้นจะเข้าข่ายหลอกลวงประชาชน ผู้ผลิตไปขอให้อาจารย์คณะวิศวะท่านหนึ่งทำการทดสอบ และเอาใบรับรองมาใช้ในการประชาสัมพันธ์ แต่ ... การทดลองที่ว่า  " ไม่ถูกต้อง "   คงไม่ต้องบอกว่าไม่ถูกตรงไหน เพราะหาส่วนถูกไม่ได้ และอาจารย์เอง ออกมาโฆษณาเลิศลอยไปถึงขนาดลดแรงโน้มถ่วงของโลกได้ มีผู้สงสัยว่า ไม่น่าจะทำได้ จึงลงทุนซื้ออุปกรณ์มาศึกษา ผลก็เป็นอย่างที่เห็นกัน คือ   .... เมื่อเห็นว่ามีคนรู้จริง เอาชิ้นส่วนอุปกรณ์มาแสดงให้ดู อาจารย์ถึงได้ออกมายอมรับว่า ทดสอบโดยไม่รู้ว่าอุปกรณ์ทำงานได้อย่างไร ( พูดได้ไงนี่ ?? ) รู้แต่ว่า ทดลองแล้วได้ผล ( ที่ทำไปนั้น เรียกว่าทดลองได้หรือ ??? ) ดังนั้น เป็นความรับผิดชอบของผู้ผลิตที่ต้องจัดการทดสอบใหม่ เพราะเป็นผู้ได้รับผลประโยชน์จากผลิตภัณฑ์ การทดสอบครั้งใหม่ ควรจัดโดยสถาบันที่ได้รับความเชื่อถือ เช่น คณะวิศวกรรมจากทุกมหาวิทยาลัย คุณเจ้าของกระทู้แจ้งไปทีี่่ผู้ผลิตดีกว่ามั้ยครับ ให้ทำการทดสอบอีกครั้ง ไม่ใช่มาบอกในเว็บให้ไปหักล้างคำโฆษณา ถ้าทดสอบได้ผลละก็  นอนกินไปอีกร้อยชาติได้เลย แต่......ยังสงสัยว่า บริษัทจะกล้าหรือเปล่าเท่านั้น จากคุณ : 447 เขียนเมื่อ : 26 ส.ค. 52 10:46:17

ความคิดเห็นที่ 95 การทดลองเป็นแค่ขั้นตอนสุดท้ายของกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การตั้งทฤษฎีเป็นขั้นตอนก่อนหน้า จึงทฤษฎีต้องสามารถพิสูจน์ว่า มีความเป็นไปได้เสียก่อน โดยมีเหตุผลมารองรับ จึงจะเป็นกระบวนการที่ถูกต้อง หากทฤษฎีนั้นไม่มีหลักการมารองรับแล้ว ทำการทดลองต่อ มันก็ไม่ใช่วิทยาศาสตร์แล้ว ในเมื่อไม่มีทฤษฎีใดๆที่จะมารองรับว่า วงจรขับ LED จะสามารถต้านแรงโน้มถ่วงได้ การให้เจ้าเครื่องนี้ ประหยัดน้ำมันไม่ได้ในทางวิทยาศาสตร์ ก็เป็นการสรุปที่ถูกต้องตามกระบวนการทางวิทยาศาสตร์แล้วครับ วิทยาศาตร์ไม่ใช่แค่การทดลองครับ แก้ไขเมื่อ 26 ส.ค. 52 10:51:12 จากคุณ : กฤตยฎีกา เขียนเมื่อ : 26 ส.ค. 52 10:47:14

ความคิดเห็นที่ 96 เอาไปอ่านซะหน่อยว่า ระเบียบวิธีทางวิทยาศาตร์มัีนเป็นยังไง ไม่ใช่ทดลองแล้วก็บอกว่าเป็นวิทยาศาตร์ http://th.wikipedia.org/wiki/ระเบียบวิธีทางวิทยาศาสตร์ แก้ไขเมื่อ 26 ส.ค. 52 10:50:44 จากคุณ : กฤตยฎีกา เขียนเมื่อ : 26 ส.ค. 52 10:49:28

ความคิดเห็นที่ 97 ถ้าความพยายามของ จขกท.ทำด้วยความบริสุทธิ์ใจจริงๆ และผมเชื่อ ผมก็ขอย้ำจากคคห.32 อีกครั้งนะครับว่า การหาคำอธิบายในกรณีนี้ ที่คุณควรจะคิดมันไม่ใช่ วงจร LED นี้ทำให้ "ประหยัดน้ำมันจริงหรือไม่" แต่เป็น วงจน LED นี้ทำให้ "ประหยัดน้ำมันเพราะอะไร" ต่างหาก กระบวนวิธีคิดต่อจาก 2 คำถามนี้มันต่างกันนะครับ และกระบวนการหาคำตอบ เพื่อนำไปสู่วิธีทดลอง หลังจากนั้นก็ต่างกันด้วย มันแปลกตั้งแต่วิธีเริ่มตั้งคำถามก่อนสมมติฐานแล้ว มันถึงได้ต้องดันทุรังเพ้อว่าควรจะทดลองอยู่นั่น หลายๆคนพยายามบอกแล้วก็ไม่ฟัง ดันไปหาว่าเขาตีขรมอีก วิธีการอ้างเหตุผลโต้กลับผมก็เห็นแต่ drama ครับ ไม่ได้ใช้เหตุผลหรือความเป็นนักวิทยาศาสตร์เลย คคห.81 การบอกว่าผมเป็นคนก้าวร้าว การบอกว่าชาวหว้ากอฉลาดแต่ไม่เคารพผู้ใหญ่ หรือการบอกว่าคุณจบ ม.3เป็นคนกวาดขยะแต่เคารพผู้อาวุโส คนแก่ เป็นคนดี เป็นสิ่งที่คนไทยต้องมี บลาๆๆ ไม่ได้หักล้าง argument ผมในคคห.61หรือตั้งแต่เริ่มกระทู้เลยสักนิดครับ แถมเหตุผลที่ใช้ใน คคห.81 invalid มากมีข้ออ้างแต่ไม่มี evidence ใดๆเลย แต่ดันบังคับให้มีข้อสรุปที่ต้องเชื่อแล้ว อุตส่าห์โม้ว่าตัวเองจบ ม.3 เวลาพูดอะไร ปัญญานิ่มจะได้ไม่ต้องอาย แต่ผมว่าต่อให้จบ ป.4 ถ้ารู้จักหัดใช้เหตุผลดีๆ ก็สามารถมี validation ในสิ่งที่พูดได้ครับ ไม่ใช่ drama อย่างเดียว เน้นพิมพ์สะเทือนใจเฉยๆ มันไม่ได้อะไรหรอกครับ จากคุณ : Jinx D Wednesday เขียนเมื่อ : 26 ส.ค. 52 10:50:47

ความคิดเห็นที่ 98 ต่อ คคห.97 ผมอยู่ในแวดวงวิชาการ และมีการสัมนา วิจัย มีการเขียน paper ถกเถียงทางวิชาการมานาน และอย่างเข้มข้ม มันไม่เกี่ยวกันเลย ว่าคนที่เถียงด้วยจะเป็นใคร แก่แค่ไหน จบอะไรมาบ้าง ถ้าคุณ ใช้หลักฐานทางวิชาการ และการอ้างเหตุผลที่ดีพอในการถกเถียงกัน ทั้งเจ้าของงาน แต่ผู้ตั้งคำถามต่างยอมรับกัน และคนอื่นๆก็สามารถ มองออกว่า การตั้งคำถามของคุณ ต่องานของคนอื่น น่าฟังหรือไม่ มีคนนำไปอ้างอิงถกเถียงต่อหรือไม่ นั่นคือวิธีการตรวจสอบทางวิชาการ ไม่ใช่การบอกว่าคุณเด็กกว่า คุณไม่ควรจะก้าวร้าวกับผู้ใหญ่ในทางวิชาการ ถ้าแบบนั้น สิ้นหวังแล้วครับ จากคุณ : Jinx D Wednesday เขียนเมื่อ : 26 ส.ค. 52 11:00:52

ความคิดเห็นที่ 99 ในกระทู้เก่า   คุณหมอแมวเหมียวพุงป่องออกมาท้าบริษัทให้ทำการทดลองใหม่ ถ้าได้ผลจริง ยินดีออกค่าใช้จ่ายให้ แต่ถ้าไม่ ..... อย่าบอกว่าบริษัทไม่เห็นการท้าทาย บริษัทตามอ่านแน่นอน เพราะก่อนนี้ออกมาตอบโต้ มีขู่จะฟ้องอีกต่างหาก ทำไมบริษัทเงียบไปซะงั้น แบบนี้คงพอแสดงให้เห็นอะไรได้แล้วใช่หรือไม่ครับ คุณเจ้่าของกระทู้ จากคุณ : 447 เขียนเมื่อ : 26 ส.ค. 52 11:18:51

ความคิดเห็นที่ 100   Jinx D Wednesday พูดถูกใจอยากให้ อยากตอบ แต่คนอื่นก็ตอบไปหมดแล้ว อย่างเรื่องที่เห็นด้วยว่า ถ้าจขกท.มั่นใจว่าวงจรนี้เป็น breakthrough ทางฟิสิกส์ ก็เชิญเอาไปทดลอง ให้ดังได้เหมือนเอดิสันเลยนะ ไม่มีใครห้าม จากคุณ : Black-White&Gray เขียนเมื่อ : 26 ส.ค. 52 11:35:50

ความคิดเห็นที่ 101 สมมติฐานคือ: จขกท.เป็นเด็กร้อนวิชา พึ่งจะได้เรียนวิทยาศาสตร์ แต่ยังเรียนไม่ถึงอิเล็กทรอนิกส์ จะทดลองยังไงดี??? จากคุณ : นนร่างเทพ เขียนเมื่อ : 26 ส.ค. 52 11:48:33

ความคิดเห็นที่ 102 ผมล่ะเป็นงงกับเจ้า จกขท. ผม หรือใครหลายคนในห้องนี้หรือแม้แต่ จกขท. ตางก็รู้ว่า อุปกรณ์แต่ละตัวใน NP Faster ทำหน้าที่อย่างไร  มันก็มองออกได้แล้วว่าเราคงไม่ต้องทดลองอะไรมากกว่านี้แล้ว ผมถามหน่อยว่า จุดประสงค์ของผลิตภัณฑ์ตัวนี้คืออะไร ตัดแรง g ??? แล้ววงจรแบบนี้ มันก็มีให้เห็นทั่วไป ซึ่งมันก็ทำหน้าที่พิสูจน์ของตัวมันอยู่แล้ว ว่ามันไปตัดแรง g ไม่ได้  คุณจะไปดันทุรังทำไม ในเมื่อคุณเองก็รู้เหมือนกับที่ทุกๆคนรู้ แล้ว คห.92 ที่คณบอกมาน่ะ ผมว่านั่นแหละคือตัวคุณทั้งหมด คุณต่างหากที่สร้างเกราะให้ตัวเอง คุณเองที่หลับหูหลับตาพยายามจะค้นหา ความจริงจากความจริงอีกที ซึ่งผลลัพธ์ของมันก็คือความจริงอยู่ดี เสียเวลาเปล่าๆน่ะคับ .... จากคุณ : T DE ROOD เขียนเมื่อ : 26 ส.ค. 52 11:55:56

ความคิดเห็นที่ 103   คคห. 97-98 คุณมันเก่งนักวิชาการคีย์บอร์ด อยู่ในแวดวงวิชาการ(ในกรอบ) สรุปแล้วที่ผมคิดมันก็จริงๆซะด้วย คุณโดนตีกรอบหรือตีเองก็ไม่รู้ ถามหาแต่เหตุผลอย่างเดียวเลยนะ ไปศึกษามานะว่าทำไมต้องมี นิติศาสตร์ และรัฐศาสตร์ ทั้งๆที่ มีนิติศาสตร์อย่างเดียวก็น่าจะพอแล้วมิใช่เหรอ คือเข้าใจนะว่าจะเถียงกับคุณต้องยกเหตุผลๆ อย่างเดียวเท่านั้น ผมไม่ได้ว่าความรู้ที่คุณเบ่งออกมานั้นมันผิด แต่ผมกำลังจะบอกว่าทำให้มันสมบูรณ์พอที่จะว่าให้คนอื่นแรงๆอย่างนี้จะดีมั้ย หรือว่าในเมื่อบอกว่าจะทดลองไปทำไมเสียเวลาเปล่าอันนี้ผมก็เห็นด้วย แต่อยากให้ใช้ความเห็นที่มันดูดีกว่านี้หน่อยไม่ใช่งัดเอาความรู้เดิมๆออกมาอัดคนอื่นเค้าอย่างเดียว...และผมก็จะหยุดการโต้ตอบเพียงเท่านี้ เชิญนักวิชาการที่อยู่ในแวดวง อหังการ์ต่อไป..เสียดายจริงๆ จากคุณ : turbo46 เขียนเมื่อ : 26 ส.ค. 52 12:00:55 A:127.0.0.1 X:202.183.189.114

ความคิดเห็นที่ 104 กระทู้ชวนทะเลาะยอดเยี่ยมแห่งหว้ากอ ลบๆไปเหอะรก จากคุณ : Thadias เขียนเมื่อ : 26 ส.ค. 52 12:09:41

ความคิดเห็นที่ 105 ผมเห็นด้วยกับ จขทก.ครับ คือแม้เราจะเห้นข้างในแล้ว และรู้อยู่เต็มอกว่าเป็นไปไม่ได้ แต่เพื่อความแม่นยำของข้อมูลต่างๆแล้ว ยังไงก็ต้องลองปฎิบัติจริง โดย ใช้ Np faster สองตัว อีกตัว เป็นของแท้ อีกตัวเป็นแค่กล่องเปล่า มีมีหลอดไฟ (ความจริงของแท้มันก็มีแค่นั้น) แล้วเอามาทดสอบบนรถคันเดียวกัน บนถนนและสภาพแลดล้อมเดียวกัน ใช้สลับกัน โดนไม่ให้คนขับรู้ว่าอันใหนของแท้ อันใหนของปลอม และบักทึกวัดผล หลังจากนั้นค่อยด่าให้ คนทำมันหน้าแหก เหมือนเดิม จากคุณ : Fatdiary เขียนเมื่อ : 26 ส.ค. 52 12:10:43

ความคิดเห็นที่ 106 ^ ^ ครับสะเทือนใจมาก อยากเห็นตัวอย่างอะไรที่ดีไปกว่าการใช้เหตุผล ที่สมเหตุผลเหมือนกัน เพราะวิธีการพล่ามของคุณก็ไม่ได้มีการใช้เหตุผลที่ดีอะไรเลย ถ้าบอกว่าการอ้างเหตุผลของผมบกพร่องช่วยชี้ด้วยครับว่าอย่างไร และอ้างเหตุผลประกอบการหักล้างด้วย คุณไม่ได้หักล้างทั้ง argument ด้วยการใช้เหตุผลที่ดี หรือหักล้างหลักฐานทาง วิทยาศาสตร์ใดๆ ต่อข้อสรุปของหว้ากอกับNP Faster เลยสักนิด แม้แต่คำพูดที่คุณอ้างว่า "ทั้งๆที่มีนิติศาสตร์อย่างเดียวก็น่าจะพอแล้วมิใช่เหรอ" เพื่อคัดง้างในตัวเองว่า "ควรจะมีทั้งนิติศาสตร์และรัฐศาสตร์ไม่ใช่หรือ" ก็ไม่ได้ใช้การอ้างเหตุผลอะไรรองรับเลยว่า คุณรู้ได้อย่างไรทั้งในสองกรณี ว่ามีคนบอกว่ามีนิติศาสตร์อย่างเดียวก็พอแล้วไม่ใช่หรือ และการที่มีคนบอกว่า ควรจะมีทั้งนิติศาสตร์และรัฐศาสตร์ควบคู่กันไป ซึ่งคนที่จะตั้งคำถามพวกนี้ อย่างจริงจังคือนักปรัชญาวิเคราะห์ และเขาไม่ได้ทำกันอย่างนี้ หรือสักแต่ว่าพูดแค่นี้ แล้วก็วิธีคิดนอกกรอบแต่ไม่มีเหตุผลรองรับ เขาเรียกเพ้อเจ้อครับ ภาษาปรัชญาเขาเรียก invalid ไม่สมเหตุสมผล วิธีคิดนอกกรอบ เพื่อหาอะไรใหม่เขาไม่ได้เพ้อเจ้ออย่างนี้ *edit :จิ้ม 103 นะครับ แก้ไขเมื่อ 26 ส.ค. 52 12:20:11 แก้ไขเมื่อ 26 ส.ค. 52 12:18:30 จากคุณ : Jinx D Wednesday เขียนเมื่อ : 26 ส.ค. 52 12:17:37

ความคิดเห็นที่ 107 คห. 92-93 คุณ จขกท. การที่คุณบอกว่าการทดลองเรื่องนี้จะทำให้คนไทยตาสว่างและจะไม่ถูกหลอกอีก ซึ่งผมว่าการทดลองเรื่องนี้ผลออกมาอย่างไร ก็แค่ช่วยคนไทยที่ไม่รู้อะไรจากเรื่องนี้แค่เรื่องเดียวที่ไม่ให้โดนหลอก ต่อไปก็จะมีอุปกรณ์ลวงโลกแบบอื่นมาหลอกอีก แล้วเราก็ต้องมาทดลองเพื่อให้คนไทยได้รู้อีก แล้วเมื่อไหร่คนไทยจะรู้ว่าตัวเองไม่โดนหลอก เพราะอุปกรณ์หลอกลวงก็จะมีมาใหม่เรื่อยๆ เราชาวหว้ากอไม่ต้องมาทดลองเรื่อยๆ อย่างนั้นหรือ คุณควรจะเอาการถกเถียงในนี้ไปให้ความรู้แก่คนไทยคนอื่นๆ คนใกล้ตัวคุณ รวมถึงตัวคุณเองด้วยให้มีความรู้เพียงพอที่จะเป็นภูมิคุ้มกันให้คนไทยไม่โดนหลอกอีก จากการอ้างทฤษฏีเลื่อนลอย การใช้เหตุผลทางวิทยาศาสตร์ที่ไม่เป็นจริง ในการเลือกซื้ออุปกรณ์ลวงโลกในอนาคต โดยไม่จำเป็นต้องทำการทดลองให้เสียเวลาและทรัพยากร และคนไทยก็จะไม่ตกเป็นเหยื่อต่อไปเรื่อยๆอย่างที่คุณต้องการ ซึ่งเป็นเรื่องที่ง่ายกว่า มีประสิทธิภาพที่ดีกว่าครับ การศึกษาเท่านั้นที่จะทำให้คนหลุดพ้นจากการหลอกลวง แล้วอย่าหาว่าผมสร้างเกราะ หรือเป็นแค่นักเลงคีย์บอร์ด นะครับ... จากคุณ : pizza_p เขียนเมื่อ : 26 ส.ค. 52 12:34:06

ความคิดเห็นที่ 108 ระเบียบวิธีทางวิทยาศาสตร์ 1 การระบุลักษณะเฉพาะ 2 การตั้งสมมติฐาน 3 การทำนายผลจากสมมติฐาน 4 การทดลอง NPFaster นั้นมีการทำการ 1.แยกส่วนระบุลักษณ์เฉพาะ 2.ตั้งสมมติฐานว่าชิ้นส่วนพวกนั้นประกอบเป็นวงจรจะสามารถทำให้สร้างสนามแม่เหล็กต้านแรงดึงดูดจริงหรือ 3.ทำนายผล อ้างอิงจากวงจรไฟฟ้าธรรมดาหลอก LED ธรรมดา1หลอด ไม่มีทางให้กำเนิดสนามแม่เหล็กเพื่อต้านแรงดึงดูดได้เลย ไม่ว่าจะใช้วิธีการอะไรจากวัสถุเหล่านั้น 4.การทดลอง มีการทำการทดลองไปหมดแล้วเพราะมันแค่วงจร LED ธรรมดาๆยังจำเป็นต้องทำการทดลองใหม่อยู่อีกหรือ คุ้มไหมกับการเสียเวลา? จากคุณ : Thadias เขียนเมื่อ : 26 ส.ค. 52 13:22:41