ความคิดเห็นที่ 1 เอ่อ อ่า เด๋วไปเรียก อ.ดิจิ ให้นะคะ กี๊ดดดดดดดดดดดดที่ 1 ลัลล้า~* แก้ไขเมื่อ 30 ก.ย. 52 20:58:37 จากคุณ : Choco-Mix เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 52 20:57:52

ความคิดเห็นที่ 2 อ๊างงงงงงงงงงงง ที่ 2 จากคุณ : รักคนที่ชอบแมว เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 52 21:08:00

ความคิดเห็นที่ 3 อร๊ายย ที่สามมม จากคุณ : ลูกเป็ดขี้เกียจ เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 52 22:17:22

ความคิดเห็นที่ 4 คนอื่นถ้าอ่านแล้ว ลองตีความตามที่ตนเข้าใจก็ได้นะครับ จากคุณ : Jacare เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 52 22:38:54

ความคิดเห็นที่ 5 นายดิจิฯ ในตอนนั้น สมัยพันทิปหน้าดำ คือคนที่อายุอ่อนกว่าตอนนี้ ราว 11 ขวบนะครับ ดังนั้นจะว่าไปความคิดอาจจะเปลี่ยนไปหรือยังไง แต่ผมจะลองตอบดู ในตอนช่วงนั้นเป็นช่วงก่อนที่ผมจะเริ่มเขียนคอลัมน์โลกวิทยาศาสตร์ ในการ์ตูนที่วารสาร UpDATE กระมังครับ ซึ่งตอนนี้ผมก็หยุดเขียนไปแล้ว (แต่กำลังอยากกลับมาเขียนอีกที อาจจะลองเสนอที่อื่น) ช่วงๆนั้น การ์ตูน เพชรฌฆาตไซบอร์กกัลลี่ หรือ GUNNM ภาคแรก ยังใหม่อยู่แล้วก็มีคนพูดถึงมาก ซึ่งภาคใหม่ Last Order ยังไม่ดีเท่าเลย ผมได้นำเอาการ์ตูนเรื่องนี้มาเขียนวิจารณ์เอาไว้ในอีกสามปีต่อมา หลังจากที่ผมได้เริ่มเตะตาประโยคเหล่านั้น และได้เอามาเขียนเอาไว้ ใน บทความโลกวิทยาศาสตร์ในการ์ตูน วารสารอัพเดท ปีที่ 16 ฉบับที่ 163 มีนาคม 2544 หน้า 103 ครับ จากคุณ : DigiTaL-KRASH!!! เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 11:25:10

ความคิดเห็นที่ 6 ที่จริงผมลืมกระทู้นี้ไปนานมากแล้วนะครับ แสดงว่าผมสงสัย หรือสัมผัส กับขอบเขตของความวิปลาส หรือได้กลิ่นขอบเขตระหว่างจิตสำนึกปกติ กับความวิปลาสได้มาตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว และคำพูดในการ์ตูนกัลลี่ อาจจะทำให้ผมนึกถึงอะไรบางอย่าง ถึงได้หยิบยกมาตั้งเป็นกระทู้นี้ คุณ Jacare ชวนคุยต่อ หลังจากผ่านเวลานั้นมา 11 ปีเนี่ย เป็นอะไรที่นึกไม่ถึงเลยนะเนี่ย เท่าที่ผมจับความได้ จากบทพูดของ ดร.ดิสตี โนวา (หรือก็คือคนเขียนนั่น แหละ) เขาน่าจะพยายามบอกว่าสภาพสังคม บ้านเมือง และเทคโนโลยี ของมนุษย์ที่เป็นอยู่ ที่แท้ก็คือภาพสะท้อนจากสภาวะความคิดภายในของ จิตมนุษย์ เพราะจิตมนุษย์ต้องคิดเสียก่อน จึงจะสะท้อนออกมาเป็นวัตถุที่ จับต้องได้ เมื่อมนุษย์ประดิษฐ์ หรือผลิตสิ่งต่างๆให้เป็นรูปธรรมขึ้นมาภายหลังสิ่ง เหล่านั้นก็คือสิ่งที่เคยอยู่ภายในจิตใจของเรานั่นเองครับ จากคุณ : DigiTaL-KRASH!!! เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 11:25:42

ความคิดเห็นที่ 7 ดังนั้นทั้งในแง่วัตถุ(เทคโนโลยี) วัฒนธรรม อาหาร บ้านเมือง และสภาพความสัมพันธ์ระหว่างผู้คน ก้มาจากจิตใจมนุษย์เองไม่ีมีอะไรอื่น ทีนี้ มันเกี่ยวกับจิตใจมนุษย์อย่างไรบ้าง ถ้าเราลองสำรวจดูเราจะพบว่า และต้องยอมรับว่า ในตัวเราทุกคน มีจิตใจส่วนที่บิดเบี้ยวอยู่ (เป็นต้นว่าผมเองก็อาจจะชอบมอง สาวรุ่นวัยใส 13 - 17 อยู่บ้าง และก็ชอบความรุนแรงอยู่บ้าง ซึ่งเราต้องยอมรับมัน) เป็นปกติ ไม่ว่าปกติเราจะเป็นคนดี สุภาพ ขี้สงสาร เอื้ออาทร และเมตตาแค่ไหนก็ตาม แต่เราทุกคน ต่างก็มีชิ้นส่วนของความวิปลาส แทรกปนอยู่ทั้งนั้น เพื่อนชาวเฮฮาฯ ที่ผ่านมาอ่าน ลองมองดูตัวเองให้ละเอียดแน่นอน แล้วจะเจอ ซึ่งการยอมรับว่ามีด้านชั่วร้ายของตัวเรานั้นเป็นเรื่องที่ดี เพราะถ้าเรายอมรับว่ามีจิตใจส่วนนี้ เราก็จะได้ดูไม่ให้มันออกนอกลู่นอก ทางไป จากคุณ : DigiTaL-KRASH!!! เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 11:26:08

ความคิดเห็นที่ 8 สำหรับกัลลี่นั้นเราจะได้เห็นถึงความวิปลาสโดยองก์รวมของมนุษย์ ที่สะท้อนออกมาให้เห็นเป็นสภาพสังคมที่เสื่อมโทรมของเมืองเศษเหล็ก นั่นเอง แต่สำหรับโนวานั้น เขาสำรวจไปจนเกินขอบเขตของความวิปลาสเสียอีก พอไปเกินความวิปลาส สำหรับเขานั้นมันอาจจะหมายถึง การเข้าสู่ "ภาวะไร้สิ้นซึ่งตัวตน" กระมัง ถ้าเราจะนิยาม สภาพจิตออกมาเป็นสมการอะไรสักอย่างได้ (ในอนาคตอันใกล้ไม่แน่อาจจะทำได้คร่าวๆ โดยการ map ภาพของสมองที่ได้จาก MRI หรือเทคนิควิธีอื่นๆ เข้ากับพฤติกรรมของคนไข้ แล้วสร้างแบบจำลองคณิตศาสตร์ แบบ artificial neural network หรือแบบ neuro-fuzzy หรือแบบอื่นๆ) สภาพจิตปกติ ก็อาจจะเป็นโมเดลสักอย่าง ที่เราถือว่าเป็น นอร์มโดยเฉลี่ยของมนุษย์ แล้วมนุษย์ที่มีความเบี่ยงเบน ออกจากนอร์มนี้ไปมากน้อยแค่ไหนก็แล้วแต่ นั่นก็อาจจะ เป็นตัวชี้วัดความมากน้อยของระดับความวิปลาส ของแต่ละ บุคคลได้กระมัง ซึ่งแน่นอน ถ้าไม่มากเกินขีดจำกัดอันหนึ่ง เราอาจจะบอกว่า คนผู้นั้นยังเป็นคน "ปกติ" อยู่ เป็นต้น จากคุณ : DigiTaL-KRASH!!! เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 11:27:04

ความคิดเห็นที่ 9 นี่ก็คือความหมายของคำพูดของโนวา ที่ผมหยิบมาในกระทู้นั้น ในส่วนที่ว่า ".....ในโลกนี้ไม่มีจิตปกติกับจิตวิปลาสอะไรนั่นหรอก...จะมีก็ แต่ความบ้าคลั่งต่างๆเท่านั้น...สภาพจิตทั้งหลายก็เป็นเพียงภาพด้านข้าง ของความคลุ้มคลั่งต่างๆ ...และสุดเขตแห่งการค้นหาตนเองนั้นมีระนาบ แห่งอิสระที่เกินขีดจำกัดอยู่...เจ้าเองก็ควรรู้ถึงความวิเศษนั้นด้วยนะ...ลูก เอ๋ย..." ดังนั้นโนวาเขาจึงเริ่ม สัมผัส กับโลกนี้ในทุกๆทางเท่าที่จะทำได้ โดยให้ความสำคัญกับมันมากกว่าความนึกคิด และอาจจะสัมผัส ด้วย passion หรือแรงปรารถนาด้วยซ้ำ อย่างที่ผมได้บอกไว้ ในกระทู้ของคุณ demerzel ในห้องนิยายวิทยาศาสตร์ กระทู้นี้ว่า passion อาจจะสำคัญกว่าจินตนาการ ผมพูดสั้นๆ แต่ก็หมายรวมถึง ที่อธิบายไว้ข้างต้นนี้ทั้งหมด http://www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A8262955/A8262955.html#2 จากคุณ : DigiTaL-KRASH!!! เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 11:27:38

ความคิดเห็นที่ 10 ผมคิดว่าตอนแรก ตอนที่ยังบ้าน้อยกว่านี้ สมัยอยู่บนซาเลม ดร.โนวา คงจะข้องใจกับ ชีวิตที่สมบูรณ์แบบบนซาเลมมาก และสภาพ ที่ขัดแย้งกันบนพื้นโลก บนเมืองเศษเหล็กที่เต็มไปด้วยความเสื่อมโทรม อัปลักษณ์ เขาจึงได้ตั้งคำถามว่า "พวกเราเป็นใคร...ชีวิตหมายถึงอะไร...ค้นหาอะไร... และจะไปได้ถึงไหน...ทำไมจึงมาอยู่ที่นี่" จากคุณ : DigiTaL-KRASH!!! เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 11:28:24

ความคิดเห็นที่ 11 และเขายังบอกอีกว่า "...จงค้นหาคำถามอันเป็นที่สุดต่อไปซิ...ตั้งคำถามให้สูงขึ้นไปเรื่อยๆ..." คงเพราะความต้องการเบื้องลึกที่จะหาว่า มีอะไรที่มากกว่านี้อีกไหม... มีอะไรที่ปลายสุดแห่งความรู้ และจินตนาการ รวมถึงขอบเขตของความ วิปลาสหรือไม่ อันนี้แต่ละคนคงต้องหาคำตอบกันเอง. ------------------------------------------ ปล. และการเดินทางของผมเองในตอนนี้ ก็ได้เดินทางมาถึงจุดที่ผม สนใจเรื่องนี้มากขึ้นแล้วเช่นกัน โดยในช่วงหลังมานี้ ผมได้เริ่มสนใจอ่านทฤษฎีอาชญวิทยา ที่คุณจ่าพิชิต ขจัดพาลชน ได้กรุณาส่งมาให้ แล้วก็เริ่มรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับฆาตกรโรคจิต เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เพื่อจะได้เขียนนิยายที่ผมจะฆ่าตัวละครที่นำบุคลิก บางส่วนมาจากคุณจิ้งจอกสาวฝึกหัด ให้สมจริง ไม่ออกมา "แห้ง" เกินไป เพราะจู่ๆเจอแล้วเชือดเลย มันไม่มีศิลปะไม่สุนทรีย์ จากคุณ : DigiTaL-KRASH!!! เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 11:28:40

ความคิดเห็นที่ 12 บางทีถ้าอาจจะเป็นประโยชน์กับคุณ Jacare และผู้ที่สนใจ ผมนำเอาบทความเก่ามาฝากให้อ่านครับ บางทีผมอาจจะมองไม่ครบ หรือขาดตรงไหนไปในบทความ ก้ต้องขออภัยย้อนหลังไปในปี 2544 ด้วยครับ ปล. ผมไม่ทราบว่าจะนำบทความเก่าในหนังสือมาโพสในนี้ได้หรือไม่ แต่มันเป็นบทความเก่ามาก และไม่ได้นำไปใช้ในเชิงพาณิชย์ แต่ถ้าไม่เหมาะในเรื่องลิขสิทธิ์ยังไงช่วยบอกด้วยนะครับ จากคุณ : DigiTaL-KRASH!!! เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 11:59:57

ความคิดเห็นที่ 13 ทั้งหมดมี 7 หน้า จากคุณ : DigiTaL-KRASH!!! เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 12:00:16

ความคิดเห็นที่ 14 อ่านเอาสนุกๆนะครับ จากคุณ : DigiTaL-KRASH!!! เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 12:00:30

ความคิดเห็นที่ 15 . จากคุณ : DigiTaL-KRASH!!! เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 12:00:52

ความคิดเห็นที่ 16 .. จากคุณ : DigiTaL-KRASH!!! เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 12:01:07

ความคิดเห็นที่ 17 * จากคุณ : DigiTaL-KRASH!!! เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 12:01:26

ความคิดเห็นที่ 18 สุดท้าย .. ถ้าอ่านแล้วคิดเห็นกันต่อยังไงขอเชิญร่วมสนุกพูดคุยกันต่อนะครับ จากคุณ : DigiTaL-KRASH!!! เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 12:02:08

ความคิดเห็นที่ 19 ^-^ จากคุณ : booklovers เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 13:50:35

ความคิดเห็นที่ 20 #11  มุ่งมั่นจะเชือดหนูไม่เลิกเลยนะคะนะ... 5555555+ จากคุณ : จิ้งจอกสาวฝึกหัด เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 16:10:55

ความคิดเห็นที่ 21 อ่านเพลินเลยครับผม  ขอบคุณมากๆครับคุณDigiTaL จากคุณ : ไม้ไผ่โย่ง เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 19:50:03

ความคิดเห็นที่ 22 เป็นเรื่องที่ต้องมีการตีความจริงๆ แต่รู้สึกเหมือนคนเขียนการ์ตูนเรื่องนี้มองความเสื่อมโทรมว่ามันเป็นวัฎจักรยังไงยังงั้นเลย คล้ายหลักพุทธศาสนาเลยนะครับ จากคุณ : Jacare เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 20:13:42