ความคิดเห็นที่ 1 ผมคิดว่าน่าจะส่งผลต่อสิ่งต่อไปนี้ 1. แรงตึงผิวของน้ำในมหาสมุทร...เนื่องจากดวงจันทร์มีขนาดใหญ่ทำให้เหมือนมี vacuum คอยดึงให้ระดับน้ำในมหาสมุทรสูงขึ้นตามความใกล้-ไกล    ซึ่งในก็คือการทำให้เกิดน้ำขึ้นน้ำลงที่รุนแรงนั่นเอง 2. สินแร่ปกติถ้ามันเป็นธาตุหนักควรจะจมลงสู่ใต้พื้นโลกไปรวมกับแก่นโลกทั้งหมด แต่กลับสามารถพบบนเปลือกโลกได้เช่นกัน    อันนี้อาจจะส่งผมจากแรงดึงดูดของดวงจันทร์ที่มีผลต่อการไหลเวียนของแมกม่าในใต้เปลือกโลกด้วยก็ได้    ทำให้โลกเราอุดมด้วยแร่ธาตุหลากชนิดและที่สำคัญคือแร่ธาตุที่หนักๆ เหล่านี้หลายตัวเป็นองค์แระกอบของสิ่งมีชีวิต เช่น ทองแดง เหล็ก โคบอลต์ /// เพื่อทดสอบสมมติฐานนี้ต้องหาข้อมูลจำนวนแร่บนเปลือกของดาวต่างๆ เทียบกัน    แต่คงทำได้แค่ไม่กี่ดวง เพราะระบบของเรามีดาวแข็งอยู่แค่ 4 ดวงที่เหลือเป็นดาวก๊าซ /// 3. ทำให้ก๊าซที่ควรจะหนักและอยู่ใกล้ผิวโลกลอยตัวขึ้นมาสูงกว่าระดับที่สิ่งมีชีวิตทั่วไปควรจะอยู่    คาร์บอนไดออกไซด์หนักกว่าออกซิเจนและไนโตรเจนแต่กลับอยู่เฉลี่ยถัวกันไปในชั้นบรรยากาศเท่าๆ กัน    ใครเคยเล่นน้ำแข็งแห้งคงทราบดีว่าก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์นั้นสามารถเทได้เหมือนน้ำไหลเลย และสามารถจับให้ไออยู่ในภาชนะนั้นได้    ทำให้ดวงจันทร์อาจเป็นตัวควบคุมการ Flow ของอากาศในชั้นบรรยากาศโลกได้และของไหลตามแรงโน้มถ่วงและการโคจรของมัน   เพราะจากตำนานเรื่องการมีเพศสัมพันธ์และการสังหารเหมือนเคยกล่าวไว้ว่าต้องทำในช่วงที่ดวงจันทร์โคจรเหนือเรา   เนื่องจากทำให้เลือดในร่างกายสูบฉีดได้รุนแรงและสามารถสร้างอารมณ์ที่หึกเห้มได้ แก้ไขเมื่อ 26 ก.ย. 52 19:41:24 แก้ไขเมื่อ 26 ก.ย. 52 19:38:13 จากคุณ : CuSO45H2O เขียนเมื่อ : 26 ก.ย. 52 19:36:38

ความคิดเห็นที่ 2 พึ่งจะสังเกต ว่าของเราใหญ่กว่าของคนอื่นเขา จากคุณ : Darkvider เขียนเมื่อ : 26 ก.ย. 52 20:27:13

ความคิดเห็นที่ 3 ทำไมถึงว่าใหญ่เกินไปละ แค่ใหญ่กว่าดวงอื่น จากคุณ : Mr.june เขียนเมื่อ : 26 ก.ย. 52 21:12:18

ความคิดเห็นที่ 4   อืม ของเราใหญ่จริงๆ จากคุณ : Mr.Burning เขียนเมื่อ : 26 ก.ย. 52 21:24:07

ความคิดเห็นที่ 5 เหตุผลที่ว่ามันใหญ่เกินไปก็คือ 1. โลกเรามีแรงดึงดูดมากขนาดให้วัตถุใหญ่ขนาดนั้นมาอยู่วนรอบวงโคจรได้เชียวหรือ 2. ถึงแม้จะเกิดพร้อมกันโดยกลุ่มหมุนวนมวลสาร ดวงจนัทร์กับโลกน่าจะเป็นดาวแฝดที่อยู่ในวงโคจรเดียวกันมากกว่า คือหมุนรอบซึ่งกันและกัน   ทำไมดวงจันทร์ถึงอยู่ๆ มาหมุนรอบโลก 3. เป็นไปได้ไหมว่าจริงๆ แล้วเป็นดาวแฝดดังที่กล่าวไว้ในข้อ 2. แต่วันดีคืนดีอุกกาบาตอะไรสักอย่างมาชน ทำให้เกิดความเร็วเชิงมุมอันใหม่   ทำให้ดวงจันทร์เกิดการเคลื่อนที่วงกลมรอบโลก จากที่เคยโคจรรอบกันและกันกลายเป็นโคจรรอบโลกแทน จากคุณ : CuSO45H2O เขียนเมื่อ : 26 ก.ย. 52 21:24:13

ความคิดเห็นที่ 6 ลักษณะของข้อ 2. ใน คห. 5 คือรูปนี้ครับ จากคุณ : CuSO45H2O เขียนเมื่อ : 26 ก.ย. 52 21:56:16

ความคิดเห็นที่ 7   ดวงจันทร์มีอิทธิพลต่อโลกก็จริง แต่ก็มีขนาดที่ทำให้เกิดสภาวะเหมาะสมที่สิ่งมีชีวิตจะดำรงอยู่ได้ หากน้ำขึ้น-น้ำลงไม่มีระดับสูง-ต่ำเท่านี้ ก็อาจมีผลต่อป่าชายเลนและการวางไข่ของสัตว์น้ำบริเวณนี้ ถ้ามีผลต่อธาตุหนักที่แกนของโลก การที่ธาตุหนักมีการเคลื่อนไหวหมุนเวียน( แมกม่า) ทำให้เกิดอำนาจแม่เหล็กซึ่งสามารถป้องกันโลกจากรังสีร้ายแรงจากดวงอาทิตย์ได้ และหากมีผลต่ออากาศทำให้ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์กระจายตัวก็เป็นสิ่งที่ดี เพราะถ้ามันหนักจนหนาแน่นมาก ก็จะแทนที่ก๊าซอื่นกลายเป็นมีก๊าซนี้ล้วนๆใกล้ผิวโลกเราก็คงตาย จากคุณ : panggiejung เขียนเมื่อ : 26 ก.ย. 52 21:59:33

ความคิดเห็นที่ 8   การหมุนของดวงจันทร์น่าจะเป็นผลจากกำเนิดของมันด้วย จากที่เคยดูสารคดี เขาคิดว่าดวงจันทร์เกิดจากโลกโดนอุกกาบาตชนทำให้ชิ้นส่วนหลุดออกไปเช่นนั้น ( ตามคห.5 คงเป็นกรณีที่ ต่างดวงต่างมาเจอกัน ? ) แก้ไขเมื่อ 27 ก.ย. 52 11:03:44 จากคุณ : panggiejung เขียนเมื่อ : 26 ก.ย. 52 22:17:12

ความคิดเห็นที่ 9 อืมมม... ถึงขนาดจะต่างกันแค่ 3 เท่าแต่ก็จะทำให้ปริมาตรต่างกันถึง 30 เท่านะคับ ซึ่งมวลจะต่างกันอีกกี่เท่าไม่รู้อยู่ที่ธาตุที่เป็นองค์ประกอบด้วยซึ่งความแตกต่างของมวลที่มากกว่า 30 เท่าก็อาจจะทำให้มันไม่โคจรเป็นดาวแฟดได้คับ จากคุณ : Catwater (Catwater) เขียนเมื่อ : 26 ก.ย. 52 22:36:37

ความคิดเห็นที่ 10 ไม่นะคะ ถ้าเล็กกว่านี้ตอนสุริยุปราคาจะดูไม่ได้เลย จะเป็นโดนัท เลย หรือถ้าใหญ่เกินไป ก็จะไม่เห็นตอนเป็ยวงแหวนอีก สรุปเท่านี้กำลังดีแล้ว จากคุณ : mint_la เขียนเมื่อ : 26 ก.ย. 52 22:41:54

ความคิดเห็นที่ 11 ^ ^ งั้นเดี๋ยวถ้าตาม คห. 9 ผมคงต้องทำการบ้านหามวลเฉลี่ยของดาวเพิ่ม ซึ่งน่าจะมี ................. ส่วนคุณมินท์ต่อให้ดวงจันทร์เล็กลงเราก็เห็นเหมือนเดิมครับ เพียงแต่ Area ที่เห็นบนโลกจะเห็นได้น้อยลง (บริเวณเงามืดลดลง) ป.ล. ถ้าเป็นแบบคุณมินท์ว่าสงสัยถ้าเล็กกว่านี้อาจไม่ใช่โดนัทแล้วครับ อาจจะเห็นเป็นไฝขี้แมงวันเลย จากคุณ : CuSO45H2O เขียนเมื่อ : 26 ก.ย. 52 23:00:25

ความคิดเห็นที่ 12 #10... โอ้วววว... พระเจ้า... ความเห็นเธอเหมือนจิตใต้สำนึกของสึซึมิยะฮารุฮิเลย... -"- จากคุณ : Catwater (Catwater) เขียนเมื่อ : 26 ก.ย. 52 23:40:44

ความคิดเห็นที่ 13 ที่จิง ดวงจันทร์ก็โคจรรอบโลกไม่ใช้หรอ แล้วโลกก็โคจรรอบดวงจันทร์อะ >< รู้สึกว่าจุดศูนย์กลางมวลของ ดาวสองดวงนี้มันเลยจุดศูนย์กลางของโลกออกมาอีกทีอะ ต่างคนต่างโคจรรอบกัน แล้วที่เห็นว่าดวงจันทร์มันใหญ่นั้น ก็มีหลายทฤษฎีบอกนิครับว่าอาจจะเกิดจาก ดาวหางหรือ อย่างอื่นมาชนโลกอะครับ >< ส่วนอีกอย่าง ดวงจันทร์มันก็ขนาดแค่นี้ เท่านี้อยู่แล้ว ไม่ใหญ่กว่านี้ ไม่เล็กกว่านี้หรอกครับ จริงมั้ย จากคุณ : handghost เขียนเมื่อ : 26 ก.ย. 52 23:50:20

ความคิดเห็นที่ 14 อยากให้ใหญ่กว่านี้ จะได้เห็นชัดๆ ชอบ... จากคุณ : ลูกเป็ดขี้เกียจ เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 52 01:58:27

ความคิดเห็นที่ 15 คห.13 หมายความว่าโลกกะดวงจันทร์เป็นดาวเคราะคู่หรอครับ งั้นทำไมบนดวงจันทร์ไม่มีสภาวะเหมือนบนโลกบ้างล่ะ คิดดูเล่นๆถ้าดวงจันทร์เป็นเหมือนโลกคงจะสนุกน่าดูเลยเนอะ คนจากสองดาวก็จะได้เดินทางไปมาหาสู่กันผ่านห้วงอวกาศ เหอๆๆๆๆ ชักจะเพ้อเจ้อ ไปดีฝ่า ^^ จากคุณ : แมลงภู่บนหูกระต่าย เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 52 02:09:18

ความคิดเห็นที่ 16 What would happen to Earth if the moon was only half as massive? http://www.scientificamerican.com/article.cfm?id=half-mass-moon โดย Neil F. Comins, ศาสตราจารย์ด้านฟิสิกส์และดาราศาสตร์ แห่ง the University of Maine, Orono ทั้งหมดคือการพิจารณาจากแรงดึงดูดระหว่างโลกและดวงจันทร์ที่ลดลงเป็นหลัก - ดวงจันทร์จะอยู่ใกล้โลกมากขึ้น สุริยคราสแบบเต็มดวง (Total eclipse) จะมีโอกาสเกิดมากกว่า สุริยคราสแบบวงแหวน (annular eclipse) - ปรากฏการณ์น้ำขึ้น-น้ำลงจะน้อยลง กระแสน้ำทะเลจะช้าลง - ช่วงเวลากลางวันจะยาวนานขึ้น เป็นประมาณ 15 ชั่วโมง - กระแสน้ำทะเลที่ช้าลงจะทำให้ชายฝั่งทะเลถูกกัดเซาะน้อยลงด้วย ผลคือโอกาสเกิด Primodial soup ยากขึ้น (น้ำทะเลไม่ได้รับแร่ธาตุจากผิวดิน) โอกาสเกิดสิ่งมีชีวิตยากขึ้น - มีการแปรผันของฤดูกาลมากขึ้น - ช่วงเวลากลางคืนมืดมิดกว่าเดิม เนื่องจากดวงจันทร์สะท้อนแสงอาทิตย์ได้น้อยลง ส่งผลกระทบต่อสิ่งมีชีวิตทั้งมวลที่ใช้แสงจันทร์ช่วยในการดำรงชีวิตยามกลางคืน จากคุณ : Cryptomnesia เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 52 10:50:08

ความคิดเห็นที่ 17 ขอบคุณครับคุณ Cryptomeria ถ้าอย่างที่อาจารย์ที่มหาลัยเมนบอกไว้ ...ดวงจันทร์ที่มีขนาดเล็กลงอาจส่งผลให้ความหลากหลายทางพันธุกรรมและการกำเนิดสิ่งมีชีวิตลดลงด้วยใช่ไหมครับ... จากคุณ : CuSO45H2O เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 52 13:40:40

ความคิดเห็นที่ 18 #16 เค้าถาม เกี่ยวกับขนาด ก็ยกมวลมาตอบ การที่ให้ขนาดเพิ่ม โดย ให้มวลคงที่ ดวงจันทร์จะไม่โคจรเข้ามาใกล้โลกมากขึ้น นะคะ และเช่นเดียวกันถ้าให้เล็กลง โดยมวลเท่าเดิม รัศมีการโคจรก็ยังคงจะเท่าเดิม เพราะ ระยะห่างนั้นคำนวณจาก จุดศก.มวล ไม่ได้ คำนวณจากปริมาตร และปริมาตรไม่จำเป็นต้อง ขึ้นกับมวลเสมอไป ปริมาตรเพิ่มมวลคงที่ ความหนาแน่นลด ปริมาตรลดมวลคงที่ความหนาแน่นเพิ่ม จากโจทย์บอกว่า ถ้าเปลี่ยนแปลงขนาด(ปริมาตร) อย่างเดียว ค่ะ จากคุณ : หลานแว่น (mint_la) เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 52 14:37:56

ความคิดเห็นที่ 19 ก็โดยพื้นฐาน เพิ่มขนาด มันก็ต้องเพิ่มมวลด้วยสิครับ เช่น กำหนดให้แตงโมขนาดใหญ่ขึ้น มวลของมันก็ต้องมากขึ้นสิครับ โจทย์ไม่ได้บอกซักหน่อยว่าให้ แตงโม กลวง แตงโมมันก็ต้องหนาแน่นเท่าเดิมล่ะครับ จากคุณ : Koraja เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 52 18:12:54

ความคิดเห็นที่ 20 เอาเถอะ หลานแว่นก็เข้าใจคิด จากคุณ : Cryptomnesia เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 52 18:23:08

ความคิดเห็นที่ 21 #19 ไม่ใช่ค่ะ ไม่จำเป็นเสมอไป ขึ้นอยู่กับว่าเราพิจารณาอะไร หรือไมพิจารณาอะไรมากกว่ามั้งคะ ส่วน ด้านบน ถ้าพิจารณา เรื่องมวล คิดว่าคุณ Cryptomnesia  ตอบไว้ดีแล้ว ถ้าพิจารณาเรื่องขนาดอย่างเดียว ก็เป็นอีกเรื่องนึง ผลลัพธ์จะได้ไม่ปนกัน คิดว่าแบบนั้นน่ะค่ะ (ข้างบนขออภัยให้คำไม่สุภาพ) จากคุณ : mint_la เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 52 19:35:12

ความคิดเห็นที่ 22 จิ้ม15 ระบบ ดาวเคราะห์คู่ เท่าที่ป๋มเข้าใจ มันไม่จำเป็นต้องมีลักษณะเหมือนกันนะครับ แค่มันโคจรรอบซึ่งกันและกัน จิ้มข้ามไป 17 การเกิดขึ้นของสิ่งมีชีวิตมีหลายปัจจัย และละเอียดอ่อนมาก ถ้าโลก ห่างจากดวงอาทิตย์ไปอีกนิด ขนาดเล็กไปหน่อย หรือ ฯลฯ ล้วนอาจะส่งผลต่อการเกิดของสิ่งมีชีวิตบนโลกได้ทั้งสิ้น จากคุณ : handghost เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 52 12:29:00