ความคิดเห็นที่ 1 ในวันหนึ่งๆ นั้น มนุษย์มักลืมเรื่องราวต่างๆ ไปถึง 70% ของสิ่งที่ได้เจอหรือเรียนรู้ในวันนั้นๆ  บางคนถามว่าแล้วอีก 30%ล่ะ หายไปไหน ? ส่วนอีก 30% ที่จำได้ขึ้นใจนั้น ก็มักเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันซะส่วนใหญ่ เช่น ชื่อตัวเอง ที่อยู่ ชื่อพ่อแม่ พี่น้อง หรือแม้กระทั่งรูปพรรณสัณฐานเจ้าหนี้  การดำรงชีวิตประจำวัน เช่น วันนี้ไปดูหนังกับแฟนมา โดนอาจารย์ว่า เพราะเข้าเรียนสายไปชั่วโมงนึง จากคุณ : Epiglottis เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 52 22:55:34

ความคิดเห็นที่ 2 ความจำ เป็นเรื่องที่น่าสนใจ มนุษย์นั้นสามารถจดจำเรื่องที่สนใจ เป็นเรื่องที่ต้องจำ เป็นเรื่องที่จำเจ หรือเป็นเรื่องที่ฝังใจได้ดี   แต่ในทางตรงกันข้ามก็มีหลายสาเหตุที่ทำให้เราไม่สามารถจะจำอะไรได้ง่ายๆ เช่นกัน เช่น คิดว่ามันยาก ไม่ต้องจำหรอก   รู้สึกตื่นเต้นมากเกินไป ไม่อยากจำ คิดว่าตัวเองจำได้แล้ว หรืออาจเกิดจากสมองเสื่อม จากคุณ : Epiglottis เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 52 22:57:10

ความคิดเห็นที่ 3 สมองของคนเราจะประกอบไปด้วยเซลล์ประสาทเป็นล้านๆ เซลล์ แต่ละเซลล์ก็มีหน้าที่รับสัญญาณต่างๆ อันเกิดจากประสาทสัมผัสทั้ง 5 จากนั้นก็ส่งสัญญาณไปประมวลผลที่สมอง หรือไม่ก็เก็บสัญญาณนั้นๆ บันทึกไว้ และก็เกิด "การเรียนรู้" ขึ้นในที่สุด ดังตัวอย่าง คุณครูสอนเรื่องรูปร่างของสัตว์ที่มีชื่อว่าเป็ด  คุณครูสอนว่าเป็ดมันต้องร้องก้าบ ก้าบ ลักษณะของปากและเท้าเป็นแบบนี้นะนักเรียน พอเด็กกลับบ้านไปเจอสัตว์ตัวนึงซึ่งมีลัษณะคล้ายๆกับที่คุณครูได้สอน เด็กก็จะรู้ได้ทันทีว่า นี่มันคือเป็ดน้อยนั่นเอง เด็กจึงเกิดการเรียนรู้และจดจำขึ้น พอเด็กไปเจอสัตว์อีกชนิดนึงตัวโต๊โต มีงวงยาวๆและ ไม่ได้อยู่ในน้ำเด็กก็จะเกิดการคิด และทบทวนความรู้ในสมองแล้วว่าสิ่งที่เห็นนั้นคงไม่ใช่เป็ดเป็นแน่ คงเป็นสัตว์ชนิดอื่นแล้วละ เด็กก็จะมีการเรียนรู้ต่อไปเรื่อยๆตลอดชีวิต จากคุณ : Epiglottis เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 52 23:03:03

ความคิดเห็นที่ 4 การเรียนรู้ดังกล่าวเป็นเพียงเรื่องพื้นฐานในชีวิตมนุษย์เท่านั้น ต่อมาเมื่อเราโตขึ้น ได้รับรู้เรื่องราวที่ซับซ้อนมากขึ้น และมีปริมาณมากขึ้น สมองของเราก็ไม่สามารถจะรับสัญญาณของเรื่องราวต่างๆ ได้หมดในเวลาสั้นๆได้อีกต่อไป เพราะเหตุนี้ การกระตุ้นให้มีการสัมผัสเพื่อรับสัญญาณเดิมๆ บ่อยๆ ก็จะทำให้สมองของเราสามารถบันทึกเรื่องราวนั้นๆ ได้เป็นเวลานาน เราจึงเรียกว่าการทบทวนนั่นเอง จากคุณ : Epiglottis เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 52 23:04:09

ความคิดเห็นที่ 5 การทบทวนที่ดีนั้น คุณจะต้องมีความอดทนและการบริหารเวลาที่ดีพอด้วย ไม่ใช่ว่าจะสอบในวันมะรืนนี้ แล้วมาอ่านหนังสืออย่างเอาเป็นเอาตาย พยายามบังคับตัวเองให้จำ แต่อ่านเท่าไหร่ก็ไม่จำซะที ต่างจากเวลาอ่านนิยายหรือการ์ตูน คุณจะอ่านอย่างเมามัน ลืมวันลืมคืน โทรศัพท์ก็ไม่รับ ข้าวก็ไม่กิน จำได้หมดทุกฉาก ตัวร้ายตบนางเอกฉากไหน หรือตอนนี้ชิสุกะอาบน้ำในห้องน้ำอีกแล้ว นั่นเป็นเพราะว่าคุณอ่านมันอย่างผ่อนคลาย ไม่เครียด ไม่พยายามยัดเยียดสมองให้จำเหมือนอ่านหนังสือสอบ จากคุณ : Epiglottis เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 52 23:05:28

ความคิดเห็นที่ 6 องค์ประกอบที่มีอิทธิพลต่อความจำ 1.อายุ     อายุ 35 ปีขึ้นไปเซลล์ประสาทในสมองจะเริ่มฝ่อและสูญหายไป เมื่อถึงจุดหนึ่งก็จะทำให้เกิดอาการจำไม่ค่อยได้ 2.โรคเกี่ยวกับความจำ คือโรคสมองเสื่อมในคนสูงอายุและโรคสมองเสื่อมก่อนวัย 3.ADHD   Attentsit Deficit Hyperactivity Disorderเป็นความผิดปกติที่เริ่มแสดงอาการในตอนเด็กหรือวัยรุ่น สมาธิสั้น จดจ่อได้ยาก เป็นอาการหนึ่งของ ADHD ซึ่งเป็นอาการที่เป็นปัญหาต่อการจำ จากคุณ : Epiglottis เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 52 23:08:14

ความคิดเห็นที่ 7 ประเภทของความจำ 1.Sensory memory  ข้อมูลดิบได้มาจากประสาทสัมผัสต่างๆ  ได้กลิ่นควันไฟก็จะจำได้ว่ากลิ่นแบบนี้เหมือนไฟไหม้ ก็จะทำให้คุณรอดพ้น จากอันตรายได้   ชิมอาหารแล้วรู้สึกว่าเหมือนอาหารจะบูดแล้ว ก็รอดจากการท้องเสียไป ได้ยินเสียงหวอ ก็รู้ได้ว่าข้างหน้าอาจจะมี เหตุการณ์ฉุกเฉิหรืออันตรายอยู่ข้างหน้า 2.Short-term memory เป็นความจำระยะสั้นๆ เช่น อ่านหนังสือเพื่อเตรียมตัวจะไปสอบ เราสามารถจำชื่อคนได้เพียงครั้งละ 3 ถึง 4 ชื่อ ถ้าไม่ได้รับการทบทวนความจำจะลบเลือนไป ดังนั้นจึงต้องมีการทบทวนตลอดเวลา เพื่อให้ความจำในระยะสั้นเกิดการฝังตัวอยู่ในความจำระยะยาว 3.Long-term memory เป็นความจำระยะยาว ความจำที่เราทบทวนอยู่เสมอ ทำให้เปลี่ยนจากความจำระยะสั้นมาเป็นความจำระยะยาว ซึ่งอาจอยู่ได้นานเป็นปี หรือตลอดชีวิตก็ได้ เช่น ขับรถ ไม่ได้ขับมา10ปี กลับมาขับใหม่ก็ยังขับได้ จากคุณ : Epiglottis เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 52 23:11:21

ความคิดเห็นที่ 8 สารสื่อประสาท สารตัวนี้ชื่ออะซิติลโคลีน เป็นสารที่มีผลต่อความจำ พบว่าผู้ที่มีปัญหาเรื่องสมองเสื่อมจะมีสารสื่อประสาทนี้น้อยกว่าคนปกติ เคยอ่านเจอมาว่าหากอยากเพิ่มสารสื่อประสาทตัวนี้ให้ดื่มน้ำแอปเปิลค่ะ จากคุณ : Epiglottis เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 52 23:12:44

ความคิดเห็นที่ 9 ความจำในเด็ก ก่อนคลอด 10 สัปดาห์เซลล์สมองของทารกในครรภ์จะมีการพัฒนาเพิ่มจำนวนอย่างรวดเร็ว AxonsและDendritesจะเพิ่มจำนวน รวมทั้งการเชื่อมโยงระหว่างเซลล์สมองหลายเซลล์ ซึ่งขบวนการเปลี่ยนแปลงนี้จะทำให้มีความสามารถในการจดจำได้ จากคุณ : Epiglottis เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 52 23:13:40

ความคิดเห็นที่ 10 ความจำกับวัยชรา การสร้างความจำจะเกิดขึ้นได้ช้าและน้อยลงกว่าเดิม เนื่องจากการไหลเวียนของเลือดช้าลง ความเสื่อมของหัวใจและหลอดเลือดทำให้การนำพา ออกซิเจนไปสู่สมองได้ช้ากว่าเดิม ทำให้เซลล์สมองมีพลังงานน้อยลงทำให้การกระตุ้นปลายประสาทช้าและน้อยลงกว่าเดิม จากคุณ : Epiglottis เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 52 23:14:51

ความคิดเห็นที่ 11 สมองที่ทำหน้าที่เกี่ยวกับความทรงจำ ศูนย์รวมความรู้สึกทั้ง5 คือ หู ตา จมูก ผิวหนัง ลิ้น Hippocampus   Cortex   Thalamus จากคุณ : Epiglottis เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 52 23:18:48

ความคิดเห็นที่ 12 สาเหตุการลืม 1.Trace decay อาจจะเนื่องมาจากว่าเวลาผ่านไปนาน ข้อมูลต่างๆไม่ได้ถูกหยิบนำมาใช้ ข้อมูลจึงเริ่มเลือนและหายไปในที่สุด 2 มีสิ่งมาสอดแทรก  แบ่งเป็น2ประเภทคือ ข้อมูลปัจจุบันลดลงเนื่องจากข้อมูลเก่ามาแทรก เช่นถามว่าปัจจุบันมีดาวเคราะห์กี่ดวง เราก็มักจะตอบว่า9ดวงเนื่องจากความจำที่เราเคยจำมาตั้งนานว่ามันมี9ดวง ทั้งที่จริงมันมี8ดวงแล้วต่างหาก ส่วนประเภทที่2คือข้อมูลเก่าลดลงเพราะข้อมูลปัจจุบันเข้ามาสอดแทรก เช่นได้แฟนใหม่แล้วทำให้ลืมแฟนเก่า 3.ตั้งใจหรือมีเจตนาที่จะลืม ลืมก็เพราะว่าอยากลืม ถ้าจำได้ก็จะเครียด เป็นทุกข์ ไม่อยากคิดถึงมันอีกต่อไปแล้ว 4 สมองเสื่อม เช่น Alzheimer's disease Parkinson’s disease โรคพิษสุราเรื้อรัง อันนี้เป็นรูปสมองคนปกติค่ะ แก้ไขเมื่อ 08 ก.ย. 52 13:20:29 จากคุณ : Epiglottis เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 52 23:22:07

ความคิดเห็นที่ 13 สมองคนเป็นอัลไซเมอร์ อัลไซเมอร์อ่านเพิ่มจากกระทู้นี้ได้เลยค่ะ http://topicstock.pantip.com/wahkor/topicstock/2009/07/X8101400/X8101400.html จากคุณ : Epiglottis เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 52 23:23:53

ความคิดเห็นที่ 14 ปลาทองความจำสั้นจริงไหม? ที่จริงแล้ว ปลาทอง มีความจำแบบ เลือกจำ (Selective memory) คือ พวกมันจะรู้ ว่ามีสิ่งใดได้เกิดขึ้นไปแล้ว แต่มันไม่แน่ใจว่าคืออะไร มันสามารถเรียนรู้ที่จะกินอาหารจากในมือของเจ้าของ ของมัน เพราะมันจะจำว่า มีสิ่งที่ดี อยู่ในบริเวณดังกล่าว แต่ไม่รู้ว่ามันคืออะไร และพวกมันยังมีสายตาอันแหลมคมพอที่จะแยกแยะผู้คนที่มีลักษณะแตกต่างกันได้ กล่าวคือ เวลาพวกมันเห็นเจ้าของหรือใครก็ตามที่ให้อาหารเป็น ประจำเดินผ่านไปผ่านมาบริเวณตู้ปลา พวกมันจะว่าย วนไปวนมาเพื่อขออาหารเสมอๆ ในธรรมชาตินั้น ถ้ามีศัตรูเข้ามาใกล้ เช่น นกกระยาง มันจะว่ายไปหาที่ซ่อนตัว แต่มันไม่รู้หรอกว่ามันซ่อนตัวจากอะไร  รู้แต่ว่ามันควรจะซ่อน จากคุณ : Epiglottis เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 52 23:25:15

ความคิดเห็นที่ 15 ชิมแปนซีมันมีความจำระยะสั้นดีกว่าคน? มีนักวิจัยได้ให้เจ้าลิงชิมแปนซีมันจดจำและไล่ลำดับเลข ๑ ถึง ๙ ซึ่งมันสามารถไล่ได้อย่างถูกต้องและแม่นยำ แล้วทำการทดลองโดยแสดงตัวเลข ในหน้าจอแบบกระจัดกระจายขึ้นชั่วแวบเดียวเท่านั้น ตัวเลขก็จะถูกปิดทับด้วยสี่เหลี่ยมสีขาว เจ้าชิมแปนซีจะต้องจิ้มหน้าจอให้ถูกต้องตามลำดับ ว่าเลข ๑ ๒ ๓ ... ที่ปรากฏเมื่อครู่ กระจายอยู่ตรงไหนบ้าง สี่เหลี่ยมนั้นจึงจะดับไป ปรากฏว่ามันทำได้อย่างรวดเร็วชนะมนุษย์อย่างเรา ๆ ขาดลอย - -" ใครอยากฝึก ลองฝึกไปพร้อมๆกันตามเวบนี้เลยค่ะ http://www.youtube.com/watch?v=soz1e6d4vyo จากคุณ : Epiglottis เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 52 23:28:25

ความคิดเห็นที่ 16 10 วิธี เพิ่มความจำแบบฮาร์วาร์ด วารสารชีพจรสุขภาพ(เฮลธ์บีท)ออนไลน์จากสำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด สหรัฐฯ มีคำแนะนำเกี่ยวกับวิธีเพิ่มความจำดีๆ 10 วิธี มาฝากค่ะ (1). เชื่อมั่น:  การศึกษาทำในคนวัยกลางคนและสูงอายุพบว่า ความจำของคนเราแปรตามความเชื่อมั่น คนเราจะจำอะไรๆ ได้ดีถ้าเชื่อมั่นว่า "เราทำได้" คนที่มองโลกในแง่ดีและเชื่อว่า ความจำของคนเราไม่ลดน้อยถอยลงไปตามอายุจะมีความจำดีกว่าคนที่คิดว่า "โอ... เราแก่แล้ว จำสู้เด็กๆ ไม่ได้" (2). ประหยัด:  ทุกวันนี้หน่วยงานดีๆ จะมีกิจกรรม "5ส" เพื่อให้หน่วยงานเป็นระเบียบ ข่าวดีคือ การจัดเรื่องต่างๆ ให้เป็นหมวดหมู่ช่วยป้องกันการลืม เครื่องมือป้องกันการลืมที่สำคัญได้แก่ ปฏิทิน แผนที่ สมุดวางแผน แผ่นจดรายการของต้องซื้อก่อนไปชอปปิ้ง สมุดจดที่อยู่-เบอร์โทรศัพท์ จากคุณ : Epiglottis เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 52 23:35:28

ความคิดเห็นที่ 17 (3). แบ่งเป็นชุดเล็กๆ:  สมองคนเราจำเรื่องเล็กๆ ได้ดีกว่าเรื่องใหญ่ๆ ตัวอย่างเช่น ถ้าจะจำตัวเลข 8 หลัก "27984689" ควรแบ่งเป็น 2 ชุดแบบที่เราใช้จำเบอร์โทรศัพท์ "2798-4789" เวลาจะจำอะไรก็ควรฝึกจำทีละชุดเล็ก เช่น อ่านหนังสือวันละน้อย ฯลฯ ดีกว่าฝึกจำชุดใหญ่ เช่น อ่านหนังสือรวดเดียวก่อนสอบ ฯลฯ (4). ใช้ประสาททั้งห้า:  ใช้ประสาททั้งตา หู จมูก ลิ้น และกายที่ประทับใจมากที่สุด เพื่อจดจำเรื่องราว ประทับใจอย่างเดียวยังไม่พอ ต้องขอ "เชื่อมโยง" กับประสบการณ์ในอดีตด้วยว่า สัมผัสหรือเรื่องนั้นคล้ายกับอะไรด้วย ตัวอย่างเช่น ถ้าอยากจำรายละเอียดในร้านอาหาร ให้ลองสูดหายใจเข้าแรงๆ ได้กลิ่นอะไรให้รีบจำกลิ่น และเชื่อมโยงว่า กลิ่นนี้คล้ายกลิ่นอะไร เช่น คล้ายกลิ่นขนมที่คุณยายทำให้ตอนอายุ 2 ขวบ ฯลฯ จากคุณ : Epiglottis เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 52 23:39:12

ความคิดเห็นที่ 18 (5). ขยายขอบเขต:   การท่องออกเสียงดังๆ วาดภาพประกอบ บันทึก หรือทำภาพไดอะแกรมเชื่อมโยงกระบวนการเข้าด้วยกัน เช่น แผนภูมิก้างปลา ฯลฯ ช่วยให้จำได้ง่ายกว่าการอ่านในใจเพียงอย่างเดียว (6). เรียกชื่อ:   คนเราจะจำชื่อคนได้ดีขึ้นถ้าเรียกชื่อคนที่เราเห็นทุกครั้ง หรือถ้านึกถึงใครในใจก็ให้รีบทบทวนชื่อคนนั้นทันที (7). เว้นช่วง:  คนเราจะจำเรื่องราวต่างๆ ได้ดีถ้าทบทวนซ้ำ (repeat) ในช่วงที่ห่างกัน เช่น 2-3 วัน ฯลฯ หลายๆ ครั้งได้ดีกว่าการท่องรวดเดียว (8). คำย่อ:   คำย่อมีส่วนช่วยให้จำอะไรได้ง่ายขึ้น ตัวอย่างที่อาจารย์ท่านยกมาเป็นภาษาอังกฤษ เช่น ถ้าจะจำตัวอักษรตัวแรกของคำต่างๆ 5 คำ (E, G, B, D, F) ให้ลองนำอักษรตัวแรกมาแต่งเป็นประโยค เช่น Every good boys does fine. ฯลฯ จากคุณ : Epiglottis เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 52 23:49:35

ความคิดเห็นที่ 19 (9). ท้าทาย:   สมองคนเราเป็นเรื่องที่ต้อง "ท้า(ทาย)" หรือฝึกบ่อยๆ จึงจะใช้การได้ดี การฝึกสมอง เช่น การเล่นคำต่อ (crossword) หมากรุก การฝึกใช้มือข้างที่ไม่ถนัดทำงาน ฯลฯ มีส่วนช่วยฝึกสมองให้ตื่นตัว และใช้การได้ดีขึ้นในระยะยาว (10). นอนให้พอ:  คนที่พักผ่อนนอนหลับเพียงพอมักจะจดจำอะไรๆ ได้ดีกว่าคนที่อดนอน ถ้าจะถนอมสมองให้ใช้ได้ดีไปนานๆ ก็ควรนอนให้พอ และอาจเสริมด้วยกิจกรรมฝึกสมาธิ เช่น ไทเกก-ไทชิ(ชี่กง) สมาธิกำหนดลมหายใจ ฯลฯ และออกกำลังเป็นประจำ การศึกษาก่อนหน้านี้พบว่า คนที่รู้จักใช้เท้าออกกำลัง เช่น เดิน วิ่ง ฯลฯ มีสมองดีกว่าคนที่ใช้แต่หัวอย่างเดียว และไม่ค่อยได้ใช้เท้า จึงมีคำกล่าวว่า สมองดีเริ่มต้นที่เท้า ถ้าถามว่า ความจำดีๆ ของคนเราเริ่มต้นที่ไหน คำตอบอาจจะเป็นว่า เริ่มต้นที่ความเชื่อมั่นว่า "เราทำได้" และลงมือทำวันนี้เลย จากคุณ : Epiglottis เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 52 23:52:46

ความคิดเห็นที่ 20 นึกถึงนิทานเรื่องนึงที่เคยอ่านแล้วได้ข้อคิดดีๆ อยากนำมาให้อ่านกัน นิทานเรื่อง ดินสอกับยางลบ เอามาให้อ่านอีกครั้งสำหรับคนยังไม่เคยอ่านค่ะ . . มีดินสอที่เขียนอย่างไรก็ไม่มีวันหมดอยู่แท่งหนึ่ง มียางลบที่ลบอย่างไรก็ไม่มีวันหมดอยู่ก้อนหนึ่ง ดินสอแท่งนั้นเป็นเพื่อนกับยางลบก้อนนั้น ทั้งคู่ไปไหนมาไหนด้วยกันทำอะไรด้วยกัน หน้าที่ของดินสอก็คือเขียน มันจึงเขียนทุกที่ทุกอย่างเสมอตลอดเวลาที่อยู่กับยางลบ หน้าที่ของยางลบก็คือลบ มันจึงลบทุกอย่างที่ดินสอเขียนทุกที่ทุกเวลา เวลาผ่านไปนานหลายสิบปี ทุกอย่างก็ยังดำเนินเหมือนเดิมเรื่อยมา จนกระทั่ง ดินสอเอ่ยกับยางลบว่า "เรากับนายคงอยู่ด้วยกันไม่ได้แล้ว" ยางลบจึงถามว่า "ทำไมล่ะ" ดินสอจึงตอบกลับไปว่า "ก็เราเขียนนายลบแล้วมันก็ไม่เหลืออะไรเลย" ยางลบจึงเถียงว่า "เราทำตามหน้าที่ของเราเราไม่ผิด" ....ทั้งคู่จึงแยกทางกัน ดินสอพอแยกทางกับยางลบมันก็ดีใจที่สามารถเขียนอะไรได้ตามใจมัน แต่พอเวลาผ่านไปมันเริ่มเขียนผิด ข้อความที่สวยๆที่มันเคยเขียนได้ก็สกปรก มีแต่รอยขีดทิ้งเต็มไปหมด ....มันคิดถึงยางลบจับใจ ฝ่ายยางลบพอแยกทางกับดินสอมันก็ดีใจที่ตัวมันไม่ต้องเปื้อนอีกต่อไป พอเวลาผ่านไปมันกลับใช้ชีวิตอย่างไร้ค่า เพราะไม่มีอะไรให้ลบ มันคิดถึงดินสอจับใจ ทั้งคู่จึงกลับมาอยู่ด้วยกันใหม่ คราวนี้ดินสอเขียนน้อยลงเขียนแต่สิ่งทีดี ส่วนยางลบก็ลบเฉพาะที่ดินสอเขียนผิดเท่านั้น ถ้าเปรียบการเขียนเป็นการจำ ดินสอในตอนแรกก็จำทุกเรื่องทั้งดีและไม่ดี แต่พอเวลาเปลี่ยนไปมันก็หัดเลือกจำแต่ สิ่งดีๆเท่านั้น ส่วนการลบเปรียบเหมือนการลืม ยางลบในตอนแรกก็ลืมทุกอย่าง ทั้งดีและไม่ดี แต่ทุกครั้งที่ลืมตัวมันก็จะสกปรก แต่ตอนหลังมันเลือกลืมแต่เรื่องไม่ดี หรือคือการให้อภัยนั่นเอง ฉะนั้นการเปรียบการเดินทางของทั้งคู่ดุจมิตรภาพ คือ การจำแต่สิ่งดีๆและลืมในสิ่งที่อาจผิดพลาดบ้าง แก้ไขเมื่อ 07 ก.ย. 52 23:55:17 จากคุณ : Epiglottis เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 52 23:54:11

ความคิดเห็นที่ 21 ใกล้จะสอบกันแล้ว  ใกล้จะปิดเทอมแล้วด้วย รายงานยังไม่เสร็จเลยค่ะ ตอนนี้เริ่มรวนหมดแล้วว่าจะอ่านอะไรก่อนหลัง ปกติจะเป็นคนที่นอน ประมาณเที่ยงคืนแล้วก็ตื่นมาอ่านหนังสือตอนตี5 เหมือนรู้สึกว่าตัวเองจะจำได้ดีกว่า เพราะถ้าอ่านกลางคืนคงไม่ไหวแน่ๆ เจออะไรมาทั้งวัน ให้มาอ่านหักโหมอีกคงอ้วก  เมทในห้องเป็นคนอ่านหนังสือช่วงกลางคืนยันเช้า แล้วไปสอบ บางคืนก็ซัดกระทิงแดง เอ็ม100   นู่นนี่สารพัด เคยลองดูบ้างว่าอ่านถึงเช้าเป็นยังไง ปรากฏว่าปรับตัวเองไม่ได้ เข้าห้องสาย เรียนไม่รู้เรื่อง หลับอีกต่างหาก  หลังจากนั้นเลิกเลยค่ะ จะไม่ทำแบบนี้อีกแล้ว แบบว่าไม่ไหวจริงๆ ยังไงก็ใครถนัดอ่านแบบไหน ก็ขอให้สู้ๆนะ  ถ้าตั้งใจอ่านจริงๆ มันก็คงออกที่อ่านบ้างแหละ ***ฝากน้องๆหลายๆคนด้วยนะคะ ไม่ได้อ่าน หรือ อ่านไปแล้วทำไม่ได้ อย่าเอาศักดิ์ศรีตัวเองไปแลก อ่านซะตั้งแต่วันนี้ แล้ว Aจะลอยมาแบบง่ายๆ อ้างอิงจาก ข้อมูลและการอ้างอิงในบล็อก “บ้านสุขภาพ” มีไว้เพื่อส่งเสริมสุขภาพ และป้องกันโรค ไม่ใช่เพื่อการรักษาโรค ท่านที่มีโรคประจำตัวควรปรึกษาหมอที่ดูแลท่านก่อนนำข้อมูลไปใช้ นพ.วัลลภ พรเรืองวงศ์ โรงพยาบาลห้างฉัตร ลำปาง > 17 ตุลาคม 2550. http://writer.dek-d.com/PoVoLaM/story/view.php?id=146352 http://www.si.mahidol.ac.th/sidoctor/e-pl/articledetail.asp?id=108 http://www.dailynews.co.th คัดลอกบางส่วน จากนิตยสารธรรมะใกล้ตัว... ฉบับที่ 39 www.oknation.net/blog/thaidbmag/page2 http://www.after2k.net/forum/index.php?topic=2434.0 แก้ไขเมื่อ 08 ก.ย. 52 14:07:29 จากคุณ : Epiglottis เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 52 00:02:24

ความคิดเห็นที่ 22 โอ้ กระทู้ดีมากๆครับ ได้ความรู้เยอะเลย ขอบคุณครับ จากคุณ : [GoD]Destroyer ([GoD]Destroyer) เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 52 00:46:11

ความคิดเห็นที่ 23 ชนิดของความจำ ไม่มี intermediate term หรอครับ รึว่าผมจำผิดไปนะ ^^ อาาาาา แก่แล้วๆๆๆๆ ... จากคุณ : ~cenobite+ เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 52 01:22:17

ความคิดเห็นที่ 24 สมการใน คห.1 นี่ผิดรึเปล่าครับ? มองแล้วสะดุดนิดหน่อย... จากคุณ : เด็กวัดสะพานใหม่ เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 52 03:56:19

ความคิดเห็นที่ 25 กำลังจะสอบอยู่เลย 3 ตัวรวด - - ป.ล. "เข้าห้องสาย เรียนไม่รู้เรื่อง หลับอีกต่างหาก" สเตปนี้ประจำเลยตู 555+ จากคุณ : Little Pig in Big World เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 52 04:58:55

ความคิดเห็นที่ 26 ไว้มาอ่านนะครับ... จากคุณ : Cocopok เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 52 09:19:29

ความคิดเห็นที่ 27 ขอบคุณสำหรับกระทู้ดี-ดีค่ะ ได้อ่านตอนกำลังต้องการความรู้เรื่องนี้เลย.. กดโหวต + กีฟ ให้เลยนะคะ... จากคุณ : primjang เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 52 09:27:23

ความคิดเห็นที่ 28 สมัย เวลาจะสอบ ผมใช้วิธีนี้นะ อ่านไปก่อนรอบนึง ตรงไหนสำคัญๆ ก็หาอะไรมาขีดเส้นใต้ไว้ โดยเฉพาะตัวอย่าง (คณะผม มันชอบออกตรงตัวอย่างนี่แหละ) พออ่านครบ ก็หากระดาษมาแผ่นนึง อ่านอีกรอบ จดย่อๆ ตรงที่ขีดเส้นใต้ พอเข้าใจ อัดมันทุกอย่างลงในกระดาษแผ่นเดียว ระหว่างนั่งรถไปสอบ ก็อ่านที่ย่อๆ ไว้ในกระดาษแผ่นเดียวอีกครั้ง พอถึงเวลาสอบ มันก็จะเหมือนเป็นสัญลักษณ์ให้เราขยายความจำว่า เราอ่านอะไรไปบ้าง ที่น่าตลกคือ มีเพื่อนผมคนนึงมันจะรอชีสย่อแผ่นเดียวของผมนี่แหละ เอาไปอ่าน มันบอกว่าอ่านของคนอื่นแล้วเยอะแยะตาแป๊ะไก่ไปหมด อ่านของผมง่ายดี แผ่นเดียวจบ ผมก็ถามมัน แล้วเอ็งจะรู้เรื่องหรือวะ กรูย่อสามร้อยหน้าเหลือแผ่นเดียวนะ...แต่พอสอบออกมา มันก็ทำได้คะแนนดีพอๆ กับผมเลยนะ เออ แปลกแฮะ ส่วนเพื่อนคนอื่นเอาไปอ่าน มันด่าให้อีก ทำไมไม่เขียนให้มันยาวกว่านี้ อ่านไม่รู้เรื่อง เออแฮะ ก็ไม่ได้กะทำให้ใครอ่านนี่หว่า หลังๆ ก็เลยต้องทำเป็นสองชีส อันนึงประมาณสามถึงสิบหน้า ส่วนอีกอันแผ่นเดียวจบ อ่านแล้วคิดถึงสมัยเป็นนักศึกษาแฮะ จากคุณ : น้องหยิก (hotnuy) เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 52 09:33:21

ความคิดเห็นที่ 29 กำลังอ่านหนังสือเตรียมสอบอยู่เลยครับ ขอบคุณมากครับ :-) จากคุณ : monixe เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 52 09:43:36

ความคิดเห็นที่ 30 ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr. Fusion เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 52 10:12:44

ความคิดเห็นที่ 31 เยี่ยมครับ จากคุณ : zars เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 52 10:33:00

ความคิดเห็นที่ 32 ADDหรือADHDเป้นปัญหาต่อการจำก็จริง แต่เฉพาะรื่องที่ไม่สนใจเท่านั้นค่ะ เราก็มีอาการADHD แต่ความจำที่ตั้งใจจำแบบเข้าห้องสอบ(เฉพาะวิชาที่ชอบ)นี่จำแม่นมากๆ แต่พอเรื่องจำเล็กๆน้อยๆในชีวิตประจำวันนี่จำได้น้อยมาก ลืมนู่นลืมนี่ประจำ เวลาสอบเราจะไม่อ่านแล้วจำ แต่ใช้วิธีเขียนคัดลอกตามหนังสือลงกระดาษแล้วย่อเอา เพื่อให้มือเรามีอะไรทำระหว่างอ่าน สมาธิจะได้ไม่ไปที่อื่น ก็จำได้ดีค่ะ จากคุณ : scarlett เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 52 10:45:51

ความคิดเห็นที่ 33 เดี๋ยวจะกลับมาอ่านนะ จากคุณ : bermAggie เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 52 11:36:05

ความคิดเห็นที่ 34 สมองอัลไซเมอร์น่ากลัวจัง ... จากคุณ : Iron-Spider เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 52 12:39:45

ความคิดเห็นที่ 35 ขอบคุณข้อมูลดีดี จากคุณ : C.ToTD เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 52 13:22:05

ความคิดเห็นที่ 36 ได้ความรู้ดีมากเลยค่ะ เข้าใจแล้วว่าต้องรีบไปหาน้ำแอ๊ปเปิ้ลมากินบ่อยๆ จากคุณ : HeLL_Is_HeRe เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 52 13:30:02

ความคิดเห็นที่ 37 ขอเพิ่ม Amnesia อีกนิดนะคะ ลืมไปเลย - - " โรค Amnesia หรือที่เรียกกันง่ายๆว่า โรคความจำเสื่อมและAmnesia เป็นโรคที่ ถูกนำไปเล่นกับหนังมากที่สุดโรคนึงด้วยมันถูกแบ่งกว้างๆ เป็น 2 ประเภท 1. Retrograde Amnesia สูญเสียความสามารถในการรื้อฟื้นความทรงจำ 2. Anterograde Amnesia สูญเสียความสามารถในการรับความจำใหม่ๆ Retrograde Amnesia ก้อคือโรคความจำเสื่อมที่เราพบได้ตามละครน้ำเน่าหลังข่าวทั่วๆไป นางเอกโดนข่มขืน โดนประทุษร้ายต่างๆนานาจนความจำเสื่อมไป Retrograde เกิดจากการเสียพยาธิสภาพที่ส่วนดึงข้อมูลจาก long term memory -> short term memory แต่ถ้าสังเกตดีๆ คนไข้จะยังสภาพเรียนรู้ที่จะใช้ของได้อยู่เพียงแต่ความสามารถในการแยกแยะเท่านั้นที่สูญเสียไป คนไข้ยังขี่จักรยานเป็น เพียงแต่อาจจะลืมหน้าคนที่รู้จัก ลืมเหตุการณ์ต่างๆที่เกี่ยวข้องด้วย คนไข้ยังรู้วิธีจับปากกา แต่บางคนเค้าอาจจะลืมว่ามันเรียกว่า ปากกา แก้ไขเมื่อ 08 ก.ย. 52 13:48:49 จากคุณ : Epiglottis เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 52 13:46:09

ความคิดเห็นที่ 38 เยี่ยมหลายๆ จากคุณ : เกิดในที่สว่าง เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 52 13:53:00

ความคิดเห็นที่ 39 ขออนุญาตเซนเซอร์ คห.3 ค่ะ... จากคุณ : ลูกเป็ดขี้เกียจ เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 52 13:54:04

ความคิดเห็นที่ 40 Anterograde Amnesia  ถ้าย้อนกลับไปดูด้านบนเราคงจะเคยเห็นคำว่า Hippocampus ซึ่งเป็นส่วนที่ควบคุมการจำ ส่วนนี้แหละค่ะที่มันเสียไป ความจำที่เกิดขึ้นหลังจากสมองได้รับการกระทบกระเทือน จะหายไปในเวลาไม่นาน เนื่องจากไม่สามารถส่งต่อข้อมูลไปเก็บเป็น long Term Memory ได้ ถ้าเจอกันกับคนที่รุ้จักหลังจากเป็นAnterograde แล้ว เจอกัน 20 รอบก็ต้องแนะนำตัวเอง 20 รอบ ส่วนอีกคำถามนึงค่ะ ด้านบน ยังไม่ได้เฉลยไว้ที่บอกไว้ว่า ทำไมเราจึงจำเหตุการณ์ที่สะเทือนอารมณ์ได้ดีกว่าเหตุการณ์ธรรมดา? ก็เนื่องมาจากว่าฮิปโปแคมปัสซึ่ง(เป็นศูนย์แห่งความจำ)อยู่ในระบบลิมบิก และอยู่ใกล้กับอะมิกดาลา(ศูนย์ควบคุมอารมณ์) จำทำให้เราจำเหตุการณ์ที่สะเทือนอารมณ์ได้มากกว่านั่นเอง จากคุณ : Epiglottis เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 52 14:06:17

ความคิดเห็นที่ 41 อ่านง่าย+สนุก รีเฟรชอยู่นะคะ อิๆ จากคุณ : ลูกเป็ดขี้เกียจ เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 52 14:20:03

ความคิดเห็นที่ 42 หมดแล้วค่ะคุณลูกเป็ด ขอบคุณที่ติดตามนะคะ พอดีวันนี้มีสอบช่วงเย็น  ขอไปเตรียมตัวก่อน กะจะไปขายเสื้อต่อด้วย555  ไว้จะแวะเข้ามาดึกๆนะคะ จากคุณ : Epiglottis เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 52 14:44:23

ความคิดเห็นที่ 43 เจ๋งครับ ใกล้สอบแล้นนนน อิอิ จากคุณ : Nanoดะ เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 52 17:27:22

ความคิดเห็นที่ 44 เข้ามา มึน จากคุณ : lizard8 เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 52 17:50:34

ความคิดเห็นที่ 45 ขอบคุณมากครับ ใกล้สอบแล้วช่วยได้มากเลย จากคุณ : poobas เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 52 18:07:12

ความคิดเห็นที่ 46 ข้อแรก ต้องอย่าดูถูกตัวเอง ข้อสอง ต้องฝึกเทคนิคการจำ การจำที่ดี คือเชื่อมโยงกับสิ่งที่เรารู้จักอยู่แล้ว อย่าท้อถอย เชื่อหรือไม่ คนที่เป็นแชมป์โลกความจำ 5 สมัย เขาเป็นโรค dyslexia เห็นตัวหนังสือไม่ตรงกับความเป็นจริง เขาฝึก จนได้ลงกินเนสบุค จำไพ่ที่สลับไปมา จำลำดับได้ 52 สำรับโดยไม่ผิดเลย ดังนั้น เราสมองปกติ ถ้าฝึกก็จำของได้เป็นร้อยอย่้างพันอย่าง มีชาวญี่ปุ่นทำสถิติการจำทศนิยมของค่าพาย ได้ประมาณสี่หมื่นหลัก ถัดมาคนจีน จำได้แปดหมื่นหลัก และเขากลับมาทำสถิติอีก ได้ครบแสน คนไทยก็มีที่ฝึกจำ ประเภทไม่ต้องใช้ phone book ในโทรศัพท์เลย อายุแค่ 19 ว่างๆ จะหาเวลามาเขียน จากคุณ : Ii'8N เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 52 18:11:59

ความคิดเห็นที่ 47 website สถิติ การจัดแชมป์โลก http://web.aanet.com.au/memorysports/worldrankings.php คนไทยอยู่อันดับไหนมั่ง? http://web.aanet.com.au/memorysports/competition.php?id=tmc2008 คลิกไปที่ชื่อแต่ละคนดู ว่าจำอะไร ใช้เวลาเท่าไหร่ (เช่น คนที่ได้ที่ 1 ชื่อธีระรัตน์ เอื้อนุเคราะห์ ใน 5 นาที จำตัวเลขฐานสองได้ 90 ตัว) จากคุณ : Ii'8N เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 52 18:14:52

ความคิดเห็นที่ 48 เอาไปนิดก่อน ทุกวันนี้ ถ้าเราเขียนรายการ list อะไรมายาวๆ สมมติแม่ใช้ให้ไปซื้อของที่ซูเปอร์มาร์เก็ต คุณจำจำนวนของสูงสุดได้กี่รายการ โดยไม่ต้องจด ผมเชื่อว่าคนสมองปกติ ทั่วไป ไม่น่าเกินสิบอย่้าง บางทีได้บ้างรายการ แต่หลงบางรายการ ใครอยากลอง เอาไปวิธีแรก ที่เป็นพื้นฐานของวิธีอื่นๆ ก่อน หลักการคือ การจำ โดยใช้หลักการเกี่ยวเนื่องกัน และให้จำเป็นรูปภาพ อย่าท่องชื่อ ลองวิชาแค่ 5 อย่างก่อน สมมติให้จำ ช้าง ลิง วัว หมู แพนด้า ลองหลับตานึกภาพทีละอย่าง ต้องใช้จินตนาการ คิดให้รู้สึกสนุกๆ ภาพต้องชัด เป็นสี เคลื่อนไหวได้ จะเอา ตลก ลามก ขำๆ ทะลึ่ง ทะเล้น ยังไงก็ได้ เพราะเราคิดในใจคนเดียว ไม่มีใครู้ว่าเราคิดอะไร ยิ่งสนุก ยิ่งจำง่าย ช้าง เริ่มต้น ช้างตัวโตๆ ใครเคยจำช้างแบบไหน ก็นึกภาพแบบนั้นตามถนัด หรือใครชอบการ์ตูน "ก้านกล้วย" ก็เอาแบบนั้นก็ได้  ก้านกล้วยสีสวย กำลังเริงร่า วิ่งไปมา ลิง ถัดมานึกภาพ ลิงตัวหนึ่ง จะเอาลิงชนิดไหนก็ได้ หรือหนุมานก็ได้ ซุกซน โดดไปเกาะขาช้างที่กำลังวิ่งเล่นนี่แหละ หนอยแน่ะ ไม่เกาะเปล่า ดันไปแหย่ก้นช้างเล่น ช้างเลยขี้ใส่เลอะไปทั้งตัวเลย วัว วัวตัวหนึ่งประหลาด กำลังไล่ขวิดตามขวิดลิง เอาแบบกระทิงแดงก็ได้ หรือเอาวัวป่า วัวบ้านที่ไหนก็ได้ ที่เราเคยเห็น หมู ไอ้เจ้าหมูอ้วนตุ้ยตัวสีชมพู ไม่รู้คิดยังไงขึ้นมา ดันไปคาบหางวัว (สงสัยหิวอยากกินซุปหางวัว) วัวที่กำลังวิ่งเลยลากเอาหมูตัวนี้ตามไปด้วย แพนด้า คิดถึงรูปหลินปิงก็ได้ ดันไปขี่อยู่บนหลังหมูตัวนี้ หมูหลังแทบแอ่นเลย ลองหลับตานึกแบบนี้ดู จำแค่ละตัวขั้น แต่ต้องมีอะไรสักอย่าง โยงกับไอ้ตัวก่อนหน้านี้ เป็นการโปรแกรมลงไปในความจำของเรา แต่ละตัวแค่ 6-7 วินาทีก็พอ แล้วหันหลังให้ตัวหนังสือ นึกภาพ พูดไล่ออกมา ทีละตัว หรือหยิบปากกามาเขียนชื่อตามลำดับ ลองค่อยๆ เพิ่มเป็น 7-10 อย่าง เปลี่ยนเป็นของที่อยากจำ จะรู้ว่าของกล้วยๆ ตอนที่ผมลองวันแรก ตื่นเต้นมาก เพราะจำ 25 อย่างไม่ผิดเลย แถมจำสิ่งไม่มีชีวิตด้วย ลองเอาไปท้ากับเพื่อนๆ ดู เพื่อนๆ จะตะลึง แค่ลองจำของสิบ-ยี่สิบกว่าอย่าง ก็รู้สึกสนุกแล้ว เผื่อเอาไปใช้ท่องตำรา หรือจำของที่จะไปซื้อ โดยไม่ต้องจด ย้ำว่าหลักการคือ หลักการคือ การจำ โดยใช้หลักการเกี่ยวเนื่องกัน และให้จำเป็นรูปภาพ อย่าท่องชื่อ ปู่ไอน์สไตน์ถึงบอกไง ว่าจินตนาการสำคัญกว่าความรู้ ไร้ขอบเขต ตอนนี้ เราจะเอาจินตนาการ มาช่วยจำ สร้างความรู้ ตอนนี้ ถามคนในนี้ว่า ใครไปทดลองวิธีนี้  จำได้สูงสุดจำนวนกี่อย่าง? เปรียบเมียบการจำโดยท่องซ้ำ้ๆ (Rote Memorization) ก่อนหน้านี้กับวิธีนี้ ปรับปรุงการจำได้เป็นจำนวนเท่าไหร่ ดีขึ้นกี่%? ลองเอามาเล่ากัน แล้วจะหาเวลามาเขียนเพิ่มวิธีอื่น แก้ไขเมื่อ 08 ก.ย. 52 18:28:48 จากคุณ : Ii'8N เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 52 18:20:41

ความคิดเห็นที่ 49   แตกประเด็น จากคุณ : พู่กันลายหมอก เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 52 19:34:27

ความคิดเห็นที่ 50 มีประโยชน์มากๆค่ะ จากคุณ : lalinphat เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 52 20:42:40

ความคิดเห็นที่ 51 ชอบกระทู้นี้ค่ะ จากคุณ : Pink Apple Green เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 52 20:45:25

ความคิดเห็นที่ 52 ขอบคุณค่ะ คุณ(ฝาปิดกล่องเสียง)epiglottis จะสอบมะรืนนี้แล้ว เพิ่งอ่านค่ะ 5555 โดนกระทู้ด่าเลย ได้ความรู้มากๆ เอาไว้ปรับปรุงตัวเอง จากคุณ : Rdfaiz เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 52 21:14:31

ความคิดเห็นที่ 53   เยี่ยมมากครับ จากคุณ : i.everyday เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 52 22:28:49

ความคิดเห็นที่ 54   สุดยอดครับ ชอบครับ ใกล้สอบแล้วด้วย จากคุณ : 15Niardem เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 52 22:51:44

ความคิดเห็นที่ 55 ขอบคุณมากค่ะ ^^ จะสอบแล้วเช่นกัน จากคุณ : mswis เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 52 23:47:19

ความคิดเห็นที่ 56 อ่านแล้ว อยากจะซัดโอ้กน้ำแอปเปิ้ลซัก1ลิตร จากคุณ : okaunkung (okaunkung) เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 52 01:37:39

ความคิดเห็นที่ 57 ผมไม่ท่อง แต่จำเอา แบบนึกว่ามันคล้ายอะไรซักอย่าง ตอนเรียน ม ปลาย จำตารางธาตุ ได้หมดเลย ตอนนี้ลืมหมดแล้ว จากคุณ : ทิดเขียด เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 52 01:43:16

ความคิดเห็นที่ 58 ไม่นานมานี่แหละ ถึงนึกได้ว่า ไม่รู้จะจำไปทำไม จากคุณ : ทิดเขียด เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 52 01:47:56

ความคิดเห็นที่ 59 ขอบคุณสาระดีๆ ที่มีประโยชน์ต่อสมองค่ะ จากคุณ : Fru Huldra เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 52 05:35:14

ความคิดเห็นที่ 60 ขอบคุณค่ะ กำลังเตรียมอ่านหนังสือสอบ (ป.1) อยู่พอดี จากคุณ : == พิ้งค์กี้ == เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 52 10:51:45

ความคิดเห็นที่ 61 มีประโยชน์จังเลยครับ จากคุณ : samapapa เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 52 11:40:47

ความคิดเห็นที่ 62 ขอความรู้เพิ่มเติมหน่อยค่ะ อายุมากแล้ว เริ่มรู้สึกว่าคิดอะไรช้า บางครั้งกำลังนึกว่าจะพูดจะทำอะไร พอมีใครสะกิด กลายเป็นลืมไอ้ที่ว่าจะพูดจะทำ ต้องยืนนึกอยู่เป็นครู่ เป็นถี่ขึ้นด้วย   ทำอย่างไรจึงจะดีขึ้นคะ หลานๆเคยบอกว่าให้ทาน ถั่วสมอง (วอลนัท) แยะๆ ก็กลัวจะเพิ่ม คอลเลสเตอรอล แต่ก็ทาน เพราะเกรงใจเขาซื้อมาหาฝากด้วยความห่วงใย  แต่น่าจะมีวิธีอื่นๆด้วยหรือเปล่าคะ  (น้ำแอ็บเปิ้ลก็ทานค่ะ) จากคุณ : แม่แจ๊ด เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 52 21:40:07

ความคิดเห็นที่ 63 ชอบกระทู้นี้จังเลยค่ะ ตอนนี้เรากำลังประสบปัญาเกี่ยวกับการจำอยู่ ที่อ่านหนังสือแล้วจำไม่ได้เป็นเพราะตอนอ่านเครียด + คิดว่าจำไม่ได้แน่ๆ แน่เลย อย่างนี้ต้องแจกกีบ จากคุณ : pikapika_miki เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 52 23:25:48

ความคิดเห็นที่ 64 กระทู้ดี มีสาระแบบนี้ชอบ ชอบ ผมก็กลัวจะเป็นโรคขี้ลืมครับ บางทีก็ลองมานั่งคิดดู...ที่เราจำไม่ได้อาจเป็นเพราะบางทีไม่สนใจจะจำหว่า ? อย่างช่วงนี้ผมพยายามคิดเลขในใจตลอด เพราะเมื่อก่อนจะใช้ตัวช่วยตลอด พอเริ่มคิดเลขในใจใหม่ๆนี่ช้ามากครับ น่าจะช้ากว่าสมัยตัวเองเรียนประถมด้วยซ้ำ พอทำมาซักระยะก็ดีขึ้นมาก ชัวร์มากความผิดพลาดน้อยมาก พอทำบ่อยๆจะเริ่มชินจนสามารถคิดในใจหลายๆหลักมากขึ้นเรื่อยๆ ใครที่ไม่เคยลองทำดูครับ เช่นเวลาเราซื้อขอซัักสี่ห้ารายการ ก็ลองบวกในใจดู ผมลองทำช่วงแรกๆนี่เหวอเลย ช้ามาก ยิ่งเศษเยอะนี่พาลจะคิดไม่ออกเอา.. วิธีนี้น่าจะช่วยให้ความจำอยู่กับเรานานขึ้น(บ้าง) จากคุณ : KOKISME เขียนเมื่อ : 10 ก.ย. 52 09:36:05

ความคิดเห็นที่ 65 ขอบคุณครับ  ชอบเรื่องดินสอกับยางลบมากๆเลยนะครับนะ จากคุณ : ไม้ไผ่โย่ง เขียนเมื่อ : 10 ก.ย. 52 11:10:12

ความคิดเห็นที่ 66 เอาเพลงมาฝากครับ เข้ากับบรรยากาศ อิอิ http://www.electroaholic.com/myfiles/Udom-RianMaiKeng.3pm เอาไปเปลี่ยนนามสกุลเอาเองนะ เซิบเว่อร์มานไม่ให้โหลดเอ็มพีสามอ่า จากคุณ : NaCl เขียนเมื่อ : 10 ก.ย. 52 11:12:05

ความคิดเห็นที่ 67   ฮา 39# นั่นเป็น ญ เรอะนั่น จากคุณ : แมวไม่กินปลา เขียนเมื่อ : 10 ก.ย. 52 13:48:19

ความคิดเห็นที่ 68 เข้ามาดู ... จากคุณ : D_YONG เขียนเมื่อ : 10 ก.ย. 52 15:50:07

ความคิดเห็นที่ 69 นึกถึงตอนสมัยเรียนมัธยม วิชาสังคมอาจารย์ให้ท่องชื่อประเทศ15ประเทศที่แยกตัวจากรัสเซีย กับชื่อราชวงค์จีน เยอะแยะตาแป๊ะไก่เต็มไปหมด แถมแต่ละชื่อก็ยาวๆแปลกๆทั้งนั้น แบบเครียดเลยจะจำได้ไหมเนี่ย แล้วทีนี้เพื่อนเรามันมาสอนให้เราท่องเป็นเพลง ก็หาจังหวะเพลงมันส์ๆมาสักเพลง ท่องไปก็ขำกันไป หัวเราะกันคิกคัก ผลที่ได้ก็คือวันเดียวก็จำได้ขึ้นใจ ทุกวันนี้ก็ยังจำได้อยู่เลย จากคุณ : +=ไม้จิ้มฟันอาบยาพิษ=+ เขียนเมื่อ : 11 ก.ย. 52 16:04:26

ความคิดเห็นที่ 70 วิทยาการคอมสอนว่า : สิ่งที่อ่านเพื่อเข้าสอบ เก็บอยู่ใน ram สอบเสร็จก็หายไป สิ่งที่ทำมาตลอดเทอม เก็บอยู่ในรอม จดจำจนกว่าจะปรับเปลี่ยนค่า เอง (ถ้าเล่นมาตลอดเทอมก็นะ ก็จำแต่การเล่นแหละ !!~) จากคุณ : -:ราชินีแห่งรัตติกาล:- เขียนเมื่อ : 11 ก.ย. 52 21:09:15

ความคิดเห็นที่ 71 หวัดดี กำลังอ่านหนังสืออยุ่เลย ง่ะ จากคุณ : 1812Overtureyoot เขียนเมื่อ : 11 ก.ย. 52 22:16:42

ความคิดเห็นที่ 72 ขอบคุณค่ะ ได้ความรู้เยอะมากเลย ^^ จากคุณ : ~MuUYanG~ เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 52 15:10:10

ความคิดเห็นที่ 73 คห.17 เหมือนมีอะไรผิดๆอยู่นะครับ :P จากคุณ : unrebirth เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 52 04:40:51

ความคิดเห็นที่ 74 เราเป้นคนขี้จำมากเลยอ่ะ จำได้หมด ตอนเด็ก ๆ แทบจะไม่ต้องท่องหนังสือสอบเลย ตอนนี้อายุชักเยอะ กลัวว่าจะเสื่อมเร็วกว่าคนอื่น แบบว่าไม่มีที่เหลือในสมองแล้วอ่ะ ทำไงดี เพลงหนังเพลงละครสมัยเด็ก ๆ ก็ยังจำได้อยู่ กลอนอาขยานเอย พระอภัยมณีเอย กลุ้ม เป็นเด็กวิทย์ขอบอก ตารางธาตุเอย สูตรดิ๊บ สูตรฟิสิกส์เอย ตอนนี้ไม่ได้ใช้แล้ว ไม่รู้จะจำไปทำไมอ่ะ แต่มันไม่ลืม จากคุณ : Manggahan เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 52 09:31:20

ความคิดเห็นที่ 75 คห.74 คุณเป็นคนโชคดีมากๆ นะครับ  ดูแลสุขภาพให้ดี กินดี พักผ่อนดี ออกกำลังสม่ำเสมอ ทำจิตใจใ้ห้แจ่มใส  สมองไม่เสื่อมก็มีที่ให้คุณจำอะไรได้อีกเยอะละครับ จากคุณ : กัมโม่ เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 52 21:11:09