ความคิดเห็นที่ 1   โครงสร้างพื้นฐาน ที่จำเป็น ๑) format ปฏิทินไทย พื้นฐาน มี 3 แบบ แบบแรก เดือนคี่ 29 สลับเดือนคู่ 30 ทั้งปีมี 12 เดือน ได้ 354 วัน เรียกว่า ปีปกติ แบบสอง เพิ่มเดือนพิเศษ อีก 30 วัน ทั้งปีมี 13 เดือน ได้ 354+30=384 วัน เรียกว่า ปีอธิกมาส แบบสาม เพิ่มวันพิเศษ อีก 1 วัน ทั้งปีมี 12 เดือน ได้ 354+1=355 วัน เรียกว่า ปีอธิกวาร . ๒) วิธีคำนวณหา ดิถี ในวันเปลี่ยนศักราช วันเปลี่ยนศักราช ชื่อทางการเรียกว่า วันเถลิงศก ดิถีในวันนี้บางทีจึงเรียกว่า "ดิถีเถลิงศก" (สำเนียงบาลีปนเขมร) หรือ "ดิถีอัตตา" (สำเนียงบาลีปนพม่า? เพราะเคยเห็นของพม่าก็เรียกอย่างนี้) มีขั้นตอนโบราณเป็นดังนี้ ---------- ถ้าจะทำอัตตา ให้ตั้งจุลศักราช (พ.ศ.ลบด้วย 1181) ปีที่ต้องการนั้นลง เอา ๒๙๒๒๐๗ คูณ แล้วเอาเกณฑ์ ๓๗๓ บวก เอา ๘๐๐ หาร ได้ลัพธ์เท่าใด เอา ๑ บวกเข้าเป็นหรคุณอัตตา เศษเอามาลบเชิงหาร (คือเลข ๘๐๐ ที่เป็นตัวหาร)ตกลัพธ์เป็นกัมมัชพลอัตตา แล้วจึงตั้งหรคุณอัตตาลงเป็นสองฐาน ฐานบนเอา ๑๑ คูณเอา ๖๕๐ บวกแล้วเอา ๖๙๒ หารเศษเป็นอวมานอัตตา ลัพธ์ซึ่งหารได้นั้นเอาไปบวกด้วยหรคุณอัตตาฐานต่ำแล้วเอา ๓๐ หาร เศษเป็น "ดิถีอัตตา" ลัพธ์เป็นมาสเกณฑ์อัตตา ---------- เดี๋ยวนี้ใช้เครื่องคำนวณกันเป็นปดติแล้ว แปลงเป็นสมการกันดีกว่า ดูง่ายกว่ากันเยอะเลย เอาเฉพาะที่จำเป็น ๒.๑) จ.ศ. = พ.ศ. -1181 ๒.๒) หรคุณเถลิงศก หรือ หรคุณอัตตา = 1+ปัดเศษลงของ( (292207*จศ.+373)/800 ) ๒.๓) กัมมัชพลเถลิงศก หรือ กัมมัชพลอัตตา = 800*หรคุณเถลิงศก - (292207*จศ.+373) ๒.๔) มาสเกณฑ์เถลิงศก = ปัดเศษลงของ((หรคุณเถลิงศก+650/703)/(30*692/703)) ๒.๕) ดิถีเถลิงศก = ปัดเศษลงของ((หรคุณเถลิงศก+650/703)/(692/703)) แล้ว โมดุโลด้วย 30 ๒.๖) อวมานเถลิงศก = (11*หรคุณเถลิงศก+650) โมดุโลด้วย 692 . ตัวอย่างปี พ.ศ. ๒๕๕๓ แทนค่าในที่สุดจะได้ ดิถีเถลิงศก 2 จึงเป็นปีอธิกมาส ! ปีหน้ามีเดือน ๘ สองหน จากคุณ : ภูริ เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 52 11:05:19 A:218.30.117.20 X: TicketID:215661

ความคิดเห็นที่ 2   หลักที่ต้องมีปีอธิกมาส "ต้นเหตุหลัก" เกิดจาก ปีปกติ ตามธรรมชาติมี 354วันเศษ ในปีหนึ่งๆ ปีพระจันทร์ สั้นกว่า ปีพระอาทิตย์ ที่ยาว 365 วันเศษ อยู่ราว 10 วันเศษ พอผ่านไประยะหนึ่ง จะน้อยกว่าครบได้ 1 เดือน จึงต้องมีการเพิ่มเดือนเรียกว่า อธิกมาส . จาก "ต้นเหตุหลัก" ไปสู่ ผลจากการวางปีอธิกมาส และจากผลปีอธิกมาส ในอดีต ความรู้ดั้งเดิมสูญหายหลังกรุงศรีแตก คนยุคถัดมาพบว่าไปก็มีความสัมพันธ์เชิงสถิติใกล้ชิดกับค่า "ดิถีเถลิงศก" . ถามว่า "ต้นเหตุการเกิดปีอธิกมาส" ไปสู่ความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับค่า "ดิถีเถลิงศก" ได้อย่างไร? (แม้เชิงสถิติไม่เป็นจริง 100%) จากคุณ : ภูริ เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 52 11:18:25 A:218.30.117.20 X: TicketID:215661

ความคิดเห็นที่ 3 งง .. หรือผมไม่เข้าใจ ภาษาไทย จากคุณ : Joeeey เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 52 12:33:08

ความคิดเห็นที่ 4 อ่านแล้ว งงๆ อ่ะครับ - -* จากคุณ : vn, man เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 52 12:43:57

ความคิดเห็นที่ 5   จขกท ไป Ctrl+C มาหรอครับ จากคุณ : น้ำค้างเดือนสิบ เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 52 13:33:05

ความคิดเห็นที่ 6   เวลางงลองใช้ Mind map ดูครับ ข้างบนกึ่งๆ ข้อมูลดิบที่จำเป็นจับมารวมให้ไว้ ซึ่งเป็นแนวทางหลักในการวางปีอธิกมาสในปัจจุบัน เริ่มเมื่อราว 50 ปีมานี้ครับ . แต่เดิมทีมาจากคนสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น ไปสังเกตพบว่า ปีอธิกมาสในอดีตวางไว้ จะไปสัมพันธ์กับค่าๆหนึ่งคือ ดิถีเถลิงศก ในทางสถิติดีที่สุดแล้ว แต่จนปัจจุบันยังไม่ทราบกันว่า ทำไมถึงเกี่ยวกันได้? จากคุณ : ภูริ เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 52 14:03:01 A:218.30.117.20 X: TicketID:215661

ความคิดเห็นที่ 7 งงด้วย เราใช้ภาษาเดียวกันอยู่หรือเปล่านี่ จากคุณ : หลานแว่น (mint_la) เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 52 14:09:09

ความคิดเห็นที่ 8 555 จะมีใครบ้างที่เข้าใจ จทกท. ว่าถามว่าอะไร จากคุณ : DEXTERZ เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 52 14:18:23

ความคิดเห็นที่ 9   เอิ๊ก เอิ๊ก :> เอาสั้นๆว่า ปีอธิกมาสไปมีความสัมพันธ์กับดิถีเถลิงศกได้อย่างไร? จากคุณ : ภูริ เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 52 14:23:11 A:218.30.117.20 X: TicketID:215661

ความคิดเห็นที่ 10 ว่าจะถาม ว่าคุณภูริเคยเอาสูตรคำนวนจันทรคติไปเทียบกับจันทร์จริงหรือยังครับ จะได้ทราบว่าสูตรไหนมีเออเร่อมากน้อยแค่ไหน อันนี้ moon phase calculator แบบระบุสถานที่ http://www.timeanddate.com/calendar/moonphases.html แบบไม่ระบุ http://www.dacre.net/moon/moonframe.html จากคุณ : =Por= เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 52 15:52:10

ความคิดเห็นที่ 11   ขอบคุณครับคุณ =พอร์= สำหรับลิงก์ ปฏิทินจันทร์ของไทย ทั้งแบบราชการ และแบบปักขคณนา จะใช้ค่า mean moon กำหนด ถ้าเทียบ true moon กับ mean moon เคยเห็นเอกสารมีการเทียบว่าต่างกันแค่ไหน จำเลขไม่ชัดนัก คลับคล้ายว่าจะต่างกันได้ราว บวก/ลบ 60% ของวัน? . ปฏิทินจันทรคติไทยราชการ มีความแปลกอยู่อย่าง คือ ปีอธิกมาส ซึ่งมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดบางอย่าง กับ "ดิถีเถลิงศก" นั่น แสดงได้ตรงไปตรงมา ว่าใช้ ดิถีเฉลี่ย หรือ mean moon แต่พอจะให้ได้เพ็ญตามเวลาบ้านเรา จะมีการวางปีอธิกวาร มาเสริมพิจารณา ด้วย true moon จากนาซ่าบ้างครับ จากคุณ : ภูริ เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 52 16:47:03 A:218.30.117.20 X: TicketID:215661

ความคิดเห็นที่ 12 สำหรับคนที่งง... จขกท.(คุณภูริ)เขาไม่ได้จะถามอะไร ประมาณว่าเขาค้นคว้ามาแล้วก็เอาความรู้มาแชร์เพื่อ discuss กันมากกว่า แต่ลีลาการตั้งกระทู้ จะไม่มีการโหมโรง อยู่ๆมาก็บรรเลงเลย หลายคนเลยตามไม่ทัน อนึ่ง คุณภูริเคยตั้งกระทู้เกี่ยวกับเรื่องปฏิทินมาหลายครั้งแล้ว http://topicstock.pantip.com/wahkor/topicstock/2009/06/X7975725/X7975725.html http://topicstock.pantip.com/wahkor/topicstock/2009/06/X8025582/X8025582.html อะสอง หว้ากอไม่จำเป็นจะต้องเป็นที่สำหรับให้เจ้าหนูจำไมมาตั้งกระทู้อย่างเดียวนะคะ บางครั้งก็มีคนตั้งกระทู้แชร์ข้อมูลหรือ discuss ในแวดวงวิชาการอย่างไม่เป็นทางการอยู่เหมือนกันนะ จากคุณ : Ponyo เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 52 16:59:06

ความคิดเห็นที่ 13   ทีนี้พอได้เป็นปีอะไรแล้ว ปฏิทินไทยจะมีเออเรอเพิ่มขึ้นได้อีกภายในปีนั้นๆ อย่างที่เห็นก็คือจาก format ภายในปีนั้นๆ เช่น เดือนอธิกมาส ที่พอดีต้องเติมแล้ว แต่ปฏิทินไทยเสมือนว่ามองเป็นเพิ่มเดือน ๘๘ เท่านั้น หรืออธิกวารก็เช่นกัน ทำให้บางช่วงกว่าจะถึงวันต้องเติมจริงๆยาวนานไปเกือบครึ่งปี วันเพ็ญเลยเหมือนไม่ตรงเพ็ญจริงได้เพิ่มเออเร่ออีก รวมแล้วบวกลบไม่ควรเกิน 1 วัน อันนี้ยังไงก็ต้องเกิดขึ้น เคยลอง generate ให้ พระสงฆ์ทั้งมหาฯกับธรรมยุติฯ ให้สนใจวันออกพรรษาให้ตรงกัน ซึ่งมีความสำคัญทางประเพณี บลาบลาบลา.. ปรากฏว่ายังไงก็ต้องเกิดกรณีไม่ตรงกันขึ้นได้เป็นระยะๆ จากคุณ : ภูริ เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 52 17:06:46 A:218.30.117.20 X: TicketID:215661

ความคิดเห็นที่ 14 ปีอธิกมาสไปมีความสัมพันธ์กับดิถีเถลิงศกได้อย่างไร? ไม่เห็นบอกวิธีหาปีอธิกมาส แล้วจะหาความสัมพันธ์ได้มั๊ยนั่น จากคุณ : กฤตยฎีกา เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 52 17:11:06

ความคิดเห็นที่ 15   ^ ^ ฮึม....ม ฮึม ก็ชอบหนังเรื่องโหมโรงอยู่นะคุณ Ponyo .....เกี่ยวกันไม๊เนี่ย ;> จากคุณ : ภูริ เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 52 17:19:12 A:218.30.117.20 X: TicketID:215661

ความคิดเห็นที่ 16   นั่นสิเพราะไม่มีบอกวิธี-คำอธิบายไว้ไงครับ คุณ กฤตยฎีกา มันจึงยังขาดอยู่ จากที่คนสมัยต้นรัตนโกสินทร์พบจาก สถิติปีอธิกมาสเก่าๆเขาพบว่าดูเอาจาก "ดิถี" พอได้ . วิธีคำนวณก็ย้อนไปที่ คห๑ พอได้เท่าไหร่ก็เทียบจาก เงื่อนไขใน เนื้อหากระทู้ จากคุณ : ภูริ เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 52 17:27:00 A:218.30.117.20 X: TicketID:215661

ความคิดเห็นที่ 17   นอกเรื่องนิดหน่อย พึ่งทราบว่าวันนี้พอดีมีงานครบ 200 ปี สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์ สมเด็จพระสังฆราชพระองค์ที่ ๘ พระองค์ท่านเป็นผู้ร่วมทำปฏิทินปักขคณนาแต่ละปี สมัยที่ ร.๔ ทรงผนวชอยู่ และเป็นอีกท่านนึงที่เชี่ยวชาญปฏิทินไทย . http://www.pantip.com/cafe/library/topic/K8319850/K8319850.html จากคุณ : ภูริ เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 52 18:26:38 A:218.30.117.20 X: TicketID:215661

ความคิดเห็นที่ 18 ปีอธิกมาสคืออะไร ไม่เข้าใจ ดิถีเถลิงศกคืออะไร และเอาไว้ทำอะไร "ปีใด หากดิถีในวันเปลี่ยนศักราช (จศ.)" << ไม่เข้าใจ ดิถีคือ?  จศ. แล้วใช้กับ พศ. ได้มั้ย ลองสมมุติ ยกตัวอย่างให้ดูหน่อยค่ะ จากคุณ : หลานแว่น (mint_la) เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 52 18:30:48

ความคิดเห็นที่ 19   เอ้อ...งงแล้วถามค่อยรู้เรื่องหน่อย ว่างงตรงไหน . คือ เดือนพระจันทร์นะ ข้างขึ้นข้างแรม ใช้เวลาที่ 29.5 วันเศษ (เศษเท่าไหร่เดี๋ยวค่อยว่ากัน) ให้จินตนาการว่าย้อนยุคสมัยไป เมื่อครั้งไม่มีระบบเลขทศนิยม คนยุคก่อนรู้จักอย่างมากก็เป็นเลขจำนวนเต็ม กัยเลขเศษส่วน แทนที่ 29.5 วันเศษๆ ไม่ค่อยสวยนัก เปลี่ยนใหม่เป็น 30 ส่วนเท่าๆกันก็แล้วกัน แต่ละส่วนนี้เรียกว่า "ดิถี" . ทีนี้เป็นความยุ่งยากอีก เพราะ ดิถี มันจะสั้นกว่า ๑ วัน จึงแบ่ง ดิถี ให้ย่อยลงอีก เป็น 692 ส่วนเท่าๆกัน ส่วน วัน ก็แบ่งย่อยด้วยสัดส่วนเดียวกันนี้ ได้ 703 ส่วนเท่าๆกัน ส่วนย่อยนี้ตั้งชื่อว่า "อวมาน" . ดังนั้น 1 ดิถี = 692 อวมาน 1 วัน = 703 อวมาน = 1 ดิถี 11 อวมาน ดังนั้น จับหารกันจะได้อีกว่า 1 ดิถี = 692/703 วัน แต่ เดือนหนึ่งๆมี 30 ดิถี จึงได้ 1 เดือน = 30 ดิถี =30*692/703 วัน (ลองคูณเอาเองครับว่า 29.5 วันเศษๆ เป็นเท่าไหร่) จากคุณ : ภูริ เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 52 19:52:30 A:218.30.117.20 X: TicketID:215661

ความคิดเห็นที่ 20   ทีนี้ให้นึกถึง ปี เมื่อไกลโพ้นยาวๆ ไม่ชอบใจ "ตัวแปรนับปี" ที่ชื่อว่า จ.ศ. ก็ขอใช้ตัวแปรนับปีว่า Y ก็แล้วกัน โดยแต่ละปีจะมีระยะเวลา y วันต่อปี ซึ่งในที่นี้ y=292207/800 วันต่อปี . ลองคูณเล่นๆดูก่อน y * Y ก็จะคือ จำนวนวันทั้งสิ้นที่นับจากเริ่มต้นปีแรกสุด ให้แทนด้วย "ตัวแปรนับวัน" ด้วย D ซึ่งคำโบราณเรียกว่า หรคุณ . แต่ช้าก่อน ปีแรกสุด ตามตำราโบราณไม่ได้เริ่มที่เที่ยงคืน ไปเริ่มที่ 373/800 ของวัน ดังนั้นสมการจึงได้เป็น D = y*Y+373/800 D = (292207*Y+373)/800 . ถ้าแทน Y ซึ่งก็คือ จศ. ด้วยจนเต็มที่ต้องการ เราก็จะทราบ D ซึ่งก็คือ หรคุณ ที่เป็นเวลารอยต่อข้ามปีได้ แต่ค.หลานแว่น ดูสมการก็จะมองออกว่า D ที่ได้ที่เป็นรอยต่อปี คงไม่จำเป็นต้องเป็นต้องลงพอดีจนเต็มวัน ไม่ลงเต็มวันก็ไม่เป็นไร ปัดเศษทิ้ง ค่าที่ได้ก็จะเป็นวันของปีเก่า และเมื่อบวกอีก 1 ก็จะเป็นวันของปีใหม่ วันขึ้นปีใหม่ จะเรียกว่า วันเถลิงศก หรคุณ ณ วันขึ้นปีใหม่จึงเรียกว่า หรคุณเถลิงศก จึงมีสมการดังนี้ ---------- Dเถลิงศก = ปัดลง[y * Y + 373/800] +1 ---------- ตัวอย่างครับ ปีพ.ศ. 2553 = จ.ศ. 2553-1181=Y1372 แทนค่าใน Dเถลิงศก= ปัดลง[y * Y + 373/800] +1 หรือเรียกว่าได้ หรคุณเถลิงศก 501136 จากคุณ : ภูริ เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 52 20:21:40 A:218.30.117.20 X: TicketID:215661

ความคิดเห็นที่ 21   ทีนี้เราได้ "จน.วันทั้งสิ้น" ณ วันขึ้นปี(จ.ศ.)ใหม่มาแล้ว ซึ่งก็คือ Dเถลิงศก ถ้าเราอยากจะรู้ว่า "ดิถี" เท่าไหร่ ก็แปลงหน่วยด้วยหลักธรรมดาๆนั้นเอง ..... จาก 1 ดิถี = 692/703 วัน ใช้ตัว t แทนค่าคงที่นี้ ดังนั้นเอา D หาร t ก็จะได้ จ.น.ดิถีรวมตลอดสาย ซึ่งเมื่อครบทีละ 30 ดิถี ก็หักทิ้งได้เป็นอีกเดือนขึ้นมา จนเหลือ "ดิถี" ที่น้อยกว่า 30 แต่ช้าก่อน มันมีค่าเริ่มต้น ด้วย สุดท้ายสมการจะเป็น ---------- ดิถี = ปัดลง[(D+650/703)/t] แล้ว modulo 30 โดย t=692/703 ---------- ถ้าใช้ D วันเถลิงศก หรือ หรคุณเถลิงศก ดิถีที่ได้ก็เรียกว่า "ดิถีเถลิงศก" . ตัวอย่าง ปี พ.ศ. 2553 ได้แล้วว่า หรคุณเถลิงศก 501136 แทนค่่าจึงได้ ดิถีเถลิงศก เป็น 2 จากคุณ : ภูริ เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 52 20:44:11 A:218.30.117.20 X: TicketID:215661

ความคิดเห็นที่ 22   เนื่องจากดิถีเถลิงศกปี 2553 ได้ 2 ตามข้อสังเกตคนสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น พบว่า ตามสถิติจะเป็นปีอธิกมาสเสมอๆ โดยไม่รู้ว่าทำไม แต่ก็ให้กำหนดวางปีหน้าเป็นปีอธิกมาส มีเดือน ๘ สองหน จากคุณ : ภูริ เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 52 20:53:18 A:218.30.117.20 X: TicketID:215661

ความคิดเห็นที่ 23   ขโทษทีครับ ว่าแต่errorมันอยู่ตรงไหนมั่งแล้วใช้ยังไงไม่ให้โดน error อ่านแล้วงง ไม่ค่อยรู้เรื่องแค่อยากถามอ่ะครับ ขอบคุณครับ ปกติใช้แต่ ขึ้นกี่ค่ำ แรมกี่ค่ำ เดือนอะไร ใช้แค่นี้อ่ะครับ จากคุณ : เดธซิทีนี้ เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 52 21:08:22

ความคิดเห็นที่ 24   แทรกนิดหน่อยครับ ถึงประโยคที่คุ้นหูกัน? "ในวาระดิถีขึ้นปีใหม่" ตามความหมายที่ ตรงไปตรงมาก็คือ "ในคราว ดิถีเถลิงศก" นี้ โดยคนสมัยก่อน พ.ศ. 2432 จะนับปีด้วย จ.ศ. ครับ วิธีคำนวนเลยยังควรพ่วงด้วยจศ.ไปก่อน ---------- เหลืออีกคำถามที่ยังไม่ได้ตอบ คือ ปีอธิกมาส คืออะไร ค.หลานแว่น ลองอ่านคร่าวๆในคห.๒ดูก่อนครับ จากคุณ : ภูริ เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 52 21:18:11 A:218.30.117.20 X: TicketID:215661

ความคิดเห็นที่ 25   ตอบ คห๒๓ คุณเดธซิทีนี่ ---------- ช่วงเวลาสมัยอยุธยา ตามหลักฐานที่พบในพงศาวดารและหลักศิลาจารึก ตัวอย่าง ปีอธิกมาส แต่ไม่สอดคล้องกับการใช้จุดสังเกต เทียบจากดิถีเถลิงศก เช่น พ.ศ.2235 ,2254 เป็นต้น คนสมัยอยุธยาวางจริงให้เป็นปีอธิกมาส แต่ถ้าเป็นเดี๋ยวนี้บอกว่าไม่ได้ ต้องให้วางปีถัดไปลูกเดียว จากคุณ : ภูริ เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 52 21:30:16 A:218.30.117.20 X: TicketID:215661

ความคิดเห็นที่ 26 ก่อนอื่น ค.หลานแว่นคืออะไร จะหาว่าเราเป็นควายใช่มะ >< จากคุณ : หลานแว่น (mint_la) เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 52 22:44:57

ความคิดเห็นที่ 27 ผมว่าถ้าเป็นห้องหมอดู จะรู้เรื่องนี้มากกว่านักคณิตศาสตร์นะครับ จากคุณ : พิซซ่าหน้าปลาเค็ม เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 52 22:45:24

ความคิดเห็นที่ 28 ทำไมเราอ่านไม่เข้าใจหว่า หรือว่าเดียวนี่้ภาษาไทยที่ทางการใช้เขาเปลี่ยนแบบใหม่แล้ว มิน่าคราวที่แล้วคุยกับน้องๆที่บ้านแล้วไม่ค่อยเข้าใจ เพราะแบบนี่นี้เอง เดียวนี้เขาไม่ใช้ภาษาแบบหนังสือมานีมานะแล้วสินะ อืมๆ ปล.ล้อเล่นนะครับ แต่พออ่านดูแล้วไม่ค่อยเข้าใจเท่าไร รู้สึกเหมือนอ่านโจทย์แคลคูลัส 3 ที่ประยุกษ์โจทย์ไปแล้วบวกกับโจทย์นั้นเขียนภาษาวิชาการเกินไปต้องมานั่งตีความก่อน พออ่านแล้วจึงไม่เข้า่ใจว่าโจทย์ต้องการให้หาอะไร และไม่เข้าใจว่าโจทย์ให้ข้อมูลอะไรมา ต้องรอผู้รู้หรืออาจารย์มาอธิบายให้ฟัง แล้วพอถึงตอนนั้นถึงจะร้อง"อ๋อ อย่างงี้นี่เอง" จากคุณ : Ken Akamatsu เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 52 23:17:41

ความคิดเห็นที่ 29 เข้ามาตอนแรกงงมากกับภาษาที่ใช้ แต่ได้ลิงค์ใน คห 12 ของคุณ Ponyo จึงพอเข้าใจมากขึ้นบ้าง ขอลงชื่อไว้ก่อน แล้วจะกลับมาคิดตาม จากคุณ : nonlocality เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 52 23:43:11

ความคิดเห็นที่ 30   วันนี้อ่านกระทู้นี้มาหลายรอบแล้วก็ยังมึนๆ ... กับคำใหม่ๆ - -"" ว่าแต่อยากทราบครับ (ไม่รู้จริงๆ) ว่าปฏิทินนี้ เอาไปทำอะไรหรือสามารถเทียบเคียงกับปรากฏการณ์อะไรได้บ้างครับ จากคุณ : ฟหกด เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 52 23:56:20 A:124.120.223.175 X: TicketID:205742

ความคิดเห็นที่ 31   > คห ๒๖ อ่ะ เปลี่ยนๆ ใส่ผิด ไม่เอา "ค." Random ใหม่ ได้ "ย." แทน .........ดีไม้ได้เป็น ย. เช่น ย.หลานแว้น (สะระแหน่) อุอุ :> ---------- >คห ๒๘ ไม่ต้องแปลกใจ หนังสือ เอกสารที่มีเกี่ยวกับเรื่องนี้ ว่า ปีอธิกมาสมีหลักวางอย่างไร มี แต่ keyword หลักๆ แค่ ๒ คำ คือ อธิกมาส กับ ดิถีเถลิงศก (ไม่รวมอีกแนวที่ใช้หลัก อธิกมาส๗ครั้งใน๑๙ปี) ดิถีเถลิงศก คืออะไรก็ไม่บอก . สืบๆไป ถึงค่อยรู้ว่า คำนวณจาก ตำราสุริยยาตร ขนาดตำราสุริยยาตร์ ที่รวมเป็นฉบับสมบูรณ์ ครั้งแรกของไทย เมื่อราว ๗๐ ปีก่อน ก็ยังคำนวณไปตามขั้นตอนเท่านั้น ตำรานีในปัจจุบัน้เป็นเสาหลักเล่มนึง ที่แวดวงโหรใช้ออกปฏิทินโหรรายปีด้วย ผู้รวบรวม แสดงตัวอย่างคำนวณ และได้บอกว่าไม่รู้เหตุผลขั้นตอนว่าทำไปทำไม ถามอาจารย์อีกรุ่นก่อน ก็ตอบว่าไม่รู้!! เลยต้องค่อยๆปะต่อปะต่อเอา กว่าจะเข้าใจว่าดิถีเถลิงศกคืออะไร เอกสารบ้านเรามีน้อยจริงๆครับ ---------- >คห.๒๙ คุณ nonlocality ศัพท์โบราณ vs สัญลักษณ์น้อ เล่นมึนเหมือนกันครับเจอตอนแรก ต้องเปลี่ยนเป็น สัญลักษณ์ดูง่ายดี ;> ---------- >คห. ๓๐ กว่าจะคำนวณได้ "ดิถีเถลิงศก" ต้องเจอศัพท์เก่าๆเยอะเลย มันเป็นวิธีคำนวณตาม สุริยยาตร สุริยยาตร นี้ใช้ทั่วไปในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตามจารึกต่างๆบอกวันเวลาก็ต้องใช้ แม้ทางโหรผูกดวงก็ต้องใช้ การกำหนดปฏิทินจันทรคติก็ใช้ หาดูประกาศสงกรานต์ทุกๆปีสิ เดี๋ยวจะเห็นคำข้างบนได้ประปราย ตัวสูตรก็อยู่ตามข้อความข้างบนนั่นเลย สรุปว่า มีใช้เยอะแยะไปหมด เพียงแต่คุณ ฟหกด อาจจะเคยผ่านๆตาโดยไม่ทราบมาก่อน จากคุณ : ภูริ เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 52 09:46:23 A:218.30.110.187 X: TicketID:215661

ความคิดเห็นที่ 32 จากคุณ : หลานแว่น (mint_la) เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 52 11:28:31

ความคิดเห็นที่ 33   จาก คห.1 และ 21 ดิถีเถลิงศก 2 จากสูตรที่คุณภูริ คำนวณได้ ดิถีเถลิงศก เป็น ขึ้น 2 ค่ำ ผมไปดูเทียบกับ http://www.myhora.com/calendar.aspx?m=4&y=2553 และที่อื่น ๆ นั้น 16 เมษายน 53 จะเป็นข้างขึ้น 3 ค่ำ ไม่ทราบว่า ผิดพลาดอะไรไปบ้างหรือเปล่า แล้วผมไม่ได้ตรวจทานตัวเลขของคุณด้วย คห.30 การคำนวณปฏิทินไทย ทำให้รู้ข้างขึ้นข้างแรมสำหรับชาวบ้าน ๆ อย่างเรา ในระยะหลัง ๆ ปฏิทินที่แจกกันในช่วงปีใหม่ มักจะไม่มีข้างขึ้นข้างแรมแล้ว ถ้าคำนวณเป็นก็ไม่ต้องง้อปฏิทินพวกนั้นเลย จากคุณ : cman เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 52 22:00:31 A:118.173.96.89 X:

ความคิดเห็นที่ 34   ขอบคุณครับ คุณ cman ที่ทักท้วง สันนิษฐานเบื้องต้น เรื่อง "ดิถี" กับ "ค่ำ" เดี๋ยวมีเวลาจะเรียบเรียง ความแตกต่างระหว่าง "ดิถี" ในสุริยยาตร และ "ค่ำ" ในปฏิทินไทย ให้ครับ . ส่วนการแปลงค่าจาก "ดิถี" (สุริยยาตร) ----> "ค่ำ"(ปฏิทินจันทรคติ) อาจจะผ่านทางค่าคงที่ประจำปี "สังวัตสร" ก็ได้ บลา บลา บลา ..... ;> จากคุณ : ภูริ เขียนเมื่อ : 16 ก.ย. 52 09:36:28 A:218.30.110.178 X: TicketID:215661

ความคิดเห็นที่ 35   เช็ดดู เป็นไปตามนั้นครับ "ดิถี" ในสุริยยาตร์ จะนับไปทีละ (692/703) วัน ครบ 30 ดิถี นับขึ้นเดือนใหม่ ในขณะที่ปฏิทินไทยภายหลังแต่ละปีได้ format แล้วตะบังคับไปตาม format ของปีนั้นๆ เช่น ปกติจะนับไปทีละ "ค่ำ" ซึ่งคือ ทีละ 1 วัน ค่ำเลยยาวกว่าดิถีครับ เพียงแต่ปฏิทินไทยให้เดือนคี่นับเพียง 29 ค่ำ เดือนคู่นับถึง 30 ค่ำ . ดังนั้นเป็นเรื่องที่ "ค่ำ" กับ "ดิถี" อาจเกิดความแตกต่างกันได้แต่ไม่ควรเกิน บวกลบ 1 วัน การที่เราจะปรับ "ดิถี" ไปเป็น "ค่ำ" ต้องพึ่งเครื่องมืออีกตัว ด้วยความโชคดี ที่ภายหลังปฏิทินไทย ถูกกำหนด format แล้ว จะเกิดค่าคงที่ประจำปีขึ้นมา เรียกว่า "สังวัตสร" เราใช้ค่า สังวัตสรนี้ มาปรับ "ดิถี" จากสุริยยาตร์ ให้ได้เป็น "ค่ำ" ใน format ปฏิทินไทยครับ จากคุณ : ภูริ เขียนเมื่อ : 16 ก.ย. 52 11:55:15 A:218.30.110.172 X: TicketID:215661

ความคิดเห็นที่ 36 ยังตามไม่ทัน T-T ขอเซพไว้ก่อน นี่ถ้าคิดได้เราควรไปแจ้งที่ไหนได้คะ จากคุณ : หลานแว่น (mint_la) เขียนเมื่อ : 16 ก.ย. 52 17:37:07

ความคิดเห็นที่ 37   แจ้งเวปนี้ก็ได้ ตั้งกระทู้ใหม่ก็ได้ ถ้าไม่ติดเดินทางไกลๆไปในที่ไม่มีสัญญาณ คงเห็นกระทู้อยู่ จากคุณ : ภูริ เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 52 10:54:04 A:218.30.110.181 X: TicketID:215661