ความคิดเห็นที่ 1   ข่าวออกมาจากหน่วยงานไหนละครับ  ....... จากคุณ : monsungja เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 52 22:22:54

ความคิดเห็นที่ 2 ไม่จริงครับ มันเป็นความโง่ของชาวบ้านที่ทำเพื่อเพิมรสชาด ปรกติเหล้ากลั่นจะมีรสชาดหลักของวัตถุดิบอยู่น้อยๆ คือกลิ่นของข้าว ซึ่งเหล้าอย่างวิสกี้จะใช้กลิ่นของไม้โอ๊ก กลิ่นของถ่านในการแต่งกลิ่นและรส ส่วนบ้านเรา เพื่อให้ได้รส่เลยใช้ยาฆ่าแมลงทาก้นหม้อ การมีสารพิษปนอยู่ทำให้แม้แอลกอฮอล์จะเจือจางลงหน่อย (กลั่นนานๆมีน้ำปนอยู่เยอะ) ก็ยังรู้สึกเมา ความจริงก็คือมึนพิษยาฆ่าหญ้านั่นแหละ แต่ที่มีคนแถไปเป็นเพื่อลดจุดเดือดนี่ ผมก็เพิ่งรู้ อยากเขียนให้เบากว่าบอกว่าโง่หรอกครับ แต่ข้างขวดมันก็เขียนไว้อยู่แล้ว ว่ายาฆ่าหญ้า ต่อให้อ่านหนังสือไม่ออกก็ควรรู้ว่าเครื่องหมายหัวกระโหลกไขว้แปลว่าอะไร จากคุณ : Darth Prin เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 52 22:29:38

ความคิดเห็นที่ 3 ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr. Fusion เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 52 22:29:59

ความคิดเห็นที่ 4   เข้ามาแล จากคุณ : AsV เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 52 22:40:49

ความคิดเห็นที่ 5 หรือเขาคิดว่ายาฆ่าหญ้า ฆ่าได้แต่หญ้า ฆ่าคนไม่ได้... แก้ไขเมื่อ 01 ก.ย. 52 22:44:54 จากคุณ : นายอุดม เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 52 22:44:42

ความคิดเห็นที่ 6 เคยได้ยินมาว่า ยาฆ่าหญ้าเป็นอันตรายมาก เพราะกินเข้าไปแล้วล้างท้องไม่ออก พิษมันซึมฝังเข้าไปในท้อง ไส้ค่อยๆเน่า ตายอย่างทรมาน จากคุณ : รู้สึกตัว เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 52 22:51:30

ความคิดเห็นที่ 7 ไม่มีหรอก ก็พูดกันไปอย่างนั้นแหละ เหล้าเขาต้มเอาแอลกอฮอล์ ที่อยู่ในนำ้หมัก จากข้าว หรือผลไม้อะไรก้แล้วแต่ แอลกอฮอล์ มันอยู่ในน้ำหมักจุดเดือดมันต่ำกว่าน้ำ อยู่แล้ว เขาไม่ต้มให้มันเดือดหรอก คุมไฟแค่ 70-80 องศาเท่านั้น คอยดักเอาไอแอลกอฮอล์ แล้วควบแน่น เป็นของเหลว เก็บไปบ่ม แล้วมาเจือจางด้วยน้ำเป็น 35% หรือ 40%   ปรุงแต่งสีกลิ่น ให้ชวนกิน ยิ่งบ่มนาน เช่น 6 ปี 12 ปี แอลกอฮอล์มันยิ่งสายสั้นลง ส่วนที่เป็นสารอื่นก้ตกตะกอนนอนก้น ได้แอลกอลฮอล์คุณภาพดี กินแล้วไม่เมาค้าง ไม่ปวดหัว  ...สมัยก่อนไม่มีเทอร์โมมิเตอร์ ก็ต้มจนแห้ง เหล้าเถื่อนมันเลยออกกลิ่นเหม็นๆจากส่วนผสมอย่างอื่นในน้ำหมัก เช่นพวกยางพืช หรือสารอื่นๆ หรือส่าเหล้ามันไหม้บ้าง ก็เลยพาลคิดไปว่าเป็นยาฆ่าแมลง ยาฆ่าหญ้าบ้าง ทางรัฐบาล หรือ เจ้าสำปทานขายเหล้าก็ผสมโรงให้มันน่ากลัว ...สรุปไม่มีใครเขาเอายาฆ่าแมลงใส่ในการต้มเหล้า มีแต่ใส่ปุ๋ยยูเรียนิดหน่อย ในกระบวนการหมักที่ไม่ใช้อ็อกซิเจน ระดับอุตสาหกรรม  เร่งให้ยิสต์มันหมักเร็วขึ้น  ทำไม ยูเรียมันมีไนโตรเจน ยิสต์เอาไปสร้างโปรตีน แบ่งตัวได้มากขึ้นเร็วขึ้นเท่านั้น ถ้าทำกินเองเช่นสาโท ไวน์ ก็ไม่ต้องใส่ กินไม่หมดก็เอาไปต้มเป็นเหล้า ต้มสาโทก็กลายเป็นวิสกี้ ต้มไวน์ก็กลายเป็นบรั่นดี ...ฮ่า ยาวไปแล้วประสาคนชอบดื่ม จากคุณ : หมูลิน เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 52 23:20:03

ความคิดเห็นที่ 8 จะได้กินแล้วตายไงครับ จากคุณ : satitpor เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 52 23:40:08

ความคิดเห็นที่ 9 ^ ^ ^ เพื่อนผมเคยไปเห็นเขาทำแล้วก็กินมาแล้วใส่ยาฆ่าหญ้าจริงๆคับ จากคุณ : Starfight เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 52 23:42:05

ความคิดเห็นที่ 10 พวกขี้เมาก็คงจะพูดประมาณว่ายาฆ่าหญ้าไม่ใช่ยาฆ่าคน เฮ!! จากคุณ : =Por= เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 52 23:46:11

ความคิดเห็นที่ 11 ต้มเหล้าพื้นบ้านก็เลยใช้สูตรพื้นๆของเหล้า+ยาฆ่าหญ้าอย่างนี้แหละ สูตรมาตรฐานจริงๆต้องผสมยาเบื่อหนูเพิ่มเข้าไปอีก 20 กิโลกรัมต่อเหล้า 100 ลิตร จากคุณ : ผู้ศึกษา เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 52 23:52:20

ความคิดเห็นที่ 12 ยืนยันครับ เห็นต้มมาสดๆกับตา ว่าใส่ยาฆ่าหญ้า  แบนเดียว 60 บาท กิน6คน นอนกลิ้งเลย (แต่ตอนแรกบ่นๆกัน ซื้อมาทำไมแค่แบนเดียว แต่เพื่อนที่มันกินบ่อยบอกเดี๋ยวก็รู้) ก็ไม่เข้าใจทีแรกเหมือนกันว่าใส่ทำไม ถามก็ตอบแต่ว่ามันเป็นสูตร เห็น กินกันข้างๆ ไม่ตาย เลยลองมั่ง คิดว่าครั้งหนึ่งในชีวิต เอ่อ เราร่างกายเราใช้เวลา กำจัดสารพิษนี่ กี่วันครับเนี่ย จากคุณ : ZGMF-X10A เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 52 23:59:56

ความคิดเห็นที่ 13 เคยกินครับ กินมากๆ ปวดใหล่เมื่อยตามกล้ามเนื้อครับ จากคุณ : max.k (BORN TO BE WILD) เขียนเมื่อ : 2 ก.ย. 52 00:09:22

ความคิดเห็นที่ 14 คห 12 นานครับ ถ้ามีโลหะหนักในยาฆ่าแมลงก็ ไม่ออกเลย~~ จากคุณ : Shineokung เขียนเมื่อ : 2 ก.ย. 52 00:11:50

ความคิดเห็นที่ 15 สังเกต ถ้าเหล้าที่ผสม ยาฆ่าหญ้า มันจะเมาแบบ เวียนหัว+อาเจียน+และปวดตามตัวครับ เท่าที่ทราบมาเหล้าที่เถือนที่มาจาก ลาว ส่วนมากจะใส่กันครับ จากคุณ : Gopz เขียนเมื่อ : 2 ก.ย. 52 01:15:37

ความคิดเห็นที่ 16 ขออภัย  ความไม่รู้ ไม่เข้าใครออกใคร สมัยหนึ่งมีคนเอา แอลกอออร์จุดไฟ ไปกิน  ตาบอด สมัยหนึ่ง มีคนเอา ยาฆ่าหญ้า ใส่ในเหล้าเถื่อน สมัยหนึ่ง มีคนเอาผักกระหล่ำปลีฉีดยาฆ่าแมลงหมาดๆ  มาขาย            กินโดยไม่ล้าง ต้องล้างท้องไม่ทั่วไม่ทัน สมัยหนึ่ง มีคนเอาวัว 5 ขา ไปไหว้ขอหวย สมัยหนึ่ง มีคนเอา NSfaster แล้วบอกประหยัดน้ำมัน เครื่องแรงขึ้น [บินได้เลย สมัยหนึ่ง มีคนไปขอหวยกับพระสงฆ์ ทั้งๆที่พระห้ามเล่นการพนัน สมัยหนึ่ง บอกให้คนไปบวช เพื่อหนีปัญหาเศรษฐกิจ บังคับ 1 พรรษา สมัยหนึ่ง มีคนเอาลวดไปใส่ในปาก นึกว่าเหล็กดัดฟัน จนตัวตาย สมัยหนึ่ง มีคนเอาศพเด็กไปย่างไฟ ทำกุมารทอง สมัยหนึ่ง กินหน่อไม้ดองไม่ต้มก่อน เป็นพิษ จนฝรั่ง ญี่ปุ่นต้องมาวิเคราะห์ botox toxin เอาไว้ป้องกันกรณีอาวุธชีวภาพ สมัยหนึ่ง ............................................. ....................................................... สำหรับ บางคน บางกลุ่ม ความไม่รู้  .....ไม่มีขอบเขต อธิบายไป  ......ไม่ใช่จะเข้าใจ ..... เพราะมันลึกเกินกว่า แสงสว่างจะส่องถึง ขอให้ตัวผมเอง อย่าดื้อเกินกว่าจะเรียนรู้เล๊ยยยย  ..... สาธุ จากคุณ : จ๊าก เขียนเมื่อ : 2 ก.ย. 52 02:00:33

ความคิดเห็นที่ 17 เคยเห็นเหมือนกัน เวลาไปกินเหล้ากับชาวบ้าน ... แถบภาคเหนือนิยมต้มเหล้าชื่อ "ดาวลอย" เป็นเหล้าเถื่อนนั่นแหละ แต่ชาวบ้านชอบใส่ยาฆ่าหญ้า (ใช้ก้านไม้กวาดจุ่มในยาฆ่าหญ้า แล้วใส่ไปในถังหมัก) เคยถามเหมือนกันว่าใส่ทำไม ... คำตอบคือ ทำให้ย่นระยะเวลาหมัก แต่เหล้าพวกนี้ คนต้มจะไม่กินนะเพราะทำไว้ขายบ้าง ส่วนที่เอาไว้กินเองนั้น ... ไม่ใส่ครับ จากคุณ : ปลัดหน่อง เขียนเมื่อ : 2 ก.ย. 52 07:21:43

ความคิดเห็นที่ 18 น่ากลัวแฮะ จากคุณ : โชคดีที่ไม่ดื่ม (au8ust) เขียนเมื่อ : 2 ก.ย. 52 08:37:36

ความคิดเห็นที่ 19 เท่าที่รู้ ตอนกลั่นเสร็จ เขาจะเอา ตอกไม้ไผ่ จุ่มลงในยาฆ่าแมลง แล้วเอาไปแกว่งในถังเหล้ากลั่นครับ ถ้าจำไม่ผิดมันคือ ฟูราดาน จุดประสงค์อย่างที่บอกครับ เพิ่มความเมา เขาเรียกอีกอย่างว่า เหล้าแกว่ง พบมากแทบเชียงราย เชียงใหม่ รุ่นน้องผมจบเทคโนโลยีการเกษตรแม่กก(ผมจำชื่อไม่ได้ แต่คิดว่าน่าจะชื่อนี้นะ) มันบอกแถบนั้นทำแบบนี้เป็นล่ำเป็นสัน ส่วนเหล้าเถื่อนแพร่ ที่ต้มกันเป็นล่ำเป็นสัน ขายส่งต่างจังหวัดรู้สึกจะไม่มี สมัยนี้ที่แพร่เขาใช้น้ำตาล ต้มเหล้ากันแล้วครับ เท่าที่รู้คือ มีมหาวิทยาลัยหนึ่งทำการวิจัยว่า เอา กากข้าวเหนียวที่เหลือจากการหมักเหล้ามาใส่น้ำตาลเพิ่มเข้าไปมันจะทำให้หมักต่อได้อีก 2-3 รอบ ซึ่งจากปกติ จะหมักได้แค่รอบเดียว เพื่อผมที่จบมาด้วยกันมารับสืบทอดกิจการของบ้าน เมื่อก่อนขับรถตระเวณส่งเหล้าเถื่อนไปถึง สุโขทัย กำแพงเพชร เปลี่ยนมาขับรถมาเอาน้ำตาลจากอุตรดิตถ์ ไปขายส่งที่บ้านแทน 1-2 วันขับหกล้อมาเอาที วันไหนหยุดโดนโวยวาย เลยเพราะแถบบ้านมันขาดน้ำตาลต้มเหล้า เหล้าดาวลอย ถ้าจำไม่ผิด ทำที่ อ.อมก๋อย เชียงใหม่ เคยกินครั้งหนึ่ง ไม่รู้ว่าเป็นเหล้าแกว่งหรือไม่ แต่คิดว่าไม่ใช่ อร่อยครับ แถบนั้นน้ำดี ของแพร่ตอนที่ยังไม่ใช่น้ำตาลหมักกินประจำเพื่อนมันกลับบ้านเอามาฝากตลอด ขวด 2 ลิตร กินกันสามคน ยังหมดไม่ถึง 1/2 ขวด แรงมากน็อคกันก่อน คิดว่าไม่น่าจะต่ำกว่า 70% จากคุณ : sayanjo65 เขียนเมื่อ : 2 ก.ย. 52 10:06:07

ความคิดเห็นที่ 20 มายืนยันปลัดหน่อง แล้วก็แสบจริง ๆ คนต้มมันไม่กินเอง มันต้มกินแบบไม่ใส่ เอากับมัน จากคุณ : นักล่าภาพ เขียนเมื่อ : 2 ก.ย. 52 10:13:59

ความคิดเห็นที่ 21 ผมเคยกิน เขาไม่ได้ใส่ยาฆ่าหญ้า เมาถึงใจชะมัด แต่ไม่ปวดหัว ดีที่สุดคือกินสาโท รสหวานทานง่าย จากคุณ : AW Milan เขียนเมื่อ : 2 ก.ย. 52 10:18:34

ความคิดเห็นที่ 22 ไอพวกเหล้าแพงๆก็ไม่รู้ว่ามียาฆ่าหญ้าหรือเปล่าเน๊าะ ดีนะกินแต่นม ถึงได้สวยขนาดนี้ อิืืิือิอิอิอิ จากคุณ : วันๆเอาแต่เล่นเกมส์ เขียนเมื่อ : 2 ก.ย. 52 11:03:34

ความคิดเห็นที่ 23 เคยกินดาวลอย แปลกดีกินแล้วไม่แฮ้ง เคยกินอยู่สองครั้ง ก็เป็นสองครั้งที่ไปม่อนจองนั่นแหละ จากคุณ : amscmu เขียนเมื่อ : 2 ก.ย. 52 12:16:09

ความคิดเห็นที่ 24   ปรกติแล้ว เค้าใส่เพื่อให้เมาง่ายขึ้นครับ คนกินรู้สึกว่า เหล้าแรง เมาง่าย คิดว่าไปต่อว่า เหล้าแรง คือเหล้าดี แต่ไม่ได้สนใจว่า แท้จริงแล้ว มันเมายาฆ่าหญ้า ไม่ได้เมาเหล้า จากคุณ : มอมแมม เขียนเมื่อ : 2 ก.ย. 52 12:28:44 A:192.168.1.106 X:58.147.66.250

ความคิดเห็นที่ 25 ก็กินแล้วมันคงรู้สึกวูบวาบมังครับ...ประมาณมาเร็ว...ไปเร็ว....ประหยัดเหล้าดี...อิอิ... ทั้งนี้มันเกิดจาก Effect ในการยับยั้ง Acetylcholinesterase ครับ เลยทำให้เกิดอาการรู้สึกเหมือนร่างกายจะผ่อนคลาย ความตึงเครียดของกล้ามเนื้อ...(ทั้งตัว)....ที่ Dose ต่ำๆครับ ...แต่คนที่กินอะไรแปลกๆนี่ เดี้ยงมาเยอะแล้ว... ถ้าคิดจะกินยาวๆ ก็ระวังตัวไว้ เตรียมเบอร์รถพยาบาลไว้เลยครับ... จากคุณ : sivpeer เขียนเมื่อ : 2 ก.ย. 52 13:36:52

ความคิดเห็นที่ 26 ใส่เพื่อให้มึนครับประหยัดเหล้า จากคุณ : Timmissatok เขียนเมื่อ : 2 ก.ย. 52 13:39:15

ความคิดเห็นที่ 27   กินทั้งน้ำขุ่นและน้ำใส มาร่วม 30 ปี ไปนั่งดูเขาทำที่แปลงนาก็บ่อย แต่ยังไม่เคยเจอประเภทใส่ยาฆ่าแมลงเลยซักที ส่วนใหญ่ได้กินก็ต้องงานบุญนี่แหละ ทำกันเองกินกันเอง เคยถามคนทำเหมือนกันว่า แถวนี้ใส่ยาฆ่าแมลงด้วย ฤ เปล่า เขาตอบกลับมาว่า ใส่ทำบ้าอะไร ทำกินกันเองขายกันเองในหมู่บ้าน ไม่ได้ทำขายให้คนอื่นกินซะหน่อย ไปกินจังหวัดใกล้เคียงหลายที่ก็ยังไม่เคยเจอใส่ยาฆ๋าแมลงเลยซักที สงสัย วัฒนธรรมการต้มเหล้าเถื่อนของภาคอีสานกับภาคเหนือคนละแบบกันมั๊งครับ 666 จากคุณ : monsungja เขียนเมื่อ : 2 ก.ย. 52 13:50:06

ความคิดเห็นที่ 28 อืม ผมเข้าใจผิดมานานเลยแฮะ นึกว่าพูดถึงกรณีเอา เมทานอลมาต้มกินกันจนตาบอด ที่แท้มีคนเอายาฆ่าหญ้าผสมไปจริงๆ เพื่อให้เมาเร็ว(เมาจากพิษยา -_-") น่ากลัว จากคุณ : ดีนะกินแต่นม (....4จุด) เขียนเมื่อ : 2 ก.ย. 52 16:36:41

ความคิดเห็นที่ 29 ยาฆ่าหญ้าประเภท กรัมม็อกโซน จะมีสารละลายเพื่อให้ตัวยาติดอยู่ที่ใบหญ้านานๆ ซึ่งคุณสมบัติของสารละลายตัวนั้นแหละที่ชาวบ้านนำมาใช้เพื่อลดแรงตึงผิวของสุราขณะต้มกลั่น ทำให้ได้ปริมาณสุราขาวเพิ่มขึ้น นั่นคือกำไรล่ะ วิธีใช้ มิใช่เทยาฆ่าหญ้าลงในเชื้อเหล้า ตายไวเกินไป แต่ใช้ใบหญ้าคาหรือไม้เหลาขนาดก้านธูปจุ่มลงในยาฆ่าหญ้า แล้วไปจุ่มในสุราขณะต้มกลั่น สารละลายจะลดแรงตึงผิวของสุราจนเกิดผลตามข้างต้น เอ...น่าจะมีใครทดลองในแลปตามสถาบันต่างๆ ว่าเป็นจริงดังที่ว่าไหม ? เพราะภูมิปัญญาชาวบ้าน เขาคิด เขาทำมาตั้งนานแล้วล่ะ แก้ไขเมื่อ 02 ก.ย. 52 23:13:45 แก้ไขเมื่อ 02 ก.ย. 52 23:12:16 จากคุณ : owl2 เขียนเมื่อ : 2 ก.ย. 52 23:10:36

ความคิดเห็นที่ 30   ยาฆ่าหญ้า มันไม่ได้ออกฤทธิ์ต่อระบบประสาทด้วยเหรอครับ มันจะทำให้มึน เค้าเลยเอามาใช้ ... จากคุณ : ฟหกด เขียนเมื่อ : 2 ก.ย. 52 23:41:11 A:124.120.220.22 X: TicketID:205742

ความคิดเห็นที่ 31 ปัญหาสำหรับสุราเถื่อนที่มีสารละลายจากยาฆ่าหญ้าเป็นส่วนประกอบในการกลั่นนั้น มีสารพิษเจือปนอยู่ทำให้ชาวบ้านผู้บริโภคตายผ่อนส่งหรือพิการในภายหลัง เรื่องเมาเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว จะซื้อสุราเถื่อนมากิน ต้องรู้ประวัติของผู้ต้มกลั่นว่า ใส่ยาฆ่าหญ้าหรือไม่  หรือใช้วิธีสังเกตแบบชาวบ้านโดยลองเขย่าขวดดู ถ้าสุราเถื่อนเกิดฟองอากาศมากกว่าที่เคยเป็น ก็เข้าเค้าว่ามีสารจากยาฆ่าหญ้าปนมาด้วยครับ จากคุณ : owl2 เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 52 08:52:56

ความคิดเห็นที่ 32 คคห 29 การลดแรงตึงผิวมีผลต่อการเดือด แต่ไม่ใช่การลดจุดเดือด มันคือการทำให้การถ่ายเทความร้อนดีขึ้นเนื่องจากสภาพการเคลื่อนไหวของสารละลายน้ำและแอลกอฮอล์ในหม้อต้ม มันไม่ได้มีผลต่อจุดเดือดที่แตกต่างของแอลกอฮอล์และน้ำ ผมเองก็ลืมคิดถึงประเด็นนี้ไป ถ้ามันต้มได้เร็วขึ้น ใช้เวลานานเท่ากันแต่ได้น้ำมากขึ้นพร้อมได้ความเมาจากพิษยาฆ่าหญ้า มันก็มีเหตุผลที่มันจะเชื่อว่าทำให้จุดเดือดลดลงอะไรประมาณนี้ แต่มันก็เป็นเรื่องโง่อยู่ดีที่ไปทำอย่างนั้น จากคุณ : Darth Prin เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 52 10:45:52

ความคิดเห็นที่ 33 ผมได้ยินเขาเล่ากันต่อๆ มาว่า สาเหตุมาจากมีขโมยชอบลักเอาเชื้อสุราที่หมักเอาไว้ไปกลั่นขาย เจ้าของเลยแค้นใจ เอากรัมม็อกโซนเทลงไปด้วย แต่ผลลัพธ์ที่ได้ กลับเป็นปริมาณสุราที่มากกว่า จะว่าชาวบ้านโง่หรือฉลาดก็ตามแต่ สิ่งที่น่าสนใจก็คือสารลดแรงตึงผิว มีผลต่อการต้มกลั่นสุราอย่างไรบ้าง  ถ้าใช้เพียวๆ โดยไม่มีสารพิษฆ่าหญ้าเจือปนอยู่ จากคุณ : owl2 เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 52 12:36:17