ความคิดเห็นที่ 1 มนุษย์ทุกคนที่ไม่อยู่ภายใต้สภาพปัจจัยที่บังคับอย่างชัดเจน เช่น พิการทางปัญญา เยาวว์วัย จนเกินไป ย่อมสามารถพิจารณาธรรมได้ชัดเจนบ้างแล้ว และสามารถหยุดละมูลเหตุทางจิตที่ยังผลมาสู่พฤติกรรมทางจิตเช่นอาการชอบชังเช่นนั้น ยึดมั่นทางเพศเช่นนี้ ฯลฯ ได้  ยากง่ายตามเหตุปัจจัย เหตุคืออวิชชาอันเป็นที่มาของมูลอาการทางจิตใจของทุกชีวิตนั้นๆ  ปัจจัยคือผลปัจจัยแวดล้อมใดๆที่เอื้ออำนวยในชีวิตซึ่งแต่ละชีวิตย่อมมีผลปัจจัยที่แตกต่างกันไป เช่น ร่างกาย ฮอร์โมน พันธุกรรม สิ่งแวดล้อม สมองร่างกาย ฯลฯ สาเหตุการเบี่ยงเบนทางเพศ จึงเป็นเพราะมูลเหตุอาการทางจิตดังที่กล่าว  ส่วนผลปัจจัยที่เกี่ยวข้องใดๆนั้นเอื้อเป็นปัจจัยสู่การเกิดพฤติกรรมเบี่ยงเบนได้ แต่มิใช่เหตุที่ยังผลสู่พฤติกรรมเบี่ยงเบนโดยตรง  หากแก้ไขที่เหตุได้ย่อมหยุดพฤติกรรมเบี่ยงเบนทางเพศได้ หรือสามารถหยุดพฤติกรรมใดๆเนื่องจากจิตได้เลยทีเดียว แม้ผู้นั้นไม่ได้เบี่ยงเบนทางเพศแต่ก็ย่อมมีพฤติกรรมหลงเก๊กเป็น man เป็น woman ใดๆอยู่   และชาวหว้ากอทุกคนจะต้องกลายเป็นสมณเพศผู้ละเหตุของพฤติกรรม เป็นไปตามครรลองของพระพุทธองค์อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ !!!! ... Oh .. No ! ส่วนการพยายามแก้ไขที่ผลปัจจัยต่างๆนับเป็นเรื่องปลายเหตุซึ่งอาจประคับประคองภาพลักษณ์ทางเพศไปได้เฉพาะกาล แต่มิอาจแก้ไขได้อย่างแท้จริงเหมือนเช่นการแก้ไขที่เหตุ จากคุณ : ผู้ศึกษา เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 52 00:25:57

ความคิดเห็นที่ 2 เคยได้ยินคำตอบจากกระเทย เขาบอกว่า เรื่องแบบนี้มัน born to be แต่ลึกๆในใจ เราไม่รู้ แต่เท่าที่เคยเห็นแบบที่เป็นปัญหาก็คือเห็นพ่อเป็นตัวอย่างที่ไม่ดี หรือไม่บางคนก็เกลียดความหยาบคาย ก้าวร้าว แบบเพศชาย อืม ... ถ้าเลือกเกิดได้ก็ดีสิ จากคุณ : ในบัดดล เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 52 00:26:51

ความคิดเห็นที่ 3 การอบรมเลี้ยงดูน่าจะมีส่วนด้วยนะครับ เดี๋ยวนี้มีทั้ง ทั้ง เกย์ กะเทย ไบ ทอม เลส  วู๊..เยอะ จากคุณ : สุดโหดโคตรโรแมนติค เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 52 00:45:24

ความคิดเห็นที่ 4 ส่วนตัวคิดว่าสภาพแวดล้อมเป็นส่วนนึง  แต่คิดว่าหลักๆแล้วเพราะสารเคมีในสมองและฮอร์โมนมากกว่าค่ะ จากคุณ : ...ที่สุดในโลก... เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 52 00:52:20

ความคิดเห็นที่ 5 รสนิยมทางเพศ+สิ่งแวดล้อมครับ จากคุณ : pipek (yukraider) เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 52 01:06:19

ความคิดเห็นที่ 6 มันเกิดจากหลายๆปัจจัย มากน้อยไปแต่ละคน แต่หากเป็นจากพันธุกรรมเป็นหลัก คงยากที่จะแก้ไข ต้องรอให้gene therapyสามารถมาใช้จริงสำเร็จก่อน แล้วต้องมาทำจิตบำบัดต่อ จากคุณ : Megrim เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 52 01:08:19

ความคิดเห็นที่ 7 งานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ส่วนใหญ่ได้ผลออกมาสนับสนุนข้อ 2 ครับ และเป็นสาเหตุหลักของอาการเบี่ยงเบนทางเพศที่ยอมรับกันในขณะนี้ งานวิจัยที่บอกว่าเป็นเพราะพันธุกรรมนั้น ชิ้นที่มีชื่อเสียงที่สุดคืองานวิจัยเรื่อง Gay Gene ที่ออกมาในปี 2005 ที่ได้ผลการวิจัยออกมาว่า ในหมู่คู่แฝดแท้นั้น หากมีใครคนหนึ่งมีอาการเบี่ยงเบนทางเพศ อีกคนหนึ่งจะมีโอกาสเป็นด้วยสูงถึง 70% งานวิจัยชิ้นนี้ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางในหมู่ผู้มีอาการเบี่ยงเบนทางเพศ แต่กลับถูก"สับเละ" ในหมู่นักวิทยาศาสตร์ เพราะคนทำวิจัยมี Bias มาตั้งแต่แรก กลุ่มตัวอย่างในงานวิจัยไม่ได้มาจากการสุ่ม แต่มาจากการ"คัดเลือก"และ"อาสาสมัคร" ซึ่งคู่แฝดที่มีการเบี่ยงเบนทางเพศทั้งคู่ ให้ความสนใจเข้ารับการทดลองมากเป็นพิเศษ ส่วนข้อสามนั้นผมไม่มีข้อมูลมากเท่าไหร่ เลยยังสรุปไม่ได้ แต่เท่าที่อ่านผ่านๆตามาบ้าง นักวิทยาศาสตร์บางกลุ่ม"เชื่อว่า"มีผล แต่ไม่ใช่ทั้งหมด คือมีส่วนเกี่ยวข้องบ้าง แต่ยังไม่ฟันธงว่าเป็นสาเหตุหลักครับ จริงๆแล้วเรื่องพวกนี้มันการเมืองทั้งนั้นครับ คือสังคมโลกในปัจจุบันยังไม่เปิดกว้าง ยอมรับเรื่องพวกนี้เท่าที่ควร สมัยเมื่อ 30-40 ปีก่อนบางประเทศในยุโรป ใครมีอาการเบี่ยงเบนทางเพศนี่ถือว่าผิดกฎหมาย ในไบเบิลยังมีบอกเลยว่า รักร่วมเพศเป็นพฤติกรรมของปีศาจ(ไม่รู้ตอนนี้แก้หรือยัง) ประเทศมุสลิมที่เคร่งๆนี่รับเรื่องนี้ไม่ได้เลย กลุ่มผู้มีอาการเบี่ยงเบนทางเพศเลยต้องการการยอมรับจากสังคมมากขึ้น พยายามจะบอกว่าที่ตนเป็นมัน Born to Be มันแก้ไขไม่ได้ จุดนี้จะเอามาตราฐานของเมืองไทยมาเทียบยังไม่ได้ เพราะบ้านเราค่อนข้างเปิดกว้างเรื่องพวกนี้ ไม่กีดกันมากเหมือนเมืองนอก ซึ่งเป็นเรื่องที่ดี เพราะคุณจะมีรสนิยมในเรื่องนี้ยังไง มันไม่ได้เป็นตัววัดคุณค่าของคนคนนั้นซะหน่อย แก้ไขเมื่อ 19 ก.ย. 52 05:50:25 จากคุณ : เกียงอุยศิษย์มังกรหลับ เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 52 05:34:36

ความคิดเห็นที่ 8   ส่วนนึง เป็นความผิดปรกติจากจิตใจที่เกิดจากสภาพแวดล้อม อีกส่วนเป็นตั้งแต่เกิด คือเกิดมามีจิตใจพิการ เบี่ยงเบนไม่เหมือนคนปกติ รักษาไม่ได้ เพราะพวกเบี่ยงเบน จิตใจมันพิการถาวรไปแล้ว เหมือนโรคเรื้อนเป็นแล้วต้องพิการตลอดชีวิต จากคุณ : Hun Sen FC เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 52 09:50:38 A:110.164.122.13 X: TicketID:233327

ความคิดเห็นที่ 9   คิดว่ามันเป็นเรื่องธรรมชาติ ไม่มีผู้ชายแท้ 100 % และ ไม่มีผู้หญิงแท้ 100 % จากคุณ : เราเอง... เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 52 11:17:00 A:114.128.216.189 X: TicketID:203755

ความคิดเห็นที่ 10 ^ ^ ^ ยังไงครับ งง ผู้ชายแท้ 55 % นี้ถือว่าเป็นผู้ชาย ไหมครับ ผู้ชายแท้  ผู้หญิงแท้ 100%  ผมเห็นและ รู้จักก็เยอะนะครับ จากคุณ : mr.wisdom เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 52 11:58:27

ความคิดเห็นที่ 11   ไม่มีตัวเลือกว่า "เป็นปรกติ" เลยหรือ แย่จัง เดี๋ยวต้องขอตัวไปถาม Magneto ดูก่อนว่าผิดปรกติตรงไหน จากคุณ : ฟิ้ววววว.... (เดธซิทีนี้) เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 52 13:22:49

ความคิดเห็นที่ 12 คห. 7  ไบเบิลคงแก้ไม่ได้น่ะครับ แต่ที่จำได้แน่ๆว่าบอกว่าบาปก็ http://en.wikipedia.org/wiki/Book_of_Leviticus เวอร์ชั่นนี้ครับ ชัวร์   แต่เวอร์ชั่นนี้เคี่ยวครับ ไม่ทำงานทำการก็เป็นบาป ช่วยตัวเอง (เวรกรรมแค่คำว่าชัก kite ก็พิมพ์ไม่ได้) ก็เป็นบาป ..... ผมว่าปกติ หรือไม่ปกติ นี่แล้วแต่คนจะคิดจริงๆ นอกเรื่องนิด อย่าเอาไปเทียบกับสัตว์เลยนะครับ เห็นมาหลายกระทู้แล้วที่บอกว่าธรรมชาติเป็นแบบเนี้ย  คือว่าตกต่ำถึงขนาดต้องเทียบตัวเองกับสัตว์เลยเพื่อยืนยันความปกติเหรอครับ.... แก้ไขเมื่อ 19 ก.ย. 52 15:38:54 จากคุณ : Munch เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 52 15:35:42

ความคิดเห็นที่ 13 ทำไม เราไม่ระบุว่า มนุษย์มี 4 เพศ 1. ชาย 2. หญิง 3. Gay 4. Lesbian จากคุณ : UnlimitedDreams เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 52 16:05:06

ความคิดเห็นที่ 14 เป็นไปได้ครับที่ฝาแฝดแท้ คนนึงเป็นอีกคนนึงไม่เป็น ผมยืนยัน จากคุณ : the chubby knight เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 52 17:01:21

ความคิดเห็นที่ 15 สภาพแวดล้อม โคโมโซม รสนิยม จากคุณ : ฮักเมาน้องหล้า เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 52 18:46:08

ความคิดเห็นที่ 16 สภาพแวดล้อม เยอะสุดล่ะค่ะ จากคุณ : St.Kyo เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 52 20:50:16

ความคิดเห็นที่ 17 ไม่ทราบทฤษฎีของฟรอยด์เค้ายังยอมรับกันอยู่้ป่าวนะ ที่ว่าเด็กจะเลียนแบบพ่อ บางคนพ่อไม่ได้เรื่อง เลยคิดว่าเพศชายมันไม่ได้เรื่อง ตูเป็นหญิงดีฝ่า ส่วนผู้หญิงก็อาจจะเห็นว่าผู้ชายไม่ได้เรื่อง ตูกิ๊กกะหญิงด้วยกันดีก่า อุ่นใจกว่า (เรื่องพ่อห่วยแล้วลูกเบี่ยงเบนนี่เจอมากะตัวคือเพื่อนตอนป.ตรีเลยครับ ไม่ขอเล่ารายละเอียดละนะ) แต่เดี๋ยวนี้อาจเกี่ยวกับสภาพแวดล้อมด้วยมั้งครับ พฤติกรรมเลียนแบบไรงั้นน่ะ จิตคนมันซับซ้อนนี่นะ จากคุณ : อัศวินม้าเขียว เขียนเมื่อ : 20 ก.ย. 52 02:05:03

ความคิดเห็นที่ 18 เป็นเพราะพันธุกรรมที่ผิดปรกติใน โครโมโซม แต่ผมคิดว่าเป็นเรื่องปกตินะครับ จากคุณ : the last wizard of the century เขียนเมื่อ : 20 ก.ย. 52 02:28:41

ความคิดเห็นที่ 19 ผมจะพูดเรื่องจริงให้ฟัง ถ้าคุณเป็นกะเทย(กรณีฮอร์โมนหรืออะไรก็แล้วแต่) คุณอยู่ของคุณไปเรื่อยๆ จะไม่มีกะเทยเพิ่ม แต่ถ้าไปจึ๊กกะดึ๊ยเด็กชายที่คุณชอบ ก็จะมีเพิ่ม1คน คนไปทำ10ครั้งก็จะมีเพิ่มเท่าไหร่คิดเอาเอง ทุกวันนี้จึงมีคนพยายามหาเด็กเข้ามาเพิ่มเพื่อสนองneedตนเอง ไม่ว่าจะทำเป็นละคร หรือเกมโชว์ หรือสื่ออื่นๆ เพราะที่จริงแล้วมันคือรสนิยมอย่างนึงแต่มีคนทำให้แพร่หลาย โดยไม่คำนึงถึงผลเสียที่ตามมา ว่าเด็กคนนั้นชอบจริงหรือใช้เหยื่อล่อเข้ามา จากคุณ : ลุงน้อยลำปาง เขียนเมื่อ : 20 ก.ย. 52 13:16:22

ความคิดเห็นที่ 20 มันก็เหมือนกับถามว่า ทำไมนาย A ชอบทานกระยาสารท แต่ไม่ชอบข้าวเหนียวมะม่วง แต่นาย B ชอบข้าวเหนียวมะม่วง แต่ไม่ชอบทานกระยาสารท หน่ะครับ เป็นเรื่องของความชอบ และความคิดจากมโนคติล้วนๆ จากคุณ : digimontamer เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 52 15:53:22

ความคิดเห็นที่ 21 เราขอออกความเห็น ในฐานะเป็นสาวข้ามเพศ (กะเทย) คนนึงนะคะ จริงๆ แล้ว สาเหตุการเกิดมีหลายปัจจัยร่วมกัน แต่ที่สำคัญหลักๆ ไม่ใช่จากสื่อ หรือ สภาพแวดล้อม แต่เพียงอย่างเดียว เพราะ น้องชายตัวเองได้รับการอบรมทุกอย่างเหมือนกัน เล่นกันมา สังคมที่อยู่เหมือนกัน "แต่" น้องเป็นชายแท้ทุกประการค่ะ สิ่งที่อยากบอกคือ เกิดจากพันธุกรรม ในยีนส์ เข้าข่ายที่สุดค่ะ ยืนยันด้วยตนเอง เพราะไม่ได้เลียนแบบจากใครเลย จิตใต้สำนึกจะกำหนดเราเองว่า จริงๆ แล้ว เราเกิดมาเป็นเพศไร (ผู้หญิงข้างใน) และไหนคือเพศตรงข้ามของตน (ผู้ชาย) และอีกสิ่งหนึ่งที่อยากเล่าคือ มีฝาแฝดที่เป็นทอมจริงๆ ค่ะ ตอนแรกคิดว่าไม่น่าเป็นไปได้ แต่ปรากฎว่า ทั้งการแต่งตัว ความคิด ความอ่าน และความชอบ คือ ชอบผู้หญิงเหมือนกันทั้งคู่ ขนาดดิฉันเอง ยังอึ้งเลยค่ะ!? ดังนั้น สาเหตุเกิดจากพันธุกรรมแน่ๆ ค่ะ แต่อาจต้องมี สภาพแวดล้อมที่เสริมแรงด้วย เพศที่แท้จริงจึงปรากฎออกมาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้อ่ะค่ะ จากคุณ : PondzChwia เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 52 19:04:29