ความคิดเห็นที่ 1 ถ้าจะเรียนเพื่อให้คิดเร็ว แต่ก็ยังทำผิด ไปเรียนกับอาจารย์คาสิโอ้ดีกว่า จากคุณ : arsarn เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 52 21:40:30

ความคิดเห็นที่ 2 คุมองเขาเน้นทั้งเร็ว และรอบคอบหนิครับ เด็กส่วนใหญ่ก็เรียนกันเยอะสำหรับประถม - ม.ต้น เป็นพื้นฐานที่ดี แต่ ม.ปลายไปตึกอุ๊บ ชั้น 1 ๒ จากคุณ : คนรักแมวมาก เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 52 21:40:44

ความคิดเห็นที่ 3   เราก็เรียนแล้วจบด้วยนะ ประมาณว่าจะฝึกเราอะครับ เพราะจะมีการบ้านแทบทุกวัน ถ้าเด็กเก่งๆ อยู่แล้วก็จะไวอะครับ ปล.คิดว่าดีที่ฝึกให้เราได้คิดทุกวัน ถ้าเด็กมีความรับผิดชอบอยู่แล้ว หาหนังสือมาอ่านเองสม่ำเสมอ ก็คงไม่ต้องก็ได้มั้งครับ จากคุณ : darinfc เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 52 22:13:14

ความคิดเห็นที่ 4 เรียนได้  ดีด้วยค่ะ แต่อย่ากดดันจนเกินไปนะ แต่คนเรียนคุมองอย่างเดียวจะตีโจทย์ซับซ้อนไม่ได้ อันนี้ต้องฝึกฝนเอาค่ะ จากคุณ : ฮ่าๆๆComeback (โฮ่งฮับตังเม) เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 52 22:19:50

ความคิดเห็นที่ 5 สอนใช้excelไปเลยครับ จากคุณ : Mr.june เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 52 22:22:33

ความคิดเห็นที่ 6 ส่งไปเรียนกับคุณเซียนแห่ง math ดีกว่า ^^" จากคุณ : mint_la เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 52 22:28:45

ความคิดเห็นที่ 7   ไม่ดี เป็นความโง่ของพ่อแม่ ความคิดมนุษย์ถ้ำ เรียนคุมองกี่คนได้เป็นหมอ วิศวกร ให้เรียนดนตรี เรียนร้องเพลง ดีกว่าเยอะ งึกงึก งักงัก ออกได้ซักอัลบั้มก็รวยละ จากคุณ : จั๋งซี่มันต้องโกน เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 52 22:44:28 A:110.164.116.249 X: TicketID:233327

ความคิดเห็นที่ 8 ^ ^ ความเห็นแบบนี่หน้าโดนไฟแดง แต่ความเห็นก็คือความเห็นดังนั้นไม่ว่ากัน แต่เรื่องบอกว่าเป็นความโง่ของพ่อแม่นี่รับไม่ได้แหะ เป็นเราถ้ามีลูกก็อยากให้ลูกได้ดิบได้ดีเหมือนกันแหละ แต่ท่าคุณจั๋งซี่มันต้องโกน จะให้ลูกเรียนแต่ดนตรี เรียนร้องเพลงเพื่อเป็นนักร้องดารา ก็ตามใจท่านละกัน นาๆจิตอะนะ แต่เราไม่ละ สงสารเด็กต้องสู้รบกับสื่อถ้าจะเครียดแย่ เดียวนี้สื่อมวลชนยิ่งแย่ๆอยู่ แก้ไขเมื่อ 23 ก.ย. 52 23:05:44 จากคุณ : Ken Akamatsu เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 52 23:05:03

ความคิดเห็นที่ 9 มีเด็กจ้อน ในพันทิปด้วยเรอะ จากคุณ : apiwatrossi เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 52 23:20:46

ความคิดเห็นที่ 10 ^ อ้าวเด๋วนี้เค้ายังฮิตฟังซีดีกันอยู่เหรอคับ ผมนึกว่าฮิต mp3 กันซะอีก จากคุณ : Catwater (Catwater) เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 52 23:22:34

ความคิดเห็นที่ 11 ^ ^ ^ ^ อย่ามามั่ว ลืมไปรึเปล่า ที่นี่ประเทศไทย แผ่นผีชนะรวด ฮ่าๆๆ จากคุณ : Shineokung เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 52 23:28:49

ความคิดเห็นที่ 12 คิดเลขเร็วมีเอาไว้สอบ พอทำงานจริง ใช้เครื่องคิดเลขกันทั้งน้าน เอาไงดี จากคุณ : hunsa_bymouse เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 52 23:56:48

ความคิดเห็นที่ 13 ดีหรือเปล่าไม่ทราบ แต่ผมคงดูว่ามันกินเวลาของลูกมากแค่ไหน เพราะผมอยากให้เขามีเวลาเป็นเด็ก มีเวลาคิด เวลาเล่นแบบเด็กๆ บ้าง  ไม่อยากให้รีบโตเป็นผู้ใหญ่จนเกินไป มันจะทำให้จิตนาการแบบที่เด็กควรมีหายไป จากคุณ : Darkvider เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 52 00:01:37

ความคิดเห็นที่ 14 ความเห็นส่วนตัวของผมนะ.. เสียเวลา เสียเงิน คิดเลขเร็วไปทำอะไรครับ ตอนสอบคิดตามปรกติมันก็ทันถมเถไป  พอโตมามันก็ใช้เครื่องคิดเลขหมด แค่เรียนที่โรงเรียนมันก็หนักพอแล้ว จะยัดอะไรเข้าไปนักหนาละนั่น จากคุณ : น้ำลายบูด เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 52 00:16:30

ความคิดเห็นที่ 15 ถ้าเด็กสนใจหรือว่าชอบคณิตศาสตร์ผมว่าก็ดีนะ แต่ถ้าเด็กไม่ชอบเลย การบ้านจะเยอะ เรียนไป จะทำอะไรซ้ำ ๆ เดิม ๆ เด็กอาจจะเกลียดคณิตศาสตร์ได้ จากคุณ : เซียนแห่งmath เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 52 00:25:12

ความคิดเห็นที่ 16 สอนเด็กเรียนคุมองมาจะตรงที่ทักษะคำนวน ไม่ต้องสอนมาก ปัญหาคือเรื่องการวิเคราะห์ กับเทคนิค ที่เราต้องสอนเอง จากคุณ : เซียนแห่งmath เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 52 00:26:16

ความคิดเห็นที่ 17 เด็กที่ประบผลสำเร็จ ในการเรียน คุมอง ถึงระดับทุกชั้น นั้นมีไม่ถึง 10 % ของเด็กทั้งหมด เพราะ มันยาก มันเยอะ มันเร็ว ต้องทำทุกวัน ผมเคยเรียน ได้ top 5 คนแรกในเวลา 2 เดือน เริ่มจากศูนย์  แต่ไม่ไหวครับ take time มาก สุดท้าย ผมต้องหยุด แต่ช่วยให้ผมคิดเลขเร็วขึ้น 3 เท่า ส่วนหลานผมคนหนึ่ง เรียนจนจบหลักสูตร สอบเลขได้ A-net ได้ 97/100 ข้อที่คะแนนขาดไป นั้น เขาประมาท ไม่ได้ เป็นเพราะคิดไม่ได้ สอบแค่ชั่วโมงเดียว จากเวลาเต็ม 2 ชั่วโมง ทีนี้ ถ้ามีลูกแล้วอยากให้เขาคิดเลขเร็ว และถูกต้อง ควรฝึกที่บ้าน ฝึกทุกวัน ให้บวกเลข ง่ายๆ เอาให้ถูกต้องก่อน แล้วจึงปรับให้เพิ่มความเร็วขึ้นเรื่อยๆ หลังจากนั้นจึงเพิ่มระดับความยากขึ้นไปเรื่อยๆ สิ่งที่คุมองไม่ได้สอน คือโจทย์ปัญหา และการคิดวิเคราะห์ ผมถามไป ก็พูดแก้เกี้ยวว่า ถ้าเด็กผ่านไปทุกบทแล้ว จะคิดวิเคราะห์ได้เอง ซึ่งไม่จริง เด็กบางคนเท่านั้นทำได้ บางคนทำไม่ได้ นอกจากนี้ ค่าใช้จ่าย และต้องใช้เวลาทุ่มกับมันมากเกินไป ตะหาก เป็นตัวปัญหาอย่างยิ่ง เพราะ เรียนไป ครบเดือน ต้องจ่าย พันกว่า ถ้าไม่ครบเดือนแต่ได้เลื่อนชั้น ก็จ่ายอีกพันกว่า เรียกว่าโดนสองต่อ อีกอย่างที่จะช่วยให้คิดได้เร็วขึ้นคือ ท่องสูตรคูณถึงแม่ 25 ค่อยๆ ท่องไปทีละ 2 -3 แม่ จนครบ พอท่องได้ครบแล้ว ให้ท่องให้เร็วขึ้นแม่ละ 8 - 10 วินาที(ออกเสียงด้วย) ได้แล้ ต่อมาก็ท่องแบบถอยหลัง คือ 12 x 12 = 144 12 x 11 = 132 12 x 10 = 120 12 x 9   = 108 ลงไปเรื่อยๆ จนถึง 12 x 1 ชช = 12 แล้วก็ 11 x 12 = 132 11 x 11 = 121 11 x 10 = 10   ไล่เรียงลดหลั่นกันลงไป หลังจากนั้น ก็ ให้บวกเลขท้ายทะเบียนรถ ที่อยู่ข้างหน้าเรา บวกทุกวัน ทีละ สองหลักบ้าง หนึ่งหลักบ้าง จะได้เร็ว ต่อไปก็ ท่องค่าของ รูท จาก รูท 2 ถึง รูท 12 ท่องให้ได้  ไม่นานจะจำได้ เรื่องโจทย์ ปัญหานั้น พ่อแม่ต้องช่วยด้วย คือ ต้องอธิบายแบบ simplifly ให้เขา พ่อแม่ ห้ามโมโห โกรธา ไม่ง้นเด็กไม่ฟัง เด็กจะต่อต้าน ถ้าอธิบายได้ ดีและง่าย เด็กจะชอบ ไม่นานจะเก่งไปเอง บางอย่างให้กระตุ้นให้เขาคิดบ้าง จะได้คิดเป็น ลองทำดูนะครับ ข้อสำคัญคือ ห้ามมีอารมณ์โกรธ หรือโมโหให้เห็น ไม่งั้น ทุกอย่างที่ทำมาสูญปล่าว จากคุณ : น้าพร เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 52 00:34:25

ความคิดเห็นที่ 18 น้าพรมีเทคนิคยังไงตั้งแต่ในการสอนลูกตั้งแต่เด็ก ๆ ครับ ไม่ให้ลูกต่อต้าน แล้วให้หันมาสนใจ (อีกหน่อยจะได้เทคนิคเผื่อมีลูก อิ_อิ) ดูแล้วผมต้องสอนลูกตัวเองไม่ได้แน่ ๆ ขนาดสอนลูกชาวบ้านเด็กยังไม่อยากเรียนด้วย 5555 จากคุณ : เซียนแห่งmath เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 52 00:47:25

ความคิดเห็นที่ 19 ถ้าเด็กมันขยันทำการบ้าน มันก็เก่งอยู่แล้วครับ ไม่น่าจะคิดมาก จากคุณ : นายสาระแน เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 52 07:02:08

ความคิดเห็นที่ 20 ลูกชายผมตอนนี้อายุ6ขวบ อยู่ชั้นอนุบาล3 ใช้หลักการเดียวกับคุณน้าพร ตอนนี้เค้าท่องสูตรคูณแม่ 13 ได้แล้วครับ ไม่ได้เรียนที่โรงเรียนไหนเป็นพิเศษเลยเพราะพ่อมันรายได้น้อย สำคัญที่สุดคือพ่อแม่ต้องใจเย็น ปล.เกมเทลรันเนอร์ฉากสฟิงค์ก็ดีนะครับ ลูกผมคำนวณได้เล่นจบฉากด้วยครับ จากคุณ : น้องฮีโร่ เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 52 09:53:01

ความคิดเห็นที่ 21 โดยส่วนตัวผมเชื่อว่า เด็กแทบทุกคน มีความใฝ่รู้ในตัวเองอยู่แล้ว ขอเพียงแต่พ่อแม่ครูอาจารย์ สามารถตอบคำถามของเค้าได้โดยไม่ใช้คำว่า "อย่าถามมากได้มั้ย" นัั่นก็เพียงพอแล้วครับ ถ้าลูกถามมา คุณตอบได้ ลูกจะสนุก ถ้าลูกถามมา คุณตอบไม่ได้ก็บอกลูกไปว่า อันนี้ พ่อ/แม่ ไม่รู้ หนูลองอ่านหนังสือดูมั้ยเผื่อจะเจอคำตอบ ลูกจะรักการอ่านหนังสือ โดยที่ไม่ต้องมาตั้งกระทู้ในหว้ากอ เพื่อถามว่า อันนี้อันนั้นคืออะไร อธิบายให้หน่อย เริ่มโตมาหน่อย เริ่มมีสูตร มีอะไร อย่าสอนให้จำสูตรไปใช้ สอนให้เข้าใจว่าที่มาคืออะไร ... มันช้า มันเสียเวลา ก็ไม่เป็นไร แต่มันจะจำติดสมองไป แม้ภายหลังไม่ได้ใช้จะลืม แต่ก็จะกลับมาทบาทวนและเข้าใจในเวลาไม่นานนัก สอนให้เค้าสนุกกับการเรียนรู้ และหาคำตอบด้วยตนเอง ... ยิ่งถ้าเด็กเป็นพวก "หนูจำไม" ได้จะยิ่งได้ผลมากๆ ทั้งหมดนี้ ไม่ได้มาจากการเลี้ยงลูก หรือเลี้ยงน้อง แต่ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่พ่อผม เค้าสอนผมมา ... และที่ผมจำได้ตั้งแต่เด็กคือ การตั้งคำถามว่า "ทำไม" พร้อมการหาคำตอบด้วยตนเอง จากคุณ : V--Bank--V เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 52 11:17:39

ความคิดเห็นที่ 22 คิดเหมือน คห.7 นะ ถึงจะดูเกรียน ๆ แต่เราว่าสมัยนี้แค่เรียนที่โรงเรียนก็หนักพอสมควรอยู่แล้ว ให้ไปเรียนดนตรี เรียนร้องเพลง นอกจากจะได้ทักษะด้านอื่น ๆ แล้วยังช่วยผ่อนคลายจากการเรียนด้วย แต่ไม่จำเป็นว่าจะต้องเรียนไปเป็นนักร้องอย่างเดียว จากคุณ : ซินเดอเรล่า เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 52 11:21:44

ความคิดเห็นที่ 23   ลูกเรียนคุมองและจบมา 2 ปีแล้วค่ะ ที่ให้เรียนตั้งแต่เล็กประมาณ 5 ขวบเพราะว่าคุณหมอแนะนำให้ฝึกลูกเรื่องสมาธิค่ะ คุณหมอบอกลูกเป็นไฮเปอร์เทียมค่ะคือมีอาการสมาธิสั้นเนื่องจากสิ่งเร้าได้ง่ายต้องฝึกลูกให้มีสมาธิทีละน้อยๆ และคุณหมอบอกว่าเด็กผู้ชายเป็นกันมาก ส่วนใหญ่มักเป็นเด็กฉลาด จึงควรรักษาตั้งแต่เล็กเพื่ออนาคตของลูกเองค่ะ ตัวดิฉันเองไม่มีความรู้มากแต่ความเป็นแม่อยากช่วยลูก ก็หาอะไรก็ได้ที่ช่วยฝึกลูก ก็มาเจอคุมองนี้แหละค่ะ ไม่เคยคิดว่าอยากให้ลูกเก่งคณิตคิดแต่เพียงให้ลูกมีสมาธิสามารถนั่งได้เหมือนเด็กคนอื่น จากเล็กๆ ลูกนั่งได้แค่ 2 นาทีก็ดิ้นแล้ว อดทนกับลูกค่อยๆ สอนเลขจากแบบฝึกหัดของคุมองจนกระทั่งถึงสอนไม่ได้เมื่อลูกอยู่ป.5 ลูกตอนนั้นก็สามารถนั่งได้เป็นชั่วโมง และตอนนี้ลูกก็นั่งอ่านหนังสือที่ตัวเองสนใจไ้ด้เป็นวันๆ การคิดเลขลูกก็ไม่ได้คิดไวกว่าเด็กอื่นๆ เลยนะคะ แต่สิ่งที่ได้จากคุมองคือลูกจะนิ่งและอดทนกว่า จริงๆ ก็อย่างน้าพรว่าละคะคุณพ่อคุณแม่สามารถฝึกลูกเองได้ ไม่เสียเงินด้วย เพียงแต่ตัวดิฉันมีความรู้ไม่พอ ไม่มีแบบฝึกหัด จึงต้องหาตัวช่วย จากคุณ : ผ่านมาเห็น เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 52 12:10:46 A:58.64.113.6 X: TicketID:128181

ความคิดเห็นที่ 24   คิดเหมือน #7 และ #22 มีลูก ส่งลูกเรียนดนตรีดีกว่า โตมาส่งไปประกวด The star  ตอนนี้ยังคิดอยู่เลยว่า ทำไมแม่ไม่ส่งเราไปเรียนดนตรีหรือร้องเพลง แทนไปเรียนพิเศษ เพราะครูที่โรงเรียนก็สอนอยู่แล้ว จากคุณ : Lind L Taylor เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 52 13:20:16

ความคิดเห็นที่ 25 น้าพรมีเทคนิคยังไงตั้งแต่ในการสอนลูกตั้งแต่เด็ก ๆ ครับ ไม่ให้ลูกต่อต้าน แล้วให้หันมาสนใจ (อีกหน่อยจะได้เทคนิคเผื่อมีลูก อิ_อิ) ดูแล้วผมต้องสอนลูกตัวเองไม่ได้แน่ ๆ ขนาดสอนลูกชาวบ้านเด็กยังไม่อยากเรียนด้วย 5555 จากคุณ : เซียนแห่งmath ------------------------ ^ ^ ดูใน blog ของผมครับ เขียนไว้สองตอนครับ จากคุณ : น้าพร เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 52 14:29:27

ความคิดเห็นที่ 26 ถ้าเรียนคุมองแล้ว ต้องสอนเด็กด้วยค่ะ  ว่าโลกแห่งความจริง  และโลกในจินตนาการมันคนละโลกกัน เรื่องของเรื่องคือ  ที่คุมองเค้าจะสอนให้คิดเลขเร็ว  แล้วไม่จำเป็นต้องทดเลขในกระดาษน่ะค่ะ  ประมาณคิดเลขในใจโชว์เทพได้ว่างั้น  แต่ที่โรงเรียนเค้าจะเน้นวิธีการน่ะค่ะ  ว่าเราหาคำตอบเอามาได้ยังไง  พอไปใช้วิธีของคุมองเข้า  ครูให้ 0 ซะอย่างงั้น  ด้วยเหตุผล  "คำตอบมาจากไหน  มาได้อย่างไรไม่รู้  เลยไม่ให้คะแนน" อ้อ  ส่วนแบบฝึกหัดเค้า  ก็ห็นซ้ำไปซ้ำมาวนเวียนอยู่อย่างนั้นแหละค่ะ  เพื่อให้คิดเลขแบบจำได้ขึ้นใจ  ทำให้คิดเลขเร็วขึ้น  แล้วมันฝึกวิธีคิดตรงไหน  ฝึกการจดจำซะมากกว่า ปล.  คิดว่าคงมีประโยชน์อื่นๆ เหมือนกันแหละค่ะ  ไม่งั้นเค้าจะยังเปิดอยู่ได้เหรอ ?   ปล.2  ฟังมาจากคนที่ส่งลูกเค้าไปเรียน  แล้วเค้าสอนการบ้านลูกน่ะค่ะ  มาบ่นๆ ให้ฟัง  แต่ไม่รู้เดี๋ยวนี้เลิกส่งลูกไปเรียนที่นั่นรึยัง จากคุณ : Queen_Devil เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 52 15:48:44

ความคิดเห็นที่ 27 ขอบคุณน้าพรครับ ผมเองก็สนใจคณิตศาสตร์ศึกษาเหมือนกัน จากคุณ : เซียนแห่งmath เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 52 18:24:36

ความคิดเห็นที่ 28 ขอบคุณทุกความเห็นครับ จากคุณ : Ao+ เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 52 21:21:01

ความคิดเห็นที่ 29 เรารู้สึกสงสารเด็กที่พ่อแม่พยายามจับเขาไปเรียนโน่นเรียนนี่ เพราะวัยเด็กเป้นวัยที่เขาควรได้เล่นสนุก ไม่ใช่คร่ำเคร่งกับการเรียนนะคะ จากคุณ : เสียงจากบ้านนา เขียนเมื่อ : 25 ก.ย. 52 00:17:25

ความคิดเห็นที่ 30 ถ้าถามพ่อแม่ เรียนคุมองดีไม๊ พ่อแม่จะทำหน้าเจื๋อนๆ : คงดีล่ะมั๊ง ข้างบ้านเขาก็เรียนกัน ถ้าถามตัวนักเรียน เรียนคุมองดีไม๊ นักเรียนก็จะทำหน้าเจื๋อนๆ แล้วตอบว่า..... : ไม่ดี มีแต่พวกหน้าตาห่วยๆ สู้เดาะเบรนไม่ได้ ส่วนมากน่ารักทั้งนั้น เพื่อนผมก็เรียนอยู่ แฟนมันโครตน่ารัก ประเทศไทย หนอ.................... จากคุณ : Fatdiary เขียนเมื่อ : 25 ก.ย. 52 00:49:48

ความคิดเห็นที่ 31 เท่าที่เห็นจากหลานๆ ไปเรียน kumon ผมว่า เค้าสอนให้บวกลบคูณหาร แยกตัวประกอบ แยกpartial sum (ไม่รู้ภาษาไทยเค้าเรียกว่าอะไร) แต่พอมาเจอโจทย์ แข่งขันที่ไม่ได้ให้ตัวเลขมา พวกนี้จะตั้งสมการกันไม่เป็น และ ที่เจอส่วนใหญ่เลยคือ คิดไวจริงแต่ผิดประจำ ผิดเล็กผิดน้อย ซึ่งถ้าทำโจทย์เลขมันผิดไม่ได้เลยไง ต้องไว และ ถูก 100% ด้วย ถ้าเป็นลูกผม ผมไม่ให้ไปเรียน แต่จะให้ทำโจทย์ที่ อาเฮีย (หลานๆ) ไปเรียนมา แล้วก็ทำโจทย์ แบบวิเคราะห์เพิ่ม หรือ ไปเรียนกับ อรรณพ น่าจะเวิคกว่า จากคุณ : อ๊อดบ้านโป่ง (Santa_Baby) เขียนเมื่อ : 25 ก.ย. 52 11:44:05

ความคิดเห็นที่ 32 เป็นผมเรอะ ไม่ให้ลูกเรียนร้อก ไม่มีตังค์อ่ะ จากคุณ : นายฉิม เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 52 18:16:14