ความคิดเห็นที่ 1 ผมบอกได้ไหมว่า ชื่ออะไร, คนไหน, สถาบันไหน ฯลฯ บอกไม่ได้ครับ บอกไป โดนฟ้องแน่นอน 100% ... ข้อหาหมิ่น/ประมาท ฯลฯ ไม่ว่าจะใช้ชื่อย่อ หรือ ชื่อคล้ายคลึง ฯลฯ มีสิทธิขึ้นศาล กว่าจะมาเป็นกระทู้นี้ แก้ข้อความ แก้แล้วแก้อีกอยู่หลายวัน เพื่อให้ไม่ผูกมัดทางกฏหมายข้อใดๆ คน/กลุ่มบุคคล ที่ทำเรื่องเหล่านี้ ไม่ได้ทำมาแป๊บๆ อย่างพวก NPF แต่ทำมานาน จน"เขี้ยวงอก" ในคำโฆษณาชวนเชื่อของพวกเหล่านั้น จะไม่มีความเท็จใดๆแม้แต่น้อยนิด มีแต่ความจริงล้วนๆ แต่เป็นความจริงไม่หมด ปล่อยให้คนอ่าน ซึ่งเป็นแค่ เด็ก ม.6 เติมคำในช่องว่างเอาเอง ซึ่ง .. พูดตรงๆ เด็ก ม.6 ไม่มีทางอ่านนัยยะ ที่เขาเหล่านั้น ซ่อนเร้นไว้ได้ และจะนึกทึกทักเอาเข้าข้างตัวเอง อย่างเช่น ... บอกว่า "สอบเข้าเรียนแพทย์ ในวิทยาลัยแพทย์ศาสตร์พระมงกุฏเกล้า ด้วยคะแนนสูงสุด" เมื่อปี 2525 ฯลฯ (ขอเอา วพม.เป้นตัวอย่าง เพราะมีอะไร อย่างมากก็โดนรอง'สงค์กระทืบ วิ่งหนีทันอยู่แล้ว) คนทั่วไป ก็จะเติมคำในช่องว่าง ที่ขาดหายไปว่า "เรียนหมอ", "สอบเข้าได้ที่ 1", "จบแพทย์มาแล้วนับสิบปี" ฯลฯ ไม่มีใครไปดูความจริงที่ว่า โดน "เชิญออก" ตอนปี 5 เพราะ ฯลฯ เรียนไม่จบ เมื่อมีแต่ "ความจริงล้วนๆ" ผมจึงไม่สามารถบอกชื่อ หรือ นัยยะแห่งชื่อ ของคน/กลุ่มบุคคลเหล่านั้นได้ บอกได้เพียงแต่ว่า บรรดาคนที่อ้างว่ามีความรู้ทางด้านการแพทย์ มีความสามารถในการติวความถนัดเฉพาะทาง ไม่มีใครจบแพทย์ หรือมีความรู้ ความสามารถ ความถนัด ความชำนาญ แม้แต่ซักคนเดียว ไม่มีแม้กระทั่งจริยธรรมแพทย์ แก้ไขเมื่อ 03 ก.ย. 52 00:50:57 จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 52 00:47:00

ความคิดเห็นที่ 2   อ่านDR.K,หัตถ์เทวะ เทรุ ,Team Medical Dragon ยังจะได้ความรู้เยอะกว่าอีก บาติสต้า บาติสต้า จากคุณ : คลามิเซีย เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 52 00:52:21 A:192.168.1.76 X:222.123.56.4 TicketID:123589

ความคิดเห็นที่ 3 ^ ^ black jack ด้วยครับ จากคุณ : Mouse_Pad เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 52 00:59:02

ความคิดเห็นที่ 4 โหวตให้ครับ หากว่าจะมีน้องๆเห็นกระทู้นี้เพิ่มซักคน จากคุณ : arsarn เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 52 00:59:37

ความคิดเห็นที่ 5 ไม่ใช่แค่หมอสายวิศวะก็มีมากเหมือนกัน ระวังกันหน่อยนะครับ จากคุณ : หวาก เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 52 01:06:22

ความคิดเห็นที่ 6 โห มิจฉาชีพนี่ มีอยู่ทุกวงการจริงๆ เลยนะคะ น่าสงสารคนที่หลงเป็นเหยื่อ ฉะนั้นต้องร่วมโหวตค่ะ ให้น้องๆ เข้ามาอ่านกันเยอะๆ ขอบคุณคุณเหมียวค่ะ จากคุณ : รองเท้ากับนาฬิกา เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 52 01:08:52

ความคิดเห็นที่ 7 ความเห็นส่วนตัว ผมว่าวิชานี้ไม่จำเป็นต้องติวนะ ยิ่งต้องเสียเงินเป็นหมื่นอีกนี่ควรจะต้องคิดให้หนักก่อนสมัครเรียน จากคุณ : มอนตะทาโร่ เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 52 01:19:03

ความคิดเห็นที่ 8 ท่องไว้เลยว่า "เข้ายากแล้ว เรียนให้จบอยากกว่า" ดังนั้นถ้าเข้าด้วนตนเองไม่ได้ตอนแรก และอยากเข้าจริงๆ ก็หยุดไปเตรียมตัวดีๆ พื้นฐานแน่นๆ ดีกว่าครับ ประยุกต์ใช้กับทุกสายเลยครับ แก้ไขเมื่อ 03 ก.ย. 52 01:29:50 จากคุณ : KL เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 52 01:28:25

ความคิดเห็นที่ 9 ข้อสอบความถนัดฯ เมื่อสมัยอิชั้นยังสาว เค้าให้วาดรูปภูเขาต้นไม้ เขียนเรียงความทั่วๆไป ไม่จำเป็นต้องติวค่ะ ตอบไปตามสัณชาตญาณ เดี๋ยวนี้มันซีเรียสขนาดนี้เลยเหรอ อยากลองทำข้อสอบสมัยนี้จัง อยากรู้ว่าข้อสอบมันวัดความถนัดยังไง ขำๆนะคะ (แต่อยากทำจริงๆ) จากคุณ : Parafunctional Habbits เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 52 01:35:00

ความคิดเห็นที่ 10 ... คนที่จบแพทย์ส่วนใหญ่เมื่อเรียนจบแล้วก็มักจะไม่ว่างนะครับ ( คือไม่มีเวลาว่างมากขนาดมาสอนพิเศษแบบนี้ได้ ) ถ้าว่างขนาดมาสอนพิเศษได้ผมก็ว่าแปลก ๆ จากคุณ : Mr. Fusion เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 52 01:38:40

ความคิดเห็นที่ 11 ^ ^ ^ บอกได้เลยค่ะ ที่ได้เป็นทันตแพทย์เนี่ยไม่ได้ใช้ความถนัดใดๆเลย ใช้ความพยายาม ล้วนๆ practice practice practice (แป่ว...จำชื่อคนที่พูด คำๆนี้ไม่ได้ คนที่เป็น conductor อ่ะค่ะ) edit : จิ้มตัวเองนะคะ ไม่ได้จิ้มคุณฟิวนะคะ แก้ไขเมื่อ 03 ก.ย. 52 01:47:10 จากคุณ : Parafunctional Habbits เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 52 01:45:27

ความคิดเห็นที่ 12 ผมเห็นป้ายบางที ปะยาง ซ่อมสี ล้างรถ ติดแก๊ส ฯลฯ โดยวิศวกรผู้ชำนาน จากคุณ : น้องเจสซี่ เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 52 01:50:53

ความคิดเห็นที่ 13 เคยคิดเหมือนกันว่า ถ้าจบหมอ น่าจะมีงานดีๆ เงินดีๆ มากกว่ามานั่งสอนเด็กเรียนพิเศษมากมายนัก จากคุณ : จั๊กกะจี๋ เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 52 02:33:46

ความคิดเห็นที่ 14 มาช่วยดันกระทู้ค่ะ  เดี๋ยวนี้ไม่รู้ยังไงมีแต่พวกต้มตุ๋นหลอกลวง  สงสัยใกล้เข้ากลียุค !!!   ของแบบนี้ติวไปก็เท่านั้น  ในเมื่อไม่ถนัด  มันก็ไม่ถนัดอยู่วันยังค่ำแหละค่ะ เอาคนออกข้อสอบมาติวให้  ยังไม่แน่ว่าจะสอบได้เลยมั้ง  (ถ้าเค้าไม่บอกคำตอบมาให้ทุกอย่างแบบเป๊ะๆ อะนะ) เข้ายากจริง  แต่จบออกไปนี่ยากกว่า  ทำไมมันถึงได้ลำบากลำบนแบบนี้ก็ไม่รู้  T.T   ปล.  เป็นกำลังใจให้น้องๆ เตรียมสอบทุกคนนะคะ  สู้ๆ จ้า  ประเทศไทยยังขาดหมออีกมากจริงๆ จากคุณ : Queen_Devil เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 52 03:03:43

ความคิดเห็นที่ 15 ผมว่าพยายามทำความเข้าใจกับบทเรียน จะทำให้สามารถทำข้อสอบได้มากกว่า เพราะไม่ว่าข้อสอบจะพลิกแพลงอย่างไร ถ้าเข้าใจจริงๆ ก็ย่อมทำได้เสมอ และ จะเป็นฐานความรู้ให้เราเรียนต่อได้อย่างดีอีกด้วย คนที่ไปเรียนติว จำสูตรลัดมา ไม่ได้เข้าใจเลยว่าทำไม มันถึงออกมาเป็นอย่างนี้ เจอโจทย์หลอกพวกจำสูตรลัดนิดเดียวก็จอดแล้วครับ จากคุณ : Darkvider เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 52 03:30:02

ความคิดเห็นที่ 16 ตอนสอบความถนัดสถาปัตย์ พูดตรงๆเลยค่ะว่าที่ติวมาน่ะ ไม่ได้ใช้เลยซักนิด เสีย 2000 บาทให้รุ่นพี่สถาบันแห่งนึง แต่พอสอบก็ไม่เห็นมีที่สอน ข้อสอบรุ่นเราเป็นแบบ มีรูปมาให้หลายๆรูป แล้วถามว่ารูปไหนไม่เข้าพวก แล้วรูปนี่ก็แทบจะเหมือนกันหมด แค่บิดมุม เราก็งงสิคะ - -" ที่เหลือก็วาด perspective  อันนี้ส่วนมากคนที่จะเรียนทางด้านนี้จะวาดเป็นกันอยู่แล้ว แค่บางคนไม่รู้ว่ามันเรียกกันว่ายังไง มีจุดกี่จุด แค่นั้นแหละ แก้ไขเมื่อ 03 ก.ย. 52 05:01:51 จากคุณ : ด๋อยด๋อย เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 52 05:01:11

ความคิดเห็นที่ 17 หมอคงไม่มีเวลาว่างมาสอนพิเศษแน่ ๆ เอาไปเิปิดคลีนิคดีกว่าเงินดีกว่าเยอะเลย จากคุณ : @Server ! maN@ เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 52 06:06:26

ความคิดเห็นที่ 18 ขอบตุณทุกความเห็นครับ เรื่องของเรื่องคือ ยังมีน้องๆหลาย(พัน)คน ที่ "อยาก"เข้าเรียนแพทย์ แบบไม่ทันรู้ตัวว่า โดยพื้นฐานแล้ว ตัวเองไม่เหมาะกับวิชาขีพนี้ ข้อสอบเหล่านั้น มีไว้คัดกรองน้องๆดังกล่าว ไม่ต้องให้มาประสบปัญหากลืนไม่เข้า คายไม่ออกในอนาคต แน่นอนว่า กระบวรการคัดกรอง มันไม่เปอร์เฟค 100% น้องบางคน ที่ "ไม่เหมาะสม" แต่มีความสามารถในการเรียนได้ ... อาจถูกคัดออกไปด้วย แต่มันก็เป็นเรื่องปกติ เพราะหากอยากเรียนจริงๆ พยายามปีหน้าได้ (ลำบากหน่อย ) ปัญหามันอยู่ที่หลาย(ร้อย,พัน)คนไม่แน่ใจว่า ตัวเองเหมาะสมจริงหรือไม่ เมื่อความต้องการ, ตวามอยาก มาเจอกับความโลภ, ความเห็นแก่ตัว ของคนต้องการเงืิน เรื่องมันก็ลงเอยแบบนี้เสมอ จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 52 06:29:27

ความคิดเห็นที่ 19 ยังไม่เคยเจอกับตัวเอง แต่จะบอกน้องๆให้ค่ะ ปกติ ถ้าจบก็ ส่วนใหญ่ จะเห็นว่าเอาใบประกาศมาแปะไว้ ข้างหน้าให้เป็นสง่าราศีเลย แต่ไม่รู้ว่าของพวกนี้ปลอมกันได้ไหมนะคะ ช่วงนี้เพื่อนที่ ไม่มีงานทำก็ ไปเป็นติวเตอร์กันเยอะทีเดียว สงสัยรายได้ดีจัดมั้ง จากคุณ : หลานแว่น (mint_la) เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 52 07:26:09

ความคิดเห็นที่ 20 [นอกเรื่องชิดขวา] วพม. โดนแซวซะละ ^^' จากคุณ : ranmaSeventh เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 52 07:48:51

ความคิดเห็นที่ 21 ทำเป็น FWM ได้ป่ะ จากคุณ : นายโอ้นโต้น เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 52 08:37:07

ความคิดเห็นที่ 22 คคห. 13 เป็นติวเตอร์ รายได้ดีกว่าหมอมากกๆๆๆ งานสบายกว่ามากๆๆๆๆๆๆ ด้วยค่ะ (เพื่อนของคนใกล้วตัวเป็นติวเตอร์ เรียนไม่จบป.ตรี แต่ตอนนี้รวยที่สุดในรุ่น) จากคุณ : == พิ้งค์กี้ == เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 52 09:01:13

ความคิดเห็นที่ 23 แอบงงนิดๆ คนจบแพทย์ แต่มาสอน พิเศษ - -* ถ้า เก่งด้านคณิตศาสตร์ หรือ เก่งด้านพละศึกษา แล้วมาสอนติว จะไม่แปลกเลยนะ นี่จบแพทย์ แล้วมารับติว !!!! ใครๆก็ทราบกันดีว่า อาชีพแพทย์เงินเดือนเท่าไรกัน เคยเห็นแต่ถ้าว่าง ก็จะเปิดคลีนิคเองนะครับ .... ปล.ตอบแบบคนไม่รู้ลึก นะ แก้ไขเมื่อ 03 ก.ย. 52 09:10:59 จากคุณ : hahesfha เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 52 09:10:37

ความคิดเห็นที่ 24 โอ้ว.. ขอบคุณครับ ผมไม่เคยรู้มาก่อนว่า มีการใช้เล่ห์กลหากินกันแบบนี้เลย จากคุณ : ksk เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 52 09:33:54

ความคิดเห็นที่ 25 ไม่เห็นมีใครจบแพทย์แล้วมาสอนพิเศษเลยแฮะ สงสัยทำอาชีพตัวเองไม่รุ่งจริงๆ..... ตอนสมัยเรียนก็มีรุ่นพี่คนนึง เรียนตกแล้วตกอีก ตกรุ่นอีกต่างหาก ไม่มีความรับผิดชอบใครที่ต้องขึ้นวอร์ดด้วยต่างหนาวเหนียงไปตามๆกัน ก็มีอาชีพรับจ๊อบสอนพิเศษนี่แหละครับ อ่านที่น้าเหมียวเขียนก็คิดถึงรุ่นพี่คนนี้ขึ้นมาทันทีเลย จากคุณ : เคยรู้อะไรกะเค้ามั่งมั๊ยเนี่ย เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 52 09:42:05

ความคิดเห็นที่ 26 ลูกสาวของเพื่อนผม จบมาด้วย เกียรตินิยมอันดับหนึ่ง กำลังคิดอยูว่า จะออกมาสอนกวดวิชา หรือว่า ตั้งหน้าตั้งตาเป็นหมอ เธอได้ B มาตัวหนึ่ง ร้องไห้ไป 3 วัน ถ้าเป็นผม ได้  B มาตัวหนึ่ง ผมคงน้ำตาไหล เพราะดีใจเป็นแน่(ฮา) จากคุณ : น้าพร เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 52 10:54:37

ความคิดเห็นที่ 27 จบแพทย์แล้วสอนพิเศษ ก็ Applied Physic ไงครับ จากคุณ : oakemon เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 52 11:28:01

ความคิดเห็นที่ 28 ^ ^ ^ ที่โดนสาวชื่อ ปมก เอาไสยศาสตร์มาล่อหลอกรึเปล่าครับ? จากคุณ : Iron-Spider เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 52 12:59:11

ความคิดเห็นที่ 29 สมัยเรียน ก็มีเพื่อนนศพ.ของผมไปเป็นติวเตอร์ เงินดีเชียวครับ จากคุณ : หมอเถื่อน เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 52 15:02:23

ความคิดเห็นที่ 30 ตอนนี้มีเพื่อนสอนพิเศษเยอะแยะค่ะ เงินดีแต่สอนวิชาทั่วไปของ มอปลาย แต่ไอ้ความถนัดหนิของบอกทำข้อสอบไปเซนส์ล้วนๆๆๆๆๆๆๆ เรียนแล้วช่วยอะไรหรอ เข้ามาแล้วเรียนให้รอดหนิยากกว่านะ     เครียดจะสอบอีกแล้ว จากคุณ : วสนะ เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 52 16:37:29

ความคิดเห็นที่ 31 คห  27 สำหรับผม ผมมองว่ามาช่วยกิจการครอบครัวนะครับ   อิอิ จากคุณ : ssthree เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 52 17:35:18

ความคิดเห็นที่ 32 ในฐานะที่เพิ่งผ่านเอนท์ติดมาสามปี(เอง?) จะบอกว่าความถนัดแพทย์เนี่ย ติดไปก็ไม่มีประโยชน์เลยนะครับ ไปขอข้อสอบจากห้องแนะแนว มานั่งดูโจทย์ก็พอแล้ว ตั้งใจทำ anet ดีกว่าเพราะกินคะแนนมากกว่าตั้งเยอะ เดี๋ยวนี้เค้าเรียกว่า gat รึเปล่านะ? จากคุณ : ตัวตุ่นตามัว เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 52 18:45:07

ความคิดเห็นที่ 33 รู้สึกว่า จขกท จะไม่ได้ทำงานตามความถนัดเท่าไรนะ เพราะว่าที่จริงน่าจะไปทำงานด้านสื่อมวลชนมากกว่า ผมเคยติดตามอ่านเรื่องแก๊สของปตทของคุณ แฉได้แสบทรวงมาก และของขอบคุณที่ให้ผมได้ใช้ข้อมูลคุณในการเลือกติดlpg แทนที่จะเป็น ngv แต่รู้สึกว่า ปตทจะไม่ค่อยปลื้มกับผลงานของคุณเท่าไรนะ แต่งานนี้ระวังจะโดนพวกแก๊งหมอเถื่อนเล่นงานเอานะครับ จากคุณ : Cyber Sage เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 52 21:26:09

ความคิดเห็นที่ 34 สอนพิเศษนี่บางทีเงินดีกว่าตรวจโรคนะคะ  สมัยอยู่ปีหนึ่ง(ซึ่งก็นานมากแล้ว) เคยรับสอนฟิสิกส์ได้ชั่วโมงละ400 จบแล้วอยู่เวรรัฐบาลได้ชั่วโมงนึงหารแล้วตกร้อยกว่าบาท (1เวร=16ชม=1800บาท----1800/16=112.5 ) แก้ไขเมื่อ 03 ก.ย. 52 21:29:07 จากคุณ : say2su (say2su) เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 52 21:28:19

ความคิดเห็นที่ 35 สมัยเราตอนนั้นสอบผ่านระบบentrance 7วิชา(เป็นปีแรกที่เริ่มใช้คะแนนGPAมารวมด้วย ตอนนั้นเอา10%) เลยไม่ได้สอบความถนัดทางแพทย์น่ะค่ะ ก็เลยไม่รู้ว่ามันเป็นไง จากคุณ : say2su เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 52 21:33:33

ความคิดเห็นที่ 36 ค่าเรียน วิชา "ตวามถนัดทางการแพทย์" .. บางราย ค่าเรียนเป็นหมื่นครับ แพงขาดใจดิ้น และที่น่ากังวลขึ้นไปอีกคือ คนที่ผ่านการสอบ ด้วย"วิธีติว" จะไปมีปัญหาตอนเรียนปี 3-5 กัน เรียนก็เรียนไม่ได้ ออกก็ออกไม่ได้ จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 52 22:35:16

ความคิดเห็นที่ 37 เคยสอบความถนัดทางการแพทย์มาแล้วเมื่อ 2 ปีที่แล้ว รู้สึกว่ามันไม่จำเป็นต้องเรียนกันเป็นเรื่องเป็นราวเลย อ่านหนังสือเองได้นะ ไม่จำเป็นต้องอ่านหนักด้วย เอาให้พอรู้แนวว่าควรตอบไปทางไหน ของเราคืนก่อนสอบยังไปดูคอนเสิร์ตอยู่เลย ก็ได้มา 180 กว่าๆ เต็ม 300 ดูว่าน้อย 555 แต่ท็อปปีเราประมาณ 240 เองนะ เราถือว่าห่างกันไม่เยอะนะ เขาไม่ได้จะดูความรู้เรา แต่อยากดู "สิ่งที่เราเป็น" คิดว่าไปเน้นคะแนนสอบ PAT GAT ดีกว่า (แต่ก่อนเป็น ONET ANET) ปล.ตอนนี้ก็เรียนแพทย์อยู่ แต่ไม่ได้เข้าด้วย กสพท.อ่ะ แก้ไขเมื่อ 05 ก.ย. 52 15:13:42 แก้ไขเมื่อ 05 ก.ย. 52 15:12:37 จากคุณ : Rdfaiz เขียนเมื่อ : 5 ก.ย. 52 15:11:32

ความคิดเห็นที่ 38 ขอแย้งนิดนึงครับ ตรงประโยคที่ว่า "บอกได้เพียงแต่ว่า บรรดาคนที่อ้างว่ามีความรู้ทางด้านการแพทย์ มีความสามารถในการติวความถนัดเฉพาะทาง ไม่มีใครจบแพทย์ หรือมีความรู้ ความสามารถ ความถนัด ความชำนาญ แม้แต่ซักคนเดียว" อยากทราบว่า ไม่มี "แม้แต่ซักคนเดียว" จริงๆเหรอครับ อยากได้คำยืนยันว่า "ไม่มีซักคนเดียว" ครับ เพราะมีเพื่อนหลายคน จะไปสมัครหลายที่อยู่เหมือนกันครับ แต่ถ้าไม่แน่ใจ ผมว่าเอาออกไปก็ดีนะครับ เืพื่อความปลอดภัย = =* ขอบคุณครับ จากคุณ : oLiGhTo เขียนเมื่อ : 5 ก.ย. 52 23:41:49