ความคิดเห็นที่ 1 "เจไดหนุ่ม" ขอเอาภาพ "อาหารสำเร็จรูป" ที่เป็นเสบียงสำหรับนักบินอวกาศของนาซ่ามาให้เพื่อนๆดูกันครับ ป.ล. สังเกตุว่าอาหารส่วนใหญ่จะถูกใส่ไว้ในแพ็คสูญญากาศครับ  เพื่อเป็นการช่วยยืดอายุของอาหารต่างๆไม่ให้เน่าเสียเร็ว  แลเป็นการสะดวกเวลากินครับเนื่องจากในยุคแรกๆนั้นยังไม่มีการนำช้อนขึ้นไปครับ  นักบินจึงต้องดูดกินอาหารเอาจากซองครับ (รูปนี้เป็นอาหารในยุคปัจจุบันครัน) (May the Spoil be with you) ขอสปอยล์จงสถิตย์อยู่กับท่าน แก้ไขเมื่อ 22 ก.ย. 52 12:51:34 จากคุณ : เจไดหนุ่ม เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 52 10:26:31

ความคิดเห็นที่ 2 โดยจากเท่าที่ "เจไดหนุ่ม" เคยทราบมาประวัติของอาหารแลเครื่องดื่มที่มนุษย์อวกาศใช้ดื่มกินกันนอกโลกนั้นจะมีคร่าวๆดังนี้ (ของทางนาซ่านะครับ)     เรื่องของเรื่องก็คือในการส่งมนุษย์อวกาศคนแรกขึ้นไปนอกโลกนั้นเกิดขึ้นโดยสหภาพโซเวียตครับ ("ยูริ กาการิน" กับ "ยานวอสตอร์ก") แลเนื่องจากในตอนนั้นการส่งมนุษย์ขึ้นไปใช้เวลาเพียงแป๊ปเดียวก็เดินทางกลับผิวโลกนักบินจึงไม่จำเป็นต้องพกอาหารติดตัวไปด้วย  แต่ว่าในช่วงต้นยุค1960พวกอเมริกันชนคนเสรีได้สร้าง "โครงการเมอร์คิวรี่" เพื่อส่งมนุษย์ขึ้นไปในอวกาศโดยใช้เวลานานกว่าเดิม  นั่นจึงทำให้ต้องมีการนำอาหารไปให้นักบินบนยานด้วยครับ     ซึ่งอาหารชุดแรกๆนั้นจะนิยมทำให้กลายเป็นของเหลวเหมือนอาหารเด็กครับเพื่อเป็นการง่ายต่อการรับประทาน จัดเก็บ แลช่วยประหยัดน้ำหนักของสัมภาระต่างๆบนยาน  แต่ปัญหามันก็มีครับในเมื่อเกิดเสียงบ่นว่าอาหารพวกนั้นไม่ได้มีรสชาติหรือความอร่อยอะไรเลยจึงทำให้นาซ่าต้องทำการปรับปรุงอาหารต่างๆใหม่อีกครั้ง **รูปอาหารของนักบินอวกาศอเมริกันชนคนเสรีในช่วงโครงการเมอร์คิวรี่ตอนต้นยุค60ครับ  ซึ่งในภาพจะประกอบไปด้วยซุปเห็ด น้ำส้ม โกโก้ น้ำสับปะรด เนื้อไก่บดรวมกับเกรวี่ ลูกแพร์ สตอร์เบอร์รี่ เนื้อวัวบดเละๆกับผัก ซึ่งจะเห็นได้ว่าอาหารหลักๆนั้นจะถูกทำให้เหลวครับจึงไม่ค่อยเป็นที่ชื่นชอบของนักบินอวกาศเท่าไหร่** (May the Spoil be with you) ขอสปอยล์จงสถิตย์อยู่กับท่าน แก้ไขเมื่อ 23 ก.ย. 52 09:36:27 จากคุณ : เจไดหนุ่ม เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 52 10:27:52

ความคิดเห็นที่ 3 มาเปิดโก แล้วก็มาจับ ครับ อิอิ รออ่าน จากคุณ : Ice-man เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 52 10:47:52

ความคิดเห็นที่ 4 อยากกิน m&m จากคุณ : Phantom thief เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 52 10:56:26

ความคิดเห็นที่ 5 ภาพจาก คห.1 น่ากินกว่า คห.2นะ มีอะไรมั่งเนี่ย ซ้าย1-ชาแตงโม&น้ำตาล-------------กลาง1-เหมือนซีเรียล------ขวา1-เค้ก?? ซ้าย2-น้ำแอพพิคอด-----------------กลาง2-บิสกิต--------------ขวา2-ผักกาดดอง?? ซ้าย3-เหมือนซองฮาร์ดดิสก์---------กลาง3-แมคคาเดเมีย?-----ขวา3-M&M จากคุณ : น.ส.แหย๋น แซ่แถ (CandyBee) เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 52 10:57:37

ความคิดเห็นที่ 6 *****      จนกระทั่งช่วง "โครงการเจมินี่" ราวปีค.ศ.1965อาหารของนักบินอวกาศได้ถูกปรับปรุงให้มีรสชาติรูปร่างซึ่งน่าทานมากขึ้น  อีกทั้งยังมีเมนูต่างๆให้นักบินได้เลือกมากกว่าเดิมอาทิ ค็อกเทลกุ้ง เนื้อไก่เป็นชิ้นๆ หรือกระทั่งพุดดิ้งครับ  ซึ่งอาหารต่างๆในช่วงนี้จะต้องผ่านกระบวนการ "ฟรีซ-ดรายน์" นั่นคือพอปรุงเสร็จก็ถูกทำให้เย็นอย่างรวดเร็วแลผ่านกระบวนการรีดน้ำให้แห้ง ทีนี้พอนักบินอวกาศจะกินก็แกะซองออกแล้วเอาปืนฉีดน้ำยิงใส่เข้าไปครับ (ใช่ครับ!ใช้ปืนฉีดน้ำ-_-") โดยอาหารในช่วงนี้แม้จะเริ่มมีสีสันขึ้นแต่สิ่งที่ยังเป็นปัญหาก็คือเรื่องของความร้อนครับ  เพราะอาหารในยุคนี้จะยังไม่มีการใส่น้ำร้อนนักบินจึงต้องกินอาหารเย็นชืดไปพลางๆ      จวบจนกระทั่งมาถึงยุค70ซึ่งเป็นจุดเริ่มของ "โครงการอะพอลโล่ ที่พวกมะริกันได้ทำการส่งมนุษย์ขึ้นไปบนดวงจันทร์  ในยุคนี้เเองสิ่งประดิษฐ์อัจฉริยะที่ชื่อว่า "พลาสติก" ได้ถูกคิดขึ้นแลนำมาใช้กันอย่างแพร่หลายแม้กระทั่งในยานอวกาศครับ ซึ่งช่วงนี้เองที่มีการนำ "น้ำร้อน" กับ "ช้อนพลาสติก" ไปใช้กับอาหารบนยาน  แลยังมีการนำ "เว็ตแพ็ค" ซึ่งทำจากพลาสติกแลอลูมิเนียมฟอยด์ไปใช้เก็บอาหารทำให้อาหารหลายอย่างไม่ต้องผ่านกระบวนการฟรีซดรายน์  จึงสามารถลดขั้นตอนในการเตรียมอาหารลงไปได้มากนอกจากนี้ยังช่วยคงความสดใหม่ของอาหารให้น่ารับประทานยิ่งขึ้นครับ **รูปอาหารของนักบินอวกาศมะริกันในช่วงต้นยุคทศวรรษที่1970ครับ  ซึ่งจะมีการใช้กล่องเก็บอาหารเพื่อบรรจุอาหารต่างๆใปนระเบียบมากขึ้น** (May the Spoil be with you) ขอสปอยล์จงสถิตย์อยู่กับท่าน จากคุณ : เจไดหนุ่ม เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 52 11:01:57

ความคิดเห็นที่ 7 นั่งอ่านต่อ เหมือนไม่ได้เห็นเจไดหนุ่มตั้งนานแหน่ะ  ตั้งแต่เรื่องมีดสปาต้าที่ปล่อยให้อยากแล้วจากไป 55 จากคุณ : Munch เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 52 11:02:35

ความคิดเห็นที่ 8 กดโหวตไว้ก่อนดีกว่า บางอย่างก็น่ากินนะ บางอย่างนี่ก็ ........ -_____-" ปล. รูปปี 1970 นี่มองผ่้านๆ นึกว่าหม้อสุกี้ 555555 จากคุณ : เลดี้ลิลิ เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 52 11:38:02

ความคิดเห็นที่ 9 *****     และเมื่อก้าวเข้าสู่ยุคทศวรรษที่1980ซึ่งกระสวยอวการศลำแรกของโลกได้ทะยานขึ้นสู่ห้วงอวกาศตอนนี้อาหารของนักบินอวกาศก็ได้รับการปรับปรุงแต่งเติมจนดูคล้ายกัยอาหารที่เราๆท่านๆกินกันอยู่ทุกวี่วัน(มีแม้กระทั่งเหล้ารัมปราศจากแอลกอฮอลล์ซึ่งทำจากน้ำอ้อย)  อีกทั้งนักบินอวกาศในยุคนี้ยังสามารถเลือกเมนูอาหารที่จะนำขึ้นไปกินได้ด้วยตัวเอง  และในยานยังมีห้องครัวและเตาอบซึ่งสร้างมาเป็นพิเศษสำหรับการปรุงอาหารอีกด้วยครับ      จวบจนกระทั่งทุกวันนี้เมนูอาหารบนยานอวกาศก็ยังเต็มไปด้วยความหลากหลายซึ่ง5เดือนก่อนจะออกกระทำภารกิจ  นักบินจะถูกส่งตัวไปยัง"Space Food Systems Laboratory" ที่ "Johnson Space Center" ในรัสเท็กซัสเพื่อทำการชิมและให้คะแนนอาหารต่างๆนับสิบเมนู  ซึ่งเมนูที่ได้รับคะแนนมากเป็นอันดับต้นจะถูกจัดขึ้นไปให้นักบินรับประทานบนยานระหว่างกระทำภารกิจบนห้วงอวกาศครับ **รูปนักบินอวกาศของกระสวย STS-105 กำลังเลี้ยงฉลองกันด้วยเครื่องดื่มที่ได้รับแจกครับ** (May the Spoil be with you) ขอสปอยล์จงสถิตย์อยู่กับท่าน จากคุณ : เจไดหนุ่ม เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 52 11:40:31

ความคิดเห็นที่ 10   หงั่มๆๆๆ จากคุณ : Kryta (kryta) เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 52 11:52:19

ความคิดเห็นที่ 11 หย่อยๆๆๆ จากคุณ : l_and_r1948 เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 52 11:52:57

ความคิดเห็นที่ 12 *****     ซึ่งเป็นที่แน่นอนครับว่าก่อนที่อาหารต่างๆจะได้รับการอณุญาตให้นำขึ้นไปบนเครื่องได้นั้นต้องมีการตรวจซ้ำอีกครั้งโดยนักโภชนาการเพื่อคำนวณถึงปริมาณสารอาหารต่างๆที่เหมาะสมกับนักบินบนยาน  เนื่องจากร่างกายของนักบินอวกาศนั้นจะใช้พลังงานและแร่ธาตุต่างๆไม่เหมือนกับมนุษย์บนโลก  จึงจำเป็นต้องมีการคำนวณปริมาณสารอาหารที่ได้รับอย่างแม่นยำครับ      โดยอาหารทั้งหมดนั้นจะถูกใส่เข้าไปในกระสวยล่วงหน้าประมาณ2-3วันก่อนการปล่อย  ซึ่งปรกติแล้วปริมาณของอาหารจะถูกคำนวณจากจำนวนนักบินและความยาวนานของภารกิจ  นอกจากนี้ยังมีอาหารฉุกเฉินซึ่งให้แคลอรี่สูงถึง2000แคลลอรี่/วันสำหรับเวลาเกิดเหตุขัดข้องบนยานหรือกระสวย  ซึ่งโดยมากอาหารฉุกเฉินนี้จะถูกเตรียมเผื่อไว้ประมาณ2-3สัปดาห์ครับ      และเนื่องจากบนกระสวยอวกาศในยุคปัจจุบันนี้ยังไม่มีการใช้ตู้แช่เย็นทำให้อาหารต่างๆต้องถูกเก็บในกรรมวิธีต่างๆกันซึ่งวันนี้ "เจไดหนุ่ม" จะมาแนะนำรูปแบบการเก็บรักษาอาหารอย่างคร่าวๆดังนี้ครับ -กระบวนการฟรีซ-ดรายน์ หรือการทำให้เย็นแล้วขจัดน้ำออกให้หมดซึ่งใช้กันมาหลายสิบปีแล้ว  โดยอาหารอย่างซีเรียล ซุปต่างๆ จะใช้วิธีนี้ครับ -กระบวนการลดความชื้นในอาหาร ซึ่งเป็นการขจัดความชื้นบางส่วนออกจากอาหาร โดยอาหารจำพวกผลไม้ตากแห้งจะใช้วิธีนี้ -กระบวนการผ่านความร้อน คือการใช้ความร้อนสูงเพื่อกำจัดเชื้อแบคทีเรียในอาหาร โดยอาหารจำพวกเนื้อปลาหรือผลไม้บางอย่างจะใช้วิธีนี้ครับ -กระบวนการฉายรังสี วิธีนี้อาหารจะถูกบรรจุในแพ็คฟอลด์แลผ่านการฉายรังสีแกมม่าแลอิเล็คตรอนเพื่อยับยั้งการเติบโตของแบคทีเรียครับ  โดยวิธีการฉายรังสีแบบนี้ได้รับการรับรองจากองค์กรอนามัยโลกแล้วว่ามีความปลอดภัยครับ -อาหารธรรมชาติหรือของสด อาทิเช่นคุ๊กกี้ บิสกิต ผลไม้สด ซึ่งไม่ต้องผ่านกระบวนการใดๆทั้งสิ้นแค่แพ็คใส่ห่อสูญญากาศแล้วนำไปกินได้เลย  แต่ข้อเสียคืออากหารชนิดนี้จะมีอายุการเก็บรักษาที่สั้นกว่าครับ      ส่วนพวกเครื่องปรุงรสอาหารต่างๆอย่างเกลือหรือพริกไทยนั้นจะถูกเก็บเอาไว้ในรูปแบบของเหลวครับ  เพื่อป้องกันการกระจายตัวเวลาอยู่ในสภาพไร้น้ำหนัก  อาทิเช่นเกลือจะถูกผสมในน้ำหรือพริกไทยจะผสมในน้ำมันเป็นต้นนั่นเองครับ **รูปนักบินอวกาศในยุค70กำลังรับประทานอาหารครับ** (May the Spoil be with you) ขอสปอยล์จงสถิตย์อยู่กับท่าน จากคุณ : เจไดหนุ่ม เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 52 12:13:50

ความคิดเห็นที่ 13 สำหรับวันนี้เจไดหนุ่มต้องขอยุติเรื่องราวต่างๆไว้ที่ตรงนี้ก่อนครับ  แต่ถ้าเพื่อนๆท่านใดมีเรื่องราวต่างๆที่เกี่ยวข้องกับอาหารของนักบินอวกาศก็ขอเชิญนำมาลงเพิ่มเติมเพื่อเป็นประโยชน์แก่สมาชิกชาวหว้ากอทุกท่านได้เลยครับ ป.ล. ขอโทษด้วยนะครับเพื่อนๆที่คราวนี้ "เจไดหนุ่ม" มาเร็วไปเร็วนิดนึง  เนื่องจากผมมีข้อมูลเนื้อหาตรงส่วนนี้ค่อนข้างน้อยครับ (May the Spoil be with you) ขอสปอยล์จงสถิตย์อยู่กับท่าน จากคุณ : เจไดหนุ่ม เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 52 12:48:09

ความคิดเห็นที่ 14 ทักทายครับ :) จากคุณ : Epinephrine เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 52 13:26:37

ความคิดเห็นที่ 15 ^^ แสดงว่าท่านเจได(อาจจะไม่หนุ่มละ อิอิ) เริ่มจะสะสางสิ่งต่าง ๆ ได้มากแล้วสิครับ จากคุณ : สายลับ>>>มีด เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 52 14:14:23

ความคิดเห็นที่ 16 ลำบากตั้งแต่ยังไม่ได้เป็นนักบินอวกาศยันได้เป็นแล้ว จากคุณ : Ja Rule เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 52 14:53:08

ความคิดเห็นที่ 17 ลำบากแม้กระทั่งตอนกิน จากคุณ : Hikari rail star เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 52 15:24:11

ความคิดเห็นที่ 18 สมัยเด็กๆที่ไปอเมริกาครั้งแรกๆ ได้ไปเข้าชมพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ ที่จะมีส่วนของพิพิธภัณฑ์อวกาศอยู่ด้วย ในร้านขายของที่ระลึกก็จะมี อาหารของนักบินอวกาศขายเป็นที่ระลึก ซึ่งก็ไม่รู้ว่าเป็นของจริงๆที่นักบินอวกาศกินหรือเปล่า แต่ที่ซื้อมาจะเป็น แอพริคอท กับสตอเบอรี่ ที่จะอบแห้งใส่ซองสูญญากาศไว้ โดยทั้งแอพริคอท และสตอเบอรี่จะถูกอัดเป็นแท่งเหลี่ยมๆ แล้วอบแห้งจนไม่มีน้ำหรือความชื้นอยู่เลย ตอนแกะออกมาจะเบาๆเหมือนแผ่นโฟม แต่พอกัดเข้าปากโดนน้ำลายแล้วจะเป็นเหมือนกินเนื้อสตอเบอรี่จริงๆ เสียดายกินไปหมดเกลี้ยงตั้งหลายสิบปีแล้วเลยไม่เหลือเป็นที่ระลึก จากคุณ : วิคเตอร์ เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 52 15:26:26

ความคิดเห็นที่ 19 เหมือนอึเลยครับ จากคุณ : ReiLove เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 52 15:53:50

ความคิดเห็นที่ 20 ติดกีบไว้ก่อนนะครับ >.< ว่าแต่ทำไมเค้าไม่เอานมกล่องขึ้นไปกินกัน จากคุณ : JohnnieWalker เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 52 16:20:17

ความคิดเห็นที่ 21 กิป หมด แล้ววววววว โหวต แล้กัน จากคุณ : สระนาฬิเกร์ เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 52 17:13:31

ความคิดเห็นที่ 22 หน้าตาไม่น่ากินเลย จากคุณ : นาย Online เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 52 17:22:28

ความคิดเห็นที่ 23 ยูริการาริน เดินทางด้วย ยานชื่อวอสตอร์กนี่ครับ สปุตนิกนี่ชื่อดาวเที่ยมนี่ครับ จากคุณ : vandalism เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 52 17:36:38

ความคิดเห็นที่ 24 อยากทราบว่า นักบินอวกาศ เค้าอุนจิกับเย่กันยังไงคะ สงสัยมานานแล้วว่าถ้าอุนจิเป้นน้ำนี่มันไม่ลอยเต้มไปหมดหรอคะ อยากเห็นห้องน้ำในยานจัง >< จากคุณ : เฮเคียวมาแล้วค่ะ เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 52 18:09:10

ความคิดเห็นที่ 25 ^ ^ ใช่ครับ สปุตนิคนี่ดาวเทียมนี่ครับคุณเจไดหนุ่ม จากคุณ : ทั้งหมดแถวตรง เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 52 18:14:01

ความคิดเห็นที่ 26 ยืนยันตาม #23 ครับ วอสตอค เวลาผมแปลหรือเขียนบทความผมชอบสะกดอย่างนี้ครับ #24 ห้อง "ส้วม" ของนักบินอวกาศจะมีสาย "รัด" กันตัวปลิวลอยไปลอยมาระหว่างขับถ่ายครับ ส่วนพวกของเสีย จะถูกดูดออกไปนอกยานครับ มันเลยไม่ลอยเท้งเต้ง แต่จะลอยออกไปเป็นวิวคู่กับดวงดาวที่สกาวราวกับกากเพชรนับพันบนผืนผ้าสีดำ... อ้า.... โรแมนติคที่ซู้ด >w<,, ปล.ปัสสาวะ จะกลายเป็นผลึกแข็งคล้ายคริสตัลทันทีที่ออกนอกยานครับ เพราะอุณหภูมิในอวกาศนั้นต่ำมาก แก้ไขเมื่อ 22 ก.ย. 52 18:25:47 จากคุณ : nOnG_WinZ เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 52 18:21:24

ความคิดเห็นที่ 27 คุงเจได... ยังไม่ได้มาต่อเรื่องดาบ เลยนี่ฮะ - -* จากคุณ : vn, man เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 52 18:23:31

ความคิดเห็นที่ 28 เพิ่มเติม STS-105 ไม่ใช่ชื่อยานนะครับ STS ตามด้วยตัวเลข นั้นเป็นชื่อประจำเที่ยวภารกิจของกระสวยอวกาศครับ เพราะในเที่ยวหนึ่ง ในแต่ละภารกิจจะมีสัญลักษณ์ของแต่ละภารกิจต่างๆกันไปด้วยครับ ถ้าเป็นภารกิจอื่นๆนอกจาก STS จะมีตัวย่ออื่นร่วมด้วยเช่น HST หมายถึง ภารกิจเกี่ยวกับ Hubble Space Telescope ครับ เช่น STS-125 จะมีชื่อเรียกอีกชื่อว่า HST-SM4 (Hubble Space Telescope Service Mission 4) ปัจจุบันอยู่ที่ STS-128 แล้วครับ แก้ไขเมื่อ 22 ก.ย. 52 18:34:02 จากคุณ : nOnG_WinZ เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 52 18:29:56

ความคิดเห็นที่ 29 เข้ามาทักทายคุณเจไดหนุ่ม หายไปพักใหญ่เลยนะครับ ขอบคุณสำหรับความรู้ดีๆ ครับผม จากคุณ : Steyr Commando เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 52 18:43:27

ความคิดเห็นที่ 30   ถามต่อนะ แล้วใช้น้ำฉีดล้างอุนจิหรือกระดาษชำระครับ จากคุณ : พิราบเขียวแห่งที่ราบสูง เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 52 20:43:55

ความคิดเห็นที่ 31 เป็นมนุษย์ธรรมดาดีกว่าเป็นมนุษย์อวกาศตั้งเยอะเนอะ ไม่มีส้มตำให้กินบนยานอวกาศ โฮะๆ น่าสงสาร จากคุณ : Phagus เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 52 21:03:58

ความคิดเห็นที่ 32 ไม่ได้เจอท่านเจไดซะนาน . . . ผมยังอ่าน เรื่องตำนานดาบไม่จบเลยนะ อิอิ รู้ใหมว่าใครเค้ารออยู่ จากคุณ : รักสาว มธ. (NoahComeBack) เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 52 21:15:21

ความคิดเห็นที่ 33   ถ้าสมมุตินะผมเป็นนักบินอวกาศ ยังไงก็ตามผมขอ ซกเล็กส้มตำ ลาบเป็ดอุดร หลากหลายอาหารอีสานไปด้วยไม่งั้นไม่บินจริงๆนะเอ้า จากคุณ : tunnie555 เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 52 21:27:38

ความคิดเห็นที่ 34 ได้ความรู้อีกแล้ว จากคุณ : น้าวัชร-จัดให้ เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 52 22:37:55

ความคิดเห็นที่ 35   เม็ดสีสีนั้นมันคือ M&M รึเปล่าครับ - -" จากคุณ : Mr.Burning เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 52 23:49:19

ความคิดเห็นที่ 36 ^ ^ ^ อาจจะเป็นสมาร์ทตี้ก็ได้นะ ^^" จากคุณ : ElinTyne เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 52 00:52:27

ความคิดเห็นที่ 37 สวัสดีครับเพื่อนๆทุกท่าน  "เจไดหนุ่ม" ต้องขออภัยในความผิดพลาดของข้อมูลในความคิดเห็นที่2ตรงส่วนนี้ด้วยครับ  เพราะผมอาจจะรีบพิมพ์ไปนิดนึงจึงจำสับสนครับ ***เรื่องของเรื่องก็คือในการส่งมนุษย์อวกาศคนแรกขึ้นไปนอกโลกนั้นเกิดขึ้นโดยสหภาพโซเวียตครับ ("ยูริ กาการิน" กับ "ยานสปุตนิก")***      เพราะความจริงแล้วยูริกาการินอาจจะเป็นมนุษย์อวกาศคนแรกก็จริงอยู่ครับ  แต่ยานที่เขาโดยสารไปนั้นความจริงมันต้องเป็น "วอสตอร์ก" ครับ  ส่วน "สปุตนิก" นั้นเป็นดาวเทียมดวงแรกของโลกที่ถูกส่งขึ้นไปในอวกาศโดยฝีมือของอดีตสหภาพโซเวียตครับ        ซึ่งในห้วงเวลาดังกล่าวนั้นบรรดามะริกันชนรู้สึกเสียหน้ามาก  เนื่องจากดาวเทียมดวงแรกที่ถูกยิงขึ้นไปอวกาศก็เป็นของโซเวียตแถมมนุษย์คนแรกที่มีโอกาสได้ไปเยือนยังนอกชั้นบรรยกาศก็ยังเป็นโซเวียตอีก  ดังนั้นพวกมะริกันชนคนเสรีจึงเร่งอัพสปีดตนเองอย่างหนักจนมาชนะเอาตอนสมัย "โครงการอะพอลโล่" ที่สามารถส่งคนขึ้นไปเหยียบบนดวงจันทร์ได้นั่นเองครับ (เบื้องหลังความสำเร็จของนาซ่าในยุคแรกๆนั้นต้องยกเครดิตส่วนหนึ่งให้แก่วิศวกรแลนักวิทยาศาตร์ชาวเยอรมัน  ที่พวกมะริกันไปซื้อตัวแลเชื้อเชิญมาตอนช่วงที่เยอรมันนาซีพ่ายแพ้สงครามครับ) **ขอขอบคุณเพื่อนสมาชิก "vandalism" "ทั้งหมดแถวตรง" "nOnG_WinZ" ด้วยครับ  ที่ช่วยเข้ามาแก้ไขจุดบกพร่องในข้อมูลต่างๆครับ** **รูปของยูริกาการิน  มนุษย์คนแรกที่มีโอกาสได้ไปสัมผัสห้วงอวกาศครับ** (May the Spoil be with you) ขอสปอยล์จงสถิตย์อยู่กับท่าน จากคุณ : เจไดหนุ่ม เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 52 09:35:47

ความคิดเห็นที่ 38 ชีวิตคงจะจืดชืดน่าดู .. แต่ก็ขอบคุณสำหรับบทความดีๆครับ จากคุณ : ว่าที่ลูกเรือ เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 52 09:47:49

ความคิดเห็นที่ 39 น่าชิมเนอะ จากคุณ : moshita เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 52 13:28:57

ความคิดเห็นที่ 40 หายไปนานเลยท่าน จากคุณ : HeLL_Is_HeRe เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 52 16:14:26

ความคิดเห็นที่ 41 ลำบากแท้.. แต่ก็เป็นความฝันของใครหลายๆคน จากคุณ : โลกนี้ยังคงน่ารักเสมอ เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 52 21:06:26

ความคิดเห็นที่ 42 แวะมาเพิ่มเติมข้อมูลให้กับคุณเจไดหนุ่มครับ เมื่อตอนต้นปี ผมได้ไปเยี่ยมชม National Air and Space Museum ที่ Washington DC ประเทศสหรัฐอเมริกามาครับ ที่นี่ก็มีเครื่องบิน เครื่องบินรบ และยานอวกาศหลายรูปแบบจัดแสดงให้ได้ชมกัน หลังจากเดินมาซะเมื่อย แวะเข้าร้านขายของที่ระลึกก็ไปสะดุดตากับมุมหนึ่งที่ขาย "อาหารของนักบิน" ให้กับผู้สนใจครับ มีคนซื้อมาลองชิมกันเพียบเลยทีเดียว (รวมถึงแก๊งค์ของพวกผมด้วย) มีสองแบบครับ ห่อแรก เป็นสตรอเบอร์รี่อบแห้ง (Freeze dried) จากคุณ : protonema เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 52 22:02:44

ความคิดเห็นที่ 43 ห่อสตรอเบอร์รี่ แก้ไขเมื่อ 23 ก.ย. 52 22:07:07 จากคุณ : protonema เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 52 22:06:36

ความคิดเห็นที่ 44 แกะออกดู ข้างในก็เป็นสตรอเบอร์รี่หั่นเป็นชิ้นๆ แข็งๆ ลองเคี้ยวดูก็หนึบๆ ยุ่ยๆ ดีครับ :) จากคุณ : protonema เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 52 22:08:17

ความคิดเห็นที่ 45 อีกห่อเป็นไอติมอวกาศครับ จากคุณ : protonema เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 52 22:08:57

ความคิดเห็นที่ 46 ลักษณะของเนื้อ เป็นก้อนคล้ายโอเอซิสที่ไว้จัดดอกไม้หนะครับ ประมาณนั้นเลย กินไปก็ยุ่ยๆ ยวบๆ แต่ก็ได้รสของไอศครีม จากคุณ : protonema เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 52 22:10:05

ความคิดเห็นที่ 47 อ่านขึ้นไปข้างบนของคุณเจไดหนุ่ม ก็นึกขึ้นได้ว่าไม่ได้อ่านฉลากหลังซอง สรุปแล้วเค้าต้องเอาน้ำใส่ก่อนกินรึเปล่านะ ฮ่าๆ กินไปทั้งแบบนั้นแล้ว :) จากคุณ : protonema เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 52 22:11:06

ความคิดเห็นที่ 48 อ้อ ลืมบอกไป ไอติมรสวานิลลากับสตรอเบอร์รี่นะครับ :D จากคุณ : protonema เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 52 22:13:08

ความคิดเห็นที่ 49 ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr. Fusion เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 52 22:23:13

ความคิดเห็นที่ 50 ว๊าว จากคุณ : XhideX เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 52 04:53:18

ความคิดเห็นที่ 51 สงสัยเรื่องนี้มานานแล้ว ขอบคุณ คุณเจไดหนุ่มมากนะครับ สำหรับความรู้ในเรื่องนี้ จากคุณ : หนึ่งคุง เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 52 07:10:35

ความคิดเห็นที่ 52 ขอบคุณมากค่ะ ได้ความรู้ดีจริง จากคุณ : อะจึ๋ยเคี้ยก เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 52 09:39:03

ความคิดเห็นที่ 53 ผมแอบคิดลึกกับภาพ คห. 44 อ่ะครับ ยิ่งบอกว่าหนึบๆแล้วด้วย.. จากคุณ : Culture เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 52 18:25:01

ความคิดเห็นที่ 54 ^ ^ ^ ^ อย่างนี้นี่เองที่เค้าเรียกว่ารูปร่างชวนฝัน จากคุณ : เปียก (ถุนคุง) เขียนเมื่อ : 25 ก.ย. 52 04:36:25