ความคิดเห็นที่ 1 สมมุติง่ายๆ ว่าเปิดพัดลมใช้พลังงาน 100 W เอาไปปั่นกังหันลมเพื่อสร้างไฟฟ้า จะได้ >= 40 W จึงขาดทุนหายไปกับความร้อนแรงเสียดทานอื่น ๆ เนื่องจากกฎเทอร์โมไดนามิค พลังงานไม่มีการสุญหายเพียงแต่เปลี่ยนรูป ผมเคยนำผลงานเครื่องกำเนิดไฟฟ้าจากน้ำฝนไปแสดงวันนักประดิษฐ์ โดยทำการจำลองการไหลของน้ำฝนด้วยการใช้เครื่องดูดน้ำดูดจากถังที่รองน้ำฝนไหลมาขึ้นบนหลังคา ปรากฎว่าผู้มาเข้าชมทุกท่านจะเดินเข้ามาแนะนำผมว่า ถ้าเอาเครื่องของผมไปปั่นไฟเพื่อให้เครื่องสูบน้ำสูบขึ้นมาใหม่จะได้พลังงานไม่รู้จบ ผมจึงต้องอธิบายผู้มาชมว่ามอเตอร์เครื่องสุบน้ำนี่ผมทำจำลองปรากฎการณ์ฝนตกในโดมที่จัดแสดงไม่ใช่ได้ไฟฟ้าจากเครื่องฯ ขอชมเจ้าของกระทู้ที่มีความคิดสงสัยและคิดพยายามแก้ปัญหา แต่จินตนาการอย่างเดียวอาจจะไม่พอ ผมเองไม่ได้จบด้านไฟฟ้าเหมือนคุณ แต่ชอบงานด้านพลังงานทดแทนจึงต้องซื้อหนังสือค้นคว้าหลักการทางทฤษฎีด้วยตัวเอง จากคุณ : artchula66 เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 52 01:35:52

ความคิดเห็นที่ 2 ปริมาณไฟฟ้าที่ได้เกี่ยวกับความเร็วในการหมุนของกังหันหรือเปล่าครับ ถ้าใช่ ผมเคยได้ยิมมาว่าถ้าเรามีเฟือง เราสามารถเอาเฟืองใหญ่หมุน 1 รอบ ไปต่อกับเฟืองเล็กให้หมุน 10 รอบได้ แล้วถ้าเราทำแบบนี้ต่อกันหลายๆชั้น มอเตอร์หมุนรอบเดียว อาจทำให้กังหันหมุนเป็นพันเป็นหมื่นรอบได้ ก็น่าจะได้กระแสไฟเยอะ ถ้ามีปัญหาเรื่องหมุนเร็วมากๆติดต่อกันแล้วร้อน เราก็ทำชุดแบบนี้ขึ้นมาซัก 4 ชุด ทำงานสลับกัน ก็น่าจะแก้ปัญหาได้ หรือเปล่าครับ จากคุณ : Acater เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 52 01:57:03

ความคิดเห็นที่ 3 ผมกินข้าวทุกวัน แต่ผมไม่เคยคิดเลยว่าจะไปทำนาปลูกข้าวกินเองหรือจะปลูกข้าวแข่งกับชาวนาครับ เพราะมันไม่คุ้ม จากคุณ : joe (aircraftdesigner) เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 52 03:49:10

ความคิดเห็นที่ 4 ตาม"กฏ"อนุรักษ์พลังงาน "ไม่ว่าจะใช้วิธีใดก็ตาม" ไฟฟ้าที่คุณใช้หมุนกังหัน มันก็ย่อมมากกว่าหรือเท่ากับไฟฟ้าที่คุณจะได้รับจากกังหัน และกฏข้อนี้ก็เป็นจริงเสมอ จนถึงปัจจุบันยังไม่มีใครสามารถหักล้างได้ จากคุณ : ฉันมีค่าแค่ไหน เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 52 05:31:06

ความคิดเห็นที่ 5 #2 แรงจะหมุนเฟืองใหญ่จะต้องใช้แรงเยอะมากในการทดเพื่อให้เฟืองเล็กได้พลังงานเท่ากับจ่ายให้เฟืองใหญ่ จากคุณ : artchula66 เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 52 06:27:37

ความคิดเห็นที่ 6   ความคิดเห็นที่ 3ครับเพราะอย่างนี้ไงชาวนาถึงได้จนอยู่ตลอดครับ จากคุณ : ชาวนาหน้าใหม่ เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 52 07:52:20

ความคิดเห็นที่ 7 Power In > Power Out1 > Power Out2 > Power Out3 ... มองง่ายๆ เลยครับ มองกันที่ power หน่วยเดียวกัน จะเป็น Watt หรือ HP ก็สุดแล้วแต่ พอเริ่มส่งพลังงานไป 100% เข้าอุปกรณ์สักอย่าง พลังงานจะหายไป จาก loss ต่างๆ เช่น ความฝืด, การต้านอากาศ, กระแสไหลวน, ความร้อน, ฯลฯ สรุปไม่ได้ผลหรอกครับ ที่ จขกท กล่าวมาเข้าข่าย เครื่องกำเนิดแบบอนันท์ ทุกวันนี้ยังไม่มีใครประสบผลสำเร็จครับ แค่ให้เข้า 100% ออก 95% ยังยากแสนสาหัด จากคุณ : อิทธิพงษ์ เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 52 08:13:43

ความคิดเห็นที่ 8   จะผลิตเองก็ได้ครับ  อยู่ที่ว่า ความต้องการใช้ไฟคุณมีมากมีน้อย 1 แผงโซล่าเซล กังหันปั่นน้ำ 2 เลี้ยงหมู เลี้ยงไก่ เลี้ยงเป็ด เอาอุจจาระ ไปทำแก้สมีเทน เป็นแก้สชีวภาพเอาไปต้มน้ำแล้วเอาไอน้ำที่ได้ ไปปั่นเทอร์ไบผลิตไฟฟ้าอีกที ไม่ก็ขอคนในหมู่บ้าน บอก ผมสูบส้วมให้ฟรีเอาอึคนทั้งหมู่บ้านมาทำก็ไม่ว่ากัน 3. ขยะตามหมู่บ้าน สร้างเตาเผาขยะแบบไร้ควัน ต้นแบบหาได้ในเนต เอาไปต้มน้ำ เหมือนข้อ 2   ของฟรีๆ ทั้งนั้น มาดูของไม่ฟรีบ้าง 4. ทำโรงกลั่นเมทิวแอลกอฮอร์เอง เอาแอลกอฮอร์ที่ได้ ไปใส่ fuel cell  ถ้า membrame มันแพงก็เอาไปทำ Burner เผาต้มน้ำปั่นเทอร์ไบได้เหมือนกัน จากคุณ : CitizenShip เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 52 08:25:12

ความคิดเห็นที่ 9   ถ้าทำได้  โรงงานไฟฟ้าคงไม่ต้องใช้ถ่านหิน ก๊าซ  น้ำ  หรือนิวเคลียว์ แล้วครับ จากคุณ : AIM-9X เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 52 09:34:41

ความคิดเห็นที่ 10   คห 9  ที่เวียดนามเค้าทำกันได้แล้วนะครับ ... นี่ผมเอาแบบอย่างมาจากเวียดนาม เพราะพี่ที่ผมรู้จักเค้าเป็น projectmanager โครงการไฟฟ้าชุมชนแบบนี้ที่เวียดนามครับ จากคุณ : CitizenShip เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 52 10:32:28

ความคิดเห็นที่ 11 ผมมองไปอีกแบบนะครับ การเอาไฟฟ้า มาปั่นไฟฟ้า ก็ย่อมได้พลังงานน้อยลง เพราะมีการสูญเสีย จากกฎอนุรักษ์พลังงาน พลังงานตามธรรมชาติมากมาย ที่เราปล่อยให้เสียไปเปล่าๆ อย่าง*1* ทำเรื่องปั่นไฟจากน้ำฝน นั่นก็น่าสนใจนะ ฝนยังไงมันก็ตกลงพื้น จากคุณ : โลหการ4 เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 52 11:01:07

ความคิดเห็นที่ 12 เราส่วนใหญ่ คิดว่าเขื่อนเป็นกำลังหลักในการผลิตไฟ เมื่อก่อนผมก็คิดอย่างนั้นเหมือนกัน ที่จริงเป็นการเสริมซึ่งกันและกัน ลองไปดู web ของกฟผ. ดู ถ้าบ้านเรายังเป็นแบบแอฟริกา ความต้องการไฟฟ้าจากเขื่อนยังคงอยู่ปานกลางถึงกำลังพอดี แต่เรามีอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นเยอะมาก เมืองก็โตขึ้นมา แค่ห้างใหญ่ๆ กทม. ห้างเดียว บางทีใกล้เคียงกับครึ่งถึง 1 ของต่างจังหวัด ทุกวันนี้ แหล่งต้นกำเนิดไฟฟ้าใช้จากก๊าซและถ่านหินส่วนใหญ่ เขื่อนยังเป็นส่วนน้อย และตอนน้ำไม่มี หรือหน้า่ร้อน กำลังการผลิตก็ตก ยิ่งพลังลมและเซล์แสงอาทิตย์แล้ว ไฟที่ได้ยังไม่คุ้มการลงทุน และกระปิดกระปอยเหลือเกิน โดยเฉพาะลม บ้านเราไม่สม่ำเสมอหรือแรงพอที่จะได้ไฟจนเลี้ยงความต้องการมากๆได้ จากคุณ : Ii'8N เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 52 11:35:18

ความคิดเห็นที่ 13 ปล. ไม่ได้แค่นักทฤษฎีนะครับ โซล่าร์เซล เคยใช้งานมาแล้ว กังกันลมเคยทดสอบมาแล้ว เคยฝัน จะนำเข้ากังหันลมมาจากสวีเดน หรือเยอรมัน ที่เขาพัฒนาถึงประสิทธิภาพสูงสุดและ commercial ทั่วโลก แต่พอมาเก็บสถิติของลมย่านอินโดจีนเทียบกับการลงทุนแล้ว ไม่คุ้มทุนง่ายๆ ไปทำอย่างอื่นดีกว่า จากคุณ : Ii'8N เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 52 11:39:05

ความคิดเห็นที่ 14 ถ้าเอาเฟืองใหญ่ไปหมุนเฟืองเล็ก แล้วเอาไปหมุนเฟืองเล็กกว่า เล็กกว่าไปเรื่อยๆ เฟืองเล็กจะหมุนหรือไม่หมุน ขึ้นอยู่กับ กำลังการหมุนของเฟืองใหญ่ครับ มันมี 2 อย่างครับ 1 ความเร็วในการหมุน 2 กำลังในการหมุน พอคุณเอาเฟืองเล็กมาต่อเฟืองใหญ่ กำลังในการหมุนของเฟืองใหญ่จะลดลง เนื่องจาก แรงเฉื่อยจากน้ำหนักของเฟืองเล็ก + แรงเสียดทานที่จุดหมุน ถ้าคุณเอาเฟืองเล็กมาต่ออันนึง เฟืองใหญ่ก็จะหมุนช้าลง พอเอาเฟืองเล็กมาต่ออีกหลายๆตัว เฟืองใหญ่ก็จะหมุนช้าลงๆเรื่อยๆจนอาจจะหยุดหมุนไปเลย การปั่นไฟ จะมีแรงฉุดครับ แรงฉุดมาจากการต่อต้านของแม่เหล็ก จากการใช้ไฟ ยิ่งมีการใช้ไฟมาก ยิ่งฉุดให้การหมุนเพื่อปั่นไฟต้องใช้กำลังมากขึ้น (หนักขึ้น) (เรื่องนี้ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญเพียงแต่จำผู้รู้ท่านหนึ่งเล่ามา ผิดพลาดช่วยแก้) การปั่นไฟไม่ใช่ว่าแค่หมุนก็พอครับ ต้องใช้กำลังในการหมุนด้วย การที่คุณจะทดเฟืองหลายๆตัวเพื่อให้เกิดรอบหมุนที่มากขึ้น มันก็จะได้แค่ความเร็วแต่กำลังหนังในการหมุนก็จะเท่าเดิม กฏอนุรักษ์พลัง ถ้าคุณป้อนพลังงานเข้าไปในระบบ 100 คุณจะไม่มีทางได้พลังงานออกจากระบบเกิน 100 เด็ดขาด แค่การจะให้พลังงานออกมา 100 เป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยากแล้วครับ เพราะมันจะมีการสูญเสียพลังงานไปหลายกรณี เช่น เอามอเตอร์ไปปั่นไดนาโม ให้ได้ไฟฟ้า จากนั้นเอาไฟฟ้ามาหมุนมอเตอร์อีกที สมมุติมอเตอร์ใช้พลังงาน 100% เมื่อเอาไปปั่นไดนาโม จะได้พลังงานออกมาแค่ 80% (ตัวเลขสมมุติ) สาเหตุเหมือนเรื่องเฟืองที่พูดไปว่ามีแรงเฉื่อยและแรงเสียดทาน ฯลฯ พลังงานที่ได้ 80% เอาไปส่งให้มอเตอร์อีกตัว อาจสูญเสียไป 10% เหลือ 70% จากนั้นเอาพลังงาน 70% นี้ไปส่งให้มอเตอร์ตัวแรก วนเวียนไปเรื่อยๆ พลังงานมันจะลดๆๆๆๆๆจนสุดท้ายก็หยุดหมุนไปเลยครับ ไม่อยากพูดให้เสียกำลังใจ แต่นี่เป็นกฏอนุรักษ์พลังงาน มีนักวิทยาศามาตรหลายสิบล้านคน พยายามจะทำลายกฏนี้มามากกว่า 100 ปี เพื่อที่จะสร้างเครื่องกำเนิดพลังงานไม่รู้จบ แต่ก็ยังไม่มีใครสามารถทำลายได้ แก้ไขเมื่อ 12 ก.ย. 52 12:28:48 จากคุณ : (-_-") เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 52 12:26:14

ความคิดเห็นที่ 15 กฏอนุรักษ์พลังงาน หมายถึง "พลังงานสามารถเปลี่ยนรูปหรือถ่ายโอนจากที่หนึ่งไปยังที่หนึ่งได้ แต่ไม่สามารถสร้างขึ้นใหม่ หรือทำลายไปได้"       พิจารณาระบบ ถ้าหากเรากำหนดขอบเขตของระบบของ จขกท จะมีงานหรือในกรณีนี้คือไฟฟ้าเกิดขึ้นข้ามขอบเขตนี้เอง โดยปราศจากการใส่พลังงานเข้าไปในระบบ ดังนั้น ละเมิดกฎข้อที่1 ชัดเจน จากกระบวนการใดๆจะเกิดขึ้นได้ จะต้องไม่ละเมิด กฎข้อที่ 1 และ 2 ของ เทอร์โมไดนามิค ดังนั้นสรุปได้ว่า ระบบนี้เป็นไปไม่ได้       ตราบใดที่กฎข้อที่ 1 และ 2 ของ เทอร์โมไดนามิคยังคงเป็นจริงอยู่ เครื่องจักรอนันต์เหล่านี้จะเป็นไปไม่ได้ จากคุณ : ซามูไรไร้นาย เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 52 13:50:46

ความคิดเห็นที่ 16 +++  จขกท.     อุปมาอุปมัยเอานะครับ สมมุติ เลี้ยง เป็ด กับ ไก่    เป็ดไข่ออกมาเราก็ให้ไก่กิน  ไก่ไข่ออกมา เราก็ให้เป็ดกิน   วนเวียนกันอยู่อย่างนี้  คุณคิดว่ามันจะมีชีวิตรอดไหม และจะมีไข่เหลือให้เราไหม .....เป็ดก็คือมอเตอร์ที่ไปหมุนกังหัน   ไก่ก็คือกังหันที่ต้องจ่ายไฟให้มอเตอร์.....นั่นแล จากคุณ : ตาเป๋า เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 52 14:24:15

ความคิดเห็นที่ 17 พลังงานที่ได้ ไม่มีทางมากกว่า พลังงานให้ ครับ ตามที่เจ้าของกระทู้ตั้งคำถามไว้ว่า จะสามารถสร้างไฟฟ้า ได้เองหรือไม่ โดยสังเกตจาก แหล่งผลิตไฟฟ้า แบบต่างๆ ก่อนอื่นเราต้องรู้ตัวเราเองก่อนว่า เรามีวัตถุดิบอะไร เพื่อจะนำมาผลิตไฟฟ้าได้ ด้วยหลักงานหมุนของกังหัน หรือ วิธีอื่นๆ และวัตถุดิบ ของเรานั้น ได้มาจากไหน ต้นทุนเท่าไหร่ พลังงานจาก ลม น้ำ แสง นั้นมาจากธรรมชาติ ต้นทุนอาจจะต่ำ หรือไม่มีต้นทุน แต่ยังมี ค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษา การดูแลต่างๆ อีก เมื่อนำมาคิดกับปริมาณไฟฟ้าที่ได้ อาจจะไม่คุ้ม ดังนั้น การผลิตไฟฟ้า ขนาดย่อมนั้น ต้องมีองค์ประกอบ วัตถุดิบกำเนิดพลังงาน และวิธีเปลี่ยนรูปพลังงานเป็นพลังงานไฟฟ้า ครบ โดยที่เราไม่จำเป็นต้องไปแสวงหาเอง หรือถ้าหามาก็ใช้ค่าใช้จ่ายต่ำ เราถึงจะคุ้มกับการใช้ไฟฟ้าที่ผลิตขึ้นมาเอง ดังนั้น โรงไฟฟ้าต่างๆ ที่ผลิตไฟฟ้า ด้วยปริมาณที่น้อย ต้นทุนก็จะอยู่ในอัตราส่วนที่สูงครับ จากคุณ : fcaon เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 52 19:25:48

ความคิดเห็นที่ 18 ค้น google ดู พลังลมอัดถัง น่าสนใจ ต้นทุนก็ต่ำ ผลิตไฟฟ้าก็ได้ดี แต่เรื่องเงียบไปเป็นปีแล้ว ไม่รู้ไปถึงไหน จากคุณ : รู้สึกตัว เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 52 23:47:37

ความคิดเห็นที่ 19 มีสิ่งประหลาดตัวเดียว อะตอนนี้ ที่ มันให้พลังงานมหาศาล คือนิวเคลีย ผมยังเคยคิด เลน่ๆ ถ้ายัดนิวเคลีย ลองถ่านไฟฉายได้ เรา จะเดินทางได้ ไปไหนได้ด้วยถ่านสองก้อนหรือก้อนเดียว แต่ มันปล่อยสิ่งที่เรา ทำให้เปนมะเร็งออกมา และเราควบคุมยากนี่สิ เลยไม่มี ใคร คิดจะทำเองที่บ้าน (นอกจากเรื่องต้นทุนวัตถุดิบที่สูงมากแล้ว) รัฐกำลังจะทำ โรงไฟฟ้านิวเคลีย ปัญหา เดียว คือจะทำใกล้บ้านใคร เพราะ มานเสียว ทุกคน ถ้าไปใกล้บ้านใคร จากคุณ : lazarn (lazarn) เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 52 00:22:58

ความคิดเห็นที่ 20   ผมคิดว่าปัญหานี้ ... ถ้าใครที่เรียนวิศวะแล้วไม่เคย ตั้งคำถามแบบนี้ ก็ไม่ควรจะมาเรียนวิศวะ (พูดแรง หน่อยน่ะ) เพราะเท่าที่จำได้มันเป็นคำถามแรกๆ ที่ผมสงสัย ตอนวัยเด็ก ... หรือแม้กระทั่งเพื่อนๆ ที่เรียน physic ตั้งแต่บทแรกยันบทสุดท้าย เราจะเจอแนวคิดเครื่องจักรกลพลังงานอนันต์ มาตลอด ผมมองว่าคำถามพวกนี้แหละคือคำถามที่คอยตรวจทางความเข้าใจทาง physic แทบทุกขั้นตอน สำหรับพลังงาน nuclear ผมมองว่า ศักย์ ของมันอยู่ในรูปแบบของการจัดรูปของ atom เมื่อ atom เปลี่ยนการจัดรูปก็เลยเกิดส่วนต่างพลังงานออกมา ผมยังมองว่า การเปลี่ยน การสร้างพลังงานหนึ่งจากพลังงานหนึ่งเช่น การปั่นไฟ จากน้ำมัน คือการทำให้น้ำมันเปลี่นรูปแบบการจัดรูป ซึ่งจะมาจัดรูป electron ให้ไปกระแสไฟฟ้า จากแนวคิดนี้ ผมเลยมองว่า พลังงาน คือการ formation กลับมาคำถาม อันที่จริงผมว่ามันเป็นเรื่องของ efficiency มากกว่า สมมุติว่า เราสามารถสร้างเครื่องยนต์ gas turbine ขนาดเล็กประสิทธิภาพสูงเท่ากับโรงไฟฟ้า และมีการดูแลที่ถูก ก็เป็นไปได้ว่า เราจะสร้างหน่วยผลิตกระแสขนาดเล็กได้ ผมมองว่า ที่เค้ายังไม่ทำกันเพราะ ต้นทุนของการขนส่งเชื้อเพลิงจากที่นึงไปยังอีกที่ มันถูกกว่า การแยกระบบผลิตพลังงานไปตามที่ต่างๆ และค่าดูแลระบบผลิต ต่อหน่วยยังสูงกว่าต้นทุนการขนส่ง จากคุณ : ฟหกด เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 52 01:03:10 A:124.120.222.192 X: TicketID:205742

ความคิดเห็นที่ 21 น้ำมันเป็นแค่  heat source ของกลจักรความร้อนเท่านั้น ตัวที่เป็นแปลงพลังงานคือกลจักรความร้อนแบบต่างๆ ซึ่งประสิทธิภาพของมันจะไม่มีทางมากไปกว่าเครื่องยนต์คาร์โนต์        gas turbine มีอัตราส่วน back work มากกว่า steam turbine ผลที่ตามมาคือขนาดของ gas turbine จะมีขนาดใหญ่กว่า steam turbine ที่ power rating เท่ากัน       สำหรับ cycle ที่น่าสนใจ คือ stirling engine เพราะมีประสิทธิภาพทางทฤษฎีเท่ากับเครื่องยนต์ คาร์โนต์ จากคุณ : ซามูไรไร้นาย เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 52 02:39:08

ความคิดเห็นที่ 22 ไดนาโมที่เอาไว้ปั่นไฟ... สมมุตเอาไปต่อกับจักรยานออกกำลังกายเพื่อปั่นไฟ ต่อเสร็จ ยังไม่ต่อสายไฟไปใช้ ตอนนี้ใครมาปั่นก้ปั่นได้สบายๆ ดีไม่ดีปั่นเร็วเกินมาตรฐานด้วย พอเอาไฟที่ได้ไปต่อโหลดสัก 100 watt นี่ปั่นกันน่องโป่งเลย หรือจะสรุปง่ายๆ ว่าไดนาโมจะฝืดมากขึ้นก็ได้ตอนมีโหลดไฟฟ้า ทำให้ต้องใช้พลังงานในการหมุนมากขึ้นเมื่อต้องการไฟฟ้ามากขึ้น.. มอเตอร์ก็เช่นกันลองเอาพัดลมเด็กเล่นมารื้อก็ได้แล้วต่อแอมป์มิเตอร์เข้าไปเพื่อวัดกระแส แล้วลองถอดใบพัดออก แล้ววัดใหม่ กระแสจะใช้น้อยลง สรุปได้ว่าโหลดที่เอาไปเป็นภาระให้มอเตอร์ทำให้มันต้องการกระแสมากขึ้น ดังนั้นเอามาต่อกันเองแค่มอเตอร์กับไดนาโมโดยไม่หวังดึงไฟออกมาใช้เลยมันก็ยังเหลือไฟไม่พอเลี้ยงตัวเองให้หมุนต่อไปเรื่อยๆ   แต่ผมเคยได้ยินว่ามีคนทำได้นี่นา คุ้นๆว่า มิสเตอเอเนอจี่  ลองไปปรึกษาเขาสิ จากคุณ : Ph เขียนเมื่อ : 16 ก.ย. 52 22:21:33

ความคิดเห็นที่ 23   สร้างไฟฟ้าใช้เองสามารถทำได้ แต่ต้องลงทุนนะ ถ้าอยู่ที่สูงแนะว่า ใช้โซล่าเซล หรือกังหันลม ถ้าอยู่ใกล้น้ำตก หรือน้ำที่ไหลลงช้ากว่าแต่มีปริมาณมากๆ ให้ใช้ตัวทดน้ำ ถ้าอยู่ใกล้ บ่อน้ำร้อน ให้ใช้ไอน้ำ (ทั้งหมดนี้ต้องเอามาผ่าน เครื่องผลิตไฟฟ้า gen. นะจ๊ะ เลยต้องลงทุน) ถ้าอยู่ในเมือง ใช้ของการไฟฟ้านั่นแหละ ถูกแล้ว แต่ถ้าอยากออกกำลังกาย(แบบหนักๆ)ก็ปั่นไฟเก็บไว้เอง ส่วนที่ว่า เอาไฟใส่มอเตอร์มาปั่นกังหัน แล้วเอากังหันนั้นมาปั่นไฟอีกที อ่ะ อย่าทำเลย มันเข้าเนื้อเรื่อยๆ เหมือนตอนเราหิวแล้วกินเนื้อตัวเอง เพื่อแก้หิวอ่ะ..ไม่คุ้ม.. อ้อ .. เกือบลืม ลองหาดูในเว็บฝรั่งดู การสร้างไฟฟ้าแบบแปลก ก็ได้นะ แต่จะใช้จริงได้แค่ไหนลองพิจารณาเอาครับ คิด คิด จากคุณ : ทุกอย่างต้องลงทุน เขียนเมื่อ : 20 ก.ย. 52 18:21:22 A:114.128.221.246 X: