ความคิดเห็นที่ 1 วันนี้เราจะพาไปเยี่ยมชมสถานที่ต่างๆภายในโรงพยาบาลกันค่ะ อ้ออ ลืมไปก่อนจะไป เรายังรู้จักสถานที่นี้ยังไม่เพียงพอ ดูข้อมูลคร่าวๆจากกรมสุขภาพจิตกันนิดนึงนะ  โดยในสมัยก่อนชาวบ้านมักเรียกสถาบันจิตเวชศาสตร์สมเด็จเจ้าพระยาว่าเป็นโรงพยาบาลปากคลองสาน โรงพยาบาลบ้า หรือ หลังคาแดง ต่อมาในปี 2497 ศาสตราจารย์นายแพทย์ฝน แสงสิงแก้ว ได้เปลี่ยนให้เป็น “โรงพยาบาลสมเด็จเจ้าพระยา” เพื่อลดทัศนคติด้านลบของประชาชนที่มีต่อผู้ป่วยจิตเวช และต่อมาในปี 2545 โรงพยาบาลสมเด็จเจ้าพระยาก็ได้รับการยอมรับ ในด้านความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านจึงได้เปลี่ยนชื่อมาเป็น “สถาบันจิตเวชศาสตร์สมเด็จเจ้าพระยา” และนี่คือรูปศาสตราจารย์นายแพทย์ฝน แสงสิงแก้ว   บิดาแห่งจิตเวชศาสตร์ไทย ค่ะ จากคุณ : Epiglottis เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 52 22:08:49

ความคิดเห็นที่ 2 พวกเรามาถึงที่นี่กันประมาณเก้าโมงครึ่งค่ะ ก็จะมีพี่ๆเค้ามาต้อนรับเรา เนื่องจากว่าวันนี้แล้วเรื่องหลักจริงๆเราจะมาดูสมองกัน และจะมาชมนิทรรศการ ครบ120ปีของกรมสุขภาพจิต และมาเยี่ยมหมอฝนเนื่องจาก ครบ100ปีด้วย เลยถือโอกาสนี้มาเที่ยวโรงพยาบาลทั้งวันเลยละกัน เริ่มด้วยการแลคเชอร์เนื้อหาเกี่ยวกับสมองค่ะ  อาจารย์ได้ติดต่อกับคุณหมอ วินัย ธรรมวีระพงษ์ ไว้แล้ว เราก็เดินขึ้นบันไดกันไป ทางเดินเงียบมากก ไม่ใช่เฉพาะทางเดินนะแต่เงียบตั้งแต่เข้ามาแล้วละ มันรู้สึกว่าเงียบๆไม่เหมือนกับโรงพยาบาลที่เราเคยเดินเข้าเดินออกกันบ่อยๆ พอไปถึงชั้นบนเราก็ทักทายสวัสดีคุณหมอ ในห้องมีสมองเยอะมากกกก เยอะมากๆจริงๆค่ะ คุณหมอจบมาทางด้านพยาธิวิทยา ใครอยากจะถามอะไรคุณหมอ คุณหมอบอกตามสบายเลย  แต่ไม่ใช่แค่บรรยายเฉยๆ วันนี้มีของจริงมาผ่าให้ดูกันเห็นๆ จากคุณ : Epiglottis เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 52 22:11:16

ความคิดเห็นที่ 3 จริงๆแล้วตอนเดินเข้ามาเจอสองห้อง ห้องแรก แอร์เย็นมากๆ ประตูมันแง้มออกมานิดๆ เลยพอเห็นว่ามีสมองอยู่ในชั้นเต็มไปหมดเลย เราก็จะเดินเข้าไป ต้องห้องนี่แน่ๆเลย  แต่ไม่ใช่!! มันมีอีกห้องที่ตรงข้ามกันค่ะ เป็นห้องที่คุณหมอแล้วก็พวกๆพี่ๆทำงานกันในนั้น วันนี้เราจะไม่บรรยายเนื้อหาเกี่ยวกับเรื่องสมองกันนะคะ เพราะมันเยอะมากๆๆ อีกอย่าง ยิ่งอ่านคงยิ่งปวดหัวไปกันใหญ่ เลยมาดูรูปเล่นๆละกัน อันนี้สมองค่อนข้างที่จะก้อนใหญ่นิดนึง ตรงสีดำๆที่เห็นจริงๆแล้วมันก็คือเลือดนี่แหละค่ะ เมื่อก่อนมันเป็นสีแดง แต่ พอแช่น้ำยา ทำตามกระบวนการต่างๆแล้ว นานๆเข้ามันก็เป็นแบบที่เห็นนี่แหละ จากคุณ : Epiglottis เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 52 22:13:11

ความคิดเห็นที่ 4 สมองมีเยอะมาก ไม่รู้จะเลือกถ่ายอะไรดี แต่รูปนี้มันพิเศษ เพราะเป็นสมองรูปหัวใจ แฮ่ๆ จากคุณ : Epiglottis เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 52 22:13:58

ความคิดเห็นที่ 5 เดินไปเดินมาขณะที่อาจารย์เลคเชอร์อยู่ รู้สึกเหมือนเป็นเด็กไม่ดีเท่าไหร่ เพราะมัวแต่เดินเก็บภาพ 555  แต่ก็คุ้มเพราะมาเจอขวดโหลอันนี้ ทายซิ ว่าอะไรเอ่ยย ? ตอนแรกถามพี่เค้าพี่เค้าก็อ่ะหนูทายสิว่ามันอะไร ดูมันเหมือนเส้นบะหมี่มาก แต่ใครจะไปรู้ว่านี่มันเป็นพยาธิ พี่เค้าบอกว่ามันเป็นพยาธิอะไรซักอย่างนี่แหละอยู่ในร่างกายของเรา  พี่เค้าลืมไปแล้ว พี่เค้าบอกว่าต้องถามหมอเอาเอง แต่ที่แน่ๆรู้ว่ามันเป็นพยาธิที่ยาวมากกก นั่นแค่ตัวเดียวนะ ถ้าอยู่กันเป็นครอบครัวจะขนาดไหน แหวะ!! จากคุณ : Epiglottis เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 52 22:16:45

ความคิดเห็นที่ 6 อันนี้ถ้าจำไม่ผิดเหมือนจะเป็นปอดนะ ดำปี๋ เชียว คือในแต่ละโหลจะไม่แยกอะค่ะว่า หัวใจก็อยู่กับหัวใจไปนะ ปอดเธอต้องโหลนี้นะ แต่มันจะปนๆกันไป ต้องคอยถามพี่เค้าเรื่อยๆว่านี่อะไร นั่นละ โน่นด้วยย เพราะว่าโหลมันเยอะเหมือนกัน จากคุณ : Epiglottis เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 52 22:17:48

ความคิดเห็นที่ 7 ส่วนนี่เห็นที่บางๆทางซ้ายมือมั๊ยคะ น่าจะเป็นเยื่อหุ้มสมอง สีขาวๆล่างขวา น่าจะเป็นไต เดี๋ยวเรามีภาพเยื่อหุ้มสมองให้เห็นชัดๆกันอีกทีว่ามันเป็นยังไง ส่วนอย่างอื่นนี่ไม่รู้ แฮ่ๆๆ แก้ไขเมื่อ 20 ต.ค. 52 01:32:19 แก้ไขเมื่อ 20 ต.ค. 52 01:31:15 จากคุณ : Epiglottis เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 52 22:18:28

ความคิดเห็นที่ 8 นี่เลยมาโหลนี้ โหลนี้กับปอดดำอันนั้นไม่ต่างกันเท่าไหร่ เพราะนี่มันก็คือตับ แต่ไม่ใช่ตับธรรมดา มันเป็นตับแข็ง กินเหล้า สุราเมรัยมากๆระวังน๊า จากคุณ : Epiglottis เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 52 22:19:03

ความคิดเห็นที่ 9 ต่อไปอันนี้จริงๆแล้วตั้งใจจะให้ดูสมอง ไม่ใช่!! เราจะให้ดูสไลด์ที่มีสีชมพูสวยๆต่างหาก กล่องสีน้ำเงินเป็นสไลด์ที่พี่เค้าได้ฝานเนื้อของสมองที่คุณหมอคิดว่ามันเป็นสาเหตุของการตายของคนไข้ แล้วเอามาส่องกล้องดูอีกที ว่าจริงๆแล้วคนไข้ตายเพราะสาเหตุอะไรกันแน่  ดูจากสไลด์แล้วมองไม่เห็นเลยว่ามีชิ้นส่วนของสมองอยู่ในแผ่นสไลด์ ขนาดมองด้วยตาเปล่า ยังมองยากเลยค่ะ พี่เค้าฝีมือจริงๆ ส่วนกล่องไม้เปิดยากนิดนึง เป็นที่เก็บสไลด์ ตอนหยิบมบกลัวมันจะหล่นแตกมากเลย เพราะกว่าจะเปิดกล่องได้นี่ เล็บขูดกับกล่องไปหลายทีเหมือนกัน เอิ๊กๆ จากคุณ : Epiglottis เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 52 22:20:28

ความคิดเห็นที่ 10 ต่อมาเลยค่ะ อันนี้หลายๆคนก็คงเคยเห็น เด็กดองนั่นเอง  ดูรูปขวาแบบว่ามีนิ้วเท้าอะไรครบแล้วด้วย ไม่น่ามาอยู่ในโหลแก้วแบบนี้เลย ลืมบอกไปค่ะว่าทุกชิ้นส่วนในโรงพยาบาล นั้นได้รับบริจาคมา พูดง่ายๆคือ เค้าบริจาคร่างกายของเค้าให้กับโรงพยาบาล เพื่อให้นักศึกษาแพทย์ หรืออย่างพวกเราได้ศึกษาเกี่ยวกับด้านสรีรวิทยา หรือเป็นอาจารย์นั่นเอง เด็กในโหลคงอยู่ในท้องแม่ขณะที่แม่เสียชีวิต และแม่ก็ได้บริจาคร่างกายกับโรงพยาบาลด้วย จากคุณ : Epiglottis เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 52 22:22:05

ความคิดเห็นที่ 11 นี่ค่ะมีหลายโหลมาก ทั้งโหลแก้ว โหลพลาสติก  อยากจะบอกว่าที่แอบไปถามมา พี่เค้าบอกว่าเค้าทำกล่องพลาสติกเอง ที่เห็นๆใส่สมองกันอยู่เค้าทำเองค่ะ มันมีขั้นตอนและวิธีการทำ การปิดโหล เพราะบางทีฟองอากาศมันเข้าไปอยู่ข้างใน อาจทำให้เกิดปัญหาได้  ตรงส่วนแรกๆและส่วนกลางของห้องส่วนใหญ่จะเป็นสมองของคนปกติ ผู้ป่วยโรคจิตบ้างละ สมองผู้ป่วยอัลไซเมอร์บ้าง ผู้ป่วยที่มีความดันโลหิตสูง แตกต่างกันไป แต่ด้านหลังจะเป็นพวกอวัยวะต่างๆในร่างกายที่นำมาดองไว้ เก็บรักษาไว้ พี่เค้าบอกว่าบางโหล 20กว่าปีแล้วว   นานอยู่นะเนี่ย คือจริงๆตอนที่คนตายเค้าสมองมันก็จะนิ่มมากคล้ายๆเต้าหู้ไข่ มันยึ๋ยๆ ดึ๋ยๆ แบบว่านิ่มๆมากๆ เค้าจะต้องเอามาล้างน้ำมันมีศัพท์ของเค้าอ่ะค่ะ พี่เค้าบอกว่าปล่อยให้น้ำไหลผ่าน แช่น้ำยา และก็กระบวนการต่างๆอีกมากมาย คือกว่าจะได้แต่ละโหลนี่เล่นเอาเหนื่อยเหมือนกัน แค่เอาใส่โหลไม่พอ สังเกตได้ว่าโหลไหนที่เหลืองๆแล้วจะต้องมีการเปลี่ยนน้ำ บางโหลก็ยังใสแจ๋วอยู่นั่นแสดงว่าเพิ่งเปลี่ยนน้ำค่ะ เปลี่ยนแต่ละโหลก็ไม่ใช่ง่ายๆ บางโหล5นาทีก็เสร็จ บางโหล ยี่สิบนาที พอใส่โหลได้แล้วต้องปิดโหลอีก คือมันเป็นอะไรที่ต้องใช้ความชำนาญมากๆจริงๆค่ะ จากคุณ : Epiglottis เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 52 22:24:11

ความคิดเห็นที่ 12 นี่ ของจริงมาแล้ว อันนี้บอกได้แค่ว่าเจ้าของสมองเป็นโรคทางจิต และเสียชีวิตเมื่อต้นๆปีนี่เองค่ะ คืออยากจะบอกว่าเมื่อเช้าที่ไปดูมากลิ่นยังติดจมูกอยู่เลยอ่ะ แค่เห็นรูปนี่แล้วแบบว่ากลิ่นโชยมาแต่ไกล ทางด้านซ้ายมือที่เห็นๆกันเป็นเยื้อหุ้มสมองค่ะ ที่เราเคยเห็นกันในโหลมาก่อนด้านบน มันมีหน้าที่หุ้มสมองทั้งหมดเอาไว้   ส่วนในถาดเดี๋ยวคุณหมอจะผ่าให้ดูค่ะว่าข้างในอีกอะไรยังไงบ้าง จากคุณ : Epiglottis เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 52 22:25:19

ความคิดเห็นที่ 13 ปาดค่ะ คห. 5 พยาธิตัวตืด ค่ะ จากคุณ : DeoxyDNA เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 52 22:25:20

ความคิดเห็นที่ 14 อ้ออ ขอบคุณมากๆค่ะ  ต่อเลยละกันนะ นี่เป็นเยื้อหุ้มสมองค่ะ มันมีหน้าที่คลุมสมองไว้หมดทั้งก้อน ใส่ถุงมือก่อนนะเออ เดี๋ยวมันจะแสบมือจากน้ำยา มันหนามากๆเลย ไม่มีใครเชื่อ ก็เลยทดลองดึงไปดึงมา ยื้อไปยื้อมาอยู่นานมันก็ไม่ขาด มันแข็งแรงและทนทานมากจริงๆ จากคุณ : Epiglottis เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 52 22:27:51

ความคิดเห็นที่ 15 อันนี้เหมือนอาจารย์จะตัดอะไรออกไปซึ่งก็ไม่ได้ฟังอีก 5555 คือแบบว่ากลิ่นมันโชยมากจริงๆ คือมันไม่ยอมชินกลิ่นไม่รู้ทำไมเหมือนกัน ดูได้สิบนาทีต้องออกไปสูดหายใจสักฟอดสองฟอด แล้วกลับมาดูใหม่ หลังๆเริ่มไม่ไหวแล้ว พอเหอะ รูปก็จะถ่าย สมองก็จะจับ เหม็นด้วย เลยตัดสินใจถอดถุงมือแล้วล้างแอลกอฮอล์ที่อ่างล่างหน้า เพราะจะได้ถ่ายรูปอย่างเต็มที่ เอิ๊กๆ จากคุณ : Epiglottis เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 52 22:28:53

ความคิดเห็นที่ 16 เดี๋ยวมาต่อนะคะ ยังไม่ได้รวมข้อมูลๆ มัวแต่เล่นอยู่ 5555 รับรองได้อ่านแน่ๆค่ะ จากคุณ : Epiglottis เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 52 22:31:36

ความคิดเห็นที่ 17 กลัวอ่า - -" แต่อยากอ่านต่อ แต่กลัว - -" ปล.ทำไมถึงกลัวหว่า? มันไม่น่ามีไรต้องกลัวแท้ๆ แต่ก็กลัว - -" แก้ไขเมื่อ 30 ก.ย. 52 22:48:55 จากคุณ : Ponyo เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 52 22:46:15

ความคิดเห็นที่ 18 ขอบคุณครับ ที่นำมาแบ่งปันกัน จะรอ อย่างใจจดจ่อ นะ จากคุณ : tkl1982 เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 52 22:46:34

ความคิดเห็นที่ 19 สนุกดีค่ะ รออ่านอยู่นะคะ ภาพที่ 12 กับ 15 พูดกันตรงๆนะ ทำไมเรารู้สึกว่ามัน...น่ากิน -_-" ??? จากคุณ : CandyBee เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 52 22:51:17

ความคิดเห็นที่ 20 ให้ GIVE เลยครับ อยากเห็น substantia nigra อะครับ พอดีสนใจโดพามีนอยู่ จากคุณ : CuSO45H2O เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 52 23:02:44

ความคิดเห็นที่ 21 อ๋อๆ จริงมันมีอ่ะค่ะ แต่ทนกลิ่นไม่ไหวจริงๆ อาหมอชำแหละให้ดูทุกส่วนเลยค่ะ ขอโทษด้วยนะคะที่บังเอิญพลาดข้อมูลสำคัญไปซะงั้น - - " จากคุณ : Epiglottis เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 52 23:20:38

ความคิดเห็นที่ 22 กี๊ฟเราหมดอะ (โหวดไปก่อนอย่างเดียวละกันนะคะ) รออ่านต่อนะคะ จากคุณ : คิน * คาเนะ เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 52 23:21:49

ความคิดเห็นที่ 23 มามะ ต่อๆๆ รูปนี้เบลอๆนิดนึงนะคะ พอดีว่าเพื่อนยืนที่โต๊ะแบบแน่นมาก เลยต้องรีบถ่าย อันนี้อันกระจิ๊ดเดียว แต่หน้าที่ของมันมหาศาลมาก มันก็คือ Hippocampus นั่นเอง มันเป็นส่วนที่เกี่ยวข้องกับความจำค่ะ อาหมอฝานให้ดู จริงๆสมองเราก็มีสองซีก อาหมอเอาซีกซ้ายมาให้ดูค่ะ บางคนบอกว่ามันคล้ายม้าน้ำ แต่อาหมอบอกว่า  แยมโรลต่างหาก แก้ไขเมื่อ 04 ต.ค. 52 20:30:34 แก้ไขเมื่อ 30 ก.ย. 52 23:25:25 แก้ไขเมื่อ 30 ก.ย. 52 23:24:45 จากคุณ : Epiglottis เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 52 23:23:58

ความคิดเห็นที่ 24 เข้ามาลงชื่อรอค่ะ จากคุณ : กระจุกน้อย เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 52 23:27:02

ความคิดเห็นที่ 25 รอติดตามชมครับ โหวตให้แล้ว จากคุณ : kidarmy เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 52 23:38:49

ความคิดเห็นที่ 26 ง่า....ไฟดับบบบบอีกแล้วววว ชำแหละกันแบบว่าสุดๆไปเลย ได้จับเกือบทุกชิ้นค่ะ แต่ว่าอย่างที่บอกกลิ่นไม่ไหวจริงๆ ตอนนั้นอาหมอก็ปล่อยให้ยิงคำถาม คำถามแรกที่เราถามไปก็คือ Epiglottis: อาหมอคะ ถ้านำสมองมาเทียบกันสองก้อน เราจะรู้ได้ยังไงว่าอันไหนของผู้ชาย อันไหนของผู้หญิง อาหมอ   : ใช้เวลาคิดอยู่ครู่นึง เอ่อ.. มันก็แยกยากนะ ถ้าเราเห็นแค่ทางกายภาพเราไม่รู้หรอกว่าอันไหนของผู้หญิงหรือของผู้ชาย มันก็คล้ายๆกัน แต่หากศึกษาลึกลงไปอีก ทั้งยีน พันธุกรรม อันนี้รู้แน่นอนคับ คำถามที่สองเริ่มขึ้น เพื่อน          : เอ่อคุณหมอคะ ถ้าเกิดเราเป็นโรคอะไรสักอย่างนึง แล้วเราเอาสมองออกมาตรวจดู เราจะทราบมั๊ยคะว่าคนคนนั้นเป็นโรคอะไร อาหมอ       : เป็นคำถามที่ดีนะ จริงๆแล้วโรคมันแบ่งออกเป็นสองอย่าง อย่างแรงคือเป็นโรคที่เกิดทั่วทั้งร่างกาย เช่นเบาหวาน เราจะตรวจดูจากสมองได้ แต่หากเป็นโรคที่เกิดเฉพาะที่เช่น โรคหัวใจ มะเร็วเต้านม อันนี้ไม่ทราบๆแน่ๆคับ เพราะมันเกิดเฉพาะที่ คำถามสี่ ห้า หก เริ่มขึ้น จริงๆมีอีกหลายคำถามค่ะ ยิงคำถามกัน อยากรู้อะไรก็ถาม ขอบายไปดมยาดมก่อน - - จากคุณ : Epiglottis เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 52 23:41:45

ความคิดเห็นที่ 27 อันนี้เป็นโมเดลค่ะ อาหมอเอาไว้อธิบายว่าสมองแต่ละส่วนทำหน้าที่ยังไง อันล่างสุดที่มันเป็นก้อนเล็กๆ เรียกว่าสมองน้อยนะคะ ย้ำว่าสมองน้อยไม่ใช่สมองเล็ก ถ้าหากเป็นสมองเล็กมันก็อาจจะหมายถึงสมองที่เคยโตมาก่อน แล้วอาจจะเกิดปัญหาทำให้มันฟีบลง หรือเล็กลงได้ อย่าสับสนนะคะ สมองน้อยไม่ใช่สมองเล็ก ถึงแม้คำมันจะคล้ายๆกันแต่มันก็ต่างกันนะ จากคุณ : Epiglottis เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 52 23:43:10

ความคิดเห็นที่ 28 อันนี้ให้เดาว่ามันคืออะไร  เราเคยเห็นข้างบนแล้วนี่แหละ จำอันที่มันเป็นสไลด์ได้มั๊ยคะ  มันคล้ายๆกัน แต่พี่เค้าบอกว่า อันนี้เอามาทำให้แข็งด้วยพาราฟีน จริงๆมันจะมีถังอยู่ถังนึง อยู่ด้านหลังอาหมอตอนที่ผ่าสมอง พี่เค้าบอกว่าอันนั้นแหละพาราฟีน เอามาทำให้พวกนี้แข็งตัว และอยู่ได้นานเชียวแหละ จากคุณ : Epiglottis เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 52 23:44:16

ความคิดเห็นที่ 29 อันนี้เป็นห้องข้างๆค่ะที่เราเคยเข้าใจว่าเป็นห้องผ่าสมอง ห้องนี้แอร์เย๊นเย็น ตอนนั้นอาหมอผ่าสมองอยู่ เลยเลยแอบย่องออกมา เห็นเครื่องดำๆมีมั๊ยคะ มันเป็นเครื่องที่เค้าใช้ในการทำพวก สื่อประกอบ เอาไว้ตัดกล่องพลาสติกบ้าง เพราะกล่องพลาสติกพี่เค้าทำกันเอง ไม่ได้ไปซื้อมาจากที่ไหน มาทำกันที่ห้องนี้นี่เอง  หน้าห้องเขียนไว้ว่า ห้องประชุมพยาธิวิทยา จากคุณ : Epiglottis เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 52 23:45:53

ความคิดเห็นที่ 30 ขำ"สมองน้อยไม่ใช่สมองเล็ก"อ่า จากคุณ : Ponyo เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 52 23:45:56

ความคิดเห็นที่ 31 ใช่ค่ะ จริงๆกันก็น่าจะแทนกันได้นะ แต่สำหรับสมองไม่ใช่ 555 นี่คือห้องข้างๆนั่นเอง เหมือนจะใหญ่กว่าห้องเดิมอีก ถามว่าห้องนี้มีไว้ทำอะไร ห้องนี้จริงๆแล้วคล้ายๆกับห้องเตรียมตัวของสมองก่อนที่จะออกไปสู่สายตาสาธารณะชน รวมถึง หากสมองส่วนไหนบกพร่อง เราก็มาซ่อมบำรุงกันที่ห้องนี่แหลค่ะ จากคุณ : Epiglottis เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 52 23:47:30

ความคิดเห็นที่ 32 นี่ค่ะ รอซ่อมและเติมน้ำยา ลืมบอกไปว่า เค้าเอามาเติมน้ำยาด้วย เนื่องจากอาจจะเกิดจากน้ำยาน้อยเกินไป ซึ่งไม่เพียงพอต่อการที่จะแช่สมองลงไป สมองพวกนี้ยังไม่พร้อมออกสู่สายตาชาวโลก ตราบใดที่ยังซ่อมไม่เสร็จและไม่สมบูรณ์ จากคุณ : Epiglottis เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 52 23:48:07

ความคิดเห็นที่ 33 ภาพสุดท้ายของสมองแล้วนะคะ รูปนี้ถ้าสังเกตดูดีๆจะเห็นว่าสมองบางอันมีสีดำ บางอันเหี่ยว บางอันหลุดไป สมองพวกนี้เป็นสมองที่เหมือนกับว่ามันเสื่อมแล้ว อาจจะเนื่องจากใช้มานานเกิน แช่มาหลายปีแล้ว และจากที่น้ำไม่พอที่ต้องใส่น้ำให้พอดี มันจะทำให้เซลล์สมองเหี่ยวได้   ไม่อยากออกมาเลย แอร์เย็นมากก หมดเวลาครึ่งแรกแล้วค่ะ พักกินข้าวเที่ยงกันก่อน  ไม่อยากบอกว่ากินได้นิดเดียว สั่งเลือดมาเขี่ยทิ้งข้างจาน ไม่ไหวแล้ว กลิ่นมันตามมาหลอกหลอนตลอดเวลา จากคุณ : Epiglottis เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 52 23:53:21

ความคิดเห็นที่ 34 มาอยู่เป็นเพื่อน จขกท. ชอบมากเลยเรื่องพวกนี้ เคยไปฝึกงานที่นี่ด้วยล่ะบรรยากาศโอเคนะ แต่เราชอบ รพ.สวนปรุง(เชียงใหม่) มากที่สุด จากคุณ : ลูกเป็ดขี้เกียจ เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 52 23:54:27

ความคิดเห็นที่ 35 หลังจากนั้น เข้าเรื่องหลักๆเลยละกันค่ะ พี่เค้าก็ส่งช่วงต่อเพราะจะต้องไปทำงานต่อนั่นเอง ลืมบอกไปค่ะว่า ด้านตึกที่เราไปเมื่อเช้าจะมีผู้เชี่ยวชาญทางด้านผ่ากะโหลก แบบแม่นยำมาก เค้าทำมาหลายปีแล้วละค่ะ ส่วนพี่อีกสองคนก็มีหน้าที่คอยเปลี่ยนน้ำในสมอง คือแต่ละคนจะมีหน้าที่แตกต่างกันออกไป เข้าไปตีซี้ก่อนเลยได้ข้อมูลมาค่อนข้างแน่น แต่ถ้าให้มาเขียนพรุ่งนี้ละก็ลืมหมดแน่ๆ 555 ส่งช่วงต่อ ก็จะมีคุณหมอที่เป็นจิตแพทย์มาให้ความรู้กับเรา แต่ก่อนที่เราจะไปชมข้างในสถาบันที่ไม่ใช่ตัวโรงพยาบาล เราก็มานั่งดูวิดีโอที่สมเด็จพระเทพมาเปิดงานครบรอบ120ปีกรมสุขภาพจิตนี่ละค่ะ นั่งกันตรงหน้าห้องตรวจกันเห็นๆ เหมือนกำลังรอตรวจยังไงยังงั้น วันนี้คนน้อยค่ะ เห็นผู้ป่วยมาพบแพทย์กันแค่คนสองคน หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ก็แจกเอกสารให้อ่านกัน คลายเครียดๆ แก้ไขเมื่อ 30 ก.ย. 52 23:57:20 จากคุณ : Epiglottis เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 52 23:56:16

ความคิดเห็นที่ 36 ที่ที่เราจะไปกันต่อไปใช้เวลาเดินไปอีกนิดก็ถึงแล้วค่ะ  เป็นความผิดของหนูเองค่ะที่ไม่ได้จดชื่อคุณหมอมา  ชื่อเล่นก็จำไม่ได้อีก น่าจะตัดฮิปโปแคมปัสทิ้งให้รู้แล้วรู้รอด  คราวนี้จะมีจิตแพทย์ กับเจ้าหน้าที่ไปกับเราด้วยอีกสองคนรวมเป็นสามคน พี่ๆเค้าจะพาเราเดินชม ลักษณะภายในของสถาบันฯ ลักษณะภายในของสถาบันฯ คล้ายสวนป่าที่ร่มรื่นเหมาะแก่การบริบาลจิตใจผู้ป่วย อาคารเป็นรูปทรงตะวันตกขนาดใหญ่ ลักษณะสถาปัตยกรรมแบบโรแมนติกผสมผสานอิทธิพลสถาปัตยกรรมอังกฤษแบบทิวดอร์และอิทธิพลสถาปัตยกรรมมัวส์ อยากให้ไปสัมผัสเองจริงๆค่ะว่า มันสบายสุดยอดเลยย จากคุณ : Epiglottis เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 00:00:12

ความคิดเห็นที่ 37 ทางด้านซ้ายมือของทางเดิน เป็นอนุสาวรีย์ของหมอฝนค่ะ จากคุณ : Epiglottis เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 00:01:01

ความคิดเห็นที่ 38 ว้าวๆ ขึ้นเดือนใหม่แล้ว ตั้งกระทู้ข้ามคืนกันเลยทีเดียว  ขออธิบายง่ายๆเกี่ยวกับสุขภาพจิตที่หมอฝนพูดไว้นิดนึงนะคะ สุขภาพจิต หมายถึง สภาวะของชีวิตที่มีสุขภาพและผู้มีสุขภาพจิตดีคือ ผู้ที่สามารถปรับตนเองอยู่ได้ด้วยความสุข ในโลกซึ่งเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วนี้ได้ ทำไมจึงได้มีวันสุขภาพจิตโลก เพราะเชื่อกันว่า มนุษย์เราประสบกับสภาวะปัญหาทางสุขภาพจิต สหพันธ์สุขภาพจิตแห่งโลก ร่วมกันทำงานกับสมาคมนานาชาติ เพื่อป้องกันการฆ่าตัวตาย และองค์กรอื่นๆ ร่วมสนับสนุนโดยองค์อนามัยโลก ได้ประกาศไปยังนานาประเทศทั่วโลก เพื่อให้สาธารณชนตระหนักถึงประเด็นปัญหาด้านสุขภาพจิตที่มีความสำคัญ เมื่อ 10 ตุลาคม ค.ศ. 1992 โดยรองเลขาธิการในขณะนั้น คือ ริชาร์ด ฮันเตอร์ (Richard Hunter) ได้กำหนดให้ วันที่ 10 ตุลาคม ของทุกปีเป็น "วันสุขภาพจิตแห่งโลก" (World Mental Health Day) เพื่อให้ประเทสสมาชิกได้ร่วมกันจัดกิจกรรมที่เกี่ยวกับสุขภาพจิต แก้ไขเมื่อ 01 ต.ค. 52 00:05:54 จากคุณ : Epiglottis เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 00:05:00

ความคิดเห็นที่ 39 เจ๋งอ่ะ มีสมองให้ดูด้วย        โหวตครับ จากคุณ : CozyMKIV เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 00:08:37

ความคิดเห็นที่ 40 ต่อไปเป็นภายในค่ะ มีสองชั้น ชั้นแรกเป็นห้องรับรองแขก ซึ่งไม่ได้เปิดเข้าให้ชม เนื่องจากฝ้าเพดานมีปัญหาค่ะ ส่วนใกล้ๆนั้นมีสนามเทนนิสด้วยนะ หลายคนสงสัยว่าเป็นของใคร ก็เป็นของที่นี่นี่แหละค่ะ ในสถาบันส่วนใหญ่แล้วจะมีเกี่ยวกับประวัติความเป็นมา ว่าเคยเป็นมายังไง ใครมีความสำคัญอะไรยังไงบ้าง แต่ส่วนที่เน้นๆ และจะเอามาฝากกันก็คือ วิธีการรักษาผู้ป่วยทางจิตที่ใช้รักษากันค่ะ   ตัวแรกเลย เครื่องช็อตไฟฟ้า ตัวแรกเลย เก่ามาก ตอนนี้ไม่ใช้ตัวนี้แล้วค่ะ มีตัวที่ทันสมัยกว่ามาก ช็อตไฟฟ้านี่เราไม่ได้ลงโทษหรือทำร้ายผู้ป่วยนะคะ ต้องเข้าใจให้ตรงกันว่าเป็นวิธีหนึ่งที่จะช่วยลด หรือระงับอาการของผู้ป่วยค่ะ ***เหมือนยืมกระเป๋าใครมารองเครื่องช็อตไฟฟ้าเลยอะ จากคุณ : Epiglottis เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 00:20:12

ความคิดเห็นที่ 41 ปาดๆโหวตๆ ^^ จากคุณ : Ganadores เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 00:23:35

ความคิดเห็นที่ 42 ต่อไปเป็นวิธีการรักษาแบบนี้ ใส่เสื้อไว้จะได้ดิ้นไม่หลุด เสื้อตัวนี้พี่เค้าบอกว่าตัวแรก เหมือนราคาจะเป็นแสน ถ้าจำไม่ผิดนะคะ ตอนนี้ทุกอย่างความจำล้วนๆเพราะจดไม่ทัน ถ้าใครเคยใช้ตัวนี้  ราคาผิดถูกยังไงชี้แนะด้วย ฮี่ๆ จากคุณ : Epiglottis เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 00:24:59

ความคิดเห็นที่ 43 ไอป๊อดดด  เสื้อกันกระสุนหรอ นี่ๆ อย่าอัพมาก ลงพรุ่งนี้ก็ได้ ไปนอนได้ล่ะ มีสอบนี่ จากคุณ : หมูบังตา เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 00:26:35

ความคิดเห็นที่ 44 เหมือนรู้สึกจะหิว  กินลูกชิ้นไปพิมพ์ไปไม่ว่ากันนะ ต่อไป เข้าไปอยู่ในนี้ซะเลย มองแรกๆนึกว่าอ่างอาบน้ำ แต่พอมานึกอีกทีสมัยนั้นคงยังไม่มีอ่างอาบน้ำ มันคงจะเป็นกล่องอ่ะค่ะ สีขาวๆ เข้าไป เหลือแค่คอออกมา  มัดเชือกซะแน่นขนาดนั้น คงไปไหนไม่รอด คงทรมานน่าดูเลยอะ จากคุณ : Epiglottis เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 00:30:06

ความคิดเห็นที่ 45 กด refresh ถี่ๆ ด้วยความอยากรู้ ขอบคุณเจ้าของกระทู้ครับ ได้เปิดหูเปิดตาดีจัง จากคุณ : -:-TemMoRo-:- เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 00:31:51

ความคิดเห็นที่ 46 5555 กันกระสุน เอาไปใส่ที่บ้านไป๊ ขอบใจๆ จะไปแล้ว ยังไม่เสร็จเลยเห็นมั๊ยเนี่ย ยังไงก็อ่านพรุ่งนี้อยู่แล้ว ขออีกนิดนึงๆ เดี๋ยวลืมหมด ส่วนอันนี้เข้าไปอยู่ข้างใน แต่ข้างหลังไม่แน่ใจค่ะว่ามีอะไรยึดไว้หรือเปล่า แต่เหมือนจะมีเพราะเค้ายืนแปลกๆ มันสูงมาก เราเขย่งไม่ถึงอ่า - - * แก้ไขเมื่อ 01 ต.ค. 52 03:31:55 แก้ไขเมื่อ 01 ต.ค. 52 03:25:56 จากคุณ : Epiglottis เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 00:34:15

ความคิดเห็นที่ 47 รูปด้านบนๆ ขอสารภาพตามตรงว่าเลื่อนๆไม่ให้เห็นภาพเต็มๆ อ่านตัวหนังสือเอาเสียอย่างเดียว ตอนแรกที่เห็นไม่รู้ทำไมรู้สึกหวิวๆ - -" จากคุณ : ดอกลำดวน เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 00:37:10

ความคิดเห็นที่ 48   ความทรงจำอันแสนโหดร้ายสมัยเรียนแลบ Neuro Anatomy จากคุณ : wachira2k เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 00:38:18

ความคิดเห็นที่ 49 วันนี้ไปดูมา เลยอยากให้ทุกคนได้เห็นเหมือนกับที่เราได้ไปเห็นค่ะ มันคุ้มมากๆเลย ขอบคุณที่ยังอยู่เป็นเพื่อนนะคะ  เดินตามมาเลยค่ะ ยังมีอีกๆ อันนี้ให้นอนบนเตียง เอ๊ะ หรือเปล เหมือนเค้าจะเอามาสานๆกัน โดนมัดซะแน่นขนาดนั้น แถมยังไม่มีฟูกให้นอนอีก ดีนะเนี่ยที่มีหมอนให้ จากคุณ : Epiglottis เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 00:38:33

ความคิดเห็นที่ 50 มาเป็นกำลังใจให้ จขกท. ครับ ขนาดยังโพสไม่เสร็จ ก็ขึ้นกระทู้แนะนำแล้วครับ แก้ไขเมื่อ 01 ต.ค. 52 00:48:35 จากคุณ : ฉันมีค่าแค่ไหน เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 00:47:46

ความคิดเห็นที่ 51 เอ๊ะ จขกท.เป็นเด็กม.อ.เหรอครับเนี่ย จากคุณ : CozyMKIV เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 00:50:12

ความคิดเห็นที่ 52 อ้าวว รูปหมด ลืมดู - - พอหลังจากที่เราลงมาแล้ว เค้าก็พาไปเยี่ยมชมนิทรรศการของหมอฝนค่ะ มีหลายชั้นมาก สบายๆมากๆเลย เห็นวิวชัดเจนมาก ลิฟท์เค้าใหญ่โตดีค่ะ แต่เสียดายขึ้นได้แค่ประมาณ 9คนแล้วก็ดัง อ๊อด อ๊อด   หลังจากนั้นพี่หมอขอร้องเราว่าตอนที่เราไปดูตึกของผู้ป่วย อย่าถ่ายรูป เราเข้าใจค่ะว่าจะให้ถ่ายรูปได้ยังไงละใช่ไหม เดินเข้าไปที่ตึกหญิงก่อน คือเดินเข้าไปเตื่นเต้นมาก แบบไม่เคยเจออะไรแบบนี้มาก่อน แต่พอเข้าไปปุ๊บ มันจะมีสนามหญ้าตรงกลางอ่ะค่ะ เราไปยืนกันตรงกลางสามสิบกว่าคน เค้ามองเรากันใหญ่ วิ่งมาดู ประมาณว่าเรามาดูอะไรเค้า เราก็เข้าใจนะคะ ที่เราเห็นและสัมผัสได้ผู้ป่วยบางคนปกติดีมาก เหมือนเค้าไม่ได้ป่วยอะไรเลย บางคนเป็นคนแก่ บางคนหน้าใสๆวัยรุ่นอยู่เลยค่ะ เห็นนิดๆหน่อยๆก็อิ่มแล้ว  เลยเดินออกมาดีกว่า เพราะเค้าจะพาเราไปดูเครื่องช็อตไฟฟ้าอันใหม่ล่าสุด ไม่ได้ใช้อันเก่าที่มีกระเป๋ารองนั่นแล้ว   บทสนนาของผู้ป่วยที่บังเอิญได้ยิน(พี่ที่คุมเราไปบังเอิญหน้าตาดี) หญิงคนแรก : เธอๆเนี๊ยะๆๆๆ พี่คนนี้เค้าเป็นดารา(ชี้ไปที่พี่คนนั้น) หญิงคนที่สอง: ไม่ช่ายยนะ เค้าไม่ใช่ดารา หญิงคนแรก : ช่ายยย เค้าเป็นดารานะ เค้าเป็นดาราจริงๆ หญิงคนที่สอง : ไม่ใช่ เธอจะบ้าเหรอออ เค้าไม่ใช่ดารานะ พอจะเดินออกเจอป้าคนนึงพูดขึ้นมา หันมาทางพวกเรา คิ้วชนกัน น่าตาสงสัยนิดๆ    ชั้นจะคลอด ก็ชั้นบอกว่าชั้นจะคลอดลูกไง - - พูดกับเราป่าวเนี่ย ไม่มีรูปแปะนะคะ เอารูปนี้ไปดูแทนละกัน ^ ^ แก้ไขเมื่อ 01 ต.ค. 52 03:40:30 จากคุณ : Epiglottis เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 00:50:59

ความคิดเห็นที่ 53 อ๋อๆๆ เรียนที่ศิลปากรค่ะ พอเราเดินเข้าที่บำบัดผู้ป่วยด้วยเครื่องช็อตไฟฟ้า คืออันนี้มันเป็นเครื่องที่เค้าอธิบายนานมาก ซึ่งเราเหรอจะฟัง 5555   แต่เราจับใจความได้ค่ะว่าผู้ป่วยที่มาที่นี่เค้าจะมาทุก จันทร์ พุธ ศุกร์ เพื่อบำบัดค่ะ พี่เค้าบอกว่าบางคนแบบแย่งกันบำบัด ชั้นก่อนนะ ขอชั้นก่อน ไม่ได้ชั้นมาก่อน ชั้นต้องได้ทำก่อน แบบว่าแย่งกันโดนช็อตไฟฟ้าอ่ะค่ะ เพราะช็อตแล้วจะได้กลับบ้าน แหม!!.....ว่าทำไมแย่งกันจัง เตียงเค้าสะอาดมาก เหมือนจะเป็นตึกใหม่เท่าที่ดูจากสายตานะคะ ถ้าจะถามว่าเครื่องชอตไฟฟ้าทำงานยังไง เค้าก็จะมีวัดน้ำหนัก ความดัน วัดอะไรต่อมิอะไร แล้วก็ช็อตไฟฟ้าเข้าไป กระแสไฟฟ้าเหมือนจะใช้อ่อนๆไม่กี่จูนอ่ะค่ะ จากคุณ : Epiglottis เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 01:02:59

ความคิดเห็นที่ 54 รอชมครับ จากคุณ : Put'me เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 01:03:20

ความคิดเห็นที่ 55 สงสัยครับ แล้วจะรู้ได้อย่างไรครับ ว่า สมองชิ้นไหนๆ มันทำหน้าที่นี้จริงๆ   จะรู้ได้อย่างไร  เพราะมันซับซ้อน มาก  ครับ... จากคุณ : NuyPond เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 01:07:20

ความคิดเห็นที่ 56 F5 !! จากคุณ : กระดาษในโหลแก้ว เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 01:09:24

ความคิดเห็นที่ 57 ดูอยู่นะครับ จากคุณ : JohnnieWalker เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 01:12:39

ความคิดเห็นที่ 58 F5 รอนะคะ อิอิ จากคุณ : TOMhardware เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 01:19:05

ความคิดเห็นที่ 59 เข้ามารอชมค่า จากคุณ : Pretty_Cute_Girl เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 01:19:07

ความคิดเห็นที่ 60 รอด้วยคน จากคุณ : Phmatzue เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 01:23:16

ความคิดเห็นที่ 61 ปูที่นอนรอชม จากคุณ : hexspeed เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 01:24:27

ความคิดเห็นที่ 62 เย้....สุดท้ายแล้ววว ถึงขั้นยิงคำถามม Epiglottis   : พี่คะ มีผู้ป่วยบางคนมั๊ยคะที่อยากอยู่ที่นี่ต่อ ไม่อยากกลับบ้านถึงแม้จะหายแล้วก็ตาม พี่จิตแพทย์  : คงไม่มีมั้งน้อง พี่ว่านะใครๆเค้าก็อยากหาย อยากกลับกันทั้งนั้น เว้นเสียแต่ว่าที่บ้านไม่มีคน เค้าโดนทิ้ง กลับไปก็ไม่รู้จะไปอยู่กับใคร คุยกับใครอ่ะคับ เลยต้องอยู่ที่นี่ เราถึงมีสถาบันแห่งนี้ขึ้นมาไง Epiglottis    : อ๋อๆๆ ค่ะๆ ขอบคุณค่ะ เพื่อน          :  พี่คะ คนที่โดนชอตไฟฟ้านี่ มันจะมีผลข้างเคียงอะไรกับเค้ามั๊ยคะ พี่จิตแพทย์   : อ๋อ มีแน่นอนครับ เราต้องเชคสุขภาพร่างกายเค้าด้วยว่าเค้าเป็นโรคอะไรอยู่หรือเปล่า เราเลยต้องเชคความดันเลือด น้ำหนัก อะไรทำนองนี้ เพื่อให้แน่ใจว่า ไม่ใช่โดนช็อตแล้วอยู่ดีๆก็นิ่งไป แบบนี้น่ากลัว Epiglottis     : เอ่อพี่คะ งบประมาณในการดูแลผู้ป่วนที่นี่ในแต่ละปีนี่ใช้เงินจำนวนมากแค่ไหนคะ พี่จิตแพทย์    : ทำไมน้องถึงถามคำถามนี้อ่ะครับ Epiglottis      : พี่ลองคิดดูนะคะ ปัจจุบันนี้ผู้ป่วยก็อาจจะเพิ่มมากขึ้น แล้วเงินที่รักษาเราจะเอามาจากไหนตั้งมากมาย เงินที่เรานำมารักษาส่วนนึงก็มาจากที่เราช่วยกันบริจาค แล้วคนส่วนใหญ่ก็ไปบริจาคให้องค์กรอื่นกันหมด ซึ่งไม่ได้เห็นความสำคัญของคนกลุ่มนี้ที่ต้องใช้ค่าใช้จ่ายในการดำเนินการ (โดยส่วนตัวอยากรู้ว่ามันจะมากขนาดไหนอ่ะค่ะ) พี่จิตแพทย์    : เอ่ออ...เหมือนจะตอบ พี่ว่าต่อหัวนะ......แล้วก็เงียบไป โยงไปเรื่องอื่น จนเราไม่ได้คำตอบ - - เพื่อน            : พี่คะ คนที่มาบำบัดนี่ส่วนใหญ่มีเพศไหนมากกว่ากันคะ (อ่ะ ติ๊กตอก ติ๊กตอก ติกตอก เดากันก่อนมั๊ย) พี่จิตแพทย์     : ผู้ชายครับน้อง ผู้ชายมากกว่าผู้หญิง ซึ่งเราไม่ได้เดินไปดู กลัวนั่นเอง เพื่อน            :  พี่คะโรคทางจิตที่เค้าเป็นนี่มีโอกาสหายถาวรมั๊ยคะ พี่จิตแพทย์     :  มันก้แล้วแต่นะครับ อย่างโรคอะไรอย่างพวกโรคประสาทชนิดซึมเศร้า เค้าก็มีโอกาสหายขาด แต่บางโรคโดยส่วนใหญ่ในเคสที่เป็นหนักๆแล้วไม่หายขาดครับ นึกคำถามได้แค่นี้อ่ะค่ะ ตอนนี้หัวตื้อมากๆเลย รูปก็ไม่มีให้ดู ไว้ว่างๆถ้ามีโอกาสจะนำมาให้ดูนะคะ ก่อนกลับเราแวะไปที่ร้านเพื่อนเป็นร้านที่ขายของที่ระลึกที่คนป่วยทางจิตทำขายค่ะ เรากับเพื่อนก็แวะเข้าไปอุดหนุน สักคนละนิดละหน่อยก็ยังดี ในมุมของเค้าโลกของเค้ากับโลกของเรามันอาจจะคนละใบกัน แต่ในความรู้สึกเราเค้าก็คือเพื่อนมนุษย์ที่ยังอยู่ใบเดียวกับเราเสมอ จะนิ่งดูดายไม่ช่วยเขาสักนิดเลยหรือ ? อีกนิดค่ะ พี่เค้าบอกว่าผู้ป่วยที่ตาย เค้าไม่ได้ตายเพราะโรคทางจิต แต่ตายด้วยโรคที่แทรกซ้อนต่างหาก อันนี้พี่เค้าย้ำมาค่ะ ****ขากลับผ่านวัดพระแก้ว ไม่มีรูปแล้วจริงๆ รูปนี้ละกันเนอะ   อย่าให้ความสำคัญกับเรื่องภายนอกมากจนเกินไป จนลืมมาสนใจสุขภาพจิตตัวเองนะคะ ขอบคุณทุกคนที่อยู่เป็นเพื่อนและติดตามนะคะ บ๊ายบายยยย แก้ไขเมื่อ 01 ต.ค. 52 02:45:38 แก้ไขเมื่อ 01 ต.ค. 52 02:44:18 แก้ไขเมื่อ 01 ต.ค. 52 02:42:38 จากคุณ : Epiglottis เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 01:41:23

ความคิดเห็นที่ 63 เข้ามาชมด้วยคนครับ ผู้ป่วยพวกนี้เขาก็มีความสุขในโลกของเขาไปอีกแบบหนึ่งจริงๆ เลย จากคุณ : Mr.Circular เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 01:44:46

ความคิดเห็นที่ 64 ขอบคุณครับ สำหรับความรู้ จากคุณ : hexspeed เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 01:48:12

ความคิดเห็นที่ 65 ความคิดเห็นที่ 55 >> > ใช่ค่ะ สมองซับซ้อนมาก จริงๆแล้วแต่ละส่วนของสมองก็มีความสัมพันธ์กัน  เพียงแต่ว่าส่วนนั้นๆอาจจะมีผลต่อการรับรู้ส่วนนั้นเป็นพิเศษก็ได้ค่ะ ปัจจุบันนี้เรายังเข้าใจสมองของเราเองยังไม่ถึง5%เลยซะด้วยซ้ำ  ตอนนี้เค้าก็ยังศึกษาอยู่ค่ะว่าในนั้น มันทำงานกันยังไงระบบถึงมีประสิทธิภาพขนาดนั้น จากคุณ : Epiglottis เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 01:56:07

ความคิดเห็นที่ 66 เพิ่มนิดนึงนะคะ เพื่อนถามมาว่าในโหล ขนปุยๆนั่นมันคืออะไร >>>มันเป็นสำลีค่ะ เค้าใส่ไว้กันอวัยวะที่แช่ลงไปนั้นลอยขึ้นมา เลยดันๆมันไว้อ่ะค่ะ จากคุณ : Epiglottis เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 01:58:15

ความคิดเห็นที่ 67 เหม็นขนาดไหนอะครับ เหมือนกลิ่นอะไร? อยากรู้ จากคุณ : Reynard เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 01:59:55

ความคิดเห็นที่ 68 อ๋อ เหม็นกลิ่มน้ำยาฟอมาลีนอ่ะค่ะ เพื่อนคนนึงถึงกับเป็นลม หน้าซีด ขาวทั้งตัวเลย ทรงตัวไม่ได้  แต่บางคนจะชินกลิ่นค่ะ อยู่นานๆไม่เป็นไร แต่สำหรับเราเหรอ 5555 สิบนาทีก็หรูแล้ว จากคุณ : Epiglottis เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 02:15:33

ความคิดเห็นที่ 69 เข้ามาอ่านแล้วจะบ้ามั้ยเนี้ย จากคุณ : handghost เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 02:24:08

ความคิดเห็นที่ 70 ขอบคุณครับ จากคุณ : ทั้งหมดแถวตรง เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 02:26:17

ความคิดเห็นที่ 71 เหมือนเป็นอีกโลกหนึ่งของเค้าเลย... จากคุณ : _The Enjoy_ เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 02:32:12

ความคิดเห็นที่ 72 นักศึกษาจิตวิทยาแอบมาอ่าน ^^" เคยไปศึกษาดูงานที่นี่เหมือนกันครับ จากคุณ : [D]iffind[O] เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 02:32:23

ความคิดเห็นที่ 73 ขอบคุณครับ การยังต้องเกิดมานี่มันน่าสงสารจังเลยนะครับ เมืองไทยนี้ผมเดาว่าน้ำยาฟอร์มาลีนที่ไม่ใช้แล้วคงลงท่อน้ำทั่วไปในโรงพยาบาลก็มีบ่อบำบัด(คลุกๆๆปั่นๆๆเติมอากาศ)แล้วมีที่หมายต่อไปคือคูคลองและแม่น้ำ แล้วคนทำงานในห้องอย่างนี้ต้องดมฟอร์มาลีนประจำ สุขภาพเสื่อมโทรมแย่เลยนะครับ จากคุณ : รู้สึกตัว เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 02:44:07

ความคิดเห็นที่ 74 ขออนุญาตอ้วกกับภาพประกอบนิดนึงนะคะ แต่ได้ความรู้มากค่ะ จากคุณ : Jubnosuke เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 03:04:26

ความคิดเห็นที่ 75   เคยเข้าไปของ รพ. ศิริราช ยังหลอนไม่หายเลยค่ะ จากคุณ : สวย ให้ชายห่วยเสียดายเล่น เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 03:14:27

ความคิดเห็นที่ 76 กว่าจะอ่านจบ (ไม่จบดีด้วยซ้ำ) อาหารค่ำผม หายไปในชักโครกแล้วอ่ะครับ จากคุณ : Ethan_Ko เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 04:28:36

ความคิดเห็นที่ 77 ^_^ ... จากคุณ : i_teep เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 04:50:11

ความคิดเห็นที่ 78 สนุกดีครับจขกท. ขอบคุณมากๆครับ รับ 3 กิฟท์แรกในเดือนนี้ของผมไปเลยครับ จากคุณ : knine2five เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 07:13:11

ความคิดเห็นที่ 79 ขอบคุณสำหรับความรู้ดีๆค่ะ ^^ จากคุณ : เสียงจากบ้านนา เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 07:57:11

ความคิดเห็นที่ 80 ยินดีเท give ให้ครับ เป็นความรู้ที่เป็นประโยชน์จริงๆ สมัยก่อน ผมนั่งรถเมล์ผ่านหน้าโรงพยาบาลบ้านสมเด็จฯ ไม่รู้กี่ครั้งกี่หน แต่ไม่ทราบเลยว่าข้างในโรงพยาบาลนั้นมีอะไรบ้าง รู้เพียงว่าเป็นสถานที่รักษาผู้ป่วยโรคจิตเท่านั้น ขอคารวะในมุทิตาจิตของท่านศาสตราจารย์นายแพทย์ ฝน แสงสิงแก้ว มา ณ ที่นี้ครับ จากคุณ : owl2 เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 09:09:26

ความคิดเห็นที่ 81   สมองก็ผ่าให้เห็นกันจะๆ แล้วว่ามีแต่ ก้อนเนื้อและไขมัน และปฎิกริยาทางเคมี อุณหภูมิต่าง ๆ ในขณะที่เกิดอารมณ์ต่าง ๆ ในขณะ ที่ยังมีชีวิตอยู่ แล้วสมองมันเห็น มันสั่งการ มันได้ยิน ต่าง ๆ หรือตัดสินใจ หรือมีความรู้สึก หรือ ความนึกคิดได้อย่างไร? คุณหมอครับ จากคุณ : ติณณภพ เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 09:23:59 A:58.9.105.72 X: TicketID:233369

ความคิดเห็นที่ 82 ดีนะที่กินข้าวเสร็จแล้ว ... ความรู้เยอะดีนะป๊อด แต่ทำไมคำถามที่ฝากถามไปทำไมไม่ถามเค้าล่ะ อยากรู้..... จากคุณ : หมูบังตา เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 09:36:19

ความคิดเห็นที่ 83 ^^ ขอบคุณนะคะ เหมือนได้เดินตามไปติดๆ ดีนะที่ไม่ได้กลิ่นไปด้วย ^^ จากคุณ : szs เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 09:52:42

ความคิดเห็นที่ 84 เข้ามาดูกระทู้ดี ๆ ครับ จากคุณ : @Server ! maN@ เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 09:52:45

ความคิดเห็นที่ 85 ตื่นแล้วๆๆ เมื่อคืนฝนตกทั้งคืนเลย อาจารย์โทรศัพท์ตามมาขอรูปเอาเดี๋ยวนี้เลยให้เว็บอาจารย์ไปเปิดเองดีมั๊ยอ่ะป๊าด พอดีว่าอาจารย์ไม่ได้ไป แต่ส่งรุ่นพี่ไปแทน ก็คำถามป๊าดในหนังสือก็มีจะถามหมอทำไม จริงๆมีคำถามพี่บิ๊ก D2Bด้วยนะ แต่ฟังแล้ว จำแล้ว ลืมแล้วด้วย โทษที แฮ่ๆ จากคุณ : Epiglottis เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 10:05:42

ความคิดเห็นที่ 86 คิดเองสิ... สมองน้อยนะเรา  หรือว่า สมองฟีบไปล่ะ  555 จากคุณ : หมูบังตา เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 10:10:37

ความคิดเห็นที่ 87 อยากได้เสื้อเกราะอ่ะ เท่ดี อิอิ.. จากคุณ : Baritoreca เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 10:21:49

ความคิดเห็นที่ 88 ยังไม่ได้กินข้าวเช้าเลยอ้ะ พยายามอ่านโดยไม่ดูรูปแต่ไม่ประสบผลสำเร็จ ขอบคุณมากค่ะสำหรับเรื่องดีๆที่นำมาแบ่งปันกัน ปล.อยากรู้เรื่องพี่บิ๊กดีทูบีมากค่ะ ลูกสาวชอบเค้ามากจะได้ไปเล่าให้เค้าฟัง ปล.2 - ลูกชายนั่งดูอยู่ด้วย บอกตั้งแต่รูปแรกเลย แม่ปิดเหอะ ปิดๆๆๆ แต่เราไม่ปิดและมานก็ยังตามดูจนจบ เอิ๊กๆ จากคุณ : HeLL_Is_HeRe เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 10:24:51

ความคิดเห็นที่ 89 ดูรูปเข้าไปเต็มๆ .. สนุกดีค่ะ ขอบคุณที่นำมาให้อ่านกัน ขอความกรุณาเป็นหูเป็นตาแมวตัวนี้ด้วยนะคะ จากคุณ : สาวชาววัง เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 10:40:56

ความคิดเห็นที่ 90 ดูแล้วคิดถึง hannibal ถ้าเจ้าตัวมาเดิน คงน้ำลายไหล จากคุณ : pantaye เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 11:27:29

ความคิดเห็นที่ 91 ศิลปากรไม่มีคณะแพทย์นิ จขกท.เรียนเภสัชละซี่ จากคุณ : Ponyo เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 11:37:48

ความคิดเห็นที่ 92 ขอบคุณที่เอามาฝากจ้า จากคุณ : ปฏิจจสมุปบาท (ปฏิจจสมุปบาท) เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 11:39:38

ความคิดเห็นที่ 93 เรียนจิตวิทยาค่ะ ***  หลายคนยังค้างค้าใจและงงกับสองคำนี้อยู่ โรคประสาท และโรคจิต อาการทางจิตที่แตกต่าง ผู้ที่มีสุขภาพจิตผิดปกตินั้น อย่างน้อยๆที่เราควรเข้าใจเพื่อให้แยกแยะถึงระดับความแตกต่างของระดับอาการได้คือ       โรคประสาท (neurosis) เป็นความผิดปกติทางจิตใจยังอยู่ในระดับขั้นอ่อน เป็นความผิดปกติทางจิตที่ไม่รุนแรง ผู้ป่วยยังรับรู้โลกของความจริง อยู่ในสังคมได้ เพียงแต่สมรรถภาพจะไม่ดีเท่าที่ควรอาการที่แสดงออกอาจมีทั้ง จิตใจแปรปรวน อมทุกข์ ประสาทหลอน ก้าวร้าว เหม่อลอย  ความวิตกกังวล อาการเด่น ๆ ของโรคประสาทก็คือ จะมีความรู้สึกกลัวหรือวิตกกังวลเป็นอาการหลัก ที่จะแสดงออก เมื่อมีสิ่งเร้า  สำหรับ โรคจิต (Psychoses) หรือคนวิกลจริต ที่หลายคนคุ้นที่จะเรียกว่า "คนบ้า"  นั้น บุคลิกภาพที่แสดงออกหรือพฤติกรรมจะเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมมาก และเห็นได้ชัดเจนว่าแตกต่างไปจากคนปกติ ไม่สามารถ ควบคุมอารมณ์  และพฤติกรรมของตนเองได้   เช่นมีอาการ  หูแว่ว ประสาทหลอน   แก้ผ้าในที่สาธารณะ แสดงอารมณ์ ไม่สอดคล้องกับความนึกคิด หรือสภาพแวดล้อม   บางคนอาจมีมีพฤติกรรมที่เป็นอันตรายต่อตนเอง หรือผู้อื่นได้ **** ความต่างที่เห็นได้ชัดคือ  ผู้ป่วยโรคประสาท ยังสามารถแยกแยะโลกของความจริงและความฝันออกจากันได้ ความคิดยังเป็นปกติดีรู้ว่าตนเองไม่สบายใจจากสาเหตุอะไร ส่วนผู้ที่เป็น โรคจิต จะมี การคิดหรือเห็นสิ่งที่ไม่เป็นความจริง อาการแตกต่างจากคนทั่วไปอย่างเห็นได้ชัด **** ถ้าดูเรื่อง Hanibal จะสังเกตได้ค่ะว่าตอนเอากะโหลกออก ก่อนจะเฉือนสมองชิ้นเนื้อมากิน เค้าจะลอกเอาเยื้อหุ้มสมองออกก่อน ภาพที่เคยให้ดูข้างบนอ่ะค่ะ แก้ไขเมื่อ 01 ต.ค. 52 15:23:44 แก้ไขเมื่อ 01 ต.ค. 52 11:51:06 จากคุณ : Epiglottis เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 11:49:38

ความคิดเห็นที่ 94 ตามนี้เลยค่ะ จากคุณ : Epiglottis เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 11:54:10

ความคิดเห็นที่ 95 ขอแอบตามหลังหนู Epiglottis ไปด้วยค่ะ  อิอิ คิดถึงตอนเรียน Human Anatomy จากคุณ : Komi (komi_to) เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 12:07:53

ความคิดเห็นที่ 96 น่ากินที่ซู๊ดดดดด เลยยย แบ่งมั่งๆ จากคุณ : หมูบังตา เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 12:13:59

ความคิดเห็นที่ 97 ของดีครับ แต่เสียวไส้ชะมัดยาก จากคุณ : AVPT BOMB เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 12:15:47

ความคิดเห็นที่ 98 หิวตือฮวน จากคุณ : รถขนมปังกรอบ เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 12:17:48

ความคิดเห็นที่ 99 งดกินเครื่องใน ตลอดชีวิต จากคุณ : ยำยำรสหอยลายผัดฉ่า เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 12:25:55

ความคิดเห็นที่ 100 เป็นกระทู้แนะนำอันแรกที่เราอ่านทุก คคห เลย ชอบอะไรแนวๆนี้อยู่แล้ว ชอบมากกกกกก ขอบกคุณมากค่ะ จากคุณ : cashmamamia เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 12:32:14

ความคิดเห็นที่ 101 เป็นกระทู้ที่ดีมาเลยค่ะ สนใจและอยากไปชมเพื่อเป็นความรู้มานานแล้ว แต่เพื่อนทุกคนส่ายหน้า 555 แบบว่า สมองล้างสะอาด อดนึกถึงบัทเตอร์เค้กเนื้อนุ่ม ๆ ไม่ได้ จะอร่อยไหมน้อ จากคุณ : BabyRed เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 12:59:03

ความคิดเห็นที่ 102 ขอบคุณนะครับ ชอบจริงๆ ^^" ผมจำได้ว่ากลิ่นมันออกแนวเค็มๆทะเลๆรึเปล่า แหะๆ จากคุณ : ตัวตุ่นตามัว เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 13:07:23

ความคิดเห็นที่ 103 ขอบคุณค่ะ ได้ความรู้มากมาย จากคุณ : iamnid เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 13:15:44

ความคิดเห็นที่ 104 ขอบคุณค่ะที่เอาความรู้มาฝากกัน โดยส่วนตัวแทบไม่มีโอกาสไปสัมผัสแบบนี้สักเท่าไร ถ้าบ้าแล้วก็ไม่แน่ค่ะ^^ พวกอวัยวะดองนี่พอจะเคยเห็นบ้างแต่ไม่มาก อาจารย์ใหญ่ก็เคยไปดูงานวิทย์ฯ กับเผลอเปิดประตูห้องผิดไปเจอห้อง ที่นิสิตกำลังจะเตรียมเรียน Anatomy เหอๆๆ นอนกันเต็มเลยปิดประตูแทบ ไม่ทัน (แอบพูดเบา ๆ ด้วยว่า ขอโทษค่ะ หนูเข้าห้องผิด) แล้วรีบเดินลงอย่างไว อืม..จากที่เคยไปลองจับท่านอาจารย์ใหญ่ดู รู้สึกว่ากล้ามเนื้อจะคล้าย ๆ กับหมูเส้นแข็ง ๆ น่ะค่ะ แต่เราไม่กลัวเท่าคนที่ตายใหม่ ๆ นะ อันนั้นกลัวมาก จากคุณ : Krabai_Fern เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 13:27:51

ความคิดเห็นที่ 105 สมองเพียบเลยแหะ -.- จากคุณ : vn, man เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 13:31:48

ความคิดเห็นที่ 106 เห็นสมองแล้วสยองเพราะ จขกท. เอามาสนอง ทำให้ผมอดฉลอง กับเพื่อนที่จะนัดกินฉลู กันทีเดียวเชียวล่ะครับ จากคุณ : นายฉิม เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 13:56:37