ความคิดเห็นที่ 1 สัมบูรณ์ หน่วยองศาสัมบูรณ์คือ เควิน K 0 K คือ -273c โดยประมาณครับ 0 K คืออุณหภูมิที่ไม่มีการสั่นของโมเลกุลเลย จากคุณ : Ao+ เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 52 01:44:11

ความคิดเห็นที่ 2 แล้วทำไม  องศาเซลเซียส ไม่เป็นหละคะ มีแยกหน่วยด้วยหรือ อย่างความเร็วแสง = 3x10^8 m/s = 3x10^5 km/s คนละหน่วยแต่ต่างก็เป็น ความเร็วสัมบูรณ์เหมือนกัน จากคุณ : mint_la เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 52 02:06:11

ความคิดเห็นที่ 3 เพราะเควิน กับ เซลเซียส ไม่ได้แปลงหน่วยด้วยอัตราส่วน แต่ตั้งค่าขึ้นมาว่า 0 องศาเควิน เท่ากับ -273.15 องศาเซลเซียส 0 องศาเควินเป็นอุณภูมิที่ ธาตุเท่าที่พบในโลก ไม่มีการสั่นของโมเลกุล (แต่ธาตุบนดาวอื่นที่สำรวจไม่ถึง  จักวาลอื่น อาจยังสั่น) สรุปคือหน่วยจริงๆของอุณหภูมิคือเควิน คล้าย 0 ในระบบจำนวน ส่วน 0 เซลเซียส  คงถือเอาจุดที่ น้ำเป็นน้ำแข็งเป็น 0 ซะ ไม่ได้เป็นศูนย์อะไรจริงๆหรอก แก้ไขเมื่อ 29 ก.ย. 52 02:43:24 แก้ไขเมื่อ 29 ก.ย. 52 02:41:27 จากคุณ : พิซซ่าหน้าปลาเค็ม เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 52 02:34:37

ความคิดเห็นที่ 4 แล้ว 273 เคลวิน ถือเป็น อุณหภูมิ สัมบูรณ์ไหม คะ ยังงงๆ หรือว่าเฉพาะ 0 เคลวินเท่านั้น จากคุณ : mint_la เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 52 02:42:01

ความคิดเห็นที่ 5 เคลวิน กับ องศาเซลเซียสแปรผันตามกันไม่ใช่เหรอคะ ตามสูตร K = C+273 โดยประมาณ จากคุณ : mint_la เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 52 02:45:22

ความคิดเห็นที่ 6 จากประเด็นข้างต้น เข้าใจว่ามากจากพื้นฐานคนละแบบกันน่ะครับ องศาเซลเซียสว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสถานะของน้ำ ส่วนเคลวินเป็นหน่วยที่สนใจการมีอยู่ของภาวะที่ไม่มีการสั่นของโมเลกุล แต่สำหรับศูนย์องศาสัมบูรณ์นั้นก็เป็นแค่ในเชิงทฤษฎีเท่านั้น เพราะสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ยังไม่เคยมีใครลดอุณหภูมิเข้าไปจนถึง 0 เคลวินได้เลย นอกเสียจากสมการเชิงเส้นที่คาดว่า ณ อุณหภูมิเท่านี้จะไม่มีการสั่นอีก ดังนั้นถ้าพิจารณาถึงความไม่สมบูรณ์ของทฤษฎี คือไม่สามารถยืนยันได้จริงว่า 0 เคลวินนั้นทำให้อะตอมหยุดสั่น มาถึงตอนนี้ก็ไม่สามารถสรุปได้เลยว่าอุณหภูมินั้นคือสิ่งที่สัมบูรณ์ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่ามันเป็นสิ่งที่สัมพัทธ์เช่นกัน เมื่อมาถึงตอนนี้ผมจึงขอเสนอว่าความสัมบูรณ์ของอุณหภูมิไม่จำเป็นต้องอ้างอิงสเกลเคลวิน หากแต่พิสูจน์ว่ามีภาวะที่โมเลกุลไม่สั่นจริงหรือไม่ ถ้าจริงอุณหภูมิก็เป็นสิ่งสัมบูรณ์ ถ้าไม่อุณหภูมิก็เป็นสิ่งสัมพัทธ์ แก้ไขเมื่อ 29 ก.ย. 52 02:46:51 จากคุณ : ทะเลคราม (blueocynia) เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 52 02:45:43

ความคิดเห็นที่ 7 ก่อนจะนอน มักจะนึกคำถามอะไรพวกนี้ขึ้นมาได้เสมอเลย แล้วถ้าไม่ได้คำตอบ ก็จะยังนอนไม่หลับ จนกว่า พอได้คำตอบแล้ว ถึงจะหลับสบาย ขอบคุณทุกๆคนมากๆค่ะ ยังไม่ปิดกระทู้ รอ ความเห็นของท่านอื่นๆด้วยค่ะ ขอบคุณทุกๆคน มากๆค่ะ ราตรีสวัสดิ์ค่ะ จากคุณ : mint_la เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 52 02:49:27

ความคิดเห็นที่ 8 273 เควิน = 0 องศาเซลเซียส แต่เป็น 0 แต่ในนาม ตั้งขึ้นมาเพราะเป็นจุดเยือกแข็งของน้ำ จริงไม่มีความเป็นศูนย์อยู่จริงครับ จะตั้งว่า ถ้าให้ 10 องศาเซลเซียสเป็นจุดเยือกแข็ง 0 องศาเควิน = -263.15  CC (องศาเควิน กับ เซลเซียส มีช่วงการวัดต่อหน่วยเท่ากัน) จากคุณ : พิซซ่าหน้าปลาเค็ม เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 52 02:49:29

ความคิดเห็นที่ 9 #5 เข้าใจว่า สเกลเคลวินก็ได้ระยะมาจากสเกลองศาเซลเซียสนั้นแล โดยที่ผู้ศึกษาใช้สเกลขององศาเซลเซียสมาเป็นสเกลต้นแบบในการวัดหาศูนย์องศาสัมบูรณ์ ถ้าเขาใช้ฟาเรนไฮต์สเกลเคลวินก็คงเป็นอีกแบบหนึ่งไป จากคุณ : ทะเลคราม (blueocynia) เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 52 02:51:09

ความคิดเห็นที่ 10 เท่าที่จำความได้ อุณหภูมิสัมบูรณ์ (absolute temperature) นั้น คือ อุณหภูมิในหน่วย องศา เคลวิน (Kelvin) เป็นอุณหภูมิที่ ระบบไม่หลงเหลือ พลังงานความร้อน อยู่ อุณหภูมิในหน่วยอื่น ๆ เช่น องศาเซลเซียส (Celsius) มิได้เป็น postfix ของ หน่วยของอุณหภูมิ แต่เป็น อุณหภูมิในอีกหน่วยหนึ่ง ที่มีนิยามต่างออกไป เช่น ศูนย์องศาเซลเซียส นิยามว่าคือจุดเยือกแข็งของน้ำ และ ร้อยองศา เซลเซียสนิยามว่าคือ จุดเดือดของน้ำ สำหรับ คำว่า อุณหภูมิสัมพัทธ์ (relative temperature) น่าจะใช้บอก เวลาที่เราคำนวณว่า อุณหภูมิของระบบ สูงขึ้น หรือ ต่ำลง เทียบกับ อุณหภูมิอ้างอิง โดยอุณหภูมิสัมพัทธ์นี้ สามารถมีหน่วยเป็น องศาเคลวิน หรือ องศา เซลเซียส หรือ อุณหภูมิในหน่วยอื่น ๆ ก็ได้ ผิดพลาดอย่างไร ขออภัยด้วย แก้ไขเมื่อ 29 ก.ย. 52 04:17:34 จากคุณ : nonlocality เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 52 02:51:32

ความคิดเห็นที่ 11 พอดีลืม ดาว เลย ได้เห็น ความเห็นคุณ nonlocality  เข้ามาตอบ ดีใจ ^^ แล้วมีแต่ minimum ไม่มี maximum เหรอคะ ที่ว่าอุณหภูมิเคลวินยังไม่มีคนตอบว่า เฉพาะ 0 K ใช่ไหมคะ ถึงเรียกว่า สัมบูรณ์ ขอบคุณ คุณ nonlocolityสำหรับความรู้ค่ะ  และ เลยฝากคำถามไปอีกหน่อยนึง ดาว จากคุณ : mint_la เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 52 02:57:17

ความคิดเห็นที่ 12 เพิ่มอีกหน่อยนึง ความเร็ว สัมบูรณ์ คือ ความเร็วของแสง อุณหภูมิ สัมบูรณ์ อุณหภูมิของอะไร ? จากคุณ : mint_la เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 52 02:59:14

ความคิดเห็นที่ 13 อีกหน่อยนึง ทำไมอุณหภูมิ 0 K ทุกสิ่งทุกอย่างจึงหยุดนิ่ง (ไม่มีความร็ว)? งั้นแสง ซึ่ง  มีความเร็วสูงสุด จะมีอุณหภูมิเท่าไหร่ เป็นขีดกำจัด บน ของอุณหภูมิ หรือเปล่าคะ ? จากคุณ : mint_la เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 52 03:08:04

ความคิดเห็นที่ 14 ขอเพิ่มเติมสั้น ๆ (ตามความเชื่อของผม ไม่มีอะไรอ้างอิง) อุณหภูมิต่ำสุดที่มนุษย์ทำได้ตอนนี้ อยู่ที่ระดับ นาโนเคลวิน (น่าจะมีหลายกลุ่มวิจัย ที่กำลังพยายาม ทำให้ได้ต่ำกว่านี้) เมื่อดูจากประวัติศาสตร์ของความพยายามในการลดอุณหภูมิลงนี้ ผมเชื่อว่า หาก สเกลอุณหภูมิองศาเคลวินนี้ มิใช่ อุณหภูมิสัมบูรณ์ แล้ว การพยายามลดอุณหูมิลง น่าจะลู่เข้าสู่ค่าอื่น ที่มิใช้ 0 K (เช่น น่าจะข้ามไปค่าน้อยกว่า 0 K หรือ ลดลงและลู่เข้าไปสู่ค่า ค่าหนึ่งที่ไม่ใช่ 0 K) ดังนั้น ผมเชื่อว่า อุณหภูมิเคลวิน คือ อุณหภูมิสัมบูรณ์ สำหรับอุณหภูมิสูงสุดแล้ว เท่าที่ทราบ ปัจจุบัน ไม่มีขีดจำกัดในทางทฤษฏี โดยในความเข้าใจของผมคือ เมื่ออุณหภูมิสูงขึ้นถึงระดับหนึ่ง จะไม่มีธาตุใดที่เสถียร ทำให้ไม่สามารถ (ทำการทดลอง) เพิ่มอุณหภูมิขึ้นไปได้อีก สำหรับเรื่อง ความเร็ว ความเร็วแสง (speed of light) คือ ความเร็วสูงสุด (ของ วัตถุ พลังงาน (คลื่น) และ ข้อมูล) ที่สามารถเกิดขึ้นได้ ในทางทฤษฎี  แต่ผมไม่เคยได้ยินว่า ความเร็วแสง เป็น ความเร็วสัมบูรณ์ ผมคิดว่า อุณหภูมิองศาเคลวิน คือ อุณหภูมิสัมบูรณ์ (มิใช่ 0 K) ครับ หากผมเข้าใจผิดพลาดตรงไหน ช่วยแนะด้วย จากคุณ : nonlocality เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 52 03:25:04

ความคิดเห็นที่ 15 0 K เป็นสมมติฐานที่ว่าโมเลกุลหยุดสั่น (ยังติดเรื่องว่า 0 K เป็นทฤษฎีที่ยังขาดการประจักษ์) แต่ไม่ได้หมายความว่าวัตถุที่เคลื่อนที่จะไม่มีอุณหภูมิ เพราะมันเป็นเรื่องระดับโมเลกุล คล้ายๆกับเรื่องของการให้พลังงานกลเพื่อให้เกิดปฏิกิริยาเคมี ดังนั้นประเด็นเรื่องความเร็วแสงจึงกลายเป็นคนละประเด็นกับอุณหภูมิ หากแต่จะเกี่ยวข้องที่แสงใดๆนั้นมีความถี่ที่ทำให้โมเลกุลสั่นได้ครับ จากคุณ : ทะเลคราม (blueocynia) เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 52 03:25:57

ความคิดเห็นที่ 16 สุดท้ายแล้ว คำว่า สัมพัทธ์ หรือ สัมบูรณ์ นั้นขึ้นอยู่กับกรอบของ "ผู้สังเกตุ" ด้วยหรือเปล่าคะ สมมุติ ก้อนหิน 1 ก้อน มีอุณหภูมิ X ถ้าก้อนหิน เคลื่อนที่ด้วยความเร็วเข้าใกล้แสง (โดยไม่ีมีการดูด หรือคายความร้อน ) ก้อนหินจะมีอุณหภูมิเปลี่ยนไปเท่าไร จากคุณ : mint_la เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 52 03:26:54

ความคิดเห็นที่ 17 เรื่องของสัมพันธ์และสัมบูรณ์ก็อยู่ที่พื้นฐานของความรู้นั้นแหละครับ เรื่องบางเรื่อง ณ ช่วงเวลาหนึ่งเราก็ตรึงมันเอาไว้เพื่อศึกษาเรื่องนึง พอต่อมาอีกก็พบว่าสิ่งที่ตรึงมันเคลื่อนไหวได้ ก็ศึกษาต่อไปได้ว่ามันเคลื่อนไหวอย่างไร เหมือนกับว่ายิ่งกรอบกว้างสิ่งสัมพันธ์ก็จะเติบโตขึ้น และสิ่งสัมบูรณ์ก็จะยุบตัวลง สำหรับอีกคำถาม ถ้าเป็นกรณี ณ สูญญากาศ ความเร็วไม่มีผลต่ออุณหภูมิ ถ้าใครมีข้อมูลเรื่องนี้ก็ช่วยเพิ่มเติมให้หน่อยนะครับ จากคุณ : ทะเลคราม (blueocynia) เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 52 03:40:43

ความคิดเห็นที่ 18 แสง vs. อุณหภูมิ แสงเป็นพลังงานในรูปแบบหนึ่ง แสงหนึ่งหน่วย (หนี่งควอนต้า) มีพลังงานเท่ากับ ผลคูณระหว่าง ค่าคงที่ของพลังค์ h และ ค่าความถี่ของแสง f ขณะที่ อุณหภูมิ เป็นพลังงานในอีกรูปแบบหนึ่งที่อยู่ในโมเลกุล (จากมุมมองหนึ่งของนิยามของอุณหภูมิ) ซึ่ง พลังงานนี้เรียกว่าพลังงานความร้อน (thermal energy) มีค่าเท่ากับ (3/2) kT โดย k คือ ค่าคงที่ Boltzmann สำหรับโมเลกุลอิสระ ที่ 0 K เราเชื่อว่า โมเลกุลอิสระ จะหยุดนิ่ง (มิใช่ทุกอย่างหยุดนิ่ง) ในขณะที่แสงที่ 0 K ยังคงเคลื่อนที่ด้วยความเร็วแสง (เพราะไม่มีตัวแปรอุณหภูมิในชุดสมการแมกเวลล์) ในระบบที่ประกอบด้วยโมเลกุลอิสระ และ แสง  ค่าความเร็วแสงนี้ จะมีค่า น้อยกว่า c เพราะว่า เมื่อมีอนุภาคอยู่ในระบบ แสงจะมีความเร็วเท่ากับ c/n โดย n > 1 เสมอ (n = ดัชนีหักเหของแสง และ มีค่า เท่ากับ 1 ในสุญญากาศเท่านั้น) เมื่อแสงกระทบอนุภาค อาจจะถูกดูดกลืน และ กลายเป็นพลังงานความร้อน และทำให้อุณหภูมิของระบบเพิ่มขึ้น เมื่อมีแสงในระบบ เท่าที่บรรยายมาทั้งหมด ทำให้ผมคิดว่า แสงไม่มีส่วนเกี่ยวข้องอย่างลึกซึ้งกับอุณหภูมิสูงสุด (หรืออาจจะมี แต่ผมไม่ทราบ ?) แก้ไขเมื่อ 29 ก.ย. 52 04:15:26 จากคุณ : nonlocality เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 52 04:04:40

ความคิดเห็นที่ 19   ถ้าสนใจเรื่องอุณหภูมิกับทฤษฎีสัมพัทธภาพ แนะนำให้เข้าไปใน Google และ search คำว่า Unruh effect ซึ่งกล่าวถึงการที่ผู้สังเกตที่เคลื่อนที่ด้วยความเร่งคงที่จะรู้สึกถึง Black body radiation (ซึ่งก็บอกถึงอุณหภูมินั่นแหละ) ในขณะที่ผู้สังเกตในกรอบเฉื่อยจะไม่รู้สึก จริงๆ แล้วเรื่องนี้เป็นผลของทั้งจากสัมพัทธภาพ และ ทฤษฎีสนามควอนตัม ส่วนค่าอุณหภูมิสูงสุดที่เป็นไปได้ ก็เข้า Google อีกนั่นแหละ แล้ว search คำว่า Hagadorn Temperature อธิบายคร่าวๆ ก็คือ ถ้าเพิ่มพลังงานให้ระบบมากจนถึงจุดหนึ่ง แทนที่จะไปเพิ่มอุณหภูมิ ระบบจะเอาพลังงานไปสร้างอนุภาคเพิ่มแทน อุณหภูมิจะไม่เพิ่มขึ้นกว่าค่านี้ พบได้ในทฤษฎีพวกนิวเคลียร์ฟิสิกส์ และทฤษฎีสตริง ความจริงไม่ต้องไปถึงสัมพัทธภาพก็ได้ ... เอาแค่ non-relativistic นิยามของอุณหภูมิก็มีสิ่งที่น่าสนใจ โดยทั่วไปถ้าพูดถึงอุณหภูมิของระบบก๊าซคนมันจะท่องกันว่า อุณหภูมิขึ้นกับพลังงานจลน์ของก๊าซในระบบ ซึ่งจริงๆ ไม่ค่อยจะตรงนัก อาจจะลองพิจารณาตัวอย่างต่อไปนี้ สมมติเอามีแก้วสองใบ ใบแรกใส่น้ำวางไว้บนโต๊ กับอีกใบใส่น้ำแข็งแล้วเอาขึ้นเครื่องบินเจ็ทหรือใส่จรวดยิงออกนอกโลกก็ได้ กะว่าให้เร็วกว่าอัตราเร็วเสียงซักห้าเท่า คำถามคือ ในกรณีนี้น้ำกับน้ำแข็ง ใครมีพลังงานจลน์มากกว่า? และ ในกรณีนี้ น้ำกับน้ำแข็งใครมีอุณหภูมิมากกว่ากัน? จากคุณ : ผ่านมา เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 52 05:43:02 A:124.120.116.8 X: TicketID:191544

ความคิดเห็นที่ 20 อุณหภูมิเป็นสิ่งสัมพัทธ์หรือสัมบูรณ์ บางทีบอก ศูนย์องศาสัมบูรณ์ บางทีว่า อุณหภูมิสัมพัทธ์ อยากรู้ว่า อุณหภูมิเป็นสิ่งสัมพัทธ์หรือสัมบูรณ์ ุอุณหภูมิเป็นการวัดความร้อนวัตถุหรือการสั่นของโมเลกุล ศูนย์องศาสัมบูรณ์(absolute zero)เป็นอุณหภูมิที่ทฤษฎีเชื่อว่าไม่มีความร้อน หรือโมเลกุลหยุดสั่น เป็นขีดจำกัดต่ำสุดของอุณหภูมิ ไม่อาจต่ำกว่านี้ได้ ความคิดเห็นที่ 10   อุณหภูมิสัมพัทธ์ (relative temperature)อุณหภูมิของระบบ สูงขึ้น หรือ ต่ำลง เทียบกับ อุณหภูมิอ้างอิง เห็นด้วยกับความคิดเห็นที่ 10 จากคุณ : ชื่อนี้ได้มั้ยฮะ เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 52 08:33:15

ความคิดเห็นที่ 21 การวัดอุณหภูมิแล้วแต่กำหนดสเกล อาจเนื่องจากมีน้ำอยู่ทั่วไป แบ่งอุณหภูมิที่น้ำเป็นน้ำแข็งถึงน้ำเดือดเป็น 100 ขีดโดยคุณเซลเซียส The Celsius scale, invented by Swedish Astronomer Anders Celsius (1701-1744), has 100 degrees between the freezing point (0 C) and boiling point (100 C) of pure water at sea level air pressure. The term "Celsius" was adopted in 1948 by an international conference on weights and measures. http://inventors.about.com/library/inventors/blthermometer.htm จากคุณ : ชื่อนี้ได้มั้ยฮะ เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 52 08:43:48

ความคิดเห็นที่ 22 Charles กับ Gay-Lussac แยกกันศึกษาผลของอุณหภูมิต่อก๊าสที่ความดันคงที่ ก๊าสร้อน-ปริมาตรเพิ่ม และตรงข้าม เคลวินเอากราฟการทดลองนี้คำนวนหาว่าปริมาตรก๊าสเท่า 0 อุณหภูมิเท่าไหร่ ได้ -273.15 องศาC คิดว่าอุณหภูมินี้คือค่าต่ำสุด ไม่อาจต่ำกว่านี้อีกแล้ว นั่นคือไม่มีความร้อนที่ -273.15 องศาC หรือคือ ศูนย์จริงๆ หรือที่ว่า ศูนย์องศาสัมบูรณ์(absolute zero) เคลวินจึงเสนอสเกลใหม่ให้ -273.15 องศาC เท่า 0K เพิ่มเท่าขีดเซลเซียส Charles and Gay-Lussac each studied the effect of temperature on a sample of gas at a constant pressure.  Gas was placed in a tube with a mercury plug over it.  This provided a constant external pressure.  As the gas was heated, the volume of the increased.  As the gas was cooled, the volume decreased. Lord Kelvin used this same experiment to calculate the value of absolute zero, -273.15 oC.  At this temperature, the volume of an ideal gas goes to zero. http://butane.chem.uiuc.edu/cyerkes/Chem102AEFa07/Lecture_Notes_102/lecture%2016.htm แก้ไขเมื่อ 29 ก.ย. 52 09:06:21 จากคุณ : ชื่อนี้ได้มั้ยฮะ เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 52 09:03:58

ความคิดเห็นที่ 23 ศูนย์องศาสัมบูรณ์(absolute zero) ที่กำหนดเป็น 0 เอนโตรปี เป็นอุณหภูมิเย็นที่สุดตามทฤษฎีที่เป็นได้ แต่ไม่สามารถทำได้ http://en.wikipedia.org/wiki/Absolute_zero Absolute zero is a temperature marked by a 0 entropy configuration. It is the coldest temperature theoretically possible and cannot be reached by artificial ... รูปจาก http://www.pa.msu.edu/sciencet/ask_st/012992.html จากคุณ : ชื่อนี้ได้มั้ยฮะ เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 52 09:18:10

ความคิดเห็นที่ 24 นักฟิสิกส์เคยทำอุณหภูมิได้ต่ำสุด 700 nanokelvins Physicists here recently cooled atoms to 700 nanokelvins, the coldest temperature ever recorded for matter. http://physics.nist.gov/News/Releases/n94-30.html จากคุณ : ชื่อนี้ได้มั้ยฮะ เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 52 09:26:46

ความคิดเห็นที่ 25 ถ้าใครก็ตามสามารถวัด หรือสร้าง 0 K ได้แล้วล่ะก็เค้าคนนั้นจะพลิกโฉมหน้าทฤษฏีทางฟิสิกส์ เปิดสู่หน้าต่างบานใหม่ทันที หลักความไม่แน่นอนของไอเซนเบิร์ก จะไม่เป็นจริงอีกต่อไป และเราจะสามารถหยุดการเคลื่อนที่ของแสง หรือก็คือการหยุดเวลาได้นั้นเอง จากคุณ : kanoomtan เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 52 09:27:18

ความคิดเห็นที่ 26 ส่วนอุณหภูมิสูงสุดคิดว่าไม่มีขีดจำกัด http://www.newton.dep.anl.gov/askasci/phy00/phy00027.htm >There is no maximum temperature. Temperature is a measure of the average >kinetic energy of particles, which can be no less than zero (hence absolute >zero), but there is no upper limit. > >It is true that at high enough temperatures, things like molecules and even >atoms will fly apart into their constituents. That does not mean that the >pieces can't still move even faster. So any given material may not endure >at high temperatures, but that does not at all mean that even higher >temperatures aren't possible. > >Richard E. Barrans Jr., Ph.D. >Assistant Director >PG Research Foundation, Darien, Illinois จากคุณ : ชื่อนี้ได้มั้ยฮะ เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 52 09:36:41

ความคิดเห็นที่ 27   >> จากความเห็นที่ 19 รู้สึกว่า Dr. Barrans จะไม่ได้คำนึงถึงผลของสัมพัทธภาพและควอนตัมฟิสิกส์ แน่นอนว่าถ้าคิดเฉพาะ Classical Physics ที่บอกว่า "That does not mean that the pieces can't still move even faster." ก็อาจจะถูก แต่อย่าลืมว่าอนุภาคไม่สามารถเคลื่อนที่ได้เร็วกว่าอัตราเร็วของแสง ยิ่งอุณหภูมิสูงขึ้น อัตราเร็วก็ยิ่งมากขึ้น และเมื่อถึงจุดหนึ่งผลของสัมพัทธภาพพิเศษก็ต้องเข้ามา (เพราะธรรมชาติมันเป็นอย่างนั้น) เมื่อวัตถุเคลื่อนที่เข้าใกล้อัตราเร็วแสง จะต้องต้องใช้พลังงานมากมายมหาศาลในการทำให้อนุภาคมีอัตราเร็วสูงขึ้นเพียงเล็กน้อย ซึ่งจะเป็นการประหยัดพลังงานกว่าที่จะเอาพลังงานนั้นมาสร้างอนุภาคใหม่ แนะนำว่าลองค้นเพิ่มเติมใน google ดูครับ อย่างที่บอกไว้ในความเห็นที่ 19 จากคุณ : ผ่านมา again เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 52 11:52:03 A:161.200.255.162 X: TicketID:191544

ความคิดเห็นที่ 28   ^ ^ ความเห็นที่แล้วเขียนผิดนิดหน่อย เริ่มต้นประโยคต้องเป็น จากความเห็นที่ 26 ไม่ใช่ 19 จากคุณ : ผ่านมาและผ่านไป เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 52 11:54:30 A:161.200.255.162 X: TicketID:191544

ความคิดเห็นที่ 29   แก้สะกดนิดของคุณ ผ่านมา Hagedorn temperature ถามคุณผ่านมาเกี่ยวกับการทดลองที่เอาก๊าซขึ้นเครื่องบินว่า เวลากลุ่มก๊าซเริ่มต้นที่มีการกระจายตัวแบบ Maxwell-Boltzman ถูกนำไปกับเครื่องบินโดยที่มีความเร็วคงที่ มันยังประพฤติตัวสอดคล้องกับการกระจายตัว Maxwell-Boltzman อยู่หรือไม่ ถ้าเราจะบอกว่า universal translational motion ไม่มีผลต่ออุณหภูมิ การกระจายตัวควรมีรูปแบบปรากฏเหมือนเดิมทั้งสองกรอบเพื่อให้สอดคล้องกับหลักสัมพัทธภาพ แต่ถ้าเราดูที่ Maxwell-Boltzman distribution มันไม่ได้เป็นเช่นนั้น... จากคุณ : boosted temperature เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 52 12:01:23 A:125.24.147.75 X: TicketID:038839

ความคิดเห็นที่ 30 เป็นโจทย์ที่หินอย่างเหลือเชื่อครับ แม้แต่ตอนนี้ ประเด็นว่าอุณหภูมิที่สัมผัสจะเปลี่ยนแปลงอย่างไรในสภาพความเร็วสูงก็ยังเป็นประเด็นใน Relativity Thermodynamic ซึ่งมีกระแสความเชื่ออยู่หลายทางคือ TR = To และอีกด้านก็ว่า TR=To(1-v2)0.5 และก็ยังมีบางข้อสรุปที่ว่า TR=To(1-v2)-0.5 โดยความเห็นส่วนตัวของผม อุณภูมิเป็นสิ่งบ่งชี้การเคลื่อนไหวของอนุภาค หรือจะเรียกการสั่นของโมเลกุลตาม คห 10 ซึ่งการถ่ายเทของอุณหภูมิจะเกิดขึ้นในระดับของการเคลื่อนไหวที่ต่างกัน อุณหภูมิมิได้ขึ้นอยู่กับมวล ไม่ว่าจะมวลมากหรือน้อยก็สามารถมีระดับของการเคลื่อนไหวของการถ่ายเทพลังงานได้ อุณหภูมิจึงมีลักษณะเป็นศักย์พลังงาน ถ้าเราพิจารณา ประเด็นของศักย์อุณหภูมิกับพลังงานภายในของระบบ dU = dQ + PdV = TdS + PdV การเปลี่ยนแปลงของความเร็วทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของ dV ซึ่งเป็นองค์ประกอบของ มิติทั้งสาม ซึ่งเกี่ยวเนื่องกับความเร็วที่เพิ่มขึ้น ซึ่งส่งผลถึง P โดย P = RT/V dU = T(dS+RdV/V) ซึ่งจะเห็นว่าพจน์อุณหภูมิแยกออกมาจากพจน์ของมิติ นั่นคือการเปลี่ยนแปลงของมิติความยาวตามความเร็วแสง จะส่งผลถึง มิติซึ่งส่งผลถึงปริมาตร แต่อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่เรามีการปรับการเปลี่ยนของปริมาตรดังกล่าวตาม relativity dV/V = ln(V2/V1) แต่ VR = V0. f(v/C) มันก็ตัดกันเองจน V2R/V1R = V2o/V1o อยู่ดี ในกรณีที่แยกว่า dT = dP/dt คือเป็นอัตราการถ่ายเทของโมเมนตัมต่อเวลา เราก็รู้ว่า ทั้งพลังงานนั้นยังคงที่ดังนั้น ในแง่นี้ อุณหภูมิก็ไม่น่าจะมีการสังเกตการณ์ที่แตกต่างไม่ว่าจะด้วยความเร็วใด และถ้าผนวกเข้ากับกฏทรงมวล หรือการคงที่ของพลังงาน ถ้าอัตราของ TR มีความแตกต่างจาก To มันน่าจะเกิดเหตุการณ์ที่พลังงานสามารถไหลจากศักย์พลังงานความร้อนเสมือนที่จริงๆแล้วเท่ากันแต่ถูกทำให้ศักย์พลังงานเสมือนต่างกันด้วยความเร็ว ซึ่งน่าจะเป็นการล้มกฏข้อที่ 2 ของเทอร์โมไดนามิกส์ เพราะมีการสร้างศักย์พลังงานขึ้นมาได้ สำหรับผมเองก็คงยังต้องศึกษาต่อไปในเรื่องนี้ http://arxiv.org/PS_cache/gr-qc/pdf/9505/9505045v1.pdf http://arxiv.org/PS_cache/physics/pdf/0505/0505004v2.pdf ลิงค์ก็ผิด wording ก็ผิด เฮ้อ ต้องมาแก้อีก แก้ไขเมื่อ 29 ก.ย. 52 12:18:02 จากคุณ : Darth Prin เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 52 12:15:27

ความคิดเห็นที่ 31   ^^ โอ้ว ขอบคุณที่ช่วยแก้ตัวสะกด ผมรีบพิมพ์เลยสะกดผิดบ่อย :) คำถามที่ boostedtemp ถาม ตรงประเด็นดี ตอบสั้นๆ ก็คือ สำหรับผู้สังเกตบนเครื่องบิน การกระจายตัวของอุณหภูมิ ควรจะเป็น Maxwell-Boltzman distribution ตามปกติ เพราะเขาอยู่ใน center of mass frame ของก๊าซ (ไม่คิดผลของควอนตัม และถือว่าอัตราเร็วเครื่องบินน้อยกว่าอัตราเร็วแสงมากๆ เพื่อตัดผลของสัมพัทธภาพพิเศษออกไป) สำหรับผู้สังเกตบนพื้น การกระจายตัวก็จะเป็น Maxwell-Boltzman distribution เช่นกัน แต่เป็นการกระจายตัวของอัตราเร็วรอบ center of mass ของระบบ (หรือ |v_gas - v_cm| เมื่อ v_cm เป็น center of mass's velocity) แน่นอนว่าถ้าดูกราฟการกระจายตัวของอัตราเร็วก๊าซ หรือ v_gas มันก็จะรูปร่างไม่เหมือน Maxwell-Boltzmann distribution แต่เป็น Maxwell-Boltzman ที่ค่า v_rms, v_max, v_mean มีค่าเลื่อนไปเป็น v_rms + v_cm, v_max + v_cm และ v_mean + v_cm ตามลำดับ และนี่คือประเด็นของคำถามในความเห็นที่ 19 ว่าที่จริง แล้วเรานิยามอุณหภูมิจาก distribution รอบ center of mass ของระบบ ไม่ใช่นิยามจากพลังงานจลน์เฉลี่ยของก๊าซ (v_rms) และถ้านิยามตามนี้ คือ อุณหภูมิขึ้นกับ distribution หรือการกระจายตัว (รอบ cm) ก็จะไม่มีอะไรขัดกับกฎสัมพัทธภาพของกาลิเลโอ ว่าแต่อะไรคือ universal translational motion :) จากคุณ : ผ่านมา again เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 52 12:43:08 A:161.200.255.162 X: TicketID:191544

ความคิดเห็นที่ 32 ในส่วนการคิดแบบ heat transfer อัตรา dE/dt ที่สัมผัสของจุดอ้างอิงสองจุด จุดอ้างอิงบนพื้นโลกจะสังเกตว่าพื้นที่ผิวที่ปรากฏต่อตนน้อยกว่าพื้นที่ผิวจริง และในขณะเดียวกับการสูญเสียของรังสีความร้อนจากหรือสู่วัตถุความเร็วใกล้แสง อัตราของการสูญเสียจะเปลี่ยนตามกรอบเวลาอ้างอิงที่ยาวนานขึ้นตามกรอบสัมพัทธภาพ แต่โดยรวม dE/dt ก็น่าจะเท่ากันไม่ว่าในกรอบอ้างอิงใด โดยไม่มีความจำเป็นใดๆที่จะปรับอุณหภูมิตามความเร็วนั้นๆ จากคุณ : Darth Prin เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 52 13:23:29

ความคิดเห็นที่ 33 สวัสดียามบ่าย คุณ nonlocality  บอกว่า ความเร็วแสงไม่ใช่สิ่งสัมบูรณ์หรอกเหรอคะ ตกใจเลย ตรงนี้เรา เข้าใจผิดมาตลอดหรือนี่ อยากได้ นิยามคำว่าสัมบูรณ์หรือสัมพัทธ์น่ะค่ะ ? อย่างเวลา ที่เค้าว่ากันว่าเวลาเป็นสิ่งสัมพัทธ์ เค้าดูจากอะไรเหรอคะ คห.ๆอื่นขออ่านก่อน ขอบคุณทุกๆคนที่เข้ามาด้วยนะคะ คุณบัตรผ่านสองคนคุยกันสนุกดี เด๋วขอทำความเข้าใจแปปนึงนะคะ แล้วอยากให้มี discussion กันเองแบบนั้นด้วยว่าไม่เห็นด้วย หรือเห็นด้วยกับแบบของใคร เพราะอะไรถึงไม่เป็นเช่นนั้น เช่น 10 คนตอบ 10 อย่างเลยไม่รู้ว่าของคนไหนถูก แก้ไขเมื่อ 29 ก.ย. 52 13:53:54 จากคุณ : mint_la เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 52 13:26:45

ความคิดเห็นที่ 34 บางที สิ่งที่เห็นว่า สัมบูรณ์ อาจเป็นเพราะ เรายังไม่เจอ ว่ามันสัมพัทธ์กับอะไรอยู่ ถ้าหลัก ปฏิสุมุปทา สัมบูรณ์ ทุกอย่าง มีเหตุสัมพันธ์ต่อเนื่อง แบบ ความเร่วที่ตัวคุณ ก็ยังต้องมีเหตุมาจากตัวคุณ หรืออะไรบางอย่าง อาจจะไม่มี ค่าสัมบูรณ์จริงๆ มาช่วยทำให้กระทู้ ไปไกลเข้าไปอีก เดี๋ยวมาต่อครับ จากคุณ : aLITTLEspaceAround7day เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 52 13:27:59

ความคิดเห็นที่ 35   เป็นคำถามยากจริงๆ ไม่ค่อยรู้เรื่องเท่าไหร่ จาก คห 31 การวัดอุณหภูมิก๊าซ วัดจากการกระจายตัว จาก cm ไม่ได้วัดจากพลังงานจลน์ สรุปว่า อุณหภูมิ ไม่เปลี่ยนตามความเร็ว ใช่ไหมครับ แสดงว่าอุณหูมิเป็นสิ่งสัมบูรณ์ใช่หรือเปล่า พยายามจับใจความจากข้างบนๆ แต่ศักย์พลังงาน ไม่เกี่ยวกับมวลจริงๆหรือครับ วัตถุสองก้อน มวลเท่ากัน อุณหภมิต่างกัน เอาใส่จรวดเร่งความเร็ว ด้วยแรงเท่ากัน จะไปด้วยความเร็วเท่ากันหรือเปล่า ถ้าไม่เท่า แสดงว่าเราต้องคิดมวลรวมในระบบ เป็นรูปพลังงาน มวล สัมพัทธ์ ไม่ใช่มวลนิ่งใชไหมครับ ถามเอง งงเอง หน่อยๆ ช่วยหน่อยนะครับ จากคุณ : mm เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 52 14:21:27 A:222.123.199.180 X: TicketID:207667

ความคิดเห็นที่ 36   ปล มวลนิ่งนี้ ไม่เกิ่ยวกับอุณหภูมิ ใช่ไหมครับ จากคุณ : mm เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 52 14:23:14 A:222.123.199.180 X: TicketID:207667

ความคิดเห็นที่ 37 สำหรับ คคห 35 ศักย์พลังงานไม่เกี่ยวกับมวล แต่การเปลี่ยนแปลงของมวลเชิงสมบัติอาจเกิดความเปลี่ยนแปลงของศักย์พลังงาน เพราะในการเปลี่ยนแปลงทางเคมีที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของสมบัติ อาจมีการเปลี่ยนแปลงของศักย์พลังงานโดยที่พลังงานรวมยังเท่าเดิม ถ้าเปรียบเทียบคงเหมือนการเทน้ำจากถ้วยทรงต่ำลงถ้วยทรงสูงปริมาตรเท่ากันแต่ระดับความสูงของน้ำไม่เหมือนกัน มวลในที่นี้คือภาชนะ ตรงนี้ผมเองแม้ไม่เห็นด้วยกับแนวคิดเรื่องที่อุณหภูมิจะมีการเปลี่ยนตามความเร็วที่เข้าใกล้แสง แต่ก็ไม่สามารถปฏิเสธสมบัติของวัตถุที่อาจเปลี่ยนแปลงและเปลี่ยนขอบเขตของศักยพลังงานได้เต็มปาก แต่สำหรับที่ผมเชื่อ น้ำ 1 ลิตร 30 องศา คิดพลังงานเทียบกับ 0 องศาก็ 126 kJ น้ำ ครึ่งลิตร อุณหภูมิ 40 องศา คิดพลังงานเทียบกับ 0 องศาก็ 84 kJ เอาภาชนะทั้งสองมาวางชิดกัน พลังงานก็ยังถ่ายเทจากน้ำครึ่งลิตรไปยังน้ำครึ่งลิตร เพราะมันไหลจากศักย์พลังงานสูงไปยังศักย์พลังงานต่ำไม่ใช่พลังงานมากกว่าไหลไปสู่พลังงานน้อยกว่าครับ จึงคิดว่าอุณหภูมิไม่ใช่สิ่งสัมพัทธ์กับมวล จากคุณ : Darth Prin เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 52 15:15:42

ความคิดเห็นที่ 38 กลับมาอ่านความเห็นตัวเอง รู้สึก มึนงง กับภาษาที่ตัวเองใช้ ขอแสดงความเห็นเพิ่มเติมอีกนิดหน่อยก็แล้วกัน ใน คห 24 คุณ ชื่อนี้ได้มั้ยฮะ หาลิงค์มาให้อ่าน ลองเข้าไปดูแล้ว เข้าใจว่า มันเป็นเอกสาร ปี 1994 (15 ปีที่แล้ว) เท่าที่ผมทราบ ปี 1995 เขาก็ได้ 20 nK แล้ว จาก http://www.sciencemag.org/cgi/content/short/269/5221/198 และ การวิจัยด้านนี้ กำลังได้รับความสนใจมาก จึงคิดว่า ปัจจุปัน อุณหภูมิที่ทำได้น่าจะอยู่ที่ ระดับ nK (เดาเอา) ตอบคุณ mint_la (คห 33) ผมเข้าใจว่า ความเร็วแสงเป็นค่าคงที่ตัวหนึ่ง มันเป็นค่าความเร็วสูงสุดใน ทฤษฏีสัมพัทธภาพ แต่จากที่ผมรู้ ผมไม่เคยเห็นใครบอกว่า ความเร็วแสงเป็นความเร็วสัมบูรณ์ (absolute velocity) ผมคิดว่า เราอาจมองว่า ความเร็วแสงนี้ เป็น สิ่งสัมบูรณ์ ตามความคิดของคุณ mint_la ก็ได้ ผมว่าไม่ได้ผิดอะไร ส่วนเรื่อง นิยามของค่าสัมพัทธ์ หรือ ค่าสัมบูรณ์ คงต้องหา ผู้รู้ ท่านอื่น ๆ ช่วยชี้แจงเพิ่มเติม แก้ไขเมื่อ 29 ก.ย. 52 16:31:02 แก้ไขเมื่อ 29 ก.ย. 52 16:28:25 จากคุณ : nonlocality เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 52 16:26:51

ความคิดเห็นที่ 39 ความคิดเห็นที่ 26  ส่วนอุณหภูมิสูงสุดคิดว่าไม่มีขีดจำกัด คิดดูอีกทีฟิสิกส์ไม่ชอบค่าอนันต์ อุณหภูมิสูงสุดอาจมีขีดจำกัำด ตรงข้ามศูนย์องศาสัมบูรณ์(absolute zero) ร้อนสัมบูรณ์(Absolute hot) อุณหภูมิสูงสุด 1.416785X10^32  K เรียกอุณหภูมิพลางค์ ทฤษฎีสตริงเชื่อว่าอุณหภูมิสูงสุด 10^30 K เรียก Hagedorn temperature http://en.wikipedia.org/wiki/Absolute_hot Current cosmological models posit that the highest temperature is 1.416785X10^32 kelvin, also known as the Planck temperature.[2] Some forms of string theory allow a temperature of 10^30 K, known as Hagedorn temperature. จากคุณ : ชื่อนี้ได้มั้ยฮะ เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 52 17:40:38

ความคิดเห็นที่ 40 อุณหภูมิต่ำสุดมีคนทำลดลงได้เรื่อยๆ อาจถึง 100 พิโคเคลวิน นาโน 10^-9    พิโค 10^-12 Low Temperature Lab at the Helsinki University of Technology on August 12, 2000. They cooled a piece of rhodium metal to 100 pK lowest temperature a gas has been cooled to is 450 pK. Ketterle, a German physicist from MIT http://wiki.answers.com/Q/What_is_the_lowest_temperature_ever_reached จากคุณ : ชื่อนี้ได้มั้ยฮะ เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 52 18:31:56

ความคิดเห็นที่ 41 ความคิดเห็นที่ 19   ใบแรกใส่น้ำวางไว้บนโต๊ะ กับอีกใบใส่น้ำแข็งแล้วเอาขึ้นเครื่องบินเจ็ท น้ำกับน้ำแข็งใครมีพลังงานจลน์มากกว่า?น้ำกับน้ำแข็งใครมีอุณหภูมิมากกว่ากัน? คำถามนี้อาจพิจารณาว่า Classical หรือ Relativistic Thermodynamics เป็นการแต่งงานอุณหพลศาสตร์กับสัมพัทธภาพเฉพาะ ระยะข้าวใหม่ปลามัน ยังไม่รู้ชัดว่าพารามิเตอร์อุณหพลศาสตร์เปลี่ยนยังไงที่ความเร็วสูงๆ http://www.aip.org/pnu/2007/split/843-1.html In general the effort to marry thermodynamics with special relativity is still at an early stage. It is not exactly known how several thermodynamic parameters change at high speeds. Absolute zero, Dunkel says, will always be absolute zero, even for quickly-moving observers. But producing proper Lorentz transformations for other quantities such as entropy will be trickier to do. (Cubero et al., Physical Review Letters, 26 October 2007) ไอน์สไตน์กับพลางค์เคยคิดว่าเทอร์โมมิเตอร์เคลื่อนที่วัดได้เย็นลง คนอื่นว่าร้อนขึ้น ปัญหาคือจะวัดอุณหภูมิยังไง Einstein and Planck thought, at one time,that the speeding thermometer would measure a lower temperature,while others thought the temperature would be higher. One problem is how to define or measure a gas temperature in the first place. จากคุณ : ชื่อนี้ได้มั้ยฮะ เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 52 19:10:09

ความคิดเห็นที่ 42 #41 ลองออกแบบการทดลองมาให้ค่ะ พอดูออกไหมคะ จากคุณ : mint_la เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 52 19:29:17

ความคิดเห็นที่ 43 เรียบเรียง และรวบรวมคำถามทั้งหมดนะคะ 1.อุณหภูมิเป็นสิ่งสัมพัทธ์หรือสัมบูรณ์ และเพราะเหตุใดจึงเป็นเช่นนั้นคะ 2.อุณหภูมิต่ำสุดคือ 0 K อุณหภูมิสูงสุดมีไหม? 3.เฉพาะ 0 K หรือเปล่า ที่เรีกว่าสัมบูรณ์(Absolute Zero) 4.อะไรที่มีอุณหภูมิ 0 K 5.ทำไม 0 K ทุกสิ่งทุกอย่างจึงหยุดนิ่ง 6.แสงมีอุณหภูมิเท่าไหร่ เป็นขีดจำกัดบน ของอุณหภูมิหรือเปล่า 7.คำว่า สัมพัทธ์ หรือ สัมบูรณ์ นั้นขึ้นอยู่กับกรอบของ "ผู้สังเกตุ" ด้วยหรือเปล่า (นิยามของ สัมพัทธ์ กับ สัมบูรณ์ คืออะไร ) 8.ความเร็วแสง เป็นสิ่งสัมบูรณ์หรือเปล่า แก้ไขเมื่อ 29 ก.ย. 52 20:37:56 จากคุณ : mint_la เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 52 20:34:23

ความคิดเห็นที่ 44 อ่าน คห ของท่านอื่น ๆ แล้ว คิดว่า แก่นของทฤษฎีทางฟิสิกส์ ยังสามารถถูกปรับปรุงได้อีก เพื่อให้มันสอดคล้องกันมากยิ่งขึ้น กลับมาประเด็นของท่าน จขกท (คห นี้ ผมขอแสดงเป็นครั้งสุดท้าย ในกระทู้นี้) 1.อุณหภูมิเป็นสิ่งสัมพัทธ์หรือสัมบูรณ์ และเพราะเหตุใดจึงเป็นเช่นนั้นคะ - อุณหภูมิในหน่วยเคลวิน เป็น อุณหภูมิสัมบูรณ์ อุณหภูมิใน หน่วยอื่น ๆ เป็นอุณหภูมิที่มีการนิยามเป็นอย่างอื่น และ มีมา ก่อนหน้าที่จะนิยามอุณหภูมิสัมบูรณ์ มาใช้ - อุณหภูมิสัมพัทธ์ คือ อุณหภูมิ(ในหน่วยใดก็ตาม) ที่อ้างอิง เทียบกับ อุณหภูมิอ้างอิง 2.อุณหภูมิต่ำสุดคือ 0 K อุณหภูมิสูงสุดมีไหม? - ไม่มีอุณหภูมิสูงสุด ในการวัดทางฟิสิกส์ เราทราบว่า อุณหภูมิ ดาวฤกษ์ มีค่า ในระดับ หลายพัน หรือ อาจถึง หมื่น เคลวิน นี่เป็นอุณหภูมิสูงสุดที่ผมทราบ แต่ไม่มีอะไรจำกัดตัวเลขนี้ แต่หากมองทางทฤษฎี (จินตนาการ) ผมอาจบอกว่า เอา มวลทั้งจักรวาลมาทำเป็นพลังงานความร้อน (E = mc2) อุณหภูมิ สูงสุดที่ได้ ก็มากกว่า 1032 เคลวิน ของพลังค์ 3.เฉพาะ 0 K หรือเปล่า ที่เรีกว่าสัมบูรณ์(Absolute Zero) - คิดว่าใช่ แต่หากพูดให้ถูกต้อง ต้องเป็น อุณหภูมิศูนย์ องศาสัมบูรณ์ (absolute zero temperature) เหตุที่คิด เช่นนั้นมาจาก คำตอบข้อ 1 4.อะไรที่มีอุณหภูมิ 0 K - ไม่มี เราไม่สามารถสร้างสถานะ  0 K ได้ เพราะขัดกับ หลักพื้นฐานทางฟิสิกส์ เช่น หลักความไม่แน่นอนของไฮเซนเเบก (Oh! ถ้าเอาควอนตัมมายุ่งด้วย ปัญหาจะยิ่งซับซ้อนไปกันใหญ่) 5.ทำไม 0 K ทุกสิ่งทุกอย่างจึงหยุดนิ่ง - มิใช่ทุกอย่างหยุดนิ่ง แต่เป็น อนุภาค (โมเลกุล) จะนิ่ง (ความเร็วเป็นศูนย์) ที่นิ่งเพราะไม่หลงเหลือพลังงานความร้อน ให้มันสั่น (อุณหภูมิ มี นิยามหนึ่งว่ามาจาก การกระจายความเร็วของอนุภาค) 6.แสงมีอุณหภูมิเท่าไหร่ เป็นขีดจำกัดบน ของอุณหภูมิหรือเปล่า - แสง (โฟตอน) เป็นพลังงานรูปหนึ่ง ไม่มีอุณหภูมิ ในตัว และ ผมคิดว่า ไม่เกี่ยวข้องกับขีดจำกัดบนของอุณหภูมิ เพราะ อุณหภูมิไม่มีขีดจำกัดบน 7.คำว่า สัมพัทธ์ หรือ สัมบูรณ์ นั้นขึ้นอยู่กับกรอบของ "ผู้สังเกตุ" ด้วยหรือเปล่า (นิยามของ สัมพัทธ์ กับ สัมบูรณ์ คืออะไร ) - อันนี้ ต้องรอ ผู้รู้ เรื่อง relativistic thermodynamics มาตอบ 8.ความเร็วแสง เป็นสิ่งสัมบูรณ์หรือเปล่า - ความเร็วแสงเป็นสิ่งสัมบูรณ์ (ตามทฤษฎีสัมพัทธภาพ) แต่ ไม่ใช่ ความเร็วสัมบูรณ์ ในความคิดผม ทั้งหมดนี้ เป็นความเห็นล้วน ๆ หากผิดพลาดก็ขออภัยด้วย จากคุณ : nonlocality เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 52 00:44:28

ความคิดเห็นที่ 45   คุณ mint_la มีคำถามที่ดูง่ายๆ แต่ตอบยากมาประจำเลย .... อ่านแล้วได้ความรู้ดีครับ จากคุณ : ฟหกด เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 52 01:43:01 A:124.120.223.212 X: TicketID:205742

ความคิดเห็นที่ 46 กรี๊ดดดดดดดดด ^^" 4 บัตรผ่านลึกลับมาตอบ กระทู้เราครบเลย อย่างดีใจมากๆเลยอ่ะค่ะ คุณ คนผ่านมา                     TicketID:191544 คุณ : boosted temperature  TicketID:038839 คุณ   : mm                         TicketID:207667 และสุดท้าย คุณ ฟหกด         TicketID:205742 ขอบคุณมากๆค่ะ น่าจะสมัครล๊อกอินกันน้าา ให้ใจสี่ดวง ------------------------------------------------------------------ ต่อของคุณ nonlocality  นอกจากจะเชี่ยวชาญด้าน math แล้ว ยังมีความรู้เรื่อง ฟิสิกส์เป็นอย่างมาก ขอบคุณค่ะ ขอบคุณ คุณ Ao+ กับคุณ พิซซ่าหน้าปลาเค็ม  blueocynia คุณ เมษ ชื่อนี้ได้มั้ยฮะ คุณ Darth Prin และคุณ kanoomtan ที่ให้ความรู้ด้วยค่ะ เข้ามาช่วยเสริมจนครบหมดทุกเรื่องเลย เข้าใจเรื่องอุณหภูมิอีกเยอะเลย ่ส่วนคนที่เข้ามาตอบแล้วเกิดไอเดีย แล้วเอาไปเขียนบล๊อก ก็ขอบคุณสำหรับความรู้ด้วยค่ะ ตามอ่านจนจบทั้งบล๊อกแล้ว ได้แง่คิดอะไรใหม่ๆอีกเยอะเลย ต้องขอขอบคุณด้วยค่ะ สุดท้ายขอบคุณทุกท่านอีกครั้งหนึ่ง ขอกลับไปอ่านอีกรอบถ้าไม่เข้าใจตรงไหน เด๋วจะกลับมาถามใหม่นะคะ ^^ จากคุณ : mint_la เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 52 05:53:01

ความคิดเห็นที่ 47 ความคิดเห็นที่ 43   1.อุณหภูมิเป็นสิ่งสัมพัทธ์หรือสัมบูรณ์ และเพราะเหตุใดจึงเป็นเช่นนั้น เป็นสัมบูรณ์เพราะไม่ต้องอ้างอิงอะไรก็ได้ ขึ้นกับสเกล-หน่วยวัด เป็นสัมพัทธ์ถ้าอ้างอิงกับกรอบใดๆ เช่นคนอุณหภูมิ 37C สูงกว่า 37C ว่าร้อน ต่ำกว่า 37C ว่าเย็น 2.อุณหภูมิต่ำสุดคือ 0 K อุณหภูมิสูงสุดมีไหม? ความคิดเห็นที่ 39 ผมเชื่อว่ามีอุณหภูมิสูงสุด ร้อนสัมบูรณ์(Absolute hot) ถ้าไม่มีกลัวว่าจะมีค่าอนันต์ 3.เฉพาะ 0 K หรือเปล่า ที่เรีกว่าสัมบูรณ์(Absolute Zero) รูปความคิดเห็นที่ 23 Absolute Zero คือจุดไม่มีความร้อน สเกลไหนก็ได้ Absolute Zero อยู่ที่ 0K,-273.15C,-459F 4.อะไรที่มีอุณหภูมิ 0 K เป็นอุณหภูมิทางทฤษฎีว่าต่ำสุดไม่มีความร้อน เชื่อว่าไม่สามารถทำได้ 5.ทำไม 0 K ทุกสิ่งทุกอย่างจึงหยุดนิ่ง อุณหภูมิวัดความร้อนหรือการสั่นของโมเลกุล ไม่มีความร้อนคือหยุดสั่น-นิ่ง 6.แสงมีอุณหภูมิเท่าไหร่ เป็นขีดจำกัดบน แสงมีอุณหภูมิต่างๆตามสี รูปข้างล่าง 7.คำว่า สัมพัทธ์ หรือ สัมบูรณ์ นั้นขึ้นอยู่กับกรอบของ "ผู้สังเกตุ" ด้วยหรือเปล่า การวัดมีสเกลเรียกว่าสัมบูรณ์ การวัดอ้างอิงกรอบ(frame)เรียกสัมพัทธ์ 8.ความเร็วแสง เป็นสิ่งสัมบูรณ์หรือเปล่า ไม่แน่ใจว่ามีใครใช้ว่า ความเร็วแสงเป็นสิ่งสัมบูรณ์ จากคุณ : ชื่อนี้ได้มั้ยฮะ เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 52 08:47:37

ความคิดเห็นที่ 48 ความคิดเห็นที่ 44  2.อุณหภูมิต่ำสุดคือ 0 K อุณหภูมิสูงสุดมีไหม? - ไม่มีอุณหภูมิสูงสุด  ไม่มีอะไรจำกัดตัวเลขนี้ มวลทั้งจักรวาลมาทำเป็นพลังงานความร้อน   อุณหภูมิสูงสุดที่ได้ ก็มากกว่า 1032 เคลวิน ของพลังค์ ความคิดเห็นที่ 19 อุณหภูมิสูงสุด  Hagadorn Temperature ปัญหาของอุณหภูมิสูงสุดไม่ใช่จำนวนพลังงานที่นำมาใช้ สมมุติพลังงานไม่จำกัด ตามที่คุณผ่านมา ว่าเมื่อถึงอุณหภูมินึง Hagedorn Temperature พลังงานที่ใส่ระบบจะไม่กลายเป็นความร้อนอีกต่อไป จะสร้างมวลแทน ผมอยากเรียกว่าระบบอิ่ม(พลังงาน)ตัว คือที่อุณหภูมินั้นจะไม่ร้อนกว่านี้อีก พลังงานที่ใส่เข้าไปจึงไม่เพิ่มอุณหภูมิ แต่แปรเป็นมวล m = E/c^2 โรลฟ์ เฮจดร-Rolf Hagedorn พบว่าระบบร้อนมีอุณหภูมิคงที่ทั้งให้พลังงานเพิ่ม Moreover, even if there was a thermalized system in the first place, why was the apparent temperature constant? Should it not rise with incident beam energy? แบบจำลองการผลิตอนุภาคทำนายการเกิดทุติยอนุภาคจากการชนพลังงานสูง His particle-production models turned out to be remarkably accurate at predicting yields for the many different types of secondaries that originate in high-energy collisions. เขาเข้าใจว่าอุณหภูมิไม่เพิ่มเมื่อใส่พลังงานเพิ่มเพราะสร้างมวลแทน He understood that the temperature governing particle spectra does not increase, because as more and more energy is poured into the system new particles are produced http://cerncourier.com/cws/article/cern/28919 จากคุณ : ชื่อนี้ได้มั้ยฮะ เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 52 12:21:20